ลำพูนพระเครื่อง™™• รับขุนแผนระฆังทองตะกรุดทองแดง เงิน ทองคำ 088-4343398

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย texsum, 4 มิถุนายน 2012.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. kritss

    kritss เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    533
    ค่าพลัง:
    +1,462
    ขอทราบราคาสีผึ้งผีหุงทาง pm ด้วยครับ
     
  2. texsum

    texsum เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,335
    ค่าพลัง:
    +1,511
    ตอบใน PM แล้วครับ
     
  3. Nonthanan

    Nonthanan สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +11
    ขอทราบราคา ขุนแผนระฆังทอง ตะกรุดเงินสองหน้า + สีผึ้งผีหุง หลวงปู่ทิม
    รบกวนPMด้วยครับ:)<!-- google_ad_section_end -->
     
  4. texsum

    texsum เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,335
    ค่าพลัง:
    +1,511
    รับทราบครับผม
     
  5. texsum

    texsum เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,335
    ค่าพลัง:
    +1,511
    เหรียญสรรพสิทธิโชค หลวงปู่ทองบัว เนื้อทองแดง ตอกโค๊ต

    ประวัติของหลวงปู่ทองบัว ตันติกโร เกิดวันเสาร์ขึ้น 15 ค่ำเดือน 3 ปีระกา ตรงกับวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2464 บุตรของนายปราโมทย์ นางสีดา พุทธสี เกิดที่บ้านหนองผักแว่น อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี มีพี่น้องทั้งหมด 12 คนเป็นชาย 6 หญิง 6 หลวงปู่เป็นคนที่ 9 เมื่อยังเล็กได้ย้ายตามครอบครัวไปอยู่ จ.ขอนแก่น พออายุได้ 18 ปีเข้าบรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดสุวรรณคงคง อุปสมบท พ.ศ. 2485 มีพระครูพิศาลคณานุกิจ วัดมหาชัย เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายา “ตนฺติกโร” จำพรรษาที่วัดป่าบ้านหนองแวง อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี

    กระทั่งงานถวายเพลิงศพหลวงปู่มั่น ภูริทัตโตแล้วเสร็จ หลวงปู่ได้ร่วมกับกองทัพธรรมใน 108 รูปมุ่งขึ้นมาภาคเหนือ มาจำพรรษาที่วัดแท่นศิลาอาสน์ จ.อุตรดิตถ์ ขณะนั้นคณะศรัทธา อ.สันกำแพง สร้างโรงธรรมในปี พ.ศ.2481 นิมนต์พระสายหลวงปู่มั่นมาพำนักและอบรมสมาธิภาวนา อาทิ หลวงปู่สิม พุทธาจาโร หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม เมื่อว่างเว้นจากพระเถระ คณะศรัทธาจึงไปนิมนต์หลวงปู่ทองบัวมาจำพรรษาที่สำนักโรงธรรม แล้วได้ขยายอาณาเขตของสำนัก กระทั่งยกฐานะเป็นวัดโรงธรรมสามัคคี ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา พ.ศ.2506

    หลวงปู่ทองบัว ตันติกโร เป็นเจ้าอาวาสวัดโรงธรรมสามัคคีมาตั้งแต่ต้น โดยได้สร้างพระเจดีย์โพธิปักธิยธรรม เป็นเจดีย์ที่มีรูปร่างแปลกไปจากที่อื่น มีความหมายถึงการนำไปสู่การตรัสรู้ 37 ประการได้แก่ สติปัฏฐาน 4, สัมมัปปธาน 4, อิทธิบาท 4, อินทรีย์ 5, พละ 5, โพชณงค์ 7, มรรคมีองค์ 8 รวมเป็น โพธิปักขิยธรรม 37 ประการ ฐานเจดีย์เป็นทรงกลม ภายในประกอบห้องสมุด ห้องแสดงศิลปวัตถุ ประดิษฐานพระพุทธรูปประจำวันเกิดและพระพุทธรูปต่าง ๆ และชั้นสูงสุดได้ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ นอกจากนี้ คณะศิษย์ได้สร้างวัตถุมงคลหลายรุ่น แต่ฮือฮาที่สุดคือคชสีลอยองค์ ถึงขนาดปืนยิงไม่เข้า ภายหลังหลวงปู่ทราบห้ามนำไปทดลอง

    เมื่อปี 2549 อายุ 84 ปีได้ปรารภสร้างวิหารหลังใหญ่สองชั้น แต่การก่อสร้างค้างคามาตลอด ประกอบกับหลวงปู่อาพาธ แต่คณะศิษยานุศิษย์ทั้งบรรพชิต และฆราวาส ผู้อุปถัมภ์วัด และพระครูจิตติภัทราภรณ์ เจ้าอาวาสก็ได้ร่วมกันสร้างวิหารสองชั้นจนมีความคืบหน้ามาตามลำดับ กระทั่งหลวงปู่มรณภาพลงในวันวิสาขบูชา
    สำหรับสมณศักดิ์ที่ได้รับ พ.ศ.2501 เป็นพระครูสัญญาบัตรที่พระครูวิมลคณาภรณ์ พ.ศ.2535 เป็นพระราชาคณะที่พระวิมลธรรมญาณเถร พ.ศ.2547 เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชพุทธิมงคล ด้านการบริหารคณะสงฆ์เคยดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน แม่ฮ่องสอน(ธรรมยุต) เกษียณอายุทางพระสังฆาธิการแล้วจึงได้เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัด

    จนกระทั่งปี 2554 หลวงปู่ได้ละสังขารเมื่อวันวิสาขบูชา สังขารของปู่ไม่เน่าครับ
    เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่าที่ศาลา 80 ปี เข็มทอง โอสถาพันธ์ วัดโรงธรรมสามัคคี จ.เชียงใหม่ คณะสงฆ์และคณะศรัทธาประชาชน นำโดยพระครูจิตตภัทราภรณ์ (บุญฤทธิ์ จิตตสุโภ) เจ้าอาวาส ได้ร่วมกันเปิดศพของหลวงปู่ทองบัว ตันติกโร หรือพระราชพุทธิมงคล ครั้งแรกนับแต่ได้บรรจุศพในโลงไม้สักทองหลังพิธีถวายน้ำสรงอาบศพ เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม เป็นต้นมา จึงเดินทางไปสังเกตการณ์

    ปรากฏว่าเมื่อทุกคนได้กราบศพหลวงปู่ทองบัวแล้ว ต่างก็ต้องตกตะลึง เนื่องจากสรีระสังขารของหลวงปู่เหมือนกับพระจำวัดตามปกติ เนื้อหนังไม่ยุบ ไม่มีกลิ่นเน่า คณะศิษยานุศิษย์จึงเห็นควรเชิญสรีระสังขารสู่โลงแก้ว ซึ่งสามารถมองเห็นจากภายนอกได้ และประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลที่ศาลาดังกล่าวต่อเนื่องไปจนกว่าการก่อสร้างวิหารใหญ่ของวัดเสร็จเรียบร้อย จึงจะขอพระราชทานเพลิงศพ

    เหรียญสรรพสิทธิโชค (เหรียญรุ่นแรกหลวงปู่ทองบัว ตันติกโร)เนื้อทองแดงรมดำและทองแดงกะหลั่ยทอง ท่านเป็นพระร่วมสมัยกับหลวงปู่แหวน หลวงปู่ตื้อ หลวงปู่สิม หลวงปู่จันทร์ และท่านยังเป็นพระคู่สวดกับหลวงปู่สิมวัดถ้ำผาปล่อง รูปแบบเหรียญแกะโดยนายช่างเกษม มงคลเจริญ

    [​IMG]

    เปิดบูชา 999 ค่าจัดส่ง 50 บาทครับ

    Lamphun amulet.com

    เลขบัญชีธนาคาร 511-139-2262 วิธวัช ชัยอิสระเสรี ธนาคารกรุงไทยประเภทออมทรัพย์ เบอร์โทรศัพท์ 088 – 4343398
     
  6. texsum

    texsum เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,335
    ค่าพลัง:
    +1,511
    สนใจพระเครื่องรายการใด ติดต่อสอบถามได้ครับ
     
  7. texsum

    texsum เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,335
    ค่าพลัง:
    +1,511
    เหรียญครูบาขันแก้ว + เหรียญโภคทรัพย์ เนื้อทองแดง สวยๆครับ

    [​IMG]

    หลวงปู่ครูบาขันแก้ว อุตตโม หรือ “ท่านพระครูอุดมขันติธรรม” “อดีตเจ้าอาวาสวัดป่ายาง(สันพระเจ้าแดง)” ตำบลห้วยยาบ อำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน เกิดเมื่อวันอังคารที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๔๔๒ ตรงกับวันขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๑๒ (เดือนยี่เหนือ) ปีกุล ณ ตำบลห้วยยาบ อำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน

    เล่ากันว่าหลวงปู่ท่านเป็นพระที่มีอุปนิสัยไม่ชอบอยู่นิ่งเฉย ถ้าท่านทำงานหนักไม่ได้ ท่านก็จะทำงานเบาๆ เช่นเขียนยันต์ ทำตะกรุด แม้แต่งานกวาดลานวัดท่านก็จะทำเองในทุกเวลาเช้า

    หลวงปู่มักจะสั่งสอนอบรมศีลธรรมให้กับชาวบ้านและผู้ที่มีจิตศรัทธา ให้ประพฤติแต่ความดี ละเว้นความชั่ว

    โดยเฉพาะเรื่องของการรักษาศีล ๕ จะต้องรักษาให้มั่นคงและให้มีความจงรักภักดีในชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ โดยหลวงปู่จะสั่งสอนให้ทุกคนเป็นพลเมืองดีของชาติด้วยหลัก ๓ ประการ คือ

    ๑.การไม่ทำชั่วโดยประการทั้งปวง

    ๒.การสร้างความดี

    ๓.การทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว

    ส่วนในการประพฤติปฏิบัติธรรม หลวงปู่ท่านจะขึ้นกรรมฐานให้กับผู้ที่มีอุปนิสัยในการบำเพ็ญธรรมตามวาสนาบารมีของแต่ละคน

    แต่สำหรับผู้ที่มีความเข้าใจหลักในการปฏิบัติธรรมมาบ้างแล้ว เมื่อได้นำความรู้คือปัญญาที่เกิดจากการปฏิบัติไปถามท่านว่า

    “เขาได้ดำเนินทางมาถูกต้องหรือไม่”

    ถ้าถูกต้องหลวงปู่ก็จะตอบว่า “แม่น” หมายถึงถูกต้องแล้ว

    แต่ถ้าปฏิบัติไม่ถูกต้อง หลวงปู่ก็จะชี้แนะแนวให้นำไปปฏิบัติพิจารณาใหม่...

    “ในระหว่างปลายเดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๑๙ คณะศิษย์รัศมีพรหมโพธิโก โดยการนำของ ‘คุณพ่อหมอสมสุข คงอุไร’ ได้เดินทางขึ้นไปเยี่ยมอาการอาพาธของ ‘หลวงปู่ครูบาชุ่ม โพธิโก’ วัดวังมุย จังหวัดลำพูน ซึ่งขณะนั้นท่านครูบาชุ่ม พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสวนดอกนครเชียงใหม่

    ในวันนั้นได้มีพระภิกษุรูปหนึ่งครองจีวรสีกลัก เดินทางเข้ามาเยี่ยมและตรงเข้าไปกอดเอวและพูดคุยด้วยภาษาคำเมืองกับครูบาชุ่มอย่างสนิทสนม

    ขณะที่คุณพ่อหมอสมสุข ท่านได้นึกตำหนิพระรูปนั้นอยู่ในใจ หากแต่การตำหนินั้นไม่สามารถปกปิด อภิญญาจิต เจโตปริยญาณ ของหลวงปู่ครูบาชุ่มได้

    หลวงปู่ครูบาชุ่ม ได้เรียกคุณพ่อหมอสมสุขให้เข้าไปหาและแนะนำว่าพระภิกษุที่ครองจีวรสีกลักนั้นชื่อว่า ‘ครูบาขันแก้ว’ เป็นเพื่อนรักร่วมรุ่นเดียวกับท่าน...”

    สมัยนั้น “หลวงปู่ครูบาชุ่ม โพธิโก” เจ้าอาวาสวัดวังมุย เป็นพระที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆของแผ่นดินล้านนา ความเชี่ยวชาญในเชิงเวทย์และคุณธรรมของท่านเป็นที่รับรู้ของคนทั่วไป

    ในช่วงเวลาที่ครูบาศรีวิชัย ยังมีชีวิตอยู่ หลวงปู่ครูบาชุ่มคือหนึ่งในผู้ร่วมสร้างทางขึ้นพระธาตุดอยสุเทพ ท่านได้รับความเมตตาจากครูบาศรีวิชัยเป็นอันมาก โดยครูบาศรีวิชัยได้มอบ “พัดหางนกยูงพร้อมกับไม้เท้า” ให้กับท่าน พร้อมกับสั่งว่า “เอาไว้เดินทาง เทศนาเผยแพร่ธรรมแทนท่านด้วย...”

    ภายหลังเมื่อหลวงปู่ครูบาชุ่มได้มรณภาพลง คณะศิษย์รัศมีพรหมโพธิโกได้ดำเนินการสร้างรูปหล่อขนาดเท่าองค์จริงของท่าน คณะกรรมการวัดวังมุยได้นิมนต์พระอาจารย์ต่างๆมาจากจังหวัดเชียงใหม่และลำพูน แต่ในจำนวนรายชื่อทั้งหมดกลับไม่มีชื่อของหลวงปู่ครูบาขันแก้ว โดยคณะกรรมการวัดวังมุยให้เหตุผลว่า

    “ไม่เคยทราบหรือเคยเห็น หลวงปู่ครูบาขันแก้วเคยได้ร่วมในพิธีปลุกเสกพระในที่ใดมาก่อน อีกทั้งยังไม่เคยได้ข่าวว่าท่านเคยสร้างวัตถุมงคลอะไรเลย”

    เรื่องราวที่เริ่มจะบานปลายเนื่องจากคุณหมอสมสุข ท่านไม่ยอมเพราะเห็นว่าหลวงปู่ครูบาขันแก้วท่านเป็นเพื่อนรักกับหลวงปู่ครูบาชุ่ม อีกทั้งในระหว่างการจัดงานศพ หลวงปู่ครูบาขันแก้วท่านก็ได้มาช่วยงานทุกคืน ในที่สุดคณะกรรมการวัดวังมุยจึงต้องไปนิมนต์หลวงปู่ครูบาขันแก้วมาร่วมในงานปลุกเสกและเบิกเนตรรูปหล่อของหลวงปู่ครูบาชุ่มในครั้งนี้ด้วย

    เล่ากันว่าในขณะที่เริ่มประกอบพิธีปลุกเสก พระเกจิอาจารย์ที่ได้รับนิมนต์มา ๓ รูปได้นั่งหลับตาและแผ่อำนาจจิตปลุกเสกแต่หลวงปู่ครูบาขันแก้วกลับนั่งลืมตาและเคี้ยวเมี่ยง

    เล่นเอาชาวบ้านแถววัดวังมุยเริ่มจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์กันว่าใครหนอไปนิมนต์พระที่ปลุกเสกไม่เป็น “บ่อมิไก๊” มาร่วมในงานพิธีปลุกเสกครั้งนี้และเมื่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์เริ่มดังขึ้น

    ท่านพระครูนวลที่มาเป็นพระควบคุมพิธีในครั้งนี้ได้เข้ามาบอกกับคุณหมอสมสุขว่า

    “โยมหมอใครไปนิมนต์ตุ๊ลุงองค์นี้มา ดูสินั่งลืมตา ยันเมี่ยงอยู่จับๆ ไม่เห็นปลุกเสกอะไรเลย...”

    คุณหมอสมสุข จึงตอบไปว่าท่านเป็นคนที่นิมนต์หลวงปู่ครูบาขันแก้วมาเอง แต่ขอให้ดูกันต่อไปอีกสักพัก....จากเหตุการณ์ในวันนั้นทำให้ทุกวันนี้เราได้รู้จักพระที่ทรงกิตติคุณเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งองค์ครับ เหตุการณ์ดังกล่าวได้ถูกบันทึกไว้ดังนี้ครับ....

    “หลวงปู่ครูบาขันแก้วเริ่มเปลี่ยนอิริยาบถ เอาผ้าห่มขนหนูคลุมที่ไหล่ทั้งสองข้าง(ต่อมาภายหลังทราบว่าท่านกำลังป่วยเป็นไข้) หลังจากพิธีผ่านไปแล้วประมาณ ๑๐-๑๕ นาที หลวงปู่ครูบาขันแก้วได้นั่งห้อยเท้าลงมา

    ตาของท่านเริ่มเป็นประกายกล้าแรงขึ้น ขณะนั้นช่างภาพประจำคณะของเราได้เข้าไปใกล้ที่ท่านนั่งปรกอยู่ แล้วก็ถ่ายรูปในอิริยาบถนั้น....



    ทันทีที่แสงไฟแฟลชสว่างจ้าขึ้นเป็นประกาย นัยน์ตาของหลวงปู่ครูบาขันแก้วก็มิได้กระพริบเลย...

    ช่างภาพอีกคนก็เข้าไปถ่ายบ้าง แสงไฟแฟลชสว่างจ้าขึ้นอีกครั้ง แต่นัยน์ตาของหลวงปู่ก็ลืมอยู่อย่างปกติ

    ‘ลืมตาอยู่อย่างไร ก็ลืมตาเปิดตากว้างอยู่อย่างนั้น..’

    คุณพ่อและพวกเราที่นั่งดูอยู่อย่างใกล้ ทุกคนจ้องดูอย่างตั้งใจก็เห็นกันทุกคนว่า

    ‘นัยน์ตาของหลวงปู่ไม่กระพริบเลย’

    คราวนี้ก็ให้ช่างภาพทั้ง ๒ คนของพวกเราเข้าไปขนาบทั้งซ้ายและขวา ก่อนจะยิงแฟลชถ่ายรูป ให้อธิษฐานในใจขอขมาก่อน พวกเราก็นั่งคอยดูกันจนแสงไฟแฟลชได้สว่างขึ้นทั้งซ้ายและขวาพร้อมกัน แต่นัยน์ตาของหลวงปู่ขันแก้วก็ไม่กระพริบอีกตามเคย

    ช่างภาพหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ๒ ฉบับซึ่งได้ไปทำข่าวก็เข้าไปถ่ายอีก คราวนี้แฟล็ชแรงกว่าของพวกเรา เพราะเมื่อเห็นว่าพวกเราถ่ายรูปหลวงปู่องค์นี้มากก็เข้าไปถ่ายบ้าง ผลปรากฏออกมา .....‘ตาของหลวงปู่ขันแก้วก็มิได้กะพริบเลย เป็นเวลานานหลายๆนาที’ คนธรรมดาสามัญย่อมทำไม่ได้อย่างแน่นอน...”

    [​IMG]
    [​IMG]

    เปิดบูชาสองเหรียญ 3550 ค่าจัดส่ง 50 บาทครับ

    Lamphun amulet.com

    เลขบัญชีธนาคาร 511-139-2262 วิธวัช ชัยอิสระเสรี ธนาคารกรุงไทยประเภทออมทรัพย์ เบอร์โทรศัพท์ 088 – 4343398
     
  8. pinrat

    pinrat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    780
    ค่าพลัง:
    +1,235
    ขอราคาสีผึ้ง ครับ
     
  9. texsum

    texsum เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,335
    ค่าพลัง:
    +1,511
    ตอบใน PM แล้วครับ:cool::cool:
     
  10. texsum

    texsum เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,335
    ค่าพลัง:
    +1,511
    สนใจพระเครื่องรายการใด ติดต่อสอบถามได้ครับ
     
  11. Nonthanan

    Nonthanan สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +11
    ได้รับพระแล้วนะครับ ขอบคุณครับ
     
  12. texsum

    texsum เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,335
    ค่าพลัง:
    +1,511
    ครับผม ขอบพระคุณครับ:cool::cool:
     
  13. texsum

    texsum เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,335
    ค่าพลัง:
    +1,511
    หนุมาน หลวงพ่อสาคร นวะโลหะ เลข 112

    ขั้นตอนในการสร้างหนุมาน เริ่มจากการนำชนวนโลหะศักดิ์สิทธิ์และแผ่นจารอักขระเลขยันต์ตามสูตร มาหลอมละลายเพื่อเทออกมาเป็นรูปหนุมาน ขั้นตอนที่สองจะเป็นพิธีกรรมชุบตัวหนุมาน ตามมาด้วยพิธีการอุดก้นหนุมานด้วยการนำเอาผงพุทธคุณ ผงน้ำมันมาผสมกับสีผึ้งเพื่อใช้อุด และแน่นอนครับที่จะขาดเสียมิได้คือ “ผงพรายกุมาร” ที่จะต้องกระโดดเข้ามามีเอี่ยวด้วยเสมอ

    ผู้เฒ่าผู้แก่ในละแวกวัดหนองกรับที่ยังมีชีวิตและอยู่ทันร่วมยุคสมัยเดียวกับหลวงปู่ทิมได้เล่าให้ผมฟังว่า ครั้งหนึ่งในระหว่างที่เขานั่งสนทนากับหลวงปู่ทิม หลวงปู่เคยกล่าวออกมาว่าท่านกำลังรอเด็กที่เกิดใน “วันสาม เดือนสาม ปีสาม” เพื่อที่จะถ่ายทอดวิชาให้

    เป็นที่เชื่อกันว่าบุคคลใดก็ตามที่เกิด”วันอังคาร เดือนสาม ปีขาล” ซึ่งตรงกับ “ดวงกำเนิดของหนุมาน” จะเป็นผู้ที่มีตบะเดชะและได้โฉลกกับการปลุกเสกหนุมานเป็นอย่างยิ่ง..

    ปัจจุบันเด็กน้อยที่หลวงปู่ทิมเฝ้ารอ ได้ก้าวเข้ามาเป็นหลวงพ่อในดวงใจของหลายต่อหลายคนในปัจจุบันนี้ จะว่าไปแล้วเรื่องนี้คงต้องยกย่องในความเก่งกล้าของหลวงปู่ทิม เพราะลูกศิษย์ของท่านที่ชื่อ “หลวงพ่อสาคร มนุญโญ” นี่แหละครับที่เกิด “วันสาม เดือนสาม ปีสาม”

    ในส่วนของพิธีกรรมปลุกเสกนั้นหลวงพ่อบอกว่า ท่านต้องนำหนุมานทั้งหมดมาตั้งไว้บนกองศาสตราวุธ อันได้แก่ พระแสงของ้าว หอกใบพาย หอกสามง่าม หอกคฑาเทพ ไม้คมแฝก ขวาน มีด หน้าไม้ ธนู ปืน ฯลฯ โดยหลวงพ่อท่านจะทำการปลุกเสกแบบนี้ให้ครบ ๕ เสาร์ ๕ อังคาร ครบถ้วนตามตำราครับ

    สำหรับ”ขั้นตอนในการชุบตัวหนุมาน” หลวงพ่อเล่าว่าท่านได้นำเอาว่านยาต่างๆมาบดเป็นผง เช่น ว่านหนุมานประสานกาย ว่านหนุมานนั่งแท่น ว่านนิลพัท ว่านเพชรคง ว่านเพชรกลับ ว่านทรหด ว่านเฒ่าหนังแห้ง ว่านห้าร้อยนาง ว่านไชยมงคล ว่านมหาเมฆ ว่านดาบนารายณ์ ว่านปราบสมุทร

    ว่านมหาปราบ ว่านสบู่เลือด ว่านฤษีผสม ว่านนางคุ้ม ว่านหอกโมกขศักดิ์ ว่านเถาวัลย์หลง ว่านมหาหงษ์ ว่านขุนแผน ว่านพระเจ้าห้าพระองค์ ว่านมเหศวร ว่านจูงนาง ว่านอึ่ง ว่านนางคำ ว่านช้างประสมโขลง ว่านมหาเสน่ห์ ว่านสาลิกา ว่านพัดโบก ว่านพญากาสัก ฯลฯ

    ใบไม้รู้นอนทั้ง ๗ ชนิด ดังนี้ ใบมหาระงับ ใบผักกะเฉด ใบกระทืบยอด หญ้าใต้ใบ ใบชุมเห็ด ใบสมิ แคขาว (ทั้งนี้เพื่อถือเป็นเคล็ดของความไม่รู้จักนอน ไม่รู้จักตายเหมือนหนุมาน)

    ว่านยาต่างๆและใบไม้รู้นอนทั้ง ๗ ชนิดเมื่อนำมาบดเป็นผงแล้ว จึงนำมาผสมกับน้ำพระพุทธมนต์ เพื่อใช้สำหรับ “ชุบตัวหนุมาน”

    พูดถึง“พิธีกรรมชุบตัว”กันก่อน

    พิธีกรรมชุบตัวมีมานานแล้วครับ

    ถ้าจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพก็คงต้องอ้างเรื่องราวใน “รามเกียรติ์” ตอน “อินทรชิตออกศึก” ที่ว่าทศกรรฐ์เมื่อรู้ว่ากุมภกรรณตาย ก็โกรธแค้นและสั่งให้อินทรชิตไปแก้แค้น ฝ่ายพระรามก็ส่งให้พระลักษณ์ไปรบแทน

    สงครามตัวแทนที่เกิดขึ้นไม่ปรากฏผลแพ้ชนะในวันเดียว ทั้งพระลักษณ์และอินทรชิต จึงได้นัดหมายมารบกันใหม่ในวันรุ่งขึ้น ก่อนจะถึงวันเสียงปืนแตกนี่แหละครับ อินทรชิตได้แอบไปทำพิธี “ชุบศรนาคบาศ” ที่เขาอากาศ

    ครับ...พิธีชุบเหมือนกัน ต่างกันแค่สิ่งนำลงไปชุบ..

    การชุบตัวหนุมานของวัดหนองกรับ ถูกกำหนดขึ้นในวันเสาร์ที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๕๒ ณ พระอุโบสถ วัดหนองกรับ

    พิธีนี้มีชื่อว่า “ชุบตัวหนุมานด้วยศรนารายณ์”

    ศรนารายณ์ คือ “คาถาเฉพาะทางของหลวงปู่ทิม” ที่ท่านจะสอนให้เฉพาะกับบรรดาลูกศิษย์ใกล้ชิด

    ซึ่งแน่นอนครับในจำนวนลูกศิษย์ใกล้ชิดต้องนับรวมหลวงพ่อสาครด้วย

    หลวงพ่อบอกว่า คาถานี้คนโบร่ำโบราณใช้ท่องเวลาออกจากบ้าน เพื่อให้ตนเองแคล้วคลาด คงกระพันและมีโชคลาภ คาถานี้สามารถใช้ทำน้ำมนต์อาบตัวก็ได้ โดยในการอาบน้ำมนต์ ผู้ที่อาบจะต้องลูบไล้ไปตามส่วนต่างๆของร่างกาย เริ่มจากศรีษะลงไปถึงปลายเท้า

    สมัยก่อนลูกศิษย์ของหลวงปู่ทิมที่เป็นพระชื่อว่า “หลวงตาคร่ำ” อยู่วัดหนองกรับ กับลูกศิษย์ฆราวาสท่านหนึ่งได้ทดลองวิชาศรนารายณ์กัน ผลปรากฏว่า คมมีดไม่สามารถสร้างความระคายเคืองต่อผิวหนังได้

    [​IMG]

    สนใจบูชาติดต่อ 088-4343398 หรือ PM ครับ

    Lamphun amulet.com

    เลขบัญชีธนาคาร 511-139-2262 วิธวัช ชัยอิสระเสรี ธนาคารกรุงไทยประเภทออมทรัพย์ เบอร์โทรศัพท์ 088 – 4343398
     
  14. texsum

    texsum เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,335
    ค่าพลัง:
    +1,511
    เหรียญนาคปรกไตรมาส หลวงพ่อสาคร เนื้อนวะโลหะ เลข 124

    เนื้อนวะมีแค่ 1000 เหรียญเท่านั้นอีกหน่อยหายากและมีราคาแพงแน่ครับ มีพร้อมกล่องกำมะหยี่เดิมๆ

    [​IMG]

    เปิดบูชาเหรียญ 2550 ค่าจัดส่ง 50 บาทครับ

    Lamphun amulet.com

    เลขบัญชีธนาคาร 511-139-2262 วิธวัช ชัยอิสระเสรี ธนาคารกรุงไทยประเภทออมทรัพย์ เบอร์โทรศัพท์ 088 – 4343398
     
  15. texsum

    texsum เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,335
    ค่าพลัง:
    +1,511
    ขุุนแผนผงพรายกุมาร หลวงปู่ผาด รุ่นสร้างกำแพง

    วัดบ้านกรวด เป็นวัดเก่าแก่ประจำ อำเภอ บ้านกรวด ตั้งขึ้นในปลายสมัยรัชกาลที่ 5 แห่งราชวงศ์จักรี มีอายุนับถึง ปัจจุบันไม่น้อยกว่า 120 ปี ได้รับพระราชทาน วิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 10 เมษายน พุทธศักราช 2469 มีประพุทธรูปศิลา อันศักดิ์สิทธิ์ เป็นประธานในพระอุโบสถ มีเจ้าอาวาสครอง วัดติดต่อกันมานับถึงปัจจุบันรวม 4 รูปด้วยกัน เจ้าอาวาสรูปปัจจุบันคือ พระครูวิบูลย์ปัญญาวัฒน์ หรือ หลวงปู่ผาด ฐิติปัญโญ .ซึ่งได้บวชเรียนมาตั้งแต่อายุได้ 22 ปี เป็นต้นมานับถึงปัจจุบัน 97 ปี นับพรรษา ได้ 76 พรรษา เมื่อครั้งอดีตสมัยท่านเป็นพระหนุ่มๆ ท่านได้ออกจาริกแสวงบุญไปยังที่ต่างๆ เพื่อศึกษาหาความรู้ทั้งทางพระเวทย์ วิชาแพทย์แผนโบราณต่างๆ ตามความเชื่อ และความนิยมของชาวพื้นบ้าน ในสมัยนั้น ได้ไปศึกษาเล่าเรียนเวทวิทยาอาคมที่จังหวัดอุดรมีชัย ถึง 3 ปี (ในสมัยนั้น จังหวัดอุดรมีชัย ยังเป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทย ) จากนั้นท่านได้จาริกไปศึกษาหาความรู้จากครูบาอาจารย์ต่างๆ แทบจะทุกภาคของไทยและประเทศใกล้เคียง เคยธุดงค์ไปศึกษาวิชาอาคมที่นครวัต ที่ประเทศเขมร เป็นเวลา 8 ปี จนมีความรู้เจนจบในไสยเวททุกแขนง แตกฉานในวิปัสสนากรรมฐาน อย่างแจ่มแจ้ง ต่อมาเมื่อท่านมีอายุมากขึ้น ท่านได้รับถวายที่ดินจากชาวบ้าน จากนั้นท่านก็ได้บูรณะจากพื้นดินที่ว่างเปล่า จนเป็น “วัดตาอี” ให้เห็นเป็นรูปธรรมในปัจจุบัน สืบต่อมา หลวงปู่หริ่ง เจ้าอาวาส วัดบ้านกรวด ได้มรณภาพลง ชาวอำเภอบ้านกรวด จึงได้นิมนต์ หลวงปู่ผาด มาเป็นเจ้าอาวาส แต่หลวงปู่ได้ปฏิเสธการเป็นเจ้าอาวาส วัดบ้านกรวด มาโดยตลอด แต่ในที่สุดท่านก็ทนแรงศรัทธาของญาติโยมไม่ไหว จึงต้องยอมรับ เป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านกรวด และดำรงอยู่มาจนถึงปัจจุบันในที่สุด หลวงปู่ผาด ท่านได้พัฒนา วัดสาขาของท่านถึง 4 แห่ง ก็คือ วัดตาอี,วัดบ้านปราสาท,วัดบ้านบึงเก่า และวัดบ้านกรวด เป็นรูปเป็นร่างมาจน ถึงปัจจุบันนี้ หลวงปู่ผาด ท่านเป็นพระที่รักสันโดษ ไม่ยึดติดในลาภยศสรรเสริญ ท่านได้ปฏิเสธ ในการสร้าง วัตถุมงคล มาโดยตลอด แต่บรรดาศิษยานุศิษย์ได้รบเร้า หลวงปู่ว่า มีผู้เลื่อมใสศรัธา ในตัวหลวงปู่ ประสงค์อยากจะได้วัตถุมงคลของหลวงปู่ผาดไว้บูชา เพื่อเป็นสิริมงคล เป็นขวัญและกำลังใจในการดำเนินชีวิต หลวงปู่ท่านก็เลยอนุญาต ให้จัดสร้าง พระเครื่องที่ออกมาภายใต้ชื่อ หลวงปู่ผาด จึงออกมาน้อยมาก ดังนั้นคนที่มีอยู่ต่างหวงแหน ไม่ค่อยหลุดออกมาให้เห็นกัน ทำให้วัตถุมงคลรุ่นเก่าๆ ของท่าน หายากขึ้นเป็นเงาตามตัว ด้วยหลวงปู่ท่านเป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เป็นเนื้อนาบุญของพุทธศาสนา โดยแท้ ทุกลมหายใจเข้าออกท่านกำหนดจิตด้วยกรรมฐานมีสติอยู่เสมอ วัตถุมงคล ที่ผ่านการอธิฐานจิตจากท่านจึงทรงความศักดิ์สิทธิ์ ทั้งบุญญาฤทธิ์ และอิทธิฤทธิ์ ดุจมีแก้วสารพัดนึก ใครมีโอกาส ได้ครอบครอง ขอให้เก็บไว้บูชาดีๆ เพราะท่านเคยพูดกับศิษย์บ่อยๆ ว่า “อีกหน่อยพระของเราจะเป็นเพชร” จากอมตะวาจาของหลวงปู่อนาคตจึงไม่ต้องพูดถึง เพราะต่างทราบกันดีว่า หลวงปู่ท่าน “วาจาสิทธิ์” เป็นยิ่งนัก เอาเป็นว่าอนาคตอันใกล้คงต้องได้เห็นอย่างแน่นอน เดี๋ยวนี้ไม่ต้องรอนานเหมือนอดีต “ของดี”มีประการณ์ ประเดี๋ยวก็มีคนถามหากันเอง! หลวงปู่ผาดท่านเป็นพระแท้ที่กราบไหว้ได้สนิทใจสมกับ “พุทธบุตร” โดยแท้ ไม่ว่าจะต่อหน้าหรือลับหลังพระภิกษุอย่างหลวงปู่ผาดไม่ควรจะเป็นของอำเภอบ้านกรวดเพียงอย่างเดียวควรเป็นของพุทธศาสนิกชนโดยทั่วไป เปรียบดังช้างเผือกในป่า น่าจะมาเป็นช้างคู่บ้านคู่เมือง จึงจะถูกต้อง สมกับพระบารมีของท่านเป็นอย่างยิ่ง กิตติคุณความเป็นผู้ทรงวิทยาพุทธาคม แม้แต่ “นักบุญแห่งภาคอีสาน” จ้าวตำรับ “กูมึง” ขนานแท้ (แม้แต่พระองค์อื่นจะใช้บ้างก็ไม่น่าพิสมัยเท่าท่าน) ยังกล่าว ยกย่องเชิดชูกับคณะศรัทธาบุญจากอำเภอบ้านกรวด ที่ได้เดินทางไปกราบนมัสการท่านที่วัด เมื่อท่านสอบถามรู้ความว่าเดินทางมาจากอำเภอบ้านกรวด ท่านถึงกับออกปากพูดว่า “มึงจะมากราบมาเอาของกูทำไม มึงไปไหว้หลวงพ่อใหญ่วัดบ้านกรวดโน่นของท่านศักดิ์สิทธิ์กว่าของกูตั้งเยอะพวกมึงไม่จำเป็นต้องมาใช้ของกูเลยของดีอยู่กับท่านยังไม่รู้ค่าอีก” สำหรับประโยคคำพูดจากปากยอดพระเกจิอาจารย์ที่ประชาชนเคารพกราบไหว้ทั้งประเทศคงยืนยัน คุณวิเศษ ในองค์หลวงปู่ผาดได้อย่างดี เป็นแน่แท้พระระดับนี้ท่านยังเทิดทูนอภิวาทหลวงปู่ผาด แล้วเราๆท่านๆจะลังเลอยู่ไยล่ะครับ

    [​IMG]

    สนใจบูชาติดต่อ 088-4343398 หรือ PM ครับ

    Lamphun amulet.com

    เลขบัญชีธนาคาร 511-139-2262 วิธวัช ชัยอิสระเสรี ธนาคารกรุงไทยประเภทออมทรัพย์ เบอร์โทรศัพท์ 088 – 4343398
     
  16. t1148

    t1148 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    858
    ค่าพลัง:
    +3,676
    ขอจองสีผึ้งผีหุงกับพระปิิดตากุฎโง้งครับ

    ขอบคุณครับ
     
  17. untra7

    untra7 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2012
    โพสต์:
    178
    ค่าพลัง:
    +209
    เปิดให้บูชาเท่าไรครับ
     
  18. texsum

    texsum เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,335
    ค่าพลัง:
    +1,511
    รับทราบการจองครับ ขอบพระคุณครับ:cool::cool:
     
  19. texsum

    texsum เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,335
    ค่าพลัง:
    +1,511
    สนใจพระเครื่องรายการใด ติดต่อสอบถามได้ครับ
     
  20. iamgumunza

    iamgumunza สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +17
    ขอทราบราคาขุนแผนรััตนตรัย พิมพ์ใหญ่ 1 ใน 25 องค์ กระยาสาร์ทด้วยครับ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...