รวม สุดยอดวัตถุมงคล

รายการที่ 3878 : พระปิดตาพิมพ์เขียด กรุวัดท้ายย่าน เมืองชัยนาท อายุกว่า 600 ปี
นิยม และหายาก

รับประกัน
ราคา 3,500 บาท




บทความจากพระร่วงนั่ง กรุคอกควาย จาก saranugrompra.com
---พระปิดตาท้ายย่าน มีการพบที่กรุวัดท้ายย่าน อันเป็นวัดร้างเก่แก่มานานซึ่งที่กรุนี้นอกจากจะมีการพบพระปิดตาแล้ว ก็ยังมีพระปางลีลาเมืองสรรค์ และพระสรรค์นั่งอีกหลายพิมพ์ด้วย พระเครื่องที่พบจากกรุเดียวกันนี้ หากเป็นพิมพ์อื่นจะเป็นเนื้อดินกับเนื้อชิน แต่เนื้อดินจะมีมากกว่า ส่วนพระปิดตาจะเป็นเนื้อแร่พลวง ซึ่งที่ว่าเป็นแร่พลวงนี้ ก็หาใช่ว่าจะเป็นเนื้อแร่พลวงเพียงชนิดเดียวไม่ แต่เป็นเนื้อแร่พลวงที่ผสมกับแร่ธาตุ และโลหะชนิดอื่นๆ อีก ซึ่งจากการที่เนื้อโลหะหนักไปทางแร่พลวง และมีการผสมกับเนื้อแร่และโลหะธาตุอย่างอื่นนี้ จึงทำให้พระปิดตาท้ายย่านจะมีเอกลักษณ์ ตรงที่เนื้อโลหะจะมีลักษณะย่นๆ แบบหนังช้าง มีความเปราะ หากตกลงพื้นหรือได้รับการกระทบกระแทกแรงๆ เป็นแตกกระเทาะเสียหายแน่ นอกจากเนื้อแร่พลวงแล้ว พระปิดตาท้ายย่านยังมีการพบแบบที่เป็นเนื้อสัมฤทธิ์อีกด้วย

---พระปิดตาท้ายย่าน ก็คงเป็นปริศนาเกี่ยวกับผู้สร้างมาช้านานจนบัดนี้ ใครสร้างกันแน่? แต่ที่แน่ๆ ผู้สร้างจะต้องเป็นผู้ที่ทรงภูมิทางพุทธคมสูงเป็นเลิศ และยังสันนิษฐานกันได้อีกว่า เมื่อสร้างจะเสร็จแล้ว ก็ได้แจกจ่ายแก่ทหารหรือชาวบ้านไว้คุ้มครองอันตราย และส่วนหนึ่งที่เหลือจึงได้นำลงบรรจุกรุเอาไว้ เพราะว่าในหมู่บรรดานักเลงพระยุคก่อนๆ ต่างรู้จัก และเล่นหาพระปิดตาท้ายย่านมานานแล้ว เล่นหาคู่กันมากับพระปิดตาพิชัยดาบหักกันเลย ซ้ำเล่นหากันกว้างขวางมาก่อน พระปิดตาวัดทอง กับพระปิดตาแร่บางไผ่เสียอีก เมื่อก่อนพระปิดตาวัดทอง กับพระปิดตาแร่บางไผ่ เล่นหากันเฉพาะในเขต กทม. และนนทบุรี เท่านั้น แต่ถ้าเป็นพระปิดตาท้ายย่านแล้ว เล่นหากันกว้างขวางไปทั่วอีกหลายๆ เมือง ยิ่งสมัยก่อนพวก นักเลงพระเขานิยมเล่นหาพระกรุกันมากกว่าพระเกจิอาจารย์แล้วด้วย พระปิดตาที่แพงเป็นเรือนแสนเดี๋ยวนี้ยังสู้พระปิดตาท้ายย่านไม่ได้เลยแต่อย่างว่าแหละครับ ยุคสมัยและค่านิยมมันกลับผลัดเปลี่ยนกันได้
ในเรื่องพิมพ์พระปิดตาท้ายย่าน มีการพบ 3 พิมพ์ ด้วยกัน คือ พิมพ์จีโบ พิมพ์กบ และพิมพ์เขียด โดยมีการตั้งชื่อตามลักษณะของพระ อย่างพิมพ์จีโบ พระเศียรมีลักษณะเหมือนกับสวมหมวกจีโบ พิมพ์กบ พระเศียรมีลักษณะป้านๆ ตลอดจนองค์พระเหมือนกบ ส่วนพิมพ์เขียด พระเศียรมีลักษณะแหลม ตลอดจนองค์พระมีลักษณะเหมือนเขียด

---เรื่องพุทธคุณของพระปิดตาท้ายย่านเป็นที่ยอมรับกันว่า เป็นพระเครื่องที่มีพุทธคุณเด่นชัดทางคงกระพัน และมหาอุดอีกสำนักหนึ่ง ใครมีห้อยติดตัวแล้ว สามารถเชื่อมั่นในพุทธคุณได้แน่นอน

 

รายการที่ 3879 : พระชัยอยุธยา (พระงั่งอยุธยา) เนื้อสัมฤทธิ์ ลงรัก ชาด ปิดทองเก่า อุดดินไทยเดิมๆ
รับประกัน
ราคา 5,500 บาท

ผิวคือเหล็กมีฤทธิ์ โลหะบางประดุจเปลือกไข่ เนื้อในคือรูปปั้นดินอาถรรพ์ เลอค่ามากมนต์ขลังสมเป็นเครื่องรางในตำนาน อายุเก่าแก่ไม่ต่ำกว่า 300 ปี ควรค่าแก่การอนุรักษ์และบูชาอย่างยิ่ง

 

รายการที่ 3880 : พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ไกเซอร์ ฐานสิงห์ เนื้อหยาบ มวลสารเยอะ ทั้ง แร่ เปลือกหอย เศษพระซุ้มกอ ฯลฯ เก่าจัด ยุบ ย่น ที่สร้างเลียนแบบธรรมชาติ กาลเวลาไม่ได้
ชมภาพ

รับประกันความเก่า
ราคา 8,000 บาท

 

รายการที่ 3881 : รูปหล่อโบราณ หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน พิมพ์ขี้ตา ห้าชาย
ตามภาพ

รับประกัน
ราคา 65,000 บาท

 

รายการสินค้า 3882 : สมเด็จหลังรูปเหมือน รุ่น 2 ยันต์โค้งเป็นพระที่ หลวงพ่อท่านกดมือในช่วงท้ายๆ สร้างประมาณในยุคปี 16-18 เป็นพิมพ์ที่น่าคล้องมาก ท่านผสมมวลสารมากมาย อาทิ พลอยเสก เกศา ด้านหน้าเป็นพิมพ์ สมเด็จ ด้านหลังเป็นรูปเหมือนหลวงพ่อ
เป็นพระอีกพิมพ์ที่ประสบการณ์สูงมากๆครับ

รับประกัน
ราคา 12,500 บาท

 

รายการที่ 3883 : พระผงน้ำมัน วัดพระพุทธบาทสระบุรี ปี 2521 หลวงพ่อกวย ร่วมพิธีปลุกเสก

รับประกัน
มี 3 องค์ 3 พิมพ์
ราคาองค์ละ 1,500 บาท

 

รายการที่ 3884 : พระสมเด็จปิลันทน์ พิมพ์จิ๋ว วัดระฆ้ง คราบไขเดิมๆ
พระปิลันทน์ จากวัดระฆังนี้สร้างโดย หม่อมเจ้าสมเด็จพระพุฒาจารย์ ( ทัด เสนีวงศ์) ในสมัยที่ท่านดำรงสมณศักดิ์ที่ พระพุทธุปบาทปิลันทน์ เป็นพระเนื้อผงใบลานเผาส่วนใหญ่ ที่สร้างเป็นผงเนื้อขาวเหมือนสมเด็จวัดระฆัง ก็มี แต่มีจำนวนน้อยมาก วรรณะของพระปิลันทน์ที่สร้างจากผงผสมใบลานเผาจึงออกสีเทาอมดำ หรือเขียวอมดำ ปรากฏคราบกรุลักษณะไขขาวเกาะตามพื้นผิว และพระที่พบส่วนมากจะลงกรุ แต่ก็มีอีกจำนวนหนึ่งไม่ได้ลงกรุ

หม่อมเจ้าสมเด็จพระพุฒาจารย์ ( ทัด เสนีวงศ์) ท่านทรงเป็นศิษย์ใกล้ชิดของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) สันนิษฐานว่าทรงสร้างพระสมเด็จปิลันทน์ ขึ้นมา เมื่อ พ.ศ.2407 ซึ่งในช่วงนั้นสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ได้ชราภาพมากแล้ว

พระเครื่องสองสมเด็จ เป็นอีกชื่อเรียกหนึ่งของพระปิลันทน์ เพราะสันนิษฐานกันว่า หม่อมเจ้าพระพุทธุปบาทปิลันทน์(สมณศักดิ์ขณะนั้น) ได้อาราธนาให้เจ้าประคุณสมเด็จฯ ร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสกและขอผงวิเศษของเจ้าประคุณสมเด็จฯ มาเป็นมวลสารหลักด้วย

พิมพ์พระเครื่องของพระปิลันทน์ มีจำนวนมาก ที่จำแนกพิมพ์ออกมาคือ

พระพิมพ์ปิดตาเป็นอีกพิมพ์ที่หาชมได้ยาก
พระพิมพ์ซุ้มประตู
พระพิมพ์ครอบแก้วใหญ่
พระพิมพ์ครอบแก้วเล็ก
พระพิมพ์เปลวเพลิงใหญ่
พระพิมพ์เปลวเพลิงกลาง
พระพิมพ์เปลวเพลิงเล็ก
พระพิมพ์สี่เหลี่ยมปรกโพธิ์ใหญ่-กลาง-เล็ก
พระพิมพ์ปฐมเทศนา
พระพิมพ์โมคคัลลาน์ – สารีบุตรและ พระปิลันทน์จิ๋ว เป็นต้น
ด้านพุทธคุณนั้นเน้นเมตตามหานิยมและ แคล้วคลาด คงกระพัน

พระปิลันทน์เริ่มแตกกรุครั้งแรกจากพระเจดีย์องค์หนึ่ง โดยคนร้ายได้ลักลอบขุดเจาะพระเจดีย์ที่อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของพระอุโบสถวัดระฆังฯ เมื่อปี 2471 เมื่อกรุแตกมีคนนำพระไปให้พระธรรมถาวรพิจารณา ท่านจำได้ว่าเป็นพระของหม่อมเจ้าสมเด็จพระพุฒาจารย์ ( ทัด เสนีวงศ์) ได้สร้างไว้สมัยยังดำรงตำแหน่ง พระพุทธุปบาทปิลันทน์ หลังจากนั้นทางวัดจึงได้เปิดกรุ และนำพระสมเด็จปิลันทน์บางส่วนมอบให้กระทรวงกลาโหมเพื่อแจกจ่ายให้กับทหารที่ออกรบในศึกอินโดจีนในช่วงนั้น

ด้านพุทธคุณเชื่อว่า เฉกเช่นเดียวกันกับ "พระสมเด็จวัดระฆัง" ของ "เจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์โต" ซึ่งมีพุทธคุณดีครบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี เมตตามหานิยม และโภคทรัพย์ดีเยี่ยมที่สุด

มี 3 องค์
รับประกัน
ราคา องค?ละ 6,500 บาท

องค์ที่ 1

องค์ที่ 2


องค์ที่ 3

 

รายการที่ 3885 : พระลีลาเชยคางข้างเม็ด เนือชิน กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ สุพรรณบุรี กรุเดียวกับพระมเหศวร
สวย สมบูรณ์ พร้อมกรอบโบราณ

ไม่หัก ไม่ซ่อม ด้านบนเป็นรอยรานเดิม

รับประกัน
ราคา 7,500 บาท

 

รายการที่ 3886 : พระสมเด็จรัศมี หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก รุ่นแรก ปี 2484
สภาพสวย

รับประกัน
ราคา 12,000 บาท

 

รายการที่ 3887 : เหรียญพระพุทธชินราช หลังหนังสือสามแถว เนื้อทองแดง ห่วงเชื่อม ปี2460 สภาพใช้สึก แต่ยังเห็นรายละเอียดพอสมควร

เหรียญพระพุทธชินราช หลังหนังสือสามแถว เนื้อทองแดง ปี2460 พุทธคุณ เป็นเลิศในด้านคงกระพันชาตรี แคล้วคลาดและเมตตามหานิยม เหรียญพระพุทธชินราช ปี2460 นับเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมกันมากในแวดวงนักนิยมสะสมเหรียญพระพุทธและ เหรียญคณาจารย์ ลักษณะเป็นเหรียญรูปไข่ หูเชื่อม พุทธพิมพ์ด้านหน้าเป็นองค์พระพุทธชินราช ประทับนั่งบนบัลลังก์บัวคว่ำหัวหงาย จารึกอักษร “พระพุทธ ชินราช” ขนาบ 2 ข้าง ส่วนด้านใต้บัลลังก์มีจารึกอักษร “ น ภ จ ก” สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นร้านที่ดำเนินการสร้างเพราะชื่อร้านคล้องจองกันคือ “ร้าน นาภา จารอุปกรณ์” พุทธพิมพ์ด้านหลังมีอักษรไทยจารึกแบ่งวรรคเรียงเป็น 3 บรรทัดว่า “ที่ระฤกที่ได้มา นมัสการ ณ เมือง พิศณุโลก จึงนำมาขนานพระนามองค์พระว่า “เหรียญพระพุทธชินราช หลังหนังสือ3 แถวปี 2460" เหรียญพระพุทธชินราช พ.ศ. 2460 พิมพ์หลังหนังสือ 3 แถว จัดสร้างเมื่อคราวสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 เสด็จมากราบนมัสการพระพุทธชินราชที่พิษณุโลกราว พ.ศ. 2458 แต่จัดสร้างแล้วเสร็จและออกให้ประชาชนบูชาในปีพ.ศ.2460 สำหรับพระเกจิอาจารย์ที่เข้าพิธีปลุกเสกอย่างเข้มขลังนั้นคือ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ฯลฯ

รับประกัน
เหรียญยอดนิยม
ราคา 22,000 บาท
เหรียญสวยหลักแสน

 

รายการที่ 3888 : พระนางพญาเนื้อเขียว กรุนครไทยพิษณุโลกอายุกว่า 800 ปี เนื้อเขียว คราบไขกรุธรรมชาติ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดค้ำดวง หนุนดวง นิยมชมชอบ
พระนางพญาพิฆาตสลากกินแบ่ง (นางพญาเขียว กรุนครไทย) เรียกเงินเรียกทองขั้นสูง เล่นหุ้น ประมูลงาน รับเหมาก่อสร้าง ขายประกัน มหาอำนาจ เสริมความรัก เรียกเนื้อคู่ เลื่อนขั้น เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง สอบแข่งขัน ชิงทุนการศึกษา ผู้มีปัญหาทางการเงินทุกประเภท มีไว้ติดต่อธุรกิจค้าขายหมื่นล้าน ผู้ที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศ บูชาแล้วดีมากๆๆๆ

“พระนางพญาพิฆาตสลากกินแบ่ง” หรือ “พระนางพญาเขียว” (กรุนครไทย) นี้ อายุเก่าแก่มาก แต่ไม่ทราบว่าผู้ใดสร้างแน่นอน แต่สันนิษฐานว่า “พ่อขุนบางกลางท่าว” และ “พ่อขุนนาวนำถม” เจ้าเมืองบางยาง (ปัจจุบันคือ อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก) เป็นผู้สร้างบรรจุไว้ ณ. ที่นี่ โดยเมืองบางยางมีอายุราวประมาณ 800 ปี พระนางพญาเขียวก็คงน่าจะมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับเมืองบางยางสมัยนั้นเช่นกัน
“พระนางพญาเขียว” กรุนครไทย นี้ เอกลักษณ์ของพระกรุนี้คือ เนื้อขององค์พระมีลักษณะพิเศษ คือ เนื้อขององค์พระจะมี “สีเขียว”ทุกองค์ละสวยงามมาก แต่ละองค์จะมีคราบกรุเป็น “ดินลูกรังแดง”เกาะแน่นรอบองค์พระ
ตามประวัติ“พระนางพญาเขียว” (กรุนครไทย) เคยแตกกรุในสมัยรัชกาลที่ 5 มาครั้งหนึ่งแล้ว โดยรัชกาลที่ 5 ได้เสด็จประพาสมาที่ อ.นครไทย ซึ่งได้มีคนนำเอา “พระนางพญาเขียว” (กรุนครไทย) ที่แตกกรุนี้ นำออกมาถวายแก่รัชกาลที่5 ท่านจึงได้แจกจ่ายให้กับข้าราชบริพาร และประชาชนที่มารับเสด็จในครั้งนั้น ส่วนที่เหลือ ก็ได้นำ“พระนางพญาเขียว” (กรุนครไทย)บรรจุกรุไว้ตามเดิม และ“พระนางพญาเขียว” (กรุนครไทย) ก็ได้แตกกรุอีกเมื่อประมาณปี 2535 (บ้างก็ว่าแตกกรุปี 2539)
เมื่อแตกกรุประมาณปี2535 (บ้างก็ว่าแตกกรุปี 2539)ชาวบ้านผู้ที่ไปค้นพบจึงได้นำมาถวายแก่วัดที่อยู่ใกล้บริเวณที่แตกกรุ และได้นำเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์พระกรุนี้จึงไม่ปรากฏ ณ. ที่อื่น

รับประกัน
ราคา 5,500 บาท

 

รายการที่ 3889 : พระสมเด็จรูปเหมือนหลังเรียบ หลวงพ่อกวยยุคต้น มีจาร

รับประกัน
ราคา 4,500 บาท

 

รายการที่ 3890 : พระปิดตา ผสมเนื้อชนวนหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ เนื้อตะกั่ว ออกที่วัดโบสถ์ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ปี 2502

รับประกัน
ราคา 2,500 บาท

พระปิดตาเป็นพิมพ์เดียวกับพระปิดตาหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ เนื้อตะกั่ว ออกที่วัดโบสถ์ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ปี 2502 เนื้อตะกั่วเก่าจริง ใช้แทนตะกั่วของหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ได้เลย เพราะมีการนำออกไปแจกที่วัดเครือวัลย์ด้วย ด้านหลังองค์พระมีจารยันต์พุทโธ โดย พระครูปลัดผัน วัดโบสถ์ ซึ่งจารเหมือนกับที่ไปออกวัดเครือวัลย์ ขนาดองค์พระ สูง 1.8 - 1.9 ซม. กว้าง 1.55 - 1.6 ซม.
หลวงพ่อที่ร่วมปลุกเศก
1. พระครูศรี วัดพลับ
2.หลวงพ่อปี่ วัดโคกท่าเจริญ
3. อาจารย์โสม วัดโคกมระ
4.หลวงปู่แร่ วัดเซิดสำราญ
5. หลวงพ่อเหมือน วัดบ้านกลาง
6.หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส
7. หลวงปู่นาค วัดระฆัง
8.หลวงพ่อโด่ วัดนามะตูม
9. หลวงพ่อแดง วัดทุ่งคอก
10.หลวงพ่อหอม วัดชากหมาก
11. อาจารย์หยิบ เจ้าอาวาสวัดโบสถ์
12. หลวงพ่อชิน เพชรบุรี
13. หลวงพ่ออ้น วัดบางจาก ฯลฯ

 

รายการที่ 3891 : พระอู่ทองท้องช้าง เนื้ออดิน กรุทุ่งเศรษฐี กำแพงเพชร มีแร่ดอกมะขาม

รับประกัน
ราคา 2,000 บาท

 

รายการที่ 3892 : พระปรกใบมะขาม หลวงพ่อโอภาสี รุ่นแรก เนื้อชิน ปี 2497 อาศรมบางมด กทม. นับเป็นปรกรุ่นแรกและรุ่นเดียวที่ทันหลวงพ่อ

รับประกัน
มี 2 องค์
ราคา องค์ละ 1,750 บาท

 

รายการที่ 3893 : รูปหล่อลอยองค์-ฐานยันต์นูน ปีพ.ศ. 2497 พิมพ์คอยาว หลวงพ่อเตียง เนกฺขมฺโม (พระครูพิพัฒน์ธรรมคุณ)
วัดเขาลูกช้าง พิจิตร

รับประกัน
ราคา 12,000 บาท

พระครูพิพัฒน์ธรรมคุณหรือหลวงพ่อเตียง วัดเขาลูกช้างอดีตพระคณาจารย์ชื่อดังของเมืองพิจิตร ท่านเป็นศิษย์สายหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน โดยสืบทอดพุทธาคมมาจาก หลวงพ่อพิธ วัดฆะมัง วัตถุมงคลที่โดดเด่นเป็นที่รู้จักคือตะกรุด, เหรียญรุ่นแรก รวมทั้งรูปหล่อรุ่นแรก ที่ปัจจุบันเริ่มหายาก

หลวงพ่อเตียงเกิดเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์พ.ศ. 2444 ตรงกับวันพฤหัสบดีขึ้น 13 ค่ำเดือน 3 ปีฉลูที่บ้านดงกลางตำบลดงปาคำอำเภอเมืองจังหวัดพิจิตร ท่านได้เข้าอุปสมบทเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์พ.ศ. 2466 ณพัทธสีมา วัดดงกลางโดยมี
• พระครูศิลธรารักษ์ (ยิ้ม ทัดเที่ยง) เจ้าอาวาสวัดท่าหลวงและเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร เป็นพระอุปัชฌาย์
• เจ้าอธิการปุ่น เป็นพระกรรมวาจาจารย์
• พระปลัดเป้า เป็นพระอนุสาวนาจารย์

เคยไปเรียนแพทย์แผนโบราณกับหมอแก้วท่าบัวทองที่อำเภอโพธิ์ประทับช้าง ส่วนด้านพุทธาคมไสยเวทย์เบื้องต้นได้ศึกษาจากเจ้าอธิการปุ่นซึ่งเป็นพระกรรมวาจาจารย์ของท่าน หลังจากนั้นได้ไปศึกษาวิปัสสนากัมมัฏฐานจากหลวงพ่อพิธ วัดฆะมัง รวมถึงพุทธาคมไสยเวทย์และสรรพศาสตร์ต่างๆ จนมีความชำนาญ และเชี่ยวชาญสามารถนำมาใช้และปฏิบัติได้เข้มขลัง

ตลอดเวลาในสมณเพศท่านเป็นผู้ยึดมั่นเคร่งครัดพระธรรมวินัย อบรมสั่งสอนพุทธบริษัทให้ยึดมั่นในพระรัตนตรัย สงเคราะห์ช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก และเอาใจใส่ในการพระศาสนา ต่อมาได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ที่พระครูพิพัฒน์ธรรมคุณ เมื่อย่างเข้าสู่วัยชราบั้นปลายของชีวิตท่านเริ่มอาพาธด้วยโรคาพยาธิต่างๆ จนเมื่อวันที่ 12 มีนาคมพ.ศ. 2520 เวลา 09.20 น. ท่านได้ถึงแก่มรณภาพ รวมสิริอายุ 76 ปี 53 พรรษา

-------------------------------------------

วัตถุมงคลของท่านมีหลายชนิด แต่ที่ได้รับความนิยมรู้จักแพร่หลายคือ ตะกรุด ซึ่งตะกรุดของท่านนั้น ตัวอั่วหรือหลอดด้านในจะเป็นอั่วทองแดง นอกจากตะกรุดเนื้อตะกั่วแล้วยังมีชนิดม้วนรวมกันสามชั้นคือ ตะกั่ว,ทองเหลือง และทองแดง หากมีการถักเชือก ลักษณะการถักคล้ายกับของ หลวงพ่อพิธ วัดระฆัง มีทั้งลงรักและไม่ลงรัก รวมถึงการไม่ถักเชือกอานุภาพในตะกรุดของท่านเด่นทางการคงกระพันชาตรี

รูปหล่อลอยองค์รุ่นแรก จัดสร้างในปีพ.ศ. 2497 โดยสามารถแบ่งได้เป็นสองพิมพ์คือ
1. พิมพ์คอยาว
2. พิมพ์คอสั้น

รูปลักษณะเป็นลอยองค์ฐานเขียง นั่งขัดสมาธิเพชร ปล่อยสังฆาฏิยาว-ไม่รัดประคด มีขมวดเกลียวปลายสบงเข้าข้างซ้ายมือขององค์พระ มีความแตกต่างกันระหว่างสองพิมพ์อยู่ที่ ลักษณะของลำคอ และริ้วจีวรด้านซ้ายมือขององค์พระ ในพิมพ์คอยาว มักพบเนื้อเกินที่ปลายสังฆาฏิด้านหลังองค์พระ

ที่ใต้ฐานพระเป็นการหล่อยันต์แบบนูน มีทั้งแบบติดคมชัด และปรากฏเป็นแค่เส้นสาย ตามธรรมชาติของการหล่อแบบโบราณ แต่นับได้ว่าเป็นการหล่อแบบมืออาชีพอีกพิมพ์หนี่ง

(ขอขอบคุณ แหล่งข้อมูลต่าง ๆ และขออนุญาติเผยแพร่เกียรติคุณของครูบาอาจารย์ ด้วยความเคารพ)

 

รายการที่ 3894 : พระสมเด็จ3ชั้นพิมพ์ประประฐาน หลวงพ่อสุพจน์ วัดสุทัศน์ ปี 2485 ยุคต้น
หลวงพ่อสุพจน์ วัดสุทัศน์ฯ ท่านเป็นพระลูกวัดของวัดสุทัศน์ฯ ในยุคพระสังฆราชแพ และพระครูลมูล อีกทั้งท่านยังสนิทสนมกันมากกับ หลวงปู่นาควัดระฆังฯ ได้รับชิ้นส่วนแตกหักของสมเด็จวัดระฆังโดยตรงจากหลวงปู่นาคอีกด้วย ท่านเก็บสะสมพระแตกหักต่างๆ ที่คนเอามาทิ้งไว้ที่วัด นำมาบดละเอียดเป็นมวลสารในการสร้างพระขึ้นมาสืบต่อศาสนา โดยแจกให้กับลูกศิษย์ลูกหาของท่าน บางส่วนได้หลงเหลืออยู่ที่วัดสุทัศน์ (ในสมัยโน้น) หลวงพ่อสุพจน์ท่านเป็นพระเกจิที่สันโดษมาก ทำให้คนรู้จักจักกันน้อย
หนังสือบางเล่มลงว่า #พระผงของหลวงพ่อสุพจน์เป็นเนื้อสมเด็จวัดระฆังล้วน

สมัยก่อนพระชำรุดแตกหัก คนจะนำไปถวายไว้ที่วัด หลักการเดียวกันกับวิธีการสร้างพระของพระครูลมูล สันนิษฐานว่าหลวงพ่อสุพจน์เองคงมีวิชาไม่น้อย เพราะได้อยู่ที่วัดสุทัศน์ฯ ได้ร่วมพิธีการสร้างพระกริ่งต่างๆ มากมาย พระของท่านน่าจะได้เข้าร่วมในพิธีปลุกเสกพระกริ่งรุ่นต่างๆ ของทางสายวัดสุทัศน์ฯ ด้วย

พระสมเด็จชุดนี้จัดสร้างโดย หลวงพ่อสุพจน์ หรือที่วงการพระเครื่องรู้จัก คือ "พระครูพุทธมนต์วราจารย์" หรือสมณศักดิ์สุดท้ายก่อนที่จะละสังขารคือ "พระมงคลเทพโมลี"ท่านเป็นพระแบบว่าเก่งเงียบ ท่านมีวิชาลบผงสร้างผงจากตำราโบราณของวัดสุทัศน์ฯ (ตำราโบราณของพระครูลมูล วัดสุทัศน์ฯ) เป็นสหายธรรมกับหลวงปู่นาค และหลวงปู่หิน วัดระฆังฯ จึงได้รับมอบผงสมเด็จวัดระฆังที่แตกหักเป็นจำนวนมาก
ท่านเป็นหนึ่งในเกจิที่ร่วมปลุกเสกพระยี่สิบห้าพุทธศตวรรษ และ งานพุทธาภิเษกใหญ่ๆ เช่น พิธีวัดประสาทฯ ปี ๒๕๐๖ พิธีปลุกเสกพระประจำจังหวัดชลบุรี ปี ๒๕๐๙ ที่วัดป่าชลบุรี ก็มีชื่อของท่านในทำเนียบพระเกจิอาจารย์ที่ได้รับการนิมนต์มาร่วมพิธีปลุกเสกด้วย สมเด็จพิมพ์นี้สร้างที่วัดสุทัศน์ฯ เมื่อปี ๒๔๘๔ (พิธีอินโดจีน) โดยลูกศิษย์ของท่านนำพระสมเด็จวัดระฆังที่แตกหักจำนวนมาก และไม่ได้มีใครสนใจมาถวายท่าน ท่านจึงนำพระเหล่านั้นมาบดเป็นผงละเอียด และได้แกะพิมพ์ขึ้นมาใหม่ เช่น พระสมเด็จ พิมพ์วัดระฆัง พระสมเด็จ พิมพ์วัดบางขุนพรหม พระสมเด็จ พิมพ์วัดเกษไชโย วัดเงินคลองเตย วัดพลับ วัดสามปลื้ม วัดโพธิ์ ขุนแผนบ้านกร่าง หลวงพ่อโต บางกระทิง พระลีลาเปิดโลก และพิมพ์ต่างๆ อีกมาก ด้านหลัง มีทั้งปั๊มยันต์พุทซ้อน และยันต์ตรีฯ ที่หลังเรียบก็มี พร้อมได้กราบเรียนสมเด็จพระสังฆราชแพ เพื่อขออนุญาตนำพระเข้าปลุกเสกในพิธีนั้นพร้อมๆ กับวัตถุมงคลต่างๆ หลังจากนั้นจึงได้มอบให้แก่ลูกศิษย์ตลอดจนทหาร ตำรวจ และข้าราชการต่างๆ ที่ต้องไปราชการสงครามในสมัยนั้นเพื่อเป็นสิริมงคล ปรากฎว่า "ประสบการณ์ดีเยี่ยม" พอข่าวนี้แพร่ออกไปปรากฏว่ามีประชาชนต่างมาทยอยขอพระสมเด็จจากท่านจำนวนมาก ซึ่งท่านก็มอบให้ด้วยความเต็มใจจนหมด (ที่เหลือตกค้าง ท่านไม่แจก เพราะเห็นว่าพิมพ์ไม่สวย) จึงเรียกได้ว่าพระชุดนี้ "ดีนอก ดีใน" จริงๆครับ

สภาพสวยสมบูรณ์ คราบแป้งเดิมๆ
รับประกัน
ราคา 1,500 บาท

 

รายการที่ 3895 : พระปิดตายุคต้น หลวงปู่ฝั้น อาจาโร ปี 2495 ออกวัดป่าภูธรพิทักษ์ เนื้อตะกั่วผสมปรอท หายาก

รับประกัน
ราคา 1,650 บาท

 

รายการที่ 3896 : เหรียญรุ่น2 หลวงปู่ศุขวัดปากคลองมะขามเฒ่าปี2467 เนื้อทองแดง ไม่มีห่วง
เหรียญรุ่นนี้จัดสร้างปี พ.ศ.2467 จัดสร้างทั้งหมด3000องค์ (หลังหลวงปู่ศุขมรณะภาพ1ปี) จัดสร้างโดยหลวงพ่อปลื้มเจ้าอาวาสวัดปากคลองมะขามเฒ่าพิธีปรุกเสกใหญ่มาก เหรียญหายาก

รับประกัน
ราคา 8,000 บาท

 

รายการที่ 3897 : พระสมเด็จผงคะแนน หลังประจำวันหลวงพ่อพรหมวัดช่องแค ปี 2512
(ชุดผงเก่าวัดชนะสงคราม2491)

รับประกัน
ราคา 1,450 บาท

ปลุกเสกโดยยอดเกจิยุคอินโดจีนในปี2495 และยังปลุกเสกซ้ำโดยหลวงพ่อพรหมวัดช่องแคซ้ำอีก จึงถือได้ว่าครบทุกด้านจริงๆ
พระเครื่องของวัดชนะสงคราม ที่จะกล่าวถึงนี้ ได้จัดสร้างขึ้นในปี พ.ศ.2491 โดยท่านพระครูอุดมชัย (ทองม้วน ป.ธ.5) ได้ขอผงต่างๆ จากคณาจารย์ที่ทรงวิทยาคุณชื่อดังทั่วประเทศ ผงอันเป็นส่วนหักป่นของกรุต่างๆ และดอกไม้นานาชนิด ที่หน้าโต๊ะหมู่บูชาพระประธานในพระอุโบสถ รวมทั้งผงและส่วนหักป่นกรุวัดชนะสงคราม (วังหน้า) ที่ได้สะสมไว้
ส่วนน้ำซึ่งเป็นส่วนผสมการพิมพ์พระก็ใช้เฉพาะน้ำพระพุทธมนต์ ซึ่งเราถือกันว่าเป็นน้ำมนต์ร้อยปี อยู่ในพระอุโบสถตรงหน้าองค์พระประธาน รวมทั้งน้ำพระพุทธมนต์ในพระบรมมหาราชวัง และน้ำพระพุทธมนต์จากวัดต่างๆ นำมาคลุกเคล้ากับผงแล้วสร้างพระพิมพ์ชุดนี้ ครั้นสร้างเสร็จได้จัดพิธีพุทธภิเศกตลอดไตรมาส โดยได้อาราธนาพระอาจารย์ผู้เรืองวิทยาคุณเป็นที่เคารพนับถือของประชาชนในยุค นั้น จากภาคต่างๆ ทั่วประเทศรวม 108 รูป เช่น ลพ.จง ลป.โอภาสี ลพ.รุ่ง ลป.โต๊ะ ลพ.สด ลป.เผือก ลพ.พรหม วัดช่องแค ฯลฯ
สำหรับพระประจำวันนั้น เปิดไห้บูชาประมาณปีพ.ศ. 2510 กว่าๆ
และมีนายทหารที่เป็นลูกศิษย์นับถือหลวงพ่อพรหมมากท่านหนึ่งนำไปขอบารมีให้ ท่านปลุกเสกให้อีกครั้งเพื่อนำไปแจกกับผู้ที่นับถือใกล้ชิดกันไว้บูชา หลวงพ่อท่านก็เมตตาปลุกเสกให้ และนายทหารท่านนั้นได้นำตรายางของวัดปั๊มไว้เป็นสัญลักษณ์ เพื่อให้รู้ว่าพระชุดนี้หลวงพ่อพรหมได้เมตตาปลุกเสกให้แล้วเท่านั้น