ร่วมแจมประวัติและพระเครื่อง สุดยอดพุทธคุณสายใต้ครับ

ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าแบ่งได้ก็เอาค่ะ ถ้ายังหวงก็ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ได้ซีเรียสค่ะ

 

โอ๋ๆๆๆ....ขอเก็บก่อนครับ ไว้ใช้เดี๋ยวผมดูให้ครับคุณน้ำ ผมว่าผมน่าจะหาได้นะ แต่ต้องเบียดราคากันเอาครับ

 

เอาสวยอย่างเดียวนะค่ะ ไม่สวยไม่เอาค่ะ เพราะแบบไม่ทาบรอนซ์ทองแบบนี้ยังไม่มีสักองค์ค่ะ มีแต่เคลือบบรอนซ์ทองหมดเลย

 

ได้ครับ แต่ว่ากันที่ห้าขึ้นแน่ครับ....เดี๋ยวจัดให้ครับ

 

ดีจัยจังค่ะ เด๋วน้ำจะนำมาใส่ตลับเงินไปก่อน จะเอาไปห้อยหน้ารถซะหน่อย

 

โหเหน็บไว้ที่ตัวดีกว่าครับ พุทธคุณหายห่วง สุดๆครับ

 

ที่คอสะดุ้งกลับตั้ง 5 องค์แล้วค่ะ อีกอย่างถือคติ ไม่เคยคิดจะนำพระเครื่ององค์ใดติดตัวนอกจากหลวงปู่บุญเลยค่ะ ไม่งั้นน้ำคงเอาหลวงตาปลอดที่เก็บไว้ห้อยคอไปนานแล้วค่ะ

 

พูดถึงเรื่องนี้ ถ้าเจอพระเนื้อดินเผาพิมพ์เศียรโล้นสะดุ้งกลับ หลวงปู่บุญ แจ้งน้ำหน่อยนะค่ะ สภาพไหนก็ได้ค่ะ แต่เน้นสวย มีจารหรือไม่มีจารก็ได้ ขอราคาอยู่ระหว่าง 150,000-200,000 นี่แระค่ะ ถ้าได้ราคาไม่เกินนี้กี่องค์เอาหมดค่ะ รบกวนส่งภาพให้น้ำนิดนะค่ะ น้ำมีใบสั่งหลายองค์ แต่หาไม่ได้สักองค์

 

ดูกี่ทีก็ไม่เบื่อจิง ๆ ขนาดคุณยุทธ หาดใหญ่ ยังไม่มีเนื้อนี้เลยสักองค์

 

ถุกครับ คุณยุทธจะเป็นบรอนส่วนมากครับ

 

วันนี้เสนออีกหนึ่งเกจิอันโด่งดังแห่งสงขลาครับ
ประวัติหลวงพ่อสีแก้ว กุลคุโณ วัดไทรใหญ่
หลวงพ่อสีแก้ว กุลคุโณ อดีตเจ้าอาวาสรูปแรกของวัดไทรใหญ่ ตำบลควนรู อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา สุดยอดเกจิอาจารย์รูปหนึ่งในจังหวัดสงขลา กิติศัพท์โด่งดังสร้างพระเครื่องอย่างเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ปรากฎคุณวิเศษ พระเครื่องรุ่นแรกเป็นที่ต้องการแสวงหาของคนทั่วไป ในเวลานี้หายากเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่าท่านสร้างไว้น้อย ชาติภูมิ หลวงพ่อสีแก้ว กุลคุโณ เกิดวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2443 บ้านไทรใหญ่ ตำบลควนรู อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา โยมบิดานายพรหม โยมมารดา นางศรีขวัญ นามสกุล คงสม ท่านมีพี่น้องพ่อแม่เดียวกัน 2 คน คือ นางศรีพัฒน์ คงสม (ถึงแก่กรรม) และหลวงพ่อสีแก้ว กุลคุโณ(มรณภาพแล้ว) และท่านมีพี่น้องร่วมบิดาต่างมารดา 4 คน คือ นางทอง คงสม (ถึงแก่กรรม) นายทองแก้ว คงสม(ถึงแก่กรรม) นางสันเนียว ศรีวะปะ (ถึงแก่กรรม) และนางตุ๊กตา คงสม การศึกษาหลวงพ่อสีแก้ว กุลคุโณ ได้ศึกษาวิชาภาษาไทยกับพระอาจารย์ยิ้ม เจ้าอาวาสวัดใสใหญ่(วัดเก่า) ท่านได้บวชสามเณร ณ พัทธสีมา วัดใสใหญ่ (วัดเก่า) บรรพชาอุปสมบท ครั้นอายุ 21 ปี โยมบิดา มารดาได้อุปสมบทให้ท่าน เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2464 ณ พัทธสีมาวัดใสใหญ่ (วัดเก่า) หลังจากท่านอุปสมบทเรียบร้อยแล้วได้จำพรรษาที่วัดใสใหญ่ ศึกษาพระธรรมวินัยโดยเคร่งครัด และเรียนวิชาไสยศาสตร์และพุทธคุณกับอาจารย์ชื่อดังของภาคใต้ในสมัยนั้น จนมีความชำนาญ ศิษยานุศิษย์และชาวบ้านต่างเรียกท่านว่า พระผู้ขมังเวทย์วิทยาคมรูปหนึ่งของภาคใต้ รับตราตั้ง วันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ.2492
หลวงพ่อสีแก้ว กุลคุโณ ได้รับการแต่งตั้งจากเจ้าคณะจังหวัดสงขลาให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดไทรใหญ่ นับเป็นเจ้าอาวาสรูปแรกของวัดไทรใหญ่มรณภาพ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2516 หลวงพ่อสีแก้ว กุลคุโณ ได้มรณภาพด้วยโรคชรา รวมอายุท่านได้ 73 ปี
วัตถุมงคล หลวงพ่อสีแก้ว ท่านได้สร้างวัตถุมงคลไว้ เช่น ตะกรุด , ผ้ายันต์, แต่พบเห็นน้อยมาก แต่วัตถุมงคลที่โดดเด่นเป็นที่เสาะหากันอย่างกว้างขวางและได้รับการยอมรับจากวงการพระเครื่องก็คือพระปิดตา ซึ่งท่านได้สร้างไว้ประมาณ พ.ศ. 2485 ถือว่าเป็นพระหลักที่ได้รับความนิยมอันดับต้นๆในพระสายใต้ และราคาในการเล่นหาอยู่ในระดับหลักหมื่นครับ
และ
เหรียญข้างล่างนั้นเป็นเหรียญรุ่นแรก(นิยม) เป็นเหรียญของเพื่อนผมครับ(องค์จริงสวยมากไม่ได้เป็นอย่างในภาพครับ เลนส์ถ่ายละเอียดมาก จึงดูดำๆเหรียญจริงไม่ดำแต่ผิวหิ้งครับ)

 

รบกวนหาเหรียญหลวงพ่อแดง เกาะพะงัน รุ่นแรกให้น้ำสักเหรียญด้วยนะค่ะ อยากได้เพิ่มค่ะ

 

ขอเป็นความรู้ไว้นิดล่ะกันค่ะ ไม่ทราบว่านางกวักหลวงตาปลอด วัดหัวป่า แบบไม่เคลือบบรอนซ์ทอง กับเคลือบบรอนซ์ อย่างไหนหายากกว่ากันค่ะ แล้วจำนวนการสร้างเท่าไร แต่น้ำเดาว่าน่าจะเป็นแบบเคลือบบรอนซ์ทองหาง่ายกว่า ไม่เช่นนั้นน้ำคงไม่ได้มาถึง 7 องค์ ในขณะที่ไม่เคลือบบรอนซ์ไม่เคยได้สักองค์เลย น้ำรบกวนช่วยถามพระในคอคุณยุทธให้สักองค์สิค่ะ อย่าบอกว่าน้ำฝากถามล่ะกันค่ะ เผื่อพี่เขาใจอ่อน ตื๊อมาหลายเดือนแล้วไม่เคยได้ค่ะ จนเลิกตื๊อไปแล้วตอนนี้ ถ้าพี่เขายอมเปิดราคาช่วยแจ้งน้ำหน่อยนะค่ะ

 

-คุณน้ำสุดยอดลูกตื้อจริงๆ เลยครับ นับถือ ๆ

 

พอดีน้ำเก็บหลวงตาปลอด วัดหัวป่ามาร่วมปีแล้วค่ะ ได้มายี่สิบกว่าองค์ ก็เป็นพิมพ์นางกวักกับพิมพ์พระพุทธนี่แระค่ะ ยิ่งมาเห็นนางกวักองค์นี้ยิ่งชอบใหญ่เลย สวยมาก ๆ สงสัยจะถูกโฉลก เลยตั้งใจจะตื๊อให้ได้นี่แระค่ะ ไม่ได้ตื๊อมาขายนะค่ะ ตื๊อมาเก็บเลยพระสวย ๆ แบบนี้ ไม่รู้จะหาที่ไหนได้แล้วด้วยค่ะ

 

ขออนุญาติเล่าเรื่องราวเก่าๆ เกี่ยวกับครูบาอาจารย์นะครับ สมัยที่พ่อท่านคล้ายยังอยู่ พ่อผมเคยถามท่านว่าถ้าท่านไม่อยู่แล้ว จะไปหาครูบาอาจารย์องค์ไหนได้บ้าง ท่านก็บอกว่าให้ไปหาพ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง

พ่อผมเล่าให้ฟังว่า ชาวบ้านแถววัดถลุงทองล่ำลือกันว่า พ่อท่านคลิ้งเดินบนผิวน้ำได้ เนื่องจากใกล้วัดจะมีลำคลองอยู่สายหนึ่ง มีชาวบ้านเห็นท่านเดินอยู่อีกด้านหนึ่งของลำคลอง พอชาวบ้านคนนั้นละสายตาจากท่านไปชั่วครู่ แล้วหันกลับไปดูท่านอีกครั้งก็ปรากฏว่าท่านข้ามคลองมาแล้วโดยจีวรไม่เปียกครับ

 

แหม เรื่องเล่านี้เหมือนกับเรื่องนี้เลยค่ะ เพราะพ่อน้ำเล่าให้ฟังเอง พ่อเคยไปกราบหลวงปู่เนียน วัดต้นเลียบที่สงขลามาค่ะ ตอนนั้นท่านยืนอยู่ใต้ต้นอะไรนี่แระค่ะสักอย่างภายในวัด พอดีพ่อถ่ายภาพมาด้วยค่ะ ลืมถามว่าต้นอะไร พ่อบอกว่าตอนที่ออกมาฝนยังไม่ตก พอกำลังจะถ่ายฝนตกพอดีเลยค่ะ แถมตกหนักมาแบบพายุเลย แต่เขาก็ถ่ายมาจนได้ค่ะ ปรากฏว่าพ่อเปียกไปหมดทั้งตัว หลวงปู่เนียนเดินเข้ามาในกุฏิ จีวรท่าน ตัวท่านไม่มีเปียกน้ำฝนแม้แต่น้อย แปลกมาก ๆ ที่ทราบเพราะมีภาพถ่ายมาด้วยนี่แระค่ะ น้ำเลยเก็บของหลวงปู่เนียน วัดต้นเลียบไว้หลายอย่างเลยค่ะตอนนี้ เก็บแบบเรื่อย ๆ ค่ะ ไม่เคยคิดปล่อยด้วยซ้ำ นี่เก็บมาได้ร่วมปีเหมือนกันค่ะ พ่อน้ำมีเหรียญท่านด้านหน้าเป็นหลวงปู่ทวด ด้านหลังเป็นรูปหลวงปู่เนียนเป็นกระป๋องเลยค่ะ ตั้งแต่จำความได้ก็เห็นมาตลอดค่ะ เห็นเขียนข้างกระป๋องเหรียญหลวงปู่เนียน วัดต้นเลียบนี่แระค่ะ

 

พระเครื่องสายใต้ที่จิงน้ำชื่นชอบมานานแล้วค่ะ เพียงแต่ยังไม่มีความรู้ แต่ที่เช่าหามาไม่ได้คิดเช่ามาเพื่อนำมาปล่อยต่อค่ะ แต่เช่ามาเพื่อเก็บอย่างเดียวล้วน ๆ จะมีให้เช่าในกรณีเดียวเองค่ะ คือ ได้องค์ใหม่ที่สวยกว่าเท่านั้น หรือทนลูกตื๊อไม่ไหวนี่แระค่ะ จำเป็นต้องแบ่งไปสักองค์สององค์

 

เหรียญพ่อท่านหมุน วัดเขาแดงตะวันออก รุ่นแรกปี16ครับ พิเศษมากๆเหรียญนี้เป็นเหรียญจารครับ เขาเล่ากันว่าเคยเห็นไม่เกิน5เหรียญ(อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจ)แต่ที่แน่ๆผมได้มา1เหรียญครับ


เหรียญนี้เด๋วขอหลังไมค์ค่ะ

 

ขออนุโมทนากับคุณน้ำดีด้วยนะครับ ที่มีศรัทธาในครูบาอาจารย์ทั้งหลาย คุณพ่อของคุณน้ำดีก็เหมือนคุณพ่อของผมที่ชอบเดินทางไปหาครูบาอาจารย์ในที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ปัจจุบันพ่อผมอายุ 81-82 ก็ยังชอบอยู่ เมื่อไม่กี่เดือนมานี้ก็ไปหาหลวงปู่เจือรอท่านถึง 2 ทุ่มกว่าจึงได้เข้าไปกราบท่าน ท่านก็เมตตาใช้เหล็กจารจารบนหัวให้ทั้งสองคนเลยครับ พ่อผมบอกว่าได้อาศัยความมีปิติที่เกิดจากบารมีของครูบาอาจารย์ทั้งหลายช่วยต่ออายุให้ยืนยาวครับ