ร้านสันติภาพพระเครื่อง หลวงปู่พิศดู ธัมมจารี วัดเทพธารทอง

พระขรรค์แก้ววัชรจักร รุ่นแรก และ รุ่น 2
รวมพระขรรค์ ครบชุด..

มีผู้สอบถามมาว่า.. พระขรรค์แก้ววัชระจักรทั้งของรุ่นแรกที่ทันองค์หลวงปู่อธิษฐานจิต และที่นำชนวนพระขรรค์ที่องค์หลวงปู่ได้อธิษฐานจิตไว้มาจัดสร้างใหม่นั้น วิธีใช้ ใช้อย่างไร..??? และมีพุทธคุณด้านใด..??? ขอตอบดังนี้ครับ..
ขึ้นชื่อว่าวัตถุมงคลที่องค์หลวงปู่พิศดูอธิษฐานจิตให้นั้น ท่านบอกว่า ตามแต่จะอธิษฐานเอา.. ซึ่งมีพุทธคุณครบทุกอย่างครอบจักรวาล ทุกอย่างนี้สำเร็จด้วยคุณของ คุณพระศรีรัตนตรัย ครูบาอาจารย์ พรหมเทวดาทั้งหลาย และบารมีธรรม ความบริสุทธิ์แห่งจิตหลุดพ้นขององค์ท่าน เลือกใช้ได้ทุกอย่างตามใจปรารถนา..
รูปแบบลักษณะของ พระขรรค์แก้ววัชรจักร ขององค์หลวงปู่ทั้งรุ่นแรก และรุ่น2 ประกอบด้วยมหาศาสตราวุธชั้นสูงสุด 4 ประการด้วยกัน คือ..
พระขรรค์(เพชร)
แก้ว(มณีรัตน)
วัชระ(ปราบมาร)
จักร(ธรรม)
เหล่านี้เป็นอาวุธของพระพุทธเจ้า และพระมหาโพธิสัตว์ฝ่ายปราบ เพื่อการสงเคราะห์ และบำบัดทุกข์ บำรุงสุขด้วยความเมตตามหาบารมีที่ไม่มีประมาณ ซึ่งการได้อัญเชิญมหาศาสตราวุธเหล่านี้มาผนวกเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัวที่สุด และเป็นครั้งแรกแห่งการจัดสร้าง เพื่อการรวมอานุภาพเกื้อหนุนกันอย่างทวีคูณ.. จะว่าไปก็คล้ายกับการเสกมีดหมอที่มีการรวมอาวุธ 4 ประการ ผูกเป็นคาถาเพื่อใช้ลง และปลุกเสกมีดเทพศาสตรา ส่วนอาวุธ 4 ประการของมีดหมอ จะประกอบด้วย วชิราวุธของท้าวสักกะฯ กระบองของท้าวเวสสุวรรณ ผ้าแดงของอาฬวกยักษ์ นัยเนตรของพระยายมราช เหล่านี้รวมเรียกว่าเทพศาสตราวุธ ถ้าพูดกันตามรูปแบบของวัตถุมงคลนั้นๆ พระขรรค์ก็เป็นศาสตราวุธ มีอานุภาพที่ใช้ในทางเดียวกันกับมีดหมอ จะต่างกันแต่ว่า พระขรรค์จะมีศักดิ์สูงกว่า เป็นของคู่กายของผู้มีบุญญาธิการ แม้ไม่ได้ผ่านการปลุกเสกก็มีอำนาจในตัวอยู่แล้ว ยิ่งถ้าได้ผ่านพิธีมาด้วยก็จะสามารถ ใช้ป้องกัน และขับไล่สิ่งไม่ดีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภูติ พราย ผีร้าย คุณไสย ลมเพลมพัด และอมนุษย์ฝ่ายมิจฉาทิฏฐิ ตลอดจนเป็นมหาอำนาจ เสริมบารมี เป็นเมตตา สง่าราศรี ต่อผู้พบเห็น สามารถใช้รักษาโรคบางอย่าง หรือโรคที่เกิดจากการกระทำด้วยอวิชาได้ และสามารถใช้พระขรรค์นี้เป็นสื่อในการแผ่บุญกุศล หรืออธิษฐานใช้เพื่อการบำบัดรักษาในที่ที่อยู่ห่างไกลกันได้ ทั้งหมดนี้อาจรวมไปถึงสามารถปัด หรือชลอภัยต่างๆ เช่นภัยธรรมชาติบางอย่าง จากลมพายุ เมฆ ฝน ได้อีกด้วย ...ฯลฯ
โดยกรรมวิธีวิธีการใช้นั้น ต้องตั้งจิตอาราธนาขออำนาจบารมี คุณพระศรีรัตนตรัย คุณบิดามารดา ครูบาอาจารย์ทั้งหมด อันมีพระมหาอุปคุต และองค์หลวงปู่พิศดูเป็นที่สุด ตลอดถึงพรหมเทวดาทั้งหลาย และอานุภาพของพระขรรแก้ววัชรจักร ได้โปรดแผ่อานุภาพบารมีให้....... (แล้วอธิษฐานเอา) จากนั้นจับที่ด้ามของพระขรรค์ โดยใช้ปลายพระขรรค์ชี้ออกไป เพื่อทำการบำบัด หรือใช้ป้องกันภัยต่างๆตามแต่จะปรารถนา แล้วภาวนาว่า นะโมพุทธายะ ๆๆๆ ... หรือภาวนา พุทโธ ๆๆๆ ... ไปเรื่อยๆก็ได้
ส่วนท่านที่ต้องการใช้คาถากำกับพระขรรค์นั้น ก็ให้ใช้คาถาอะไรก็ได้ตามความรู้ที่มี เพื่อกำลังใจเพิ่มขึ้นส่วนหนึ่ง อย่างเช่น.." พุทโธ พุทธัส กำจัดออกไป อย่าเข้ามาใกล้เสมามณฑล ออกไปให้พ้นวินาศสันติ ธัมโม ธัมมัส กำจัดออกไป อย่าเข้ามาใกล้เสมามณฑล ออกไปให้พ้นวินาศสันติ สังโฆ สังฆัส กำจัดออกไป อย่าเข้ามาใกล้เสมามณฑล ออกไปให้พ้นวินาศสันติ คัจฉะอะมุมหิ โอกาเสติฏฐาหิ " บทนี้ภาวนากำกับพระขรรค์หรือมีดหมอก็ได้ เวลาถอดถอนคุณไสย หรือผีเข้า เจ้าสิงต่างๆได้ผลดีนักแล โดยใช้พระขรรค์หรือมีดหมอจี้บังคับ ไล่ตั้งแต่จุดที่เป็น เรื่อยๆไปจนสุดปลายมือ หรือปลายเท้า
หรือหากจะใช้อธิษฐาน ทำอาณาเขตพุทธคุณ ก็ให้ภาวนา ลากพระขรรค์(เวียนขวา)ไปตามอากาศ รอบบริเวณพื้นที่ ที่เราต้องการทำอาณาเขตพุทธคุณไว้ ภาวนาคาถาป้องกันภัยว่า.." ฆะเฏสิ ฆะเฏสิ กึงกะระณัง ฆะเฏสิ อะหังปิตัง ชานามิ ชานามิ " เพื่อการป้องกันไม่ให้สิ่งชั่วร้าย หรือสัตว์ร้ายเข้ามาทำอันตรายต่อเราหรือคนรอบข้างได้ (โดยการทำดังกล่าว ต้องบอกกล่าวขออนุญาติเจ้าที่เจ้าทาง ผีบ้าน ผีเรือนก่อน และอธิษฐานให้ ผีที่ดี เทวดาที่ดีขอให้อยู่ได้ ผีหรือเทวดาที่ไม่ดี ที่ทำให้เดือดร้อนขอให้อยู่ไม่ได้... เป็นต้น)
หรือเวลาไปนอนกลางป่ากลางบ้านที่มีอาถรรพ์ ก็สามารถใช้พระขรรค์นี้อธิษฐาน วงเป็นเขตพุทธคุณ เพื่อการคุ้มครองป้องกันภัยก็ได้ สัตว์ร้าย หรือผีสาง นางไม้ เทวดา อมนุษย์จะไม่กล้ากล้ำกลาย
หรือหากต้องการทำน้ำพุทธมนต์เพื่อรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ หรือรักษาผู้ถูกกระทำคุณไสย คุณผี คุณคน ให้อาราธนาพระขรรค์นี้ให้จงดี ขอบารมีคุณพระศรีรัตนตรัย คุณบิดามารดา ครูบาอาจารย์ทั้งหลายอันมีพระมหาอุปคุต และองค์หลวงปู่พิศดูเป็นที่สุด ตลอดถึงพรหม เทวดาทั้งหลายให้ท่านช่วยเมตตาแผ่บารมี... แล้วจึงแกว่งปลายพระขรรค์ในน้ำ หรือจะแช่พระขรรค์ทั้งเล่มเลยก็ได้ แล้วภาวนาพระคาถาดังกล่าว จะกี่จบก็ได้ตามแต่สะดวกหรือตามเวลาที่มี น้ำนั้นจะกลายเป็นน้ำพุทธมนต์ สามารถนำน้ำพุทธมนต์นั้นอาบ กิน หรือประพรมรอบสถานที่ทำเป็นอาณาเขตพุทธคุณก็ได้ สิ่งชั่วร้ายทั้งหลายจะหายสิ้นไป ไม่มากล้ำกลาย จะบังเกิดแต่ความเป็นสิริมงคล แต่การทำแบบนี้ควรจะขออนุญาตต่อพระภูมิ เจ้าที่เจ้าทาง ผีบ้านผีเรือน และเทวดาที่ปกปักรักษาสถานที่นั้นเสียก่อน และให้อธิษฐานว่า ถ้าเทวดาหรือผีที่ดีขอให้อยู่ได้ ถ้าเทวดาหรือผีที่ไม่ดีที่จะทำให้เดือดร้อนขอให้อยู่ไม่ได้ แล้วจึงค่อยประกอบพิธี หากว่าท่านใดไม่อยากใช้คาถาบทยาวๆ ก็สามารถใช้คาถาสั้นๆได้ เช่น นะโมพุทธายะ ... หรือ พุทโธ ... ก็ได้ครับ..

พระขรรค์ทั้งสองชุดนี้ ได้มีครูบาอาจารย์หลายรูป นำไปใช้แล้วได้ผลดีมาก บางท่านได้ใช้ในการถอดถอนคุณไสยของแขกที่ว่าแรงที่สุด ของนั้นก็วิ่งออกและแตกสลายไปได้ ด้วยอำนาจพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพอย่างแท้จริงครับ..

 

สวยๆครับ ปิดเเล้วครับ ขอบคุณครับ

 

มาใหม่ครับ

 

ขอทราบราคา2รายการนี้ครับ

 

เหรียญรุ่นเเรกมาใหม่ครับ สวยจริ้งงงง ปิดเเล้วครับ ขอบคุณครับ

 

แบ่งบูชาเท่าไรครับ
และเหรียญรุ่นแรกแบ่งบูชาเท่าไร

 

มาใหม่ครับ

 

พระกสินหลวงปู่พิศดู สวยๆครับ

 

เหรียญพระอุปคุตวัดเทพธารทอง สวยๆครับ

 

ขอราคาทางพีเอ็ม พระขุนแผน และเหรียญรุ่นแรกด้วยครับ

 

พระกสินปิดเเล้วครับ

 

พระผงพุทธะมงคล..
พิมพ์ขุนแผน แหวกม่าน ซุ้มเรือนแก้ว
(ยอดขุนพลแห่งเมืองจันทบูรณ์)

พระผงชุดนี้จัดสร้างโดยท่านผู้พิพากษาหัวหน้าคณะศาล จังหวัดชลบุรี(ในสมัยนั้น) และคณะ โดยได้ขออนุญาติองค์หลวงปู่พิศดู จัดสร้างอย่างเป็นทางการ เพื่อแจกจ่ายให้แก่ญาติสนิทมิตรสหาย และผู้ใต้บังคับบัญชาได้มีไว้บูชาเพื่อความเป็นศิริมงคลโดยจัดสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ.2553 หลวงปู่อธิษฐานจิตให้เป็นกรณีพิเศษและยังตั้งชื่อพระรุ่นนี้ด้วยว่า " พระผงพุทธะมงคล " เนื่องจากนำผงพุทธะมงคลมาผสมเป็นมวลสารหลักอีกด้วย..

อันผงพุทธะมงคลนี้ แท้จริงแล้วก็คือ การรวมมวลสารต่างๆหลายๆอย่าง ที่เกี่ยวกับองค์หลวงปู่ และมวลสารที่อยู่ในวัดเทพธารทอง เช่น.. ผงที่ใช้ทำพระรุ่นเก่าๆของหลวงปู่ ดอกไม้ มาลัย และของที่ใช้บูชาพระและที่ลูกศิษย์นำมาบูชาหลวงปู่ ผลไม้ อาหารที่หลวงปู่ฉันเหลือ กากยาสมุนไพรต่างๆที่หลวงปู่เสกไว้ ผงไม้มงคล ผงธูป กำยานหอมต่างๆ แป้งกะแจะ น้ำอบ น้ำมันหอมต่างๆที่หลวงปู่ท่านเสกไว้ ฯลฯ เหล่านี้รวมเรียกว่าผงพุทธะมงคล หรือมวลสารพุทธะมงคล เนื่องจากว่าสิ่งเหล่านี้องค์หลวงปู่ท่านได้น้อมถวายบูชาแด่องค์พระสัมมาสัมพุทธะเจ้า จัดเป็นของมงคลชั้นสูง ท่านมักจะสั่งว่าให้เอาไปทำผง สร้างพระ สร้างเครื่องราง ห้ามเอาไปทิ้งเดี๋ยวจะเสียประโยชน์ เป็นของมีคุณค่า ฯลฯ ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้จึงเป็นอีกหนึ่งที่มาของชื่อ พระผงพุทธะมงคลนั่นเอง

นอกจากนี้ยัง ได้รับความเมตตาจาก หลวงปู่เปรี่ยม วัดโพธิ์เรียง , หลวงปู่มหาปลอด วัดโพธิ์นิมิตรอธิษฐานจิตอีกเป็นกรณีพิเศษสุด
โดยคณะท่านผู้สร้างได้นำมวลสารต่างๆมาผสมมากมายอาทิ..
- ผงกสิณ ของหลวงปู่พิศดู ที่สร้างตั้งแต่ปี พ.ศ.2520
- ผงพุทธะมงคล
- ผงพรายกุมารหัวเชื้อ ของหลวงปู่ทิมวัดระหารไร่
- ผงพรายกุมาร ของหลวงพ่อเต๋ , หลวงพ่อแย้ม วัดสามง่าม
- ผงพรายเจ้าเงาะ ของหลวงปู่ทอง วัดเกาะ
- สีผึ้งของหลวงปู่พิศดู
- สีผึ้ง ของหลวงปู่ทิม วัดระหารไร่
- สีผึ้งเขียว ของหลวงพ่อทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง
- สีผึ้งเกจิอาจารย์ต่างๆ จำนวนมาก
- น้ำมันเมตตา จากที่ต่างๆจำนวนมาก
- ผงอิทธิเจ ของหลวงพ่อสละ วัดประดู่ทรงธรรม
- ผงพระขุนแผนต่างๆ จำนวนมาก
- ชาญหมากหลวงปู่คำบุ
- ข้าวก้นบาตรของหลวงปู่พิศดู
- กล้วยเสก ของหลวงปู่พิศดู
- น้ำผึ้งเสกของหลวงปู่พิศดู
- ผงไม้เทพธาโร ของหลวงปู่พิศดู
- ผงว่านยา ของหลวงปู่เชยเขาเจ้าหลาว
- ผงพญาไก่กุก
- ดอก ว่านดอกไม้ทองจำนวนมาก
- ว่านเมตตาต่าง อาทิ ว่านเสน่จันทร์ ,ว่านสาวหลง , ว่านดอกไม้ทอง , ...ฯลฯ ที่ปลุกแล้วรดด้วยน้ำมนต์ทุกวัน
- ว่าน 108 ชนิด ที่ปลุกแล้วรดด้วยน้ำมนต์ทุกวัน
- เกษรดอกไม้มงคล
- ผงพุทธคุณของเกจิอาจารย์ต่างๆ อีกจำนวนมาก
- ............. ฯลฯ
ในการนี้ก่อนที่จะทำการกดพิมพ์พระท่านครูบากฤษดาได้เมตตาทำพิธี เจิมแท่นพิมพ์และแม่พิมพ์ให้ก่อนเพื่อความเป็นศิริมงคล จากนั้นได้กดพิมพ์เป็นปฐมฤกดิ์ไว้อีก 21 องค์ด้วย
จำนวนพระที่สร้างทั้งหมด 1,400 องค์
กดพิมพ์นำฤกดิ์ 21 องค์

ลักษณะของพระพุทธพิมพ์
ออกแบบได้สวยงามลงตัวอย่างมากและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของทางวัดเอง ไม่ซ้ำแบบของใคร..

ด้านหน้า
เป็นรูปพระพุทธเจ้าประทับนั่งขัดสมาธิเพชรปางมารวิชัยอยู่ในซุ้มเรือนแก้วมีม่านแหวกออก สื่อแสดงถึงความหมายในการแหวกปัญหาอุปสรรคต่างๆให้เปิดออกพบหนทางสว่าง ที่สดใสราบรื่น โดยด้านซ้าย-ขวาจะมีเทวดาองค์น้อยนั่งคุกเข่าพนมมืออยู่ข้างๆ ด้านบนทางซ้ายมือเรามีอักขระคาถาอ่านว่า นะจังงัง พระอะระหัง ด้านบนทางขวามือเรา มีอักขระคาถาอ่านว่า พุทโธ โสทายะ ซึ่งเป็นคาถานะจังงังมีอานุภาพในทางเป็นที่ต้องตาต้องใจให้ผู้คนเมตตา ตะลึง งวยงงหลงไหล..

ด้านหลัง
เป็นอักขระยันต์ต่างๆโดยยันต์ประธานตรงกลางเป็นยันต์มหาอำนาจ(ซึ่งนอกจากจะดีเด่นทางด้านเมตตาแล้วยังต้องมีอำนาจวาสนาด้วยจึงถือว่าครบเครื่องพระยอดขุนพลเมืองจันทบูรณ์)อักขระแนวตั้งด้านซ้าย-ขวาเป็นพระคาถาหัวใจนกยูงทอง อ่านว่า นะโมวิมุตตานัง นะโมวิมุตติยา ซึ่งคาถาหัวใจนกยูงทองนี้หลวงปู่พระอาจารย์ใหญ่มั่น ภูริทัตโต ได้เคยใช้และถ่ายทอดให้กับลูกศิษย์รุ่นต่อๆมาซึ่งมีอานุภาพเด่นในเรื่อง เมตตา และแคล้วคลาดปลอดภัย จึงถือได้ว่าเป็นคาถาศักดิ์สิทธิ์ประจำสายพระป่า เหนือขึ้นไปอีกเป็นยันต์พระพุทธเจ้าเรียกนางภิกษุณี มีอานุภาพในทางเมตตามหานิยม เรียกโชคลาภและความสำเร็จต่างๆ ส่วนด้านล่างสุดคือ ชื่อ-ฉายา และชื่อวัด ขององค์ หลวงปู่พิศดู ธมฺมจารี วัดเทพธารทอง

พระผงพุทธะมงคล หรือที่หลายๆคนเรียกว่า ขุนแผนพุทธะมงคล ถือว่าเป็นพระที่สร้างได้เป็นเอกลักษณ์ และแหวกแนวพระทุกรุ่นขององค์หลวงปู่เลยก็ว่าได้ ก็คือ พระชุดนี้เป็นพระรุ่นเดียวที่มีการนำผงพรายกุมาร มาผสมเป็นมวลสารเพื่อจัดสร้างด้วยครับ นับว่าไม่เหมือนกับพระชุดใดๆที่หลวงปู่ท่านเคยสร้าง และเสกเลย

งดงามด้วยพุทธศิลป์ .. เปี่ยมล้นพุทธานุภาพ .. เอกลักษณ์แห่งความเมตตาในสากล .. พระผงพุทธะมงคล ยอดขุนพลเมืองจันทบูรณ์..

 

พระปัจเจกโพธิ์ (สีเขียว) หลวงปู่พิศดู​

พระชุดนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2552 โดยคณะศิษย์ท่านครูบากฤษดา โดยได้มีผู้ร่วมบริจาคมวลสารเพื่อใช้สร้างอย่างมากมายคับคั่งมากๆ ทั้งนี้สำเร็จได้ด้วยการร่วมแรงร่วมใจกัน เจตนาการสร้างก็สำเร็จเต็มร้อยครับตอนที่นำพระไปถวายองค์หลวงปู่พิศดู ท่านได้ร่วมอนุโมทนาบุญด้วย และยังสั่งให้ยกไปวางไว้ที่บนหัวเตียงนอนของท่าน โดยก็บอกว่า "นี่ของดี พระปัจเจกโพธิโปรดสัตว์"
โดย รูปแบบ พิมพ์ทรงสี่เหลี่ยม องค์พระจำลองมาจากรูปหล่อองค์พระปัจเจกโพธิเก่าแก่ ของวัดสันพระเจ้าแดง จ.ลำพูน ประทับนั่งอยู่ในซุ้มประตูทรงคล้ายเสมามีข้อความพิเศษว่า "สติ" ส่วนอักขระตัวเมืองด้านล่างสุดบริเวณฐาน อ่านว่า พระปัจเจกโพธิพระชุดนี้สร้างออกมาหลายวรรณะ(สี)ด้วยกัน แต่สีเขียวเป็นสีเฉพาะขององค์หลวงปู่เอง สร้างทั้งหมด ประมาณ 3,000 องค์
สาเหตุ หลักที่สร้างเป็นพระปัจเจกโพธินั้น ความหมายอีกนัยหนึ่งก็คือ ภูมิธรรมขององค์หลวงปู่พิศดูนั้น ท่านปราถนาเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้ามาแต่เดิม คล้ายกับหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล จวบจนบารมีธรรมของท่านเต็มที่ และเห็นว่าความเกิด ความแก่ ความเจ็บ นำมาซึ่งความทุกข์ทั้งปวง จึงเกิดความเบื่อหน่ายในชาติภพ จึงได้ถอนความปราถนาพระปัจเจกฯสำเร็จเป็นพระอรหันต์ในชาตินี้
พระ ผงปัจเจกโพธิรุ่นนี้ยิ่งได้พระอรหันต์พิเศษผู้มีความปราถนาซึ่งพระปัจเจก ภูมิเดิมเป็นผู้อธิษฐานจิตด้วยแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องบรรยายสรรพคุณให้มากนัก พระรุ่นนี้ครูบาอาจารย์บอกว่า..ศักดิ์สิทธิ์ตั้งแต่ยังไม่เสกแล้ว เพราะเจตนาดี มวลสารก็ดี ท่านจึงตั้งชื่อรุ่นให้ว่า " รุ่น สมปราถนา " เรียก ได้ว่าเหมือนดั่งได้มหาบารมีธรรมของพระปัจเจกพุทธเจ้า และพระอริยะปัจเจกภูมิ อัดพลังครอบลงไปแบบเต็มๆ นับว่าตรงสายอย่างที่สุด...

สำหรับ พระผงปัจเจกโพธิ์นี้จัดว่าเป็นสิ่งมงคลวัตถุที่ดีมาก เป็นของสูง ตั้งแต่ท่านแจกออกไป ก็ได้สร้างประสบการณ์ เรื่องโชคลาภซึ่งมีมากมายในหมู่ลูกศิษย์โดยเฉพาะทางแถบ จ.ระยอง-กรุงเทพฯ แต่บางคนได้มาแรกๆ ไม่ได้สนใจอะไรมากเอาใส่ไว้ในลิ้นชักเฉยๆ แต่ต่อมาต้องเอามาเลี่ยมอย่างดี ไว้ห้อยประจำคอเลยครับ เพราะไปเจอดีเข้านั่นเอง ​

 

ผ้า ยันต์พระอุปคุต รุ่นแรก
- ผ้ายันต์นี้สร้างในปี พ.ศ.2549 โดยลูกศิษย์ชุดอุปัฏฐากดูแลองค์หลวงปู่ สร้างเป็นที่ระลึกเมื่อคราว สร้างพระมหาเจดีย์ ธัมมะจารีสุขังเสติ ผ้ายันต์รุ่นนี้หลวงปู่ท่านบอกเองเลยว่า " ผ้ายันต์นี้ ท่านพ่ออุปคุตท่านมาเสกให้เลยนะ.." มีสีเขียวอย่างเดียว สร้างจำนวนทั้งหมด 1,000 ผืนครับ

 

พระขรรค์รุ่นสอง หลวงปู่่พิศดู ครับ

 

เหรียญพระอุปคุต หลวงปู่พิศดู สวยๆครับ

 

คู่นี้4500ครับ

 

มาใหม่ครับ

 

ชุดพิเศษ ตระกรุดทองเหลือง5นิ้ว กับเหรียญใบโพธิ์ลงยารุ่น5เเบ่งเบาๆครับ เดียวลงภาพให้ครับสวยๆ

 

ปิดเเล้วครับ ขอบคุณครับ...ล็อกเก็ตรุ่น8 คู่พิเศษ วันนี้5500ครับ