วิธีสกัดกิเลส สกัดด้วยสติรู้ขันธ์ 5ได้ไหมฮับ

+++ ไม่ไหวละมั้ง "ลัทธิโพธิสัตว์" ที่ไม่ได้มาจาก "โพธิธรรม" มันก็ย่อม "มั่ว" อย่างนี้แหละ
+++ โลกสวย เป็น "กิเลสลวงตา" โกหกโป้ปดตนเอง ให้วิปลาสผิดเพี้ยนไปจาก "ความเป็นจริง"

+++ ให้รีบ ๆ ละ "ลัทธิโพธิสัตว์" ที่ไม่ได้มาจาก "โพธิธรรม" โดยด่วน
+++ คุณ kenny2 คงรู้จัก "นรกนางงาม" ดีอยู่นะ นั่นแหละ "ลัทธิโพธิสัตว์" ที่ไม่ได้มาจาก "โพธิธรรม"

+++ โพธิปักขิยธรรม นั่นแหละ คือ การเดินทางสู่ "โพธิธรรม/โพธิญาณ"

+++ หากคุณ kenny2 ยังให้ความ เลื่อมใส ใน "ลัทธิโพธิสัตว์" ที่ไม่ได้มาจาก "โพธิธรรม" นี้แล้ว

+++ ก็ให้ลอง "แกะรอยจิต นางงาม (เดินจิต)" ว่า ณ ขณะเป็นนางงาม "มีศรัทธา ความเชื่อ งมงาย เลื่อมใส" ต่อ ความสวยงาม อย่างไร
+++ เชื่อว่า "ดี ได้อารมณ์ที่ดี มีความสุข มีความฟุ้งที่ดี สง่างามท่ามกลางเวที โลกสวยไปหมด"

+++ แต่แล้ว เมื่อตายจากไป "ใยจึงมาเกิดใน นรกนางงาม ได้"
+++ แบบเดียวกับ "นรกละคร (ตาลปุตตสูตร)" ให้หาอ่านเอาเองนะ

+++ โพธิสัตว์ ของจริง ย่อมมาจาก "โพธิ (ธรรม)" เท่านั้น ให้ดูจาก "ความประพฤติ 37 ประการ" เท่านั้น
+++ นอกนั้น เป็น "นรก โลกสวย" ไม่ใช่ โพธิสัตว์ นะครับ

 

+++ อีกประการหนึ่ง "พุทธวาจา" นั้นให้ความ "เชื่อถือได้"
+++ แต่ให้ระวัง "ตุ๊ดวาจา" ให้มาก มันมาทำ "ลับ ๆ ล่อ ๆ" แถวนี้อีกแล้ว
+++ ระวัง "การปลอมแปลง" จากไอ้พวก "ปาราชิก โดย ไม่ต้องบวช" ให้ดี ๆ ก็แล้วกันนะ

 

55 การอวดอุตริและอาบัติปราชิกเนี่ยหน่ะ
เป็นเรื่องนิดหน่อย
ฮี่ธ่อความเชื่อแบบนี้
เอาไว้ไปค้ำยันเณรคำ ถ้าจะได้กุศลแรง

 

ขอบพระคุณที่กรุณาสั่งสอนครับ

 

ผมปาวารณาตั้งจิตอฐิษฐานไว้ว่าจะเป็นพระบรมศาสดาในอนาคตกาลอันยาวไกล ณ ปัจจุบัน ก็คงไม่ใช่นิยตะเพราะมีหลายอย่างที่ยังไม่รู้ แต่บางทีก็แปลกๆ บางครั้งก็รู้ถ้าตั้งใจอยากรู้ แต่บางครั้งก็ไม่อยากรู้หรือไม่ตั้งสติรู้ แวปแรกส่วนใหญ่สงสาร สังเวช ตอนนี้รู้สึกสงสารตัวเองมากกว่า ยอมรับว่ายากจริงๆ ในสิ่งที่พี่สอน ผมเข้ากับลัทธิใดไม่ได้ ไม่ว่าจะยังไงมันจะย้อนกลับมาที่เดิม คือ ตามที่พระบรมศาสดาพระสมณเจ้าทรงตรัสไว้ ผมชอบฟังและเรียนรู้มากกว่า แม้จะผิดนับครั้งไม่ถ้วน ก็ยังรู้สึกว่ายังไม่ได้คำตอบ ตามที่พี่พูดถูกอยู่คับ ยาวไกลและพบเจอแน่นอน ไม่อาจหลีกได้

 

แป่ว
มาถึงก็โยง ไปนู่น เรื่องสึกพระ

ไหนบอกให้ละตัวตนขันธ์5
โหลยโท่ย

จะตายฮาอยู่แล้ว
สมองยังมีแต่เรื่องสึกพระอีก
ปิดวาจาบำเบ็ญตบะแบบเดิมนั่นละดี แว้ว
แม้วเอ้ยย

 

มันไม่นิดหน่อยหรอก

 

ละขัน 5 ใครเค้าละโชวํกันล่ะนังแถ
เอ๊ย... เค้าละเพื่อไว้ด่าได้โดย
ไม่ต้องรักษาฟอร์มตังหากอิฮาจิก555

 

มรณัง ความตายๆ
เอกังสิกัง เป็นไปโดยส่วนเดียว ...

เดี๋ยวก็ตายกันแว้ว
เอาเวลาไปสวดมนต์ไหว้พระ
ดีกว่า

ตัวใครตัวมันเด้อ

 

+++ ให้เข้าใจไว้ก่อนว่า ความปรารถนาที่จะเป็น พระพุทธเจ้า นั้น เป็น "สัมมา ไม่ใช่ มิจฉา"
+++ สัมมาสัมพุทธะ ย่อมปรารถนาใน "โพธิ (ญาณ)" อันเป็น "โพธิสัตว์ (ที่นำพาสรรพสัตว์ เข้าสู่โพธิธรรม)"
+++ บุคคลที่จะเป็น "สัมมา หรือ มิจฉา" นั้น ให้ดูได้ที่ "หลักที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ นั่นคือ โพธิปักขิยธรรม 37 ประการ"

+++ ผู้ที่ "ประกาศตัวว่าเป็น โพธิสัตว์" ไม่ว่า "ในห้องใดก็ตาม เวปใดก็ตาม"
+++ หากไม่เคยปรากฏร่องรอย ว่าอยู่ใน "โพธิปักขิยธรรม" มาเลย
+++ ก็ระบุได้ว่าเป็น "โคตรสัตว์ จอมปลอม" หลอกลวงตนเอง และ ผู้อื่น

+++ ให้ "ชัดเจน" ไว้อย่างหนึ่งว่า "โพธิธรรม นั้น แยกแตกต่างออกมาจาก นิรวาณ"
+++ ซึ่งสภาวะธรรมทั้ง 2 ประการนี้ "มีอยู่จริง" ทั้งคู่ ทุกอย่างเหมือนกับ "ตามคัมภีร์ที่แปลมา"
+++ ทั้ง 2 ประการนี้ เป็น สภาวะที่พ้นจากความ "เกิด แก่ เจ็บ ตาย และ ไร้ทุกข์" ทั้งคู่
+++ ต่างกันตรงที่ "นิรวาณ ไม่มีอาการของ แดนเกษม" เป็นอาการ "ไม่มีอะไรเหลือเลย"
+++ และมีอาการ "โดดเดี่ยว อ้างว้าง ที่อยู่ได้ เป็น นิรันตร์กาล ไร้ตน ไร้สิ่งถูกรู้ทุกชนิด"
+++ ผู้ที่เดินจิตเข้าถึง "นิรวาณ" นี้ จะ รู้ ได้ด้วยตนทันที่ว่า "ใช่" แต่ "ไม่ใช่" สภาวะที่ต้องการ

+++ ให้ "ชัดเจน" ด้วยตนเองว่า "โพธิธรรม นั้นเป็น แดนเกษมแห่งนิพพาน ไม่หลงเข้าสู่ นิรวาณ"
+++ ให้ "ชัดเจน" ด้วยตนเองว่า "ทั้ง 2 สภาวะนั้น เหมือนกันในรูปแบบ แต่ ต่างในเนื้อหา โดยสิ้นเชิง"

+++ ตรงนี้ฝากให้คุณ kenny2 ไว้เป็น "ข้อเตือนใจ" ในภายภาคหน้า
+++ หากปรารถนา "โพธิสัตว์ ก็ให้เดินตาม โพธิธรรม" เพียงประการเดียว เท่านั้น
+++ โพธิธรรม นั้น ขึ้นต้นที่ "สัมมัปปธาน 4" ซึ่ง ตามคำแปล เป็นเรื่องหนึ่ง

+++ แต่สำหรับ ภาคปฏิบัติ มีวิธี ดังนี้
+++ 1. สังวรปธาน คือ อินทรีย์สังวร "ระงับ จิตส่งออก"
+++ 2. ปหานปธาน คือ "ตัดจิตที่ ส่งออกแล้ว ทิ้งไป"
+++ 3. ภาวนาปธาน คือ "ให้อยู่กับอาการ รู้ ณ ขณะที่ จิตไม่กำเริบ"
+++ 4. อนุรักขนาปธาน คือ "ให้รักษาอาการ "รู้" โดย จิตไม่กำเริบ"

+++ หากคุณ kenny2 "ทำได้จริง" ก็จะ "รู้" ได้เองว่า
+++ อาการนี้ คือ "เนกขัมมะบารมี สัมปันโนอิติปิโสภควา" ตัวจริง
+++ และนี่คือ อาการ "ปิดวาจา (หยุด/ระงับ ตุ๊ดพูดมาก)" ตามความเป็นจริง
+++ หนทาง หมื่นลี้ เริ่มต้นนับกันที่ "ก้าวแรกที่เดินทาง" เท่านั้น นะครับ

 

ผมไม่กล้าคิดอะไรที่เป็นบาปมากไปกว่านี้ และรู้อยู่แก่ใจว่าพี่อยู่สถานะไหน จึงยอมรับทุกประการที่พี่สอนสั่ง ทั้ง37 ทั้ง 30 ยังไงก็ต้องทำ ผมไม่มีอะไรจะเอ่ย ขอบพระคุณพี่มากคับ

 

แต่ผมเคารพสักการะพระอริยะบุคคลตั้งแต่เบื้องต้นจนถึงเบื้องสูงเสมอ และไม่มีข้อแม้อะไร เรื่องนั้นผมไม่ตอกย้ำเพราะรู้ว่ากรรม แค่เอาใจช่วยว่าถ้าต้องการทำอะไรที่สมควรก็ทำให้ถูกต้อง ยอมรับว่าได้มาจากใคร ตัวผมเองไม่เคยสนับสนุน แต่ให้โอกาสได้ทำ ถ้าทำแล้วตัวเองพ้นก็อนุโมทนา ถ้าไม่ก็เป็นสิ่งที่ไม่อาจช่วยได้

 

ขออนุญาตนะครับ ตามไปค้นๆดู พบว่า คำว่า นิรฺวาณ นี้เป็นภาษาสันสกฤตครับ ถ้าบาลีจะใช้ว่า นิพฺพาน แต่มีความหมายเดียวกันคือ ความดับไม่มีเหลือ อันนี้พูดถึงว่า บาลีใช้คำหนึ่ง สันสกฤตใช้อีกคำหนึ่ง แต่ความหมายคืออย่างเดียวกัน อันนี้ว่าโดยคำศัพท์

 

ส่วนเวลานั้นผมพึ่งเริ่ม คงไม่ต้องกังวล จมหัวล่มหัวคงไม่แปลกคับ

 

ทีนี้ส่วนสภาวะ นิพฺพาน นี้ ถ้าในความเห็นส่วนตัวมองไปที่ ความเป็นอสังขตธรรม อสังขตธรรม ท่านแปลว่าไม่มีสิ่งปรุงแต่งให้เกิดขึ้น แต่ตรงนี้จะอาศัยเพียงการทำความเข้าใจเห็นว่ามีโอกาสคลาดเคลื่อนได้ง่าย ฟังๆมาคำสอนทางมหายานท่านมักอิงตรงนี้ได้ชัดเจน แต่จริงๆทางเถรวาทก็ไม่ได้หนีไปจากตรงนี้เลย เพราะการเข้าถึงอสังขตธรรมเป็นปัญญาที่ทำให้เห็นแจ้งในความเป็นจริงได้อย่างชัดเจน เหมือนการได้รู้จักกับมาตรฐานที่แท้จริงนั่นเองครับ

 

ผมไม่มีนิพพาน

 

#ธธธธธ

 

ไปเล่นตรงโน้นนน... ไปไกลๆเลย ไปเลย

 

เมื่อ นิวรณ์ ตกนรก

ท่านยม : นิวรณ์ ก่อนตายมาจากเวปไหน
นิวรณ์ : เวปพลังจิต พระเจ้าค่า
ท่านยม : งั้นขึ้นสวรรค์ได้
นิวรณ์ : ทำไมละ พระเจ้าค่า
ท่านยม : โดนด่ามาเยอะแล้ว

 

นางถนัดสร้างสร้างเรื่องล่อเป้าให้คนด่า
โดนด่าแล้วมีความสุข เอนเทอร์เทนคนอ่าน
ไปในตัว
ดังนั้น เอกกวีขาจอนนิวรณ์เล่าปังยังเป็นที่ต้องการ
ของตลาดธรรมะซาเล้งฮับ 555