มีท่านใด เข้าใจว่าตนเองเป็นพระอริยะบ้างครับ

เรื่องทำลายดวงจิต ยังไงลองศึกษาดูดีๆนะครับ เพราะถ้าทำเป็นนั้น จะกลายเป็น "อสัญญีพรหม" (พรหมลูกฟัก)หรือเปล่า ซึ่งออกนอกพุทธศาสนาไปแล้วน่ะครับ

 

นี่ไง!...ขอตูข้าอย่ามีจิตเลย...!!!!!!

 

ในภาวะนั้น ความเป็นอนัตตาก็ไม่ปรากฏหรือ
และในภาวะนั้น ใครกันที่เข้าไปรู้ ใครกันที่ละ ใครกันที่อิสระ

 

ก็แล้วแต่คนคิดนะครับ ใครจะคิดยังไง จะเห็นยังไง ก็เป็นความคิดส่วนตัวกันทั้งนั้น

และที่ผมกล่าว เพราะผมเบื่อการมีชีวิต และ ที่ผมเข้ามาที่นี่ก็เพื่อศึกษาแสวงหาธรรม

แต่เท่าที่เข้ามาได้ประโยชน์น้อยมาก เพราะคนที่มีมิจฉาทิฎฐิในที่นี้มีเยอะมาก

แทนที่จะช่วยกันบำรุงรักษาพระศาสนาขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า กลับมาคอยทำลาย ด้วยว่าตนนั้นรู้มาก

พอทักหน่อยก็มาบอกว่าเป็นการสนทนาธรรม เจตนาแอบแฝงที่ไม่ดีแสดงออกมาได้

และอีกอย่างในที่นี้ เท่าที่ผมเห็น คนที่เห็นจิตจริงๆ ก็มีอยู่หลายท่าน ส่วนที่ไม่เห็นจิตจริงๆก็มีเยอะ

และคนที่ไม่เห็นจิต แทนที่จะปฎิบัติไปให้ถึง กลับมาคอยกีดกัน หาเรื่องให้เกิดความวุ่นวาย

โดยใช้คำว่าสนทนาธรรม มาอวดภูมิความรู้ ถ้าเป็นการเห็นจิตจริงๆ เขาต้องตอบคำถามได้สิ

พอตัวเขาเองถามให้ผู้อื่นตอบ ก็คาดคันเอาคำตอบ แต่พอผู้อื่นถามบ้างกลับเฉไฉไปเรื่องอื่น

ในเมื่อไม่รู้จริง ทำไมไม่ยอมฟังคำของผู้อื่นบ้าง การเรียนรู้ในพระไตรปิฎกนั้น

มีวันจบลงด้วยเพราะมีเขียนไว้เท่านั้น แต่ในเชิงการปฎิบัติใช้ทั้งชีวิต แค่นี้กลับเข้าใจยาก

พระพุทธเจ้าได้ทรงบอกกล่าวไว้ชัดเจน ว่าในมือเราเป็นเพียง"ใบไม้"หนึ่งกำมือ

แค่นี้ยังไม่เข้าใจอีก ถ้ามัวมานั่งคิด แล้วหนทางที่แสนไกล ไม่ก้าวเดิน เมื่อไหร่จึงจะถึงครับ

นั่งอ่านแต่แผนที่ แต่ไม่เคยเดินทางไปเลย จะรู้ได้ยังไงว่าเส้นทางที่เดิน มีการเปลี่ยนแปลงไหม

มัวมานั่งเดาอยู่ว่าเป็นแบบนั้น แบบนี้ ทั้งที่การเห็นจิตไม่ใช่เรื่องยาก จริงๆเป็นเรื่องง่าย

และมนุษย์ก็เห็นจิตอยู่ทุกวัน เพียงแต่มนุษย์ไม่รู้จักเท่านั้นเอง หากสังเกตุก็จะเห็น

จิตที่ไม่ใช่ความนึกคิด เพราะความนึกคิดเป็นการทำงานของจิตเพียงเท่านั้น

เห็นความนึกคิดที่มีเป็นจิต ยังมาบอกให้ผู้อื่นเห็นตาม ในเมื่อผู้ที่เห็นจิตจริงๆเขาจะเชื่อเหรอครับ

ฉนั้นหากคุยกับผู้ไม่เห็นจิตจริงๆก็เป็นการเสียเวลา แต่ถ้าเห็นจิตจริงๆ และ ร่ำเรียนเจนจบในพระไตรปิฎก

นี่สิครับเป็นบุคคลที่ควรสนทนาเป็นอย่างยิ่ง ปริยัติ ปฎิบัติ ปฎิเวท ผมรู้สึกเสียดาย

ผู้ที่มีความรู้ในด้านปริยัติ จึงได้พยายามสนทนาให้บุคคลเหล่านั้น นำมาส้รางประโยชน์

แต่สิ่งที่ได้ เป็นการถกเถียงเพื่ออวดภูมิธรรมเพียงเท่านั้น ผมจึงไม่เห็นประโยชน์

ในการที่จะสนทนาต่อไป หากวันหนึ่งเขาหาเรื่องกระทั้งพระอริยะ เขาจะรู้ตัวไหมครับ

บาปกรรมที่เขาส้ราง จะทำให้เขาไม่พบกับพระธรรมอีกนาน คุณว่าน่าสงสารไหมครับ

ขอให้เจริญในธรรมครับ

 

จริงจริงผมว่าคุณ กำลังหาคำตอบ เหมือนทุกคนนั่นแหละเหมือนผมเหมือนคนอื่น......จิตที่มีอวิชชาอาสวะเกาะ เป็นจิตที่มีการมาการไป การเกิด การดับ...ทำยังไงถึงไม่มา ไม่ไป ไม่เกิด ไม่ดับ ทำไมคำว่าสักแต่ว่า รู้ สักแต่ว่าเห็น สักแต่ว่า รู้สึก นั่นคือ จิต ที่ไม่แล่นสู่ภพ คือการเกิด อันนำไปสู่การดับ(มรณะ)ของจิตนั่นเอง......นั่นคือจิตที่รู้อารมณ์ ไม่ถูกสังโยชน์นำพาแล่นขึ้นสู่วิถี สู่ตัณหา ภพ ชาติ ชรา มรณะ..........จิต ที่ อยู่ในช่วง แห่งการ สักแต่ว่า นี่แหละ คือ อมตะ.....ไม่ใช่การทำลายจิตหรอก...แต่ปัณหาคือทำอย่างไร?ไม่ให้จิตแล่นเข้าสู่ ภพ ชาติ......อริยมรรคมีองค์8 สติปัฎฐาน4 นี่เอง....ลองคิดดูนะครับผมไม่ได้มาแหย่ อะไรคุณหรอก ด้วยความปรารถนาดี.............

 

แวนโก๊ะ เธอเคยมาแปะนะ
กระทู้ที่หลวงปู่ดุลย์ บอกเป็นสภาวะที่เราเป็นหนึ่งเดียวกันหมด ในนิพพาน(ที่โลกุตตรภูมิไม่ใช่แดนธรรมกายหรือพุทธนิมิตที่สื่อกับฝ่ายบัญญัตินะ) มีพระพุทธเจ้า พระอรหันต์ .... เป็นหนึ่งเดียวกันหมด
ที่ห้องนี้แหละ อ่านแล้วนิ่งไปวันเลย

อันนี้กระซิบกันสองคนนะ
เดี๋ยวคนมาด่าอีก ว่าพูดเองเออเอง ลองค้นดูนะ
ไม่รับตอบคำถามใคร ใดๆ ทั้งสิ้น

ขี้เกียจนะเอย..

 

​

<MARQUEE direction=up scrollAmount=1>

นกยางนะเอย นะเอย ทำไมจึงไม่ร้องขอก นกยางว่าปลามันไม่ออก ​

ปลานะเอย นะเอย ทำไมจึงไม่ออก ปลาว่า หญ้ามันรก ​

หญ้านะเอย นะเอย ทำไมจึงรก หญ้าว่า วัวมันไม่กิน ​

วัวนะเอย นะเอย ทำไมไม่กินหญ้า วัวว่า เจ้าของเขาไม่ปล่อย ​

เจ้าของวัวนะเอย นะเอย ทำไมจึงไม่ปล่อยวัว เจ้าของว่าท้องข้าเจ็บมาก ​

ท้องนะเอย นะเอย ทำไมจึงเจ็บ ท้องว่า ข้ากินข้าวไม่สุก ​

ข้าวนะเอย นะเอย ทำไมจึงไม่สุก ข้าวว่า ไฟมันไม่ลุก ​

ไฟนะเอย นะเอย ทำไมจึงไม่ลุก ไฟว่า ฟืนมันเปียก ​

ฟืนนะเอย นะเอย ทำไมจึงเปียก ฟืนว่า ฝนมันตกมาก ​

ฝนนะเอย นะเอย ทำไมจึงตกมาก ฝนว่า กบเขียดมันร้องนัก ​

กบเขียดนะเอย นะเอย ทำไมจึงร้องนัก กบว่า งูมันไล่กินพวกข้า ​

งูนะเอย นะเอย ทำไมจึงไล่กินกบเขียด งูว่าเพราะกบเขียดเป็นอาหารข้า​

</MARQUEE>

 

นี่เป็นความเชื่อของคุณ นั้นเป็นความเชื่อของผม ผมบอกคุณ คุณยังไม่เชื่อเลย คุณมาบอกผม ผมจะเชื่อเหรอครับ

ขอให้เจริญในธรรมครับ

 

เห็นซากผีสนทนาธรรมกัน เออดีแฮะ

 

ลูบคลำธรรมผ่านลำนำถ้อยวลี อ่านแล้วมันส์ดีเหมือนกัน

 

............................................({)(}).............................................

 

สั้นแต่ลึก

 

ผมยังเป็นฆราวาสชั้นสวะ ไม่บังอาจเข้าถึงความเป็นอริยะได้เลย ขออนุโมทนากับท่านที่เข้าถึงเลยนะครับ ผมยังต้องปฎิบัติอีกมาก

 

หลวงพ่อเล็กบอกว่า ถ้าเป็นพระอริยเจ้าแล้ว จะไม่สอนผิดไปจากที่พระพุทธเจ้าท่านสอนอย่างเด็ดขาด แต่ถ้าหากไม่ใช่จริง ก็จะพาหลงทางไปเลย เรื่องการพยากรณ์ว่าคนไหนเป็นพระอริยเจ้า เป็นหน้าที่ของพระพุทธเจ้าเท่านั้น