วัวธนูรุ่นแรก หลวงปู่เท อายุ 102 ปี วัดยี่งอ จ.นราธิวาส ประสบการณ์แรง น.94

ประวัติความเป็นมาของการสร้างตะกรุดสุดขลังของหลวงพ่อโม
ถ้าท่านผู้อ่านได้มีโอกาสไปเที่ยวที่ตำบลห้วยกรด อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท ผู้เขียนก็อยากให้ท่านลองสอบถามถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านที่นั่นเขานับถือดูว่าคืออะไร รับรองได้ว่าชาวบ้านในตำบลนั้นแทบทุกคนจะต้องตอบว่าหลวงพ่อโม แล้วหากท่านลองถามต่อว่า วัตถุมงคลอะไรของหลวงพ่อโมที่มีประสบการณ์มากที่สุดจนหลายคนที่ไม่มีอยากครอบครอง ท่านก็จะได้รับคำตอบว่าตะกรุด เพราะตะกรุดของหลวงพ่อโมนั้นมีประสบการณ์มากมายเหลือคณานับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องปาฏิหาริย์ แคล้วคลาด มหาอุดคงกระพัน มีครบทุกทาง เล่าให้ฟังกันทั้งวันทั้งคืนก็ไม่หมด จนหลายคนสงสัยและเกิดคำถามขึ้นมาว่า ตะกรุดของหลวงพ่อโมนั้นมีประวัติความเป็นมาในการสร้างขึ้นอย่างไร? และหลวงพ่อโมท่านลงตะกรุดด้วยยันต์อะไรจึงมีประสบการณ์มากมายเช่นนี้

<a href="http://www.mx7.com/view2/yt6YjGr8ISoUFbKT" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/c93/d8Ov3E.jpg" /></a>

 

หลวงพ่อโมท่านเริ่มสร้างตะกรุดขึ้นรุ่นแรกขึ้นเพื่อตอบแทนให้กับผู้ร่วมทำบุญสร้างศาลา วัดจันทนาราม ดอกละ ๓๐-๕๐ บาท โดยท่านใช้ทองเหลืองจากฝาบาตร ขนาดยาว ๕ นิ้วกว่า และก้นตะลุ่มขนาดยาว ๗ นิ้ว มาเป็นวัสดุทำ โดยมีตาเข่ง ตาเมือง ตาส่วน ตาถึก เป็นคนช่วยกันเขียน โดยโยมเข่งเป็นคนที่เขียนมากที่สุด และทั้งหมด ๔ คนก็ช่วยกันม้วน แต่ม้วนยากมาก เสร็จแล้วหลวงพ่อโมจึงปลุกเสก ตะกรุดรุ่นนี้ทำออกมารวมกันไม่เกิน ๕๐๐ ดอก ต่อมามีลูกศิษย์จากอำเภอเมือง จังหวัดชัยนาทมาเห็น ก็เลยบอกหลวงพ่อว่าในอำเภอเมืองมีทองแดงแผ่นขาย ดูจะม้วนง่ายกว่า หลวงพ่อเลยให้ลูกศิษย์ไปซื้อมาลองทำดู ปรากฏว่าทองแดงแผ่นหนึ่ง ตัดทำตะกรุดได้ ๘ ดอก ขนาดยาว ๗ นิ้ว ม้วน ๕รอบ พอหลวงพ่อจะสร้างโบสถ์จึงได้สร้างตะกรุดทองแดงขึ้นหลายครั้ง จำนวนรวมหลายพันดอก ออกให้บูชาดอกละ ๘๐-๑๐๐ บาท เมื่อหลวงพ่อโมถึงแก่มรณภาพ นายถนอม ชัยฉาย เป็นครูโรงเรียนศรีประสิทธิ์วิทยา เป็นเลขาทำบัญชีให้หลวงพ่อโม เป็นผู้เก็บตะกรุด ๗ นิ้วไว้หนึ่งลัง พอหลวงพ่อโมตายก็เอาออกมาให้สาธุชนทำบุญ

 

หลังจากที่มีผู้ได้รับตะกรุดของหลวงพ่อโมไปบูชากันอย่างมากมาย ก็เกิดประสบการณ์ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆนาๆ ตามที่ท่านได้อ่านในบทความพิเศษเรื่อง ประสบการณ์ตะกรุดหลวงพ่อโม ไปแล้วนั้น ก็มีบรรดาเกจิอาจารย์ในยุคต่อมาเริ่มสืบค้นหาที่ไปที่มาว่าหลวงพ่อโมท่านลงยันต์อะไรไว้ในตะกรุด ในที่สุดจึงรู้ว่าหลวงพ่อโมท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่ฉลาดปราดเปรื่อง โดยท่านสามารถเลือกยันต์ได้เหมาะกับตัวท่านมาก เพราะท่านเลือกยันต์บารมี ๓๐ ทัศ ซึ่งจะต้องลงอักขระไปตามคาถาบารมี ๓๐ ทัศ ที่ว่า “ อิติปาระมิตาตึงสา อิติสัพพัญญุมาคะตา อิติโพธิมะนุปปัตโต อิติปิโสจะเตนะโม ” ซึ่งเป็นพระคาถาชั้นสูงที่ทรงความศักดิ์สิทธิ์มาก (ตะกรุดดังของทุกสำนักต้องใช้อักขระคาถานี้ประกอบทั้งสิ้น

 

คาถาบารมี ๓๐ ทัศ ลงเป็นตาหมากรุกไปจนครบ ๓๒ ตัว ในตารางยันต์แบบ ๓๒ ช่อง ๕ ยอด โดยตัวยอดสุดจะต้องลงด้วยคำว่า “ โม” ซึ่งเป็นชื่อของท่าน มากไปกว่านั้นถ้าหากเราเพิ่มตาราง ๕ ช่องขึ้นไปหนึ่งชั้น เพื่อลง อักขระคาถาพระเจ้า ๕ พระองค์คือ “ นะโมพุทธายะ ” ด้วยแล้ว ยันต์นี้จะกลายเป็น “ ยันต์เพชรหลีก ” ทันที เกจิอาจารย์ที่ค้นคว้าทุกท่านจึงไม่แปลกใจในอานุภาพแห่งยันต์บารมี ๓๐ ทัศแบบของหลวงพ่อโมเลยแม้แต่น้อย

 

ที่น่าทึ่งยิ่งกว่านั้นคือตะกรุดบารมี ๓๐ ทัศนี้ ท่านไม่ได้ลงเอง แต่ได้ครอบครูให้ตาเข่ง เป็นผู้ลงเกือบทั้งหมด แล้วท่านก็ทำการปลุกเสก เมื่อตาเข่งเสียชีวิตลง วิชาบารมี ๓๐ ทัศนี้ ได้ถ่ายทอดสู่หลวงปู่สุวรรณ์ กล้อยกลิ้ง ผู้เป็นบุตรชายในสายเลือดของตาเข่ง และเป็นบุตรบุญธรรมของหลวงพ่อโม โดยตาเข่งได้ยกหลวงปู่สุวรรณ์ให้ไปเป็นบุตรบุญธรรมคอยดูแลอุปัฏฐากรับใช้หลวงพ่อโมตั้งแต่อายุ ๗ ขวบ ปัจจุบันหลวงปู่สุวรรณ์ กล้อยกลิ้งอายุ ๘๒ ปี จำพรรษาอยู่ที่วัดฝาง ตำบลชัยนาท อำเภอเมือง จังหวัดชัยนาท ได้สืบทอดการทำตะกรุดบารมี ๓๐ ทัศต่อจากโยมเข่ง โดยทำการถักเชือกลงรักแท้ๆให้ด้วย

 

<a href="http://www.mx7.com/view2/yt7qBJfDNkFNYI8s" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/4a1/u4Zw01.jpg" /></a>

ตะกรุดบารมี ๓๐ ทัศ หลวงปู่สุวรรณ์ วัดฝาง ดอกละ 500 บาท

 

และท่านได้ปลุกเสกเองจนพอใจ แล้วตัวท่านเองซึ่งได้รับอาราธนาให้ไปนั่งปรกในพิธีมหาพุทธาภิเษก ณ วัดปากคลองมะขามเฒ่า จังหวัดชัยนาท ก็ได้นำตะกรุดนี้ไปอัญเชิญบารมีของหลวงปู่ศุข องค์ปฐมบรมครูลงประสิทธิหนึ่งวาระ

<a href="http://www.mx7.com/view2/yt7qSofH7OsLzSmt" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/9c0/v4RpNa.jpg" /></a>


ณ วัดปากคลองมะขามเฒ่า

 

และอัญเชิญหลวงพ่อโมลงประสิทธิในพิธีพุทธาภิเษกที่วัดจันทนารามเป็นวาระปิดท้าย และในพิธีอัญเชิญหลวงพ่อโมประสิทธินี้เอง ได้มีเหตุการณ์ต่างๆที่บ่งชัดได้ว่าหลวงพ่อโมท่านรับรู้และลงประสิทธิตะกรุดนี้ให้เหมือนดังที่ท่านยังมีชีวิตอยู่มาเสกเอง

<a href="http://www.mx7.com/view2/yt8hpQUwMQIXMPk6" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/da7/K8nuAZ.jpg" /></a>

 

เมื่อวานได้รับ จระเข้ขบทรัพย์ จำนวน 5 ตัว ขอบคุณครับ

 

ยินดีคะ

 

ยินดีคะ

 

มีประคำหลวงปู่ทัศน์วัดวังดอกไม้ และประคำหลวงปู่นาค วัดหนองพันเรือไหมครับ

 

มีคะ

 

<a href="http://www.mx7.com/view2/yDCPPixmTHpRcwZR" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/97f/yyjAAJ.jpg" /></a>

 

หลังจากที่จระเข้ขบทรัพย์ขนาดพกพารุ่นแรกจำนวน ๕๐๐ ตัวถูกจองหมดลงอย่างรวดเร็ว เป็นเหตุให้ผู้ที่เดินทางมาจองกับหลวงปู่นาหลายคนต้องพลาดหวัง จึงขอร้องให้หลวงปู่ท่านสร้างจระเข้ขบทรัพย์เพิ่มขึ้นอีก แต่หลวงปู่ท่านตอบว่าเพิ่งสร้างไปเอง ขณะนั้นมีผู้ที่ศรัทธาคนหนึ่งหัวดี บอกกับหลวงปู่ว่า ถ้าหลวงปู่ไม่อยากสร้างจระเข้ขบทรัพย์แบบคราวที่ผ่านมาอีก (ขนาดพกพา) ก็ขอให้หลวงปู่สร้างจระเข้ขบทรัพย์ขนาดบูชาให้หน่อยได้ไหม

 

เพราะเขาเคยเห็นเพื่อนของเขาคนหนึ่งบูชาจระเข้เนื้อหินพระธาตุเขาสามร้อยยอดยาว (หุบปาก) ขนาด ๗ นิ้ว แล้วเกิดประสบการณ์ทางเฝ้าทรัพย์ เนื่องจากเพื่อนของเขาเป็นคหบดีใหญ่รายหนึ่งของชุมชน เลยถูกพวกขี้ยาแอบปีนเข้ามาลักขโมยของตอนที่ไม่มีใครอยู่ในบ้าน แต่ไม่สามารถเอาอะไรไปได้เลย ภายหลังพวกขี้ยาไปร่ำลือกันว่าบ้านนี้เลี้ยงจระเข้ตัวใหญ่เอาไว้ ดุมาก ทั้งๆที่ในบ้านของเพื่อนเขามีเพียงจระเข้ เนื้อหินพระธาตุสามร้อยยอดที่ไมได้ปลุกเสกอะไรตั้งบูชาอยู่ที่หิ้งพระเท่านั้น

 

จากเหตุการณ์ดังกล่าวจึงทำให้เพื่อนของเขาเชื่อมั่นว่าเป็นเพราะอานุภาพของดวงวิญญาณต่างๆที่ปกปักษ์รักษาหินพระธาตุสามร้อยอดอันศักดิ์สิทธิ์นี้ ได้แสดงตนเป็นจระเข้ขับไล่พวกขี้ยาหัวขโมยออกไป เนื่องจากดวงวิญญาณเหล่านี้คงเป็นวิญญาณของทวดจระเข้ซึ่งมีอยู่มากมายเต็มที่ลุ่มชุ่มน้ำของหุบเขาสามร้อยยอดในอดีต (เรื่องนี้ตรงกับผู้เขียนได้ฟังจากคำบอกเล่าของลุงจรลูกศิษย์ของหลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว ที่อพยพตามพ่อจากอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ มาบุกเบิกเลี้ยงปลาสลิดในหุบเขาสามร้อยยอดเมื่อ ๕๐ ปีก่อน ว่าบริเวณนี้เป็นที่ราบลุ่มชุ่มน้ำ มีหนองน้ำตื้นๆอยู่ทั่วไปเป็นบริเวณกว้าง ชุกชุมไปด้วยปลาและจระเข้)

 

เมื่อหลวงปู่นาได้ฟังเรื่องราวที่ผู้ศรัทธาหัวดีคนนี้นำเสนอแล้วก็เห็นดีด้วย จึงให้ลูกศิษย์ไปเสาะหาหินพระธาตุจากเขาสามร้อยยอดมาให้ช่างแกะเป็นจระเข้ขบทรัพย์ (อ้าปาก) ขนาดบูชารุ่นแรกขึ้นจำนวน ๑๐๘ ตัว โดยหลวงปู่นาสร้างตามตำรับที่ได้รับการถ่ายทอดจากหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ผ่านหลวงปู่พวง วัดไผ่ท่าโพใต้ ผู้เป็นพระอาจารย์ของท่านมาทุกประการอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เพราะแม้กระทั่งช่างผู้แกะจระเข้นั้น หลวงปู่ยังต้องทำการประสะชำระอัปมงคลและลงอักขระหัวใจพระเจ้าสิบชาติที่เล็บมือทั้งสิบก่อนให้ทำการแกะภายในฤกษ์ยามที่กำหนด จึงนับได้ว่าวิชาจระเข้ของหลวงปู่นานั้นเป็นของแท้ ของจริง และเป็นหนึ่งเดียวที่มีอยู่แบบครบถ้วนที่สุดในยุคปัจจุบัน ซึ่งไม่แปลกตรงไหนหากว่าต่อไปจระเข้ของหลวงปู่นา วัดไผ่ท่าโพใต้ จะโด่งดังเป็นอมตะนิรันดร์กาล เฉกเช่นเดียวกับ ลิงหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว เสือหลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน หรือ เต่าหลวงพ่อหลิว วัดไร่แตงทอง ถ้าใครไม่เช่าจระเข้ขบทรัพย์รุ่นแรกเอาไว้ก็คงพลาดทรัพย์ก้อนใหญ่ไปโดยไม่รู้ตัวอย่างแน่นอน

 

เมื่อหลวงปู่นาได้ฟังเรื่องราวที่ผู้ศรัทธาหัวดีคนนี้นำเสนอแล้วก็เห็นดีด้วย จึงให้ลูกศิษย์ไปเสาะหาหินพระธาตุจากเขาสามร้อยยอดมาให้ช่างแกะเป็นจระเข้ขบทรัพย์ (อ้าปาก) ขนาดบูชารุ่นแรกขึ้นจำนวน ๑๐๘ ตัว โดยหลวงปู่นาสร้างตามตำรับที่ได้รับการถ่ายทอดจากหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ผ่านหลวงปู่พวง วัดไผ่ท่าโพใต้ ผู้เป็นพระอาจารย์ของท่านมาทุกประการอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เพราะแม้กระทั่งช่างผู้แกะจระเข้นั้น หลวงปู่ยังต้องทำการประสะชำระอัปมงคลและลงอักขระหัวใจพระเจ้าสิบชาติที่เล็บมือทั้งสิบก่อนให้ทำการแกะภายในฤกษ์ยามที่กำหนด จึงนับได้ว่าวิชาจระเข้ของหลวงปู่นานั้นเป็นของแท้ ของจริง และเป็นหนึ่งเดียวที่มีอยู่แบบครบถ้วนที่สุดในยุคปัจจุบัน ซึ่งไม่แปลกตรงไหนหากว่าต่อไปจระเข้ของหลวงปู่นา วัดไผ่ท่าโพใต้ จะโด่งดังเป็นอมตะนิรันดร์กาล เฉกเช่นเดียวกับ ลิงหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว เสือหลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน หรือ เต่าหลวงพ่อหลิว วัดไร่แตงทอง ถ้าใครไม่เช่าจระเข้ขบทรัพย์รุ่นแรกเอาไว้ก็คงพลาดทรัพย์ก้อนใหญ่ไปโดยไม่รู้ตัวอย่างแน่นอน

 

จระเข้ขบทรัพย์ขนาดบูชารุ่นแรก (มีโค๊ดและหมายเลขกำกับทุกตัว) ทำการเปิดจองตัวละ ๑,๕๐๐ บาท (หลังจองบูชา ๒,๔๙๙ บาท) จองได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนถึงวันที่ ๒ พ.ย.๒๕๕๘ และรับจระเข้ขบทรัพย์ขนาดบูชานี้ได้ตั้งแต่วันที่ ๒๕ พ.ย.เป็นต้นไป ดังนั้นผู้อ่านท่านใดที่พลาดจากการเช่าบูชาจระเข้ขบทรัพย์ขนาดพกพาคราวที่แล้ว ก็ยังมีจระเข้ขบทรัพย์ขนาดบูชาคราวนี้มาทดแทนแถมยังจะขลังกว่าด้วยซ้ำไป เพราะหลวงปู่ท่านเล่าวิธีบูชาให้ฟังว่า ให้นำธนบัตร (มากเท่าไรก็ได้ตามที่พอใจ) พับใส่ปากจระเข้ ให้ขบไว้ จากนั้นก็นำจระเข้ใส่พานขึ้นตั้งไว้ บูชาด้วยเครื่องหอม พร้อมว่าคาถาปลุกในใบฝอยซึ่งได้ให้ไป ทุกๆเช้า คนทำงานจะมีโชคมีลาภไม่ขาด คนค้าขายจะมีลูกค้ามาซื้อสินค้าไม่หยุด ซื้อง่ายขายคล่อง เป็นเศรษฐีในไม่ช้า