มีใครเป็นลูกหลานเสด็จปู่พญานาคาธิบดีศรีสุทโธนาคราชบ้างครับ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย วรุณบุตร, 9 ตุลาคม 2008.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. พิชญ์

    พิชญ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    760
    ค่าพลัง:
    +3,392
    <TABLE class=alt1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    ขอโน้มอัญเชิญ บารมีเสด็จปู่องค์ปฐม เสด็จปู่เทวา เสด็จปู่แห่งอนันตจักรวาล เสด็จปู่พระพุทธเจ้า ทุก ๆ พระองค์ หลวงปู่ หลวงพ่อ ครูบาอาจารย์ ทุกท่าน...

    ประสิทธิ์ ประศาสตร์ พรใด ๆ ที่ลูกหลานสายใย ได้ตั้งใจปฏิบัติ มุ่งมั่นปรารถนา ขอให้พรนั้น ๆ สัมฤทธิผลด้วยพุทธะบารมีแห่งพระพุทธองค์ เพื่อให้เกื้อหนุนค้ำจุนในศาสนาต่อไป

    และเนื่องในวันคล้ายวันเกิด ของคุณพจน์ , คุณอุ้ม และ คุณจอย... ขอพลังแห่งบารมี พลังแห่งพุทธะ จงแผ่ขยายปกป้อง และคุ้มครอง ลูกหลานทุกท่าน ให้ประสพแต่คำว่า " มี " คำว่า "ไม่" ขอจงอย่าได้ย่างกราย...ปรากฎ... ด้วย นะ โม พุท ธา ยะ....

    สาธุ....
     
  2. นาคา

    นาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,377
    ค่าพลัง:
    +12,917
    ปฐวีธาตุ

    ที่เรียกปฐวีธาตุนั้นเพราะเสกด้วยนามคือฐาตุดินเป็นตัวตั้งแล้วค่อยหนุนธาตุอื่นๆตาม คือน้ำ ลม ไฟ ผสานตั้งเป็นองค์พระข้างในให้มีชีวิตด้วยอากาศธาตุ แล้วอัญเชิญบารมีพระฯด้วยคาถาชินบัญชร... ที่เลือกใช้หินแม่น้ำโขงเพราะผ่านการขัดเจียรด้วยธาตุน้ำจนกลมเกลี้ยง...ที่เลือกโปร่งแสงไม่โปร่งใสเพราะหนึ่งเป็นหลักตำรา สองการหนุนธาตุง่ายกว่าแบบหินทึบ

    (การเสกแก้วใสจะทำอีกแบบหนึ่งที่ไม่ใช่หลักวิชาการอธิษฐานปฐวีธาตุครับ เป็นอีกวิชาหนึ่ง...ถ้าเป็นแก้วใสท่านฯจะอธิษฐานเป็นแก้วธาตุ หรือแก้วจักรพรรดิ หรือแก้วมณีนพรัตน์ หรือแก้วสารพัดนึกครับ)

    ปฐวีธาตุ พระเพชรแห่งแม่น้ำโขง ปฐวีธาตุของ เจ้าคุณสุนทรธรรมากร หรือ หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ แห่งวัดธาตุมหาชัยนี้ มีความเป็นมา ครั้งตั้งแต่ท่านยังเป็นเพียงพระภิกษุธรรมดาของชาวบ้านตำบลมหาชัย นครพนม
    แต่ด้วยความที่ท่านเป็นพระที่มีดีอยู่ในองค์ท่าน จากการปฏิบัติธรรม ฝึกจิต ตามแนวทางกรรมฐาน พระอาจารย์เสาร์ ดันตสีโล บูรพาจารย์ใหญ่ของสำนักกรรมฐานในยุคนั้น และวิชาสายพระเวทย์ของ ปะขาวครุฑ ซึ่งเป็นสายวิชาของ สมเด็จลุน แห่งนครจำปาสัก ผู้โด่งดังสองคาบฝั่งโขง

    ปฐวีธาตุของหลวงปู่คำพันธ์ ในช่วงแรกนั้น ทหารและตำรวจในพื้นที่ ต่างทราบถึงกิตติคุณท่านดีว่า เป็นพระดี มีวิชา จากปากคำของชาวบ้าน ปากต่อปาก ทำให้ทหารและตำรวจเข้าหาท่าน และจุดมุ่งหมายที่สำคัญคือ ขอของดี แต่ท่านปฏิเสธไป พร้อมกับบอกว่า ท่านเป็นเพียงพระธรรมดารูปหนึ่ง ไม่มีอะไรจะให้ได้ นอกจากพระธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    เมื่อได้ฟังดังนั้น ทั้งกลุ่มทหารและตำรวจ จึงลาท่านกลับไป แต่ด้วยกิตติคุณและบารมีธรรมของท่าน ทำให้ทั้งตำรวจ ทหาร และข้าราชการหลายกลุ่มยังเดินทางมาพบท่าน และก็เช่นเคย คือ ขอของดีจากท่าน เพื่อเป็นสิริมงคล และคุ้มครอง เพราะในสมัยนั้น (ก่อนปี พ.ศ.๒๕๐๐) บ้านเมืองยังคงเต็มไปด้วย โจร ผู้ร้าย สัตว์ป่านานาชนิด และฝ่ายที่มีอุดมการณ์ที่แตกต่างจากรัฐบาลไทย ซึ่งทำให้การทำงานของข้าราชการฝ่ายต่างๆ มีความเสี่ยงต่อความปลอดภัยในชีวิตสูง เมื่อความศรัทธาที่มีต่อท่านมากขึ้น จึงเป็นที่มาของ ปฐวีธาตุพระเพชร แห่งแม่น้ำโขง
    ศรัทธาของผู้ที่มาพบท่าน และต้องการขอของดีไว้คุ้มครองตัว เมื่อมีมากขึ้น ท่านจึงเอ่ยปากจะทำของดีให้ โดยให้ชาวบ้านและเหล่าทหารที่มาพบ ไปช่วยกันนำ หิน ที่อยู่ในแม่น้ำโขงขึ้นมา ซึ่งมีอยู่หลากหลายวรรณะ สีสันแตกต่างกันออกไป หลายลักษณะ สุดแต่ผู้ใดจะเก็บมาได้แบบไหน เมื่อได้จำนวนมากพอสมควรแล้ว ท่านจึงให้นำออกมากองรวมกันแล้ว เสกตามสายวิชาที่ท่านได้เรียนมา
    หลวงปู่คำพันธ์ ได้แจก หินเสก ให้ลูกศิษย์ ชาวบ้าน ทหาร ตำรวจ ก็ไม่ได้ให้ความสนใจ เพราะเห็นว่าเป็นเพียงก้อนหินธรรมดา แต่เมื่อเกิดประสบการณ์ จากเรื่องประสบอุบัติเหตุ ที่ผู้ประสบเหตุการณ์นั้นรอดมาได้ราวปาฏิหาริย์สารพัดเรื่องราว ทำให้ปฐวีธาตุ และชื่อเสียงของหลวงปู่คำพันธ์ ยิ่งขจรขจายกว้างขวางยิ่งขึ้น


    ********
    ขอบคุณ ครับ อาหาร น่าทานมากแฮะๆๆ ภูเก็ต ยินดี ต้อนรับ ครับ ....ที่พักมีจ้า...เมื่อคืนวาน ทั้งลม และฝน ...

    ทริป แนะนำกรรมฐาน หาดใหญ่ ทางกลุ่มคุณ kananun จะแวะ มาที่ พังงา ด้านฐานทัพเรือทับละมุ ด้านหน้าฐานทัพเรือ นั้น มีเขาหน้ายักษ์ ที่เก็บ ทรัพย์แผ่นดิน สมัยสงคราม.... มีตำนานเล่าต่อๆ กันมา ทั้ง ทหารเรือ, พระที่ทรงฌาญ , ,ถ้ำนาคราช ที่มองเห็นด้านล่าง มีเสียงเล่นน้ำ ,

    หน้าหาดปาก-วีป ( บ้านปาก-วีป ตะกั่วป่า ) มีกองหินรูปร่างแปลกๆ ท่านผู้อ่าน ลองใช้ วิจารณญาน ดู ครับ ว่า เป็น อย่างไร หินแต่ละก้อน จะวางเรียงกัน สลับก้อนใหญ่-ก้อน เล็ก ช่องระหว่างแต่ละก้อน จะเกือบ เท่ากัน ...
    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    ทางด้าน เขาพนม สุราษฯ มี วัดถ้ำพันธุรัตน์ มีบ่อชุบตัว ,รูปปั้นท่านแม่พันธุรัตน์ พร้อม ทั้ง พระอาจารย์ หลวงพ่อ ท่านหนึ่ง ท่านจะเล่า ประวัติ ของ ท่านที่เกี่ยวข้องในเรืองนี้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มิถุนายน 2009
  3. นาคา

    นาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,377
    ค่าพลัง:
    +12,917
    ปฐวีธาตุ

    จากการบอกกล่าวของผู้รู้ทางด้านวัตถุมงคลของ หลวงปู่คำพันธ์ ให้ข้อมูลว่า การเสก ทำของ หรือการเล่นแร่แปรธาตุ จากหินแม่น้ำธรรมดาๆ นั้น ให้เป็นของมงคลมีความศักดิ์สิทธิ์ในตัว หลวงปู่จะเสกด้วยจิตอันแก่กล้า และพระเวทที่ใช้เสกปฐวีธาตุนั้น คือ มนต์คาถาชินบัญชร เฉกเช่นเดียวกันกับ ปฐวีธาตุ ของ ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ราชมานิต แห่งวัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพฯ

    ปฐวีธาตุของหลวงปู่คำพันธ์ ท่านบอกกล่าวกับศิษย์ว่า หลวงปู่ตั้งให้ไว้เป็นองค์พระ เป็นของวิเศษ ที่จะคุ้มครองคุ้มภัยกับผู้ที่มีไว้บูชา ให้หมั่นอาราธนาและสวดพระคาถาชินบัญชรอยู่เป็นนิตย์ ผู้ที่ปฏิบัติดี จะสามารถสื่อถึงความศักดิ์สิทธิ์แห่งองค์ปฐวีธาตุได้ง่าย

    ทั้งนี้หลวงปู่คำพันธ์ท่านได้ให้ชื่อปฐวีธาตุของท่านว่า "พระเพชร" เพราะเสกหนุนธาตุต่างๆ ให้เป็นองค์พระ และธาตุปฐวี คือ ธาตุหินนี้แกร่ง ท่านจึงเรียกว่า "พระเพชร" อันเป็นที่มาแห่งปฐวีธาตุเพชรธาตุแห่งแม่น้ำโขง
    ปฐวีธาตุ ของกายสิทธิ์
    [SIZE=-1]ธาตุกายสิทธิ์ (ปฐวีธาตุ)


    กายสิทธิ์ คือคำที่ใช้เรียก จิตของผู้ทรงอภิญญา ที่ฝึกฝนจิตจนกระทั่งได้ฌาณสมาบัติ เมื่อสิ้นอายุขัย แต่ยังต้องการบำเพ็ญเพียรทางจิตต่อไปในโลกมนุษย์ (หรือเพราะต้องทำหน้าที่บางประการ) จึงต้องละจากสังขารเดิมแล้วเข้าอาศัยในบางสิ่ง เช่น รัตนชาติ (กายสิทธิ์ จึงไม่ใช่เทวดา แต่เป็นผู้ทรงอภิญญา)

    ธาตุกายสิทธิ์ เป็นธาตุที่มีพลังและอิทธิฤทธิ์ในตัวเองโดยธรรมชาติ แบ่งออกเป็นหลายประเภท ตามธาตุทั้ง 4 คือ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม และธาตุไฟ ธาตุกายสิทธิ์ที่เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีคือ เหล็กไหล ซึ่งเป็นธาตุกายสิทธิ์ที่เกิดจากธาตุดิน มีกายสิทธิ์เข้าไปถือครอง ส่วนใหญ่จะเป็นกายสิทธิ์ภาคดำ (มิจฉาทิฐิ) จึงมักจะดุร้าย มักจะให้โทษแก้ผู้ถือครองเป็นส่วนใหญ่ นอกจากเหล็กไหลแล้ว กายสิทธิ์อาจถือครองในหิน หรือรัตนชาติ (หินที่มีค่า เช่น หินเขี้ยวหนุมาน เพชร เป็นต้น)

    ธาตุกายสิทธิ์ จะปรากฏต่อเมื่อมีผู้ทรงคุณวิเศษปฏิบัติได้ถึงขั้นกายสิทธิ์ อย่างเช่น ปฐวีธาตุ ของท่านเจ้าคุณนร ท่านให้ไปเก็บหินใต้น้ำที่บางบ่อเท่านั้น ห้ามเก็บจากที่อื่น เนื่องจากที่นั่นได้มีพญานาคราชได้ถวายกายสิทธิ์ให้แก่ท่าน เช่นเดียวกันกับปฐวีธาตุของหลวงปู่คำพันธ์ ที่ต้องเป็นหินจากใต้แม่น้ำโขง ณ ตำแหน่งบริเวณที่ท่านได้กำหนดบอกให้ไปเก็บ
    [/SIZE]
    [SIZE=-1][/SIZE]
    [SIZE=-1]เนื่องจากพญานาคราชได้ถวายให้ท่านดุจเดียวกัน หินที่ได้รับการถวายจากพญานาคราชนี้ ถือเป็นธาตุกายสิทธิ์ที่เกิดจากธาตุลม มีกายสิทธิ์ฝ่ายสัมมาทิฐิเข้าครอง ซึ่งส่วนใหญ่กายสิทธิ์เหล่านี้จะบรรลุธรรมขั้นสูง อีกทั้งได้รับการอธิษฐานจิตจากพระเถระเจ้าที่ทรงคุณวิเศษ จึงกล่าวได้ว่ามีอิทธิปาฎิหาริย์ และพุทธานุภาพ เหนือชั้นกว่าเหล็กไหล และให้คุณแก่ผู้ครอบครอง

    [/SIZE]********************พิชญ์ ;

    ขอโน้มอัญเชิญ บารมีเสด็จปู่องค์ปฐม เสด็จปู่เทวา เสด็จปู่แห่งอนันตจักรวาล เสด็จปู่พระพุทธเจ้า ทุก ๆ พระองค์ หลวงปู่ หลวงพ่อ ครูบาอาจารย์ ทุกท่าน...

    ประสิทธิ์ ประศาสตร์ พรใด ๆ ที่ลูกหลานสายใย ได้ตั้งใจปฏิบัติ มุ่งมั่นปรารถนา ขอให้พรนั้น ๆ สัมฤทธิผลด้วยพุทธะบารมีแห่งพระพุทธองค์ เพื่อให้เกื้อหนุนค้ำจุนในศาสนาต่อไป


    และเนื่องในวันคล้ายวันเกิด ของคุณพจน์ , คุณอุ้ม และ คุณจอย... ขอพลังแห่งบารมี พลังแห่งพุทธะ จงแผ่ขยายปกป้อง และคุ้มครอง ลูกหลานทุกท่าน ให้ประสพแต่คำว่า " มี " คำว่า "ไม่" ขอจงอย่าได้ย่างกราย...ปรากฎ... ด้วย นะ โม พุท ธา ยะ....

    สาธุ.... .....เอวัง โหตุ....

    เช่นกัน พรใด ที่หลั่งไหลจากท่าน เลือดหน่อพระโพธิสัตว์ เพื่อการขนสัตว์ ให้หลุดพ้น และจาก หล่อนาคราช ทุทกท่าน พร้อม ทั้ง เหล่าสหธรรมมิค เหล่ กัญยาณมิตร ขอพระนั้น ใด้โปรด หลั่งไหล กลับสู่ ทุกท่าน เช่นกันครับ

    มิย. เดือนหน้า กค. เข้าพรรษา ขอเหล่านาคราช บำเพ็ญบารมี ให้เต็มกำลัง..
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. นาคา

    นาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,377
    ค่าพลัง:
    +12,917
    ปฐวีธาตุ

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    เกร็ดประวัติของพระพ่อแม่ธรณีปฐวีธาตุ ท่านปลัดโกศลได้เล่าให้ข้าพเจ้าฟังว่าเป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายที่ท่านเจ้าคุณธมมวิตกโกได้มอบไว้ให้แก่ครอบครัวของท่าน ปรกติท่านเจ้าคุณฯมิได้สนใจในเรื่องเครื่องรางต่าง ๆ นัก แต่เนื่องจากมีผู้ที่นับถือท่านฯ ได้ขออนุญาตจากท่านสร้างพระเครื่องรางต่าง ๆ มอบให้ท่านฯ อธิษฐานจิตให้ และเป็นที่น่าประหลาดมาก โดยเฉพาะการปลุกเสกพระเครื่อง ท่าน ฯ มิได้เคยหันหน้าเข้าทำพิธีอย่างพระคณาจารย์อื่น ๆ ท่าน ฯ จะนั่งหันหลังให้ คือหันหน้าเข้าหาพระประธาน ต่อจากนั้นท่านก็จะสวดแผ่เมตตาจิตให้
    [FONT=&quot]ท่าน ฯ เคยได้กล่าวไว้ว่าท่านไม่สามารถที่จะเสกพระพุทธเจ้าซึ่งเปรียบประดุจบิดา และพระองค์ ก็เป็นผู้ประเสริฐ [/FONT]

    [FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]ฉะนั้นพิธีต่าง ๆ ที่ทางลูกศิษย์ได้จัดขึ้น ท่านจงเป็นเพียงแต่อธิษฐานให้เท่านั้น แต่สำหรับพระพ่อแม่ธรณีปฐวีธาตุนั้น ท่านฯ ได้เจาะจง โดยท่านฯ ได้สั่งให้คุณปลัดโกศล ซึ่งเป็นหลานชายของท่านฯ และคุณปลัดผู้นี้ก็เคยเป็นผู้ที่ส่งอาหารให้ท่านฯ ตั้งแต่ครั้งที่คุณปลัดยังเรียนอยู่ ชั้น ม. ๑-๒ ครั้งหลังที่คุณปลัดได้ศึกษาจบและได้เข้ารับราชการ จึงไม่ค่อยมีเวลา คุณปลัดจึงได้ให้ทางคุณน้ารับช่วงส่งอาหารแทน แต่ครั้งหลังตอนท่านฯ ป่วย คุณปลัดจึงได้ปฏิบัติท่านอีก คือทำอาหารซุปส่งให้เป็นประจำ ท่านฯ ได้เคยถามคุณปลัดว่า[/FONT]
    [FONT=&quot] เหนื่อยไหมหลาน เพราะระยะทางจากบ้านซึ่งจะต้องนำอาหารมาส่งที่วัดนั้น มีระยะทางไกลพอสมควร ส่วนซุปซึ่งเป็นอาหารชนิดอ่อนนั้นท่านฯ ได้เป็นผู้สอนโดยจดแต่ละประเภทของอาหารรวมกันมีหลายชนิด คือ[/FONT]
    [FONT=&quot]๑. ผักขม ๒. ถั่วฝักยาว ๓. หัวผักกาดขาว ๔. หัวผักกาดเหลือง ๕. ถั่วเขียว ๖. ถั่วลิสง๗. ถั่วเหลือง ๘. มันฝรั่ง ๙. ผักกาดเขียว ๑๐. มะขามเปียก ๑๑. เกลือ ๑๒. น้ำตาลมะพร้าว๑๓. มันฮ่อ ๑๔. หัวหอม ๑๕. มะนาว [/FONT]


    [FONT=&quot]ก่อนที่ท่านเจ้าคุณนรรัตนฯ (ธมฺมวิตกฺโก) ท่านจะมรณภาพ เหมือนว่าท่านจะรู้ตัวมาก่อน ท่านจึงพูดกับคุณปลัดผู้เป็นหลานว่า หลานจงไปเก็บก้อนกรวดที่บางบ่อมา ลุงจะทำของดีให้ คุณปลัดจึงได้เรียนถามท่านว่า ผมจะเก็บที่อื่นได้ไหม ท่าน ฯ บอกว่าไม่ได้ คุณปลัดจึงสงสัยว่าเหตุใดท่านฯ จึงมีความประสงค์เช่นนั้น[/FONT]

    [FONT=&quot]ดูเหมือนท่าน ฯ จะรู้ว่าคุณปลัดมีความสงสัย ท่าน ฯ จึงได้อธิบายว่า อันธรรมตากรวดที่อำเภอบางบ่อนั้น ชื่ออำเภอก็เปรียบเหมือน บ่อเงิน บ่อทอง และถือเคล็ดว่าจังหวัดสมุทรปราการด้วย คำว่าปราการ เปรียบเหมือนเป็นเกราะป้องกันภยันตรายต่าง ๆ นั้น บางครั้งท่านจะเรียกก้อนกรวดว่า [/FONT][FONT=&quot]“เพชร-พลอย” และท่านยังได้อธิบายต่อไปว่าก้อนกรวดนั้นเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ หรือเรียกว่า “คดดิน” ตามธรรมดามนุษย์เราจะถือว่าของที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติเป็นของศักดิ์สิทธิ์ เช่น “คดปลวก” ที่เกิดขึ้นในจอมปลวก คนโบราณท่านถือว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นท่านเจ้าคุณธมฺมวิตกฺโกจึงได้เจาะจงให้หลานชายท่านไปเก็บของสิ่งนี้มา [/FONT]

    [FONT=&quot]ในรุ่งขึ้นคุณปลัดก็ลืมเสียท่านฯ จึงได้ย้ำอีกว่าจงรีบไปหาเก็บมานะ เดี๋ยวจะไม่ทันการ คุณปลัดเองก็ไม่ได้สังหรณ์ใจในคำพูดเช่นนี้ คุณปลัดได้กราบเรียนท่าน ฯ ว่า ผมผ่านไปมาทุกวันไม่เห็นมีกองกรวดที่ไหนเลย ท่านฯ จึงพูดว่าไปหาให้ดีเถอะ มีแน่ ๆ ที่บางบ่อ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ ที่ท่านฯ ไม่เคยออกจากวัดไปไหนมาก่อนเลย [/FONT]
    [FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]เหตุไฉนท่านฯ จึงรู้ว่ามีกองกรวดอยู่ คุณปลัดเองก็ขับรถเข้าออกอยู่ทุกวัน แต่ก็ไม่เคยเห็น หรืออาจจะเป็นเพราะคุณปลัดไม่ได้เอาใจใส่เองก็อาจจะเป็นได้ และที่ท่านได้เอ่ยปากว่าจะทำของดีให้นั้น ก็ทำให้คุณปลัดรู้สึกประหลาดใจบ้าง เพราะตามปกติท่านก็ไม่เคยให้สิ่งใดแก่คุณปลัดไว้บูชาเลย และตนเองก็เคยทราบว่าท่านมักจะไม่ปลุกเสกของให้ใครง่าย ๆ เพราะท่านเคยพูดกับคุณหมอสุพจน์ ศิริรัตน์ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๑ ซึ่งคุณหมอสุพจน์ได้นำผงสมเด็จจากกรุวัดจักรวรรดิ (สามปลื้ม) บดละเอียดใส่บาตรไปไว้ทิศใต้ฐานชุกชีในพระอุโบสถวัดเทพศิรินทร์ ฯ เป็นเวลา ๑ ไตรมาส [/FONT]
    [FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]ตอนเอากลับท่านได้พูดกับคุณหมอสุพจน์ว่า ผงนี้ท่านปลุกเสกให้สำเร็จแล้ว ถ้าจะนำไปทำพระ ก็ไม่ต้องนำมาให้อาตมาปลุกเสกอีก เพียงแต่นำไปเข้าพิธีที่ไหนก็ได้ จะได้ผลเท่ากัน อาตมาเองก็ไม่อยากที่จะปลุกเสกให้นัก เพราะถ้าพระของอาตมา ที่ปลุกเสกให้ตกไปอยู่กับใคร ถ้าผู้นั้นประกอบแต่กรรมดี ผู้นั้นก็จะได้รับแต่ความเจริญก้าวหน้า แต่ถ้าผู้ใดที่ประพฤติในทางที่ไม่ชอบจะเป็นกำลังหนุนให้ประพฤติมิชอบยิ่งขึ้น แต่ไม่นานก็ได้รับผลกรรมนั้น ด้วยเหตุนี้อาตมาจึงไม่อยากปลุกเสกให้กับผู้ใด นอกจากท่านพระครูอุดมคุณาทรเท่านั้น (ท่านเจ้าคุณอุดมสารโสภณ) [/FONT]

    [FONT=&quot]ฉะนั้นเมื่อคุณปลัดโกศลมานึกถึงคำนี้ ก็ให้แปลกใจเป็นอันมาก ที่จู่ ๆ ท่านก็ให้ไปเก็บก้อนกรวดให้ และบอกว่าจะทำของดีด้วย ก็คิดว่าจะต้องมีอะไรเป็นพิเศษแน่ ๆ ไม่เช่นนั้นท่านจะไม่เร่งเร้าเป็นอันขาด และของดีที่ท่านได้เคยปลุกเสกให้ท่านเจ้าคุณอุดมสารโสภณ ซึ่งสมัยยังเป็นพระครูอุดมฯ อยู่ ก็ก่ออภินิหารศักดิ์สิทธิ์มากแก่ผู้ที่ได้รับไปบูชา จนเป็นที่เลื่อมใสในศรัทธาแก่มหาชนเป็นจำนวนมาก ทั้งในต่างประเทศก็เคยปรากฏว่าฝรั่งถึงกับนั่งเครื่องบินมาขอบูชาพระเครื่องของท่านเจ้าคุณอุดมสารโสภณก็ยังเคยมี และคุณปลัดเองก็เคยมาขอกับเจ้าคุณลุงเหมือนกัน[/FONT]
    [FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] แต่ท่านได้บอกว่าเฉพาะที่ตัวท่านแล้วไม่เคยมีพระเครื่องเลย ถ้าอยากได้ก็ให้ไปขอท่านเจ้าคุณอุดมฯ ซึ่งเป็นผู้สร้าง และท่านยังกำชับอีกด้วยว่า อย่าไปเอาของเขาฟรี ๆ นะ ต้องบริจาคเงินด้วยเพื่อเขาจะได้นำไปสร้างกุศล นี่ก็เป็นเหตุการณ์ตอนหนึ่งที่ท่านเจ้าคุณธมฺมวิตกฺโกไม่ยอมให้ญาติพี่น้องหรือลูกหลานของท่านไปรบกวนคนอื่น ๆ [/FONT]
    [FONT=&quot]ในวันรุ่งขึ้นตรงกับวันอาทิตย์ คุณปลัดโกศล พร้อมด้วยภรรยาคือคุณนายจำเนียร ปัทมสุนทร และ พ.อ. วรสนธิ วรเสียงสุขา (เดิมชื่อ พ.อ.สนธิเสียงสุขา) แต่ท่านเจ้าคุณธมฺมวิตกฺโก ท่านได้เปลี่ยนชื่อและนามสกุลให้ใหม่โดยเติม วร เข้าที่หน้าชื่อและนามสกุล ทั้งสามได้นำเอารถส่วนตัวออกเที่ยวตระเวนหาก้อนกรวดจนทั่วท้องที่บางบ่อก็ยังไม่พบเลยสักก้อน จนกระทั่งขับรถจะออกมาทางบริเวณปากทางจะเข้าตัวอำเภอบางบ่อ ซึ่งตรงนั้นใกล้กับสะพานคลองเจ้า (พระองค์เจ้าไชยยานุชิต) จึงพบกองทรายเข้ากองหนึ่ง ทั้งสามจึงจอดรถเข้าไปค้นหาดูก็พบ [/FONT]
    [FONT=&quot]คุณปลัดรู้สึกดีใจมาก จึงเลือกเก็บก้อนกรวดเป็นนาน และได้มาทั้งหมดประมาณ ๒ กำมือ ใส่ถุงพลาสติกเล็ก ๆ ได้ ๓ ถุง จึงนำไปชำระล้างจนสะอาดดี [/FONT]

    [FONT=&quot]รุ่งขึ้นตรงกับวันจันทร์ที่ ๔ มกราคม จึงได้นำก้อนกรวดใส่ภาชนะ คือพาน และมีผ้าขาวปักดอกไม้ต่าง ๆ ปูรองอยู่ใต้พาน นำก้อนกรวดวางไว้จำนวน ๙ ก้อน ซึ่งคุณปลัดได้กะไว้สำหรับครอบครัวพอดี ตามจำนวนที่ท่านเจ้าคุณธมฺมวิตกฺโกท่านสั่งไว้ คือของบุตรคุณปลัด ๗ คน และคุณปลัดพร้อมด้วยภรรยาอีกรวมเป็น ๙ คนพอดี [/FONT]

    [FONT=&quot]ท่านเจ้าคุณธมฺมวิตกฺโก ได้ปลุกเสกให้โดยรับไว้ในมือ เสกอยู่นานประมาณ ๑๘ นาที จึงเป็นอันเสร็จพิธี ท่านได้มอบให้กับคุณปลัดโกศล และบอกให้ไปเลี่ยมให้ลูก ๆ ห้อยคอไว้ จะเกิดสิริมงคลอันยิ่งใหญ่ และท่านได้สั่งให้ปลัดโกศลไปนำก้อนกรวดมาอีกท่านจะเสกให้[/FONT]
    [FONT=&quot]รุ่งขึ้นในวันอังคารที่ ๕ มกราคม ๒๕๑๔ คุณปลัดก็ได้สั่งภรรยา คือคุณจำเนียร ปัทมสุนทร (ซึ่งเป็นหลานสะใภ้ของท่านเจ้าคุณธมฺมวิตกฺโก) ซึ่งคุณจำเนียรได้เดินทางไปพร้อมกับภรรยาของข้าราชการผู้ใหญ่คนหนึ่งแห่งอำเภอบางบ่อ (สำหรับผู้นี้ไม่ประสงค์จะออกนาม ด้วยเกรงว่าจะถูกรบกวน เรื่องปฐวีธาตุ) เพียง ๒ คน เพราะคุณปลัดโกศลไม่ว่างเพราะติดราชการ จึงได้มอบหมายให้ภรรยาจัดการแทน ซึ่งเก็บได้อีก ๑ ถุงพลาสติก และได้นำไปชำระล้างอีกอย่างเคยพร้อมกับนำใส่ถาดพลาสติก และรวมทั้งของที่เก็บไว้เมื่อครั้งก่อนอีก ๓ ถุง รวมเป็น ๔ ถุง จากนั้นจึงได้นำไปให้ท่านเจ้าคุณธมฺมวิตกฺโกปลุกเสกอีก [/FONT]

    [FONT=&quot]ภายหลังจากที่ท่านได้ทำวัตรเย็นเสร็จเรียบร้อยและได้รับการชำระแผลจากนายแพทย์ไพบูลย์เป็นที่เรียบร้อย คุณปลัดโกศลจึงได้นำมาให้ท่านช่วยปลุกเสกให้ภายในพระอุโบสถ โตยท่านใช้เวลาบริกรรมปลุกเสกให้อย่างตั้งใจ เป็นเวลาเท่ากับครั้งแรก และครั้งนี้ท่านก็ได้อธิบายให้คุณปลัดโกศลฟังว่า [/FONT][FONT=&quot]“ของดีที่มีคุณค่ามาก” เรียกว่า “พระพ่อแม่ธรณีปฐวีธาตุ” หมายความว่ามีจิตเมตตา ถึงใครจะเหยียบย่ำทำสิ่งใดก็ไม่ว่า ประดุจพ่อแม่ของเราที่รักลูก จะมีแต่ความเมตตากรุณาต่อลูกทุกคน แม้ลูกจะกระทำสิ่งใดผิดก็จะให้อภัยเสมอ ฉะนั้นก้อนกรวดนี้จึงมีอานุภาพศักดิ์สิทธิ์มาก หากจะมอบให้กับใคร ก็จงให้แก่ผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาเท่านั้น เพราะสิ่งของนี้มีค่ายิ่งกว่าเพชรพลอย และให้ผู้ที่เขารับไป จงนำก้อนกรวดนี้วางไว้ตรงกลางรูปใบโพธิ ส่วนรูปใบโพธินั้นให้เอากระดาษแข็งหรือจะเป็นโลหะ ทองเหลืออง ทองแดง เงินหรือทองคำก็ได้ ให้ตัดเป็นรูปใบโพธิ ให้เขียนเป็นตัวอักขระขอมตัว “อุณาโลม ๙ ชั้น” อยู่ด้านบน หางตัว “อุ” ชี้ตรงไปจดปลายใบโพธิ ส่วนใต้ตัว “อุ” ลงไปให้เขียนเป็นอักขระภาษาไทยก็ได้ว่า “น” สำหรับใต้ตัว “น” ลงไปก็ให้เขียนชื่อของผู้ที่เป็นเจ้าของก้อนกรวดนั้น พร้อมกับนามสกุลด้วย แล้วจึงนำก้อนกรวดวางลงตรงกลางใบโพธิที่เขียน แล้วนำไปเลี่ยมห้อยคอ จะเกิดสิริมงคลแก่คนห้อย [/FONT]

    [FONT=&quot]สำหรับพระพ่อแม่ธรณีปฐวีธาตุท่านได้ย้ำเสมอว่า มีทั้งหมด ๙ คำด้วยกัน พร้อมกันนั้นท่านยังได้นับนิ้วมือให้ดูอีกด้วยดังนี้:-[/FONT]
    [FONT=&quot]๑. พระ[/FONT]
    [FONT=&quot]๒. พ่อแม่[/FONT]
    [FONT=&quot]๓. ธอ[/FONT]
    [FONT=&quot]๔. ระ[/FONT]
    [FONT=&quot]๕. ณี[/FONT]
    [FONT=&quot]๖. ปะ[/FONT]
    [FONT=&quot]๗. ฐะ[/FONT]
    [FONT=&quot]๘. วี[/FONT]
    [FONT=&quot]๙. ธาตุ[/FONT]
    [FONT=&quot]และเป็นที่น่าสังเกตได้ว่า ท่านเจ้าคุณธมฺมวิตกฺโก ท่านชอบทำอะไรต้องลง ๙ เสมอ เช่น การบูชาพระ ท่านชอบบูชาด้วยดอกบัว ๙ ดอก รูปก็ ๙ ดอกเช่นกัน ท่านอาจจะถือเคล็ดการก้าวหน้าเสมอก็เป็นได้ เช่นการบำเพ็ญกุศลต่าง ๆ ของท่าน ท่านจะไม่ละความพยายามที่จะให้เจริญก้าวหน้ายิ่ง ๆ ขึ้นไปเสมอ ท่านไม่เคยย่อท้อต่ออุปสรรคใด ๆ เลย ถึงแม้ท่านจะได้รับความทุกขเวทนาจากโรคภัย แต่ท่านก็ยังยิ้มเสมอ แสดงให้เห็นว่าท่านเป็นผู้มีความอดทนอย่างยอดเยี่ยมไม่มีพระภิกษุองค์ใดจะมีความมานะอย่างท่าน [/FONT]


    [FONT=&quot][/FONT]
     
  5. กรรมเหนือกรรม

    กรรมเหนือกรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2009
    โพสต์:
    123
    ค่าพลัง:
    +60
    สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

    ลูกขอน้อมรับคำพรของแม่ย่าพิชญ์ ด้วยใจทราบซึ้งนะเจ้าคะ (
    สักวันคงได้พบเจอกันแน่นอน)

    เมื่อวานนี้พานพบแต่เรื่องหนักใจ [​IMG] เข้ามาหาพ่อแม่ พี่น้องที่นี่ ได้กำลังใจไปอีกโข
    ทั้งน้องปู คุณกฤช น้องเทียน และพี่ๆ น้องๆ ทุกท่าน...
    . [​IMG] (ขอบคุณทุกๆ กำลังจิตที่เขียนออกมาเป็นกำลังใจนะคะ)

    ยิ่งใกล้วันเกิด ยิ่งเจอบททดสอบ พ้นไปได้คราวนี้ "ไม่หาย(จากโลกนี้) ก็ตาย(จากกิเลส) กันเลยทีเดียว" แต่ก็สู้ๆ จ้า [​IMG]


     
  6. poozaa

    poozaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    686
    ค่าพลัง:
    +1,071
    ลองแม่ย่าพิชญ์ให้พร ปูเชื่อว่า พี่ต้องผ่านการทดสอบครั้งนี้ไปได้อย่างแน่นอนจ้า
    มารบ่มี บารมีบ่เกิดเด้อ

    ตัวปูเองตั้งแต่เริ่มปฏิบัติอย่างจริงจัง เจอบททดสอบมาแล้วจนเกือบตาย
    แต่นี่ยังแค่เริ่มต้น ต่อไปต้องเจอมากกว่านี้เป็น 100 เท่า คิดแล้วเสียวค้าบ อิ อิ

    ปล.ช่วงนี้ปูโดนกักบริเวณ จากความซ่าห์ของตัวเอง ตอนนี้เลยซ่าห์ไม่ค่อยออก
    ต้องเรียบร้อยหน่อย [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มิถุนายน 2009
  7. นาคา

    นาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,377
    ค่าพลัง:
    +12,917
    ผ่อนคลาย จาก การอ่านครับ

    ภาพด้านล่าง พิจาณา ครับ ถ่ายจากในถ้ำวัดถ้ำพันธุรัตน เขาพนม สุราษฯ
    มองคล้าย .....

    [​IMG]

    [​IMG]

    โมทนา กับทุกท่านครับ ; เชิญ ทุกท่าน , คุณจิ๋ม มาเที่ยวทางพังงา,ภูเก็ต เหรอ .....ว่างๆ มีโอกาส จะเก็บภาพ สำนักสงฆืถ้ำนาคราช มาฝากจ้า...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. นินะ

    นินะ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    เรื่องลี้ลับพูดอยากนะค่ะ รอเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์แล้วกันเมื่อเราไม่มีลมหายใจ
    แล้วทุกอย่างที่ทุกคนสงสัยจะคลี่คลายค่ะ ขอให้เราอยู่กับปัจจุบัน ทำวันนี้ให้ดีที่สุด
    อย่ายึดติดกับอดีต หรือเรื่องที่ยังมาไม่ถึงเลยค่ะ แต่หนูก็เป็นอีกคนที่มีความศรัทธาในพญานาค ที่ตอนนี้หนูก็ยังพิสูจน์ไม่ได้ค่ะ
     
  9. กรรมเหนือกรรม

    กรรมเหนือกรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2009
    โพสต์:
    123
    ค่าพลัง:
    +60
    เครียดๆ อย่างนี้[​IMG] เราต้องกิน ต้องกิน.[​IMG]...นี่เลย ขนมราสมาลัย ของโปรดดดดดดด [​IMG]

    [​IMG]
     
  10. ธิดารัตน์

    ธิดารัตน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,939
    ค่าพลัง:
    +4,568

    พี่สาวคะ สู้ๆๆๆๆนะคะ ทุกอุปสรรคต้องผ่านไปได้
    ขอให้นำกำลังใจจากทุกคนเป็นพลังในการสู้ต่อไปนะคะ
    ยังมีหยีคนนึงนะคะ ที่เป็นกำลังใจให้พี่นะคะ
    ขอมอบเพลงนี้ให้นะคะ
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td align="center">เนื้อเพลง : วันใหม่</td></tr> <tr><td>
    </td></tr> <tr> <td align="center">
    หลับตา สูดลมหายใจ ในยามเช้า อยู่ในสายลม
    อากาศดีๆ เติมด้วยเสียงเพลงที่อาจจะฟังก้อยังชื่นใจ

    (*) จะขอมีความสุข จากนี้ลบเลือนวันเก่าไปซะที
    อะไรไม่ดีที่เคยพบเคยเจอ เป็นอดีตไป
    ใจที่เคยเหนื่อย วันที่เคยเจ็บคงไม่จำเก็บไว้

    (**) ก้อจะเริ่มใหม่ วันใหม่ ต่อจากนี้
    เริ่มใหม่ เอาใหม่น่าจะดี
    เรื่องเก่าแล้วมันให้ออกจากใจเลิกไปจำ

    ก้อจะเริ่มใหม่ วันใหม่ ให้มันดี
    ก้าวใหม่ เดินใหม่ อีกซักที
    มีเช้าวันใหม่ รอให้เริ่มใหม่ ทำเรื่องราวใหม่ๆ ให้ดีๆ

    ขอบฟ้า จากเป็นสีดำก้อเปลี่ยนไป เปลี่ยนเป็นสีทอง
    ไม่ต่างอะไร ก้อคงเหมือนใจที่ถูกเยียวยาจากความทุกข์ทน

    **ป.ล.ขอบพระคุณพี่นาคาที่ให้ความรู้เรื่องปฐวีธาตุนะคะข้อมูลแน่นมากค่ะ^^
    </pre></td></tr></tbody></table>
     
  11. พรหมพร

    พรหมพร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    350
    ค่าพลัง:
    +457
    เมื่อวานไม่ได้มาล่ะ ^^'' มาวันนี้ไปถึงหน้า 66 กันแล้ว เร็วดีจริง ได้อ่านรวดเดียวเยอะแยะเลย
    เมื่อเย็นวันจันทร์มีเมฆตั่งเค้าทำท่าว่าฝนจะตก หลังจากที่ฝนทิ้งช่วงไปหลายวันจนน้ำในนาแห้งขอด
    ทำเอาชาวนาใจหายใจคว่ำ เกรงว่าข้าวกล้าที่หว่านไว้จะแห้งตายเสียก่อนที่ฝนจะตกลงมาอีกครั้ง
    ระหว่างที่เมฆรวมตัวอยู่นั้น พรที่นึ่งข้าวอยู่หลังบ้านก็มองจับสังเกตุก้อนเมฆบนท้องฟ้าไปด้วย
    เหมือนมีอะไรมาดลใจให้มอง แล้วก็ได้เห็นเมฆก้อนนึง ทอดยาวคล้ายลำตัวงู มีสีขาวอมเทา
    มองเห็นแต่ส่วนค่อนไปทางหาง ส่วนหัวหายไปในหมู่เมฆกลุ่มใหญ่ เป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจ
    คิดจะถ่ายภาพมาอวดเพื่อนๆ แต่กล้องถ่ายรูปน้องชายยึดคืนไปแล้ว น้องชายอยู่คนละหมู่บ้าน
    เลยไม่มีภาพมาให้ดู ก็ มองก้อนเมฆแปลกๆบนท้องฟ้า ตั่งจิตอธิฐาน ส่งข้อความไปถึงท่านวรุณเทพที่อยู่เบื้องบน
    ขอฝนค่ะ แต่เป็นการขอในนามตัวแทนของชาวนาผู้กำลังตั่งตารอคอยให้ฝนตก ( มีเมฆมาบ่อยแต่ฝนไม่ตกสักที )
    คำพูดเลยออกจะเป็นพิธีการอยู่สักหน่อย ไม่พิมพ์ดีกว่าเพราะจะเยิ่นเย้อเสียเวลา ระหว่างนั้นก็หาวชนิดอ้าปากกว้าง
    หาวติดๆกันจนน้ำตาไหลพรากหยั่งกับกำลังร้องไห้ ว่ากันว่าเป็นการสื่อสารกันขององค์บารมี ไม่รู้ท่านคุยอะไรกันมั่ง
    เมฆรวมตัวเป็นรูป...ให้เห็นอยู่ในราวๆ 5 นาทีก่อนที่สีขาวอมเทาจะกลายเป็นสีเทาเข้ม กลืนหายไปกับเมฆก้อนใหญ่

    ฝนตกลงมาตั่งแต่เมื่อคืนวันจันทร์ เมื่อวานก็ด้วย วันนี้ก็ยังตกอยู่ สงสัยว่าพายุจะเข้าซะล่ะมั้ง ? ไม่ค่อยได้ดูข่าว
    เมื่อคืนฝันเห็นพระสงฆ์หลายรูป แล้วก็พญานาคหลายองค์ ในรูปพญานาค เอาไว้ค่อยเล่าให้ฟังทีหลัง ขอติดไว้ก่อนนะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มิถุนายน 2009
  12. กรรมเหนือกรรม

    กรรมเหนือกรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2009
    โพสต์:
    123
    ค่าพลัง:
    +60
    สวัสดีจ้า น้องพร

    ดีใจด้วยเน้อที่พระพิรุณท่านลงมาโปรดสักที ชาวนาไทยจะได้รู้สึกสบายใจขึ้นเนอะ


    ไม่ได้คุยด้วยหลายวันอยู่ อย่าโกรธกันนะจ๊ะ ช่วงนี้ไม่อยากจะเอ่ยอะไรมาก

    ได้แต่แปลงมาเป็นภาษาเขียนแทน
    หากใจชื้นขึ้นเมื่อไหร่จะเม้าท์กันให้มันส์ไปเลย
    [​IMG]

    --------------------------------------------------------------

    Dear น้องหยี [​IMG]
    ขอบใจมากๆ นะจ๊ะ สำหรับกำลังใจและเพลงที่ให้พี่ (เอ..หรือป้าหว่า[​IMG])


    จิตบริสุทธิ์ที่หนูให้พี่มา พี่ขอโมทนา และขออธิษฐานให้หนูไ้ด้พบแต่ผู้มีใจบริสุทธิ์
    เป็นที่รักของมนุษย์ เทพ เทวดา พรหมณ์ ตลอดไปนะจ๊ะ
     
  13. naknoi.b

    naknoi.b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,042
    ค่าพลัง:
    +1,714
    สู้ๆนะคับพี่สาว.....ยิ้มเข้าไว้นะจ๊ะ

    ;aa34โอ้..กำลังจัยล้นหลามแฮ่ๆ...เบนซ์เองก็ผ่านสถานการณ์นี่มาตอนต้นปีก้าบพี่สาวคนสวย
    ใจร่มๆนะคับ..เบนซ์เองก็ผ่านมาแบบฉิวเฉียดแบบว่าเส้นยาแดงผ่าสิบเลยอะคับ...ยกมือท่วมหัวขอบารมีหลวงปู่ทวด..หลวงปู่ดู่ ช่วยสุดชีวิต ผนวกกับบารมีคุณบิดามารดาและครูอาจารย์ สุดท้ายลอดมาด้าย..เฮ้อ!เกือบลืมหายจัยเชียวแหละคับ....ลองไปปล่อยปลาดูนะคับพี่สาว..เพราะเบนซ์เองช่วงนั้นตระเวณปล่อยปลาเป็นว่าเล่นเลย เพราะหลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านปรารภไว้ว่าในสมัยหลวงปู่ปานท่านได้สอนไว้..การปล่อยปลาช่อน1ตัวนั้นจะช่วยในเรื่องของการต่อชะตาชีวิตในลักษณะของกรรมที่เป็นไปในลักษณะของกรรมตัดรอน..กรรมในลักษณะแบบนี้จะทำให้เจ้าของชะตาตายก่อนอายุไข(อุปฆาตกรรม) แต่ถ้าเราม่ายได้มีกรรมในลักษณะดังกล่าวเมื่อเราปล่อยปลาอานิสงค์ส่วนนี้ก็จะเข้าไปช่วยในเรื่องของการงานและการดำเนินชีวิตให้ราบรื่น เพราะเนื่องด้วยบุญจากการให้ชีวิตแก่เค้าให้รอดพ้นจากการถูกฆ่า...อานิสงค์จึงดลให้ผู้ให้ชีวิตจะมีแต่ความราบรื่นในการงานและชีวิต...ลงทำดูนะคับ หลายๆเหตุหลายๆปัจจัยเอาเข้ามาช่วยกัน (อย่างที่สมเด็จโตท่านกล่าวไว้บุญเราไม่เคยสร้างใครจะมาช่วยเรา)ดังนั้นเราควรที่จะสร้างเหตุเสียก่อนก็คือการทำบุญเพื่อที่บุญนั้นจะแปรเปลี่ยนเป็นอานิสงค์ค้ำชูชีวิตแห่งเราให้อยู่รอดปลอดภัยดังคำที่พระท่านว่า(บุญเท่านั้นเป็นที่พึ่งแก่เราได้)...สู้ๆๆนะคับทุกอย่างเกิดจากเหตุและปัจจัยเมื่อรู้เหตุแล้วเราก็ค่อยหาวิธีจะดับเหตุของมันที่จะเกิดขึ้นมา..ไม่มากก้น้อย สุดท้ายผลที่เราจะได้รับย่อมไม่หนักหนาสาหัส อย่างมากก็เสมอตัวหรือไม่อย่างดีที่สุดหลุดลอย .....ลองใช้วิธีดังกล่าวนี้ดูนะคับ เบนซ์ทำมาแย้วและได้ผลแล้ว....ตามเหตุตามปัจจัยลองทำดูนะคับพี่สาว..ผลจะออกหัวหรือว่าก้อย..เราลูกพระต้องยิ้มรับมันได้กับสภาววะที่จะมากระทบ...บางทีการที่เราต้องสูญเสียสิ่งหนึ่งก็อาจเป้นหนทางให้เราต้องได้พานพบกับของอีกสิ่งหนึ่งที่มีค่ามากกว่าสิ่งของอันเก่าที่เราสูญเสีย ..สิ่งเหล่านี้อาจเป็นบทพิสูจน์สภาวะจิตจัยของเราว่าเราคลายความยึดมั่นถือมั่นได้รึเปล่า..เมื่อเราผ่านการทดสอบแล้วเราอาจจะได้รางวัลตอบแทนเป็นของขวัญชิ้นโบว์แดงก้อาจจะเป้นได้ใครจะรู้....สรรพสิ่งเกิดขึ้นแล้วดับไป หาสิ่งใดเป็นสาระและแก่นสารได้ รู้แล้ววาง สุดท้ายปล่อยวางใจเป้นสุข*-* เอ้ายิ้มหน่อยจ้า!!!!!!:pthx1​
     
  14. naknoi.b

    naknoi.b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,042
    ค่าพลัง:
    +1,714
    หิวจังเลยคับ..พี่พิชญ์อะเอาของกินมาล่อทัมมายยยยย!!!!!*-*!

    pig_cryy2วันนี่พี่พิชญ์เอาของกินมาล่อซะน้ำยายไหลเลยอะคับ.....*-* ว่าแต่สนจัยพาน้องๆไปเลื้อยเล่นที่ภัตตาคารนั้นมั๊ยอะคับ...แฮ่ๆ เผื่อจะด้ายอิ่มท้องมั้ง 55;k03
     
  15. naknoi.b

    naknoi.b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,042
    ค่าพลัง:
    +1,714
    ปัถฐวีธาตุสวยจังเยยคับ....สวยๆทั้งน้านนน! โมทนากับพี่ๆที่ได้ไว้ในครอบครองด้วยนะคับ

    (ping)โหพี่ๆเล่นเอาปัถวีธาตุมาโชว์อีกแย้ว..อดจัยไม่ให้อยากได้ซากกกกที (แฮ่) ก็มันสวยๆทั้งนั้นเลยอะคับ ม่ายเขียนมากดีก่า!!! *-* ประเดี๋ยวจะโดนพี่ชายดุเอาอีก(อิอิ) ว่าแต่น้องก็อยากได้จริงๆนะคับ ทัมงัยดีอะ อยากได้ๆๆๆๆๆๆๆ ฮื่อๆๆๆๆๆ*-*! (เศร้าจัย)!
    โอม.!! สิ่งใดที่ข้าเคยได้และเคยมี..ขอสิ่งนั้นจงกลับคืนสู่ตัวข้า ณ กาลบัดNow (คริคริ):boo:
     
  16. มนตรา_นาคี

    มนตรา_นาคี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    211
    ค่าพลัง:
    +179
    วันนี้ตอนบ่าย โมนั่งพับดอกบัวว่าจะไปให้พี่ ๆ นาคทั้งหลายที่ปกปักรักษารอยพระพุทธบาทคู่
    แล้วเกิดติงในใจว่า “ดอกบัวกลีบช้ำ ดำแล้ว ไม่สวยเลย”
    แล้วก็ได้ยินเสียงดังขึ้นมาในใจว่า “ดอกไม้ที่เพิ่งตัดออกมาจากต้นสวยไม๊”
    เราก็ตอบว่า “สวย”
    ถามขึ้นมาอีกว่า “แล้วถ้าดอกไม้นั้นอยู่มาสัก 3 วันล่ะ จะสวยเหมือนเดิมไม๊”
    เราก็ตอบว่า “ไม่สวยแล้ว มันเฉา”
    พี่เค้าเลยบอกว่า “เห็นไม๊ ดอกไม้ดอกเดียวกัน เมื่อผ่านเวลาไปแล้ว ก็เสื่อมไป หากแต่จิตของคนต่างหาก หากคิดว่างาม ว่าสวย มันก็สวย หากคิดว่าไม่งาม ไม่สวย มันจะไปสวยได้อย่างไร ทำอะไรขึ้นอยู่กับจิต ถ้าเราตั้งมั่น แน่วแน่แล้ว สิ่งนั้นสวยงามเสมอ”

    *******************************************************************

    แค่พับดอกบัว ก็สามารถเรียนรู้ธรรมมะได้จากธรรมชาติ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มิถุนายน 2009
  17. naknoi.b

    naknoi.b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,042
    ค่าพลัง:
    +1,714
    ;k03โอ้!..เยี่ยมยอดกระเทียมเจียวไปเลยจ๊ะ...ประมาณว่าจิตเป็นใหญ่จิตเป็นประธานถ้าหากมองในแง่ของพลังงานแห่งโลกวิญญาณจิตนั้นไซร้ที่ทรงพลัง...*-*
    โมทนานะก้าบ..มนตรา(นาคี) คนสวย ดังคำที่พระท่านว่า (จิตเป้นนายกายเป้นบ่าว)
    แหม..! คนอะรัยเก่งด้วยสวยด้วย55..เอ๊ะ.!;ว่าแต่ว่าสวยจิงป่าว?????(คริคริ)thx1
     
  18. พรหมพร

    พรหมพร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    350
    ค่าพลัง:
    +457
    พี่จอยอ่ะ เอาเพลงอะไรก็ไม่รู้มาเล่นให้ฟัง ทำเอาซึ้งซะน้ำตาเล็ดเลย คิดถึงใคร...ที่ไม่ใช่คน

    มาเล่าต่อจากที่ค้างไว้ ฝันของคืนวันอังคาร คือเช้าต่อมาก็เป็นวันพุธ เพราะวันอังคารเอาเพลงไปเปิด
    เพลงธรรมะที่โหลดเอาไว้ฟังนั่นไง ถือโอกาสว่าพ่อไม่อยู่บ้าน พรก็เปิดฟัง ตอนพ่ออยู่จะเปิดไม่ได้
    เพราะพ่อบอกเลยว่าไม่ชอบ ไม่อยากได้ยิน T-T เราเปิดฟัง ก็เชิญเจ้าที่เจ้าทางแถวนั้นมาฟังด้วยกัน
    เกิดเป็นลมพัดเข้ามาในบ้านวูบใหญ่ แล้วก็เงียบไป ขนลุกเกรียวไปทั้งตัวตอนลมพัด เป็นอันใช้ได้
    ก็ฟังไปได้แค่ไม่กี่เพลงหรอก พ่อกลับมาพอดี มาถึงพ่อได้ยินเพลงที่เราเปิดฟังก็บ่นใหญ่เลย
    แล้วก็เดินรี่เข้าไปปิดเครื่อง T-T พรล่ะเซ็งเลย คิดว่าอย่างพ่อนี่คงจะแก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้วล่ะ
    คงต้องรอให้มีพระคุณเจ้ามาโปรดเท่านั้นแหละ พ่อถึงอาจจะยอมรับฟังพระธรรมเทศนา

    คิดน้อยใจพาลไปถึงพี่ๆชาวกระทู้นี้ด้วยล่ะ จะบอกให้ ( อ้าว !? ลากมาเกี่ยวอะไรด้วยฟ๊ะ )
    เออหนอ เราไม่มีพระคุณเจ้า หลวงพ่อ หลวงปู่ที่เคารพมาสอนธรรมให้อย่างพี่ๆเค้าเลยหนอ
    แล้วอย่างนี้ เมื่อไหร่พรถึงจะมีความรู้ ความเข้าใจในโลกธรรม พอจะไล่หลังพี่ๆเค้าไปได้บ้าง

    ตกกลางคืนก็ฝันเห็นเลยเชียว พระคุณเจ้าท่านมาโปรดถึงหน้าบ้าน นั่งคุยอยู่กับพ่อ ในความฝัน
    พรเห็นดังนั้นก็ดีใจ เข้าไปกราบ หาน้ำมาต้อนรับ ท่านก็ยิ้มๆ พยักหน้ารับ ท่านพูดถึงแผ่นcd
    พรก็ไปหามาให้ท่านดู ทำไปได้เยอะแล้ว ( แจกเกือบหมดแล้ว ) ท่านก็บอกว่า ดีๆ ทำต่อไปเถอะ
    แล้วท่านก็ให้ดูสมุดภาพ ตรงนี้คือการสอนธรรมะ คือเหมือนท่านพาเข้าไปในโลกของสมุดภาพ
    ท่านให้พรได้เห็นภาพต่างๆ เหมือนเราได้ไปยืนอยู่ที่ตรงนั้นจริง ได้อยู่ร่วมในเหตุการณ์
    แล้วท่านก็อธิบายให้ฟังเป็นฉากๆ เหมือนสอนหนังสือเด็กอย่างไรอย่างนั้น ซึ่งพรก็รู้สึกสนุกดี
    แล้วก็ได้เห็นภาพ พิภพนาคา ภาพต่างๆเคลื่อนไหว คำที่ท่านสอนตรงนี้ พรยังจำได้แม่นอยู่ จะเล่าให้ฟัง
    ' อย่าหลงในรูปกายนี้ ( รูปกายพญานาคที่สวยๆงามๆทั้งนั้นเลย ) เพราะเมื่อใดที่หลงใหลในรูปแล้ว
    ก็ย่อมจะเกิดความยึดติด เกิดความปรารถนาที่จะดำรงอยู่ในรูปนั้น เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้หลงอยู่ในภพภูมินี้
    อย่ายึดติดในภพภูมิ เมื่อใดที่ติดภพติดชาติ ชาติภพนั้นๆก็จะเกิดขึ้นมารองรับเจ้า เป็นปัจจัยให้เป็นที่อยู่อาศัย
    กำจัดความยึดติด ความหลงใหลในชาติภพเหล่านี้ เมื่อไม่มีความอยากในชาติภพ ภพภูมิก็จะไม่เกิด '
    ท่านสอนเยอะเหมือนกัน แต่ขี้เกียจพิมพ์แล้วล่ะ เล่าต่อในส่วนของพรดีกว่า ขณะที่กำลังฟังธรรมของท่านอยู่นั้น
    พรก็ได้เห็นภาพ พญานาคหลายองค์ สีเงิน สีทอง สีแดง สีเขียว สีดำฯ ราวๆ 10 องค์ได้ เลื้อยเกี่ยวพันกัน
    เกิดเป็นขนดขนาดใหญ่ซ้อนขึ้นมาหลายชั้น เหมือนเป็นเสาใหญ่หลากสีสัน ส่วนเศียรของท่านหันไปทิศเดียวกัน
    เดาได้ใช่ไหม...ต่างก็แผ่พังพาน เป็นร่มฉัตร ปกปักษ์รักษาพระพุทธรูปองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    ท่านเหล่านั้นใช้ภาพนี้สื่อถึงพร เป็นสัญลักษณ์ของการปกป้องคุ้มครอง ดูแลพระพุทธศาสนาให้คงอยู่สืบไป
    เมื่อพรได้เห็นภาพนั้นแล้ว ใจพรก็เต็มตื้น...ตื้นตันใจ อยากเป็นเช่นท่านเหล่านั้น คือทำหน้าที่ดูแลพระศาสนา

    อ้าว !? เฮ้ย !! ยัยพร !! หลวงปู่ท่านสอนอยู่แหม็บๆยังไม่ทันจะขาดคำดีเลย นี่หล่อนเข้าใจที่ท่านสอนมั้ยเนี้ย !?
    แหะแหะ ^^'' ก็พรเคลิ้มไปกะท่านนี่คะ นิสัยแบบนี้ของพรคงจะแก้ไม่หาย แล้วพรก็อธิฐานไปแล้วด้วย นานแล้ว
    แบบนี้มีแววว่าจะได้กลับไปอ้อนท่านพ่อที่บ้านเก่าแหง๋เลย แต่นาคพิภพ แดนบาดาล ก็คือสวรรค์สำหรับพรนะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มิถุนายน 2009
  19. กรรมเหนือกรรม

    กรรมเหนือกรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2009
    โพสต์:
    123
    ค่าพลัง:
    +60
    นอกจากเรื่องที่เล่าให้ฟังเมื่อคืนแล้ว คงเคยไปสัญญาสาบานรักกับใครไว้แหละ

    จากที่เคยมีความรู้สึกคิดถึงใครบางคน [​IMG] (แต่ไม่รู้ว่าใคร..งงเนอะ ) และมีเหมือนใครบางคนกำลังมองดูเราอยู่ตลอด

    พอฟังเพลงนี้ครั้งแรก มันก็โดนเลย ตรงกับความรู้สึกจริงๆ [​IMG]

    *เพลงนี้เป็นเพลงประกอบหนังสือเรื่อง Only love is real จ๊ะ


    นี่เป็นเนื้อหาส่วนหนึ่งในหนังสือ คัดตอนที่ชอบมาให้กัน


    “…คู่แท้ที่จำกันได้อาจจะเกิดแค่เบาบางและอาจจะช้ามาก ราวอรุณรุ่งแห่งความรู้แจ้ง
    เมื่อม่านบังตาค่อยๆเปิดขึ้นช้าๆ ไม่ใช่ทุกคู่ ทุกคน ที่เห็นแล้วก็รู้ได้ในทันที....มันต้องใช้เวลา
    และต้องใช้ความอดทนที่จะรอสำหรับฝ่ายที่เห็นมันได้ก่อน

    …การเลือกทำอย่างหนึ่งอย่างใด หรือไม่ทำเลยขึ้นอยู่กับจิตใจอิสระของคนทั้งคู่เท่านั้น....เขาเลือกกันเอง
    คู่ที่ตื่นน้อยอาจเลือกตัดสินใจตามสมองบัญชาจากความกลัวหรืออคติ

    …แล้วโชคร้ายนักที่การตัดสินใจเยี่ยงนี้มักจบลงด้วยหัวใจที่แหลกสลาย…”

    พุทธศาสนาสอนให้เราเชื่อในเรื่องกฏแห่งกรรม คนทุกคนมีกรรมที่ตนเป็นผู้ก่อ
    …และมีผลแห่งกรรมที่ตนจะต้องเป็นผู้รับ
    สิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันล้วนแล้วแต่เป็นผลที่เกิดขึ้นจากอดีต…จากสิ่งที่เราเคยก่อขึ้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มิถุนายน 2009
  20. นาคา

    นาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,377
    ค่าพลัง:
    +12,917
    ใช่ๆๆ ครับ

    อย่ายึดติด ยึดมั่น ในกายที่เราเห็น กายนี้ไม่ใช่ของเรา เราไม่มีในกาย เรามีอาศัยในรูปธาตุ 4 ขันธ์ 5 น่ะ

    จะสวย ,หล่อ งามเพียงใด สักวันหนึ่ง ก็ ดับไป คือ การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และ ดับไป ตามหลักธรรมชาติ

    การยึดมั่น ถือมั่น ก่อเกิด กิเลส ตาม นิวรณ์ 5

    1.กามฉันทะ คือความยินดี พอใจ เพลิดเพลินในกามคุณอารมณ์
    2.พยาบาท ความผูกโกรธ จองล้างจองผลาญ
    3.ถีนมิทธะ ความง่วงเหงาหาวนอน ในขณะเจริญสมณธรรม
    4.อุทธัจจกุกกุจจะ ความคิดฟุ้งซ่าน และความรำคาญหงุดหงิด
    5.วิจิกิจฉา ความลังเลสงสัยในผลของการปฏิบัติ ไม่แน่ใจว่าจะมีผลจริงตามที่คิดไว้หรือไม่เพียงใด

    ขอให้ น้องๆ มีกำลังใจ ครับ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...