ร่วมทำบุญบูชา สำเร็จสิทธิพระที่นั่งมหาบัลลังก์(ปรารถนาเป็นหนึ่งกุณฑธานเถระ) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    ใครจะฝากอะไรpmไว้นะครับ
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    ก็กลับจากไปทำบุญไหว้พระมา อนุโมทนาร่วมกันนะ;)
     
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    พรุ่งนี้มาติดตามกันนะครับ ห้ามพลาด กับปฐมบทแห่งตำนานซึ่งยากที่จะมีใครกล้าสร้างกล้าทำ ใครที่เคยพลาดพ่องั่งนั่งแพะ หรือพระเพชรจำแลง ติดตามกันดีๆ
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วันนี้ห้ามพลาดกันนะ กับพญางั่งเป็นหนึ่งเศียรโล้นสำเร็จกุมาร{(ภาคหากิน)ฝังประคำโทนแทนครู ธิดาสรวง} ติดตามดีๆ
     
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623


    ร่วมทำบุญบูชา พญางั่งเป็นหนึ่งเศียรโล้นสำเร็จกุมาร{(ภาคหากิน)ฝังประคำโทนแทนครู ธิดาสรวง}

    ...มหาธาตุกายสิทธิ์ลงถม เป็นหนึ่งในศาสตราวิชาครูที่พ่ออาจารย์ท่านจะไม่ทำโดยปกติ ซึ่งนับว่าเป็นการกระทำที่ใช้ความเพียรพยายามอย่างมาก พ่ออาจารย์ท่านว่ากว่าจะสำเร็จเป็นพญางั่งเศียรโล้นนั้น ต้องผ่านอะไรต่อมิอะไรมามากมาย นั่นคือท่านต้องนำธาตุกายสิทธิ์มาเทเป็นพระขุนแผนก่อนจากนั้นจึงนำมาปลุกเสก และนำพระนั้นมาเคี่ยวด้วยไฟพระเวทย์ หล่อหลอมและเทใหม่เป็นพญาแผนแสนพลพ่ายซึ่งไม่ใช่รูปทรงพิมพ์พระพุทธเจ้า เมื่อเสร็จแล้วจึงทำการอัดวิชาเมตตามหาเสน่ห์ตามสายฆราวาส และหลังจากนั้นก็นำมาเคี่ยวและหล่อหลอมใหม่ เทเป็นพญางั่งเศียรแหลม อัดวิชาพ่องั่งผู้เป็นเอกในจักรวาล ก่อนจะสิ้นสุดด้วยการเทพญางั่งเศียรโล้นภาคสำเร็จกุมาร ท่านว่านี่คือมหาธาตุศักดิ์สิทธิ์ลงถม ทุกอย่างมีฤกษ์ยาม ทำได้ยากอย่างยิ่งกว่าจะสำเร็จนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

    พ่ออาจารย์ท่านว่าที่ผ่านมานั้นหลายคนมีความทุกข์ ทุกข์จากความต้องการของตัวเอง นั่นคือสิ่งที่ประสบอยู่มันสวนทางกับความต้องการของตน ไม่ได้ทุกสิ่งเสมอใจบ้าง ทุกข์จากปัญหาความรักบ้าง ทุกข์เกิดจากสังคมแวดล้อมบ้าง ทุกข์เกิดจากอาชีพการงานและปัญหาเศรษฐกิจปัญหาครอบครัวบ้าง ท่านว่าแต่ละคนนั้นก็มีปัจจัยปัญหาแตกต่างกันไป อันขึ้นชื่อว่าเกิดมาเป็นมนุษย์นั้นจะหาที่สมบูรณ์พร้อมได้ก็ไม่มี กอปรกับหลายคนถามถึงพญางั่งนั่งแพะและพระเพชรจำแลงซึ่งมากมีประสบการณ์กันเข้ามาว่าจะหาเครื่องรางแบบนี้ได้ที่ไหนอีก พ่ออาจารย์ท่านจึงให้เปิดเผยเรื่องราวของพญางั่งเป็นหนึ่งเศียรโล้นสำเร็จกุมาร(ภาคหากิน) ท่านว่านี่คือที่สุดของวิชาในสายของพญางั่งแล้ว แม้วิธีการจะสร้างและทำนั้นก็ยากอย่างยิ่ง ทำไมต้องเป็นงั่งเศียรโล้น งั่งสำเร็จกุมาร หลายคนคงสงสัยกันในจุดนี้

    พญางั่งเศียรโล้นนั้น ต้องบอกก่อนเลยว่าไม่ใช่ของต่ำ ไม่ใช่เดรัจฉานวิชา หากแต่เป็นพญางั่งที่อัญเชิญนิรมาณกายขององค์พระสยมลงมา พ่ออาจารย์ท่านอธิบายว่าหลายๆคนที่มีความทุกข์ยาก ทำคุณคนไม่ขึ้น ใช้ของไม่ขึ้น ไม่ประสบความสำเร็จในความรัก ในหน้าที่การงาน ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตหรือในสิ่งใดๆเลยก็ดี สิ่งเหล่านี้ท่านว่างั่งเศียรโล้นนั้นแก้อาถรรพ์ พลิกดวง ขับเสนียด ทำลายสถานการณ์ตกอับเหล่านั้นได้ทั้งสิ้น


    ท่านเมตตาเล่าให้ฟังว่า ความต่างของพญางั่งธรรมดาที่มีเศียรแหลมกับพญางั่งเศียรโล้นนั้นมีความต่างกันอยู่มากมายมหาศาล และเพราะความต่างนี้ตลอดจนหาผู้รู้จริงที่จะสร้างจะเสกงั่งเศียรโล้นจริงๆไม่ได้ ภายหลังครูบาอาจารย์จึงไม่นิยมสร้างกัน จะมีสร้างกันก็เฉพาะงั่งเศียรแหลมนั่นเอง


    ที่ว่าต่างกันนั้น ต่างกันอย่างไร เพราะพญางั่งเศียรโล้นนั้นเป็นงั่งที่ขยัน เป็นงั่งหากินเขาไม่นั่งเฉยๆอยู่กับที่ เรียกว่าเป็นภาคหากินของพญางั่งก็ไม่ผิด โดยปกติแล้วแม้พกบูชาพญางั่งเศียรแหลมธรรมดาพ่ออาจารย์ท่านว่าก็เป็นเมตตามหาเสน่ห์มหานิยมแก้ดวงแก้เสนียดได้แรงพออยู่แล้ว แต่กับพญางั่งเศียรโล้นนั้นนับได้ว่าต่างกันมาก เพราะในปางนี้พ่องั่งจะไม่สนใจวิธีการใดๆทั้งสิ้นในการทำที่จะให้ได้มาซึ่งทุกสิ่งให้สมตามเจตนารมณ์และความปรารถนา ท่านว่าใช่และถูกต้องแล้วทุกสิ่งนั่นแหละทั้งความรัก การงาน การทำมาหากิน ทุกอย่างต้องดีขึ้น ท่านช่วยทั้งหมดโดยไม่สนใจกันทีเดียวว่านั่นจะเป็นเรื่องสุจริตหรือไม่ ทั้งยังไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหมใดๆเพราะท่านถือว่าเป็นธุระของท่าน หน้าที่ของท่าน เทพพรหมใดๆก็มายุ่งหรือก้าวก่ายไม่ได้ คือพ่องั่งนั้นท่านให้ความรักและเมตตาช่วยเหลือโดยไม่สนใจเลยว่าสิ่งนั้นจะถูกหรือผิด ถูกก็ช่วยผิดก็ยังช่วย ช่วยไปทุกสิ่งตามสถานการณ์ในแต่ละช่วงเวลาของชีวิต นี่คือความรักของพ่อที่มีต่อลูกอย่างแท้จริง แต่โบราณนั้นจึงถือว่าพ่องั่งเศียรโล้นนั้นเป็นพ่องั่งไร้ศีลธรรม พ่ออาจารย์ท่านว่าอาจจะฟังดูแรงไปบ้าง แต่เอาเข้าจริงๆแล้วด้วยด้วยคุณแห่งครูบาอาจารย์และพระเวทย์วิชานั้นถือว่าไม่เกินเลยไปเลย ก็ในเมื่อยังมีตัณหา มีความปรารถนามีความต้องการที่จะเอาดีทางโลกกันอยู่ เช่นนั้นเรื่องบางอย่างมันย่อมขัดกับศีลธรรมทีเดียว แน่นอนว่าพระก็ยุ่งไม่ได้ เทพก็ช่วยไม่ได้ ดังนั้นพ่องั่งเศียรโล้นจึงเป็นภาคที่พญางั่งจุติขึ้นมาเพื่อช่วยในกิจต่างๆเหล่านั้นให้ได้ ให้สำเร็จในทุกช่องทางไม่เลือกวิธีการนั่นเอง

    พ่ออาจารย์ท่านว่าจะทำทั้งที ให้ทำรูปร่างน่าเกลียดคนเค้าก็จะไม่กล้าห้อยกัน จึงทำองค์ขนาดปกติกำลังพอดี ท่านว่าจะได้ใช้กันได้ไม่รู้สึกลังเลใจว่าใครจะเห็น พ่ออาจารย์ท่านแกะแม่พิมพ์พ่องั่งนี้ให้อยู่ในซุ้มแบบพระขุนแผนพรายกุมารของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ท่านว่านี่ไม่ใช่พระพุทธแต่เป็นพ่องั่ง และเป็นพ่องั่งภาคสำเร็จกุมารเสียด้วย ท่านว่าลำพังวิชาของพญางั่งเศียรโล้น ตัวพ่องั่งเศียรโล้นก็มีคุณสมบัติเป็นเอกในสิ่งที่เครื่องรางทุกชนิดไม่มีและไม่สามารถช่วยได้อยู่แล้ว แต่นี่ท่านตั้งใจสร้างให้เป็นพ่องั่งภาคสำเร็จกุมารอีก พ่ออาจารย์ท่านว่าหากเป็นพระขุนแผนเป็นรูปพระพุทธเจ้าที่อยู่ซ้ายขวานั้นก็เป็นพระโมคคัลลาน์พระสารีบุตรไม่ใช่กุมารทองอย่างที่หลายๆคนเข้าใจ แต่เมื่อท่านทำและตั้งใจทำเป็นพ่องั่งเศียรโล้นแล้ว ท่านจึงตั้งใจเสกขึ้นรูปซ้ายขวาให้เป็นกุมารทองอย่างแท้จริง ทั้งยังเมตตาอัดพลังอัดเวทย์วิชาเพื่อให้เขาเป็นกุมารทองที่เก่งและใช้งานได้ง่ายอีกด้วยท่านว่าเก่งกาจและซนได้ที่ทีเดียว พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าพ่องั่งเขาจะได้มีบริวารช่วงใช้ ช่วยกันหลายๆคนไม่ว่าจะเป็นกิจเล็กๆหรือการณ์ใหญ่ๆก็ดีย่อมสำเร็จทั้งสิ้น นี่คือพญางั่งภาคสำเร็จกุมารเป็นพญางั่งที่มีบริวารคอยเกื้อหนุนช่วยเหลือ ดังนั้นท่านว่าเราเป็นคนใช้ไม่ต้องไปสนใจตรงนั้นเลย ในโลกทิพย์ท่านคุมและจัดการของท่านกันเอาเอง พ่ออาจารย์ท่านย้ำว่ากุมารนี้เป็นทิพย์เป็นเทวภูติไม่ต้องเลี้ยงใดๆ พ่องั่งท่านเลี้ยงของท่านเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าพอได้แม่พิมพ์มาท่านก็ต้องนำมาลงหัวใจพญางั่งเสกด้วยวิชาพระเจ้าเข้าเรือนแก้ว พร้อมทั้งกำหนดจิตเสกขึ้นรูปกุมารทองไว้ก่อน ท่านว่าทุกอย่างพร้อมและสำเร็จตั้งแต่เป็นแม่พิมพ์ทีเดียว


    ดังที่กล่าวไปแล้ว ว่าจะทำทั้งทีต้องทำให้เต็มสูตร พ่ออาจารย์ท่านว่ามันไม่ใช่แค่รูปร่างนึกอยากทำก็ทำได้ ครูพระสยมนั้นท่านบอกว่าถ้าจะทำพ่องั่งเศียรโล้นให้สำเร็จทรงอิทธิฤทธิ์เปี่ยมด้วยมหากรุณาอันเอื้ออารีย์ต่อผู้ใช้อย่างแท้จริงแล้วนั้น จะต้องเตรียมมวลสารถึงเก้าชนิด ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านพูดว่าเรามีหน้าที่หาหน้าที่ทำ บอกได้คำเดียวเลยว่าสิ่งที่ท่านกำหนดนั้นหายากทั้งสิ้น ล้วนแต่ของที่มีอาถรรพ์ผิดธรรมชาติทั้งนั้นแต่ก็ไม่ต้องกลัวไปเพราะไม่ใช่ผีไม่ใช่ภูติพรายแต่อย่างใด ที่ว่าอาถรรพ์ผิดธรรมชาตินั้นเพราะมีประจุพลังงานฟ้า พลังเทพมีเทพวิญญาณถือครองอยู่กว่าจะได้ครบเก้าสิ่งจึงเป็นเรื่องยากและบอกใครไม่ได้ ท่านว่าทุกสิ่งนั้นท่านพลีมาและบดเป็นผงทำผงฝังด้านหลังพญางั่งนั่นเอง ท่านว่าจะทำทั้งทีก็ต้องให้ครบสูตร ครบและแรงตามเจตนาครู เจตนาฟ้า เจตนาองค์พระสยมภูวญาณท่านกำหนดมาจะให้ผิดพลาดไม่ได้ นั่นแหละจึงจะได้ชื่อว่าเป็นพญางั่งเศียรโล้นที่จะคอยช่วยเหลือเกื้อกูลเราในทุกเรื่องจริงๆ เป็นพญางั่งภาคหากินช่วยด้วยความรักของพ่อที่มีต่อลูกโดยไม่สนศีลธรรมอย่างแท้จริง


    พญางั่งเศียรโล้นนั้นดานหลังพ่ออาจารย์ท่านฝังสิ่งสำคัญต่างๆล้วนแล้วแต่ของที่มีอำนาจและอาถรรพ์ในตนเองทั้งสิ้น ดังต่อไปนี้
    - ประคำโทนแทนครู ท่านว่าหลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมเอาของที่เป็นตัวแทนพระตัวแทนเทพเจ้าอย่างประคำโทนแทนครูนี้มาฝังงั่ง ท่านว่าก็พ่องั่งของท่านใช่ของต่ำหรือเดรัจฉานวิชาเสียเมื่อไหร่ หากแต่เป็นภาคหากินขององค์พระสยมภูวญาณทีเดียว ภาคนี้เป็นภาคเทพสูงกว่างั่งธรรมดา จะห้อยคอก็ได้หรือคาดเอวก็ไม่น่าเกลียดขอแค่ให้พ่องั่งโดนเนื้อโดนตัวเราก็พอ นอกจากนี้ที่ฝังไว้ก็เพื่อสื่อความหมายเป็นนัยน์ว่านี่ไม่ใช่งั่งทั่วไปหรืองั่งท้องตลาดแต่อย่างใด แต่เป็นงั่งครู งั่งวิชา อันประคำโทนนั้นดีและวิเศษอย่างไร พ่ออาจารย์ท่านว่าประคำโทนนั้นมีวิธีการทำที่ยุ่งยากซับซ้อนมากกว่าประคำธรรมดาหลายเท่าในวิชาการทำประคำ เมื่อสำเร็จแล้วเป็นของมีอานุภาพมากท่านว่าสามารถใช้แทนสังวาลประคำสายที่มีจำนวน 108 เม็ดได้ไม่ต่างกันเลย หากแต่ประคำโทนนั้นแรงกว่าเรียกว่าพกลูกเดียวจบ ทั่วพิภพจบแดนนี้ไม่ต้องไปหาอะไรอีก ไม่ต้องไปคาดสังวาลย์ประคำให้เกะกะแต่อย่างใด ท่านว่าการทำประคำโทนนั้นทุกขั้นตอนล้วนมีพิธีกรรมมีการภาวนาพระคาถากำกับทั้งสิ้น ซ้ำเวลาเสกยังต้องอธิษฐานจิตด้วยสูตรพระคาถารัตนมาลาอันสูงสุด ท่านย้ำว่าต้องเอาคุณจากประคำทั้ง 108 เม็ดมารวมไว้ในเม็ดเดียว พระทั้ง108 ครูทั้ง 108 ฤาษีทั้ง108 เทพยดาทั้ง108 พรหมทั้ง108 รวมกันอยู่ในนี้ทั้งสิ้น ท่านว่าไม่ง่ายหรอกนะกว่าจะได้แต่ละลูกถือมั่นถือให้ดีครูลงกันหมดแล้วสถิตย์แล้ว ท่านว่าทำยากต้องลงตะกรุดฝังอาถรรพ์ทำผงผสมผงเฉพาะ กว่าจะลงรักกว่าจะเสก ดังนั้นประคำโทนนี้ท่านจึงว่ามีคุณทุกทาง ใช้ได้ทุกอย่าง ท่านว่าวิชาการทำลูกประคำจริงๆนั้นทำยากมาก หลายๆที่ส่วนใหญ่จึงมักจะซื้อมาเสกไม่ค่อยทำกันตามวิธีการ ส่วนใหญ่จะเป็นประคำตลาดพระทั้งท่าพระจันทร์วัดราชนัดดาเป็นประคำสำเร็จรูปจากไม้มงคลก็ดีหรือที่เป็นแร่เหล็กก็ดีถือเสียว่าซื้อมาเสกเป็นใช้ได้ ท่านว่าของๆท่านนั้นจะให้ทำเป็นลิเกหรือสุกเอาเผากินเช่นนั้นไม่ได้ ประคำโทนนั้นเอาไปต้องเปลี่ยนชีวิตเขาได้ ขั้นตอนมีอย่างไรวิธีการแบบใดก็ใจเย็นๆค่อยๆทำไปไม่ได้รีบ ทำแล้วต้องเอาให้ขลังให้ใช้ได้ ท่านว่าประคำจริงๆนั้นมีอานุภาพใหญ่มาก ทั้งจะทำให้เกิดเมตตา ใช้เจริญภาวนาเป็นเครื่องเตือนใจให้เห็นถึงภัยอันตรายต่างๆก็ดี ใช้ป้องกันอันตรายได้สารพัด ท่านว่าหากจิตจดจ่ออยู่กับประคำนี้หมั่นสวดมนต์ปฏิบัติภาวนาอย่างต่ำก็ได้โลกีย์ฌาน เพราะเวลาทำมันต้องตั้งสติเจริญสติ สติตัวนี้และอานุภาพของครูประคำนี่แหละ จะทำให้สำเร็จฌานโลกีย์ได้ นอกจากนั้นยังสามารถพัฒนาเป็นมรรคเป็นผลได้อีก ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงถือว่าประคำโทนนั้นเป็นที่สุดของครูประคำจริงๆ ท่านได้เมตตานำมาฝังไว้ในพ่องั่ง เพื่อให้เป็นงั่งครู งั่งวิชา เป็นพ่องั่งที่เก่งมีฤทธิ์มีตัวสามารถใช้วิชาได้ร้อยแปดพันประการ ซ้ำประคำนี้ท่านว่าในสายไศวะนิกายนั้นให้ความสำคัญนักอย่างยิ่งยวด เป็นเครื่องระลึกถึงองค์พระศิวะหรือพระสยมได้เป็นอย่างดี
    - ธิดาสรวงหรือแม่นางฟ้า พ่ออาจารย์ท่านว่าสุดแล้วแต่จะเรียกนะเรียกได้ทั้งสอง ท่านหล่อธิดาสรวงนี้ขึ้นมาจากธาตุกายสิทธิ์โดยเฉพาะ แต่เดิมนั้นท่านว่าวิชานี้คล้ายวิชานางพิมอยู่บ้าง เป็นรูปของหญิงสาวท้องแก่กำลังคลอดบุตร ต่างกันที่วิชานางพิมนั้นเด็กเขาเอาขาออกมา แต่ธิดาสรวงนั้นเด็กเอาหัวออกมา ท่านว่าท่านทำไว้แล้วก็นำมาเสกเรียกชื่อว่าแม่นางฟ้าเพราะท่านเห็นญาณนางฟ้าอยู่จริงๆ ซ้ำลูกของแม่นางฟ้านั้นก็เป็นเทพกุมารที่มีฤทธิ์มากเสียด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่าธิดาสรวงนี่ดีนะ เป็นสัญลักษณ์ของการให้กำเนิด การเกิดขึ้นของสิ่งดีๆ ดังนั้นนี่จึงเป็นสัญลักษณ์ของการกำเนิดชีวิตใครพังใครจมใครล้มเหลวมาอธิษฐานบอกกล่าวแม่นางฟ้าให้ท่านชุบตัวชุบชีวิตขอเกิดใหม่จากท่านเป็นได้เรื่อง พลิกฟ้าพสุธาหงายเปลี่ยนชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือกันทุกคน ท่านว่านอกจากนี้พกไว้กับตัวยังให้คุณในทุกทางออกได้ทุกด้านเลยตั้งแต่เสน่หาเมตตาไปจนถึงคงกระพันซึ่งปกติจะไม่มีอยู่ด้วยกัน นอกจากนั้นสำหรับคนที่ต้องสอบต้องมีการแข่งขันในธุรกิจหน้าที่การงานหรือสิ่งที่จะกระทำต้องต่อสู้แย่งชิงแข่งขันกับคนอื่นท่านว่าบนบอกแม่นางฟ้านี่ได้ผลชะงัดนัก เรื่องพวกนี้ท่านชอบช่วยเหลือผู้บูชาจริงๆ ลูกๆของท่านจะต่ำกว่าคนจะจนกว่าเขาไม่ได้ จะแพ้ไม่ได้ต้องชนะอย่างเดียว นอกจากนี้พ่ออาจารย์ท่านยังย้ำอีกว่ารูปแม่นางฟ้าหรือธิดาสรวงนี้เป็นรูปอาถรรพ์ หากนำไปติดตัวคล้องคอบูชาไว้ใครที่มีเสนียดหรืออัปมงคลใดๆติดตัวแก้ไขไม่ได้เอาไม่ออก ท่านว่าอาถรรพ์ทั้งหลายนี่หลุดหมดนะ ภูติผีปีศาจทั้งหลายเกรงกลัวมาก เดรัจฉานวิชาไสย์ดำต่างๆเข้าใกล้ไม่ได้ทำอันตรายไม่ได้เลย ท่านว่าบอกได้เท่านี้ เอาว่าชีวิตอยู่ดีกินดีและปลอดภัยก็แล้วกัน พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อนำธิดาสรวงมาฝังในพ่องั่งนี้พลังและธาตุตลอดจนทุกสิ่งล้วนเกื้อกูลกัน สองอย่างนี้ถ้าแยกกันอยู่ก็แล้วไป แต่หากรวมกันเช่นนี้ ความสมบูรณ์ถึงขั้นมหาอุดมจะเกิดขึ้นกับผู้บูชาจะรู้เองเห็นแท้แก่ใจประจักษ์กับตาตนเอง ท่านว่าได้สมใจในทุกสิ่งที่ปรารถนาทีเดียว
    - ตะกรุดเมตตาพรหมวิหารธรรม ท่านว่าครูแต่โบราณนั้นถือคติว่าวิชาเมตตาของพระพรหมนั้นเป็นวิชาสูงสุด บางที่ก็ย่อและดัดแปลงไปใช้ในทางจีบสาวทางกามตัณหาอยู่มาก เพราะถือเป็นมหาเสน่ห์อย่างใหญ่หลวง รูปงามดุจพรหมวิชานะหน้าพรหมนี้ล้วนเป็นสิ่งที่สูงกว่ารูปที่ว่างามของมนุษย์ ครุฑธา หรือเทวราช ท่านว่างามกว่าวิชานะหน้าทองหรือพระลักษณ์หน้าทองเป็นไหนๆ เพราะเป็นรูปที่งามที่สุดดุจรูปพรหม ดุจรูปพระมหาสัตว์พระมหาบุรุษอันเป็นเอกในโลกธาตุทีเดียว ตะกรุดเมตตาพรหมวิหารนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นกระแสธารสูงสุดของความเมตตา ท่านว่าเป็นเมตตาล้วนๆไม่มีอุเบกขาการวางเฉยเข้ามาเจือปนเลยพ่ออาจารย์ท่านว่าเราพูดได้เท่านี้คิดเอาเองแล้วกัน ท่านฝังไว้โดยหวังอิทธิคุณแฝดสองประการนั่นคือ ให้พ่องั่งท่านนั้นรักเราดุจเลือดในอก สามารถช่วยเหลือเราได้ทุกสิ่งให้ท่านเมตตาเราโดยปราศจากอุเบกขาการวางเฉยใดๆมาเจือปน ทุกคำขอ ทุกเรื่อง ทุกสิ่งย้อมต้องสัมฤทธิ์ผล กับอีกประการหนึ่งนั่นคือผู้ที่พกตะกรุดไว้จะได้คุณของกระแสพลังความเมตตาอย่างยิ่ง สรรพสิ่งโดยรอบเค้าจะเมตตาเรา มองเราดีขึ้น มองด้วยความอ่อนโยน เห็นเรางามเหมือนพรหมเหมือนมหาบุรุษดูเป็นคนมีสง่าราศีน่าเข้าหาขึ้นมาทันตา
    - ตะกรุดมหาสะเดาะสารพัดกัน ท่านว่าตะกรุดนี้สำคัญนะเพราะรวมวิชาหลายสูตรไว้ในส่วนของหัวใจคาถาสำคัญต่างๆ โดยพื้นฐานแล้วจะมีอำนาจแก้ไขโรคภัยไข้เจ็บ สารพัดโรคสารพัดความเจ็บป่วย กินพลังงานด้านลบดูดกลืนโรคภัยและย่อยสลายไปจากตัวเรา กันโรคร้ายๆโรคแปลกๆผิดธรรมชาติ โรคอันเกิดจากเคราะห์กรรมเกิดจากเจ้ากรรมนายเวรเจ้าบุญนายคุณทั้งหลาย ท่านว่าปกติวิชาต่างๆจะแก้โรคอันเกิดจากเจ้ากรรมนายเวรดลบันดาลให้เป็นไปตามเคราะห์กรรมไม่ได้ แต่แปลกที่วิชานี้แก้และกันได้ พ่ออาจารย์ท่านว่านั่นคือโดยพื้นฐานเพราะท่านยึดถือคำพระตถาคตเจ้าว่าการไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ นอกจากนี้ท่านยังลงวิชานะมหาสะเดาะกับมหากันเสริมลงไปอีกด้วย ท่านว่าจะได้สะเดาะเคราะห์บรรเทาทุกข์โศกและเคราะห์กรรมของคนใช้ เสริมอานุภาพให้พญางั่งโดยเฉพาะ จะได้กินพลังงานลบและเคราะห์กรรมได้มากขึ้นกว่าที่ควรจะเป็น ท่านว่าตะกรุดนี้ดีหลายด้านคือนอกจากกันโรคภัยไข้เจ็บแล้วยังใช้กันได้สารพัดสมกับชื่อมหากัน เวลาเรามีเรื่องจวนตัวไม่อยากให้เกิดกับตัวเรา พ่ออาจารย์ท่านว่าให้ระลึกถึงตะกรุดที่ฝังอยู่นี้ยกขึ้นจบหัวนึกถึงคุณองค์พระสยมผู้ตั้งฟ้าตั้งแผ่นดินเป็นที่สุด อธิษฐานบอกกล่าวว่า ด้วยอานุภาพแห่งมหากันนี้ขออย่าให้เรื่องนั้นๆเกิดขึ้นกับตัวข้าพเจ้าเลย ให้นึกเอาดีๆว่าเป็นเรื่องอะไรด้วยวิชามหากันนี้เมื่อไม่ปรารถนาแล้วสิ่งเลวร้ายต่างๆย่อมไม่เกิดขึ้นเลย

    พ่ออาจารย์ท่านว่าเวลาเราจะเจอเรื่องไม่ดีและร่างกายเรามีพลังงานด้านลบต่างๆ สิ่งเหล่านี้จะย่อยสลายไปเป็นพลังงานบวกให้กับพ่องั่ง ท่านว่าก็ชีวิตคนน่ะแหละนะ เกิดมามีกรรมเคราะห์ซ้ำกรรมซัดพระเคราะห์เสริมส่ง จะหาดีได้ในช่วงชีวิตซักกี่วัน ดังนั้นไม่ต้องห่วงเลยว่าร่างกายเราจะไม่มีพลังงานด้านลบเหล่านี้ พ่ออาจารย์ว่านี่แหละคืออาหารของพ่องั่งเศียรโล้นเค้า เค้ากินพลังงานด้านลบเหล่านี้ออกจากตัวเรายิ่งมีเยอะเท่าไหร่ก็ยิ่งแรงเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่ต้องเลี้ยงไม่ต้องเซ่น ใช้งานอย่างเดียวสุดแล้วแต่จะใช้ พ่ออาจารย์ท่านว่าสร้างยากเสกยาก เมื่ออาราธนาแล้วก็ได้อย่าถือตัวว่ามีดี และจะลองดีหรืออวดดี ท่านว่าใครๆก็อยากจะมีชีวิตดี แต่เมื่อมีแล้วก็ต้องรู้จักรักษาหรือใช้ให้เป็นด้วย


    คาถาบูชา

    โอม อะหะปะมะอะ กำมะโปน กำตะเบง เมตตาสุเนอ พ่องั่งเอ๋ยเจ้าจงมาสู่หา จงเกยทรัพย์ เอาศรีมาให้กู มานิมานัง มหางั่งตันติ มานิมามะ มามา สวาหะ
    ใช้ทางเสน่ห์ว่า โอมระงั่งตรึงจิตคิดคะนึงตรึงใจ พิศวาทหลงใหลจิตคะนึง คิดถึงกูบ่มิรู้ลืม ใครเห็นก็จิตตรึงคิดถึงกูบ่มิคลาย หญิงชายทั้งหลายก็งวยงงหลงเสน่ห์กู มิเห็นหน้ากูอยู่มิได้ โอมกูจักปลุกพ่องั่งให้มาคลอเคลียอยู่ในตัวกู โอมตื่นมหาตื่น โอมลุกมหาลุก โอมสวาหะสวาหุม เอหิปิยังมะมะ มามะมามา โอมระงั่ง งงงวย มหางงงวย ระงะระงั่ง มะมะสวาหะ มะมะสวาหุม มะมะโอม


    * พ่ออาจารย์ท่านเมตตาจัดสร้างไว้ได้ทั้งหมด 9 องค์ สำหรับผู้ที่จะบูชาท่านว่าให้แจ้งเข้ามาทาง PM เท่านั้น พร้อมกับชื่อนามสกุล พ่ออาจารย์ท่านจะทำการเจิมบอกกล่าวประสิทธิ์พร้อมกันนี้ท่านยังจะเมตตาลงเหล็กจารนะพลิกแผ่นดินพร้อมกำกับฝากฝังเราไว้กับพ่องั่งให้เป็นการพิเศษอีกด้วย รายได้จากการบูชาร่วมทำบุญยกพื้นพระอุโบสถเพื่อยกฐานชีวิตต่อไป


    ร่วมทำบุญบูชา พญางั่งเป็นหนึ่งเศียรโล้นสำเร็จกุมาร{(ภาคหากิน)ฝังประคำโทนแทนครู ธิดาสรวง} บูชา 4,000 บาท

    1403875688.jpg 701465050.jpg SAM_5340.jpg SAM_5341.jpg Luos-108-_Red-_Wood-_Beads-_Tibetan-_Buddhist-_Prayer-.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มิถุนายน 2017
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    แจ้งการส่ง EMS
    พี่ภิญโญ ET 2871 6111 0 TH
     
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    ตอบ PM ครบนะครับ
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    ก็ตอบ PM รอบเย็นครบแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้จะทยอยตอบปัญหาที่ฝากถามกันกลับไปให้แล้วมาติดตามสาระกันนะครับ พ่ออาจารย์ท่านเล่าเรื่องปอปด้วย เดี๋ยวนำมาเล่าให้ฟังกัน
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    เดี๋ยวจะจัดส่งของที่โอนไว้ให้พรุ่งนี้นะครับ พอดีวันนี้ผมจะไปขนส่ง แล้วก็เดี๋ยวมาติดตามเรื่องปอบที่พ่ออาจารย์ท่านเมตตาเล่าถ่ายทอดกัน ส่วนใครจะ PM ฝากอะไรไว้ก็ฝากได้เลย
     
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    พูดคุย
    ก็มีเรื่องแปลกๆ วันนี้ขอพรองค์พระสยมของพ่ออาจารย์แล้วไปสอบใบขับขี่ใหม่เพราะครั้งที่แล้วข้อเขียนเราพลาดไปสองคะแนนดันเจอแต่เรื่องมอไซด์กับเรื่องครัชรวมไปเกือบแปดข้อซึ่งเราไม่รู้เรื่องเลย มาครั้งนี้ปรากฏว่าวันนี้เต็มห้าสิบได้สี่สิบเจ็ดก็ผ่านมาได้แบบงงๆ แต่ไม่เจอเรื่องที่เราทำไม่ได้คือเรื่องมอเตอร์ไซด์ซักข้อเลยสงสัยครูบาอาจารย์จะช่วยไว้จริงๆ

    ทีนี้ตอนเข้าห้องสอบมันก็นะ มีเบอร์แปลกๆโทรมาตอนเข้าไปพอดี โทรมาจนเครื่องเราร้อนเลย เราก็ไม่ว่างรับเค้าก็โทรจี้อยู่นั่นแหละจนคนคุมสอบต้องเดินมาดูเลยแล้วบอกว่าให้จัดการโทรศัพท์ดีๆ เราก็เลยปิดเครื่องไปพักนึง พอสอบเสร็จก็โทรกลับไปเพราะงงว่าใครโทรมาขนาดนั้น ก็ได้เรื่องว่ามาจากในกระทู้พลังจิตนี้ เค้าบอกว่าเค้าหัวร้อนมากพญางั่งไปเข้าฝันเค้าเมื่อคืน เค้าว่าท่านไปตามว่าจะมาอยู่ด้วย เราฟังๆก็แปลกๆหูว่าพญางั่งหรอทำไมไม่เรียกพ่องั่ง แล้วก็ฟังเค้าเล่าๆว่าเออมาตามแล้วเค้าจะไปหาจากไหน ซ้ำบอกเค้าด้วยว่าต้องตามหาให้ได้จะใช้งั่งอย่างอื่นแทนท่านไม่ได้ เพราะท่านเกิดจากพลังจักรวาล ทีนี้เค้าก็เปิดเวปจองพระใหม่ไล่ดูตั้งแต่เวปยูไปเรื่อยๆก็ไม่เจอเลยว่าจะมีงั่งเปิดจอง จนเข้ามาในพลังจิตมาเจอกระทู้เราก็เลยเปิดเข้ามาดู เค้าว่าเค้าเห็นรูปปุ้ปแล้วพออ่านรายละเอียดเค้าช้อคเลย เค้ามั่นใจเลย เค้าบอกผมว่าเค้ารู้ทันทีว่าพญางั่งที่ตามเค้าต้องใช่ของพ่ออาจารย์แน่ๆ เพราะในฝันนั้นพญางั่งใส่สร้อยประคำสีดำด้วยและเป็นประคำเม็ดใหญ่ๆไม่ใช่ประคำเม็ดเล็ก เค้าว่าสะดุดตามาก พอมาเห็นงั่งฝังประคำโทนเค้าบอกว่านี่แหละที่เดียวในโลกไม่มีใครทำ ก็เลยพยายามติดต่อผมให้ได้เพื่อจะจอง เราก็ฟังๆพี่เค้าเล่าๆนะอืมเกิดจากพลังจักรวาล องค์พระสยมก็เป็นเจ้าโลกสร้างจักรวาล น่าจะใช่ไม่คลาดเคลื่อนกัน

    ก็เอามาเล่าให้ฟังกันคร่าว ว่าแปลกๆดี ท่านมีตัวมีตนจนไปตามกันได้ขนาดนั้น แต่ก็ยังตะหงิดๆอยู่ที่พี่ท่านนี้บอกว่าหัวร้อนคืออะไร มีไข้รึครั่นเนื้อครั่นตัวรึเปล่า แต่ก็ดีแล้วถึงจะยังไม่ได้เจอไม่เคยคุยกันเป็นเรื่องเป็นราวเค้าก็น่าจะมีสื่อกับครูกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในระดับนึง
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    พูดคุยรอบเย็น

    ก็พูดคุยกันรอบเย็นนะครับ วันนี้ก้จะมาต่อด้วยเรื่องปอบ ก็น่าแปลกดีเหมือนกันเพราะอยู่ดีๆท่านก็พูดเหมือนอยากจะเตือนใครหลายๆคนที่เดินทางไกลไปตามชนบทหรือต่างจังหวัด

    โดยท่านเมตตาบอกกล่าวว่าเรื่องผีปอบนั้นไม่ใช่เรื่องเหลวไหล แม้ทุกวันนี้ก็หาได้หมดไปตามยุคสมัย หากแต่ยังมีอยู่ตามชนบทและในที่สงัด ซึ่งปอบเองก็มีหลายระดับ ที่มีฤทธิ์มีตบะมากท่านเรียกว่าปอบครู

    พ่ออาจารย์ท่านว่าพวกนี้ตบะสูง ให้จำไว้ว่าเขาไม่กลัวนะ พระเครื่องต่อให้พุทธคุณดีวิเศษจากไหนพวกนี้มันก็ไม่กลัว สวดมนต์ไปมันก็สวดกลับได้ รูปพระนี่มันไม่กลัวเลย รูปเทพนี่ก็เป็นบางสายันถึงจะกลัว แต่โดยรวมแล้วก็ยังเรียกว่าไม่กลัวดีกว่า เสมอกันกับรูปพระนั่นแหละต่างกันไม่มาก

    ท่านบอกกล่าวว่าของเหล่านี้นั้น พวกเขากลัวเทพศาสตรา พวกมีดหมอ พระขรรค์ ซึ่งบางคนขับรถอาจจะไม่สะดวกพกสิ่งเหล่านี้ แต่ก็ไม่หมดหนทางเสียทีเดียว เพราะว่านอกจากพวกเทพศาสตราแล้ว เขายังกลัวพยนต์ด้วยทั้งพยนต์คนพยนต์สัตว์หรือพยนต์ยักทั้งหมดนั่นเลย เช่นวัวธนู ควายธนูเสือสมิง หุ่นพยนต์ตัวครูต่างๆ ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านย้ำว่าต้องเป็นสิ่งที่สำเร็จด้วยวิชาจริงๆไม่ใช่ของเล่น นี่แหละเขาจะกลัว มันแก้ทางกัน

    เช่นนั้นเวลาใครเดินทางไกลหรือไปต่างจังหวัด ที่เปลี่ยว สถานที่ที่ทำให้เรารู้สึกขนลุกขนพองสยองเกล้า สถานที่เหล่านี้เมื่อจะเดินทางไปให้หามีดหมอ หรือพวกหุ่นพยนต์ เสือพยนต์ วัวธนู ควายธนูพกไว้บ้าง ก่อนเดินทางก็บอกเขาให้ดีๆมันจะคุ้มตัวได้

    * ก็น่าแปลกเหมือนกันเพราะอยู่ดีๆท่านก็พูดขึ้นมา ซึ่งเราก็ไม่เคยคิดเลยว่ามันจะยังมีอยู่ คิดว่าลดหายหรือสาบสูญไปแล้วเสียด้วย ก็เอามาพูดคุยกันรอบเย็นนะครับ เวลาจะไปไหนก็สำรวจตัวเอง มีของเตือนใจกันตัวไว้สำหรับภัยที่มองไม่เห็นบ้างก็ดี
     
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    อรุณสวัสดิ์นะครับ

    วันนี้เดี๋ยวส่งของให้
     
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    แจ้งการส่ง EMS
    พี่ฐิตกาญจน์ ET 2871 7234 7 TH

    พี่กฤษฏิ์อริญชย์ ET 2871 7235 5 TH

    พี่ธีธัช ET 2871 7236 4 TH

    พี่วิศณุกร ET 2871 7237 8 TH

    พี่สายเมธี ET 2871 7238 1 TH

    พี่วิชัย ET 2871 7239 5 TH

    พี่นวรัตน์ ET 2871 7240 4 TH
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    เดี๋ยวมาติดตามสาระพูดคุยกันนะครับ;)
     
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    ตื่นมาผมนี่ตอบคำถามยิกเลย แค่เรื่องปอปเรื่องเดียวก็หลายท่านแล้ว ดูท่าจะมีคนกลัวและคิดว่าจะเจอหรือรู้สึกไม่ดีอยู่จริงๆ ก็ตอบกลับไปหมดแล้วนะครับ บางเรื่องนี่ตอบไม่ได้ก็ต้องใช้เวลาวันสองวันเพื่อรอถามท่านก่อนถึงมาตอบ ถ้าไม่ลืมหรือไม่ข้ามเพระว่า PM มันลายตาก็จะตอบกลับไป นี่ก็มีเรื่องพ่องั่งแจ้งกันมาอีกสองท่านแล้วว่าองค์ท่านไปตามพูดไปก็คล้ายๆกันก็แปลกดี แต่ทางกระทู้ก็ไม่มีให้บูชาเหมือนกัน ต้องติดสำรองไว้รอคนที่เค้าจองถ้าเราพิจารณาหลุดจองให้ก็จะเสียบแทนไว้
     
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    พูดคุย

    เดี๋ยววันนี้มาติดตามกันต่อนะ ท่านว่าจะให้จัดกิจกรรมระยะยาวแบบตอนทำตะกรุดหนุนดวงอริยสัจโสฬสด้วย แต่งวดนี้จะเป็นไรก็ติดตามกันเอา กำลังเรียนให้ท่านพิจารณาว่าขอแบบที่เราสามารถพิจารณาได้เองคือมอบให้กันง่ายๆเพราะเข้าใจว่าทุกคนอยากได้ เพราะตอนตะกรุดอริยสัจคนไม่ได้และตกขบวนด้วยหลายๆเหตุผลทั้งคิวเต็มหรือดวงทำไม่ได้ก็มี อันนี้ก็รู้สึกหดหู่แทน ก็เป็นโครงการยาวๆนะครับ อยากให้ได้ประโยชน์กันทุกคนก็รอกันนิดนึง

    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    เดี๋ยวติดตามคุยกันรอบเย็นนะครับ
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    ก็วันนี้มีสอบถามกันเข้ามาหลายๆเรื่องทั้งมีแจ้งประสบการณ์กันเข้ามา ยังตอบ PM ไม่ครบทุกคนนะครับ เดี๋ยวจะขอยกยอดไปเป็นพูดคุยกันวันพรุ่งนี้เลยจะได้ยกมาพูดมาเล่าให้ฟังกันทีเดียว
     
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    กรวดน้ำ

    ก็ตื่นเช้ามาอรุณสวัสดิ์กันนะครับ พอดีเจอบทความดีๆเกี่ยวกับเรื่องที่ว่าทำไมหลังเราทำบุญกันต้องกรวดน้ำ เชื่อว่าหลายๆคนยังไม่เข้าใจ ก็ลองมาอ่านและศึกษากันดูนะครับ


    เชื่อแน่ว่า..หลายคนทิ้งความค้างคาใจ ว่าทำไมทำบุญหรือใส่บาตรแล้วต้องกรวดน้ำ หรือบางคนรู้แต่รู้จริงมากน้อยเพียงใด วันนี้มาศึกษากันดูว่า ทำไมต้องกรวดน้ำ?...ทำเพื่ออะไร?

    ก่อนอื่น มาทราบ ความหมาย ของคำว่า การกรวดน้ำกันก่อน
    คำว่า "กรวดน้ำ" นี้ ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๒๕ ให้คำจำกัดความไว้ว่า
    "แผ่ส่วนบุญด้วยวิธีหลั่งน้ำ" การกรวดน้ำแผ่ส่วนบุญนั้น สรุปแล้วมีอยู่ ๔ ประการ คือ
    ๑.กรวดน้ำตัดขาดจากกัน
    ๒.กรวดน้ำยกกรรมสิทธิ์ให้
    ๓.กรวดน้ำตั้งความปรารถนา
    ๔.กรวดน้ำแผ่ส่วนกุศล

    ๑. การหลั่งน้ำเพื่อตัดขาดจากกัน เช่น สมเด็จพระนเรศวรมหาราช วีรกษัตริย์ไทย สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ทรงตัดขาดไมตรีกับพม่า เพื่อประกาศอิสรภาพแก่เมืองแครง เมื่อ พ.ศ. ๒๑๒๗ โดยวิธีหลั่งน้ำลง เหนือแผ่นดิน

    ๒.การหลั่งน้ำยกกรรมสิทธิ์ให้ครอบครอง เช่น เมื่อคราวที่สมเด็จพระบรมศาสดาได้ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว ได้เสด็จไปสู่กรุงราชคฤห์ ทรงแสดงพระธรรมเทศนาโปรดพระเจ้าพิมพิสารพร้อมด้วยราชบริพารให้เลื่อมใสและได้ถวายวัดเวฬุวันเป็นวัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนา เพื่อเป็นที่ประทับของพระบรมศาสดาเพราะทรงเห็นว่าป่าไม้ไผ่ ที่เรียกว่า "พระราชอุทยานเวฬุวัน" เป็นที่ไม่ใกล้ ไม่ไกลจากชุมชนนัก สมควรเป็นที่อยู่ของสมณะได้

    ๓.การหลั่งน้ำตั้งความปรารถนา เพื่อให้สำเร็จผลที่ประสงค์ พึงเห็นตัวอย่างในมหาเวสสันดรชาดก

    ๔.การหลั่งน้ำแผ่กุศล พึงเห้นอุทาหรณ์ เช่น พระเจ้าพิมพิสารทรงถวายทานแด่พระภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน เพื่ออุทิศส่วนกุศลไปให้บรรดาเปรตซึ่งเป็นพระญาติในชาติก่อนปรากฏ ในมังคลัตถทีปนีคัมภีร์ในพระพุทธศาสนาว่า "เมื่อพระราชาทรงหลั่งน้ำทักษิโณทก ทรงอุทิศส่วนกุศลว่า อิทัง เม ญาตีนัง โหตุ ขอทานนี้(บุญนี้) จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า" วิธีนี้เป็นการแผ่ส่วนกุศลให้แก่ญาติทั้ง มิตรและสรรพสัตว์ได้ ชื่อว่าเป็นปัตติทานมัย บุญสำเร็จด้วยการแผ่ส่วนบุญ


    ปัญหาชวนคิด

    ๑.ทำไมจึงต้องกรวดน้ำหลังเวลาทำบุญ แล้วจะกรวดก่อนไม่ได้หรือ ?
    ตอบ.-ปัจจุบันนิยมกรวดน้ำหลังจากทำบุญถวายทานเสร็จแล้ว เพื่อประสงค์จะทำเจตนาของตนให้บริสุทธิ์ทั้ง ๓ กาล คือ ๑.ในกาลก่อนให้ ซึ่งเรียกว่า ปุพพเจตนา เจตนาก่อนให้ ๒.ในกาลที่กำลังให้ เรียกว่า มุญจนเจตนา เจตนาขณะให้ ๓.อปราปรเจตนา เจตนาต่อ ๆ ไปหลังจากให้ทานแล้ว

    ๒.จะหลั่งน้ำกรวด เวลาไหน ? หยุดเวลาไหน ?
    ตอบ.-การหลั่งน้ำกรวด ควรหลั่งในเวลาที่พระเถระผู้เป็นประธานเริ่มอนุโมทนาว่า "ยถา วาริวหา..." ก็เริ่มเทน้ำลงในภาชนะคือขันน้ำ หรือแก้วน้ำ ที่เตรียมไว้ พอพระรูปที่ ๒ รับว่า "สัพพีติโย" ก็หยุดหลั่งน้ำกรวด แล้วเทน้ำกรวดที่ยังเหลืออยู่นั้นลงในภาชนะที่รองรับน้ำให้หมด แล้วประณมมือรับพร

    ๓.ทำไมจึงต้องเทน้ำกรวดให้หมดในเวลาพระว่า ยถา จบลงและเริ่มรับสัพพี ?
    ตอบ.-เพราะถือว่าเมื่อน้ำไหลไปมหาสมุทรสาครเต็มแล้ว ก็ไม่ไหลอีกต่อไป ความปรารถนาที่ตั้งไว้ก็บริบูรณ์แล้ว ลำดับต่อไปก็ประณมมือรับพรจากพระ

    ๔.ทำไมจึงเทน้ำกรวดให้ไหลติดต่อกัน ไม่ให้ขาดสาย ?
    ตอบ.-ความประสงค์เพื่อให้กุศลที่อุทิศไปให้ผู้ล่วงลับไปแล้วได้รับไม่ขาดระยะ ให้ติดต่อกันไป และความปรารถนาก็จะได้ไม่ขาดระยะ เป็นไปโดยราบรื่น เหมือนกระแสน้ำที่ไหลไปสู่มหาสมุทรสาคร ย่อมไหลเป็นสายไม่ขาดระยะ หากเทน้ำให้หยดติ๋ง ๆ ขาดระยะ เปรียบเหมือนบุญกุศลที่จะได้ก็จะขาดระยะ ความปรารถนาก็จะขาดระยะ จึงให้เทน้ำหรือหลั่งน้ำเป็นสายเหมือนสายน้ำที่ไหลไปสู่มหาสมุทร หรือสายน้ำที่ไหลไปสู่แม่น้ำน้อยใหญ่ ฉันนั้น..........

    ๕.ทำไมจึงต้องกรวดน้ำ จะไม่กรวดได้หรือไม่ ?
    ตอบ.-การกรวดน้ำ เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นการักษาขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามเอาไว้ อีกทั้งเป็นการแสดงถึงความยินดีในการบำเพ็ญกุศลที่ได้ทำไว้แล้ว และเผื่อแผ่แก่ผู้อื่น เพื่อแสดงเจตนาของผู้กรวดน้ำ

    ๖.ทำไมจึงเทน้ำกรวดที่กลางแจ้ง ที่โคนต้นไม้ หรือในที่ไม่มีวัตถุสิ่งใดปกคลุม ?

    ตอบ.-เพราะถือกันว่า การเทน้ำที่กรวดแล้วลงที่กลางแจ้ง เป็นที่สะอาด หรือโคนต้นไม้นั้น เพื่อต้องการปลูกฝังนิสัยให้รักต้นไม้

    ๗.ทำไมต้องใช้น้ำกรวด จะกรวดแห้งไม่ได้หรือ ?

    ตอบ.-การใช้น้ำกรวด เพราะถือตามประเพณีนิยมที่ได้ประพฤติปฏิบัติสืบ ๆ กันมาแต่โบราณกาล และให้สมกับคำอนุโมทนาของพระที่ว่า "ยถา วาริวหา ปูรา ปริปูเรนติ สาคะรัง เหมือนห้วงน้ำที่ยังมหาสมุทรสาครให้เต็มเปี่ยมฉะนั้น"จะกรวดน้ำโดยไม่ใช้น้ำหรือที่เรียกกันว่ากรวดแห้งก็ได้ เรียกว่าปัตติทานมัย บุญสำเร็จด้วยการแผ่ส่วนบุญ ฯ

    ๘.ทำบุญแล้วไม่กรวดน้ำจะได้อานิสงส์หรือไม่ ?

    ตอบ.-ได้ เพราะผู้ทำบุญก็ต้องได้บุญ ทำความดีก็ต้องได้ดี บุญต้องเป็นของผู้ทำบุญตลอดไป ไม่ไปไหนเสีย

    ๙.เวลากรวดน้ำใช้มือขวาหรือมือซ้ายกรวดน้ำ ?

    ตอบ.-ควรใช้มือขวา เพราะมือขวาเป็นมือที่แสดงถึงความเคารพ เป็นการเคารพในทานที่ตนให้
    และเคารพในปฏิคคาหกคือผู้รับทานจากเราด้วย การเคารพกันเขาใช้มือขวาแสดงความเคารพกันทั่วโลก เป็นสากลนิยม

    ๑๐.เวลาหลั่งน้ำกรวด ต้องใช้มือซ้ายรองรับน้ำหรือไม่ ?
    ตอบ.-ไม่จำเป็นต้องใช้มือซ้ายรองรับน้ำกรวด เพียงแต่ใช้มือซ้ายจับภาชนะเปล่าไว้ จะจับที่ขอบปากหรือที่ตัวภาชนะก็ได้ ไม่ต้องจับเลยก็ได้ ใช้แต่มือขวาจับที่กรวดน้ำ เช่น แก้วน้ำ คณโฑน้ำ หรือถ้วยน้ำอย่างเดียวก็ได้

    ๑๑.การกรวดน้ำจะกรวดด้วยภาษาไทยได้หรือไม่ ?
    ตอบ.-การกรวดน้ำด้วยภาษาไทยเห็นว่าใช้ได้ ไม่มีอะไรขัดข้อง หรือข้อห้ามแต่ประการใดการกรวดน้ำด้วยภาษาอะไรนั้น ไม่สำคัญ แต่จุดสำคัญอยู่ที่การตั้งใจ ตั้งความปรารถนาดี คนเราจะได้ดีก็เพราะการตั้งจิตไว้ให้ดีเท่านั้น
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,095
    ค่าพลัง:
    +16,623
    วันนี้ส่งของให้นะครับ;)
     

แชร์หน้านี้

Loading...