หลวงพ่อสุด วัดกาหลง

โพสเสร็จพึ่งสังเกต ว่าคืนนี้ มี พี่น้อง ออนพร้อมกันเยอะ ผิดปกติ(สำหรับกระทู้นี้) นี่จะรวมตัวทำอะไรกันนี่!!!


555 รูปไม่ขึ้นซะงั้น

 

-นี่แหละครับคำ คำนี้ คุณเปิดโลกทุกวันนี้กระผมก็ยังหาอยู่ ครูบาอาจารย์ท่านบอกว่าปฏิบัติไปเมื่อปฏิบัติถึงเมื่อไหร่คำตอบจะมาเองอธิบายอย่างไรเธอก็ไม่เข้าใจดอก...
-อีกอย่างหนึ่ง คือ "นักปฏิบัติอย่าส่งจิตออกนอก" เรียกได้ว่าให้เราอยู่ในคำภาวนาอย่างเดียว ไม่ให้จิตไปสนใจอะไรภายนอกเลย ทุกอริยาบท ไม่ว่าจะ ยืน เดิน นั่ง นอน ทำงานอะไรที่ไม่ได้ใช้สมอง ให้ภาวนาอย่างเดียว ครับ(กระผมก็พยายามทำครับ แต่บางครั้งก็เผลอ ...บ่อยเสียด้วย เอ้า..ทำต่อไปดีกว่าไม่ทำ ฮิ...ฮิ...)
-วันนี้ทั้งค้นและคว้าก็ไปได้พบลูกศิษย์หลวงพ่ออีกองค์ครับ มาตามอ่านกันครับ ขออภัยพยายามอัพโหลดหลายครั้งรูปไม่ขึ้นขอติดไว้ก่อนน่ะครับ......

 

สวัสดีตอนดึกครับทุกท่าน

 

สวัสดีคร๊าบบ คุณอาๆและพี่ๆ ทุกๆ คน....
...กลับมารายงานตัวแล้วพร้อมเน็ตคุณภาพเต่า(ยังดีกว่าไม่มี) 555+
...กลับมาเก็บข้อมูลเหมือนเคย ทั้งคุณอาอัสนี คุณอาเปิดโลก คุณอานายก พี่สกอร์ พี่ Rang ยังเข้มข้นเหนียวแน่นกันเหมือนเคย
...แถบเมืองชลมีที่ไหน แนะนำบ้างคร๊าบบ ตอนนี้อยู่ อมตะ จะได้จัดทริปสายบุญซะเลย
...นอนเปลี่ยนที่อีกแล้วเรา คงได้อยู่เมืองชลอีกหลายเดือน ตอนนี้ก่อนนอนก็เริ่มสวดคาถาจักรพรรดิ์ หลวงปู่ดู่ คุ้มครอง อิอิ อุ่นใจดี อิ่มใจ ดีคร๊าบบบ
...รุ่นน้องคุณอานายกนี่คัดมาแจ่มจริงๆ เห็นแล้วอยากส่อง(พระ) บ้างเลย 55+
ปล. ใกล้ปีใหม่แล้ว ขอให้คุณพระ บารมีบูรพระกษัตริย์ ปกป้องคุ้มครอง คุณอาๆและพี่ๆทุกๆคนนะคร๊าบบบ

 

-MRCHainarong แนะนำนะครับ หลวงปู่เกลี้ยง วัดเนิน หลวงพ่อโด่ วัดนามะตูม
หลวงพ่อปัญญา วัดหนองผักหนาม(อายุ100กว่าแล้ว)ไปเช้าๆหน่อยคนเยอะมากมีวิชาต่อสมองค้าขายรุ่งเรือง
เด๋วมาต่อให้นะครับ

 

ตามท่าน Schorlanz เลยครับ

 

-คุณพี่MrChainarong แนะนำต่อ พระที่ผมนับถืบอมากสุดในภาคตะวันออกปัจจุบัน หลวงพ่อชาญ วัดบางบ่อครับ ขับขึ้นทางด่วนไปนิดเดียวเอง เป็นลูกศิษฐ์หลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน เวลาไปผมแนะนำนิดนึงจะมีเช่าพระสองที่ในวัดระวังนิดนึงครับให้เข้าไปด้านในสุด ครับ ผมบูชาเสือมา คืนนั้นผมฝันว่ามีเสือโคร่งมานอนข้างๆผมเลยอธิฐานว่าขอให้ช่วยคุ้มครองด้วย แล้วก็สะดุ้งตื่น เหงื่อออกทั้งตัวเลยคืนนั้น
ถ้าอยู่อมตะน่าจะไปหาหลวงพ่อฟู วัดบางวัว ดีนะครับลูกศิษฐ์หลวงพ่อดิ่งที่ลิงดังจนถึงปัจจุบัน

ผมจำได้แค่นี้วันหลังผมจะมาอัพเดตให้ครับ

 

-น้องชัยมีอีกที่อะไรน้า...ป่าแดงนี่แหละ ดูผ่านๆตาเห็นในเวปพลังจิตอยู่แถวชลบุรี เพื่อนๆบอกว่าเอาตะกรุดมาลองกันแล้วปืนสับนกไม่แตกน่ะเห็นว่าอย่างนั้นลองค้นคว้าหาเอาดู แต่ถ้าแถวอุทัยธานีก็หลวงปู่เร่ง วัดดงแขวน อ.สว่างอารมณ์ จ.อุทัยธานี ลองตะกรุดท่านลองไปลองมา เห็นบอกว่าอีโบ๊ะ(ลูกซองไทยประดิษฐ์)แตก อากได้ก็ติดต่อ องค์ชายสามเลย ในกระทู้พระเครื่องนี่แหละ ปัจจุบัน แม้นเทคโนโลยีจะสูงแต่ศาสตร์ด้านไสยศาสตร์ก็ยังคงอยู่ เรียนให้ถึงเข้าให้ได้ กระผมคิดว่ามันแค่ม่านมาบังตานิดเดียวเอง คนที่ได้วิชาต่างๆมาแล้วใช้ในทางที่ผิดและหลงมัวเมากับ กิเลสตันหา ของทุกสิ่งทุกอย่างก็มีโอกาสเสื่อมได้เหมือนกัน ครับ

หลวงพ่อตี๋ สุจิณโณ วัดบางคณฑีใน ตอน ช้างเผือกอยู่ในป่า ใครไม่เห็นคุณค่าก็ช่างมัน (๑)
<O</O
หลวงพ่อเป็นพระผู้เสียสละและอุทิศตนเพื่อสืบทอดและรังสรรค์พระพุทธศาสนา คติประจำตัวของท่านคือ “ให้โอกาสคนได้แก้ไขตนเอง” หลวงพ่อบอกว่าท่านไม่ใช่เทวดา ไม่ใช่พระอริยสงฆ์ หากแต่ท่านเป็นเพียงพระธรรมดาๆองค์หนึ่งเท่านั้น <O></O>​

“จะเขียนก็เขียนดีดีหน่อยนะโว้ย เพราะข้าเป็นพระนะ ไม่ใช่แพะ” <O></O>
วัดบางคณฑีใน ตำบลบางคนที อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นวัดเก่าแก่สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา ทำเลที่ตั้งของวัดอยู่ในสวนผลไม้ติดคลองบางคนที <O></O>
หลวงพ่อเล่าว่าสมัยก่อนการเดินทางมาวัดต้องใช้วิธีเดินลัดเลาะมาตามสวน หรือพายเรือมาตามคลองบางคนทีครับ<O></O>

<O</O​

ลองหลับตาแล้วใช้จินตนาการย้อนหลังไปในอดีตหลายสิบปีครับ สมัยนั้นการคมนาคมไม่ได้สะดวกสบายอย่างเช่นทุกวันนี้<O></O>
วัดบางคณฑีในได้ชื่อว่าเป็นวัดที่ค่อนข้างห่างไกลความเจริญวัดหนึ่ง สาธารณูปโภคที่ชื่อว่าไฟฟ้ายังคงมาไม่ถึง ทั้งพระและชาวบ้านรอบๆวัดต้องอาศัยแสงสว่างจากเทียนไขหรือตะเกียงในการดำเนินชีวิตยามค่ำคืน<O></O>
แต่เหตุผลใดเล่าครับในเมื่อลำบากกันขนาดนี้ผู้คนถึงได้ดั้นด้นเดินทางเข้ามากันนัก นอกเหนือไปจากการประกอบกิจกรรมทางศาสนาแล้ว เป็นไปได้ว่าวัดบางคณฑีในแห่งนี้น่าจะมีบางสิ่งบางอย่างที่สามารถสร้างศรัทธาให้เกิดกับคนเหล่านั้น<O></O>
คำบอกเล่าของชาวบ้านเกี่ยวกับ “หลวงพ่ออาจ” หรือ “หลวงพ่อตามืด” อดีตพระเกจิอาจารย์จากวัดบางคณฑีใน ผู้ถูกนิมนต์ไปครองวัดเจริญสุขารามวรวิหาร <O></O>
ความมีบารมีของท่าน จึงเป็นเหตุให้“หลวงพ่อโต” พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ได้มาเข้าฝันบอกท่านว่าอยากมาอยู่ที่วัดเจริญสุขารามวรวิหาร ซึ่งเมื่อท่านได้เดินทางไปตามลายแทงความฝันก็พบพระพุทธรูปองค์นี้ หรือ <O></O>

<O</O​

“หลวงพ่อหลา” อดีตเจ้าอาวาสวัดบางคณฑีใน ผู้มากด้วยเมตตาเมื่อเห็นว่าหมูในวัดถูกชาวบ้านรุมตีบ้าง เอามีดฟันบ้าง จึงได้เสกข้าว เสกขนม ให้หมูตัวนั้นกิน ผลปรากฏว่าหมูตัวนั้นหนังดีตีไม่แตก แม้แต่ตะขาบยังกัดไม่เข้า เป็นไปได้ว่าเมื่อพระในวัดเก่งทั้งคาถาและวิปัสสนาขนาดนี้ แน่นอนว่าการถ่ายทอดสายวิชาจากรุ่นสู่รุ่นย่อมต้องมีแน่นอน <O></O>
การอนุมานเช่นนี้จึงเป็นไปได้ว่า นอกจาก “วัดบางคณฑีใน” จะเป็นวัดสำคัญที่ชาวบ้านนิยมเข้ามาใช้บริการสาธารณะแล้ว วัดแห่งนี้ยังต้องเป็นสถานบริการทางจิตใจชั้นเยี่ยมอีกด้วยครับ <O></O>
...ความมีชื่อเสียงที่เริ่มจากพื้นที่ภายในและแพร่หลายออกไปยังพื้นที่ภายนอก....<O></O>
ครับ จุดมุ่งหมายของพวกเราในการเดินทางมายังวัดบางคณฑีในแห่งนี้ ไม่มีอะไรมากไปกว่าการมากราบนมัสการหลวงพ่อและบูชาวัตถุมงคลของท่าน <O></O>
ก็ไม่รู้เหมือนกันครับว่าวัตถุมงคลที่หลวงพ่อได้สร้างขึ้นมีมวลสารอะไรผสมอยู่ หรือท่านปลุกเสกของท่านด้วยวิธีอย่างไร <O></O>
แต่ที่แน่ๆพระเครื่องที่ท่านสร้างมิใช่เพียงแค่เป็นอนุสติเท่านั้น หากแต่พระเครื่องเหล่านั้นยังสามารถใช้คุ้มครองชีวิตของผู้บูชาติดตัวในยามคับขันได้อีกด้วย<O></O>
ถ้าจะถามว่าอะไรทำให้หลวงพ่อสร้างพระได้ขลังขนาดนี้ คำตอบมันคงต้องย้อนไปถึงเรื่องราวในอดีตครับ.....<O></O>
หลวงพ่อวินิจ สุจิณโณ หรือ ท่านพระครูพินิจสมุทรคุณ เจ้าอาวาสวัดบางคณฑีใน หรือที่คนทั่วไปรู้จักท่านในชื่อ “หลวงพ่อตี๋ จอมขมังเวทย์แห่งวัดบางคณฑีใน” ได้เมตตาบอกว่า <O></O>
“เรื่องแบบนี้มีที่มาที่ไป” ครับ

<O</O<O</O​

หลวงพ่อตี๋ ท่านเป็นชาวบางคนทีโดยกำเนิดครับ ชื่อเดิมของท่านคือ “วินิจ” เกิดเมื่อ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๔๙๖ ณ บ้านบางคนที ตำบลบางคนที อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม โยมบิดาของท่านชื่อ “นายเจือ ศรีฉ่ำ” โยมมารดาชื่อ “นางเฉลิม ศรีฉ่ำ” มีอาชีพทำสวน <O></O>
ว่ากันว่าเหตุผลหรือสิ่งที่กระทำอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องในความคิดของผู้อื่น แต่เมื่อเราตัดสินใจทำลงไปแล้ว คนทุกคนย่อมมีเหตุผลเป็นของตนเอง<O></O>

<O</O​

“คนเรามันชอบ จะให้ทำยังไงได้” <O></O>
บ้านหลังใหญ่และที่สวนหลายสิบไร่ นับได้ว่ามีความน่าสนใจและถือเป็นต้นทุนชั้นดีของชีวิต แต่ทว่าความน่าสนใจของมันก็ไม่สามารถเหนี่ยวรั้งวิถีชีวิตของเด็กชายตี๋ไว้ได้ เพราะหลวงพ่อท่านเล่าว่า<O></O>
บรรพบุรุษของท่านเป็นผู้ที่มีวิชาอาคม เริ่มแรกของท่านจึงได้ศึกษาจากท่านเหล่านี้ จนได้จังหวะเวลาที่เหมาะสม ท่านจึงได้ออกจากบ้านและเสาะแสวงหาครูบาอาจารย์ไปเรื่อย ใครว่าที่ไหนมีอาจารย์ดีท่านก็จะขอเข้าไปเรียนวิชาเอาไว้<O></O>
ถ้าจะถามว่า<O></O>
"เด็กชายตี๋ออกจากบ้านไปนานขนาดไหน"<O></O>
ต้องตอบว่า<O></O>
"ล้อหมุนออกจากบ้านเมื่ออายุ ๑๓ กลับมาอีกทีก็ได้เวลาบวชเลยครับ"<O></O>
หลวงพ่อบรรพชาอุปสมบทเมื่ออายุได้ ๒๒ ปี ณ วัดบางคณฑีใน เมื่อวันที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๑๗ โดยมีท่านพระครูวิริยคุณ เจ้าคณะอำเภอบางคนที(เจ้าอาวาสวัดเกาะใหญ่) เป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านพระครูพิศาลสมุทรคุณ (หลวงพ่อหลา) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระใบฏีกาทองสุข เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ท่านได้รับฉายาว่า “สุจิณโณ” ครับ <O></O>
หลวงพ่อเล่าว่าครูบาอาจารย์ที่ท่านเรียนวิชามามากที่สุดคือหลวงอาของท่านที่ชื่อ “ท่านพระครูพิศาลสมุทรคุณ” หรือ “หลวงพ่อหลา” อดีตเจ้าอาวาสวัดบางคณฑีในแห่งนี้<O></O>

<O</O​

หลวงพ่อหลา เป็นพระที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัย เชี่ยวชาญทั้งในด้านวิปัสสนากรรมฐานและคาถาอาคม โดยเฉพาะน้ำมนต์ ท่านว่าเด็ดขาดนัก รดแล้วหมดเคราะห์หมดโศก หรือจะเป็นวัตถุมงคลประเภทพระเครื่ององค์เล็กๆที่ก่ออภินิหาริย์มากมาย <O></O>
เรียกได้ว่าทั้งหมดทั้งปวงที่หลวงพ่อหลามีอยู่ได้ถูกถ่ายทอดมาสู่พระหลานชายของท่านองค์นี้<O></O>

<O</O​

“อดีตเจ้าอาวาสของวัดนี้ โดยส่วนมากจะเป็นพระที่เน้นวิปัสสนากรรมฐาน หลวงพ่อหลาท่านเป็นพระที่เก่ง แต่ท่านไม่ค่อยชอบวุ่นวายกับใคร เห็นเงียบๆอย่างนี้เถอะ ขลังนะมึง” <O></O>
อย่างไรก็ตามการยืนระยะอย่างยาวนานในช่วงชีวิต ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านช่วงระยะเวลาขึ้นลงของชีวิตมาขนาดนี้ ย่อมเป็นเครื่องรับประกันได้ว่าครูบาอาจารย์ของท่านคงไม่จบลงที่หลวงพ่อหลาเสียทีเดียว <O></O>
เพราะในความเป็นจริงแล้วครูบาอาจารย์ของท่านยังมีอีกมากมาย ซึ่งถ้ามานั่งเล่ากันในบันทึกน้อยตอนนี้สงสัยต้องใช้เวลากันนานโขเลยครับ เอาเป็นว่าขอยกตัวอย่างพอหอมปากหอมคอครับ เช่น...<O></O>

<O</O​

”พระครูสมุทรธรรมสุนทร (หลวงปู่สุด) วัดกาหลง” <O></O>
หลวงพ่อเล่าว่าสมัยที่ท่านไปเรียนและนอนอยู่ในกุฏิของหลวงปู่สุด มีวันหนึ่งท่านได้ตื่นขึ้นกลางดึกและได้หันไปมองตรงที่หลวงปู่สุดนอน ก็ไม่เห็นหลวงปู่สุดคงเห็นแต่เป็นเสือโคร่งตัวใหญ่นอนอยู่ <O></O>
ท่านว่าขยี้ตาหลายครั้งก็ยังมองเห็นแต่เสือ แต่ที่สุดของที่สุดแล้วเมื่อท่านระลึกได้ว่าหลวงปู่สุดท่านมีวิชาเสือสมิง ท่านจึงตั้งสติได้<O></O>
ด้วยเหตุนี้แหละครับหลวงพ่อตี๋ ท่านจึงนับถือหลวงปู่สุด วัดกาหลงเป็นอย่างมาก ต่อมาเมื่อท่านเรียนวิชาการสักยันต์ตะกร้อกับวิชาเสือสมิงจนจบแล้ว หลวงปู่สุดจึงได้มอบเข็มสักให้ท่านเล่มหนึ่ง ซึ่งเข็มเล่มนี้หลวงพ่อท่านถือเป็นเล่มครูของท่านครับ <O></O>

<O</O​

“พระมหาคณาจารย์จีนธรรมสมาธิวัตร (โพธิ์แจ้งมหาเถระ)วัดโพธิ์แมนคุณาราม” <O></O>
หลวงพ่อเล่าว่าวันหนึ่งท่านรู้สึกสนใจว่าทำไมคนจีนถึงเขียนยันต์ “ฮู้” ได้ขลังกันนัก.....แล้วความขลังนั้นมันเกิดจากอะไร <O></O>
"เกิดจากตัวยันต์หรือเกิดจากคนทำ" <O></O>
ด้วยเหตุนี้แหละครับท่านจึงได้เข้ามาเมืองกรุงเพื่อมาขอเรียนวิชากับท่านเจ้าคุณโพธิ์แจ้ง เพราะท่านสืบทราบมาว่าท่านเจ้าคุณเป็นพระที่เก่งมากและที่เด็ดขาดคือท่านเจ้าคุณโพธิ์แจ้งเป็นพระจีนแต่เสกพระได้ขลังแบบพระไทย<O></O>
เล่ากันว่าท่านเจ้าคุณโพธิ์แจ้งเรียนวิชามาหลายสำนัก ทั้งของจีนและธิเบต โดยเฉพาะ”วิชาเหมาซาน” ถือว่าทอดสายตาไปในแผ่นดินแล้วยากจะหาผู้ต่อกร<O></O>

<O</O​

“เรียนยันต์ไทยก็ยากเอาเรื่องอยู่แล้วพอมาเรียนยันต์จีนยิ่งหนักเข้าไปกว่าเก่า ปวดหัวตึบ” <O></O>
“ภาษาจีนเป็นภาษาที่มหัศจรรย์ บางทีแค่ตัวอักษรเพียงตัวเดียวแต่สามารถเขียนและตีความหมายได้มากมาย แต่อะไรก็ไม่สำคัญเท่าผู้ใดที่จะเรียนวิชานี้จะต้องสามารถเขียนและอ่านภาษาจีนได้” <O></O>
ว่ากันว่า”ความพยายามอยู่ที่ไหน ความพยายามก็อยู่ที่นั่น”<O></O>
เพราะหลวงพ่อตี๋ท่านได้ใช้เวลาไปมาหาสู่ระหว่างวัดบางคณฑีในกับวัดโพธิ์แมนอยู่เกือบปี <O></O>
ท่านว่าในที่สุดแล้วก็บรรลุถึงทางออกโดยการจ้างให้พระจีนในวัดนั่นแหละครับสอนภาษาจีนให้ท่าน จนท่านสามารถเขียนและอ่านภาษาจีนได้ชำนาญ จึงได้รับการสอนวิชาจากท่านเจ้าคุณ ซึ่งหลวงพ่อบอกพวกเราว่าท่านได้เรียนมาก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น <O></O>
ในทางตรงกันข้ามสิ่งที่ท่านได้มากที่สุดจากการเรียนวิชากับท่านเจ้าคุณคือเรื่องของ “สมาธิจิต”<O></O>
ครับ...ปัจจุบันนี้ศาสตร์เรื่องตัวอักษรจีนค่อนข้างจะหายไปจากสังคมของคนเมือง แต่ที่วัดบางคณฑีในแห่งนี้กลับเป็นเหมือนเมืองหน้าด่านของสังคมชาวบ้านที่ยังคงอนุรักษ์ศาสตร์ตัวอักษรจีนเหล่านี้เอาไว้<O></O>

<O</O​

“สมัยก่อนเรามานั่งสังเกตุดู เวลาเด็กๆเป็นคางทูม เขาจะพาไปให้คนจีนเขียนเสือที่แก้ม มันก็หายได้ <O></O>
พอเราได้เรียนวิชาก็เลยมาลองกับพระ เณรในวัด จับมานั่งเขียนแก้มกันทั้งวัด เออ...มันก็แปลกดี คางทูมก็หาย ปวดฟันก็หาย” <O></O>
“การเขียนฮู้ มันก็เหมือนการเขียนยันต์นั่นแหละ มือเขียนยันต์ ปากกำกับ ใจควบคุม ทุกอย่างต้องสัมพันธ์กัน..” <O></O>
จะว่าไปแล้วตอนแรกๆที่พวกเรามากราบหลวงพ่อตี๋ พวกเรามาอย่างคนที่เข้าใจว่าหลวงพ่อเป็นพระที่ขลัง มีวิชา เพราะได้ยินคนทั่วไปพูดถึงหลวงพ่อในแง่มุมนั้น <O></O>
แต่เดี๋ยวนี้เมื่อพวกเราขยันเข้ามาหาท่านบ่อยเข้าจนกลายๆจะเป็นเด็กวัดของที่นี่ พวกเราจึงได้ทราบว่าหลวงพ่อไม่ใช่พระที่มุ่งขยันเฉพาะวิชาอาคมเท่านั้น... <O></O>

<O</O​

หลวงพ่อเล่าว่า “หลวงพ่อเกษม เขมโก” ก็เป็นพระอีกองค์หนึ่งที่ท่านนับถือสุดหัวใจเรื่องราวของความนับถือขนาดนี้เกิดจาก สมัยที่ท่านออกจากปริวาสและได้เดินทางไปจำพรรษาที่ถ้ำแห่งหนึ่งในบริเวณเหมืองแม่เมาะ จังหวัดลำปาง<O></O>
ด้วยความที่คนเขาเล่าลือกันว่าหลวงพ่อเกษม เขมโก เป็นพระสุปฏิปันโน ทำให้หลวงพ่อต้องรีบเดินทางไปพิสูจน์ ท่านว่าเมื่อท่านไปถึงหน้ากุฏิของหลวงพ่อเกษม ท่านจึงตั้งจิตอธิษฐานว่า<O></O>
“หากหลวงพ่อเกษม รู้แจ้ง เห็นจริง ในทางโลกและทางธรรมแล้ว ขอให้ได้เปิดประตูรับท่าน” <O></O>
ได้ผลครับ เพราะหลวงพ่อเกษมไม่ได้มาเปิดประตูให้ท่าน แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ท่านย่อท้อ <O></O>
เรื่องเล่าค่อนข้างยาวครับแต่สามารถรวบรัดสรุปลงตรงที่ ในที่สุดหลวงพ่อตี๋ท่านได้เข้ากราบนมัสการหลวงพ่อเกษม แต่นั่นหมายความว่า<O></O>
“เราก็เทียวไปเทียวมาอย่างนั้น ไปถึงไม่ได้เจอก็กลับ สามครั้งนะมึงถึงจะได้เจอท่าน” <O></O>
ซึ่งในวันที่ได้พบครั้งแรก...หลวงพ่อตี๋ท่านได้อธิษฐานขอพรจากหลวงพ่อเกษม แต่จะเป็นอะไรนั้นท่านก็ไม่ได้บอกพวกเรา คงบอกเพียงแต่ว่าหลังจากเหตุการณ์ในวันนั้นท่านก็ได้รับความเมตตาจากหลวงพ่อเกษมมาตลอด <O></O>
และหลวงพ่อเกษมจะเรียกท่านว่า “พระสวน” เพราะว่าช่วงนั้นหลวงพ่อตี๋ท่านจะนั่งปฏิบัติกรรมฐาน สวดมนต์ อยู่ที่กุฏิร้างในสวน ข้างๆกุฎิของหลวงพ่อเกษม นี่แหละครับคือที่มาของชื่อ”พระสวน” <O></O>
ครับ โดยส่วนตัวแล้วผมรู้สึกว่าการที่ลูกผู้ชายคนหนึ่งต้องจากสังคมของตนเองมาใช้ชีวิตอันเงียบสงบอยู่ภายใต้ร่มธงแห่งพระพุทธศาสนามานานเกินกว่าครึ่งของชีวิต เป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดาเลยครับ<O></O>
เพราะการจะดำรงสภาพชีวิตแบบนี้ได้ต้องอาศัยหัวใจที่มีความเข้มแข็งและศรัทธาเป็นอย่างมากทีเดียว ซึ่งขณะที่หลวงพ่อเล่าเรื่องราวของท่านให้พวกเราฟัง จากน้ำเสียง แววตาและทัศนคติของท่าน เป็นสิ่งที่บ่งบอกให้พวกเราทราบเป็นนัยว่า<O></O>
“ชีวิตของท่านในร่มผ้ากาสาวพัสตร์ไม่ได้เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดเลย” <O></O>
นักจิตวิทยาบางคนเคยกล่าวไว้ว่า “ความต้องการของมนุษย์คือการอยู่อย่างมีความหวังและหวังในความสุข”<O></O>

<O</O​

“ทุกวันนี้เราอยู่กับความสุขตามธรรมชาติ สุขกับธรรมะ สุขกับพระพุทธศาสนาและทำตัวให้มีค่ากับคนอื่น” <O></O>
ครับความสุขของหลวงพ่อคือการทำตัวให้มีค่า แต่ความสุขของชาวสวนละแวกวัดต้องเรื่องนี้ครับ<O></O>
ว่ากันว่าเมื่อฝนตก... <O></O>
น้ำฝนจะนำความชุ่มชื่นมาสู่ผืนดิน ต้นไม้น้อยใหญ่จะเติบโตอย่างรวดเร็ว ความเจริญเติบโตของต้นไม้จะช่วยสร้างความสงบร่มเย็นให้กับคน<O></O>
แต่สำหรับคนกลุ่มหนึ่ง <O></O>
ในช่วงฤดูฝน สายฝนที่ตกลงมาเป็นสัญญาณเตือนให้รู้ว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องเตรียมตัว....<O></O>

<O</O​

ผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งของตำบลบางคนที เล่าให้พวกเราฟังว่าพวกเขามีอาชีพเกษตรกรทำไร่องุ่นเพื่อป้อนผลผลิตเข้าสู่ตลาด <O></O>
ในช่วงที่ฝนตกชุกจะเป็นช่วงที่องุ่นเริ่มติดผล ซึ่งสภาพของดินฟ้าอากาศแบบนี้โรคและแมลงก็เจริญเติบโตเช่นเดียวกัน <O></O>
นอกเหนือไปจากการใช้ยาและตาข่ายปกคลุมต้นองุ่นแล้ว สิ่งที่พวกเขาปฏิบัติกันเป็นประจำคือการนำผ้ายันต์ของหลวงพ่อตี๋ไปปักไว้กลางสวน<O></O>
ผ้ายันต์ที่พวกเขากล่าวถึงคือ “ธงกฐิน” <O></O>
เชื่อกันว่า “ปักธงแล้วจะไม่มีแมลงมารบกวน” <O></O>
เชื่อกันว่า “ปักธงแล้วองุ่นจะปราศจากโรค”<O></O>

<O</O​

จะว่าไปแล้วเรื่องแบบนี้มันก็อธิบายกันยากครับ ว่าธงกฐินของหลวงพ่อมันมาเกี่ยวกับไร่องุ่นได้อย่างไร แต่พวกเกษตรกรเหล่านั้นก็ประสบผลสำเร็จกับวิธีการแบบนี้มาตลอด ซึ่งมันก็ไม่ใช่แค่ครั้งเดียวแต่มันเป็นแบบนี้ทุกครั้ง <O></O>
จะเป็นว่าแมลงเหล่านั้นกลัว “รูปจรเข้คาบดอกบัว” หรือโรคพืชเดินทางมาพบ“รูปนางมัจฉาถือดอกบัว” ก็เลยเข้าใจผิดพากันอพยพไปลงที่อื่น<O></O>
แต่เรื่องแบบนี้ถ้าเพื่อนๆเคยศึกษาประวัติของครูบาอาจารย์รุ่นเก่าๆ ก็จะพบว่าในบริบทของสังคมไทยมีการใช้วิชาอาคมมากำหราบโรคห่า(ชื่อในสมัยนั้น) <O></O>
ซึ่งเรื่องของธงกฐินกับไร่องุ่นมันก็มาในทำนองนั้น <O></O>
ไม่แน่นะครับบางทีธงกฐินอาจเป็นสัญญลักษณ์แห่งชัยชนะของชาวเกษตรกรก็ได้<O></O>
ครับ..ความหวังเป็นเรื่องของจิตใจ ความสำเร็จเป็นเรื่องของการกระทำอย่างต่อเนื่อง แต่การกระทำแบบต่อเนื่องนั้นไม่ได้บัญญัติไว้ครับว่าต้องกระทำอย่างไร ขอเพียงแต่ไม่ให้เดือนร้อนกับใครเป็นพอ..<O></O>
สำหรับเรื่องวัตถุมงคลของหลวงพ่อ มันต้องว่ากันยาวๆครับขอยกยอดไปต่อคราวหน้าละกัน....สวัสดีครับ<O></O>

<O</O​

ขอขอบคุณ คุณพรชนก สุขพงษ์ไทยสำหรับภาพถ่าย เพื่อนต่อกับคำแนะนำ คุณสมบูรณ์ ร้านนายฮ้อ สระบุรีสำหรับกำลังใจที่มีให้เสมอครับ
<O</O-อัพโหลดแล้วรูปไม่ขึ้นอ่านแต่เนื้อหาไปก่อนน่ะ ครับ ท่านเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อสุด วัดกาหลงอีกท่านครับ
-เริ่มลงภาพได้แล้วแก้ไขให้แล้วน่ะครับ ลองอ่านเป็นวิทยาทานครับ

 

สวัสดีครับ ทุกๆท่าน

.....คุณอัสนีสมเป็นคุณอัสนีจริงๆ ยอดเยี่ยมไม่ตกเลย ขอบคุณมากครับ ได้ความรู้ได้ข้อคิดเสมอๆ วันนี้ผมไม่ได้ออกไปไหนเลย ไม่มีข้อมูลอะไรเพิ่มเติม แต่ไปพบรูปของอาจารย์วัติแล้ว สมัยก่อนอาจารย์เป็นพระเลขาของหลวงปู่สุด ผมถ่ายไว้ตั้งแต่ประมาณปี22-23 (ผมยังเรียนอยู่มัธยมต้น) อาจารย์วัติท่านก็ช่วยเป็นธุระให้ผมมากมาย กราบขอบคุณท่านไว้ณ.ที่นี้ด้วย แต่ภาพต้องพรุ่งนี้ไปที่ทำงานก่อน เพราะต้องใช้เครื่องสแกน

.....ท่านนายกฯสบายดีนะครับ คุณไพศาล หลานชัยฯ และทุกๆคน เข้ามาพูดคุยกันบ่อยๆนะครับ สวัสดีวันคริสต์มาสครับ

 

พรุ่งนี้ผมจะแวะไปกราบหลวงพ่อสุดคร๊าบๆ

 

สวัสดียามเช้า ทุกๆท่านครับ

.....เอาภาพอาจารย์วัติมาลงครับ คุณไพศาลคงจำท่านได้นะครับ หลังจากหลวงปู่เรามรณภาพผมก็ไม่ทราบข่าวท่านอีกเลย ได้ยินว่าท่านไปเป็นเจ้าอาวาสที่วัดอื่น แล้วก็มรณภาพลงที่นั่น กราบอาจารย์ครับ

 

สวัสดีคร๊าบบบ คุณอาๆและพี่ๆทุกๆคน..
...อากาศหนาวๆ รักษาระวังสุขภาพกันด้วยเน้อคร๊าบบ
...ขอบคุณครับพี่สกอร์ พี่ Rang ถ้าว่างจากภาระกิจค่อยเดินสายต่อ เฮ้อๆๆ...
...คุณอาอัสนีมีข้อมูลมาให้อ่านไม่ผิดหวังเหมือนเดิมเลยคร๊าบบ ขอบคุณคร๊าบบ
...คุณอาเปิดโลกคร๊าบบบ ยังรอข้อมูลจากสมาคมแผงพระของคุณอาอยู่นะ อิอิ แงๆๆ ภาพอาจารย์วัติ ของคุณอาไม่ขึ้นอ่ะอยากเห็นๆๆ(หรือว่าเน็ตเต่าผมหมดพลังหว่า) คงต้องรบกวนคุณอาเล่าประวัติแล้ววว..
ปล.ขอเดินสายในโรงงานนี่ยากจริงๆ เฮ้อช่วงนี้เลยต้องใช้เน็ตพลังเต่าไปก่อนแอร์การ์ดพ่วงกันตั้ง 3 เครื่อง 555+

 

วันนี้ไปกราบมาเห็นหลวงพ่อกับคนแก่ในวัดเค้าถักตะกร้อจะแจกหลังจากปิดทองฝังลูกนิมิตรที่วัดกาหลงชายทะเลยครับ หลวงพ่อบอกถ้าอยากได้เอ็งต้องรีบมาวันที่ 20-29 มกราครับ

ข่าวจากวัดครับ ขับรถเหนื่อยมากT-T

 

ขอให้สุขกายสุขใจ ทุกๆท่านครับ

-หลานชัยฯครับ เรื่องสมาคมแผงพระตอนนี้แยกวงกันไปแล้วครับ ตั้งแต่อาเข้าไปนั่งคุยด้วย"วงแตก"เลยครับ5555 ภาพอาจารย์วัติแก้ไขให้แล้วครับ เห็นภาพท่านแล้วก็นึกถึงเรื่องสมัยอาไปวัดกาหลงใหม่ๆ ตอนนั้นอายุ15ไปลุยเดี่ยวเลย นั่งรถบขสไป เค้าว่าแถวนั้นนักเลงเยอะ แอบหนีที่บ้านไป ตอนนั้นมุ่งมั่นมาก แต่ก็ได้สมใจครับ

-น้องสกอร์ครับ ขอบคุณมากครับสำหรับข่าวเรื่องปิดทองฝังลูกนิมิต ที่จะมีแจกลูกตระกร้อนะครับ

.....คิดถึงท่านนายกฯ คุณไพศาล และอีกหลายๆท่านจังครับ ขอลาด้วยเหรียญเสือคู่หลวงปู่เรา เนื้อนวะ โชคดีสมหวังทุกคนนะครับ

 

-สวัสดีครับ เอ๋..คุณดอกรักหายไปไหนเนี่ย...ขอบคุณน้องๆที่ได้ข้อมูลมาบอกงานวัดกาหลงครับ ช่วงนี้สภาพภูมิอากาศมันเปลี่ยนแปลง ทำให้ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงไปด้วย เช่น น้ำท่วมถนนพระรามสอง ช่วงบางโทรัด ท่วมเหลือช่องทางด่วนเลนเดียวทำให้รถติดขัดเมื่อวันอาทิตย์ที่จะเข้า กทม. ยาวมากๆถึงแยกวังมะนาวเลย ฤาใกล้วันสิ้นโลกแล้วหรือนี่ ฮิ..ฮิ.. ฮิดตามที่เขาฮิตกันอยู่ทุกวันนี้ เสพข่าวสารได้เพื่อเตรียมตัวแต่อย่าตื่นตูม มันล่มสลายแน่ๆ เพราะมนุษย์ เสพและรุกธรรมชาติมากเหลือเกิน ถึงช่วงเอาคืนล่ะครับ
-วันนี้ได้ข้อมูลครูบาอาจารย์อีกท่านหนึ่งอยู่แถว กทม.นี่เอง ท่านก็เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อสุดวัดกาหลง
หลวงพ่อเณร วัดทุ่งเศรษฐี

​

หลวพ่อเณร ญาณวินโย วัดทุ่งเศรษฐี (ราม 2) เขตประเวศ กรุงเทพฯ
เป็นเจ้าอาวาสรูปแรกและรูปปัจจุบัน

สมณศักดิ์
ปี 2532 เป็นพระครูปลัดสัมพิพัฒนธีราจารย์ (พระครูปลัดฐานานุกรม ในสมเด็จพระธีรญาณมุนี กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะภาค ๑ เจ้าอาวาสวัดปทุมคงคา กรุงเทพฯ
ปี 2548 ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่ "พระพิศาลพัฒนาทร"
ปี 2553 ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช ในราชทินนามที่ "พระราชพัฒนโสภณ วิมลวิหารกิจ มหาคณิสสร บวรสังคาราม คามวาสี"

วิทยฐานะ
สอบได้นักธรรมเอก สำนักเรียนวัดสลุด
ได้รับพระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
ได้รับปริญญาพุทธศาสตร์มหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

สถานะเดิมชื่อ วินัย โพธิ์สุข นามบิดา นายบุญมา โพธิ์สุข นามมารดา นางสมนึก โพธิ์สุข เกิดที่ ต.บางพลี อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

บรรพชา ปี 2521 โดยมีพระครูสมุทรสิริวัฒน์ (หลวงพ่อทับ) วัดสลุด อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เป็นพระอุปัชฌาย์
อุปสมบท ปี 2525 ณ พัทธสีมา วัดสลุด อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
พระอุปัชฌาย์ พระธรรมวโรดม ต่อมาได้รับพระราชทานสถาปนาเป็นสมเด็จ พระราชาคณะ ในพระราชทินนามที่ สมเด็จพระธีรญาณมุนี (สนิธ เขมจารี) เจ้าคณะภาค ๑ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดปทุมคงคา แขวงสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร
พระกรรมวาจาจารย์ พระครูสมุทรสิริวัฒน์ (หลวงพ่อทับ) วัดสลุด อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
พระอนุสาวนาจารย์ พระรัตนเมธี (ต่อมาได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระเทพวิริยาภรณ์) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวราราม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร

เด็กชายวินัย โพธิ์สุข ได้อยู่ที่วัดสลุดกับหลวงพ่อทับ ตั้งแต่อายุ 3 ขวบ เป็นที่รู้กันว่าหลวงพ่อทับ วัดสลุด เป็นศิษย์เอกของหลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว (อุปัชฌาย์หลวงปู่เผือกคือ หลวงปู่ทอง วัดราชโยธา) ได้รับการถ่ายทอดวิชาจากหลวงพ่อทับ จนกระทั่งได้บรรพชาเป็นสามเณร พอบวชได้เพียงปีเดียวก็มีลูกศิษย์สร้างเหรียญถวายกันเลย

ตำราเก่าของหลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้วก็ตกทอดมาถึงหลวงพ่อเณรแบบเต็มสูตร รวมถึงตำราของหลวงปู่ทองวัดราชโยธา​

อีกทั้งท่านยังเดินธุดงค์แสวงหาความรู้และเดินทางหาครูบาอาจารย์ ตั้งแต่ยังเป็นสามเณร ท่านได้ธุดงค์ไปที่ต่างๆทั้งในประเทศไทย พม่า ลาว เขมร เพื่อศึกษาวิชาความรู้ด้านต่างๆ เมื่อกลับจากธุดงค์แล้วท่านได้ใช้วิชาเพื่อสงเคราะห์สานุศิษย์และญาติโยมผู้ ทุกข์ร้อนด้วยสาเหตุนานาประการ กิตติศัพท์ของท่านก็เริ่มร่ำลือแผ่ขยายออกสู่ภายนอกกว้างออกไปทุกที จนกลายเป็นครูบาอาจารย์ของบุคคลทั้งหลาย ทั้งๆที่ย้งเป็นเพียงสามเณร คนทั้งหลายที่ศรัทธาจึงพากันยกย่องและเรียกท่านว่า "หลวงพ่อเณร"

ผู้ที่เป็นทั้งอาจารย์และดูฤกษ์บวชให้หลวงพ่อเณร ญาณวินโย คือหลวงปู่คำมี วัดถ้ำคูหาสวรรค์ และพระที่นั่งอันดับในงานบวชล้วนเป็นเกจิในยุคนั้นทั้งสิ้น ซึ่งหลวงพ่อเณรก็ได้ศึกษาศาสตร์ต่างๆจากท่านเหล่านั้นด้วย

หลวงพ่อเณร ท่านสืบสานวิชาตำหรับหลวงพ่อปาน วัดบางนมโคจาก หลวงปู่ฤาษีลิงขาว (หลวงพ่อช่อ อภินันโท) วัดฤกษ์บุญมี ศิษย์เอกหลวงปู่ปานอีกรูปหนึ่ง

นอกจากนี้หลวงพ่อเณรได้ศึกษาวิชาจากครูบาอาจารย์ท่านต่างๆ โดยตรง ด้วยตัวท่านเอง เช่น
หลวงปู่คำมี วัดถ้ำคูหาสวรรค์ จ.ลพบุรี
หลวงพ่อบุญมี วัดเขาสมอคอน จ.ลพบุรี
หลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง
หลวงปู่คำแสน คุณาลังกาโร วัดป่าดอนมูล จ.เชียงใหม่
หลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่
ครูบาหมวก วัดดอนชัย (ศิษย์ครูบาศรีวิชัย) จ.เชียงใหม่
หลวงพ่อบุญเย็น ฐานธมฺโม (หลวงพ่อประกาศิต) สำนักพระเจ้าพรหมมหาราช ตำบลปงตำ อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่
หลวงปู่อิน วัดลาดท่าใหม่ จ.จันทบุรี หรือหลวงพ่ออินเทวดา (ศิษย์หลวงปู่จัน วัดนางหนู และ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า)
หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส จ.จันทบุรี
หลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า จ.ระยอง
หลวงปู่ชื่น วัดมาบข่า จ.ระยอง
หลวงปู่นิด วัดทับมา จ.ระยอง
หลวงพ่อช่วย วัดไตรมุก จ.ชลบุรี(ศิษย์หลวงปู่ปาน วัดบางเหี้ย)
หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี
หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพฯ
หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังวิเวการาม จ.กาญจนบุรี
พระปลัดใบ คุณวีโร วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม(ศิษย์เอกหลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว)
หลวงปู่หน่าย วัดบ้านแจ้ง จ.พระนครศรีอยุธยา
หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา จ.พระนครศรีอยุธยา
หลวงปู่ฮวด วัดสุวรรณดาราม อยุธยา (ศิษย์หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน)
หลวงปู่พรหมา เขมจาโร วัดสวนหินผานางคอย จ.อุบลราชธานี
หลวงปู่เคน วัดแซ่อุดมสุข จ.อุบลราชธานี
หลวงปู่ชื่น วัดตาอี จ.บุรีรัมย์
หลวงปู่ฤทธิ์ วัดชลประทานราชดำริ จ.บุรีรัมย์
หลวงปู่ผูก วัดเกาะ จ.เพชรบุรี (ศิษย์สายหลวงพ่อมี วัดพระทรง)
หลวงพ่อเปล่ง วัดวังไคร้ จ.เพชรบุรี (ศิษย์หลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง จ.เพชรบุรี )
หลวงพ่อเอื้อน วัดเขาทะโมน จ.เพชรบุรี (ศิษย์หลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง จ.เพชรบุรี )
หลวงพ่อสุด วัดกาหลง จ.สมุทรสาคร
สมเด็จพระสุเมธาธิบดี จวน นาถ สังฆราชเขมร ฯลฯ
หลวงพ่อเณรท่าน คือขุมคลังแห่งศาสตร์วิชาความรู้เก่าแก่ อาจเป็นเพราะอำนาจบุญบารมีที่ท่านสั่งสมมา จึงได้รับความเมตตาจากครูบาอาจารย์ที่มีชื่อเลียงเป็นที่ยอมรับกับคนทั้ง หลาย จนสามารถตั้งวัดพัฒนาจากแผ่นดินกลางนามาเป็นวัดทุ่งเศรษฐี (ราม 2) ดังที่เห็นในปัจจุบัน

 

สวัสดียามดึกทุกท่านครับผม อากาศเย็นดูแลสุขภาพด้วยนะครับผม
-พี่อัสนี ข้อมูลแน่นตลอดเลยครับเข้ามาทีไรได้ข้อมูลดีๆกลับไปทุกครั้งเลย
-พี่เปิดโลก เหรียญสวยมากมายครับผม
-คุณschorlanz เสือหลวงพ่อชาญ น่าสนใจมากเลยครับผม ผมมาจากศรีนคริทร์ ไม่ทราบว่าต้องไปทางไหนครับผม
-คุณmrchainarong ไปวัดไหนแล้วมาเล่าประสบการณ์ให้ฟงบ้างนะครับผม
-พอดีวันนี้ได้ขอที่จัดหนักมาแล้วครับ กำลังลองถ่ายภาพอยู่ครับ ว่าจะนำมาลงให้ท่านดอกรักดู แต่ดันนำรูปลงในเครื่องไม่ได้ซะงั้น แหะๆ

 

-คุณพี่ rang551 ขึ้นทางด่วนบูรพาวิถีครับ ที่จะไปชลบุรีอ่ะครับ พอถึง กม 29 ให้เตรียมชิดซ้ายไว้ แล้วลงตรงนั้นจะคือด่านเก็บตังบางบ่อ แล้วไปยูเทิร์น ขับช้าๆหน่อย
จะมีประตูวัดอยู่ซ้ายมือครับ ไม่ทราบว่าได้ของอะไรขอผมชมบ้างได้ไหมครับ

วันนี้ผมไปคุยกับหลวงพ่อมาบอกศิษฐ์เอกหลวงพ่อสุดคือ หลวงพ่อพยนต์ครับ! ไม่รู้จริงเท็จแค่ไหนครับ

 

สวัสดีคร๊าบบบ คุณอาๆและพี่ๆทุกๆคน
...ขอบคุณคร๊าบบคุณอาเปิดโลกคลาสสิคจังรูปถ่ายคุณอา เป็นบุญจังที่เห็น สาธุๆๆ ครับ
...คุณอาอัสนีผมรู้ครับคุณอานายกไปไหน อืมๆๆ... หนาวๆอย่างนี้ต้องแอบไปหาสาวๆมากอดแน่เลยยย... อิอิ แซวด้วยความเคารพน้าคร๊าบบ...
...อยากรู้แล้วสิครับว่าพี่ Rang ไปจัดอะไรมาน้า เหมือนคุณอาเปิดโลกบอกเอาไว้น่ะครับ ว่าของทุกอย่างเค้ากำลังรอคอยเจ้าของเค้าอยู่ ดีใจด้วยคร๊าบบ รอชมอยู่น้า...
...ขอบคุณครับพี่สกอร์สำหรับข้อมูลงานฝังลูกนิมิตรที่วัด ส่วนตอนนี้กำลังรวบรวมข้อมูลวัดแถบนี้อยู่เอาไว้จัดทีเดียวเลยแต่ต้องไปบิ้วสหายก่อนเพราะผมขับรถไม่เป็นนน 555+

 

-คุณพี่mrchainarong ไปกับผมไหมล่ะครับ เด๋วผมพาไป วันที่30 ผมจะกลับบ้านที่ชลบุรี จะพาพ่อพาแม่ไปไหว้พระอยู่พอดีสนใจไหมครับ

ถ้าไปวัดไหนรีวิวบอกกันบ้างนะครับ

 

.....ไม่มีเรื่องอะไรมาบอกครับ แต่อยากบอกว่าดีใจปลื้มใจ ขอชมเชยและชื่นชมจริงๆกับเหล่าน้องๆหลานๆที่มีน้ำใจต่อกัน อ่านแล้วเพลินใจดีมากเลย ยอดมากครับ