มีใครเป็นลูกหลานเสด็จปู่พญานาคาธิบดีศรีสุทโธนาคราชบ้างครับ

มีเรื่องความฝันประหลาดๆ มาเล่าสู่กันฟัง (หลังจากที่ไม่ได้โพสซะนาน)

หลังจากไปรับยันต์เกราะเพชรมาที่วัดท่าขนุน ผมฝันว่าได้ไปวัดท่าขนุนอีกครั้ง มีผู้ชายแก่ๆ นุ่สีขาวพาขึ้นไปบนภูเขาที่มีบ่อน้ำเล็กๆ อยู่ในนั้น ในบ่อเต็มไปด้วยแสงเรืองๆ แต่ไม่รู้ว่าข้างในเป็นอะไร พอเดินต่อมาที่ผนังถ้ำ ชายแก่ก็เอามือล้วงไปที่ผนัง เอาพระขรรค์แก้วสีม่วงเล่มใหญ่ประมาณ 1 เมตรได้ จำนวน 2 เล่มมาให้ดู ไม่ทราบว่าใครพอจะตีความฝัน หรือทราบข้อมูลบ้างว่ามีถ้ำอยู่จริงแถวๆ วัดท่าขนุนหรือเปล่า เพราะที่ไปมาเห็นเขาหลายลูกรอบๆ วัด แต่ไม่รู้ว่าเขาไหนมีถ้ำอยู่ข้างใน (ในฝันผมหันหน้าเข้าพระอุโบสถ แล้วเขาให้เดินไปทางขวาเฉียงๆ (ทิศอีสานอ่ะครับ)

 

คุณสิงหนวัติน่าจะฝันเร็วกว่านี้สักสามสี่วันนะคับ ผมจะได้เอาไปตีเป็นเลขซะเผื่อจะมีโชคกับเค้าบ้าง เหอๆๆ

 

สวัสดีจ้า ^^ วันนี้เป็นวันอาสาฬหบูชา คิดว่าหลายๆคนก็คงจะได้ไปทำบุญในช่วงเช้ากันมาแล้ว
พรก็ทำบุญที่วัดแถวๆบ้าน ไม่ได้ไปไหนไกล เนื่องจากวันนี้เป็นวันสำคัญทางศาสนา
พระท่านเลยสวดมนต์เพิ่มขึ้นหลายบททำให้นานกว่าปกติ ทำเอาพ่อออกแม่ออกเหน็บกินไปตามๆกัน :d
พี่ๆหลายคนก็ออกสัญจรไปตามต่างจังหวัดเพื่อถวายเทียนพรรษา พรขอโมทนาบุญด้วยคน

เมื่อวานฝนตกเกือบทั้งวัน ตอนเย็นพรยังไม่ขึ้นจากงานนา อยู่ๆก็รู้สึกเวียนหัวเหมือนพื้นโคลงเคลง
มันคลื่นไส้ชอบกล อยากจะอ๊อก แต่ก็รู้ตัวดีว่าไม่ได้ป่วยไข้เสียหน่อย จึงกลับเข้ามาที่บ้านสวน
นั่งพักอยู่ครู่นึงก็ไม่ได้ดีขึ้นเลย จึงกำหนดจิตถามไป เกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง ทำไมวินเวียนคลื่นไส้
ใจตอบกลับมาว่า เมาบุญ !? คือเป็นจังหวะเหมาะที่เพื่อนๆ พี่ๆทั้งหลายได้สวดมนต์และแผ่เมตตา
ทั้งยังท่านอื่นๆที่บังเอิญแผ่เมตตาชนิดครอบจักรวาลอีกด้วย แล้วกระแสนั้นก็มาพร้อมกันหลายทาง
หลายๆกระแสมาผสมรวมกันเหมือนค็อคเทล ทำเอาตาลายคลื่นไส้จะอาเจียน หาวซะเมื่อยกรามเลย
แล้วก็ตั่งคำถามกับตัวเอง ทำอย่างไรจึงจะหายจากอาการที่ว่านี้ ใจตอบว่าเมื่อท่านส่งกระแสแผ่เมตตามา
เมื่อเรารับรู้ได้แล้ว ก็ให้กล่าวคำอนุโมทนาต่อผลบุญที่เพื่อนๆพี่ๆทั้งหลายได้กระทำ เป็นการตอบรับ
แล้วอาการต่างๆก็จะหายไปเอง ก็เลยกล่าวคำโมทนาออกไป ครู่ใหญ่จึงหาย ร่างกายกลับเป็นปกติอีกครั้ง
วันนี้ก็เลยมารายงานตัว พลังบุญที่พี่ๆส่งมาให้ด้วยความเมตตา อุส่าห์ระลึกถึง ได้รับแล้ว...ขอบคุณนะคะ

ในวันอาสาฬหบูชา ที่ตำบลที่พรอยู่จะมีงานแห่เทียนเข้าพรรษา ประกวดขบวนแห่ ซึ่งจะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี
ปีนี้ก็เช่นกัน มีขบวนแห่ต้นเทียนมาร่วมแห่อยู่ 16 ขบวน ไว้จะโหลดภาพมาให้ดูในภายหลัง
ต้นเทียนไม่ได้สวยงามมากมายนัก เพราะเป็นแค่งานระดับตำบล ซึ่งหมู่บ้านในชุมชนต่างๆ
ทางโรงเรียนและหน่วยงานราชการ ได้ร่วมมือร่วมใจกันจัดขึ้น จะให้เท่างานแห่เทียนระดับจังหวัดคงเป็นไปไม่ได้
แต่อย่างน้อย ก็แสดงออกถึงความสามัคคี การเสียสละเวลาอันมีค่าในช่วงดำนา ( วันละ 250 ) มาร่วมงาน
จะมีงานใหญ่อีกทีก็ตอนลอยกระทงโน่นแหละ เอาไว้เข้าพรรษาปีหน้า...ถ้าพรยังอยู่ที่นี่...ที่อำเภอเขาวงแห่งนี้
จะชวนพี่ๆมาทอดถวายเทียนพรรษาที่วัดใกล้บ้านพรมั่งดีกว่า เผื่อจะได้เจอกันบ้าง...คิดถึงพี่ๆ เพื่อนๆทุกคนนะคะ

 

โมทนาบคุณพรด้วยนะครับ เมื่อวานไปร่วมงานอาสาฬหบูชาและพิธีโสฬสที่วัดท่าขนุนมาครับ

 

สวัสดีเจ้าค่ะ เพื่อนๆทุกคน ภัทรอังคารกลับมาสู่บ้านหลังนี้แล้วนะจ๊ะ หลังจากที่ห่างหายไปหลายวันมากเลย ตกลงไปทอดเทียนพรรษามาทั้งหมด 43 วัดค่ะ อิ่มบุญมากๆถ่ายรูปมาพอสมควรไว้จะนำมาลงให้ดูกันนะค่ะ แต่คงต้องใช้เวลานิดนึงเพราะต้องเตรียมรูปก่อนว่าจะตั้งเป็นกะทู้ให้ได้อ่านกันเลยค่ะ ขอแบ่งบุญให้เพื่อนๆทุกคนนะค่ะ บุญใดที่ทำไว้ดีแล้วขอให้ลูกหลานปู่ทุกคนจงมีส่วนได้ด้วยทุกประการ

คืนแรกไปค้างที่วัดศาลาลอย ที่จังหวัดสุรินทร์ คืนที่สองค้างที่วัดหนองป่าพง อุบลราชธานีค่ะ มีเพื่อนๆร่วมคณะทั้งหมดเกือบ 400 ชีวิต รถบัสไปกันทั้งหมด 8 คัน รถตู้และรถส่วนตัวอีกไม่รู้กี่คัน เป็นคณะทัวร์บุญที่มีคนร่วมด้วยมากที่สุดเลยค่ะ ไปถึงวัดไหนชาวบ้านเห็นพวกเราก็แตกตื่นเลย

วัดที่ประทับใจมากที่สุดเห็นจะเป็นวัดป่าไทรงาม และวัดป่านานาชาติ ที่ความเป็นธรรมชาติยังสมบูรณ์อยู่มากๆเลย ท่านเจ้าอาวาสที่วัดป่านานาชาติเป็นฝรั่งแต่พูดท่านได้ขัดมาก ให้ศีลให้พรเป็นภาษาไทย น่าปลื้มใจมากเลยค่ะ

คิดถึงเพื่อนๆทุกคนเลยค่ะ ดีใจที่ได้กลับมา้บ้าน

 

โมทนาบุญกับคุณวรุณบุตรนะค่ะ เสียดายงานตรงกันเลยไม่ได้ไปร่วมพิธีที่วัดท่าขนุนด้วยค่ะ

 

กลับมาแว๊วคร๊าบบ.....พร้อมๆกับเอาผลบุญมาฝากทุกๆท่านที่เปงลูกหลานพญานาคนะครับ (55+...ขอไม่เอ่ยชื่อนะครับเพราะเยอะมากเอารวมๆเลยนะครับ) แล้วเด๋วจะเอารูปท่านปู่-ย่า มาให้ชมกันนะครับ ไปเที่ยวนี้ก็ได้ของดีมาพอสมควรนะครับ 55+...เด๋วค่อยมาเล่าสู่กันฟังนะครับ

 

โมทนาบคุณอุ้มด้วยนะครับ เจอพี่ยายแก่ผอมมากเลยครับ แต่ก็ยังร่าเริงดีครับ

 

โมทนาบุญด้วยนะครับ

 

สาธุค่ะ คุณยายแกคงจะเหนื่อยมากนะค่ะเพราะแกกิจกรรมหลากหลายมาก วิ่งไปนู่นที่ไปนั่นที ช่วงนี้อุ้มก็ไม่กล้าที่จะโทรหาแกเลยกลัวจะเป็นการรบกวน มีเรื่องจะเล่าให้แกฟังก็เก็บไว้ก่อนมีโอกาสก็คงได้เจอกันค่ะ

 

โมทนาบุญด้วยนะค่ะ

 

โมทนาบุญกับพี่อุ้ม คุณ naga's son พี่กฤศ (ที่ไปด้วยกัน) และทุกๆท่านด้วยนะครับ
ผมก็ไปวัดท่าขนุนกับพี่วรุนบุตรนั่นแหละครับ

[MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.641963/[/MUSIC]

 

ขออนุโมทนาด้วยนะครับ ว่าแต่วัดท่าขนุนนี่อยู่ที่ไหนหรอครับแล้วมีอะไรบ้างครับช่วยแนะนำหน่อยนะครับ เพื่อไปไหนมาไหนจะได้แว๊บไปอ่ะครับ อิอิ...ขอขอบคุณล่วงหน้าครับ

 

ประวัติและพุทธศิลป์วัดท่าขนุน
รวบรวมโดย พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ

๑. ที่ตั้ง ตั้งอยู่เลขที่ ๒๓๕ บ้านท่าขนุน ถนนกาญจนบุรี - สังขละบุรี หมู่ที่๑ ตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย
ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่๕๙ ไร่ ๒ งาน ๓๐ ตารางวา อาณาเขต ทิศเหนือ จรดทางสาธารณะ ทิศใต้ จรดหมวดการทองผาภูมิ ทิศตะวันออกจรดทางหลวงสาย ๓๒๓ ทองผาภูมิ-สังขละบุรี ทิศตะวันตก จรดแม่น้ำแควน้อย
๒. ประวัติความเป็นมาของวัด วัดท่าขนุน ตั้งเมื่อ พ.ศ.๒๔๗๓ ชาวบ้านเรียกว่า วัดหลวงพ่อสาย เดิมเป็นที่ดินของตระกูลนกเล็กได้ถวายแก่หลวงปู่พุก อุตฺตมปาโล เพื่อสร้างวัด
เมื่อหลวงปู่พุกมรณภาพ พระอาจารย์ไตแนมซึ่งเป็นชาวกะเหรี่ยง เป็นเจ้าอาวาสบูรณะพัฒนาวัดโดยการสร้างมณฑปพระพุทธบาท ผู้ให้ความอุปถัมภ์คือ ผู้ใหญ่บ้านทม หงสาวดี เมื่อพระอาจารย์ไตแนมมรณภาพลง วัดท่าขนุนได้กลายเป็นวัดร้างไปชั่วระยะหนึ่ง
จนกระทั่งหลวงปู่สาย อคฺควํโส (พระครูสุวรรณเสลาภรณ์) เดินธุดงค์มาจากจังหวัดนครสวรรค์ และปักกลดพักที่วัดร้าง ชาวบ้านเห็นวัตรปฏิบัติอันเคร่งครัดของท่าน จึงได้นิมนต์ท่านอยู่จำพรรษา และพัฒนาวัดสร้างเสนาสนะเพิ่มขึ้น จนกลายเป็นวัดประจำอำเภอทองผาภูมิมาจนทุกวันนี้
หลวงปู่สาย อคฺควํโส ได้มรณภาพลงในปีพ.ศ. ๒๕๓๕ ทำให้เสนาสนะทั้งหลายได้ทรุดโทรมลง
จนถึงปีพ.ศ. ๒๕๔๕ พระราชธรรมโสภณ รักษาการเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ได้มีบัญชาให้ พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ มาพัฒนาวัดท่าขนุน ให้มีเสนาสนะที่สมบูรณ์ขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
๓. ลำดับเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน ​

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="80%" align=center border=0><TBODY><TR><TH scope=col align=left>๑. หลวงปู่พุก อุตฺตมปาโล (พ.ศ. ๒๔๗๓ - ๒๔๘๕)
๒. หลวงปู่ไตแนม (พ.ศ. ๒๔๘๕ - ๒๔๙๘)
๓. พระครูสุวรรณเสลาภรณ์ (พ.ศ. ๒๔๙๘ - ๒๕๓๕)
๔. พระอธิการสมเด็จ วราสโย (พ.ศ. ๒๕๓๕ - ๒๕๔๑)
๕. พระสมุห์สมพงษ์ เขมจิตฺโต (พ.ศ. ๒๕๔๑ - ๒๕๕๑)
๖. พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ (พ.ศ. ๒๕๕๑ - ปัจจุบัน)</TH></TR></TBODY></TABLE>

ดูเพิ่มเติมได้ที่

 

ช่วงนี้ดูเงียบๆกัน เลื้อยกลับลงรูกันไปหมดแล้วม้างง ก๊ากๆๆๆ

 

อนุโมทนาสาธุกับทุกท่านด้วยนะคะ

กลับมาแล้วจ้ะ แต่ช่วงนี้ใกล้สอบ ต้องจำศีลด่วน 55555555555

 

ก๊ากๆๆๆๆ เขาก็ไปจำศีลภาวนากันหมดนะสิจ๊ะ เข้าเฝ้าพระพุทธองค์ ช่วงเข้าพรรษาใครเขาจะออกมาเลื้อยบ่อยๆละจ๊ะ

 

วันนี้ไปบ้านนนทธรรม สำนักอาจารย์ไก่ เว็บคนเมืองบัวมาครับ ปีติ ปีติ แท้ๆ ใครสนใจเชิญไปฝึกมโนมยิทธิด้วยกัน ทุกวันศุกร์เสาร์อาทิตย์ที่ 2 ของเดือน เช่น เดือนนี้ก็มีเมื่อวาน วันนี้ และวันพรุ่ง ส่วนเดือนสิงหาคมก็ 7-8-9 อ่าครับ ดีจริงๆนะครับ ไม่ได้โม้

 

เลื้อยลงเมืองบาดาลนะครับไม่ใช่รูครับ....ขอขอบคุณเรื่องประวัติวัดท่าขนุนด้วยนะครับ

 

ช่วงนี้พรแปลงร่างเป็นอ้ายโม่ง ก้มหน้าก้มตาดำนาอยู่กลางทุ่งโน่น ไม่ค่อยได้มานี่หรอก
ก็ว่าจะมาโหลดภาพในวันแห่เทียนเข้าพรรษาให้ได้ชมกัน ที่เห็นกลุ่มแม่บ้านเค้าสวมใส่กัน
คือชุดพื้นเมืองของชาวภูไทค่ะ ในส่วนของสาวๆชาวราชการจะแต่งชุดพื้นเมืองแบบประยุกต์
อ.เขาวงเป็นแหล่งที่ทอผ้าห่มกันอย่างแพร่หลาย ผ้าทออย่างที่เรียกกันว่าผ้าสี่เขา ผ้าหกเขา
ที่นี่มีหูก,กี่ทอผ้าแทบจะทุกหลังคาเรือน พอว่างเว้นจากการทำนา แม่บ้านก็จะทอผ้าเอาไว้ใช้เองบ้าง
เอาไปถวายร่วมกองบุญตามงานต่างๆบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็จะทอขาย วันนึงทอได้ 2-3 ผืน บางคนก็ทอได้มาก
สร้างรายได้ให้แก่ครอบครัว เป็นสินค้าส่งออกที่ขึ้นชื่อของจังหวัดกาฬสินธุ์ แล้วข้าวของที่นี่ก็ทั้งนุ่ม ทั้งหอม
รับประทานอร่อยกว่าข้าวของที่อื่น ( เคยไปกินข้าวที่บ้านญาติที่ต่างจังหวัด ข้าวแข็งแทงปาก กินไม่อร่อย )
ภาคอีสานมีอะไรดีๆหลายอย่างที่น่าเที่ยวชม โดยเฉพาะริมฝั่งแม่น้ำโขง... นครพนม...
แหล่งพลังแหล่งใหญ่ของชาวนาคา ถ้าเคยได้เข้าไปเยี่ยมชมที่ห้องประทับนาคาก็จะรู้ พลังแรงจริงๆ