รู้จากตำราความรู้เอาไปละกิเลสไม่ได้

ในห้อง 'ทุกข์และปัญหาชีวิต' ตั้งกระทู้โดย Muang99, 9 กรกฎาคม 2014.

  1. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,391
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,541
    คาถาคำอวยพรของสมเด็จองค์ปฐมสุดยอดที่สุด

    r1-15-jpg.72921.jpg

    จากบัตรที่ได้มากับพระประจำวันเกิดของหลวงพ่อสพฤกษ์ วัดบ่องทอง ต.สองสลึง อ.แกลง จ.ระยอง ซึ่งตั้งแต่ได้มาใช้บทนี้ได้ผลตลอด ศักดิ์สิทธิ์จริงๆ ใช้ได้ทุกเรื่องทุกเหตุการณ์ ท่องง่าย จำง่าย แต่ได้ผลสูงมาก เคยให้เพื่อนไปใช้ดูก็ได้ผลเหมือนกันเลยเอามาลงให้ใช้กันดูนะครับ

    พระทรงตรัสว่า "ให้ตั้งนะโมฯ 3 จบ แล้วกล่าวคำว่า 'พุทธโธ' 9 ครั้ง และจึงอธิษฐานตามใจปราถนา จะสัมฤทธิ์ผลทุกประการ เว้นแต่ว่ามีวิบากกรรมที่รุนแรง" นี่เป็นคำอวยพรของ สมเด็จองค์ปฐม พระนี้เป็นพระเป็น เป็นพระมีชีวิต เป็นของศักดิ์สิทธิ์ อันมหัศจรรย์ยิ่ง อุบัติขึ้นเป็นครั้งแรกในโลกของเรา จะมีอายุยืนยาวคู่กับศาสนาพุทธตลอด 5,000 ปี

    ...

    ประสบการณ์ของผู้นำไปปฏิบัติ (โพสต์ที่ #26 ของกระทู้ดังกล่าว)

    "ขออนุโมทนาค่ะ ดิฉันได้อ่านเจอะในลิ้งค์นี้ แล้วเอาไปปฏิบัติ พอดีลูกชายเจ็บหนัก โดนไวรัสเข้าทำหลายหัวใจ ต้องเปลี่ยนลิ้นหัวใจ แต่รอการผ่าตัดอยู่ ( รอคิว ...อยุ่ที่เมืองนอกเลยต้องเป็นไปตามระบบเขา ไม่เหมือนเมืองไทยอ่ะค่ะ ) เลยสวดพุทโธ แล้วว่า พุทโธ 9 ครั้ง ตามที่บอก แล้วตั้งจืตอธิฐษนขอชีวิตลูกชาย ขอให้ผ่าตัดได้อย่างปลอดภัย จากนั้นไม่นานรพ.เรียกตัวเลยค่ะ ผ่าตัดด่วน เปลี่ยนิล้นหัวใจ แต่ที่น่าแปลก ก่อนเข้าห้องผ่าตัด ลูกชายดิฉันบอกไว้ว่า ถ้าหายหรือฟื้น จะกลับเมืองไทยมาบวช ทันทีที่ได้ยิน ดิฉํนนึกออกเลย ต้องเป็นสมเด็จองค์ปฐมช่วย การผ่าตัดเป็นไปอย่างปลอดภัยค่ะ ตอนนี้เหมือนเด็กปกติทั่วๆไปแล้วค่ะ"

    ที่มา : http://palungjit.org/threads/คาถาคำอวยพรของสมเด็จองค์ปฐมสุดยอดที่สุดแล้ว.33686/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มีนาคม 2017
  2. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,391
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,541
    สูงสุดกลับคืนสู่สามัญ สามัญก็อาจไปอยู่สูงสุดได้

    ยศ ตำแหน่งนั้นไม่จีรัง ยิ่งสูง ยิ่งหนาว อาจโดดเดี่ยวและอ้างว้าง วันหนึ่งที่เคยอยู่สูงสุด เมื่อมองด้วยดวงตาที่เห็นจริง จะรู้ว่า คำว่า สูงสุด เขาก็ตั้งขึ้นมา อยู่ในระยะเวลาหนึ่ง วันใดที่ถอดยศ ถอดตำแหน่ง ดูแต่จิตตน จะเข้าใจหลายสิ่ง และเมื่อวันเวลาสุดท้าย สูงสุดก็คืนสู่สามัญ คืนสู่ดิน สิ่งที่จะติดตามดวงจิตไปยังภพต่อไปก็คือ บุญและกรรม

    คนสามัญ ก็สามารถก้าวสู่สูงสุดในด้านใดด้านหนึ่ง เช่น อาจรวยสุด, มีปัญญาเลิศสุดๆ, อำนาจวาสนาสุดๆ, ทรงอิทธิฤทธิ์-ทรงอภิญญาสุดๆ

    แต่การบรรลุธรรม น่าจะสุดๆ กว่าเพื่อน เพราะไม่ต้องมาเกิดอีกแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ตุลาคม 2016
  3. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,391
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,541
    มังกรมักซ่อนเร้น

    คนมีดีหลายคน ทำตนดั่งมังกร มักซ่อนเร้น

    อีกส่วน อยากแสดง เพราะยังหาดีดั่งใจ ไม่เจอ

    อีกส่วน อยากแสดง เพราะต้องการช่วยคน และมีดีพอ

    นักปฏิบัติบางคน ต้องหลีกเร้น ห่างไกลผู้คน ด้วยจุดมุ่งหมายในบางสิ่ง การทำงานด้วยจิต ไม่จำเป็นต้องข้องเกี่ยวกับผู้คน ปฏิบัติที่กายใจของตน ให้ดูตน การไปดูคนอื่น มีแต่พอกพูนกิเลส

    บางคน ดูยังไม่ลึกซึ้งทางธรรม รู้ธรรมงั้นๆ ชอบอวด ชอบก็อปปี้มาโพสต์ๆ ส่วนใหญ่เอาแต่ธรรมของคนอื่นมาโพสต์ ของตนเองยังหาแทบไม่เจอ ปฏิบัติไม่ค่อยได้ ธรรมที่รู้ด้วยตัวเองแทบไม่ค่อยมี แสดงธรรมก็ไม่ได้

    การเอาตนเองไปเบรคความร้อนแรงของคนอื่น ก็ไม่ดีนัก คนอื่นอาจไม่ชอบ แต่หากมองด้วยใจเป็นธรรม บางคนเขาก็จะรู้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นล้วนเป็นครู
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ตุลาคม 2016
  4. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,391
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,541
    ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา

    ทุกขัง : สิ่งที่เกิดขึ้น ล้วนมีความทุกข์ทนอยู่ในตนเอง ทนอยู่ในสภาพเดิมได้ยาก เช่น ขันธ์ 5 เป็นที่ตั้งของกองทุกข์

    อนิจจัง : สิ่งที่เกิดขึ้น ไม่จีรัง ไม่เที่ยง หรือไม่สามารถตั้งอยู่ในสภาวะเดิมได้ตลอด

    อนัตตา : ไม่มีตัวตนที่แท้จริง ซึ่งเกี่ยวเนื่องจากทุกขัง และอนัตตา

    กฎของพระไตรลักษณ์ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับบุคคลที่บำเพ็ญวิปัสสนา

    หลายคนมักจะพูดว่า เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป แต่หลักที่ใหญ่กว่าก็คือกฎของพระไตรลักษณ์ ซึ่งเป็นแนวทางการเจริญวิปัสสนา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2016
  5. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,391
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,541
    ประสบการณ์ถูกหวย

    1.เมื่อนานหลายปีมาแล้ว สมัยที่ยังพักอยู่ที่นนทบุรี ช่วงนั้นตกงาน เกือบจะไม่มีเงินจ่ายค่าห้อง และค้างจ่าย 1-2 เดือน ก็ตระเวนหาเลขเด็ด อ่านในหนังสือที่ซื้อมา เมื่อทราบสถานที่ ในเวลาที่เหมาะสม ก็ได้เดินทางไปที่วัด..กุญชร แถวเทเวศน์ ในศาลาตั้ง..ที่ยังไม่ได้เผา แต่ก่อนเป็นหญิงแม่ค้า ท่านชอบทำบุญ เมื่อละสังขาร ก็เก็บอยู่วัดดังกล่าว มีคนไปขอ ได้โชคกันหลายคน

    ผมไปครั้งแรก ก็จุดธูปขอ+การบนด้วย การเขย่าเซี่ยมซี ก็แปลกมาก เพราะอธิษฐานว่าหากออกจริง ให้การเขย่าทั้ง 3 รอบ ออกตรงกัน (ใน 1 รอบต้องเขย่า 3 ครั้ง เพราะขอเลขท้าย 3 ตัว รางวัลที่ 1) ที่ไปขอครั้งแรก ปรากฎว่าไม่ถูก

    ไปอีกครั้งหนึ่ง ก็จุดธูปขอ+การบน เหมือนแบบที่ไปขอครั้งแรก ให้การเขย่าทั้ง 3 รอบ ออกตรงกัน (ใน 1 รอบต้องเขย่า 3 ครั้ง เพราะขอเลขท้าย 3 ตัว รางวัลที่ 1) จดเลข แล้วก็ซื้อในวันหวยใกล้ออก ปรากฎงวดนั้นออกจริงๆ ด้วย แต่ซื้อตรงแค่ 10 บาท ได้มาประมาณ 4000 บาท ก็ดีใจมาก ได้ไปแก้บนด้วยการถวายสังฆทานอุทิศบุญให้ท่าน

    ช่วงหลังผมมาสังเกต การอยู่ที่เดิมๆ บางแห่งอาจไม่ค่อยมีโชคลาภด้านหวยหรือล๊อตเตอร์รี่ เพราะอาพาร์ทเม้นท์บางแห่ง นัวเนียอะไรก็ไม่รู้ บางห้องเอาสาวมานอน เสียงช่วงจุดสุด.. ดังไกลไปห้องอื่นในยามค่ำคืน และอาพาร์ทเม้นท์บางแห่ง ที่ดินอาจเป็นสถานที่เก่า อดีตอาจเป็นอะไรสักอย่าง คนมาพักน้อย แต่ละชั้นคนมาพัก เหลือไม่กี่ห้อง

    ผมย้ายไปอีกอาพาร์ทเม้นท์ แต่อยู่จ.นนทบุรี เหมือนกัน ย้ายไปได้ไม่นาน ถ้าจำไม่ผิด ก็ถูกล๊อตเตอร์รี่ เลขท้าย 2 ตัว

    2.ประสบการณ์อีกครั้ง ย้ายไปพักอยู่กับพี่ชาย ที่จ.แห่งหนึ่ง ช่วงนั้นก็ปฎิบัติธรรมบ่อย และมีการเบิกบุญ ส่งบุญ บ่อยมาก แล้วอยู่ๆ ก็ถูกล๊อตเตอร์รี่ เลขท้าย 2 ตัว อยู่ได้อีกพักหนึ่ง ก็ฝัน และก่อนหวยออก เช้าวันนั้นทำบุญใส่บาตรเยอะมาก ใส่บาตรจำนวนมากกว่า 9 รูป และได้ซื้อล๊อตเตอร์รี่หลายคู่ งวดนั้นก็ถูกรางวัล 3 ใบ ได้เงินหลายพันบาท
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2016
  6. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,391
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,541
    พระโพธิสัตว์

    พระโพธิสัตว์ (สันสกฤต: बोधिसत्त्व bodhisattva; บาลี: बोधिसत्त bodhisatta) หมายถึง ผู้ที่จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า[1] คำว่า "โพธิสัตว์" แปลว่า ผู้ข้องอยู่ในพระโพธิญาณ[2]

    ทั้งฝ่ายเถรวาทและมหายานเชื่อว่ามีพระโพธิสัตว์เป็นจำนวนมาก แต่รายละเอียดความเชื่อแตกต่างกันไป

    ประเภทของพระโพธิสัตว์

    พระธัมมปาละ ระบุไว้ในอรรถกถาสโมทานกถา (ในปรมัตถทีปนี) ว่าพระโพธิสัตว์มี 3 ประเภท คือ[4]

    พระมหาโพธิสัตว์ พระโพธิสัตว์ผู้บำเพ็ญบารมีเพื่อให้ได้ตรัสรู้เป็นพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้า
    พระปัจเจกโพธิสัตว์ พระโพธิสัตว์ผู้บำเพ็ญบารมีเพื่อให้ได้เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า
    พระสาวกโพธิสัตว์ พระโพธิสัตว์ผู้บำเพ็ญบารมีเพื่อให้ได้เป็นพระอนุพุทธะ

    นอกจากนี้ ในอรรถกถาเถรคาถา (ในปรมัตถทีปนี) พระธัมมปาละยังจำแนกพระมหาโพธิสัตว์ออกเป็นอีก 3 ประเภท[5] คือ

    ปัญญาธิกโพธิสัตว์ คือพระโพธิสัตว์ที่สร้างบารมีโดยใช้ปัญญาเป็นตัวนำ ระยะเวลาการสร้างบารมีทั้งหมด 20 อสงไขยกับเศษแสนมหากัป คือตั้งความปรารถนาอยู่ในใจเป็นเวลา 7 อสงไขย หลังจากนั้นจึงออกปากกล่าววาจาต่อหน้าพระพักตร์พระพุทธเจ้าเป็นเวลา 9 อสงไขย รวมเป็น 16 อสงไขย และได้รับพุทธพยากรณ์ครั้งแรกเป็น พระนิยตโพธิสัตว์ เมื่อเหลือเวลาอีก 4 อสงไขยกับเศษแสนมหากัป เป็นการสร้างบารมีอย่างยิ่งและเข็มงวดขึ้นเรื่อย และได้รับพยากรณ์ซ้ำมาตลอดเมื่อได้พบกับพระพุทธเจ้าจนถึงสมัยพุทธภูมิของท่าน

    สัทธาธิกโพธิสัตว์ คือพระโพธิสัตว์ที่สร้างบารมีโดยใช้ศรัทธาเป็นตัวนำ ระยะเวลาการสร้างบารมีทั้งหมด 40 อสงไขยกับเศษแสนมหากัป คือตั้งความปรารถนาอยู่ในใจเป็นเวลา 14 อสงไขย หลังจากนั้นจึงออกปากกล่าววาจาต่อหน้าพระพักตร์พระพุทธเจ้าเป็นเวลา 18 อสงไขย รวมเป็น 32 อสงไขย และได้รับพุทธพยากรณ์ครั้งแรกเป็น พระนิยตโพธิสัตว์ เมื่อเหลือเวลาอีก 8 อสงไขยกับเศษแสนมหากัป เป็นการสร้างบารมีอย่างยิ่งและเข็มงวดขึ้นเรื่อย และได้รับพยากรณ์ซ้ำมาตลอดเมื่อได้พบกับพระพุทธเจ้า จนถึงสมัยพุทธภูมิของท่าน

    วิริยาธิกโพธิสัตว์ คือพระโพธิสัตว์ที่สร้างบารมีโดยใช้วิริยะเป็นตัวนำ ระยะเวลาการสร้างบารมีทั้งหมด 80 อสงไขยกับเศษแสนมหากัป คือตั้งความปรารถนาอยู่ในใจเป็นเวลา 28 อสงไขย หลังจากนั้นจึงออกปากกล่าววาจาต่อหน้าพระพักตร์พระพุทธเจ้าเป็นเวลา 36 อสงไขย รวมเป็น 64 อสงไขย และได้รับพุทธพยากรณ์ครั้งแรกเป็น พระนิยตโพธิสัตว์ เมื่อเหลือเวลาอีก 16 อสงไขยกับเศษแสนมหากัป เป็นการสร้างบารมีอย่างยิ่งและเข็มงวดขึ้นเรื่อย และได้รับพยากรณ์ซ้ำมาตลอดเมื่อได้พบกับพระพุทธเจ้า จนถึงสมัยพุทธภูมิของท่าน

    ตามหลักฐานที่ปรากฏในอรรถกถาพบว่า ยิ่งใช้เวลาในการบำเพ็ญบารมีนานเท่าใด พระโพธิสัตว์จะมีพระชนมายุยืนขึ้นในสมัยที่ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า รวมทั้งสัตว์ที่เกิดในยุคนั้นจะมีอายุยืน และบรรลุธรรมได้ง่ายและมีจำนวนมาก แต่ไม่ประกันว่าศาสนาของพระองค์จะยืนยาวหลายชั่วอายุขัย เช่น พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันนี้ มีพระนามว่า พระโคตมพุทธเจ้า พระองค์ทรงสร้างบารมีมาทาง ปัญญาธิกโพธิสัตว์ มีพระชนมายุเพียง 80 พรรษา พระวรกายสูง 4 ศอก หรือ 2 เมตร บำเพ็ญทุกรกิริยา 6 ปี พุทธรังสีสร้านไปข้างละ 1 วาเป็นปกติ มนุษย์สมัยพระองค์มีอายุขัย 100 ปี แต่ในอนาคต เมื่อมนุษย์มีอายุขัย 80,000 ปี จะมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามพระศรีอริยเมตไตรย[6] ทรงสร้างบารมีมาทาง"วิริยาธิกะพุทธเจ้า" มีพระวรกายสูงได้ 88 ศอก หรือ 44 เมตร บำเพ็ญทุกกิริยาชาติสุดท้าย 7 วัน พระพุทธรัศมีของพระองค์แผ่ซ่านตลอดไปเบื้องบนจนถึงพรหมโลก เบื้องต่ำตลอดลงไปจนถึงมหาอเวจีนรก

    ส่วนเหตุที่ทำให้พระสัจธรรมตั้งอยู่ได้นานหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับความผ่อนคลายของพระพุทธเจ้าในการแสดง และพระวินัยที่ได้ทรงบัญญัติไว้[7]

    บารมี 30 ทัศ

    บารมี หมายถึง การกระทำที่ประเสริฐ การกระทำที่ประกอบด้วยกุศลเจตนาคุณงามความดีที่ควรกระทำ คุณงามความดีที่ได้บำเพ็ญมา คุณสมบัติที่ทำให้ยิ่งใหญ่ เป็นธรรมส่วนหนึ่งที่สำคัญ ซึ่งช่วย เหลือเกื้อกูลให้ผู้ปฏิบัติได้ถึงซึ่งโพธิญาณ

    บารมีที่พระโพธิสัตว์บำเพ็ญ คือ[3]

    1. ทานบารมี หมายถึง การสละออก การให้ต่างๆ โดยมีเจตนาช่วยเหลือผู้อื่นเป็นสำคัญ
    2. ศีลบารมี หมายถึง การรักษาศีลให้เป็นปกติ หากเป็นฆราวาสหมายถึงการถือศีล 5 หากเป็นนักบวชคือการถือศีล 8 ขึ้นไป
    3. เนกขัมมะบารมี หมายถึง การออกบวช หากฆราวาสถือศีล 8 ก็นับเป็นเนกขัมบารมีได้เช่นกัน เพราะเป็นการกระทำเพื่อเว้นจากกามสุข
    4. ปัญญาบารมี หมายถึง การกระทำเพื่อเพิ่มพูนปัญญา ปัญญาแบ่งออกเป็นปัญญาทางโลกและทางธรรม เนื่องจากพระโพธิสัตว์จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตตกาล จึงต้องมีปัญญาความรู้มาก เพื่อจะได้สั่งสอนสัตว์ให้พ้นจากทุกข์ได้ การเรียนของพระโพธิสัตว์จึงต้องเรียนมากกว่าผู้อื่น
    5. วิริยะบารมี หมายถึง การกระทำที่ใช้ความเพียรเป็นที่ตั้ง การมีวิริยะอาจไม่ได้หมายถึงการเพียรจนกระทั่งตัวตายในครั้งเดียว แต่หมายถึงมีความพยายามทำอยู่เรื่อยๆ ทำไปทีละน้อยตามกำลังจนกว่าจะสำเร็จ

    สัมมัปปธานหรือความเพียรที่ถูกต้อง มี 4 อย่างคือ

    o สังวรปธาน เพียรระวังไม่ให้บาปเกิดขึ้น
    o ปหานปธาน เพียรละบาปที่เกิดขึ้นแล้ว
    o ภาวนาปธาน เพียรทำบุญให้เกิดขึ้น
    o อนุรักขนาปธาน เพียรรักษาการทำบุญไว้ต่อเนื่อง

    6. ขันติบารมี หมายถึง การอดทนอดกลั้นต่อสิ่งต่างๆ
    7. สัจจะบารมี หมายถึง การรักษาคำพูด ไม่กลับกลอก แม้ว่าจะต้องสละบางสิ่งเพื่อรักษาคำพูดไว้
    8. อธิษฐานบารมี หมายถึง การตั้งมั่นในความปรารถนา ตั้งจิตมั่นต่อคำอธิษฐาน
    9. เมตตาบารมี หมายถึง การมีความปรารถดี มีความรักต่อสัตว์ทั้งหลายในโลกอย่างเท่าเทียม ประดุจมารดารักบุตร เมตตาแตกต่างจากราคะตรงที่ ราคะอาจรักเฉพาะตัวหรือพวกพ้อง แต่เมตตาเป็นรักที่ไม่แบ่งแยก
    10. อุเบกขาบารมี หมายถึง การวางเฉย มีใจเป็นกลาง การปล่อยวางในสิ่งที่ผิดพลาด ในสิ่งที่แก้ไขไม่ได้ วางเฉยในความทุกข์ของตน และสัตว์ที่ช่วยไม่ได้ เนื่องจากมีปัญญาเห็นว่าสัตว์ทั้งหลายย่อมเป็นไปตามกรรมของตน ไม่มีใครได้รับความยากลำบากโดยไม่มีเหตุปัจจัย ล้วนแล้วแต่เป็นกรรมที่เคยทำมาทั้งสิ้น

    ซึ่งในแต่ละบารมีนั้นแบ่งย่อยเป็น 3 ขั้น ได้แก่

    บารมีขั้นต้น คือ เนื่องด้วยวัตถุ และทรัพย์นอกกาย เช่น การสละทรัพย์ช่วยผู้อื่น จัดเป็น ทานบารมี, รักษาศีลแม้ว่าจะต้องสูญเสียทรัพย์สินเงินทอง จัดเป็น ศีลบารมี, หรือ ยอมถือบวชโดยไม่อาลัยในทรัพย์สิน จัดเป็น เนกขัมบารมี เป็นต้น
    บารมีขั้นกลางหรืออุปบารมี คือ เนื่องด้วยเลือดเนื้อ อวัยวะ เช่น การสละเลือดเนื้ออวัยวะแก่ผู้อื่น จัดเป็น ทานอุปบารมี, การใช้ปัญญารักษาอวัยวะเลือดเนื้อของผู้อื่น จัดเป็น ปัญญาอุปบารมี ,การมีความเพียรจนไม่อาลัยในเลือดเนื้อหรืออวัยวะ จัดเป็น วิริยะอุปบารมี, มีเมตตาต่อผู้ที่จะมาทำร้ายเลือดเนื้ออวัยวะของตน จัดเป็น เมตตาอุปบารมี, หรือ มีความอดทนอดกลั้นต่อผู้ที่จะมาทำลายอวัยวะของตน จัดเป็น ขันติอุปบารมี เป็นต้น
    บารมีขั้นสูงสุดหรือปรมัตถบารมี คือ เนื้องด้วยชีวิต เช่น การสละชีวิตเป็นทานแก่ผู้อื่น จัดเป็น ทานปรมัตถบารมี , ยอมสละแม้ชีวิตเพื่อจะรักษาคำพูด จัดเป็น สัจจปรมัตถบารมี, ตั้งจิตไม่หวั่นไหวต่อคำอธิษฐานแม้จะต้องเสียชีวิต จัดเป็น อธิษฐานปรมัตถบารมี, หรือ วางเฉยต่อผู้ที่จะมาทำร้ายชีวิตของตน จัดเป็น อุเบกขาปรมัตถบารมี เป็นต้น

    ดังนั้น จึงรวมเป็นบารมี 30 ทัศ

    คุณสมบัติของพระโพธิสัตว์

    คุณสมบัติของพระโพธิสัตว์มีอยู่ 3 ข้อใหญ่[3]

    มหาปรัชญาหรือปัญญาอันยิ่งใหญ่ หมายความว่าจะต้องเป็นผู้มีปัญญาเห็นแจ้งในสัจธรรม ไม่ตกเป็นทาสของกิเลส
    มหากรุณา หมายความว่าจะต้องเป็นผู้มีจิตกรุณาต่อสัตว์ทั้งหลายอย่างปราศจากขอบเขต พร้อมที่จะสละตนเองเพื่อช่วยสัตว์ให้พ้นทุกข์
    มหาอุปาย หมายความว่าพระโพธิสัตว์จะต้องมีวิธีการชาญฉลาดในการแนะนำ อบรมสั่งสอนผู้อื่นให้เข้าถึงสัจธรรม

    คุณสมบัติทั้งสามข้อนี้ เป็นหัวใจของพระพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน ข้อแรกเป็นการบำเพ็ญประโยชน์ตนให้ถึงพร้อม ส่วนข้อหลัง 2 ข้อเป็นการบำเพ็ญประโยชน์เพื่อผู้อื่น

    มหาปณิธาน 4

    มหาปณิธาน 4 ประกอบด้วย [3]

    เราจะละกิเลสให้หมด
    เราจะศึกษาสัจธรรมให้จบ
    เราจะช่วยโปรดสัตว์ทั้งหลายให้สิ้น
    เราจะบรรลุพระพุทธภูมิอันประเสริฐสุด

    ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/พระโพธิสัตว์
     
  7. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,391
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,541
  8. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,391
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,541
    ในหลวงเป็นพระโพธิสัตว์



    [​IMG]
    หลวงปู่แหวน สุจิณโณ กับ ในหลวง​

    “พระองค์มัวแต่เป็นห่วงคนอื่น
    แต่ไม่ทรงห่วงพระองค์เองบ้างเลย...”



    หลวงปู่แหวน สุจิณโณ
    พระอริยเจ้าที่ชาวไทยรู้จักกันดี
    มีข้อวัตรปฏิบัติที่เคร่งครัด ทรงคุณธรรม

    [​IMG]
    หลวงพ่อพุธ ฐานิโย กับ ในหลวง

    “วันหนึ่งข้างหน้า
    ในหลวงจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งของโลก”

    “ในหลวงเป็นพระโพธิสัตว์ ปรารถนาพุทธภูมิ”



    หลวงพ่อพุธ ฐานิโย
    พระวิปัสสนาจารย์ผู้เคร่งครัดในศีลในธรรม
    และเชี่ยวชาญในวิปัสสนากรรมฐาน
    หลวงพ่อพุธยังได้สอนวิธีอธิฐานจิตเพื่อถวายในหลวงด้วย
    [​IMG]
    ท่านเจ้าคุณนรรัตนราชมานิต ​

    “ในหลวงพระองค์นี้ ท่านเป็นพระโพธิสัตว์น๊ะ...”


    ท่านเจ้าคุณนรรัตนราชมานิต
    พระผู้เคร่งครัดในศีล ลงทำวัตรไม่เคยขาด
    สละตำแหน่งไปบวชตลอดชีวิต ทั้งเป็นพระผู้มีตบะแก่กล้า
    สามารถกำจัดพิษงูได้ด้วยสมาธิโดยไม่ต้องไปหาหมอ

    [​IMG]
    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ กับ ในหลวง​

    “พระองค์ทรงมีกระแสจิตแรงมาก ฉันเองยังสู้ท่านไม่ได้”

    เรื่องปรารถนาพุทธภูมินี่ พระองค์ (ในหลวง) ปรารถนามานาน
    แต่เวลานี้บารมีเป็น “ปรมัตถบารมี” เหลืออีก ๕ ชาติ
    และที่พระองค์ปฏิบัติมามันเลยแล้ว ไม่ใช่ไม่สำเร็จ
    พุทธภูมินี่ต้องบำเพ็ญกันมาก
    โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระองค์เป็น “วิริยาธิกะ”
    ต้องบำเพ็ญถึง ๑๖ อสงไขยกำไรแสนกัป นี่เกิน ๑๖ อสงไขยแล้ว
    “แสนกัป” อาจยังไม่ครบ จึงต้องเกิดอีก ๕ ชาติ


    พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
    วัดท่าซุง (วัดจันทาราม) อ.เมือง จ.อุทัยธานี
    พระเถราจารย์ซึ่งเป็นที่ยอมรับเรื่องอภิญญาและกำลังสมาธิ

    ที่มา : http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=25&t=40909&sid=4d652b6b22ff90d11fdad275a70703c2
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ตุลาคม 2016
  9. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,391
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,541
    พระโพธิสัตว์ ที่ปรารถนาพุทธภูมิ บำเพ็ญบารมีเพื่อเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต พระองค์ที่ลาพุทธภูมิ บรรลุธรรม เป็นอรหันต์สาวกภูมิ ก็มี เช่น หลวงปู่มั่น, หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เป็นต้น

    การเป็นพระโพธิสัตว์ เพื่อปราถนาเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต เป็นการบำเพ็ญบารมีที่ยาวนานมาก พระอรหันต์บางองค์ในยุคปัจจุบัน ได้ลาพุทธภูมิ เพราะได้รู้เห็นอนาคตชาติ ที่แสนยาวไกล และคงเบื่อหน่ายการเวียนว่ายในวัฎฎสงสาร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 เมษายน 2017
  10. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,391
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,541
    ถ้าคุณกินกระเทียมและน้ำผึ้ง ขณะท้องว่างเป็นเวลา 7 วัน สิ่งมหัศจรรย์นี้จะเกิดขึ้นกับคุณ

    11-7.jpg

    กระเทียม

    • มีประสิทธิภาพสูงที่ช่วในการยบำรุงหัวใจ

    • มีความสามารถลดคอเลสเตอรอล

    • ช่วยลดความดันโลหิตสูง

    • ป้องกันการเกิดโรคหัวใจ

    • ช่วยกำจัดไขมันสะสมในเส้นเลือดหัวใจ

    • ช่วยแก้โรคไข้หวัด

    • ช่วยแก้การติดเชื้อรา

    • ช่วยแก้ไข้ละอองฟาง

    • ช่วยแก้อาการท้องเสีย

    • ช่วยรักษาแผลที่ถูกแมลง กัดต่อย

    • มีความสามารถในการเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน

    • ช่วยกำจัดสารพิษที่เป็นอันตรายในร่างกายออกไป

    • มีความสามารถช่วยรักษาโรคเบาหวาน

    • ช่วยรักษาโรคต่อมลูกหมากโต

    • ช่วยรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม


    คุณสามารถนำกระเทียมมารวมกับหัวหอมและขิง มันจะสามารถช่วยขับสารพิษจากยาเคมีบำบัดออกจากร่างกายได้

    วิธีการใช้กระเทียม

    • สารอัลลิซิน (Allicin) ในกระเทียมมีความเผ็ดร้อน

    • การกินกระเทียมสดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด.คุณควรสับกระเทียมและปล่อยทิ้งเป็น เวลา 15 นาที ก่อนที่จะบริโภค วิธีนี้จะเกิดปฏิกิริยาทางเคมี

    • ซึ่งวิธีนี้จะทำให้สารอัลลิซินออกฤทธิ์เพิ่มขึ้น

    • คุณควรกินในขณะท้องว่าง เนื่องจากหากกระเพาะเต็มไปด้วย อาหารอาจทำให้เกิดปัญหาในการดูดซึมสารอาหารและการประมวลสารอาหารทั้งหมด

    การนำกระเทียมสดกับน้ำผึ้งมารวมกันในอาหารของคุณ

    • คุณควรใช้กระเทียม 2-3 กลีบมาสับให้เป็นชิ้นเล็กๆ

    • ทำการผสมกับน้ำผึ้งหนึ่งช้อน

    • คุณควรกินส่วนผสมนี้เป็นประจำทุกวัน

    • ขอรับรองว่า ภายในหนึ่งสัปดาห์คุณจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าอัศจรรย์

    • มันจะช่วยให้ระดับพลังงานของคุณเพิ่มมากขึ้น และทำให้คุณรู้สึกกระปรี้กระเปร่า อีกทั้งสุขภาพโดยรวมที่ดีขึ้นอีกด้วย

    วิธีการใช้กระเทียมรักษาโรคไข้หวัดใหญ่

    หากคุณมีผิวแพ้ง่าย ขอแนะนำให้คุณสวมถุงมือและระวังอย่าขยี้ตา เนื่องจากน้ำมันในกระเทียมมีความร้อนสามารถทำให้เกิดผื่นแดงได้

    สิ่งที่ต้องเตรียม

    1. กระเทียมสับ 5 กลีบ

    2. หัวหอมสับครึ่งหัว

    3. พริกสับ 2 เม็ด

    4. ขิงสับ 1 ช้อนโต๊ะ

    5. น้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ 200 มล.

    6. น้ำมะนาว 1 ลูก

    วิธีการทำ

    1. เลือกใช้เหยือกที่สามารถบรรจุได้ 350-500 มล.

    2. ทำการใส่หัวหอมลงไปและตามด้วยกระเทียม พริกแดงและขิง

    3. จากนั้นเทน้ำมะนาวลงไปในเหยือก แล้วให้เติมน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ลงไป

    4. ทำการปิดฝาให้สนิทวางไว้ในตู้ให้เรียบร้อย

    หลังจากที่ได้อ่านกันแล้ว ก็ได้ทราบถึงบทความดีดีในการกินกระเทียมและน้ำผึ้ง ขณะท้องว่างเป็นเวลา 7 วัน สิ่งมหัศจรรย์นี้จะเกิดขึ้นกับคุณกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่ารอช้า รีบทำตามกันได้เลย

    เครดิต : http://www.thaijobsgov.com/jobs/81189

    ** ชาวเกาหลีใต้มักนิยมกินน้ำกระเทียม และประเทศเกาหลี ก็มีสิ่งโดดเด่นในเรื่องโสมเกาหลี ผู้ชายชาวเกาหลี มักมีรูปร่างสูงใหญ่ และคงแข็งแรง ส่วนของไทย ก็กินน้ำพริกปลาทู บางท่านก็กินปลาร้า เรื่องสุขภาพจะสู้ชาวเกาเหลีได้หรือ?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 18 กุมภาพันธ์ 2017
  11. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,391
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,541
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    สวรรค์ชั้นดุสิต

    สวรรค์ชั้นดุสิต มีความกว้างใหญ่ไพศาล มี ท้าวสันดุสิต ซึ่งบรรลุเป็นพระโสดาบันแล้วนั้น เป็นผู้ปกครอง ภพที่ตั้งของสวรรค์ชั้นดุสิตอยู่สูงขึ้นไปจากยอดเขาสิเนรุ อยู่ในอากาศเหนือสวรรค์ชั้นยามา ๔๒,๐๐๐ โยชน์ บนสวรรค์จะไม่มีดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ทำให้ไม่มีเงา ไม่มีมุมมืดบนสวรรค์ อยู่ได้ด้วยความสว่างจากวัตถุสิ่งของต่างๆ เช่น กายทิพย์ของเหล่าเทวดา วิมาน สวน สระ สิ่งแวดล้อมต่าง ๆ มีแต่ความสว่างด้วยความเป็นทิพยื จึงไม่ต้องอาศัยดวงอาทิตย์เหมือนจักรวาลโลก

    โครงสร้างของสวรรค์ชั้นดุสิต มีวิมานของท้าว "สันดุสิต" เป็นศูนย์กลางของสวรรค์ชั้นนี้ สวรรค์ชั้นดุสิตแบ่งออกเป็น 4เขต วนโดยรอบวิมานของท้าวสันดุสิต ดังนี้...

    เขตที่ ๑. เป็นที่อยู่ของพระอริยเจ้า คือ พระโสดาบัน พระสกิทาคามี ซึ่งอยู่ชั้นในสุด

    เขตที่ ๒. เป็นที่อยู่ของนิยตโพธิสัตว์ คือ พระโพธิสัตว์ ที่ได้รับการพยากรณ์จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วว่าจะได้เป็นพระพุทธเจ้าอย่างแน่นอน ซึ่งเขตบุญพิเศษของผู้ที่มีมโนปณิธาน จะรื้อสัตว์ขนสัตว์ไปสู่ฝั่งพระนิพพาน ให้หมดจนกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรม ก็จะอยู่ในเขตนี้ด้วย

    เขตที่ ๓. เป็นที่อยู่ของอนิยตโพธิสัตว์ คือ พระโพธิสัตว์ที่ยังไม่ได้รับพยากรณ์เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ยังต้องสร้างบารมีอีกมาก

    เขตที่ ๔. เป็นที่อยู่ของผู้ที่ทำกุศลมาก และมีกำลังบุญมากพอที่จะได้อยู่สวรรค์ชั้นดุสิตนี้ เป็นเขตทั่วไป นอกเหนือจาก ๓ เขตแรก
    สวรรค์ชั้นดุสิต มีความพิเศษกว่าสวรรค์ชั้นอื่นอยู่หลายประการ หนึ่งในความพิเศษนั้นก็คือ เป็นที่อยู่ของเหล่าพระบรมโพธิสัตว์ ที่จะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคตจำนวนมาก และเหล่าเทพบุตรที่สร้างบารมีเป็นพระสาวก เพื่อตามพระบรมโพธิสัตว์ลงมาตรัสรู้ในอนาคต

    เหตุที่พระบรมโพธิสัตว์หรือบัณฑิตทั้งหลาย จึงปรารถนาที่จะได้มาบังเกิดบนสวรรค์ชั้นดุสิตนี้ ทั้ง ๆ ที่กำลังบุญของแต่ละท่านนั้นมากมาย ปรารถนาที่จะไปบังเกิดในสวรรค์ชั้นใดก็ได้ เหตุที่ท่านเลือกสวรรค์ชั้นนี้ มีข้อสังเกตอย่างน้อย 3ประการ คือ

    ๑. พระโพธิสัตว์สามารถจุติลงมาได้ตามใจปรารถนา หมายความว่าโดยปกติเทวดา มีเหตุแห่งการจุติหลายประการ เช่น หมดบุญก็มี หมดอายุขัยก็มี จุติเพราะความโกรธก็มี แต่เหล่าพระบรมโพธิสัตว์ทั้งหลายในสวรรค์ชั้นดุสิตนี้ เมื่อจะจุติลงมาสร้างบารมี หรือมาบังเกิดเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็จะนั่งทำสมาธิ อธิษฐานจิต สามารถดับวูบ ลงมาเกิดได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่อยู่เหนือกฎเกณฑ์ของชาวสวรรค์ชั้นอื่น ๆ

    ๒. เนื่องจากสวรรค์ชั้นนี้ มีแต่บัณฑิต มีแต่พระบรมโพธิสัตว์ ล้วนแต่มีอัธยาศัยคล้ายคลึงกัน ที่จะฝึกฝนตนเองและช่วยสรรพสัตว์ไปสู่ฝั่งพระนิพพาน ไม่ประมาทในการดำรงชีวิตเหมือนชาวสวรรค์ชั้นอื่น ๆ มักจะคบหาบัณฑิต พูดคุยสนทนาธรรมกันเพื่อความเบิกบานใจ และหมั่นไปฟังธรรมในวันพระ ซึ่งท่านท้าวสันดุสิตจะเป็นผู้อัญเชิญพระบรมโพธิสัตว์ ที่มีบุญบารมีมาก มาแสดงธรรมให้ฟัง

    ๓. ประมาณอายุทิพย์ของสวรรค์ชั้นดุสิตนี้ คือ ๔,๐๐๐ ปีทิพย์ ซึ่งไม่มากเกินไปและไม่น้อยเกินไป พอเหมาะพอดีที่จะเสวยสุข เพราะท่านจะต้องลงมาสร้างบารมีต่อ ถ้ามีอายุขัยนานเกินไปจะทำให้เสียเวลา

    เทวดาที่เสวยทิพยสมบัติอยู่บนชั้นดุสิตนี้ มีอายุยืน ยาวได้ ๔ พันปีทิพย์หรือห้าสิบเจ็ดโกฏหกล้านปี ในโลกมนุษย์ ๔,๐๐๐ ปีทิพย์ แล้วก็ถ้าจะเทียบกับเมืองมนุษย์ก็ ๔๐๐ ปีของเราเป็น ๑ วันของเทวดาชั้นนี้

    เครดิต : https://www.facebook.com/VeruwanKG/posts/1101945153194521
     
  12. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,391
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,541
    38 โครงการหลวง ตามรอยเท้าพ่อ

    [​IMG]

    1. สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง

    สืบเนื่องจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรที่หมู่บ้านผักไผ่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และได้เสด็จผ่านบริเวณดอยอ่างขาง ทรงทอดพระเนตรเห็นว่าชาวเขาส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ทำการปลูกฝิ่นแต่ยังยากจน ทั้งยังทำลายทรัพยากรป่าไม้ต้นน้ำลำธารที่เป็นแหล่งสำคัญต่อระบบนิเวศน์ ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อส่วนอื่นของประเทศได้ จึงทรงมีพระราชดำริว่าพื้นที่นี้มีภูมิอากาศหนาวเย็น มีการปลูกฝิ่นมาก ไม่มีป่าไม้อยู่เลยและสภาพพื้นที่ไม่ลาดชันนัก ประกอบกับพระองค์ทรงทราบว่าชาวเขาได้เงินจากฝิ่นเท่ากับที่ได้จากการปลูกท้อพื้นเมือง และทรงทราบว่าที่สถานีทดลองไม้ผลเมืองหนาวของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้ทดลองวิธีติดตา ต่อกิ่งกับท้อฝรั่ง จึงสละพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวน 1,500 บาท เพื่อซื้อที่ดินและไร่จากชาวเขาในบริเวณดอยอ่างขางส่วนหนึ่ง

    จากนั้นจึงโปรดเกล้าฯ ตั้งโครงการหลวงขึ้นเป็นโครงการส่วนพระองค์ เมื่อ พ.ศ. 2512 โดยทรงแต่งตั้งให้ หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการในตำแหน่งประธานมูลนิธิโครงการหลวง ใช้เป็นสถานีวิจัยและทดลองปลูกพืชเมืองหนาวชนิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไม้ผล ผัก ไม้ดอก เมืองหนาว เพื่อเป็นตัวอย่างแก่เกษตรกรชาวเขาในการนำพืชเหล่านี้มาเพาะปลูกเป็นอาชีพ ซึ่งต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้พระราชทานนามว่า “สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง”

    ที่ตั้ง : สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง หมู่ 5 ต.แม่งอน อ.ฝาง จ. เชียงใหม่

    [​IMG]

    2. สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์

    ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เลขที่ 202 หมู่ที่ 7 ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ราษฎรที่อาศัยบนพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยภูเขาเผ่ากะเหรี่ยงและเผ่าม้ง ซึ่งบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ ทำไร่เลื่อนลอย ปลูกข้าวไร่ ข้าวโพด และฝิ่น ส่งผลให้ป่าที่เคยสมบูรณ์กลายสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรม

    พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมีพระราชประสงค์ที่จะช่วยเหลือชาวเขาเหล่านั้นให้มีพื้นที่ทำกินเป็นหลักแหล่ง และได้รับการถ่ายทอดวิชาความรู้ทางด้านการเกษตรแผนใหม่ ปรับปรุงฐานะความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น ด้วยการหันมาทำการเกษตรแบบถาวร อันเป็นที่มาของการจัดตั้ง “สถานีวิจัยโครงการหลวงอินทนนท์” ในปี พ.ศ.2522 ณ บริเวณบ้านขุนกลาง เพื่อเป็นสถานีวิจัยของมูลนิธิโครงการหลวงอีกแห่งหนึ่ง ดำเนินงานวิจัยด้านไม้ดอก ไม้ประดับ พืชผัก และไม้ผล รวมทั้งถ่ายทอดผลงานวิจัยไปสู่การส่งเสริมให้เป็นรายได้ของครอบครัวเกษตรกรทั้งชาวกะเหรี่ยง และ ม้งในหมู่บ้านรอบๆ สถานีฯ พร้อมกับการพัฒนาปัจจัยพื้นฐานพัฒนาด้านสังคมและการอนุรักษ์ป่าต้นน้ำลำธารและโปรดให้เป็น “สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์” ในปี พ.ศ.2550

    ที่ตั้ง : สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ เลขที่ 202 หมู่ 7 ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่

    [​IMG]

    14. ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงป่าเมี่ยง

    ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงป่าเมี่ยง เริ่มดำเนินการเมื่อปี พ.ศ. 2524 เพื่อการช่วยเหลือราษฎรในพื้นที่ โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานพระราชทรัพย์ เพื่อก่อสร้างศูนย์ให้เป็นศูนย์สาธิตและส่งเสริมการเพาะเห็ด และกาแฟให้แก่เกษตรกร เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการปลูกชา (เมี่ยง) และเพื่อพัฒนาความเป็นอยู่ของราษฎรให้ดีขึ้น

    ที่ตั้ง : ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงป่าเมี่ยง หมู่บ้านปางบง หมู่ 1 ตำบลเทพเสด็จ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดชียงใหม่ 50220

    เครดิต/อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.facebook.com/Chillpainai/photos/?tab=album&album_id=1264040840314549
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ตุลาคม 2016
  13. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,391
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,541
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ตุลาคม 2016
  14. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,391
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,541
    บ้านพักโครงการหลวง ไปสัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้านและเรียนรู้การทำการเกษตรตามหลักปรัชญาเศรฐกิจพอเพียง

    [​IMG]

    [​IMG]

    บ้านพักสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง


    [​IMG]

    [​IMG]

    บ้านพักศูนย์พัฒนาโครงการหลวงปังค่า​

    ที่มา/อ่านเพิ่มเติมและดูค่าห้องพักได้ที่ -> http://www.chillpainai.com/scoop/5895/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ตุลาคม 2016
  15. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,391
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,541
    [​IMG]
     
  16. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,391
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,541
    [​IMG]
     
  17. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,391
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,541
    ภาพธนบัตรไทยในยุคสมัยในหลวงรัชกาลที่ 9 ขึ้นครองราชย์จนถึงปัจจุบัน

    รวมภาพธนบัตรไทย ในสมัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 โดยทั้งหมดเป็นธนบัตรที่ถูกจัดทำขึ้น และนำมาใช้ในสังคมไทย ตั้งแต่ครั้งพระองค์ขึ้นครองราชย์จวบจนถึงปัจจุบัน

    แม้ว่าบางชนิดอาจจะไม่คุ้นตาเพราะถูกกาลเวลากลืนกินไปตามยุคสมัย แต่ถึงอย่างไรก็ยังพอมีหลงเหลือให้หวนจดจำกันได้อยู่บ้าง ซึ่ง ธนบัตรในสมัย ร.9 แต่ละชนิดที่ว่าจะเป็นอย่างไร มีลักษณะแบบไหนไปติดตามชมกันได้เลย

    [​IMG]

    ธนบัตร แบบ 9​


    ธนบัตร 50 สตางค์ แบบ 9 รุ่น 1

    [​IMG]

    [​IMG]


    ธนบัตร 1 บาท แบบ 9 รุ่น 1

    [​IMG]

    [​IMG]


    ธนบัตร 5 บาท แบบ 9 รุ่น 1

    [​IMG]

    [​IMG]


    ธนบัตร 10 บาท แบบ 9 รุ่น 1

    [​IMG]

    [​IMG]


    ธนบัตร 20 บาท แบบ 9 รุ่น 1

    [​IMG]

    [​IMG]


    ธนบัตร 100 บาท แบบ 9 รุ่น 1

    [​IMG]

    [​IMG]


    ธนบัตร 1 บาท แบบ 9 รุ่น 3

    [​IMG]

    [​IMG]


    ธนบัตร 5 บาท แบบ 9 รุ่น 3

    [​IMG]

    [​IMG]


    ธนบัตร 10 บาท แบบ 9 รุ่น 3

    [​IMG]

    [​IMG]


    ธนบัตร 20 บาท แบบ 9 รุ่น 3

    [​IMG]

    [​IMG]


    ธนบัตร 100 บาท แบบ 9 รุ่น 3

    [​IMG]

    [​IMG]


    ธนบัตร 1000 บาท แบบ 9

    [​IMG]

    [​IMG]


    ธนบัตรแบบ 10
    ธนบัตรแบบ 100 บาท แบบ 10

    [​IMG]

    [​IMG]


    ธนบัตรแบบ 11
    ธนบัตร 5 บาท แบบ 11

    [​IMG]

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 ตุลาคม 2016
  18. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,391
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,541
    ธนบัตร 10 บาท แบบ 11

    [​IMG]

    [​IMG]


    ธนบัตร 20 บาท แบบ 11

    [​IMG]

    [​IMG]


    ธนบัตร 100 บาท แบบ 11

    [​IMG]

    [​IMG]


    ธนบัตร 500 บาท แบบ 11

    [​IMG]

    [​IMG]


    ธนบัตร แบบ 12
    ธนบัตร 10 บาท แบบ 12

    [​IMG]

    [​IMG]


    ธนบัตร 20 บาท แบบ 12

    [​IMG]

    [​IMG]


    ธนบัตร 100 บาท แบบ 12

    [​IMG]

    [​IMG]


    ธนบัตร 50 บาท แบบ 13

    [​IMG]

    [​IMG]


    ธนบัตร 500 บาท แบบ 13

    [​IMG]

    [​IMG]


    ธนบัตรแบบ 14
    ธนบัตร 100 บาท แบบ 14

    [​IMG]

    [​IMG]


    ธนบัตร 500 บาท แบบ 14

    [​IMG]

    [​IMG]


    ธนบัตร 1000 บาท แบบ 14

    [​IMG]

    [​IMG]


    ธนบัตรแบบ 15
    ธนบัตร 20 บาท แบบ 15

    [​IMG]

    [​IMG]


    ธนบัตร 50 บาท แบบ 15

    [​IMG]

    [​IMG]


    ธนบัตร 100 บาท แบบ 15

    [​IMG]

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 ตุลาคม 2016
  19. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,391
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,541
    ธนบัตร 500 บาท แบบ 15

    [​IMG]

    [​IMG]


    ธนบัตร 1000 บาท แบบ 15

    [​IMG]

    [​IMG]


    ธนบัตรแบบ 16
    ธนบัตร 20 บาท แบบ 16

    [​IMG]

    [​IMG]


    ธนบัตร 50 บาท แบบ 16

    [​IMG]

    [​IMG]


    ธนบัตร 100 บาท แบบ 16

    [​IMG]

    [​IMG]


    ธนบัตร 500 บาท แบบ 16

    [​IMG]

    [​IMG]


    ธนบัตร 1000 บาท แบบ 16

    [​IMG]

    [​IMG]


    เครดิต : https://www.keawwhan.com/picture/6678
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 ตุลาคม 2016
  20. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,391
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,541
    ให้ความช่วยเหลือค่าอาหาร เงินกินข้าว หรืออื่นๆ ที่จำเป็น (โครงการบุญครั้งที่ 3)

    เดือนพฤศจิกายน 2559 มีเงินทุนของท่านผู้ใจบุญ ที่ยกยอดมาจากเดือนตุลาคม 100 บาท และทุนเดือนพฤศจิกายน 1,000 บาท รวมเป็น 1,100 บาท และเงินทุนส่วนของผม จำนวนเงิน 300 บาท

    ท่านที่ลำบากต้องการความช่วยเหลือเงินกินข้าว/ค่าอาหาร/ค่ารถ หรืออื่นๆ ส่งอีเมล์/SMS มาเพื่อการพิจารณาได้เลย

    ** ช่วยเหลือได้ประมาณ 16 ท่านแล้วนะครับ ช่วยอีกประมาณ 3-5 ท่าน ก็จะปิดโครงการบุญแล้วครับ คาดว่าคงปิดโครงการบุญในปลายเดือนพฤศจิกายน 2559 ท่านที่ประสงค์จะร่วมในโครงการบุญครั้งที่ 4 ก็ติดต่อหาผมได้ครับ

    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : เมตตาโฮมเพจ : คาถาเงินล้าน, วิธีทำให้ค้าขายดี, บทเบิกบุญ, คาถาบูชาพระสังกัจจายน์, คำอธิษฐา��
     

แชร์หน้านี้

Loading...