ร่วมแจมประวัติและพระเครื่อง สุดยอดพุทธคุณสายใต้ครับ

อีกหนึ่งของสายใต้ที่ไว้ใจในพุทธคุณได้มากที่สุด

หลวงปู่ทวดวัดยะหาประชาราม อ.ยะหา จ.ยะลา

เป็นพระเครื่องพุทธคุณสูงแต่ราคาหลักร้อยสร้างประมาณ ปี2500-2503

โดยพ่อท่านเซี้ยงเจ้าอาวาสวัดยะหารวมกับ อ.ทิม อ.นำ ล.พ.ดำ อ.นอง

ล.พ.ฉิ้น ร่วมกันจัดสร้าง มีพิธีปลุกเสก 4 วัน 4 คืน มวลสารที่ใช้ ได้แก่

ดินกากยายักษ์และว่านที่เหลือจากพิธี ปี 2497 อีกทั้งน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์

และดอกไม้ที่พระใช้ทำสังฆกรรมทั่วประเทศ

ปัจจุปันเริ่มไม่ค่อยเจอ มีคนตามเก็บเงียบ

เหมาะกับคนเล่นที่เน้นพุทธคุณเป็นหลัก

แต่เบี้ยน้อย

 

อนุโมทนา ครับ
เพิ่ง ไปกราบท่าน เมื่อ 3 เดือนก่อน ครับ

 

ขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมโพสต์ประวัติกันนะครับ ช่วงนี้ไม่ค่อยได้มาเนื่องจากอยู่ในช่วงปีใหม่มีงานเข้ามาเยอะครับ และตอนนี้อยู่ทระหว่างท่องเที่ยวที่หัวหินด้วย ไงขอให้พี่น้องชาวพลังจิตมีแต่สิ่งดีๆเข้าหานะครับ.............สวัสดีปีใหม่ จะเข้ามาโพสต์เพิ่มราววันที่5 ไงฝากพี่ๆน้องๆเพื่อนๆร่วมเเจมกันนะครับ...THANKS

 

ปิดตาพิมพ์ตะพาบได้มาสมัยเรียน ปวช.นะครับจากเพื่อนๆอยู่ใกล้วัดครับ
----------------------------------------------------------
ร้านค้าพระเครื่อง ออนไลน์ - พุทธาคุณคุ้มเกล้า - 1
<o>> </o>>
ร้านค้าพระเครื่อง ออนไลน์ - พระเครื่องมณีเลิศ - 1

 

กลับมาจากเที่ยวปีใหม่ พร้อมกับเหรียญเกจิแห่งกระบี่ครับ เป็นเหรียญหลวงพ่อจำเนียน วัดถ้ำเสือ กระบี่ มาพร้อมจารเลยครับ ท่านเป็นเกจิอีกทั่นที่เก่งครับ เดี๋ยวคืนนี้ถ่ายรูปครับผม......สวัสดีปีใหม่ย้อนหลังครับ

 

หลวงพ่อจำเนียน วัดถ้ำเสือ ครับ เหรียญนี้จารเต็มพิกัด ครับ

 

+++++ตามหามานานมาก เพราะเจอเเต่ไม่จาร ครับ งานนี้เจอแบบจารแถมสภาพดีเลี่ยมเก่าอีก ไม่คว้าไม่ได้เเล้วครับ+++++
1.ภาพถ่าย กระดาษหนังไก่ พ่อท่านหนูจันทร์ วัดพัทธสีมา นครศรีธรรมราช
ประวัติพ่อท่านนั้น ไว้จะนำมาลงให้อ่านครับ แต่ที่แน่ๆพ่อท่านเก่งเรื่องวิชามากๆครับ สิ่งปลูกสร้าง2ชั้นท่านไม่ย่างกรายเข้าเลยครับ ท่านอยู่ชั้นเดียวตลอด เหรียญรุ่นแรกก็ราคาไปไกล เป็นเหรียญดังเมืองคอนเลยทีเดียว ส่วนรูปถ่ายมักพบเจอยากพอควรส่วนมากไม่มีจารครับ แต่รูปนี้จารดินสอชัดเจน สุดๆครับ
2.รูปพ่อท่านหมุน วัดเขาแดงตะวันออก พัทลุง
หนึ่งสุดยอดเกจิแห่งสายเขาอ้อ อันโด่งดัง พ่อท่านเป็นร่างประทับหลวงพ่อทวดด้วยครับ เห็นว่ามีเพียง2องค์เท่านั้นที่พ่อทวดท่านประทับทรงครับ ประสบการณ์หายห่วง รูปนี้สมบูรณ์อยู่มากครับ โดยส่วนตัวผมมีแล้ว3รูป รูปนี้สมบูรณ์ที่สุด เพิ่งได้มาเมื่อปีใหม่หมาดๆเลยครับ หลังตราปั๊มวัด ฉลองพัดยศ85ปี อายุของพ่อท่านครับ......นับเป็นรูปถ่ายของท่านที่รับการยืนยันชัดเจนที่สุดครับ

 

ขวัญใจสายเมตตา หลายท่านว่าเเรงมากๆครับ มีไว้เรีบกทรัพย์....ล่าสุดเพิ่งได้มาครับ..........
++++ ธนบัตร ขวัญถุง อ.ศรีเงิน วัดดอนศาลา++++ ปลุกเสก3ปี เลยทีเดียวครับ
ว่ากันว่าท่านเด่นทางสายเมตตามากๆ ซึ่งนับว่าเป็นศิษย์สายเขาอ้อที่เด่นทางเมตตาที่สุดเลยก็ว่าได้ครับ...............
ใบนี้ป็นแบ๊งค์1บาตร ครับ สวยๆเลย

 

คุณ cornell ดูพระปิดตานะมหามงคลองค์นี้ให้หน่อยครับ ไม่ทราบว่าแท้หรือเก๊ กว้าง 2.1

สูง 2.2 ซ.ม. เจ้าของพระตั้งค่านิมนต์ 5,000 ส่วนตัวชอบมากอยากมีไว้บูชาซักองค์แต่ดู

ไม่เป็น คุณ cornell พอจะดูได้ขาดไหมครับ ถ้าดูได้ผมขอความอนุเคราะห์เช็คให้หน่อย

กลัวโดนครับ (ขออนุญาตุท่านผู้ดูแลเว็บตั้งคำถามนอกประเภทน่ะครับ)

 

ผมว่าดูสวยดีนะครับ ส่วนตัวชอบครับ ลองดูกระเเสโลหะจากของผมครับ(องค์นี้แท้ดูง่ายมากครับ)

 

พรุ่งนี้จะโทรแจ้งให้ทราบนะค่ะ

 

รับทราบครับคุณน้ำ ขอบคุณครับ

 

ตามที่ได้เกริ่นไว้ว่าจะหานำมาลงครับ กับรูปท่านอาจารย์หนูจันทร์และประวัติ ครับ ท่านเก่งมากๆครับ ลองสอบถามชาวนครศรีธรรมราช คงได้ความแน่ๆครับ ผมเพิ่งได้รูปจารมือมาครับ หายากสุดๆ พี่น้องพบเจอเก็บได้เลยครับ
<TABLE width=941 border=0><TBODY><TR><TD colSpan=2>

​

</TD></TR><TR><TD bgColor=#66ff00 colSpan=2>ประวัติ
พระอาจารย์ หนูจันทร์ ปุญฺญสุวณฺโณ
สถานะเดิม
• ชื่อ นายหนูจันทร์ นามสกุล จันทร์ปาน
• เกิดเมื่อวันพฤหัสบดี เดือนหก ปีมะเมีย พ.ศ. ๒๔๓๖ ณ บ้านเกาะขรบ หมู่ที่ ๗ ตำบลเขาพระบาท อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช
• บิดา นายศักดิ์ มารดา นางจันทร์คง
• มีพี่น้อง ๖ คน มีบุตรบุญธรรม ๑ คน ดังนี้
๑. นางพัด นายหนม นามสกุล ตักเตือน
๒. นายชื่น จันทร์ปาน
๓. พระอาจารย์ หนูจันทร์ ปุญฺญสุวณฺโณ
๔. นางหลับ นายนวล ศรีจันทร์คง
๕. นางหอแก้ว นายแจ้ง ปานคง
๖. นางทับ นายดำ แก้วเขียว
บุตรบุญธรรม ๑ คน นายสีชุม นางเหียน คงมา
</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR><TR><TD bgColor=#66ff00 colSpan=2>สถานะบรรพชิต
• ชื่อ หนูจันทร์ ฉายา ปุญฺญสุวณฺโณ
การบรรพชา
• เมื่ออายุ ๑๘ (บรรพชาเป็นสามเณร ๑ ปี แล้วลาสิขาบทเพื่อช่วยทำนากับบิดามารดา)
การอุปสมบท
• เมื่ออายุ ๒๐ ปี เมื่อเดือนกรกฎาคม ๒๔๕๕ ณ วัดแดง ตำบลเขาพระบาท อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช
• พระอุปัชฌาย์ พระครูพนัง ศรีวิสุทธิ์พุทธภักดี (วัดศาลาแก้ว)
• พระกรรมวาจารย์ อาจารย์ชู (วัดศาลาแก้ว)
• พระอนุสาวนาจารย์ อาจารย์บม (วัดศาลาแก้ว)</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR><TR><TD bgColor=#66ff00 colSpan=2>มรณภาพ
• เมื่อวันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๒๕ เวลา ๑๗.๓๐ น. ณ วัดแดง ตำบลเขาพระบาท อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ด้วยโรคลมปัจจุบัน
การฌาปนกิจศพ
• เมื่อวันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๒๗
• ณ ฌาปนสถาน (เมรุพิเศษ) วัดแดง ตำบลเขาพระบาท อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช
• มีอายุ ๙๐ ปี มีพรรษา ๗๑ พรรษา
ผลงานของท่าน
พระอาจารย์หนูจันทร์ ปุญฺญสุวณฺโณ เป็นพระนักพัฒนา และปฏิบัติธรรมไปพร้อม ๆ กัน มีความคิดมีสายตาอันยาวไกล
ท่านได้ใช้ชีวิตอุทิศเพื่อการพระศาสนา และการศึกษาอย่างแท้จริง และท่านมิได้ละเว้นการบำเพ็ญเพียร ทางด้านสมถวิปัสนากัมมัฏฐาน อีกด้วย
ย้อยความเดิม ท่านเป็นศิษย์เอกของอาจารย์ชูเฒ่า และการฝึกฝนวิชาต่างๆ จนเป็นผู้ที่มีพลังจิตเข็งกล้ามากท่านหนึ่ง
เชื่อกันว่าท่านสามารถย่อขยายร่างลงไปอาบน้ำในกาน้ำได้ ท่านถือเคล็ดวิชาไสยศาสตร์ด้วยและสำนักวัดพัทสีมา
เป็นที่ขึ้นชื่อมากในวิชาอาคาโดยเฉพาะเลย ชาวบ้านลุ่มน้ำปากพนังตีออกไปทางหัวไทร ยาวออกไประโนดสงขลา ไปออกมาเล (มาเลเซีย)
</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR><TR><TD colSpan=2>

​

</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR><TR><TD bgColor=#66ff00 colSpan=2>
พ่อท่านหนูจันทร์ถือปฏิบัติที่เคร่งครัด ท่านไม่เดินเข้าในบ้านสองชั้น เพราะอาจจะมีของต่ำอยู่ในที่สูง ท่านไม่ถือเงินถือทอง
และเรื่องคำมั่นสัญญาก็ท่านเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญยิ่งที่ต้องรักษาคำพูด ท่านอยู่กุฏิง่ายๆร่มรื่นในเปลว(ป่าช้า) รอบๆกุฏิสงฆ์
จะมีต้นไม้น้อยใหญ่ ร่มรื่น มีนกนานาชนิด นกเขาเปล้า นกเอี้ยง อีกา นกอื่นๆ มากมาย มูสังหรือชมด วิ่งคลอเคลียร์ พ่อท่านหนูจันทร์
เมื่อครั้งที่ท่านมรณภาพไปตั้งแต่ วันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๒๗ จนถึงก่อนวันที่จะเผา ทราบปรากฏว่าร่างของท่านมีสภาพไม่เน่าเปื่อย
แข็งกลายดุจดังหินผา สร้างความมหัศจรรย์ให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก ต่างได้กล่าวเลื่องลือถึงความศักดิ์สิทธ์ในตัวท่าน
แต่น่าเสียดายที่ต้องปลงศพพ่อท่าน เพราะท่านได้สั่งเอาไว้เมื่อครั้งยังมีชีวิต
ก่อนที่หลวงพ่อจะมรณภาพไม่นาน ศิษย์ยานุศิษย์ได้ถามหลวงพ่อว่า "ถ้าหากหลวงพ่อมรณภาพลง สังขารหลวงพ่อจะเป็นอย่างไร และจะให้จัดการอย่างไร" หลวงพ่อบอกว่า "จะให้เน่าเปื่อยก็ได้ ไม่ให้เน่าเปื่อยพุพองก็ได้ จะเอาอย่างไหนละ แต่ทว่าจะอย่างไรก็ตามห้ามเก็บศพไว้ ให้ทุกคนช่วยกันเผาทำลายเมื่อถึงเวลาอันควร เพราะถ้าเก็บไว้ อนุชนรุ่นหลังจะไม่มีใครรู้จัก จึงให้เผาทำลายเสีย" ทำให้คณะศิษย์นิ่งอึ้งไปหลายคนในครั้งนั้นนับว่าหลวงพ่อรู้อนาคตกาล และไม่ประกอบด้วยกาล หลังจากเก็บศพไว้นาน 2 ปี ได้เปิดศพของหลวงพ่ออีกครั้งเมื่อวันศุกร์ที่ 10 สิงหาคม 2527 ปรากฏว่า สังขารของท่านไม่เน่าเปื่อยแต่ประการใด แห้งแข็งและสีดำ ต่อมาวันจันทร์ที่ 13 สิงหาคม 2527 ตอนบ่าย 3 โมง ก็ได้ทำการปลงศพหลวงพ่อตามคำสั่งของหลวงพ่อ ท่ามกลางมีเสียงคัดด้านกันมากมาย แต่จำเป็นต้องทำลายตามที่ลั่นวาจารับไว้กับหลวงพ่อก่อนที่จะมรณภาพ วันปลงศพ ประชาชนต่างกรูเข้าไปเก็บเศษจีวรไว้สักการบูชากันล้นหลาน รุ่งขึ้นต่างก็เข้าไปเก็บอัฐิธาตุและเถ้าถ่านกันอีกระลอกหนึ่งด้วยความเคารพศรัทธาในองค์หลวงพ่อมิเสื่อมคลาย
</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD>กฤดาอภินิหาร หลวงพ่อหนูจันทร์ วัดพัทธสีมา
</TD></TR><TR><TD vAlign=top>กฤดาอภินิหาร หลวงพ่อหนูจันทร์ วัดพัทธสีมา อ. หัวไทร เรื่องที่ 1. เมื่อปี 2521 ในขณะที่หลวงพ่อมีชีวิตอยู่ พัฒนากร จังหวัดนครศรีธรรมราช และบรรดาศิษย์ยานุศิษย์ ได้พร้อมใจกันสร้างรูปเหมือนบูชา ขนาดหน้าตัก 4 นิ้ว เนื้อซิลิก้า ขึ้น กะว่าจะทำออกมาประมาณไม่ต่ำกว่า 1,000 องค์ ปรากฏว่าเมื่อหล่อออกมาได้ 66 องค์ ได้มีบรรดาชาวบ้านไปยืนดูอยู่ด้วยมากมาย มีหลายเสียงบ่นพึมพำ ตำหนิ รูปหล่อนั้นต่างๆ นานา เช่น พูดว่า คอยาวบ้าง คอเอียงไปบ้าง ไม่เหมือนตัวจริงบ้าง อะไรทำนองนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องของการ ตำหนิ ดิฉิน ทั้งนั้น พอหล่อต่อไปเป็นองค์ที่ 67 เบ้าก็แตก จะซ่อมแซมอย่างไรก็ไม่ได้ ผลสุดท้ายคณะกรรมการดำเนินการต้องยุติการหล่อรูปแต่เพียงเท่านั้น เป็นอันว่าหล่อครั้งนั้นได้มาเพียง 66 องค์ เรื่องที่ 2. ในยามปกติที่หลวงพ่ออยู่ในกุฏิและบังเอิญถ้ามีผู้หญิงจะไปนมัสการท่านโดยไปคนเดียวโดดๆ โดยไม่มีบุคคลที่สองไปด้วย จะมองไม่เห็นหลวงพ่อเลย คล้ายกับว่า หลวงพ่อไม่อยู่ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นพี่สาว น้องสาว ญาติ ๆ ของหลวงพ่อเอง หรือจะเป็นใครก็แล้วแต่ จะไม่มีโอกาสได้เห็นหลวงพ่อเลย เรื่องนี้เป็นที่รู้กันมานานแล้วและมีประสบการณ์กันมามากคน เรื่องที่ 3. เหรียญทุกๆรุ่นของหลวงพ่อมีข้อห้ามอยู่อย่าง คือ ห้ามนำไปเลี่ยมหรืออัดกรอบเพราะถ้าเลี่ยมหรืออัดกรอบแล้ว เหรียญนั้นจะสูญหายไร้วี่แววในเวลาต่อมา จะคงเหลือเพียงกรอบห้อยอยู่เท่านั้น เรื่องนี้เจออภินิหารกันมาหลายคนแล้ว จนไม่มีใครกล้านำไปเลี่ยมหรืออัดกรอบเลย มีอยู่รายหนึ่ง เจ้าตัวเจอประสบการณ์มาด้วยตนเอง บุคคลที่กล่าวถึงนี้คือ อาจารย์วิดิ้น สังข์ด้วยยา โรงเรียนเชียรใหญ่ อดีตศิษย์วัดแดงผู้หนึ่งได้ทำการทดลองนำไปเลี่ยม ซึ่งเหรียญนั้นเป็นเหรียญรุ่นแรกที่ออก ณ. วัดพัทธสีมา ปรากฏว่าอยู่ได้เพียง 3 วัน ก็หลุดสูญหายอย่างไม่มีร่องรอย ทั้งๆ ที่ระมัดระวังอยู่ตลอดเวลา เจ้าตัวบ่นเสียดายมาจนบัดนี้ เรื่องนี้เป็นที่กล่าวขานกันมากใน อ. หัวไทร จนเป็นที่มาของคำว่า "เหรียญของท่านทุกรุ่น ดูเหมือนจะหายากยิ่งเป็นสภาพสวยๆแล้วหายากมาก แถบจะไม่มีเสียเลย ไม่ว่ารุ่นแรกหรือรุ่นสองและรุ่นสาม" เรื่องที่ 4. คุณพล ไทรแก้ว ราษฎรหมู่ที่ 8 ตำบลการะเกด อำเภอเชียรใหญ่ ตามปกติคุณพลไม่นิยมนับถือศรัทธาหลวงพ่อใดๆ มาก่อนเลยแต่กลับต้องมานับถือศรัทธาเลื่อมใส่ในองค์ หลวงพ่อหนูจันทร์ อย่างแน่นแฟ้น และก็มีเพียงองค์เดียวเท่านั้นที่คุณพลยอมรับในกฤดาภินิหาร มูลเหตุก็มาจากว่า เมื่อช่วง ปี 2525 คุณพลได้ขับรถกระบะไปทำแร่ที่ อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ซึ่งไป ๆ มา ๆ อยู่บ่อย เมื่อมาถึงปี 27 รถเกิดอุบัติเหตุเสียหลัก พลิกลงข้างทางหลายตลบ เกือบตกเขา รถไม่เสียหายมากนัก ทุกคนในรถปลอดภัย เป็นเรื่องเหลือเชื่อจริงๆ หันไปดูที่กระจกรถ ปรากฏว่ามี ภาพถ่ายรุ่นแรกของหลวงพ่อหนูจันทร์ ติดอยู่โดยคุณพลเองไม่ทราบเลยว่า ใครเป็นผู้นำภาพถ่ายของหลวงพ่อไปติดไว้ และติดไว้ตั้งแต่เมื่อไร เป็นเรื่องที่คุณพลสงสัยมาก แต่ที่แน่ๆ คุณพลเชื่อเหลือเกินว่าที่รอดตายมาได้คราวนั้น เป็นเพราะบารมีหลวงพ่ออย่างแน่นอน จึงเคารพบูชาหลวงพ่อหนูจันทร์ตั้งแต่นั้นมา เรื่องที่ 5. มีพีคนหนึ่งอยู่ตำบลท่าซอม อำเภอ หัวไทร ได้ไปทำเมืองแร่ที่ห้วยมุด อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี เหมืองเกิดถล่ม และได้ร้องเรียกให้เพื่อนช่วย ขณะนั้นเพื่อนๆ ก็อยู่ห่างกันมาก กว่าเพื่อนจะมาช่วยทัน ดิน ทรายทับขึ้นมาถึงคอหอยแล้วรอดตายเพราะเพื่อนช่วยไว้ทัน เสร็จแล้วเพื่อนบอกว่าที่เรียกให้ช่วยไม่ได้ยินเลย แต่เหมือนมีใครจับบ่ากระชากให้หันกลับไป พอหันกลับไปก็เห็นเพื่อนกำลังจมลงไปพอดี ก็เลยร้องเสียงดังขึ้น ผู้อยู่ละแวกนั้นก็ได้ยิน และต่างก็เข้าช่วยได้ทันการ พี่คนนั้นมีสายเอวของหลวงพ่อหนูจันทร์คาดอยู่ สายเองของหลวงพ่อจึงเป็นที่ต้องการสำหรับใครต่อใครมากยิ่งขึ้น คนที่มีก็ไม่กล้าอวดโฉมเพราะเกรงเพื่อนจะขโมย เลยไม่ทราบว่าอยู่ที่เอวของใครก็คน อยู่ที่ไหนบ้าง จึงเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยมีใครยอมเปิดเผยง่ายๆ (เช่นเดียวกับเหรียญรุ่นแรกที่ออก ณ วัดพัทธสีมา) เรื่องที่ 6. เรื่องของความเมตตาบารมีที่มีต่อสิงสาราสัตว์ ปรากฏเด่นชัดในสมัยที่หลวงพ่อจำพรรษาอยู่ที่วัดพิทธสีมา อำเภอหัวไทร ได้มี "ชะมด" ตัวหนึ่ง ได้เข้าไปอาศัยอยู่กินกับหลวงพ่อที่วัด หลวงพ่อได้เอาเศษจีวรผูกคอให้ วันหนึ่งชะมดไปกินไก่ของชาวบ้านเหมือนที่เคยทำ ชาวบ้านก็แอบซุ่มยิง ปรากฏว่ายิงไม่ออก ชาวบ้านไปเล่าให้หลวงพ่อฟัง หลวงพ่อจึงเรียกชะมดเข้ามาหา เอามือลูบหัวแล้วบอกว่า "อย่าไปยุ่งของเขานะลูกนะ" ตั้งแต่นั้นมา ชะมดตัวนั้นก็ไม่ไปรบกวนไก่ของชาวบ้านอีกเลย อยู่แต่กับหลวงพ่อที่กุฏิ หลวงพ่อไม่ใช้ให้ไปไหนก็ไม่ยอมไปไหนเด็ดขาด ทัศนคติทางด้านเครื่องรางของขลัง ปกติตั้งแต่ไหน แต่ไรมาแล้ว ที่หลวงพ่อไม่นิยมทำเครื่องรางของขลังให้แก่ผู้ใด หลวงพ่อเคยปรารภอยู่เนื่องๆ กับผู้ใกล้ชิดหลาย ๆ คนว่า "ทุกวันนี้คนเราชอบสนใจแต่ตัววัตถุภายนอกรับเอาแต่ภายนอก ของจริง ของแท้ ที่มีอยู่คือ ธรรมะ กลับไม่ชอบ" ฉะนั้นเครื่องรางของขลังของหลวงพ่อจึงมักไม่ค่อยปรากฏ หรือมีก็น้อยมากนั่นเอง ส่วนใหญ่ ศิษย์ยานุศิษย์ที่เชื่อมั่นและศรัทธาในองค์หลวงพ่ออย่างแรงกล้านั้นเอง เป็นผู้สร้างขึ้น แต่ผู้ที่ได้ไปบูชาต่างก็พบกับ ประสบการณ์เป็นยอดกันทุกคน โดยเฉพาะ เหรียญรุ่นแรก ที่ออกที่วัดพัทธสีมา ซึ่งขณะนี้มีผู้กว้านหาเช่าบูชากันจ้าละหวั่น แต่ก็หาได้ยากเหลือเกิน เพราะสร้างขึ้นมาไม่ถึงสองพันเหรียญนั่นเองบางคนว่าประมาณพันเหรียญเท่านั่นเอง วัตถุมงคลที่จัดสร้างไว้สมัยท่านมีชีวิตอยู่ เมื่อตอนที่หลวงพ่อจำพรรษาอยู่ที่ วัดพัทธสีมา ได้สร้างเครื่องรางผ้าประเจียด และสายเอว ให้แก่ลูกศิษย์ที่เลื่อมใส สำหรับสายเอวนี้ วิธีการจัดสร้างของหลวงพ่อก็โดยาวใช้ผ้าขาวยาว 11 ศอก กว้างพอประมาณ ตัดเป็นริ้ว 3 ริ้ว แล้วเขียนอักขระลงในแต่ละริ้วเต็มหมดทั้ง 3 ริ้ว ต่อจากนั้นก็นำมาควั่นเป็นเกลียว 3 เกลียวสุดท้ายก็พันเป็นเส้นเดียวกัน เรียกว่า "สายเอว" นับว่าเป็นเครื่องรางที่ยอดในด้านคงกระพันชาตรี แคล้วคลาดจากศาสตราวุธทั้งมวล ซึ่งผู้ที่ได้ไปจากมือหลวงพ่อ กล่าวชมเป็นเสียงเดียวกัน ต่อมาหลวงพ่อได้เลิกจัดสร้างเมื่อปีใดจำไม่ได้ ของเหล่านี้จึงมีไม่มากนัก วัตถุมงคลที่จัดสร้างไว้สมัยท่านมีชีวิตอยู่ เมื่อตอนที่หลวงพ่อจำพรรษาอยู่ที่ วัดพัทธสีมา ได้สร้างเครื่องรางผ้าประเจียด และสายเอว ให้แก่ลูกศิษย์ที่เลื่อมใส สำหรับสายเอวนี้ วิธีการจัดสร้างของหลวงพ่อก็โดยาวใช้ผ้าขาวยาว 11 ศอก กว้างพอประมาณ ตัดเป็นริ้ว 3 ริ้ว แล้วเขียนอักขระลงในแต่ละริ้วเต็มหมดทั้ง 3 ริ้ว ต่อจากนั้นก็นำมาควั่นเป็นเกลียว 3 เกลียวสุดท้ายก็พันเป็นเส้นเดียวกัน เรียกว่า "สายเอว" นับว่าเป็นเครื่องรางที่ยอดในด้านคงกระพันชาตรี แคล้วคลาดจากศาสตราวุธทั้งมวล ซึ่งผู้ที่ได้ไปจากมือหลวงพ่อ กล่าวชมเป็นเสียงเดียวกัน ต่อมาหลวงพ่อได้เลิกจัดสร้างเมื่อปีใดจำไม่ได้ ของเหล่านี้จึงมีไม่มากนัก เหรียญรุ่นแรก ลูกศิษย์ได้สร้าง เหรียญรูปหลวงพ่อเมื่อปี 2516 เป็นปี่ที่อายุครบ 80 นับเป็น เหรียญรุ่นแรก โดยมี พระครูศิริธรรมาธิรักษ์ เจ้าอาวาสวัดพัทธสีมาสมัยนั้น เป็นผู้ดำเนินการจัดทำ ลักษณะรูปเหรียญเป็นรูปไข่ ขนาดเล็ก เนื้อทองแดงรมดำ ด้านหน้าเป็นรูปครึ่งองค์ ขอบล่างของเหรียญเป็นตัวอักษรตามแนวโค้งของเหรียญว่า "อาจารย์หนูจันทร์" ด้านหลังเป็นยันต์ ขอบบนตัวอักษรว่า "วัดพัทธสีมา" ขอบด้านล่างเขียนว่า "ครบรอบ 80 ๘0 ปี" เหรียญรุ่นสอง จัดสร้างขึ้นเนื่องในโอกาสวางศิลาฤกษ์วิหาร ในปี พ.ศ. 2519 ออก ณ วัดพัทธสีมา เช่นเดียวกัน มีด้วยกันสองพิมพ์ 1. พิมพ์อาจารย์ชูเฒ่า 2. พิมพ์อาจารย์หนูจันทร์ ซึ่งเป็นพิมพ์นิยม มีบล็อกด้านหน้าสองบล็อกด้วยกัน เหรียญรุ่นสาม เป็นรูปใบโพธิ์ยอดแหลมขนาดเล็ก จัดสร้างเป็นที่ระลึกในการจัดตั้งมูลนิธิวัดบ้านด่าน ในปี พ.ศ. 2523 ออก ณ วัดพัทธสีมา เช่นเดียวกัน ต่อมาเมื่อหลวงพ่อไปจำพรรษาที่วัดแดง บรรดาศิษย์ก็ได้จัดสร้างวัตถุมงคลขึ้นอีก 2 อย่าง ซึ่งจัดสร้างในขณะที่ท่านมีชีวิตอยู่ คือรูปเหมือนบูชา ขนาดหน้าตัก 4 นิ้ว เนื้อซิลิก้า สร้างได้ 66 องค์ กับ ภาพถ่ายหลวงพ่อ ขนาด 1 นิ้ว อัดกรอบพลาสติกห้อยคอบูชา</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ช่วงปีใหม่ได้ไปนมัสการ หลวงปู่ทวด องค์ใหญ่ที่สุดในโลก(รู้สึกว่าเค๊าบอกอย่างนั้นครับ) วัดห้วยมงคล หัวหิน ครับ
วัดสวยสุดๆใหญ่มาก อยู่บนเขาครับ มีทุ่งทานตะวัน สวยงาม มากๆครับ เพื่อนๆพี่ๆผ่านไปอย่าลืมไปเที่ยวและแวะนมัสการกันนะครับ

 

หยุดโพสท์ไปหลายวัน มิได้หายไปไหนครับ เพียงแต่เน็ตช่วงนี้ใช้ไม่ค่อยได้ครับ

 

ตามมานานครับกับ เนื้อที่มีท่านองค์นี้ทำเพียงผู้เดียวในประเทศครับ
เนื้อทองมหาสัตตะโลหะ พิมพ์พระชัย อ.ศรีเงิน วัดดอนศาลา ครับ...
พระชัยวัฒน์ศรีเพชรัตน์หรือยอดธงจิ๋วเนื้อทองมหาสัตตะโลหะอ.ศรีเงิน ขนาด กว้าง1สูง1.3cm จำนวนสร้างหลักสิบองค์ อันเป็นสูตรการเล่นแร่แปรธาตุของเขาอ้อ ท่านอ.ศรีเงินได้นิมิตรเห็นอ.ทองเฒ่าและอ.เอียดได้มาบอกสูตรการสร้างเนื้อทองมหาสัตตะโลหะ ซึ่งนอกจากโลหะหลายชนิดรวมกันยังมีว่านยาบางอย่างใส่เข้าไปตอนหลอม เพื่อให้เนื้อออกมาคล้ายกับทองคำ ทั้งๆที่ไม่ใช่เนื้อทองคำ อย่างเช่น รากเหล็กส่องแสงยามราตรี ทองบ้านงอกได้ เป็นต้น เนื้อทองมหาสัตตะโลหะนี้สร้างราวปี25-26............
องค์นี้เนื้อทองมหาสัตตะเกินออกมาเพียบ อีกทั้งมาเป็นช่อเลยครับ เลี่ยมผ่าหวายเงิน มาอีก.....ตามมานานครับ ว่ากันว่า ผู้ใดมีทองมหาสัตตะโลหะ ผู้นั้นไม่มีขัดสนเกี่ยวกับเรื่องเงินทอง หรือ ไม่อดตายนั่นเองครับ( ตามตำนานที่ว่ากันครับ ตกหล่นประการใด ขอโทษมา ณ ที่นี้ครับ ).....เพื่อนๆพี่ๆพบเจออย่าลืมเก็บกันนะครับ เพราะท่านสร้างเพียงหลักสิบครับ อีกทั้งไม่มีปลอมอีกด้วยครับ แต่จะหายากสักนิดเเต่คุ้มค่าครับ
ปล.รูปนี้ถ่ายไม่ชัด แต่สังเกตุดูความส่องสว่างดั่งทองตรงที่เนื้อเกินออกมาครับ

 

แจ้งนิดนึงครับ เหตุที่ช่วงนี้ไม่ได้เข้ามาอัพประวัติครูบาอาจารย์นั้น เนื่องมาจาก เน๊ตผมใช้ไม่ค่อยได้ครับ มิได้หายไปไหน ถ้ามีโอกาศจะมาอัพให้เรื่อยๆครับ และเชิญชวนพี่น้องที่มีประสบการณ์หรือประวัติ เกี่ยวกับพระเครื่องสายใต้มาช่วยกันเผยแพร่เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ชาวเว็ปพลังจิต ด้วยครับ...........ขอบคุณครับ

 

อีกสักชิ้นที่เเนะนำครับ
ลูกอมแห่งเทวดาเมืองคอน..........พ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน นครศรีธรรมราช ครับ
เม็ดนี้ผมได้มานานแล้วครับเลือกมาเม็ดที่ใหญ่ที่สุด ดูรูปกันชัดๆครับ ความหายากพอควรทีเดียวครับ เพราะเล่นกันมานานเเล้วเช่นกันครับ ควรเน้นที่มาด้วยยิ่งดีครับ เม็ดนี้ที่มาชัดเจนครับ
มีพี่น้องชาวเว็ปท่านนึงได้ขอให้ผมถ่ายรูปลง ก็ไม่มีเวลาซักที วันนี้ผมจึงจัดให้ตามคำเรียกร้องครับ เพิ่งถ่ายเมื่อครู่ เอาเป็นว่าปิดท้ายก่อนนอนครับ....ราตรีสวัสครับชาวเว็ปพลังจิต

 

สวยมากค่ะ ตกลงค่ะ

 

ขอบคุณครับคุณน้ำ