ร่วมทำบุญบูชา สำเร็จสิทธิพระที่นั่งมหาบัลลังก์(ปรารถนาเป็นหนึ่งกุณฑธานเถระ) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. seaown

    seaown เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,082
    ค่าพลัง:
    +984
    ได้รับสมเด็จหลวงปู่ทวดเรียบร้อยแล้วครับผม ขอบคุณครับ(f)
     
  2. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112
    ได้รับเหรียญหล่อหลวงปู่ทวดแล้วครับ

    ขอบคุณครับ
     
  3. seekerpunch

    seekerpunch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,028
    ค่าพลัง:
    +3,114
    ได้รับหลวงปู่ทวดแล้ว ขอบคุณครับ
     
  4. Akkra1978

    Akkra1978 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    254
    ค่าพลัง:
    +1,486
    ได้รับพระหลวงปู่ทวดและตะกรุดแล้วครับ ขอบคุณมากครับ..
     
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    ห้อยไว้ สุดยอดนิรันตราย ไม่ควรขาดครับ ทวดทรงแผ่นดินชื่อเป็นมงคลมาก
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    ช่วงก่อนก็ได้มีคนถามเข้ามาถึงองค์พระขันธกุมารหรือสกันทเทพ หากยังจำได้พ่ออาจารย์ท่านเคยทำพระมุรุกันออกให้บูชา เขาว่าเขาฝันเห็นอาจารย์และองค์พระขันธกุมารก็เลยเปิดหาค้นในกูเกิ้ลแล้วเจอจึงติดต่อมาขอบูชาซึ่งก็หมดไปแล้ว เขาจึงสั่งเป็นมงคลประจำกายแทน

    ในส่วนของพระมุรุกันที่เคยเปิดให้บูชานั้น ก็เพิ่งมีหนุ่มหัวการค้าคนหนึ่ง ตอนนั้นเขาบอกผมว่ามีทุนน้อยแต่อยากจะลงทุนทำอะไรซักอย่างกับแฟน ซึ่งช่วงนั้นก็มีพระมุรุกันออกให้บูชาเราจึงแนะนำไป ผลปรากฏว่าพอบูชาแล้ว เค้าโทรมาเล่าให้ฟังว่าพระขันธกุมารขี่นกยูงโบกธงมาหาเขาเลย(ในฝัน) ซึ่งเพิ่งจะโทรกลับมาคุยกับเราอีกเมื่อไม่นานมานี้ เค้าเล่าว่าเค้าได้ไปจ้างคนคิดสูตรครีมและลงทุนทำกับแฟนขายครีมในเน็ตเป็นของตัวเอง โดยขอเอากับพระมุรุกันที่เช่ามาเพราะเป็นทุนรอนก้อนสุดท้ายของชีวิต โดยคาดว่าจะทำพอให้ขายได้มีกำไรไม่ขาดทุน แต่พี่เค้าว่าคิดไม่ถึง แค่เดือนเดียว เดือนเดียวจริงๆ ก็กำไรเกินทุนนับหลายสิบเท่า เรายังแอบถามมาได้ว่าเป็นตัวเลขแปดหลัก ยังมานั่งคิดว่าเอ้ะขายครีมมันกำไรดีขนาดนี้จริงๆหรอ เลยกลายเป็นว่าเขาศรัทธาพระขันธกุมารมาก เขาว่าเกิดมาก็ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าจะมีชื่อเทพองค์นี้จนเราไปยัดเยียดให้เขาบูชา บอกเขาว่าไม่มีอะไรเหลือแล้วเพราะช่วงนั้นเปิดจองพระมุรุกันพอดี เขาว่าเขามั่นใจและรู้จักพระขันธกุมารแล้ว และได้เดินทางไปไหว้พระองค์ที่ต่างประเทศมาแล้วด้วย ตอนที่โทรมารอบนี้ก็เลยขอโอกาศให้พ่ออาจารย์ท่านแกะสลักองค์ขนาดบูชาและประกอบพิธีปลุกเสกให้เพื่อจะนำมาตั้งบูชาไว้เป็นสิริมงคลแก่ชีวิตตัวเอง

    จะว่าไปผมเองก็ไม่ค่อยได้เล่าเรื่องพระขันธกุมารเท่าไหร่ ซึ่งความจริงเทพเจ้าองค์นี้มีความสำคัญมาก และพ่ออาจารย์ท่านยังพูดจนติดปาก ว่าเขามาเล่นกับเราบ่อย สำหรับพระสกันทะนั้นพ่ออาจารย์บอกว่าเพราะท่านมีชายาสององค์เหมือนพระเคณศ ซ้ำหนึ่งในชายานั้นยังเป็นมนุษย์อีกด้วย ดังนั้นคนในโลกมนุษย์จึงให้การนับถือบูชากันแพร่หลายมาก เรียกว่าเป็นเทพที่มีคนนับถือไปทั่วในหลายๆประเทศและทั่วทั้งภูมิภาค แม้แต่ในประเทศจีนยังมีการนับถือเช่นกันโดยใช้ชื่อว่าพระสกันทะโพธิสัตว์หรือพระเวทย์โพธิสัตว์และเชื่อว่าจะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าองค์สุดท้ายแห่งภัทรกัลป์ด้วย อันนั้นก็เป็นความเชื่อของฝ่ายมหายาน แต่ต้องนับว่าเป็นมหาโพธิสัตว์ใหญ่ที่มีความสำคัญมากซ้ำยังมีพระชาติแน่นอนแล้วทีเดียวอีกองค์หนึ่ง

    * อ้างอิง ในคัมภีร์ปัจจุบันสมัยภัทรกัลป์สหัสพุทธนามสูตร ได้ระบุว่าพระเวทโพธิสัตว์จะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าองค์สุดท้ายในกัปป์ปัจจุบันคือภัทรกัปปป์ มีพระนามเมื่อตรัสรู้แล้วว่า พระรุจิพุทธเจ้า<SUP id=cite_ref-2 class=reference></SUP>

    พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าเพราะพระสกันทะนั้นมีฤทธิ์มีเดชมาก คนจึงเกรงพระเดชและนิยมบูชากันโดยทั่ว เพราะฤทธิ์ของสกันทะเทพนั้น เสมอด้วยอำนาจของพระศิวะเจ้าและพระแม่ทุรคาผู้เป็นจักรวาลชนนีรวมตัวกัน จึงได้ชื่อว่าศิวะบุตรผู้นี้มีพระเวทย์รวมถึงความรู้มากไปกว่าองค์พระบิดาเสียด้วยซ้ำ และนิสัยของพระสกันทะคือมักโปรดเสด็จไปทั่วทุกหนระแหงอยู่เป็นนิจ เรียกได้ว่าอยู่ไม่ติดที่ แม้มีคนสักการะบูชาพระองค์อยู่ที่ใดพระองค์ก็จะไปปรากฏที่นั่น

    พ่ออาจารย์ท่านมักเปรยว่าขันธกุมารมาเล่นด้วยอยู่เสมอ เราก็ไม่เข้าใจท่านว่าเล่นอะไรกันหรือเล่นอย่างไร พอออกจากสมาธิบ้าง พอเสกเครื่องมงคลเสร็จบ้าง มักจะได้ยินคำนี้อยู่เป็นประจำ ซึ่งเรื่องบางเรื่องมันก็ลึกซึ้งเกินกว่าเราจะเข้าใจ บางครั้งท่านก็พูดว่าพระองค์กวนใจเรานัก สงสัยชะรอยว่าองค์พระขันธกุมารกับพ่ออาจารย์ท่านน่าจะมีความผูกพันธ์ที่เรียกว่าซุกซนกันแบบไม่ธรรมดา

    ก็มีหลายเรื่องที่คนบูชาพระมุรุกันเล่าให้เราฟัง แต่ว่าผมเองก็จำไม่ค่อยได้เท่าไหร่เลยไม่พิมพ์ดีกว่า เอาเป็นว่าบางคนนั้นเจอเรื่องเฮี้ยนจับใจกันไปเลย คนที่ฝึกสมาธิดีๆหน่อยเขาบอกว่ายิ่งกว่ากุมารทองเสียอีก แต่นี่ไม่ใช่กุมารกลับมีศักดิ์สูงถึงขั้นพระผู้เป็นเจ้า หลายคนที่ฝันเห็นก็ยืนยันกันว่าท่านเป็นบุรุษที่งามจับตานัก ชะรอยว่าคงจะมีอะไรไม่ธรรมดามาเล่าให้ฟังกันเรื่อยๆหากท่านยังเฮี้ยนเช่นนี้อยู่ แต่เป็นเฮี้ยนในทางที่ดี ขอได้ไหว้รับ

    * สำหรับองค์ที่ถ่ายรูปให้ดูก็เป็นเนื้อไม้ช่่อฟ้าแกะ องค์ที่พ่ออาจารย์ท่านทำไว้นานมากแล้วและใช้อาราธนาเอง ซึ่งจะเห็นว่าท่านแกะได้แปลกตาดี ถ้าท่านไม่บอกเราก็ไม่รู้ว่าพระขันธกุมาร ก็นำมาให้ชมกัน เช้าวันนี้ก็ร่วมกันสักการะพระขันธกุมาร หรือถ้าเชื่อคติทางมหายานก็ถือว่าบูชาคุณพระมหาโพธิสัตว์อันจะได้ตรัสพระโพธิญาณในพระชาติอันใกล้นั้น แน่นอนว่าคติมหาโพธิสัตว์นั้นย่อมมีหน้าที่ในการโปรดและช่วยเหลือมนุษย์เป็นแน่
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มิถุนายน 2016
  7. Pornnutcha

    Pornnutcha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2013
    โพสต์:
    251
    ค่าพลัง:
    +552
    ได้รับเหรียญหล่อหลวงปู่ทวดแล้วค่ะ

    ขอบคุณ ค่ะ
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    วันนี้มีธุระทั้งวันเลย เดี๋ยวไวว้จะลงสาระและรายการที่อกันมาพรุ่งนี้นะครับ ติดตามดีๆ:cool:
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    ตะกรุดมหาจักรครองพิภพ

    เนื่องจากเคยถือโอกาสเล่นเกมส์กันมาทุกปีตอนวันเกิดของผม ปีนี้หลายๆท่านจึงไลน์มาถามกันเยอะว่าจะแจกอะไรหนอ มีอะไรให้เล่นอีกมั้ย มันก็ถือคล้ายธรรมเนียมไปแล้วเนอะ

    สำหรับปีนี้ก็ถือว่าเป็นมิตรภาพดีๆที่หลายท่านได้ไลน์มาคุยมาทำความรู้จัก บางท่านก็มากกว่าเพื่อนกว่าพี่น้อง ก็เลยจะถือโอกาสซะเลย ขออนุญาติพ่ออาจารย์ท่านนำตะกรุดมหาจักรครองพิภพที่เตรียมไว้ไม่รู้จะให้เล่นเกมส์อะไรเพราะมีจำนวนน้อยออกมามอบให้

    แต่ขอเรียนทำความเข้าใจว่าตัวนี้เป็นตะกรุดที่สร้างยากมากจึงทำให้มีจำนวนไม่ถึง 10 ดอก ผมในฐานะคนคิดเกมส์ก็เลยตัดสินใจว่า ไม่ต้องเล่นดีกว่า เดี๋ยวจะจับแจกไปกับคนที่บูชาเหรียญไตรภูมิธนบดีเนื่องจากมีจำนวนน้อยด้วย ก็เอาเป็นว่าคนที่จองมาก็แจกตะกรุดมหาจักรไปพร้อมกันเลย

    สำหรับตะกรุดมหาจักรครองพิภพนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นวิชาในสายของพระเจ้าจักรพรรดิ์เมื่อครั้งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเนรมิตพระองค์เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์ ท่านว่าทำยากมากต้องลงจารอักขระพระคาถาทั้งสองด้านไม่มีที่ว่างหลายสูตรหลายวิชา เป็นสายวิชาเอกด้านมหาอำนาจ สะกดและข่มคนให้รักและอยู่ในการควบคุม ท่านว่าอานุภาพก็ตามชื่อเลย ให้ใช้โดยธรรม์สุจริต อย่าเอาไปกดขี่ข่มเหงรังแกใครให้เค้ารู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ จะใช้ทางความเจริญรุ่งเรืองขึ้นละดับ เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง หรือจะใช้เวลาติดต่องานพบปะผู้ใหญ่ ให้เขาเกรงใจเรา เกรงขามนึกยกย่องเชิดชูเรา ท่านว่าตามแต่จะใช้กันเลย ท่านว่าคุยกับใครพูดอะไรก็ง่ายเพราะเขาเกรงใจเราหลายส่วน

    สำหรับคาถาบูชานั้น ท่านว่าให้ภาวนา สีหะนาทัง นะทันเตเต สั้นๆเพียงเท่านี้ก็พอ สำหรับท่านที่จองมาแล้วก็ยินดีด้วย สำหรับปีนี้ก็แจกตะกรุดมหาจักรครองพิภพ ซึ่งหยิบมาดูรอยจารเห็นแล้วรักเลย ท่านที่ไม่ได้ก็เอาไว้ลุ้นกันอีกทีปีหน้าจะมีรายการใดพิเศษเช่นนี้มั้ย พอดีมันนฉุกละหุกนิดนึงวันเกิดปีนี้ก็เลยไม่ได้ถือโอกาสเล่นเกมส์ ไว้รอเล่นเกมส์รอบอื่นของเดือนนี้หรือรอวันเกิดปีหน้านะครับติดตามว่าจะมีอะไรให้ลุ้นกัน

    * สำหรับราบยการนี้ท่านที่จองไม่ต้องโอนค่าส่งเพิ่มแต่อย่างใดนะ เพราะจะจัดส่งให้พร้อมกัน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2016
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    ก็มีคำถามที่น่าสนใจเข้ามาอยู่ โดยผู้ถามนั้นได้มีความสงสัยเกี่ยวกับเรื่ององค์เทพ ว่าเครื่องมงคลหรือวัตถุมงคลที่เป็นรูปเทพเจ้านั้น สามารถใช้ผงกระดูกผีหรืออะไรก็ตามที่เป็นพรายมาสร้างได้ด้วยหรือไม่

    เรื่องนี้ก็เรียนถามและตอบไปแล้ว แต่เห็นว่าเป็นประโยชน์gราเลยจะยกมาพูดคุยกัน

    ก่อนอื่นก็ขอให้ทุกท่านพิจารณาถึงความสมควรก่อนในระดับแรก หากถามว่าทำได้มั๊ย คือตอบแบบง่ายๆส่งๆไปเลยว่าไม่มีอะไรที่มนุษย์ทำไม่ได้ ยิ่งทำให้ดูแรง ดูเฮี้ยน แบบนี้เขายิ่งทำ ไอ้ที่d]hkบอกกล้ายอมรับนั้นถือว่ายังดี ที่แย่หน่อยคือยังมีที่นำมาผสมโดยไม่บอกอยู่ด้วย

    พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าแค่คำว่าเทพก็แตกต่างกันโดยภพภูมิอยู่แล้ว เทพจริงๆนั้นเค้าไม่ชอบอะไรที่สกปรก เหม็นสาป อย่ารังแต่ไปพูดถึงซากศพเลย แค่สภาพแวดล้อมในโลกมนุษย์ก็แย่เต็มทีแล้ว

    เมื่อได้คำตอบเช่นนี้ทำให้เราเข้าใจว่ามันคืออะไร แล้วอย่างรูปพระศิวะบ้าง พระแม่กาลีบ้าง รูปพระหนุมานบ้างอะไรต่างๆที่มีการผสมด้วยพรายในการจัดสร้างก็ตาม หรือมีการนำปั้นเหน่งหัวกระโหลกมาแกะเป็นรูปองค์เทพก็ตามเช่นพระศิวะ พระเคณศ พระราหู พระแม่กาลี ขุนแผน เรียกได้ว่ามีเยอะแยะมากมายจริงๆ เมื่อเป็นเช่นนี้สิ่งที่จะมาอยู่คืออะไร หากจะมีฤทธิ์หรือปาฏิหาริย์ใดเกิดขึ้นก็คงเป็นไปด้วยอำนาจของภูติผี ไม่ได้สำเร็จด้วยเทพเจ้าอย่างแน่นอน

    พ่ออาจารย์ท่านจึงบอกว่าอยากทำอะไรก็ได้ แต่ควรคำนึงถึงฐานะและความสมควรด้วย สมมติเราเอากระโหลกผีมาแกะเป็นพระศิวะแล้วนำมาเสกอ่านโองการเชิญท่านอย่างดี แล้วคุณคิดหรือว่าพระองค์จะลงมาแย่งที่อยู่ผีหรือสัมภเวสี

    อันนี้ก็สำคัญนะ ความจริงเราควรจะใช้ปัญหาพิจารณาหลายๆอย่างโดยเฉพาะเรื่องมวลสารนี่แหละ สำคัญเลย อย่าเอาแค่ความสวยงามดูมันแรงดี เฮี้ยนดี น่าขนลุกดี เพราะทุกวันนี้เครื่องรางของขลังนั้นพัฒนาไปไกลกว่ายุคของพ่อแม่ครูอาจารย์ทั้งหลายในอดีตแล้ว เอามาเพื่อให้ใช้งานเพื่อความสะดวก แต่ก็ควรอยู่ในระดับพอดี

    บางที่นี่น้ำมันพรายหรือน้ำมันว่านดอกทองเป็นขวดเสปรย์เลย คือพร้อมใช้เขาว่าให้ฉีดตัวเองหรือไปเที่ยวก็ให้ฉีดคนอื่น มันน่ากลัวขนาดนี้นะคือทำมาเพื่อฉีด เพื่อทำร้ายคนเลย ที่กลัวคือคนที่เขาไม่รู้ไปซื้อและพาลไปทำตาม เพราะความรู้ตัวนี้ อย่างน้ำมันพรายปกติจะเอาไว้ป้ายคนอื่นให้หลง แต่หลังๆมันเพี้ยนถึงขั้นฉีดตัวเองให้เป็นเสน่ห์ เอาไปผสมสีผึ้งเคี่ยวมาทาปากก็มี ใช้น้ำมันพรายบ้างผงกระดูกบ้าง น้ำเลือดน้ำหนองของปฏิกูลทั้งนั้น หากไม่คิดถึงอาถรรพ์ร้ายเพียงแค่ทำเอาแรง แค่พิมพ์ก็ไม่กล้าคิดตามแล้ว น่าขนลุกจริงๆ เพราะเวลาเกิดผลเสียหรือพรายให้โทษ ตามแก้กันนานเป็นปัญหาใหญ่ทีเดียว

    บางที่ทำผงมาให้ผสมน้ำผสมอาหารให้คนกินให้เกิดเสน่ห์รักหลง แต่ผงขาวๆนั้นผสมกระดูกบ้างอะไรบ้าง คือความเจริญและเทคโนโลยีตรงนี้มันก้าวหน้าจริงๆ ผลิตภัณฑ์ผมขอใช้คำนี้นะว่ามันคือผลิตภัณฑ์ทางไสยศาสตร์ก็ก้าวหน้าไปด้วย มีทั้งในรูปแบบแป้ง ผง น้ำมัน น้ำหอม สารพัดเลย เราลืมจุดยืนกันไปหรือไม่ว่า สิ่งที่เราหาคือเครื่องมงคล วัตถุมงคล

    เสมือนเราหามงคลคือความดีงามมาใส่ตัวเอง เราไม่ได้หาเครื่องอัปมงคลหรือเสนียดเดรัจฉานวิชาฝ่ายต่ำมาเสริมส่งตัว เช่นนี้การไปนำมาก็ผิดวัตถุประสงค์เสียแต่เริ่มแล้ว

    ทีนี้ก็กลับมาเข้าเรื่องกัน ว่าสมควรมั๊ยที่ไปเอาธาตุขันธ์มนุษย์มาสร้างรูปเทพเจ้า ก็เอาว่าแล้วแต่คนมองแล้วกัน สำนักที่สร้างอย่างไรเสียเขาก็คงจะมีเหตุผลมาบอกว่าดี ไม่เป็นไร คุมอยู่กันไว้แล้ว แต่นั่นคือคำพูดเขา สิ่งที่ตกกับเรานั้นคือความเสี่ยง เราต้องการที่จะเสี่ยงถึงขนาดนั้นๆจริงๆใช่มั๊ยก็ต้องพิจารณากันไป พูดมากก็ไม่ดีเพราะคนคนเสียผลประโยชน์กันเยอะ

    ก็มาพูดคุยกันพอเป็นสาระ เป็นห่วงน้องๆหลายๆท่านที่ไปเจอมา ไปเช่ามาแล้วมาถามมาปรึกษา นอกจากคำว่าเห็นใจหรือแนะนำอะไรเท่าที่พอทำได้แล้ว เราไม่สามารถช่วยใครได้มากกว่านี้เลย เพราะเขาไปหาเรื่องมาใส่ตัวเอง ทางที่ดีก็คือพูด เตือน ให้สติ ให้อ่าน อาจจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่เมื่อเจอหรืออยากได้ จะได้ฉุกคิดทันว่ามันสมควรหรือไม่ ยิ่งในกรณีเทพเจ้าหรือรูปสิ่งศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงทั้งหลาย ไม่ต้องถามเลยว่าจะขอส่งมาให้ท่านเสกท่านปลุกใหม่ได้มั๊ย ถ้าทำมาจากสิ่งปฏิกูลพวกนี้ก็เอาไปทางอื่นเถอะ ไม่อยากจะใช้คำว่าให้นำไปทิ้งเลย เห็นมั๊ยเพราะเป็นรูปพระรูปเทพทำอะไรก็ลำบากใจทั้งนั้น ดังนั้นต้องคิดกันดีๆก่อนไปเอาเข้ามา พึงคิดไว้ว่า เขาก็อยู่ของเขา เป็นเราที่ไปดึงเขามาในชีวิต
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2016
  11. rungsun2503

    rungsun2503 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    371
    ค่าพลัง:
    +1,185
    ผมโอนเงินบูชาเหรียญหล่อไตรภูมิธนบดีและตะกรุดขุมทรัพย์แพะทองคำให้แล้วครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    เจตนา

    วันนี้เราจะมาพูดกันถึงเรื่องเบี้ยแก้

    ใครเคยมีประสบการณ์เรื่องบนเบี้ยบ้าง หรือใช้ขอใช้อธิษฐานอะไรกับเบี้ยแก้บ้าง ลองยกมือขึ้น :cool:

    พอดีพ่ออาจารย์ท่านได้พูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ว่าเบี้ยแก้จริงๆนั้นเอาไว้ขอโชคขอลาภ ขออะไรก็ได้ ผมก็เลยเกิดอคติว่ามันต้องเป็นเฉพาะเบี้ยแก้ยุคเก่าๆหรือเปล่า ของใหม่ๆคงทำแบบนั้นไม่ได้

    ซึ่งเรื่องนี้ท่านอธิบายว่า การทำเบี้ยนั้นต้องใช้หอยที่มีฟัน 32 ต้องรู้จักเสกปรอทให้มีชีวิต ต้องเรียกอาการและทำให้เบี้ยมีชีวิต ดังนั้นการเสกเบี้ยแก้จึงสำคัญนัก เพราะเบี้ยนี้เป็นสัญลักษณ์ของพระศรี(พระลักษมี) เวลาพกเบี้ยห้อยเบี้ยที่พ่อแม่ครูอาจารย์สร้างขึ้นมาแต่เคร่งครัด ก็ไม่ต่างอะไรกับห้อยรูปเทวดา วิชาทำเบี้ยจึงเป็นศาสตร์เฉพาะ ยิ่งเบี้ยพระลักษมีด้วยแล้วนั้นหาคนทำสืบมามิได้เลย

    ก็คงจะเป็นเหตุผลเช่นนั้นว่าทำไมจึงอธิษฐานขออะไรกับเบี้ยแก้ก็ได้

    วันนี้เราจะมาพูดถึงเบี้ยแก้อีกรูปแบบนึง นั่นคือเบี้ยเชิงธุรกิจ พอดีได้ไปทำบุญตามต่างจังหวัดแล้วเค้ามีเบี้ยแก้ให้บูชา เราจึงเช่ามาดู คือรู้ตั้งแต่เห็นทีแรกแล้วว่านี่คือเบี้ยท่าพระจันทร์ เป็นเบี้ยแก้มีเชือกถัก อาจจะมีตะกรุดสอดบ้าง ลงสีทองเเบบสีฝุ่น บางที่ก็เอามาขายเป็นของหลวงพ่อเปิ่น อ้างไปไกลถึงหลวงปู่รอดก็มี เราก็เอามาแกะดูแล้วนึกขัน เพราะข้างในที่เขย่ามีเสียงนั้นเค้าใช้กรวดใช้ทรายบรรจุ แล้วเอาเทปกาวมาปิดแทนชันโรง ตำราเบี้ยแก้ก็เลยเพี้ยนไปหลายที่ใช้ทรายเสกบรรจุบ้างก็มีคงจะได้แนวคิดสืบมาแต่สายท่าพระจันทร์กันนี่เอง ซึ่งก็มีมานานแล้ว ได้ถามตัวพระเกจิท่านบอกว่าง่ายดี เอามาสวดมนต์ปลุกเสกก็วางขายได้ ก็เป็นเรื่องสุดแท้แต่ใจ ถ้าคิดว่าช่วยกันทำบุญบำรุงพระศาสนาก็อย่าไปคิดอะไรมาก

    ทีนี้ก็ข้ามมาอีกรูปแบบหนึ่ง อันนี้น่ากลัวนัก นั้นคือทำมาทีเยอะๆมือใครต่อใครไม่รู้ ใช้ปรอทวิทยาศาสตร์ ใช้ชันโรงจริงๆ ใช้มวลสารจริงๆ แต่ทำแบบศูนย์พระทำ ทำทีละมากๆแล้วก็ไปยัดให้พระเสกออกในนามพระโดยไม่รู้ว่าพระองค์นั้นมีวิชาทำเบี้ยหรือไม่ เพราะการเสกเบี้ยนี้มันไม่เหมือนกับการเสกพระทั่วไป ซึ่งทุกวันนี้จะเห็นกันเกลื่อนกลาดทีเดียว

    แล้วจะเอาความขลังอะไรเล่า ยกตัวอย่าง เมื่อหลวงปู่ยิ้มจะทำเบี้ย ท่านยังต้องพายเรือไปในดงหอย เลือกหอยทีละตัวๆ ดูที่มีฟัน 32 ดูที่มันมีคุณลักษณะพิเศษบางประการซึ่งไม่สามารถบอกได้ พายเรือหาไปเรื่อยๆกว่าจะได้หอยซักตัวสองตัวที่ตรงกับตำราวิชานั้นก็หมดไปเป็นวันๆ ยังไม่รวมพิธีกรรมอื่นอีกมากมาย ขนาดพระอภิญญาใหญ่แห่งยุครัตนโกสินทร์ที่มีความสนิทสนมกับหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้วซึ่งหลวงปู่บุญให้ความเคารพเช่นหลวงปู่ยิ้ม ยังพิถีพิถันถึงปานนั้น

    เดี่ยวนี้จะเป็นในทำนองว่าเปลือกหอยก็มีขายกันเป็นกระสอบ ฟันเบี้ยจะครบ 32 หรือไม่ก็ช่างมัน ปรอทก็ซื้อกันเป็นขวดเป็นโล คือกลายเป็นว่าใครก็ทำเบี้ยแก้ได้ ทำกันได้ทุกวัดทีเดียว ทีดีหน่อยอย่างน้อยตัวพระก็จะกรอกปรอทเอง อุดชันเอง แต่จะให้ไปหาหอยงมหอยให้ต้องตามตำรา ไปดักปรอทมาผ่านพิธีกรรมจนเสกให้ปรอทเป็น มีชีวิตเช่นอดีตนั้นไม่มีใครทำ ด้วยบางรูปก็อ้างสังขารว่าแก่แล้ว แต่แปลกที่ครูบาอาจารย์นั้นก็เป็นผู้รู้ราตรีนานมีวัยวุฒิสูงเมื่อปรารถนาจะทำยังต้องล่องเรือไปหาได้ ดังนั้นจึงอยู่ที่ว่ามันเป็นข้ออ้างของใครเสียมากกว่า

    เห็นมีหลายคนพอพูดถึงเบี้ยแก้แล้วกลายเป็นเรื่องธรรมดาๆไม่น่าสนใจ บางคนมีเป็นสิบเป็นร้อยลูก คือเหมือนมันเป็นของตลาดมีกันเกร่อทั่วแผ่นดินไปหมด คุณค่าในตัวของมันจึงลดลง เพราะเราไม่รู้ว่าครูบาอาจารย์แต่โบราณนั้นกว่าจะทำเบี้ยได้ซักใบ ท่านลำบากถึงเพียงไหน ใช้ระยะเวลานานหรือไม่ ทุกวันนี้กลายเป็นว่าเราชินตากันเสียแล้วกับเบี้ยแก้ นึกอะไรกันไม่ออกก็ทำเบี้ยแก้ ทำเสือ ทำหนุมานเหล่านี้ วนเวียนกันอยู่เท่านี้เรื่อยไป เมื่อพูดถึงเสือหรือหนุมานนั้นเสือแต่โบราณก็จะแกะจากเขี้ยวเสือ หนุมานก็ต้องแกะจากงากำจัดงากำจายเหล่านี้เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันเป็นของหายากถ้าจะทำกันจริงก็จะได้ปริมาณที่น้อยนักไม่พอขาย สมัยนี้มีแต่วัดคิดจะทำแม้วัสดุจะไม่มีก็จะเล่นแบบง่ายๆคือใช้ไม้มงคลเข้ามาแทนที่หรือไม่ก็หล่อโลหะเอา

    เมื่อพูดถึงเบี้ยแก้หรือเสืออะไรเหล่านี้กับหลายๆท่าน สิ่งที่ได้คำตอบมาก็คือรู้สึกเฉยๆ ทั้งๆที่แต่โบราณนั้นใครมีเบี้ยแก้ซักใบเค้าหวงกันยิ่งกว่ายอดตะกรุดหรืออะไรทั้งสิ้น เพราะมันทำยากสร้างยาก แต่กาลเวลา เทคโนโลยี ความสะดวกสบาย ยุคสมัยที่เปลี่ยนไปก็ทำให้ตำนานกลายเป็นของปาหี่กันหมด อาจจะพูดได้ว่าเป็นการอนุรักษ์ทำเพื่อให้ใครเค้ามีไว้ใช้ แต่ต้องย้อนถามกลับว่าที่ทำนั้นจริงเพียงไร อนุรักษ์หรือบ่อนทำลายวิชาของบูรพาจารย์ครั้งบรรพบุรุษกันแน่ อย่าว่าแต่คนอื่นเลยทุกวันนี้เราเห็นเบี้ย เห็นเสือวัดไหน เรายังรู้สึกเฉยๆเลย เพราะมันเหมือนเห็นภาพที่ชินตา ได้แต่เพียงคิดว่าเอาอีกแล้วหรอเนี่ย

    จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ในกลุ่มผู้รู้จะแสวงหาเบี้ยหลวงปู่บุญ หลวงปู่รอด หรือที่หายากไปอีกหน่อยเพราะท่านไม่ได้ทำเป็นกิจลักษณะคือเบี้ยของหลวงปู่เฒ่ายิ้ม ถึงใครจะปลอบใจตัวเองว่าเอาน่า มันก็เบี้ยเหมือนกันใช้ของใหม่แทนกันได้ แต่ความจริงแล้วก็ไม่เป็นดั่งที่คิดที่ควรจะเป็น ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า ของใหม่ อย่างไรก็ใช้แทนของเดิมไม่ได้ มันไม่ได้อยู่ที่อักขระและวิธีการเสกจะเรียนมาสืบทอดมาอย่างไร แต่มันผิดตั้งแต่วัตถุประสงค์ ความเพียร ความพยายาม ความตั้งใจจริงที่จะกระทำ จะเรียกว่าเจตนาไม่เสมอบูรพาจารย์ก็ได้ นั่นแหละที่ทำให้ความสบายความสะดวกมันเข้ามาแทนที่ สุดยอดเครื่องรางจึงกลายเป็นของตลาดกันมากกว่ามาก

    พูดกันตรงๆ ให้รายละเอียดให้ข้อมูลเช่นนี้เพื่อประดับสติปัญญาให้หลายๆคนฉุกคิด พิจารณาว่าจริงหรือไม่ แน่นอนว่าย่อมมีคนเสียผลปรโยชน์ แต่เราก็เอาเฉพาะคนที่รักๆกันคอยตามอ่านกันนี่แหละ รู้ไว้ใช่ว่า หลายๆท่านก็ชอบไปทำบุญต่างจังหวัด เชื่ออย่างยิ่งว่าคงเคยมีประสบการณ์เจอเบี้ยท่าพระจันทร์วางขายตามวัดกันแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มิถุนายน 2016
  13. rungsun2503

    rungsun2503 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    371
    ค่าพลัง:
    +1,185
    ได้รับเหรียญหล่อไตรภูมิ พร้อมตะกรุดมหาจักร และตะกรุดขุมทรัพย์ ครบแล้วครับ อยากทราบว่าผงที่เจิมหน้าองค์พระเป็นผงอะไรครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    ได้จัดส่งเหรียญหล่อไตรภูมิไปหลายเหรียญ องค์พระวรรณณะสดใสสวยงามทุกองค์เลยจริงๆ บางคนรับไปแล้วมาถามว่าเนื้ออะไร แปลกตาไม่เคยเห็นก็คาดคะเนหาคำตอบกันไปว่าน่าจะเป็นบารมีของเหล็กไหลรูปพรรณสัณฐานต่างๆ ก็สวยงามคละๆกันหลากหลายสี รู้แต่เพียงว่าผูู้ที่ได้ครอบครองนั้นต้องถึงพร้อมด้วยวาสนาบารมีจริงๆ บูชากันดีๆ

    สำหรับพระเนื้อธาตุกายสิทธิ์นี้ก็อยากให้อาราธยาไว้ติดตัว ห้อยได้ก็ควรจะห้อย บางคนเรียกว่าเนื้อเหล็กสำเร็จบ้าง เนื้อเหล็กไหลบ้าง ซึ่งเมื่้อได้รับไปอาจจะมีอาการแปลกๆบ้างช่วงหนึ่งเพราะกายสิทธิ์และเทพยดาตลอดจนครูบาอาจารย์ทั้งหลาย ท่านจะทำการปรับธาตุขันธ์รักษาสมดุลย์ร่างกายต่างๆให้ตัวเรา บางคนก็มีอาการปวดหัวหน้ามืด บางคนก็ไข้ขึ้น หรือบางคนก็รู้สึกว่าสวมแล้วองค์พระอุ่นขึ้นมาทั้งๆที่เลี่ยมหรือถึงกับร้อนไปเลยก็มี อันนี้ก็ไม่ต้องตกใจเพราะจะเป็นในช่วงเวลาสั้นๆ ทนให้ผ่านจุดนั้นให้ได้ บางคนถูกคุณถูกของหน้าหมองคล้ำ ดวงตกหรือทำอะไรไม่ขึ้น ผ่านจุดนี้ไปจะดีขึ้นทุกคน เหมือนเราเชิญบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาอยู่กับเรา ถ้าร่างกายเรามีอะไรไม่ดีท่านก็ต้องปรับ ขับออก แต่ถ้าไม่มีอะไรมันก็จะเป็นปกติไม่มีอาการอะไรทำนองนี้

    อันนี้จtต้องแจ้งอีกที เห็นหลายคนเล่าให้ฟังกันว่ามีอาการที่ผมใช้ศัพท์เรียกว่าปรับธาตุเหล่านี้เกิดกับร่างกายตัวเอง บางคนจะรีบถอดออกเพราะไม่รู้ ไม่อยากให้กระบวนการตรงนี้มันหยุดชะงักไป อยากจะให้ปล่อยไปตามธรรมชาติ
     
  15. nightman161

    nightman161 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +97
    แจ้งโอนเงินครับ รายละเอียดใน PM นะครับ ขอบคุณครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    สำหรับที่โอนมาแล้วเนื่องจากมีฝากเลี่ยมด้วย เดี๋ยวผมรอร้านเขาเลี่ยมแล้วจัดส่งอีกทีนะครับ
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    ขอลาภ

    สำหรับผู้ที่บูชาองค์พระเจ้าไตรภูมิธนบดีไป ก็อย่าลืมภาวนาคาถาขอลาภกัน ย้ำว่าควรภาวนาท่องจำให้ขึ้นใจท่านว่าขอได้ตลอด ขอได้ทุกสิ่ง ปรารถนาลาภสักการะประการใดก็ตั้งจิตตั้งใจระลึกไว้ให้ดีขอกับพระสีวลีท่าน

    สีวลีจะมหาเถโร พหรมมาอินโท จะ เทวะตา จะ สัพพะราชา สัพพะอิตถิยา สัพพะนะมามิหัง

    ท่านว่าควรจดจำไว้ใช้ภาวนาให้คู่กัน การขอลาภนี้ท่านหมายรวมถึงลาภทุกสิ่ง ทั้งลาภสัตว์สองเท้า สัตว์สี่เท้า ทรัพย์สินศฤงคารทั้งปวง ท่านว่าแล้วแต่จะใช้ตามใจปรารถนา
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    พูดคุย

    ก็มาพูดคุยกันสบายๆ มีหลายเรื่องที่พูดได้รวมถึงหลายเรื่องที่ไม่ควรเล่าออกไป แต่ก็จะมาพูดคุยกันคร่าวๆ

    พ่ออาจารย์ท่านเปรยมาตลอดว่าดวงพระวิญญาณองค์บูรพกษัตริย์เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินในหลายๆราชวงศ์ที่ยังรักยังห่วงสายเลือดไทยด้วยกันอยู่ ท่านมักจะแวะเวียนมาเตือนและแสดงกิริยาหดหู่นัก ด้วยว่าเบื้องหน้าประชาชนจะได้ยากหนักหนา วันนี้ที่ว่าร้อนว่าเข็ญการณ์นั้นก็ยังหาสู้เหตุภายหน้าไม่ได้ ไม่อยากเห็นน้ำตาคนไทยด้วยกัน ตรงนี้ก็อยากให้ใช้กำลังใจพิจารณากันเอง ท่านว่าเราสายเลือดไทยจะให้ตกต่ำไปนั้นก็ไม่สมควร จะต้องดีต้องยืนหยัดสู้ทุกอย่างได้ พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าตรงนี้หากใครเคารพเทิดทูนอดีตบูรพกษัตริย์ไม่ว่าจะราชวงศ์ใด พระองค์ใดก็ตาม เช่น พ่อขุนผาเมือง พ่อขุนเม็งราย พระนางจามเทวี พระนเรศวร พระเอกาทศรถ เสด็จพ่อรัชกาลที่ห้า หรือเจ้าฟ้าองค์อุปราชกรมพระราชวังบวรสถานมงคลในรัชกาลต่างๆ เป็นต้น ท่านว่าจิตเราผูกพันธ์กับพระองค์ใด ให้รักและเอาใจยึดเหนี่ยวท่านไว้ ท่านมีเมตตากับคนร่วมเชื้อชาติเต็มที่อยู่แล้วจะช่วยเหลือสิ่งใดท่านว่ารับรอง ว่าขอได้ ไหว้รับทั้งสิ้น อันนี้ก็บอกกันไว้ก่อนไม่ต้องรอให้ถึงเวลานั้น เพราะปกติแล้วเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าทุกคนนั้นมีคุณธรรมกำกับความความคิดและการกระทำ และสวดมนต์ไหว้พระ รักษาศีลกันทุกคน พ่ออาจารย์ท่านบอกว่า ธรรมมะย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม พ่อแม่ครูอาจารย์ตลอดจนเทพยดาเจ้าทั้งหลายก็เช่นกัน หากรักนับถือผูกพันธ์กันแล้ว แม้ตายท่านก็ไม่ทิ้ง ความจริงก็อยากให้ช่วยกันสวดมนต์แผ่เมตตากันเยอะๆได้มีหลายๆแรงจะยื้อหรือผ่อนปรนให้หนักเป็นเบาไป ยิ่งถ้าไม่ต้องเกิดได้จะยิ่งดีทีเดียว เรื่องนี้ก็ฝากๆกันไว้ท่านว่าจะได้รอดเสมอหน้ากันทุกคน

    ก็มาพูดคยกันต่อ เกริ่นมาซักพักแล้วเรื่องของสีผึ้ง ความจริงต้องเรียกว่าสีผึ้งนั้นเป็นวิวัฒนาการของไสยศาสตร์แบบประยุกต์ก็ได้ โดยแต่เดิม พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าคนมักจะเอาสีผึ้งนี้ไว้สีปากกันปากแตกเวลาหนาวหรือปากแห้งนี่ก็คือคุณของสีผึ้งอย่างหนึ่ง สืบต่อมาคนที่นิยมวิชาทางเมตตามหานิยม สาริกาลิ้นทอง เสน่หาเจรจาพาทีต่างๆ ก็ได้ประยุกต์สีผึ้งธรรมดานี้ให้มีอาถรรพ์ขึ้นมาเพราะไหนๆก็ใช้ป้ายปากกันปกติอยู่แล้วก็เลยนิยมไปว่าจะทำให้เกิดอิทธิคุณแฝดไปในทีเดียว ด้วยการนำยาตลอดจนว่านอาถรรพ์ ผงวิเศษต่างๆมาต้มผสมไปเวลากวนด้วยมนต์พระเวทย์ ที่ว่าเมื่อกวนเสร็จนำมาลงอักขระกวนซ้ำแล้วซ้ำอีกก็มี มีการกำหนดวัสดุอุปกรณ์พระยันต์อักขระที่จะลงในหม้อไม้พายตลอดจนฝืนจะใช้อะไรขึ้นมามากมายตามแต่ละสายจะคิดค้นขึ้นมา ต่างกันที่ความยากง่ายของมวลสาร มีทั้งสายขาวสายดำ ตั้งแต่หุงด้วยฝืนไม้มงคลไปจนถึงหุงด้วยกระโหลกมนุษย์

    ทีนี้พอพูดถึงขี้ผึ้งหรือสีผึ้งในยุคสมัยนี้ คงไม่มีใครมานั่งคิดว่าเป็นของใช้ปกติมีไว้สีปากกันแล้ว เพราะมันหมดยุคสมัย คงจะมีแต่คนยุคปู่ย่าที่จะใช้กันแต่ก็หาได้น้อยเต็มที เพราะถ้าจะใช้แบบนั้นก็คงจะทาลิปมันกันไปแล้วนั่นเอง ดังนั้นยุคนี้เมื่อกล่าวถึงสีผึ้งก็ทำให้นึกได้อย่างเดียวว่าเป็นเครื่องรางของขลังเท่านั้น

    พ่ออาจารย์ท่านว่าโลกปัจจุบันนี้ ได้เข้าถึงยุคแห่งความเสื่อมอย่างแท้จริง ท่านว่าไม่ต้องไปดูอะไรไกล เอาแค่สีผึ้งสีปากคนยังถูกดัดแปลงผสมมวลสารจากศพสารพัดที่จะกวนด้วยน้ำมันพราย น้ำเหลืองศพ ไขสมองผงกระดูกต่างๆบรรดามี จากสีผึ้งสีปากคนตามที่พ่อแม่ปู่ย่าเขาใช้กันและดัดแปลงเพื่อให้เกิดเป็นอิทธิคุณแฝดทางเมตตามหานิยม กลับกลายเป็นว่าใช้ป้ายใช้ดีดเพื่อหวังผลทางกามราคะสนองตัณหาชั่วครั้งชั่วคราว โดยหาได้เข้าใจหรือใส่ใจไม่ว่าที่ใช้นั้นคือเดรัจฉานวิชา มันคือสัมภเวสีผีไร้ญาติ ถ้าผีดีๆมีญาติเขาไม่ให้ใครมาทำกับศพญาติเขาเช่นนี้ ยิ่งผู้ใช้เองก็ไม่ได้เป็นนายผีไม่ได้คุมไม่มีอาคมใดๆ สุดท้ายแล้วจะเหลืออะไร ก่อนจะป้ายให้ซึมเข้าเนื้อเข้าหนังใคร ก็มือตัวเองนั่นแหละที่จับที่ต้อง ก่อนจะซึมเข้าผู้อื่นก็สะสมอยู่ในร่างกายตนเสียแล้วไม่ต้องถามเลยว่าผีมันจะตามใคร

    ท่านว่าเช่นนี้มันได้ไม่คุ้มเสีย บางคนสืบทอดลูกหลานด้วยหวงแหน จะทิ้งหรือก็เสียดาย เอาไปเก็บๆไว้พอตัวเองตายคนนึงเข้า ใครเขาจะใช้เป็น เขาไม่รู้ว่าเป็นอะไร เห็นเป็นของในบ้าน พ่อเขาใช้ ปู่เขาใช้เขาก็เอามาพกมาใช้ต่อไป กลายเป็นตนเองนั้นได้สร้างวาระกรรมขึ้นให้สืบทอดต่อไปในอนาคต เอาของเช่นนี้ให้กับคนที่ตนรักได้อย่างไร เช่นนี้ตายไปก็ไม่มีความสุข ด้วยว่ายังมีห่วงมีกรรมอีกไม่รู้จบนั่นเอง ที่หนักไปกว่านั้นสีผึ้งหรือน้ำมันทั้งหลายนี้บางคนก็อยากจะทิ้งให้พ้นมือไป แต่ไม่รู้จะทิ้งอย่างไร ใจนึงก็เสียดาย จึงนำไปบริจาคให้ตามวัดเวลาสร้างพระหรือระดมมวลสาร เค้าก็จะเอาไปผสมในเนื้อพระ จึงเป็นต้นเหตุที่ว่าพระรุ่นต่างๆบางรุ่นไม่มีพราย แต่เหตุใดกลับมีวิญญาณอาฆาต มีสัมภเวสีผีไร้ญาติถือครองอยู่ภายใน

    กลับกันตรงกันข้ามในไสยขาว สีผึ้งที่ปราศจากอันตรายซ้ำยังมีอิทธิคุณแรงกล้าเกินกว่าน้ำมันพรายก็ยังมีอยู่ หากแต่ว่าไม่นิยมทำหรือสร้างกันด้วยว่ามวลสารนั้นรวบรวมยากบ้าง ทำไม่เป็นทำไม่ได้บ้าง อยากจะทำของอาถรรพ์ให้สำเร็จง่ายๆจึงใช้ผีใช้วิญญาณอาถรรพ์มาทำ บางคนบอกว่าสีผึ้งไม่มีพรายเพราะกลิ่นนั้นหอมเสียเหลือเกิน จะไม่หอมได้อย่างไร อยากได้กลิ่นอะไรก็เอากลิ่นนั้น เขาก็ผสมน้ำหอมน้ำอบหรือหัวน้ำหอมเอาตามใจชอบ เอาว่าน่าใช้หอมเตะจมูกกันเลยทีเดียว

    ก็กล่าวถึงคร่าวๆทำความเข้าใจเรื่องสีผึ้งกัน อยาคิดว่าเป็นสีผึ้งแล้วเช่าหาทันที ควรดูให้ดีว่าของใคร มีมวลสารเช่นไร และความต้องการจริงๆของเราหรือผู้ใช้คืออะไร

    ก็พูดคุยกันสบายๆรอบเย็นมีประสบการณ์หลายเรื่องแจ้งเข้ามา บางคนก็บอกว่าช่วงนี้ชีวิตดีเจอสิ่งดีๆหลายๆเรื่องเรียกว่าสวนกระแสสังคมทีเดียว ล่าสุดเพิ่งโทรมาหลังจากบูชาพระธนบดีไปบอกว่าได้ขอลาภกับองค์พระสีวลีวันนี้ถูกหวยมีกำลังใจขึ้นมาก็เพิ่งจะยินดีด้วยไปได้ซักครู่ มีหลายๆเรื่องยังไม่ได้ขออนุญาติเจ้าของประสบการณ์ เดี๋ยวไว้จะขอและนำมาทยอยเล่า ปกติเราเผลอหลุดเล่าทีไรก็จะโดนเหน็บตลอดว่าเจ้ากรณ์เอามาแฉอีกแล้ว บางอย่างเป็นเรื่องส่วนตัวก็เริ่มจะเข้าใจว่า เออเรื่องของใครเค้าบางทีก็อยากให้เป็นความลับหรือไม่อยากให้ใครรู้ก็เป็นสิทธิของเค้า

    สุดท้ายอันนี้อยากฝากกันอีกครั้งเรื่องรักษาศีล สวดมนต์ ภาวนา และแผ่เมตตา เรื่องเหล่านี้ช่วงนี้อยากให้เคร่งครัดปฏิบัติกันให้มากหน่อย มันไม่ใช่สิ่งเสียหายหรือจะมากไปจนเราทำหรือปฏิบัติไม่ได้ เมื่อทำแล้วมันไม่ใช่ดีกับเราแค่คนเดียว หลายคนบอกทำแล้วชีวิตแย่ลง ไม่มีการปฏิบัติธรรมใดๆจะทำให้ใครแย่ลงได้นอกจากกรรมตัวเองมันเปิด บางครั้งอาจจะแย่ลงบ้างในช่วงสั้นๆแต่จะดีในระยะยาวเสมอ ก็อยากให้ทำความเข้าใจตรงนี้ไว้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 035.jpg
      035.jpg
      ขนาดไฟล์:
      139.7 KB
      เปิดดู:
      69
    • S__8151141.jpg
      S__8151141.jpg
      ขนาดไฟล์:
      71.4 KB
      เปิดดู:
      87
    • Capture.PNG
      Capture.PNG
      ขนาดไฟล์:
      427 KB
      เปิดดู:
      78
    • 1403875688.jpg
      1403875688.jpg
      ขนาดไฟล์:
      112.1 KB
      เปิดดู:
      370
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มิถุนายน 2016
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    พรหมฤาษี

    อรุณสวัสดิ์ครับ

    มีเรื่องบรมครูพรหมฤาษีนารทมาเล่าสู่กันฟัง อย่างที่ทราบกันอยู่แล้วว่าท่านถูกยกเป็นยอดของครูเสน่ห์ด้วย คงเนื่องจากบารมีเฉพาะตัวที่แผ่ออกมาทำให้ผู้บูชาถือครองดูมีเสน่ห์มีมหานิยมเพิ่มมากขึ้น

    ทีนี้เรื่องของเรื่องเลยมีพี่ท่านหนึ่งโทรมาเล่าให้เราฟังว่า มีปัญหาเรื่องการจีบสาวและเข้าไปพูดคุยกับเค้า เนื่องจากพี่ท่านนี้เคยบูชาปู่นารทไปเราจึงหยอกเขาว่าให้ลองขอท่านดูสิ ถ้าคู่กันแล้ว ยังไงก็ไม่พ้น เวลาสวดคาถาบูชาและอธิษฐานก็หมั่นอธิษฐานขอไป พูดถึงเขาว่าชอบใครขอไปเลย ให้ท่านเปิดดวงเรื่องคู่ครองให้

    ทีนี้หายเงียบไปโทรหาเราอีกทีไม่ขอคำปรึกษาใดๆแล้ว เค้าว่านี่เลยเสือติดปีกนอกจากจะได้แฟนสมใจแล้ว ตอนนี้ทำงานมีลูกค้าน่ารักหลายๆคน พองานจบก็ยังคุยกันต่อแบบแซวกันจีบกันจากหนึ่งเป็นสอง จากสองเป็นสาม มันได้ทั้งมิตรภาพและดูเหมือนเค้าจะเกินเลยมากกว่าการคุยเล่น พี่เค้าว่าเกิดมาไม่เคยเจออะไรมันจะลงล๊อคเข้ามาพร้อมๆกันเช่นนี้จนคิดเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากจะเป็น สิ่งที่ขอจากปู่นารท

    เรื่องเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์อะไรทำนองนี้ความจริงสายฤาษีนี่ต้องบอกว่าแน่นอน และกินขาด ส่วนตัวถ้าจะหาของที่บูชาแล้วขึ้น คือเอาความสำเร็จไวๆ ก็ต้องเล่นสายเทพ สายฤาษีนี่มาก่อนเลย บนบอกขอได้ไหว้รับ ถ้าใช้เป็น ใช้ถูกที่ มีแต่ดีกับดี เพราะว่าเค้าช่วยได้มากกว่าและไวกว่าสายพระ

    พ่ออาจารย์ท่านว่าเครื่องมงคลต่างๆถ้าเป็นรูปพระโดยทั่วไป จะเชื่อกันว่ามีเทพยดาคุ้มครองอยู่ แต่จุดนั้นแม้จะเป็นเทพ ก็เป็นเทพรักษาพระพุทธศาสนา เทพเหล่านี้เป็นธรรมบาล เวลาขอบนบอกสิ่งใดก็ต้องเป็นไปตามทำนองคลองธรรมไม่ขัดกฏแห่งกรรม แม้จะเป็นเทพก็ตามแต่เพราะฐานะหน้าที่ สิ่งทีทำได้ก็ยังจำกัดอยู่มากนัก

    ใครที่มีก็ลองขอลองใช้กันดู คืออธิษฐานได้รอบด้าน พรหมฤาษีนารทนี้ฝ่ายไทยเชื่อว่าท่านเป็นครูหมอน้ำมนต์นะ หากมีใครป่วยด้วยโรคประหลาดหรืออะไรที่มันรักษายาก ลองอาราธนาท่านลงน้ำทำน้ำพระพุทธมนต์ สวดพระคาถาซัก 108 คาบ อธิษฐานขอน้ำทิพย์ ยาทิพย์จากท่านดู ตรงนี้แม้จะค้าขายหรือเจรจาว่าความทำการอะไร ก็ลองทำดู ขอน้ำมนต์จากท่านดื่มกิน ของดีอยู่ใกล้แค่เอื้อมเลยถ้าคิดจะทำ เพราะน้ำมนต์ของปู่นารทนั้นท่านว่าดีที่สุดในโลก อันนี้แนะนำเลย ไม่ต้องไปวัดไหน ไม่ต้องไปขอจากใคร น้ำมนต์ที่ดีที่สุดในโลกเป็นน้ำมนต์แก้วสารพัดนึก เราทำได้ด้วยตัวเอง ถ้ามีพรหมฤาษีนารทที่บูชาไปลองทำกันดูนะ

    * ก็ขอบารมีพ่อปู่พรหมฤาษีนารทผู้เป็นมหาปชาบดีนั้นคุ้มครองลูกหลาน คิดสิ่งใด ทำอะไรก็ขอให้ประสบความสำเร็จกันนะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มิถุนายน 2016
  20. nightman161

    nightman161 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +97
    แจ้งโอนเงินครับ รายละเอียดใน PM ครับ ขอบคุณครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...