วัตถุมงคล!!!หลวงปู่ดู่.วัดสะแก. จ.อยุธยา ราคาเบาๆมาใหม่..หน้า 178เป็นต้นไป

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ญาณวโร นามะ, 14 สิงหาคม 2009.

  1. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    พระเหนือพรหมพิมพ์กลางหลวงปู่ดู่วัดสะแกมีพระธรรมธาตุ มีเกศา แช่น้ำชา หลังตรายาง สวย

    พระเหนือพรหม พิมพ์กลาง หลวงปู่ดู่วัดสะแก มีพระธรรมธาตุทั่วองค์พระ แช่น้ำชา หลังตรายาง สภาพสวยสมบูรณ์ มุมล่าง เป็นลักษณะของการเทปูนครับ สภาพถือว่าสมบูรณ์มากครับ ปี 2519
    พุทธคุณและปาฏิหาริย์ของพระเหนือพรหม ของหลวงปู่ดู่ ศิษย์ที่อยู่ใกล้ชิดหลวงพ่อดู่คนหนึ่งเล่าให้ฟังว่าพระเหนือพรหมของหลวงพ่อใครมีไว้บูชา เรื่องร้ายจะกลับกลายเป็นดี คนดวงตกก็รอดได้ ผู้ใดได้ไข้ได้เจ็บก็หาย ผีและปีศาจร้ายมิอาจกล้ำกราย คุณไสยมนต์ดำการกระทำย่ำยีมิอาจครอบงำ ผู้ใดเป็นศัตรูคิดร้าย จะพินาศด้วยวิบากกรรมของตนเอง บูชาติดตัวไว้ เทพ พรหม เทวดาและมนุษย์รักใคร่เมตตาปราณี ถ้าถึงเวลาหมดอายุจิตสงบพบทางสว่างมีสุขคติเป็นที่ไปผู้ที่มีพระเหนือพรหมของหลวงพ่อองค์เดียวก็เกินพอ
    คุณ พุทธนิรันท์ จองครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC00167.JPG
      DSC00167.JPG
      ขนาดไฟล์:
      47.7 KB
      เปิดดู:
      257
    • DSC00169.JPG
      DSC00169.JPG
      ขนาดไฟล์:
      36.2 KB
      เปิดดู:
      201
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กันยายน 2009
  2. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รายการพระที่ยังให้บูชา

    1. พระเหนือพรหม พิมพ์กลาง
    2. พระสมเด็จสามชั้น ยุคต้นๆ แช่น้ำชา
    3. พระผงกรรมฐาน พิมพ์บัวข้างสี่เหลี่ยม
    4. พระพุทธวิโมกข์
    5. เหรียญเสมา หลวงปู่ดู่ ปี 2529
    6. พระสมเด็จพิมพ์นาคปรก หลวงปู่ดู่วัดสะแก
    7. พระพิมพ์สมาธิ์ใบโพธิ์ หลวงปู่ดู่วัดสะแก
    8. สมเด็จ รุ่นแรก..เนื้อผงพุทธคุณ(เนื้อโขลก)..หลวงปู่ดู่ วัดสะแก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กันยายน 2009
  3. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    เหรียญหลวงปู่ใหญ่ วัดสะแก ปี2524

    เหรียญหลวงปู่ใหญ่ วัดสะแก ปี2524
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC00123.JPG
      DSC00123.JPG
      ขนาดไฟล์:
      52.8 KB
      เปิดดู:
      132
    • DSC00124.JPG
      DSC00124.JPG
      ขนาดไฟล์:
      53.2 KB
      เปิดดู:
      122
  4. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    เหรียญหลวงปู่ทวดกระโดดบาตร พิมพ์นิยม สภาพเดิมผิวสวยกริบ จมูกโด่ง

    เหรียญหลวงปู่ทวดกระโดดบาตร พิมพ์นิยม สภาพเดิมผิวสวยกริบ จมูกโด่ง
    ที่มาของการสร้างเหรียญกระโดดบาตร สืบเนื่องมาจากในสมัยที่ คุณแล่ม จันท์พิศาโล ยังทำงานที่นิตยสารพระเครื่อง “ ลานโพธิ์ ” วันหนึ่งขณะเดินทางไปทำธุระ ระหว่างทางก็ได้เห็นคนกำลังมุงดูอะไรบางอย่างอยู่ จึงได้ชะลอรถเพื่อดู ภาพที่เห็นคือ มีมอเตอร์ไซด์เก่า ๆ คันหนึ่งได้ล้มคว่ำอยู่ข้างทาง มีผู้หญิงและผู้ชายนอนตายอยู่ใกล้ ๆ กัน และมีเด็กอายุประมาณ 2-3 ขวบ กำลังร้องไห้เรียกหาพ่อแม่ซึ่งนอนตายอยู่ พร้อมทั้งกอดศพพ่อและแม่ ภาพที่เห็นนั้นรู้สึกสลดใจยิ่งนัก จึงเกิดความคิดสร้างพระแจกให้คนทั่ว ๆ ไปได้มีพระเอาไว้ติดตัวคุ้มครองป้องกันภัยอันตรายต่าง ๆ เผื่อคนจนจะได้มีพระไว้บูชาด้วย

    ก็มานั่งนึกว่าจะสร้างเป็นพระอะไรก็นึกถึงหลวงปู่ทวดขึ้นมา เพราะเคยมีคนกล่าวว่า มีหลวงปุ่ทวดคิดตัวจะไม่เกิดอุบัติเหตุตายโหง เมื่อคิดได้ดังนั้นจึงให้ช่างแกะพิมพ์เป็นรูปหลวงปู่ทวดนั่งสมาธิอยู่ในกรอบพระทรงสี่เหลี่ยม กว้าง 1.5 ซม. สูง 2.0 ซม. เป็นเนื้อทองแดงรมน้ำตาลเพียงอย่างเดียวไม่มีเนื้ออื่น ไม่ว่าจะเป็นเนื้อทองคำ เงิน นาก ทองเหลือง หรือตะกั่ว และไม่มีเหรียญแจกกรรมการ ( เพราะไม่มีการแต่งตั้งกรรมการแต่อย่างใด ) จำนวนสร้าง 20,000 เหรียญ เมื่อเหรียญสร้างเสร็จแล้วปรากฏว่าสวยงามมาก ใบหน้าของหลวงปู่ทวดแสดงถึงความเมตตาเป็นอย่างมาก

    พระอาจารย์ที่ตั้งใจจะให้ท่านปลุกเสกก็คือ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก อยุธยา โดยคุณช้าง ราชดำเนิน เป็นผู้นำไปฝากไว้ที่วัดสะแกด้วยตนเอง ซึ่งเมื่อนำเหรียญที่สร้างทั้งหมดมาให้หลวงปู่ดู่ท่านอธิษฐาน พร้อมทั้งบอกจุดประสงค์ในการสร้างว่ามีเจตนาเพื่ออะไร พอหลวงปู่ทราบ ท่านก็พูดออกมาดัง ๆ ว่า “ ข้าขออนุโมทนากับแกด้วย ” จึงฝากเหรียญทั้งหมดไว้ให้หลวงปู่ปลุกเสกเป็นเวลาหนึ่งไตรมาสตลอดพรรษาปี 2530

    เมื่อครบกำหนดออกพรรษาแล้วหลายวัน ทางผู้สร้างและคุณช้างจึงกลับไปที่วัดสะแกอีกครั้ง พร้อมกับขอรับเหรียญหลวงปู่ทวดที่ฝากไว้กลับคืน โดยได้ให้คำมั่นสัญญากับหลวงปู่ว่า “ จะเอาเหรียญนี้ไปแจกแก่ผู้ซื้อหนังสือลานโพธิ์ และผู้ทำคุณประโยชน์แก่สาธารณกุศลเท่านั้น โดยจะไม่นำไปจำหน่ายเพื่อประโยชน์ส่วนตัวอย่างเด็ดขาด”

    หลวงปู่ดู่ได้กล่าวอนุโมทนาและได้เมตตานั่งปรกอธิษฐานจิตให้อีกครั้งหนึ่งนานประมาณ 30 นาที โดยท่านได้บอกกับลูกศิษย์ที่ไปนั่งปฏิบัติธรรมบนกุฏิว่า “ ขอให้ทุกคนนั่งสมาธิตั้งจิตอธิษฐานมาที่กล่องเหรียญหลวงปู่ทวดนี้ด้วย ” ซึ่งทุกคนก็ได้ปฏิบัติตามที่หลวงปู่สั่งไว้ ( มีผู้ที่นั่งสมาธิในวันนั้นบอกว่า เห็นแสงสว่างสุกปลั่งไสว เป็นแสงสีนวลบนกล่องเหรียญ )

    หลังจากที่หลวงปู่นั่งสมาธิอธิษฐานจิตเสร็จแล้ว ท่านได้ประพรมน้ำพระพุทธมนต์ทั่วทุกกล่องพระ ทางผู้สร้างได้แบ่งเหรียญใส่พานถวายท่าน 2 ถุง ( 2,000 เหรียญ ) กราบเรียนท่านว่า “ ขอให้รับไว้เพื่อแจกแก่ผู้ที่มากราบหลวงปู่ ” หลวงปู่รับเหรียญแล้วก็แกะถุงพลาสติก หยิบเหรียญออกมาแจกแก่ทุกคนที่อยู่บนกุฏิในวันนั้น

    ในเวลานั้นผู้สร้างได้มีโอกาสคุยกับลูกศิษย์ที่มีความนับถือหลวงปู่ดู่ด้วยกันหลายคน หนึ่งในลูกศิษย์นั้นเล่าว่า มีคนนำเหรียญรูปหลวงปู่ทวดมาให้หลวงปู่ดู่ปลุกเสก เหรียญรุ่นนั้นหลวงปู่ดู่ท่านเมตตาปลุกเสกอย่างเต็มที่ ลูกศิษย์ผู้นั้นกล่าวต่อว่า เดิมที่เหรียญนั้นอยู่ในกล่องกระดาษ และได้มีลูกศิษย์มาพบ เห็นว่าเหรียญนั้นเป็นเหรียญรูปหลวงปู่ทวด จึงนำเหรียญเหล่านั้นมาใส่ไว้ในบาตรพระแทน

    ในการปลุกเสกคราวหนึ่ง คนที่ศรัทธาหลวงปู่กลับไปหมดแล้ว ท่านว่างจึงได้ทำการอธิษฐานจิตปลุกเสกเหรียญหลวงปู่ทวดตอนนั้นเป็นเวลาเย็นมากแล้ว ซึ่งมีเพียงตาแกละที่คอยเก็บกาน้ำชา และคอยทำความสะอาดอยู่บริเวณนั้น ตาแกละได้เล่าให้ฟังว่า หลวงพ่อดู่ท่านได้ปลุกเสกเหรียญทั้งหมดจนเหรียญตั้งขึ้นได้ทุกองค์แล้วเหรียญทุกองค์ก็ได้ลอยขึ้นมาจากบาตร เมื่อตาแกละเห็นดังนั้นจึงนั่งลงกราบ แล้วหลวงพ่อดู่ก็ลืมตาขึ้นมามองทางตาแกละ วันนั้นหลวงพ่อท่านอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ตาแกละก็เลยกล่าวกับหลวงพ่อว่า “ เหรียญรุ่นนี้หลวงพ่อปลุกเสกจนเหรียญลอยเลยนะครับ ” หลวงพ่อท่านเมตตาตอบว่า “ คนสร้างเหรียญรุ่นนี้เขามีเจตนาดี อยากให้ผู้อื่นแคล้วคลาดปลอดภัยทำมาหากินเจริญ คนแบบนี้หาได้ยาก ด้วยเจตนาอันเป็นกุศลนี้ข้าเลยอนุ โมทนาให้เขาเต็มที่ เหรียญที่ปลุกเสกนี้เมื่อนำไปใช้ก็จะเจริญร่ำรวย มีโชคลาภ แคล้วคลาดปลอดภัย เมตตา สมกับเจตนาที่ตั้งไว้ ข้าเสกเหรียญนี้ไว้ในบาตรพระ ก็เพราะบาตรพระเป็นภาชนะที่ญาติโยมนำข้าวปลาอาหาร กล้วยสุกลูกไม้ มาให้ด้วยความศรัทธา บาตรพระนี้แหละแกเอ๋ย ดีเป็นที่สุดเลย ” หลวงพ่อยังพูดต่อว่า “ เหรียญหลวงปู่ทวด ที่ข้าปลุกเสกนี้ อีกหน่อยจะหายากจนแทบพลิกแผ่นดินหากันแหละแก ”
    เมื่อผู้สร้างได้ฟังเรื่องต่าง ๆ ถึงกับขนลุกขึ้นถึงหัวเลยทีเดียว คนที่เล่าก็ไม่รู้ว่าผู้ใดเป็นผู้สร้าง นี้คือที่มาของเหรียญหลวงปู่ทวดกระโดดบาตร อีกหลายปีผ่านไปก็เป็นอย่างที่หลวงปู่ดู่ได้กล่าวไว้ว่า เหรียญนี้มีพุทธคุณต่าง ๆ นา ๆ ผู้ที่ใช้มักมีปาฏิหาริย์มาเล่าให้ฟังกันต่าง ๆ

    บันทึกของคุณชาญชัย ก่อเกียรติสกุลชัย

    ณ ห้อง 223 เตาปูนแมนชั่น อาคาร เอ ถ.เตชะวาณิช
    แขวง/เขต บางซื่อ กทม. 10800 โทรฯ 5859628-9 ต่อ 223
    ( หมายเหตุ ปัจจุบันทางแมนชั่นได้เปลี่ยนเป็นสายตรงแทนแล้ว )

    27 พ.ย. 2539

    ข้าพเจ้า นายชาญชัย ก่อเกียรติสกุลชัย จบการศึกษาปริญญาตรีวิทยาศาสตร์บัณฑิต จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ปัจจุบันทำงานที่ฝ่ายวิจัยและพัฒนากระบวนการทำงานธนาคารกสิกรไทย และมีเชื้อสายจีนเต็มตัว

    เดิมข้าพเจ้าไม่มีความสนใจในแก่นหรือหลักของพระพุทธศาสนา เพียงแต่มีความเข้าใจอย่างผิวเผิน และได้ประสบเหตุการณ์บางอย่างในการทำงานในต่างจังหวัด ทำให้มีความสนใจในเรื่อง “ พระพุทธคุณ ” ( พระพุทธคุณ คือ พลังงานที่อยู่ในพระ ) ว่าจะมีจริงหรือเปล่า จึงได้เสาะแสวงหาพระเครื่องของพระเกจิอาจารย์และพระกรุต่างๆ จากหนังสือพระเครื่องหลายฉบับ โดยเสียเงินในการเช่าบูชาเป็นจำนวนมากพอสมควร

    เนื่องจากข้าพเจ้ามีพระเครื่องจำนวนมากมาย ทำให้ไม่มีการจัดเก็บให้เป็นที่เรียบร้อย มารดาข้าพเจ้าซึ่งเป็นชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ( เรียกว่า เป็นคนต่างด้าว ) และมีความนับถือในพระศาสดากับพระโพธิสัตว์กวนอิม โยมมารดาเคยเล่าให้ฟังว่า ท่านได้สวดมนต์ทำสมาธิมาตั้งแต่เมื่ออายุเพียง 15 ปี ตั้งแต่สมัยอยู่ในประเทศจีน จนมีอายุในขณะนี้ 70 ปี และตั้งแต่ที่ข้าพเจ้าจำความได้ ก็เห็นมารดาสวดมนต์บูชาพระพุทธองค์และพระโพธิสัตว์กวนอิมทุกวันในช่วงเย็นไม่น้อยกว่าวันละ 3 ชั่วโมง

    โดยปกติลูกหลานจะทราบเพียงแต่ว่า มารดาข้าพเจ้ามีความสามารถในการทำนายโหงวเฮ้ง ( โหงวเฮ้ง หมายถึง การดูตรงหน้า ดูลักษณะ 5 อย่าง เช่น ดูตา ใบหู จมูก เป็นต้น ) ได้อย่างเม่นยำมาก แต่จะบอกเฉพาะลูกหลานหรือญาติเท่านั้น

    จนมากระทั่งอยู่มาวันหนึ่ง มารดาได้ให้ข้าพเจ้าไปจัดเก็บพระเครื่องต่างๆ ที่วางไว้ระเกะ ระกะให้เป็นที่เรียบร้อย เนื่องจากเป็นวันหยุด ข้าพเจ้าจึงนำพระเครื่องทั้งหมดออกมาทำความสะอาดแล้ววางไว้บนโต๊ะ มารดาข้าพเจ้า ( ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว ) ได้เดินมาที่โต๊ะที่วางพระเครื่องจำนวนหลายร้อยองค์ของข้าพเจ้า พร้อมกับได้หยิบพระเครื่องแยกออกมาจำนวนหนึ่งประมาณ 4-5 องค์ แล้วเลือกพระเครื่องออกมาเพียง 1 องค์ยื่นให้ข้าพเจ้า องค์ที่เหลือได้วางกลับลงไปที่เดิม

    เนื่องจากมารดาเป็นคนจีนพูดไทยชัดบ้างไม่ชัดบ้าง ได้พูดภาษาจีนแปลเป็นไทยได้ว่า “ พระเครื่องที่หยิบมาทุกองค์มีพลังหรือพุทธคุณสูงมาก แต่องค์ที่พุทธคุณสุดยอดคือองค์นี้ ” ซึ่งในภายหลังข้าพเจ้าทราบว่าเป็น เหรียญสี่เหลี่ยมเล็ก ทองแดงรมสีน้ำตาล รูปหลวงพ่อทวด วัดช้างไห้ สร้างเมื่อปี 2530 อธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยวโดย หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก อยุธยา ซึ่งบางคนเรียกเหรียญรุ่นนี้ว่า “ รุ่นกระโดดบาตร ”

    มารดาได้กล่าวย้ำให้ข้าพเจ้านำไปเลี่ยมทองแขวนคอไว้เป็นมงคลแก่ตัว โดยปกติมารดาไม่เคยสนใจในเรื่องพระเครื่อง และอ่านภาษาไทยไมได้เลย แต่ท่านจะตักบาตรทุกวันและนับถือหลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี กับ สมเด็จพระพุฒโฆษาจารย์ ( ฟื้น ) วัดสามพระยา

    ข้าพเจ้ามีความสงสัยเป็นอย่างมากว่า มารดาทราบได้อย่างไรว่าองค์ไหนมีพุทธคุณสูง และท่านสามารถตรวจสอบได้จริงหรือไม่ พระเครื่ององค์ดังกล่าวเป้นพระที่ข้าพเจ้าได้รับจากการทำบุญกับเพื่อน เป็นพระรุ่นใหม่และไม่มีราคาเช่าหาแต่อย่างใด จึงสอบถามมารดาว่า แม่รู้ได้อย่างไรว่าพระองค์นี้ดีและองค์ที่วางลงไปมีพุทธคุณน้อยกว่า ( พระที่มารดาวางลงไป 3-4 องค์ ล้านเป็นพระเครื่องที่นิยมในวงการและมีราคาเช่าหาสูงในระดับหลักหมื่นขึ้นไปทั้งสิ้น ) ข้าพเจ้าได้เลือกพระองค์ที่บูชามาในราคาสูงมาให้ตรวจสอบอีกจำนวนหนึ่ง ผลก็คงเป็นเช่นเดิม

    มารดาบอกว่า พระองค์นี้ ( เหรียญหลวงปู่ทวด รุ่น กระโดดบาตร ) ดีมาก เป็น “ ผ่อสัก ” ( คือ “ พระโพธิสัตว์ ” เหมือนกับ “ เจ้าแม่กวนอิม ” ) ให้นำไปเลี่ยมแขวนที่คอ หากไม่มีเงินก็จะให้
    ข้าพเจ้าแย้งว่า พระองค์นี้ได้มาจากการทำบุญราคาถูกมาก จะดีกว่าพระองค์ที่มีราคาแพงๆ ได้อย่างไร ?
    มารดาบอกว่า พระองค์ราคาแพงมีพุทธคุณสูง มีลักษณะพลังงานแบบสายน้ำที่ไหลเรื่อยๆ มาไม่ขาดสาย แต่พระองค์ที่เลือกให้ ( เหรียญหลวงปู่ทวด รุ่น กระโดดบาตร ) มีพุทธคุณสูงสุด มีพลังงานเหมือนกับน้ำตกที่ไหลแรงมากและไม่ขาดสายเช่นกัน
    ปิดรายการแล้วครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC00140.JPG
      DSC00140.JPG
      ขนาดไฟล์:
      52.7 KB
      เปิดดู:
      130
    • DSC00136.JPG
      DSC00136.JPG
      ขนาดไฟล์:
      48.8 KB
      เปิดดู:
      139
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กันยายน 2009
  5. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    ติดต่อสอบถามได้ที่
    - Pm
    - เบอร์โทร 0817933946
    ชำระเงินได้ที่

    ธ.กรุงไทย สาขา ศรีย่าน
    ชื่อบัญชี นายพรราวินท์ เล้ารัตนอารีย์
    เลขที่บัญชี 012-0-14398-4<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  6. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    เหรียญยันต์ดวง หลวงปู่ดู่ 2526 สภาพสวย นับวันยิ่งแรงมาก

    เหรียญยันต์ดวง หลวงปู่ดู่ 2526 สภาพสวย นับวันยิ่งแรงมาก
    ****ตอนบ่ายวันหนึ่ง ประมาณเดือนมกราคม พ.ศ.2525 ซึ่งยังคงอยู่ในฤดูหนาวเพราะพวกเราบางคนยังใส่เสื้อหนาวอยู่เลย ตอนเรานั่งรวมกันอยู่สิบกว่าคน บางคนก็อยู่ในห้องของหลวงปู่ กำลังนั่งสมาธิ มีชายสูงอายุท่าทางภูมิฐานคนหนึ่ง มาหาหลวงปู่ พอจะเดินผ่านเราไปชายผู้นั้นก้มหลังเล็กน้อยด้วยความสุภาพ พอถึงหลวงปู่เขาก็กราบหลวงปู่สามครั้ง หลวงปู่มองดูเขาด้วยความเมตตาและท่านก้พูดขึ้นว่า แกมาจากไหนล่ะ กระผมมาจากบางกอกครับ หลวงปู่ยิ้มรับ และส่งถ้วยน้ำชาให้กับชายผู้นั้นเขาท่าทางเกรงใจหลวงปู่ทำท่าเหมือนจะไม่กล้ารับ หลวงปู่จึงพูดขึ้นว่า มีน้ำมนต์ พอได้ยินว่าน้ำมนต์ เขารับน้ำมนต์จากหลวงปู่ และกินจนหมดถ้วย กินเสร็จเขาก็ไหว้ท่านเป็นการขอบคุณ หลวงปู่ครับกระผมเคยได้ยินคนเขาพูดกันว่าหลวงปู่ดู่ วัดสะแก เก่งเป็นหนึ่งไม่เป็นสองลองใครในแผ่นดิน วันนี้โอกาสดี กระผมว่างจึงมากราบขอพรจากหลวงปู่ครับ หลวงปู่ท่านยิ้มด้วยแววตาอันเมตตาท่านบอกว่า แกอย่าไปเชื่อเขามากนัก เขาก็พูดกับหลวงปู่ว่า ท่านต้องมีดีคนทั่วไปถึงได้กล่าวขานไปกันทั่ว พวกเราเห็นหลวงปู่มีแขกมาจากบางกอกเราทั้งหมดจึงออกมาคุยกันข้างนอกซึ่งไม่ไกลจาหลวงปู่มากนัก ชายผู้นั้นถามข้อธรรมะจากหลวงปู่หลายข้อ นานเป็นชั่วโมง ถ้าธรรมะข้อไหนเขาไม่เข้าใจ ท่านจะอธิบายจนเขาเข้าใจ ชายคนนั้นคุยกับหลวงปู่อยู่เป็นชั่วโมงสักพักเขาก็เดินมาที่เรานั่งกันอยู่ และกล่าวทักทายพวกเราด้วยวาจาอันสุภาพ เราคุยกับชายผู้นั้นอยู่นานพอสมควร มีศิษย์หลวงปู่คนหนึ่งพูดขึ้นว่า ขอโทษครับพี่อยู่บางกอกทำงานอะไรครับ ชายผู้นั้นยิ้มและตอบว่า กระผมเป็นโหรอยู่ในวังครับ เราจึงปรึกษากันว่านาน ๆ จะมีโหรมากราบหลวงปู่ที โหรผู้นั้นอยู่ในวังความสามารถต้องไม่ธรรมดาแน่ เราลองนำดวงของหลวงปู่ให้เขาตรวจดูเห็นจะดี และเราก็นำดวงของหลวงปู่ให้ชายผู้นั้นตรวจดูแต่เขามองดูดวงของหลวงปู่อยู่นานแล้วพูดว่า กระผมเรียนจากครูบาอาจารย์มาก็มาก แต่ไม่เคยเห็นดวงแบบนี้เลย กระผมมิกล้าทำนายหรอกครับ หลังจากท่านโหรลาหลวงปู่ แล้วเขาก็มาลาพวกเราว่า กระผมขอลาก่อนนะครับ ศิษย์ทั้งหมดจึงปรึกษากันว่า แม้แต่โหรยังไม่กล้าทำนายดวงของหลวงปู่เลย พวกเราสมควรสร้างพระยันต์ดวงของหลวงปู่เห็นจะดีเป็นแน่ ปรึกษากันอยู่สักพักก็ตกลงกันวาควรจะสร้างเหรียญด้านหน้าเป็นรูปองค์หลวงปู่ ด้านหลังเป็นดวงของท่าน ดังนั้นพวกเราทั้งหมด จึงไปกราบขออนุญาตหลวงปู่ โดยบอกท่าน พวกผมอยากจะสร้างพระเหรียญดวงหลวงปู่ เอาไว้ให้คนที่นับถือศรัทธาองค์หลวงปู่ไว้บูชาเพื่อเป็นศิริมงคล ท่านยิ้มด้วยแววตาอันเมตตาแล้วบอกว่า ข้าขออนุโมทนาบุญกับพวกแกด้วย ที่มีจิตเป็นกุศลเป็นบุญ และท่านได้มอบแผ่นจารยันต์ที่ท่านได้จารไว้ด้วยตัวของท่านเองและชนวนศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ อีกมากมายเพื่อให้พวกเรานำไปสร้างเหรียญดวงในเรื่องของเงินทุนสร้างเหรียญเราได้ช่วยกันร่วมสร้างบางคนก็บริจาค 500 บาท บางคนก็ 1,000 – 2,000 บาท แล้วแต่กำลังของแต่ละคน มีศิษย์คนหนึ่งบอกว่าที่เหลือทั้งหมดผมจะเป็นคนออกเอง ถ้าจำไม่ผิดศิษย์ผู้นั้นจะเป็นเจ้าของโรงงานอะไรสักอย่าง ที่อยู่ทางเลยบางนาไปไม่ไกลนัก

    ตั้งแต่วันนั้นผ่านไปได้ประมาณสองเดือนเห็นจะได้ ศิษย์คณะนั้นก็ได้นำเหรียญดวงที่สร้างเสร็จมาให้ท่านเมตตาปลุกเสก วันนั้นท่านอารมณ์ดีเป็นพิเศษ พอเห็นเหรียญท่านก็บอกว่าสวย เหรียญนี้ท่านชอบมาก และท่านก็ปลุกเสก แต่วันนั้นท่านปลุกเสกนานเป็นพิเศษ พอปลุกเสกเสร็จ ท่านก็คืนเหรียญทั้งหมดให้กับศิษย์คณะนั้น แต่ลูกศิษย์กราบเรียนท่านว่า พวกกระผมขอเหรียญที่เป็นเนื้อพิเศษคืนอย่างเดียวครับ ส่วนเหรียญเนื้อทองแดงทั้งหมด ขอถวายหลวงปู่ ท่านจึงอนุโมทนากับลูกศิษย์คณะนั้น วันนั้นหลวงปู่แจกเหรียญดวงให้กับศิษย์ทุกคนที่อยู่ในที่นั้นพอลูกศิษย์ลาท่านกลับกันไปหมด ท่านก็เรียกลุงแกละและป้าอิ้งให้เข้ามาใกล้ ๆ ท่าน แล้วพูดว่า ข้าจะมีงานบุญให้แกสองคน ท่านเข้าไปในห้องของท่านสักพักใหญ่พอท่านออกมา หลวงปู่ก้มอบผงให้กับคนทั้งสอง และบอกว่าให้นำเหรียญดวงไปกดพิมพ์และทำเป็นพระผงดวงมาให้ท่าน โดยท่านได้กำหนดวันเวลา ที่จะนำพระผงดวงมาให้ท่าน

    อีกหลายวันต่อมา ป้าอิ้งพร้อมทั้งลุงแกละก็นำพระผงดวงมาให้หลวงปู่ ท่านหยิบพระผงดวงดูอย่างพอใจและบอกว่าดีมากหลวงปู่บอกว่า แกทั้งสองคนคอยอนุโมทนากับข้าด้วยนะ ท่านก็เริ่มทำการปลุกเสก ป้าอิ้งบอกว่า เคยเห็นหลวงปู่ท่านปลุกเสกพระมาก็มากจนนับครั้งไม่ถ้วนแต่ไม่เคยเห็นหลวงปู่ปลุกเสกนานขนาดนี้เลย แกก็จัดว่าเป็นผู้ที่นั่งสมาธิได้นานคนหนึ่งแต่ยังต้องขยับตัวหลายครั้ง พอหลวงปู่ท่านลืมตาขึ้นท่านก็ยิ้มอย่างอารมณ์ดี ลุงแกละเห็นท่านอารมณ์ดีจึงถามท่านว่า ทำไมวันนี้หลวงปู่เสกนานจริงครับ หลวงปู่ท่านตอบว่า วันนี้เป็นวันดี วันเสาร์ห้า ขึ้นห้าค่ำ เดือนห้า ข้าเสกเต็มที่ ข้าอัญเชิญบุญบารมีขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งแสนโกฏจักรวาลมารวมเป็น พลังเหนือพลัง และอันเชิญดวงขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้ทั้งแสนโกฏจักรวาลมารวมเป็นดวงเดียวกัน เป็นดวงเหนือดวง พระผงดวงนี้ รวมทั้งเหรียญดวงนี้จะมีพุทธานุภาพมากผู้ใดนำไปบูชา ถึงเขาผู้นั้นจะดวงตก แต่พุทธานุภาพ โดยไม่มีประมาณของดวงเหนือดวง พลังเหนือพลัง ก็จะคุ้มครองให้รอดปลอดภัย จากสิ่งอัปมงคล ผี ปีศาจ คุณไสยมนต์ดำ ภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นให้หนักเป็นเบา ทุเลาเป็นหาย เหรีญและพระผงนี้เป็นเหรียญทำน้ำมนต์ของข้า แม้ผู้ใดถูกผี ปีศาจเข้าสิง ให้นำพระมาทำน้ำมนต์ ดื่มกัน ก็จะหายจากคุณไสย ภูติผี ปีศาจ และสิ่งอัปมงคลทั้งปวง แม้แต่คนที่ดวงดีนำไปบูชา ก็จะเกิดโชคดี เป็นมงคล มีเสน่ห์ เป็นที่รักใคร่ต่อคนทั้งหลาย รอดปลอดภัยจากภัยพิบัติทั้งหมดทั้งมวล หลวงปู่ท่านบอกต่ออีก ผงที่ข้าให้แกกับยายอิ้งไปทำเป็นพระผงดวงนั้นคือผงมหาจักรพรรดิ วิธีทำผงมหาจักรพรรดินั้นต้องเขียนยันต์มหาจักรพรรดิเขียนไปเสกไป พอเสร็จเป็นผงก็นำมาเสกอีกครั้ง ทำเป็นพระแล้วก็เสกอีกครั้ง ผงมหาจักรพรรดินั้นเวลาเสกต้องรวมพลังบุญบารมีทั้งหมดตั้งแต่อดีต จนถึงอนาคต อธิษฐานจิตด้วยญาณบารมีขั้นสูง พระที่สร้างด้วยผงมหาจักรพรรดิของข้าจะมีพุทธานุภาพโดยไม่มีประมาณ ท่านพูดจบก็หยิบพระผงดวงให้ลุงแกละและป้าอิ้งคนละหนึ่งองค์แล้วท่านพูดว่า ตาแกละและยายอิ้งก็ไม่มีลูกเมื่อแกสองคนแก่ หลังจากข้าตายไปแล้ว จะมีผู้ที่มีบุญมาคอยเลี้ยงดูแกสองคนไปจนตาย ป้าอิ้งเล่าให้ฟังว่าเมื่อแกได้ยินดังนั้นแกและลุงแกละก็ก้มลงกราบหลวงปู่ เพราะว่าวาจาของหลวงปู่ศักดิ์สิทธิ์ ป้าอิ้งบอกอีกว่าแกบอกกับหลวงปู่ว่าเมื่อตอนที่หลวงปู่ส่งพระดวงให้นี้ เกิดแสงสว่างไปทั่ว แกเลยตั้งจิตตามไปดูและอยากรู้ว่าแสงสว่างนั้นไปถึงไหน แต่ก็ไม่สมารถตามไปดูได้เพราะแสงสว่างนั้นไปไกล โดยประมาณไม่ได้ว่าไปสุดที่ใด หลวงปู่ยิ้มแล้วตอบว่า นั้นแหละคือ พลังเหนือพลัง

    ในบรรดาลูกศิษย์หลวงปู่ใคร ๆ ก็รู้ว่ายายอิ้งเป็นหนึ่งในจำนวนศิษย์ที่มีสมาธิละเอียดและแก่กล้าคนหนึ่งเหมือนกัน ลูกศิษย์ที่ปฏิบัติถึงขึ้นแล้วล้วนรู้ดีว่าป้าอิ้งจิตของแกดีสามาหรถกำหนดไปดูได้ทั้งนรกและสวรรคื เคยมีคนไม่น้อยที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไป บ้างก็เป็นพ่อแม่พึ่น้องตลอดไปถึงลูกหลาน ญาติที่ยังมีชีวิตบางคนก็เป็นห่วงญาติของตนที่ตายป จะไปดีหรือไปร้ายเพียงใด คนที่รู้จักหลวงปู่ดู่ แห่งวัดสะแก จะรู้ว่าท่านเป็นพระกัมมัฏฐาน คนที่เป็นห่วงญาติที่ว่ตายไปแล้วมักเดินทางไปขอความเมตตาจากหลวงปู่อยู่เสมอ ถ้ามีใครเรียนถามท่านว่าญาติของตนที่ตายไปแล้วตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง หลวงปู่ท่านก็จะหันไปทางป้าอิ้ง และบอกว่า ว่ายังไงยายอิ้ง ป้าอิ้งก็จะกำหนดจิตดูให้ เป็นที่รู้กันดีว่าลูกศิษย์ของหลวงปู่ดู่ วัดสะแก ที่เก่งแบบป้าอิ้งบางคนยังเรียกว่าเก่งกว่าป้าอิ้งยังมีอีกมากมายจนนับไม่ถ้วน ผู้เขียนต้องขอโทษได้เล่าข้ามไปตอนหนึ่ง ป้าอิ้งบอกว่าหลวงปู่ท่านได้อธิบายถึงคำว่ามหาจักรพรรดิให้ฟังว่า เจ้าแผ่นดินทุกแผ่นดินถึงจะเป็นใหญ่กว่าคนทั้งปวง แต่ก็จะเป็นได้เพียงจักรพรรดิ แต่มหาจักรพรรดิ จะเป็นใหญ่อยู่เหนือจักรพรรดิทั้งหมด ผงมหาจักรพรรดิถือว่าได้เป็นผงที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด มิฉะนั้นท่านจึงใช้ผงมหาจักรพรรดิมาสร้างเป็นพระเพราะรักและเป็นห่วงลูกศิษย์และคนทั่วไปที่ศรัทธาในองค์ท่าน หลวงปู่บอกว่า ข้ากลัวสู้เขาไม่ได้พระผงที่ข้าสร้างจึงต้องใช้ผงมหาจักรพรรดิข้าเสกและอธิษฐานจิตให้พระที่ข้าสร้างนั้นไม่เป็นรองใครในแผ่นดิน

    ป้าอิ้งยังบอกต่ออีกว่าหลวงปู่บอกว่าเหรียญและพระผงดวงนี้ อีกหน่อยจะมีค่ามาก คนที่มีบุญวาสนาเท่านั้นถึงจะได้ครอบครองหลวงปู่ท่านบอกให้ป้าอิ้งจำไว้ว่า

    วิธีใช้เหรียญดวงและพระผงดวง เหรียญดวง ให้ตั้ง นะโมสามจบ แล้วภาวนาว่า “พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ” พระผงดวง ตั้งนะโมสามจบ ภาวนาบทมหาจักรพรรดิ “นโมพุทธายะ พระพุทธะไตรรัตนญาณ มณีนพรัตน์ สีสะหัสสะสุธรรมา พุทโธ ธัมโม สังโฆ ยะธาพุทโมนะ พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา อัคคีธานัง วะรังคันธัง สีวลี จะมหาเถรัง อะหังวันทามิ ทูระโต อะหังวันทามิ ธาตุโย อะหังวันทามิ สัพพะโส พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ”

    ถ้าจะให้ได้ผลเต็มที่ต้องภาวไตรสรณคมณ์ และบทมหาจักรพรรดิตามกำลังวันทุกวัน เหรีญและพระผงดวงนี้จึงจะเกิดพุทธานุภาพโดยไม่มีประมาณ ที่เรียกว่า ดวงเหนือดวง พลังเหนือพลัง

    เหรียญและพระผงดวงนี้ เป็นพระที่หลวงปู่ท่านรักมาก ท่านเก็บไว้ในห้องของท่านและปลุกเสกเป็นเวลานาน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2525 ถึงปี 2533 รวมทั้งหมด 8 พรรษา

    หลังจากที่หลวงปู่มรณภาพไปแล้ว วาจาศักดิ์สิทธิ์ของท่านก็เป็นจริงดังที่ท่านได้กล่าเอาไว้ว่า จะมีผู้มีบุญซึ่งเคยร่วมบุญกับหลวงปู่มา ได้รับเลี้ยงดูแลลุงแกละและป้าอิ้งจนแกทั้งสองตายไป ระยะเวลาเลี้ยงดูคนทั้งสอง คือ ป้าอิ้งตั้งแต่ปี พ.ศ.2533 จนถึง พ.ศ. 2540 ส่วนลุงแกละตั้งแต่ปีพ.ศ. 2533 จนถึงพ.ศ. 2547

    ที่มา: หนังสือนะโภคทรัพย์ พ.ศ.2548

    ปล.ฆราวาสที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์ในวันที่ "ท่านโหร" มากราบหลวงปู่นั้น คือ หลวงตาม้า ผู้เป็นที่เคารพของพวกเรานั่นเอง
    ปิดรายการนี้ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC00140.JPG
      DSC00140.JPG
      ขนาดไฟล์:
      50.2 KB
      เปิดดู:
      153
    • DSC00138.JPG
      DSC00138.JPG
      ขนาดไฟล์:
      49.6 KB
      เปิดดู:
      138
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กันยายน 2009
  7. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    เหรียญยันต์ดวง หลวงปู่ดู่ 2526 สภาพสวย นับวันยิ่งแรงมาก #2

    เหรียญยันต์ดวง หลวงปู่ดู่ 2526 สภาพสวย นับวันยิ่งแรงมาก
    ****ตอนบ่ายวันหนึ่ง ประมาณเดือนมกราคม พ.ศ.2525 ซึ่งยังคงอยู่ในฤดูหนาวเพราะพวกเราบางคนยังใส่เสื้อหนาวอยู่เลย ตอนเรานั่งรวมกันอยู่สิบกว่าคน บางคนก็อยู่ในห้องของหลวงปู่ กำลังนั่งสมาธิ มีชายสูงอายุท่าทางภูมิฐานคนหนึ่ง มาหาหลวงปู่ พอจะเดินผ่านเราไปชายผู้นั้นก้มหลังเล็กน้อยด้วยความสุภาพ พอถึงหลวงปู่เขาก็กราบหลวงปู่สามครั้ง หลวงปู่มองดูเขาด้วยความเมตตาและท่านก้พูดขึ้นว่า แกมาจากไหนล่ะ กระผมมาจากบางกอกครับ หลวงปู่ยิ้มรับ และส่งถ้วยน้ำชาให้กับชายผู้นั้นเขาท่าทางเกรงใจหลวงปู่ทำท่าเหมือนจะไม่กล้ารับ หลวงปู่จึงพูดขึ้นว่า มีน้ำมนต์ พอได้ยินว่าน้ำมนต์ เขารับน้ำมนต์จากหลวงปู่ และกินจนหมดถ้วย กินเสร็จเขาก็ไหว้ท่านเป็นการขอบคุณ หลวงปู่ครับกระผมเคยได้ยินคนเขาพูดกันว่าหลวงปู่ดู่ วัดสะแก เก่งเป็นหนึ่งไม่เป็นสองลองใครในแผ่นดิน วันนี้โอกาสดี กระผมว่างจึงมากราบขอพรจากหลวงปู่ครับ หลวงปู่ท่านยิ้มด้วยแววตาอันเมตตาท่านบอกว่า แกอย่าไปเชื่อเขามากนัก เขาก็พูดกับหลวงปู่ว่า ท่านต้องมีดีคนทั่วไปถึงได้กล่าวขานไปกันทั่ว พวกเราเห็นหลวงปู่มีแขกมาจากบางกอกเราทั้งหมดจึงออกมาคุยกันข้างนอกซึ่งไม่ไกลจาหลวงปู่มากนัก ชายผู้นั้นถามข้อธรรมะจากหลวงปู่หลายข้อ นานเป็นชั่วโมง ถ้าธรรมะข้อไหนเขาไม่เข้าใจ ท่านจะอธิบายจนเขาเข้าใจ ชายคนนั้นคุยกับหลวงปู่อยู่เป็นชั่วโมงสักพักเขาก็เดินมาที่เรานั่งกันอยู่ และกล่าวทักทายพวกเราด้วยวาจาอันสุภาพ เราคุยกับชายผู้นั้นอยู่นานพอสมควร มีศิษย์หลวงปู่คนหนึ่งพูดขึ้นว่า ขอโทษครับพี่อยู่บางกอกทำงานอะไรครับ ชายผู้นั้นยิ้มและตอบว่า กระผมเป็นโหรอยู่ในวังครับ เราจึงปรึกษากันว่านาน ๆ จะมีโหรมากราบหลวงปู่ที โหรผู้นั้นอยู่ในวังความสามารถต้องไม่ธรรมดาแน่ เราลองนำดวงของหลวงปู่ให้เขาตรวจดูเห็นจะดี และเราก็นำดวงของหลวงปู่ให้ชายผู้นั้นตรวจดูแต่เขามองดูดวงของหลวงปู่อยู่นานแล้วพูดว่า กระผมเรียนจากครูบาอาจารย์มาก็มาก แต่ไม่เคยเห็นดวงแบบนี้เลย กระผมมิกล้าทำนายหรอกครับ หลังจากท่านโหรลาหลวงปู่ แล้วเขาก็มาลาพวกเราว่า กระผมขอลาก่อนนะครับ ศิษย์ทั้งหมดจึงปรึกษากันว่า แม้แต่โหรยังไม่กล้าทำนายดวงของหลวงปู่เลย พวกเราสมควรสร้างพระยันต์ดวงของหลวงปู่เห็นจะดีเป็นแน่ ปรึกษากันอยู่สักพักก็ตกลงกันวาควรจะสร้างเหรียญด้านหน้าเป็นรูปองค์หลวงปู่ ด้านหลังเป็นดวงของท่าน ดังนั้นพวกเราทั้งหมด จึงไปกราบขออนุญาตหลวงปู่ โดยบอกท่าน พวกผมอยากจะสร้างพระเหรียญดวงหลวงปู่ เอาไว้ให้คนที่นับถือศรัทธาองค์หลวงปู่ไว้บูชาเพื่อเป็นศิริมงคล ท่านยิ้มด้วยแววตาอันเมตตาแล้วบอกว่า ข้าขออนุโมทนาบุญกับพวกแกด้วย ที่มีจิตเป็นกุศลเป็นบุญ และท่านได้มอบแผ่นจารยันต์ที่ท่านได้จารไว้ด้วยตัวของท่านเองและชนวนศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ อีกมากมายเพื่อให้พวกเรานำไปสร้างเหรียญดวงในเรื่องของเงินทุนสร้างเหรียญเราได้ช่วยกันร่วมสร้างบางคนก็บริจาค 500 บาท บางคนก็ 1,000 – 2,000 บาท แล้วแต่กำลังของแต่ละคน มีศิษย์คนหนึ่งบอกว่าที่เหลือทั้งหมดผมจะเป็นคนออกเอง ถ้าจำไม่ผิดศิษย์ผู้นั้นจะเป็นเจ้าของโรงงานอะไรสักอย่าง ที่อยู่ทางเลยบางนาไปไม่ไกลนัก

    ตั้งแต่วันนั้นผ่านไปได้ประมาณสองเดือนเห็นจะได้ ศิษย์คณะนั้นก็ได้นำเหรียญดวงที่สร้างเสร็จมาให้ท่านเมตตาปลุกเสก วันนั้นท่านอารมณ์ดีเป็นพิเศษ พอเห็นเหรียญท่านก็บอกว่าสวย เหรียญนี้ท่านชอบมาก และท่านก็ปลุกเสก แต่วันนั้นท่านปลุกเสกนานเป็นพิเศษ พอปลุกเสกเสร็จ ท่านก็คืนเหรียญทั้งหมดให้กับศิษย์คณะนั้น แต่ลูกศิษย์กราบเรียนท่านว่า พวกกระผมขอเหรียญที่เป็นเนื้อพิเศษคืนอย่างเดียวครับ ส่วนเหรียญเนื้อทองแดงทั้งหมด ขอถวายหลวงปู่ ท่านจึงอนุโมทนากับลูกศิษย์คณะนั้น วันนั้นหลวงปู่แจกเหรียญดวงให้กับศิษย์ทุกคนที่อยู่ในที่นั้นพอลูกศิษย์ลาท่านกลับกันไปหมด ท่านก็เรียกลุงแกละและป้าอิ้งให้เข้ามาใกล้ ๆ ท่าน แล้วพูดว่า ข้าจะมีงานบุญให้แกสองคน ท่านเข้าไปในห้องของท่านสักพักใหญ่พอท่านออกมา หลวงปู่ก้มอบผงให้กับคนทั้งสอง และบอกว่าให้นำเหรียญดวงไปกดพิมพ์และทำเป็นพระผงดวงมาให้ท่าน โดยท่านได้กำหนดวันเวลา ที่จะนำพระผงดวงมาให้ท่าน

    อีกหลายวันต่อมา ป้าอิ้งพร้อมทั้งลุงแกละก็นำพระผงดวงมาให้หลวงปู่ ท่านหยิบพระผงดวงดูอย่างพอใจและบอกว่าดีมากหลวงปู่บอกว่า แกทั้งสองคนคอยอนุโมทนากับข้าด้วยนะ ท่านก็เริ่มทำการปลุกเสก ป้าอิ้งบอกว่า เคยเห็นหลวงปู่ท่านปลุกเสกพระมาก็มากจนนับครั้งไม่ถ้วนแต่ไม่เคยเห็นหลวงปู่ปลุกเสกนานขนาดนี้เลย แกก็จัดว่าเป็นผู้ที่นั่งสมาธิได้นานคนหนึ่งแต่ยังต้องขยับตัวหลายครั้ง พอหลวงปู่ท่านลืมตาขึ้นท่านก็ยิ้มอย่างอารมณ์ดี ลุงแกละเห็นท่านอารมณ์ดีจึงถามท่านว่า ทำไมวันนี้หลวงปู่เสกนานจริงครับ หลวงปู่ท่านตอบว่า วันนี้เป็นวันดี วันเสาร์ห้า ขึ้นห้าค่ำ เดือนห้า ข้าเสกเต็มที่ ข้าอัญเชิญบุญบารมีขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งแสนโกฏจักรวาลมารวมเป็น พลังเหนือพลัง และอันเชิญดวงขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้ทั้งแสนโกฏจักรวาลมารวมเป็นดวงเดียวกัน เป็นดวงเหนือดวง พระผงดวงนี้ รวมทั้งเหรียญดวงนี้จะมีพุทธานุภาพมากผู้ใดนำไปบูชา ถึงเขาผู้นั้นจะดวงตก แต่พุทธานุภาพ โดยไม่มีประมาณของดวงเหนือดวง พลังเหนือพลัง ก็จะคุ้มครองให้รอดปลอดภัย จากสิ่งอัปมงคล ผี ปีศาจ คุณไสยมนต์ดำ ภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นให้หนักเป็นเบา ทุเลาเป็นหาย เหรีญและพระผงนี้เป็นเหรียญทำน้ำมนต์ของข้า แม้ผู้ใดถูกผี ปีศาจเข้าสิง ให้นำพระมาทำน้ำมนต์ ดื่มกัน ก็จะหายจากคุณไสย ภูติผี ปีศาจ และสิ่งอัปมงคลทั้งปวง แม้แต่คนที่ดวงดีนำไปบูชา ก็จะเกิดโชคดี เป็นมงคล มีเสน่ห์ เป็นที่รักใคร่ต่อคนทั้งหลาย รอดปลอดภัยจากภัยพิบัติทั้งหมดทั้งมวล หลวงปู่ท่านบอกต่ออีก ผงที่ข้าให้แกกับยายอิ้งไปทำเป็นพระผงดวงนั้นคือผงมหาจักรพรรดิ วิธีทำผงมหาจักรพรรดินั้นต้องเขียนยันต์มหาจักรพรรดิเขียนไปเสกไป พอเสร็จเป็นผงก็นำมาเสกอีกครั้ง ทำเป็นพระแล้วก็เสกอีกครั้ง ผงมหาจักรพรรดินั้นเวลาเสกต้องรวมพลังบุญบารมีทั้งหมดตั้งแต่อดีต จนถึงอนาคต อธิษฐานจิตด้วยญาณบารมีขั้นสูง พระที่สร้างด้วยผงมหาจักรพรรดิของข้าจะมีพุทธานุภาพโดยไม่มีประมาณ ท่านพูดจบก็หยิบพระผงดวงให้ลุงแกละและป้าอิ้งคนละหนึ่งองค์แล้วท่านพูดว่า ตาแกละและยายอิ้งก็ไม่มีลูกเมื่อแกสองคนแก่ หลังจากข้าตายไปแล้ว จะมีผู้ที่มีบุญมาคอยเลี้ยงดูแกสองคนไปจนตาย ป้าอิ้งเล่าให้ฟังว่าเมื่อแกได้ยินดังนั้นแกและลุงแกละก็ก้มลงกราบหลวงปู่ เพราะว่าวาจาของหลวงปู่ศักดิ์สิทธิ์ ป้าอิ้งบอกอีกว่าแกบอกกับหลวงปู่ว่าเมื่อตอนที่หลวงปู่ส่งพระดวงให้นี้ เกิดแสงสว่างไปทั่ว แกเลยตั้งจิตตามไปดูและอยากรู้ว่าแสงสว่างนั้นไปถึงไหน แต่ก็ไม่สมารถตามไปดูได้เพราะแสงสว่างนั้นไปไกล โดยประมาณไม่ได้ว่าไปสุดที่ใด หลวงปู่ยิ้มแล้วตอบว่า นั้นแหละคือ พลังเหนือพลัง

    ในบรรดาลูกศิษย์หลวงปู่ใคร ๆ ก็รู้ว่ายายอิ้งเป็นหนึ่งในจำนวนศิษย์ที่มีสมาธิละเอียดและแก่กล้าคนหนึ่งเหมือนกัน ลูกศิษย์ที่ปฏิบัติถึงขึ้นแล้วล้วนรู้ดีว่าป้าอิ้งจิตของแกดีสามาหรถกำหนดไปดูได้ทั้งนรกและสวรรคื เคยมีคนไม่น้อยที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไป บ้างก็เป็นพ่อแม่พึ่น้องตลอดไปถึงลูกหลาน ญาติที่ยังมีชีวิตบางคนก็เป็นห่วงญาติของตนที่ตายป จะไปดีหรือไปร้ายเพียงใด คนที่รู้จักหลวงปู่ดู่ แห่งวัดสะแก จะรู้ว่าท่านเป็นพระกัมมัฏฐาน คนที่เป็นห่วงญาติที่ว่ตายไปแล้วมักเดินทางไปขอความเมตตาจากหลวงปู่อยู่เสมอ ถ้ามีใครเรียนถามท่านว่าญาติของตนที่ตายไปแล้วตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง หลวงปู่ท่านก็จะหันไปทางป้าอิ้ง และบอกว่า ว่ายังไงยายอิ้ง ป้าอิ้งก็จะกำหนดจิตดูให้ เป็นที่รู้กันดีว่าลูกศิษย์ของหลวงปู่ดู่ วัดสะแก ที่เก่งแบบป้าอิ้งบางคนยังเรียกว่าเก่งกว่าป้าอิ้งยังมีอีกมากมายจนนับไม่ถ้วน ผู้เขียนต้องขอโทษได้เล่าข้ามไปตอนหนึ่ง ป้าอิ้งบอกว่าหลวงปู่ท่านได้อธิบายถึงคำว่ามหาจักรพรรดิให้ฟังว่า เจ้าแผ่นดินทุกแผ่นดินถึงจะเป็นใหญ่กว่าคนทั้งปวง แต่ก็จะเป็นได้เพียงจักรพรรดิ แต่มหาจักรพรรดิ จะเป็นใหญ่อยู่เหนือจักรพรรดิทั้งหมด ผงมหาจักรพรรดิถือว่าได้เป็นผงที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด มิฉะนั้นท่านจึงใช้ผงมหาจักรพรรดิมาสร้างเป็นพระเพราะรักและเป็นห่วงลูกศิษย์และคนทั่วไปที่ศรัทธาในองค์ท่าน หลวงปู่บอกว่า ข้ากลัวสู้เขาไม่ได้พระผงที่ข้าสร้างจึงต้องใช้ผงมหาจักรพรรดิข้าเสกและอธิษฐานจิตให้พระที่ข้าสร้างนั้นไม่เป็นรองใครในแผ่นดิน

    ป้าอิ้งยังบอกต่ออีกว่าหลวงปู่บอกว่าเหรียญและพระผงดวงนี้ อีกหน่อยจะมีค่ามาก คนที่มีบุญวาสนาเท่านั้นถึงจะได้ครอบครองหลวงปู่ท่านบอกให้ป้าอิ้งจำไว้ว่า

    วิธีใช้เหรียญดวงและพระผงดวง เหรียญดวง ให้ตั้ง นะโมสามจบ แล้วภาวนาว่า “พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ” พระผงดวง ตั้งนะโมสามจบ ภาวนาบทมหาจักรพรรดิ “นโมพุทธายะ พระพุทธะไตรรัตนญาณ มณีนพรัตน์ สีสะหัสสะสุธรรมา พุทโธ ธัมโม สังโฆ ยะธาพุทโมนะ พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา อัคคีธานัง วะรังคันธัง สีวลี จะมหาเถรัง อะหังวันทามิ ทูระโต อะหังวันทามิ ธาตุโย อะหังวันทามิ สัพพะโส พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ”

    ถ้าจะให้ได้ผลเต็มที่ต้องภาวไตรสรณคมณ์ และบทมหาจักรพรรดิตามกำลังวันทุกวัน เหรีญและพระผงดวงนี้จึงจะเกิดพุทธานุภาพโดยไม่มีประมาณ ที่เรียกว่า ดวงเหนือดวง พลังเหนือพลัง

    เหรียญและพระผงดวงนี้ เป็นพระที่หลวงปู่ท่านรักมาก ท่านเก็บไว้ในห้องของท่านและปลุกเสกเป็นเวลานาน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2525 ถึงปี 2533 รวมทั้งหมด 8 พรรษา

    หลังจากที่หลวงปู่มรณภาพไปแล้ว วาจาศักดิ์สิทธิ์ของท่านก็เป็นจริงดังที่ท่านได้กล่าเอาไว้ว่า จะมีผู้มีบุญซึ่งเคยร่วมบุญกับหลวงปู่มา ได้รับเลี้ยงดูแลลุงแกละและป้าอิ้งจนแกทั้งสองตายไป ระยะเวลาเลี้ยงดูคนทั้งสอง คือ ป้าอิ้งตั้งแต่ปี พ.ศ.2533 จนถึง พ.ศ. 2540 ส่วนลุงแกละตั้งแต่ปีพ.ศ. 2533 จนถึงพ.ศ. 2547

    ที่มา: หนังสือนะโภคทรัพย์ พ.ศ.2548

    ปล.ฆราวาสที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์ในวันที่ "ท่านโหร" มากราบหลวงปู่นั้น คือ หลวงตาม้า ผู้เป็นที่เคารพของพวกเรานั่นเอง
    ปิดรายการครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC00126.JPG
      DSC00126.JPG
      ขนาดไฟล์:
      47.4 KB
      เปิดดู:
      153
    • DSC00129.JPG
      DSC00129.JPG
      ขนาดไฟล์:
      49.1 KB
      เปิดดู:
      142
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กันยายน 2009
  8. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    เหรียญยันต์ดวง หลวงปู่ดู่ 2526 สภาพสวย นับวันยิ่งแรงมาก

    เหรียญยันต์ดวง หลวงปู่ดู่ 2526 สภาพสวย นับวันยิ่งแรงมาก
    ****ตอนบ่ายวันหนึ่ง ประมาณเดือนมกราคม พ.ศ.2525 ซึ่งยังคงอยู่ในฤดูหนาวเพราะพวกเราบางคนยังใส่เสื้อหนาวอยู่เลย ตอนเรานั่งรวมกันอยู่สิบกว่าคน บางคนก็อยู่ในห้องของหลวงปู่ กำลังนั่งสมาธิ มีชายสูงอายุท่าทางภูมิฐานคนหนึ่ง มาหาหลวงปู่ พอจะเดินผ่านเราไปชายผู้นั้นก้มหลังเล็กน้อยด้วยความสุภาพ พอถึงหลวงปู่เขาก็กราบหลวงปู่สามครั้ง หลวงปู่มองดูเขาด้วยความเมตตาและท่านก้พูดขึ้นว่า แกมาจากไหนล่ะ กระผมมาจากบางกอกครับ หลวงปู่ยิ้มรับ และส่งถ้วยน้ำชาให้กับชายผู้นั้นเขาท่าทางเกรงใจหลวงปู่ทำท่าเหมือนจะไม่กล้ารับ หลวงปู่จึงพูดขึ้นว่า มีน้ำมนต์ พอได้ยินว่าน้ำมนต์ เขารับน้ำมนต์จากหลวงปู่ และกินจนหมดถ้วย กินเสร็จเขาก็ไหว้ท่านเป็นการขอบคุณ หลวงปู่ครับกระผมเคยได้ยินคนเขาพูดกันว่าหลวงปู่ดู่ วัดสะแก เก่งเป็นหนึ่งไม่เป็นสองลองใครในแผ่นดิน วันนี้โอกาสดี กระผมว่างจึงมากราบขอพรจากหลวงปู่ครับ หลวงปู่ท่านยิ้มด้วยแววตาอันเมตตาท่านบอกว่า แกอย่าไปเชื่อเขามากนัก เขาก็พูดกับหลวงปู่ว่า ท่านต้องมีดีคนทั่วไปถึงได้กล่าวขานไปกันทั่ว พวกเราเห็นหลวงปู่มีแขกมาจากบางกอกเราทั้งหมดจึงออกมาคุยกันข้างนอกซึ่งไม่ไกลจาหลวงปู่มากนัก ชายผู้นั้นถามข้อธรรมะจากหลวงปู่หลายข้อ นานเป็นชั่วโมง ถ้าธรรมะข้อไหนเขาไม่เข้าใจ ท่านจะอธิบายจนเขาเข้าใจ ชายคนนั้นคุยกับหลวงปู่อยู่เป็นชั่วโมงสักพักเขาก็เดินมาที่เรานั่งกันอยู่ และกล่าวทักทายพวกเราด้วยวาจาอันสุภาพ เราคุยกับชายผู้นั้นอยู่นานพอสมควร มีศิษย์หลวงปู่คนหนึ่งพูดขึ้นว่า ขอโทษครับพี่อยู่บางกอกทำงานอะไรครับ ชายผู้นั้นยิ้มและตอบว่า กระผมเป็นโหรอยู่ในวังครับ เราจึงปรึกษากันว่านาน ๆ จะมีโหรมากราบหลวงปู่ที โหรผู้นั้นอยู่ในวังความสามารถต้องไม่ธรรมดาแน่ เราลองนำดวงของหลวงปู่ให้เขาตรวจดูเห็นจะดี และเราก็นำดวงของหลวงปู่ให้ชายผู้นั้นตรวจดูแต่เขามองดูดวงของหลวงปู่อยู่นานแล้วพูดว่า กระผมเรียนจากครูบาอาจารย์มาก็มาก แต่ไม่เคยเห็นดวงแบบนี้เลย กระผมมิกล้าทำนายหรอกครับ หลังจากท่านโหรลาหลวงปู่ แล้วเขาก็มาลาพวกเราว่า กระผมขอลาก่อนนะครับ ศิษย์ทั้งหมดจึงปรึกษากันว่า แม้แต่โหรยังไม่กล้าทำนายดวงของหลวงปู่เลย พวกเราสมควรสร้างพระยันต์ดวงของหลวงปู่เห็นจะดีเป็นแน่ ปรึกษากันอยู่สักพักก็ตกลงกันวาควรจะสร้างเหรียญด้านหน้าเป็นรูปองค์หลวงปู่ ด้านหลังเป็นดวงของท่าน ดังนั้นพวกเราทั้งหมด จึงไปกราบขออนุญาตหลวงปู่ โดยบอกท่าน พวกผมอยากจะสร้างพระเหรียญดวงหลวงปู่ เอาไว้ให้คนที่นับถือศรัทธาองค์หลวงปู่ไว้บูชาเพื่อเป็นศิริมงคล ท่านยิ้มด้วยแววตาอันเมตตาแล้วบอกว่า ข้าขออนุโมทนาบุญกับพวกแกด้วย ที่มีจิตเป็นกุศลเป็นบุญ และท่านได้มอบแผ่นจารยันต์ที่ท่านได้จารไว้ด้วยตัวของท่านเองและชนวนศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ อีกมากมายเพื่อให้พวกเรานำไปสร้างเหรียญดวงในเรื่องของเงินทุนสร้างเหรียญเราได้ช่วยกันร่วมสร้างบางคนก็บริจาค 500 บาท บางคนก็ 1,000 – 2,000 บาท แล้วแต่กำลังของแต่ละคน มีศิษย์คนหนึ่งบอกว่าที่เหลือทั้งหมดผมจะเป็นคนออกเอง ถ้าจำไม่ผิดศิษย์ผู้นั้นจะเป็นเจ้าของโรงงานอะไรสักอย่าง ที่อยู่ทางเลยบางนาไปไม่ไกลนัก

    ตั้งแต่วันนั้นผ่านไปได้ประมาณสองเดือนเห็นจะได้ ศิษย์คณะนั้นก็ได้นำเหรียญดวงที่สร้างเสร็จมาให้ท่านเมตตาปลุกเสก วันนั้นท่านอารมณ์ดีเป็นพิเศษ พอเห็นเหรียญท่านก็บอกว่าสวย เหรียญนี้ท่านชอบมาก และท่านก็ปลุกเสก แต่วันนั้นท่านปลุกเสกนานเป็นพิเศษ พอปลุกเสกเสร็จ ท่านก็คืนเหรียญทั้งหมดให้กับศิษย์คณะนั้น แต่ลูกศิษย์กราบเรียนท่านว่า พวกกระผมขอเหรียญที่เป็นเนื้อพิเศษคืนอย่างเดียวครับ ส่วนเหรียญเนื้อทองแดงทั้งหมด ขอถวายหลวงปู่ ท่านจึงอนุโมทนากับลูกศิษย์คณะนั้น วันนั้นหลวงปู่แจกเหรียญดวงให้กับศิษย์ทุกคนที่อยู่ในที่นั้นพอลูกศิษย์ลาท่านกลับกันไปหมด ท่านก็เรียกลุงแกละและป้าอิ้งให้เข้ามาใกล้ ๆ ท่าน แล้วพูดว่า ข้าจะมีงานบุญให้แกสองคน ท่านเข้าไปในห้องของท่านสักพักใหญ่พอท่านออกมา หลวงปู่ก้มอบผงให้กับคนทั้งสอง และบอกว่าให้นำเหรียญดวงไปกดพิมพ์และทำเป็นพระผงดวงมาให้ท่าน โดยท่านได้กำหนดวันเวลา ที่จะนำพระผงดวงมาให้ท่าน

    อีกหลายวันต่อมา ป้าอิ้งพร้อมทั้งลุงแกละก็นำพระผงดวงมาให้หลวงปู่ ท่านหยิบพระผงดวงดูอย่างพอใจและบอกว่าดีมากหลวงปู่บอกว่า แกทั้งสองคนคอยอนุโมทนากับข้าด้วยนะ ท่านก็เริ่มทำการปลุกเสก ป้าอิ้งบอกว่า เคยเห็นหลวงปู่ท่านปลุกเสกพระมาก็มากจนนับครั้งไม่ถ้วนแต่ไม่เคยเห็นหลวงปู่ปลุกเสกนานขนาดนี้เลย แกก็จัดว่าเป็นผู้ที่นั่งสมาธิได้นานคนหนึ่งแต่ยังต้องขยับตัวหลายครั้ง พอหลวงปู่ท่านลืมตาขึ้นท่านก็ยิ้มอย่างอารมณ์ดี ลุงแกละเห็นท่านอารมณ์ดีจึงถามท่านว่า ทำไมวันนี้หลวงปู่เสกนานจริงครับ หลวงปู่ท่านตอบว่า วันนี้เป็นวันดี วันเสาร์ห้า ขึ้นห้าค่ำ เดือนห้า ข้าเสกเต็มที่ ข้าอัญเชิญบุญบารมีขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งแสนโกฏจักรวาลมารวมเป็น พลังเหนือพลัง และอันเชิญดวงขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้ทั้งแสนโกฏจักรวาลมารวมเป็นดวงเดียวกัน เป็นดวงเหนือดวง พระผงดวงนี้ รวมทั้งเหรียญดวงนี้จะมีพุทธานุภาพมากผู้ใดนำไปบูชา ถึงเขาผู้นั้นจะดวงตก แต่พุทธานุภาพ โดยไม่มีประมาณของดวงเหนือดวง พลังเหนือพลัง ก็จะคุ้มครองให้รอดปลอดภัย จากสิ่งอัปมงคล ผี ปีศาจ คุณไสยมนต์ดำ ภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นให้หนักเป็นเบา ทุเลาเป็นหาย เหรีญและพระผงนี้เป็นเหรียญทำน้ำมนต์ของข้า แม้ผู้ใดถูกผี ปีศาจเข้าสิง ให้นำพระมาทำน้ำมนต์ ดื่มกัน ก็จะหายจากคุณไสย ภูติผี ปีศาจ และสิ่งอัปมงคลทั้งปวง แม้แต่คนที่ดวงดีนำไปบูชา ก็จะเกิดโชคดี เป็นมงคล มีเสน่ห์ เป็นที่รักใคร่ต่อคนทั้งหลาย รอดปลอดภัยจากภัยพิบัติทั้งหมดทั้งมวล หลวงปู่ท่านบอกต่ออีก ผงที่ข้าให้แกกับยายอิ้งไปทำเป็นพระผงดวงนั้นคือผงมหาจักรพรรดิ วิธีทำผงมหาจักรพรรดินั้นต้องเขียนยันต์มหาจักรพรรดิเขียนไปเสกไป พอเสร็จเป็นผงก็นำมาเสกอีกครั้ง ทำเป็นพระแล้วก็เสกอีกครั้ง ผงมหาจักรพรรดินั้นเวลาเสกต้องรวมพลังบุญบารมีทั้งหมดตั้งแต่อดีต จนถึงอนาคต อธิษฐานจิตด้วยญาณบารมีขั้นสูง พระที่สร้างด้วยผงมหาจักรพรรดิของข้าจะมีพุทธานุภาพโดยไม่มีประมาณ ท่านพูดจบก็หยิบพระผงดวงให้ลุงแกละและป้าอิ้งคนละหนึ่งองค์แล้วท่านพูดว่า ตาแกละและยายอิ้งก็ไม่มีลูกเมื่อแกสองคนแก่ หลังจากข้าตายไปแล้ว จะมีผู้ที่มีบุญมาคอยเลี้ยงดูแกสองคนไปจนตาย ป้าอิ้งเล่าให้ฟังว่าเมื่อแกได้ยินดังนั้นแกและลุงแกละก็ก้มลงกราบหลวงปู่ เพราะว่าวาจาของหลวงปู่ศักดิ์สิทธิ์ ป้าอิ้งบอกอีกว่าแกบอกกับหลวงปู่ว่าเมื่อตอนที่หลวงปู่ส่งพระดวงให้นี้ เกิดแสงสว่างไปทั่ว แกเลยตั้งจิตตามไปดูและอยากรู้ว่าแสงสว่างนั้นไปถึงไหน แต่ก็ไม่สมารถตามไปดูได้เพราะแสงสว่างนั้นไปไกล โดยประมาณไม่ได้ว่าไปสุดที่ใด หลวงปู่ยิ้มแล้วตอบว่า นั้นแหละคือ พลังเหนือพลัง

    ในบรรดาลูกศิษย์หลวงปู่ใคร ๆ ก็รู้ว่ายายอิ้งเป็นหนึ่งในจำนวนศิษย์ที่มีสมาธิละเอียดและแก่กล้าคนหนึ่งเหมือนกัน ลูกศิษย์ที่ปฏิบัติถึงขึ้นแล้วล้วนรู้ดีว่าป้าอิ้งจิตของแกดีสามาหรถกำหนดไปดูได้ทั้งนรกและสวรรคื เคยมีคนไม่น้อยที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไป บ้างก็เป็นพ่อแม่พึ่น้องตลอดไปถึงลูกหลาน ญาติที่ยังมีชีวิตบางคนก็เป็นห่วงญาติของตนที่ตายป จะไปดีหรือไปร้ายเพียงใด คนที่รู้จักหลวงปู่ดู่ แห่งวัดสะแก จะรู้ว่าท่านเป็นพระกัมมัฏฐาน คนที่เป็นห่วงญาติที่ว่ตายไปแล้วมักเดินทางไปขอความเมตตาจากหลวงปู่อยู่เสมอ ถ้ามีใครเรียนถามท่านว่าญาติของตนที่ตายไปแล้วตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง หลวงปู่ท่านก็จะหันไปทางป้าอิ้ง และบอกว่า ว่ายังไงยายอิ้ง ป้าอิ้งก็จะกำหนดจิตดูให้ เป็นที่รู้กันดีว่าลูกศิษย์ของหลวงปู่ดู่ วัดสะแก ที่เก่งแบบป้าอิ้งบางคนยังเรียกว่าเก่งกว่าป้าอิ้งยังมีอีกมากมายจนนับไม่ถ้วน ผู้เขียนต้องขอโทษได้เล่าข้ามไปตอนหนึ่ง ป้าอิ้งบอกว่าหลวงปู่ท่านได้อธิบายถึงคำว่ามหาจักรพรรดิให้ฟังว่า เจ้าแผ่นดินทุกแผ่นดินถึงจะเป็นใหญ่กว่าคนทั้งปวง แต่ก็จะเป็นได้เพียงจักรพรรดิ แต่มหาจักรพรรดิ จะเป็นใหญ่อยู่เหนือจักรพรรดิทั้งหมด ผงมหาจักรพรรดิถือว่าได้เป็นผงที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด มิฉะนั้นท่านจึงใช้ผงมหาจักรพรรดิมาสร้างเป็นพระเพราะรักและเป็นห่วงลูกศิษย์และคนทั่วไปที่ศรัทธาในองค์ท่าน หลวงปู่บอกว่า ข้ากลัวสู้เขาไม่ได้พระผงที่ข้าสร้างจึงต้องใช้ผงมหาจักรพรรดิข้าเสกและอธิษฐานจิตให้พระที่ข้าสร้างนั้นไม่เป็นรองใครในแผ่นดิน

    ป้าอิ้งยังบอกต่ออีกว่าหลวงปู่บอกว่าเหรียญและพระผงดวงนี้ อีกหน่อยจะมีค่ามาก คนที่มีบุญวาสนาเท่านั้นถึงจะได้ครอบครองหลวงปู่ท่านบอกให้ป้าอิ้งจำไว้ว่า

    วิธีใช้เหรียญดวงและพระผงดวง เหรียญดวง ให้ตั้ง นะโมสามจบ แล้วภาวนาว่า “พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ” พระผงดวง ตั้งนะโมสามจบ ภาวนาบทมหาจักรพรรดิ “นโมพุทธายะ พระพุทธะไตรรัตนญาณ มณีนพรัตน์ สีสะหัสสะสุธรรมา พุทโธ ธัมโม สังโฆ ยะธาพุทโมนะ พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา อัคคีธานัง วะรังคันธัง สีวลี จะมหาเถรัง อะหังวันทามิ ทูระโต อะหังวันทามิ ธาตุโย อะหังวันทามิ สัพพะโส พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ”

    ถ้าจะให้ได้ผลเต็มที่ต้องภาวไตรสรณคมณ์ และบทมหาจักรพรรดิตามกำลังวันทุกวัน เหรีญและพระผงดวงนี้จึงจะเกิดพุทธานุภาพโดยไม่มีประมาณ ที่เรียกว่า ดวงเหนือดวง พลังเหนือพลัง

    เหรียญและพระผงดวงนี้ เป็นพระที่หลวงปู่ท่านรักมาก ท่านเก็บไว้ในห้องของท่านและปลุกเสกเป็นเวลานาน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2525 ถึงปี 2533 รวมทั้งหมด 8 พรรษา

    หลังจากที่หลวงปู่มรณภาพไปแล้ว วาจาศักดิ์สิทธิ์ของท่านก็เป็นจริงดังที่ท่านได้กล่าเอาไว้ว่า จะมีผู้มีบุญซึ่งเคยร่วมบุญกับหลวงปู่มา ได้รับเลี้ยงดูแลลุงแกละและป้าอิ้งจนแกทั้งสองตายไป ระยะเวลาเลี้ยงดูคนทั้งสอง คือ ป้าอิ้งตั้งแต่ปี พ.ศ.2533 จนถึง พ.ศ. 2540 ส่วนลุงแกละตั้งแต่ปีพ.ศ. 2533 จนถึงพ.ศ. 2547

    ที่มา: หนังสือนะโภคทรัพย์ พ.ศ.2548

    ปล.ฆราวาสที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์ในวันที่ "ท่านโหร" มากราบหลวงปู่นั้น คือ หลวงตาม้า ผู้เป็นที่เคารพของพวกเรานั่นเอง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC00130.JPG
      DSC00130.JPG
      ขนาดไฟล์:
      57 KB
      เปิดดู:
      131
    • DSC00133.JPG
      DSC00133.JPG
      ขนาดไฟล์:
      54.2 KB
      เปิดดู:
      127
  9. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    พระที่ยังเหลือให้เช่าบูชา

    1. พระเหนือพรหม พิมพ์กลาง
    2. พระสมเด็จสามชั้น ยุคต้นๆ แช่น้ำชา
    3. พระผงกรรมฐาน พิมพ์บัวข้างสี่เหลี่ยม
    4. พระพุทธวิโมกข์
    5. พระพิมพ์สมาธิ์ใบโพธิ์ หลวงปู่ดู่วัดสะแก
    6. สมเด็จ รุ่นแรก..เนื้อผงพุทธคุณ(เนื้อโขลก)..หลวงปู่ดู่ วัดสะแก
    7. เหรียญยันต์ดวง
    8. เหรียญหลวงปู่ทวดกระโดดบาตร
    9. เหรียญปู่ใหญ่ วัดสะแก หลวงปู่ดู่ปลุกเสก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กันยายน 2009
  10. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    ติดต่อสอบถามได้ที่
    - Pm
    - เบอร์โทร 0817933946
    ชำระเงินได้ที่

    ธ.กรุงไทย สาขา ศรีย่าน

    ชื่อบัญชี นายพรราวินท์ เล้ารัตนอารีย์
    เลขที่บัญชี 012-0-14398-4<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  11. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    ผมจัดส่งยันต์ดวงเหรียญที่ 1 ให้เรียบร้อยแล้วครับ
     
  12. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    เหรียญเศรษฐี เนื้อทองแดง หลวงปู่ดู่ วัดสะแก

    เหรียญปั๊มกลมรูปเหมือนหลวงปู่ดู่ หรือที่เรียกกันติดปากว่าเหรียญเศรษฐีจัดสร้างในปี 2531 เป็นเหรียญที่ทางวัดสะแกได้จัดสร้างขึ้น โดยหลวงปู่ดู่เป็นผู้ปลุกเสก ส่วนรอยจารนั้นเป็นลายมือของหลวงลุงดำซึ่งได้รับมอบหมายจากหลวงปู่ให้จารเหรียญ โดยส่วนใหญ่แล้ววัตถุมงคลที่สร้างหลังปี 2525 หลวงลุงดำจะเป็นคนจารแทนหลวงปู่ครับ ที่มาของคำว่าเหรียญเศรษฐีนั้นมาจากสมัยที่จัดทำเหรียญนี้มีคนสั่งจองน้อย คณะกรรมการวัดจึงเรียนให้หลวงปู่ทราบ ท่านบอกว่าไม่เป็นไรแล้วให้ดำเนินการจัดสร้างไปตามปกติ หลวงปู่ยังได้ปรารภว่าต่อไปเหรียญนี้จะหายาก และจะเป็นที่ต้องการเป็นอันมาก คนที่ใช้เหรียญนี้จะร่ำรวยกันทุกคน ภายหลังเหรียญนี้จึงได้ถูกเรียกกันติดปากว่าเหรียญเศรษฐีจากคำกล่าวของหลวงปู่นั่นเอง เหรียญรุ่นนี้จัดสร้างเป็นเนื้อทองคำ 56 เหรียญ เนื้อเงิน 1,000 เหรียญ นวโลหะ 200 เหรียญ ตะกั่ว 300 เหรียญ และทองแดง 10,000 เหรียญ เหรียญเศรษฐีเหรียญนี้เป็นเหรียญที่ผ่านการสัมผัสมาบ้างผิวไฟจึงอยู่ไม่เต็ม ทว่าไม่ได้ผ่านการใช้มาสังเกตได้จากเหรียญยังไม่มีร่องรอยการสึกใดๆ องค์หลวงปู่ปั๊มมาติดชัดจมูกโด่งสวยงาม พร้อมเลี่ยมเงินแต่เดิมมาครับ (ขออนุญาติคัดลอกข้อความบางตอนจากหนังสือพรหมปัญโญเถระ คติธรรม คำสอน และวัตถุมงคล)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC00126.JPG
      DSC00126.JPG
      ขนาดไฟล์:
      38.1 KB
      เปิดดู:
      140
    • DSC00127.JPG
      DSC00127.JPG
      ขนาดไฟล์:
      36.4 KB
      เปิดดู:
      157
  13. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    เหรียญเศรษฐี เนื้อทองแดง หลวงปู่ดู่ วัดสะแก -2-

    เหรียญนี้สภาพไม่ได้ใช้ ผิวไฟยังสวยครับ พร้อมห่วงเดิมครับ
    ปิดรายการนี้ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC00130.JPG
      DSC00130.JPG
      ขนาดไฟล์:
      52.1 KB
      เปิดดู:
      173
    • DSC00133.JPG
      DSC00133.JPG
      ขนาดไฟล์:
      52.1 KB
      เปิดดู:
      206
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กันยายน 2009
  14. คงทอง

    คงทอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +103
    เหรียญยันต์ดวงพระกระโดดบาตรให้บูชาเท่าไรครับ pm มาบอกก็ได้ครับ อยากบูชามากครับ
     
  15. Puthapower

    Puthapower เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    326
    ค่าพลัง:
    +1,001
    ขอทราบค่าบูชาเหรียญยันต์ดวงองค์ที่ 2และ3 เหรียญเศรษฐีองค์ที่1และ2ทางpmครับ
     
  16. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    เหรียญเศรษฐี เนื้อทองแดง หลวงปู่ดู่ วัดสะแก -3-

    เหรียญเศรษฐี เนื้อทองแดง หลวงปู่ดู่ วัดสะแก -3-
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC00124.JPG
      DSC00124.JPG
      ขนาดไฟล์:
      38.8 KB
      เปิดดู:
      134
    • DSC00127.JPG
      DSC00127.JPG
      ขนาดไฟล์:
      36.4 KB
      เปิดดู:
      105
  17. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    ติดต่อสอบถามได้ที่
    - Pm
    - เบอร์โทร 0817933946
    ชำระเงินได้ที่

    ธ.กรุงไทย สาขา ศรีย่าน

    ชื่อบัญชี นายพรราวินท์ เล้ารัตนอารีย์
    เลขที่บัญชี 012-0-14398-4<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  18. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    พระที่ยังให้บูชา
    1. พระเหนือพรหม พิมพ์กลาง
    2. พระสมเด็จสามชั้น ยุคต้นๆ แช่น้ำชา
    3. พระผงกรรมฐาน พิมพ์บัวข้างสี่เหลี่ยม
    4. พระพุทธวิโมกข์
    5. พระพิมพ์สมาธิ์ใบโพธิ์ หลวงปู่ดู่วัดสะแก
    6. สมเด็จ รุ่นแรก..เนื้อผงพุทธคุณ(เนื้อโขลก)..หลวงปู่ดู่ วัดสะแก
    7. เหรียญยันต์ดวง
    8. เหรียญหลวงปู่ทวดกระโดดบาตร
    9. เหรียญปู่ใหญ่ วัดสะแก หลวงปู่ดู่ปลุกเสก
    10. เหรียญเศรษฐี หลวงปู่ดู่วัดสะแก
     
  19. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    ติดต่อสอบถามได้ที่
    - Pm
    - เบอร์โทร 0817933946
    ชำระเงินได้ที่
    ธ.กรุงไทย สาขา ศรีย่าน
    ชื่อบัญชี นายพรราวินท์ เล้ารัตนอารีย์
    เลขที่บัญชี 012-0-14398-4<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  20. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    เหรียญปฏิบัติธรรม หลวงปู่ดู่วัดสะแก 2524

    ท่าน น.อ.(พิเศษ) สำเภา คมสัมต์ซึ่งเป็นลูกศิษย์รุ่นแรกๆ ของหลวงปู่ดู่ ที่ท่านรักและโปรดปรานมากได้ไปอยู่ปรนนิบัติ รับใช้หลวงปู่ตั้งแค่ปี พ.ศ.๒๔๙๐ เศษ เป็นต้นมาสมัยนั้น ยังไม่มีใครรู้จักหลวงปู่ดู่กันมากนักต่อมาเมื่อประมาณปี ๒๕๑๖-๒๕๑๗น.อ.สำเภา ได้ขออนุญาตหลวงปู่สร้างเหรียญรูปเหมือนขึ้นเป็นครั้งแรกหลวงปู่ไม่ขัดข้อง ได้อนุญาตให้สร้างตามความประสงค์หลวงพ่อสวย เป็นพระบูชาขนาด ๕ นิ้วที่บรรดาลูกศิษย์สร้างให้หลวงปู่ปลุกเสก จำนวนไม่มากนักหลวงปู่ดู่เคยพูดอยู่เสมอว่า พระบูชา "หลวงพ่อสวย" นี้มีความศักดิ์สิทธิ์มาก เพราะเกิดมาจากความตั้งใจเป็นพิเศษของหลวงปู่มาก่อนและท่านได้ปลุกเสกให้เป็นพิเศษจริงๆ
    น.อ.สำเภา ได้นำชนวนของพระบูชา "หลวงพ่อสวย" มาจำนวนหนึ่งผสมกับทองแดงบริสุทธิ์ แล้วรีดเป็นแผ่นบางๆลงอักขระเลขยันต์เฉพาะตัวท่านทั้งหมด ๘๔,๐๐๐ พระยันต์ เท่ากับพระธรรมขันธ์หลังจากนั้น หลวงปู่ดู่ได้ปลุกเสกแผ่นยันต์ทั้งหมดนี้เป็นเวลา ๗ ปี น.อ.สำเภา ได้นำแผ่นยันต์ทั้งหมดไปหลอมอีกครั้ง แล้วรีดเป็นแผ่นสำหรับปั๊มเป็น เหรียญรูปเหมือนหลวงปู่ดู่ ได้จำนวน ๑๘,๐๐๐ เหรียญ เท่าที่จำนวนเนื้อโลหะชนวนที่มีอยู่ จากนั้น นำเหรียญทั้งหมดไปถวายหลวงปู่ดู่ปลุกเสก พอครบ ๑ ไตรมาศ ช่วงออกพรรษาปี ๒๕๒๔ หลวงปู่ดู่ได้นำเหรียญนี้ออกแจกแก่ผู้ที่ร่วมบริจาคทุนสร้างเหรียญจำนวนหนึ่งไม่มากนัก ที่เหลือนอกนั้น ได้เอาไว้ในกุฏิหลวงปู่ตลอดมา ตั้งแต่ปี ๒๕๒๔ จนถึงปี ๒๕๓๓ เป็นเวลานานถึง ๙ ปีนับเป็นเหรียญที่หลวงปู่ดู่เสกให้นานที่สุด ถ้าหากนับรวมตอนปลุกเสกโลหะชนวนอีก ๗ ปี จะเท่ากับปลุกเสกนานถึง ๑๖ ปีพอหลวงปู่มรณภาพลง คณะกรรมการวัดได้เอาเหรียญรุ่นปฏิบัติธรรม ๒๕๒๔ ออกมาจำหน่ายเหรียญละ ๑๐๐ บาท ปรากฎว่าไม่ถึง ๕ วัน เหรียญก็จำหน่ายหมด ปัจจุบัน เหรียญหลวงปู่ดู่ที่จำหน่ายอยู่ที่วัดสะแก ราคาสูงกว่าแต่ก่อนมาก ทางวัดคงมีเหตุผล ถ้าไม่มีแรงบูชาเพราะว่าแพง นึกถึงท่านก็พอเหรียญรุ่นนี้ หลวงพ่อสายหยุด เคยบอกกับผมเองว่า ได้ใส่ชนวนแผ่นโลหะ เป็นพระยันต์ 80 ยันต์จำนวนยันต์ละ 108 แผ่น (หรือ108 ยันต์ ยันต์ละ 80 แผ่น จำไม่ค่อยได้แล้วครับ) นำมาหลอมรวมก่อนรีดเป็นแผ่น แต่ปรากฎว่า ชนวนยันต์ไม่ละลาย จึงต้องจุดธูปบอกกล่าวหลวงปู่ดู่มาจาก โรงงาน ทันที่เมื่อจุดธูปบอกกล่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...