หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง เพชรบุรี

สวัสดีครับ พี่เล็ก.................

 

ขอบคุณครับ

 

กราบ นมัสการ หลวงพ่ออุ้น

สวัสดีครับ พี่ๆ เพื่อนๆ ศิษย์หลวงพ่ออุ้น ทุกท่านครับ

ผมก็มีเช่า- บูชา วัตถุมงคลของหลวงพ่ออุ้น เหมือนกันครับ


พระปิดตานะปัดตลอดยันต์จม เนื้อผงผสมเกศา หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง จ.เพชรบุรี

ออกให้บูชาปีพ.ศ.๒๕๔๓ สร้างจำนวน ๒,๐๐๐ องค์ ครับ

 

หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง ท่านสร้างและปลุกเสกพระปิดตาในนามของท่านไว้ด้วยกันหลายรุ่น มีทั้งเนื้อโลหะ และ เนื้อผง จากข้อมูลในหนังสือรวบรวมภาพวัตถุมงคลของท่าน ระบุว่า ท่านเริ่มสร้างพระปิดตาครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๒ โดยสร้างด้วยเนื้อโลหะ มีด้วยกัน ๓ พิมพ์ คือ พระปิดตายันต์ครู เนื้อทองเสี้ยน, พระปิดตายันต์ยุ่ง เนื้อสัมฤทธิ์ ผสมแร่เขาพรหมชะแง้ และ พระปิดตาหลัง ว.ต.ก. เนื้อสัมฤทธิ์ ส่วนเนื้อผง มีด้วยกัน ๒ พิมพ์ คือ พระปิดตาลอยองค์ เนื้อผงอิทธิเจ และ พระปิดตานะปัดตลอด
พระปิดตารุ่นสอง สร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๓ ในปีนี้สร้างเฉพาะเนื้อผงอย่างเดียว มีด้วยกัน ๖ พิมพ์ คือ พระปิดตาผงพิมพ์ตุ๊กตา มี ๒ เนื้อ คือ เนื้อผงคลุกรัก และ เนื้อผงผสมเส้นเกศา, พระผงปิดตาลอยองค์ พิมพ์ใหญ่ มี ๒ เนื้อ คือ เนื้อผงคลุกรัก และ เนื้อผงผสมเส้นเกศา, พระผงปิดตาลอยองค์ พิมพ์เล็ก มี ๒ เนื้อ คือ เนื้อผงคลุกรัก และ เนื้อผงผสมเกศา, พระปิดตานะปัดตลอด ยันต์จม มี ๒ เนื้อ คือ เนื้อผงคลุกรัก และ เนื้อผงผสมเกศา, พระปิดตาหลังแบบ เนื้อผงพุทธคุณ ผสมแร่เขาพรหมชะแง้ และ พระปิดตาเนื้อผงจุ่มรัก
ในปี พ.ศ. ๒๕๔๓ ตอนต้นปี มีคณะศิษย์สร้างพระปิดตา รุ่นปลดหนี้ บรรจุตะกรุดทองคำ ๙ ดอก, ๕ ดอก และ ๑ ดอก รวมกันทั้งสิ้น ๙๙๙ องค์ และตอนปลายปี มีคณะศิษย์สร้างพระปิดตา รุ่นเงินล้าน ตะกรุดทองคำ ๙ ดอก ๑๙๙ องค์, ตะกรุดทองคำ ๓ ดอก ๙๙๙ องค์ และ ตะกรุดทองคำ ๑ ดอก ๙,๙๙๙ องค์ รวมทั้งสิ้น ๑๑,๑๙๗ องค์<O</O
พระปิดตารุ่นสาม สร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๔ ตอนต้นปี สร้างด้วยเนื้อโลหะเพียงอย่างเดียว มีด้วยกัน ๗ พิมพ์ คือ พระปิดตาอิติ ๘๕ เนื้อนวะโลหะ และเนื้อสัมฤทธิ์, พระปิดตาสมาธิใหญ่ เนื้อสัมฤทธิ์, พระปิดตาสมาธิเล็ก เนื้อสัมฤทธิ์, พระปิดตามหาอุตม์ ยันต์ ๓ ฐาน เนื้อสัมฤทธิ์, เหรียญหล่อพระปิดตา เนื้อนวะโลหะ, พระปิดตาลอยองค์ พิมพ์ชลูด เนื้อนวะโลหะ และ เหรียญหล่อพระปิดตานะปัดตลอด ยันต์จม เนื้อนวะโลหะ
พระปิดตารุ่นสี่ สร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๔ ตอนปลายปี สร้างด้วยเนื้อโลหะ ๕ พิมพ์ คือ พระปิดตาเกลอเดี่ยว พิมพ์ใหญ่ มี ๒ เนื้อ คือ เนื้อนวโลหะ และ เนื้อทองฝาบาตร, พระปิดตาเกลอเดี่ยว พิมพ์เล็ก มี ๒ เนื้อ คือ เนื้อนวโลหะ และเนื้อทองผสม, พระปิดตาสองเกลอ มี ๒ เนื้อ คือ เนื้อนวโลหะ และ เนื้อทองผสมผิวแดง, พระปิดตาโยงก้น เนื้อนวะโลหะ และ เนื้อทองผสม, เหรียญหล่อพระปิดตาขี่เสือ พิมพ์ใหญ่ พิมพ์เล็ก มีด้วยกัน ๓ เนื้อ คือ เนื้อนวะแก่ทอง, เนื้อนวะผสมแร่ และเนื้อทองผสม
ในปลายปี พ.ศ. ๒๕๔๔ นอกจากเนื้อโลหะแล้ว ยังสร้างพระปิดตาเนื้อผงคลุกรัก ขึ้นมาอีก ๒ พิมพ์ คือ พิมพ์เข่ากว้าง มี ๒ แบบ คือ พระปิดตาลงรักปิดทอง และ พระปิดตาแบบไม่ลงรักปิดทอง จำนวนรวมกันทั้งสิ้น ๑,๑๙๙ องค์ โดยเฉพาะพระปิดตาแบบลงรักปิดทอง ได้ใส่ผงเก่าของหลวงพ่อแก้ว เป็นจำนวนมาก ทำให้ค่านิยมในปัจจุบันสูงมาก หลักพันปลาย หรือ หลักหมื่นต้น และต้องระวังให้มากที่สุด คือ พวกหัวใสนำเอาพระปิดตาผงคลุกรักชนิดไม่ลงรักปิดทอง มาย้อมแมวขายด้วยการลงรักปิดทองทีหลัง แม้จะเนื้อหาแบบเดียวกัน พิมพ์ทรงเดียวกัน แต่ค่านิยมต่างกัน ต้องพิจารณาดูให้ดี ถามผู้รู้เสียก่อนที่จะจ่ายเงินเป็นดีที่สุด
อีกพิมพ์หนึ่งก็คือ พิมพ์พระปิดตาลอยองค์ พิมพ์หัวไม้ขีด สร้างจำนวน ๓๙๙ องค์ พิมพ์นี้ไม่มีการลงรักปิดทอง
พระปิดตารุ่นห้า สร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๗ สร้างด้วยเนื้อผง มีด้วยกัน ๒ พิมพ์ คือ พระปิดตาจัมโบ้ เนื้อผงจันทร์ครึ่งซีก และ ผงคลุกรัก, พระปิดตานะรำพึงคู่ เนื้อผงพุทธคุณผสมว่าน
สร้างด้วยเนื้อโลหะ มีด้วยกัน ๔ พิมพ์ คือ พระปิดตาก้นถ้วย เนื้อทองสัมฤทธิ์, พระปิดตาอิติ ๘๙ เนื้อนวะโลหะ ก้นอุดชันโรง, พระปิดตายันต์น่อง เนื้อนวะโลหะ และ พระปิดตาเศียรแหลม เนื้อแร่ และเนื้อทองผสมหลังยันต์
พระปิดตารุ่นหก สร้างในปี พ.ศ. ๒๕๔๘ สร้างด้วยเนื้อผง มีด้วยกัน ๒ พิมพ์ คือ พระปิดตาเข่ากว้าง (รุ่น ๒) ด้านหน้าเคลือบแล็คเกอร์ และ พระปิดตาเข่าตรง เนื้อผงผสมว่าน
สร้างด้วยเนื้อโลหะ มีเพียงพิมพ์เดียวคือ พระปิดตาเศียรโต เนื้องทองสัมฤทธิ์
พระปิดตารุ่นเจ็ด สร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๙ มีด้วยกัน ๓ พิมพ์ คือ พระปิดตาเข่าตรง เนื้อสัมฤทธิ์ , พระปิดตาตะเกียง ๒ หน้า เนื้อทองแดงและ เหรียญพระปิดตาจัมโบ้ ๕ เหลี่ยม เนื้อทองแดง<O</O
พระปิดตารุ่นแปด (รุ่นสุดท้าย) สร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๐ สร้างด้วยเนื้อผง มีเพียงพิมพ์เดียว คือ พระปิดตาลอยองค์ พิมพ์ปั้น เนื้อผงอิติปิโสรัตนมาลา มีด้วยกัน ๒ แบบ คือ แบบจุ่มรักปิดทอง สร้างจำนวน ๕๐๐ องค์ และ แบบไม่จุ่มรัก สร้างจำนวน ๘๐๐ องค์
สร้างด้วยเนื้อโลหะ มีด้วยกัน ๒ พิมพ์ คือ พระปิดตาหนังตะลุง พิมพ์ใหญ่ และ พิมพ์เล็ก สร้างด้วยเนื้อสัมฤทธิ์เพียงเนื้อเดียว จำนวนการสร้างอย่างละ ๒,๕๐๐ องค์
การจัดทำเนียบรุ่นพระปิดตา ทั้งชนิดเนื้อผง เนื้อโลหะ หรือ เหรียญพระปิดตา ผมจัดขึ้นตามลำดับปีที่สร้าง เพื่อความสะดวกในการแยกแยะอย่างง่าย ๆ เพราะถ้าจะเจาะลึกข้อมูลลงไปว่า แต่ละรุ่น แต่ละแบบ สร้างในวันที่เท่าไร เดือนอะไร คงจะจัดลำดับได้มากรุ่นกว่านี้ อันจะก่อให้เกิดความสับสนวุ่นวายในการจำได้ สู้จัดรุ่นเรียงปีอย่างคร่าว ๆ อย่างนี้น่าจะดีกว่า
หลวงพ่ออุ้น นอกจากท่านจะสำเร็จวิชาทำผงวิเศษ ๕ ประการ คือ ผงปถมัง ผงอิทธิเจ (หรือ อิธะเจ) ผงมหาราช ผงพุทธคุณ และ ผงตรีนิสิงเห แล้ว ท่านยังสำเร็จวิชาการทำผงอื่น ๆ อีกหลายชนิด ดังที่เราได้ทราบจากการที่ท่านสร้างพระปิดตาเนื้อผงดังกล่าว คือ ผงพระจันทร์ครึ่งซีก, ผงอิติปิโสรัตนมาลา ส่วนวิชาทำผงหน้าพระภักตร์ แม้ท่านจะสำเร็จ แต่ยังไม่ปรากฎแน่ชัดว่า ท่านได้นำมาผสมในพระเนื้อผงแบบใด รุ่นใดของท่านหรือไม่
แต่ที่แน่ ๆ ก็คือ ท่านสำเร็จวิชา “นะปัดตลอด” โดยจะเห็นได้ว่า วัตถุมงคลของท่านส่วนใหญ่ จะประทับ ยันต์นะปัดตลอด (ดีทางแคล้วคลาด คงกระพัน) และ ยันต์นะปถมัง (ดีทางเมตตามหาลาภ) อันเป็นยันต์ครูของสำนักวัดโตนดหลวงเอาไว้แทบทุกรุ่น ซึ่งวิชานะปัดตลอดนี้ ถ้าผู้ใดสำเร็จ จะทำให้ผู้นั้นสามารถประจุพลังจิตวิทยาอาคมลงในพระเครื่อง วัตถุมงคล หรือสิ่งของต่าง ๆ ได้อย่างทั่วถึงทุกอณูของเนื้อหามวลสารของพระที่นำมาเข้าพิธี สร้างความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์แก่วัตถุมงคลนั้น ๆ อย่างเอกอุเลยทีเดียว แม้จะใช้เวลาในการประจุพลังไม่มากนักก็ตาม
การสร้างพระผง หรือ พระปิดตา ของหลวงพ่ออุ้นนั้น ทุกรุ่นก็ว่าได้ ท่านจะเขียน และลบผงเอง แต่ใช่ว่าท่านจะทำเพียงลำพังองค์เดียวนะครับ ท่านมีลูกศิษย์ที่ได้รับการถ่ายทอดวิชาการทำผง ทั้งบรรพชิต และ ฆราวาส ช่วยกันเขียน ช่วยกันลบ เพื่อเบาแรงของท่าน ดังนั้น พระเนื้อผง และ พระปิดตาของหลวงพ่ออุ้นทุกรุ่น จึงสมควรนำมาอาราธนาพกพาติดตัว เพื่อความเป็นสิริมงคลเป็นอย่างยิ่ง ต่างจากพระเนื้อผง หรือ พระปิดตาของสำนักอื่น ๆ มากมายหลายสำนัก ที่เป็นเนื้อผงก็จริง แต่เป็นผงแป้ง ผงปูน ที่สั่งทำมาจากโรงงาน ผิดกับของวัดตาลกง ที่การสร้างพระแต่ละครั้ง พระในวัด และฆราวาสที่เป็นลูกศิษย์วัด กรรมการวัด จะช่วยกันผสมผง และปั๊มพิมพ์พระผงภายในวัด พระที่สร้างสำเร็จ และปลุกเสกแล้ว จึงดีทั้งเนื้อใน และ เนื้อนอก (การปลุกเสก) ทุกองค์

 

พระปิดตาเนื้อผงคลุกรัก พิมพ์เข่ากว้าง ชนิด ลงรักปิดทอง สร้างเพียง ๒๙๙ องค์ ออกให้บูชาเมื่อวันที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๔๔ เป็นพระปิดตาที่ใส่ผงเก่าของ ลพ.แก้ว วัดเครือวัลย์ เต็มที่ จึงได้รับความนิยมจากบรรดาลูกศิษย์เป็นอย่างมาก ค่านิยมพุ่งพรวดเหยียบหมื่น และจะทะลุหมื่นในอนาคตอันใกล้นี้ แต่ต้องระวัง พวกย้อมแมวขาย เอาพระปิดตาพิมพ์เดียวกัน เนื้อเดียวกัน ประเภท ไม่ได้ลงรักปิดทอง มาลงรักปิดทองทีหลัง ซึ่งถ้าใครมีของจริง หรือ เห็นของจริงดั้งเดิมมาก่อน ก็คงไม่พลาด ถ้านำมาเปรียบเทียบ เพราะความแห้งของรัก ทอง ลักษณะของทองที่ปิด จะแตกต่างกัน แต่ที่พลาดเพราะไม่เคยเห็นของจริง ของดั้งเดิม หรือ บางทีเจอของเก๊ทั้งดุ้น อย่างนี้ต้องระวังเอาไว้ให้มาก

 

ถือเป็นพระปิดตารุ่นสอง ครับ พิมพ์นี้สร้างด้วยกัน ๒ เนื้อ เนื้อผงผสมเกศา และ เนื้อผงคลุกรัก อย่างละ ๒,๐๐๐ องค์ แต่เนื้อผงผสมเกศา ได้รับความนิยมมากกว่า หมดไปจากวัดนานแล้ว เนื้อผงคลุกรัก เมื่อเร็ว ๆ นี้ ยังพอมีอยู่ที่วัด พร้อม กับพระปิดตาเนื้อผงอิทธิเจ รุ่นแรก ให้บูชาไม่แพง หลักร้อยต้น ๆ ใครสนใจก็ต้องไปติดตามบูชากันเอาเอง หมดเมื่อไร นึกอยากได้ จะมาเสียใจภายหลัง จะหาว่าไม่เตือน

 

ขอบพระคุณมากครับ อ.เล็ก พลูโต สำหรับข้อมูลพระปิดตา หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง

ขออนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ

 

พระปิดตาพิมพ์ตุ๊กตาใหญ่ เนื้อผงผสมเกศา ลพ.อุ้น เป็นพระปิดตาอีกพิมพ์หนึ่งที่น่าสนใจ ขนาดฝรั่งอเมริกัน ที่ฮาวายยังแขวนเดี่ยว เมื่อคราวที่มาเมืองไทยเมื่อเดือนที่แล้ว และยังไปกราบหลวงพ่อที่ ร.พ.วิชัยยุทธ ทั้งที่มีพระเครื่องของหลวงพ่ออุ้นชั้นยอดมากมายกว่า ๑๐๐ องค์ เขาอาจจะมีประสบการณ์อะไรดี ๆ ที่ไม่ได้เล่าให้ใครฟังก็ได้ ดังนั้น อย่าได้มองข้ามพระปิดตาของหลวงพ่ออุ้นเป็นอันขาด ทราบมาว่า มีผงเก่าของหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ผสมทุกรุ่น มากบ้างน้อยบ้าง แต่มีแน่นอน โดยเฉพาะพระสมเด็จเหม็นองค์ที่ไม่สวย หรือ ชำรุด มักจะนำมาผสมกับพระเนื้อผงของท่านทุกรุ่นแน่นอนครับ

 

เรื่องของหลวงพ่ออุ้น ยังไม่จบนะครับ เพียงแต่ช่วงนี้ผมกำลังง่วนอยู่กับการทำหนังสือเรียน และแบบฝึกหัดโหราศาสตร์ เพื่อเปิดสอนอย่างเป็นทางการในราวเดือนพฤศจิกายนนี้น่ะครับ

ที่เข้ามาโพสวันนี้ ก็เพื่อที่จะบอกว่า วัตถุมงคลรุ่น "อายุยืน" ที่กำลังเปิดจองอยู่นั้น จัดสร้างขึ้นในขณะที่หลวงพ่ออุ้นกำลังอาพาธหนัก ต้องเข้าห้องไอซียู และห้องฟอกไต ดังนั้น โอกาสที่หลวงพ่อจะปลุกเสกนั้นคงไม่มี และตอนนี้วัตถุมงคลรุ่นนี้กำลังมีปัญหาวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนักถึงที่มาที่ไป ในเวปไซด์วัดตาลกง

ดังนั้น จึงขอให้ผู้ที่เคารพศรัทธาในองค์หลวงพ่ออุ้น อยากได้วัตถุมงคลของหลวงพ่อไว้สักการะบูชา ก่อนที่จะบูชาพระรุ่นนี้ ก็ขอให้คิดหน้าคิดหลังให้ดีเสียก่อน ทางที่ดี เช่าบูชาของตกค้างจากทางวัดเป็นดีที่สุด

 

ขอบพระคุณครับ พี่เล็ก ไม่ได้คุยกันนานน่ะครับพี่

 

สวัสดีครับ คุณเพชร
ช่วงนี้งานเข้าจริงๆ ครับ เลยไม่ได้เข้าเวปพลังจิตเป็นเดือนๆ ทั้งๆ ที่เรื่องของหลวงพ่ออุ้นยังมีอีกหลายตอนครับ ของๆ ท่านดีแท้แน่นอนครับ เมื่อสัปดาห์ก่อน ภรรยาผมตัดกระดาษ พลาดไปโดนนิ้วนางถึงห้อเลือด ไม่มีเลือดออกสักหยด แขวนตะกรุดเสริมดวงของหลวงพ่ออุ้นติดตัวเพียงดอกเดียวเท่านั้น อย่างนี้จะไม่ให้ผมเชียร์หลวงพ่อ ก็คงจะเกินไปกระมัง

 

วัดตาลกงเคยสร้างตะกรุดเสริมดวงอยู่ปีใหนผมก็จำไม่ได้แล้ว ผมอยากได้ก็ไปถามหลวงพ่อว่า "หลวงพ่อครับ ตะกรุดแบบเสริมดงยังมีอยู่ใหมครับ ผมจะได้บูชาเก็บไว้เป็นที่ระลึกสักดอกหนึ่ง" ท่านบอกว่า "หมดแล้ว" ผมก็ถามต่อไปว่า"หลวงพ่อแล้วดวงยันต์ที่จารในตะกรุดเป็นดวงของใคร" "เป็นดวงของพระพุทธเจ้า" ผมเห็นว่าวันนี้หลวงพ่ออารมณ์ดี เลยบอกกับท่านว่า "หลวงพ่อถ้าผมอยากได้ จะต้องอย่างไรบ้างครับ" "ถ้าอยากได้ก็หาแผ่นทองแดงมา"หลวงพ่อตอบ ผมก็บอกว่า "แล้วขนาดของแผ่นทองแดง มันกว้างยาวเท่าไหร่ล่ะครับหลวงพ่อถึงจะพอดี" "ก็หาแผ่นยันต์ที่มันเป็นรูปดวงนั่นแหละมีขายตามร้านสังฆภัณฑนั่นแหละใช้ได้" ผมได้โอกาสก็เลยรีบไปหาซื้อมา คนละแผ่นกับเพื่อน จากนั้นก็นำไปให้ท่านจารให้ สังเกตุดูนะครับ ช่วงที่ท่านจะจาร ท่านจะถาม วัน เดือน ปี เกิดก่อน แล้วก็จับยามสามตา นับนิ้ว จากนั้นก็จารและปลุกเสกให้เสร็จ แสดงถึงความชำนาญในการผูกดวงชะตามาก ไม่ต้องไปหาองศาลิบดา หมุนๆกระดาษอะไรทำนองนั้นอย่างที่หมอดูทำ พอท่านจารเสร็จก็ส่งแผ่นตะกรุดมาให้แล้วท่านก็บอกว่า "ม้วนให้ด้วย"เพราะท่านม้วนไม่ไหวเจ็บมือ พอม้วนเสร็จก็ส่งกลับคืนไปให้หลวงพ่อท่านก็นำไปประสิทธิ์ให้อีกครั้งหนึ่ง ก็ขอบคุณคุณเล็กนะครับที่ทำให้ผมระลึกถึงครั้งหนึ่งได้รับความเมตตาจากหลวงพ่อซึ่งจากการที่ได้ไปคลุกคลีช่วงเย็นๆหลังเลิกงาน ก็จะไปหาท่าน...บางทีก็ไปช่วยท่านตำหมาก ส่วนมากหลวงพ่อจะอารมณ์ดีตลอดเวลา โดยเฉพาะชาวบ้านแถบนั้นค่ำๆ จะจูงลูก จูงหลานมาให้ท่านประพรมน้ำพุทธมนต์ เด็กบางคนเจ็บไข้ ก็นำมาให้หลวงพ่อกวาดยาให้ ถ้าเป็นผู้ชายท่านก็กวาดให้เลย ถ้าเป็นผู้หญิงก็ให้ลูกศิษย์หรือถ้าแม่เด็กกวาดได้ก็ให้กวาดเอง...ท่านเป็นที่พึ่งของคนทุกชั้นทุกระดับจริงๆนะครับ...

 

ขอบคุณคุณเดชา มากครับ ที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตะกรุดเสริมดวง เรื่องเมตตาของหลวงพ่อนั้น เยี่ยมยอดครับ ผมนี่แหละเจอจังๆ เลย เกี่ยวกับเจ้านายที่ดุ และด่าเสียงดัง เรียกว่า ใครในออฟฟิศ ไม่โดนเป็นไม่มี ผมเองถ้าไม่ได้พระสมเด็จเหม็นติดตัววันนั้น มีหวังโดนแน่ๆ ก็จะไม่ให้โดนได้อย่างไร เล่นลืมกุญแจสำหรับไขเข้าไปเก็บงานในธนาคาร ลืมสนิทชนิดที่ว่า ไปถึงหน้าธนาคารแล้วถึงรู้ และระยะทางระหว่างบริษัทกับธนาคารน่ะ มันไกลกันมาก ขับรถเป็นชั่วโมง เรียกว่า ทำให้งานบริษัทเสียหาย เพราะเช็คที่เก็บจากธนาคาร จะต้องส่งบริษัท และบริษัทจะรวบรวมส่งศูนย์ของธนาคารภายในเวลาที่กำหนด ตอนนั้นบอกตรงๆ ว่า ลมแทบใส่ หัวใจแทบวาย (เป็นโรคหัวใจอยู่ด้วย) ยกสมเด็จเหม็นขึ้นจบ แล้วรำลึกถึงหลวงพ่อ ก่อนที่จะโทร.แจ้งไปยังบริษัทให้แก้ไข วันนั้นนึกว่าจะโดนด่าซะแล้ว ปรากฎว่า เจ้านายบอกให้ขับรถกลับมาเอากุญแจสำรองที่บริษัท ในขณะที่ขับรถไปได้สัก ๑๐ นาที ก็โทร.เข้ามาอีกว่า พบกันครึ่งทางก็แล้วกัน และสิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็คือ รถที่ติดทุกวันทั้งขาขึ้นขาล่อง วันนั้นกลับไม่ติดเลย ทำให้ทำเวลาได้เร็วขึ้น สรุปแล้ว วันนั้น แทนที่จะเสียเวลาล่าช้าส่งงานช้าไป ๑ ชั่วโมง ผมเสียเวลาแค่ ๒๐ นาที เท่านั้น ตอนไปส่งงานที่บริษัท เจ้านายกลับไปแล้ว วันนั้นก็หมดกังวลไปเปราะหนึ่ง

รุ่งขึ้นอีกวัน คิดว่าเจอเจ้านายเมื่อไร เป็นโดนเช็คบิลแน่ๆ ก็เลยอาราธนาขอพรพระสมเด็จเหม็นอีกครั้งหนึ่ง เมื่อเข้าบริษัท พรรคพวกที่รู้เรื่องก็ถามไถ่กันให้แซ่ด ผมก็ตอบไปว่า เมื่อวานไปทำกระจกหน้ารถมา (กระจกแตก) ได้เวลาเลยรีบร้อนออกจากบ้าน ลืมกุญแจเอาไว้ที่บ้านเสียสนิท ทีนี้ปกติเมื่อถึงบริษัทจะต้องเจอเจ้านายทุกครั้ง หรือไม่ ถ้ามีเรื่องเช่นนี้ เจ้านายจะต้องนั่งรอเช็คบิลแน่นอน ปรากฎว่าวันนั้น เจ้านายหยุดงาน ไม่มาทำงานซะงั้น โอ้โห โล่งใจไปอีกเปราะ แต่ก็ยังไม่วางใจอยู่ดี ตราบใดที่ยังไม่เผชิญหน้ากับเจ้านาย และโดนด่าล่ะก็ ไม่จบเรื่องแน่

รุ่งขึ้นอีกวัน ก็ทำอย่างเดิม ใช้คาถาบท นะระงับ ดับโทโส โม ละลายความคิด.... น่ะแหละ เมื่อเจอหน้าเจ้านายจังๆ ปรากฎว่า เจ้านายคงลืมไปแล้ว เลยรอดการถูกด่าอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ทุกคนในบริษัทก็ต้องเชื่อ ว่าปาฏิหาริย์มีจริง

หากจะเล่าประสบการณ์เรื่องเมตตา ยังมีอีกมากโข ไม่เฉพาะพระสมเด็จเหม็นเท่านั้น พระขุนแผนของท่านก็สุดยอด เอาไว้มีโอกาสนำเรื่องพระขุนแผนมาลงให้อ่าน ก็จะเล่าให้ฟังกัน

 

คาถาบท นะระงับ ดับโทโส โม ละลายความคิด....

เป็นคาถาอารธนาสมเด็จเหม็นเหรอครับพี่เล็ก ผมกำลังอยากได้อยู่เลยคร้าบบบ

 

ขอร่วมเผยแพร่ บารมีหลวงพ่ออุ้น ด้วยครับท่าน

พระขุนแผนทรงพลเล็ก เนื้อผงชมพู
หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง จ.เพชรบุรี
ออกให้บูชาปีพ.ศ.๒๕๔๘ จำนวน ๘,๐๐๐ องค์
ปั๊มโค๊ตตัว อุ ขอบล่าง ๑ตัว ขอรับท่าน

 

เป็นคาถาเมตตามหานิยม ที่ใช้กำกับพระเครื่องโดยทั่วไปน่ะครับ ผมมักใช้เป็นประจำ เวลาต้องการให้คนที่เราไปพบไปเจอ ให้เกิดความเมตตา ใช้ได้ผลทุกครั้งครับ ยิ่งกับพระสมเด็จเหม็น ซึ่งตอนนี้ สภาพสวยๆ ยันต์ติดชัดเจนหน้าหลัง ใครมีจะปล่อยให้ผม ก็เสนอมาได้นะครับ ผมให้อย่างต่ำหนึ่งหมื่นบาทครับ

สำหรับเหรียญรุ่นแรก เนื้ออัลปาก้า ราคาตอนนี้พุ่งพรวด จากเดิม ๑๒,๐๐๐ บาท มาอยู่ที่ ๑๕,๐๐๐ บาท ภายในระยะเวลาแค่ ๒ เดือนเท่านั้น

ใครยังไม่มีวัตถุมงคลของหลวงพ่อ ไม่ว่ารุ่นใด ๆ ซึ่งมีพุทธคุณเท่าเทียมกันหมด รีบหาซะนะครับ ยกเว้นรุ่นอายุยืน ที่กำลังเปิดจอง ตัวใครตัวมันครับ

 

รุ่นนี้ยังมีให้บูชาที่วัด สนใจเข้าไปที่เวปไซด์ของทางวัดได้ครับ สำหรับท่านที่ประสงค์จะบริจาคทรัพย์ทอดกฐินสามัคคี ในปีนี้ของทางวัด ทางวัดมีขอสมนาคุณให้สำหรับท่านที่บริจาคตั้งแต่ ๑๐๐ บาทขึ้นไป เป็นลูกสะกด เนื้อตะกั่วอวน สร้างและปลุกเสกในปี ๒๕๔๙ สนใจติดต่อทางวัดนะครับ ที่อื่นไม่มี

 

ขอบคุณครับ อ.เล็ก พลูโต (smile)

 

สุดยอดมากเลย

 

ประสบการณ์เหรียญอรหัง โดย หมอเทวินทร์<O</O
มีประสบการณ์ที่ผมไม่ค่อยพึงปรารถนามาเล่าให้ฟังอีกแล้ว เมื่อวันเสาร์ที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๕๓ ขณะขับรถมอเตอร์ไซด์ เวลาประมาณ ๑๑.๓๐ น. แดดกำลังร้อนระอุผมขับรถมอเตอร์ไซด์คู่ชีพ ด้วยความเร็วประมาณ ๖๐ ก.ม./ช.ม. เพื่อจะออกไปซื้อของที่ร้านค้าหน้าหมู่บ้าน เมื่อถึง ทางโค้งจึงเหยียบเบรคเท้าเพื่อชลอความเร็วของรถ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของการขับขี่ ขณะนั้นเองไม่ทราบเหมือนกันว่าเกิดเหตุขัดข้องอะไร จู่ ๆ ล้อรถได้หยุดนิ่งสนิท ทำให้ท้ายปัด คอรถสะบัดเสียหลักล้มลงบนพื้นถนนลาดยางแบบหยาบสุด ๆ (ทางประหยัด ยางมะตอยหินเม็ดโปน ๆ) ขณะที่ล้มใจก็นึกถึงหลวงพ่ออุ้น<O</O
ฉับพลัน มีเงาดำเหมือนมาอุ้มเรา ไม่ให้ไถลหน้าบานกับพื้นถนนเต็มแรง พอจะพยุงตัวได้แล้วก็ลุกขึ้นมาสำรวจตัวเองว่ามีแผลตรงไหน เชื่อใหมครับ คนมามุงดูนึกว่าต้องได้เลือด หรือมีถลอกเต็มตัว แต่ไม่ไปไรครับ มีเพียง หัวเข่า ข้อเท้า เท่านั้นบวมโปน ห้อเลือด เพียงเท่านั่นเอง ซักพักก็เอาร่างตัวเองที่คลุกฝุ่นไปโรงพยาบาลเพื่อให้หมอตรวจ ปกติดีครับพี่น้อง อิอิหุหุในคอคล้องเหรียญ อรหัง หลวงพ่อเพียงเหรียญเดียว ครับ<O</O
ปล. ใส่กางเกงขาสั้นชุดลำลองอยู่บ้านปกติ ขณะเกิดเหตุ<O</O
นับเป็นประสบการณ์อภินิหารที่เพิ่งเกิดขึ้นสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อไม่นานมานี้เองนะครับ คุณหมอเทวินทร์ ซึ่งเป็นทันตแพทย์ หรือ หมอฟัน ท่านเป็นผู้หนึ่งที่ให้ความเคารพหลวงพ่ออุ้นเป็น อย่างมาก ที่คอของท่านมีเพียงวัตถุมงคลของหลวงพ่ออุ้นเท่านั้น วันที่เกิดเหตุคงไม่ได้ไปไหนไกล จึงแค่แขวนเดี่ยวเหรียญอรหัง (เนื้อเงิน) เพียงเหรียญเดียว จึงทำให้ศิษย์หลวงพ่ออุ้นทั้งหลายทราบว่า วัตถุมงคลของหลวงพ่อนั้น ดีเด่น และสูงด้วยพุทธคุณทุกด้าน ทุกรุ่น ทุกรูปแบบ แม้จะสร้างในระยะหลัง ๆ หรือ เป็นรุ่นหลัง ๆ ไม่ใช่รุ่นที่นิยม ราคาแพงก็ตาม<O</O
อารมณ์ขันของหลวงพ่อ<O</O
หมู่เอก มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับ อารมณ์ขำ ๆ ของหลวงพ่ออุ้นครับ !!!<O</O
ในช่วงบ่ายวันหนึ่ง มี ๒ เณรน้อยเข้ามาขอวัตถุมงคลจาก ลพ.อุ้น บอกว่า หลวงพ่อ ผมขอพระคะแนน (สมเด็จเหม็น) ลพ.อุ้นยิ้ม ๆ ก่อนพูดติดตลกว่า "เณรอยากมีเมียเหรอ" เป็นเด็กอยู่อย่าเพิ่งรีบมีนะ มีแล้วมันวุ่นวาย ด่าเราทุกวันนะ แล้วท่านก็หัวเราะ ๒ เณรน้อยยิ้มเขิน ๆ ก่อนตอบว่าอยากได้ไปห้อยเวลาสึกแล้ว<O</O
หลวงพ่อบอกว่า นี่ ๆ เณร ยังไม่ทันไรคิดจะสึกแล้วเหรอ ถ้าให้ไปคงไปเปลี่ยนชุดแล้วสิ ยังไม่ต้องเอา อยากได้ของดี ต้องนวดก่อน เลือดลมเดินสบาย แล้วจะให้นะ ได้ฟังเท่านั้นแหละ ๒ เณรน้อย รีบนวดให้หลวงพ่อกันใหญ่ นวดไปนวดมา สงสัยเณรนวดได้ดีเกิน ผมแหงนหน้ามองอีกที หลวงพ่ออุ้นนอนหลับปุ๋ย <O</O
นวดไปนวดมาอีกสักพักใหญ่ ๆ หลวงพ่อท่านลืมตาขึ้นมา มองหน้าเณรยิ้ม ๆ ก่อนบอกว่า<O</O
"เณรๆ คะแนนยังไม่ต้องเอานะ เอานี้ไปล่ะกัน ว่าแล้วท่านก็ล้วงที่อังสะของท่าน หยิบพระรอด ๒ องค์ มาให้เณร" ก่อนพูดบอกเณรว่า "ไปไหนมาไหนบอกพระ เขาจะได้ตามเราไปด้วย พระรอด คนรอดด้วยนะ" เห็นดังนั้น ผมขอหลวงพ่อบ้างทันที ท่านรีบตอบกลับผมในทันทีเหมือนกัน<O</O
"มึงเอาไปทำไม ยังไม่ได้ทำอะไรเลย มานั่งดูเณรนวดกูเฉย ๆ ไม่ต้องเอา ไม่ลงทุนลงแรง แต่อยากได้กำไร รอไปก่อน วันหลังค่อยเอา" แป่ว สรุปวันนั้น ๒ เณรน้อย ได้พระรอดเหม็นคนละ ๑ องค์ หมู่เอกไม่ได้อะไรเลย แถมโดนหลวงพ่ออุ้นสนทนาด้วยภาษาพ่อขุนราม (ประจำ)<O</O
การใช้คาถาต้องมีสมาธิจิต<O</O
หมู่เอกขอขอบพระคุณ พี่ ๆ ทุกท่านเลยครับที่ช่วยชี้แนะความรู้ให้ พูดถึงเรื่องสมาธิจิต นี่ก็เป็นเรื่องจริงครับ อย่างเรา ๆ ส่วนใหญ่ก็นกแก้วนกขุนทองไป หมู่เอกมีเรื่องที่จริงที่จะมาเล่าให้รับทราบ....<O</O
เดือน กุมภาพันธ์ ปี ๒๕๔๘ นอนอยู่กับ หลวงพ่ออุ้น ช่วงกลางดึกท่านตื่นมาเข้าห้องน้ำ....ก่อนใช้เท้าสะกิดหมู่เอก เฮ้ย ๆ ทหาร พรุ่งนี้มึงตามพระไปบิณฑบาตนะ ไปช่วยถือของ ไอ้เราก็สลึมสลือ ครับ ๆ หลวงพ่อ เดี๋ยวผมตามไป แต่ว่า "พระเคยบอกผมว่า ละแวกบ้านตาลกงนี่ หมาดุ ไม่ใช่หรือครับ ยิ่งในสวนในไร่แล้วโคตรดุ" แล้วมันจะกัดผมป่าวเนี่ยะ.... .เออ !!! เดี๋ยวกูให้ของดีไปผูกปากหมาเท่านั้นละ หมู่เอกรีบคลานออกมาจากเต๊นท์นอนทันที แบบว่าสนใจอย่างแรงนิ !!!...........แล้วท่านก็บอกคาถาผูกปากหมามาให้ ๔ คำ แล้วก็บอกคาถาถอนมาให้อีก ๔ คำ ท่านบอก "ผูกปากแล้วต้องแก้ให้เขาด้วย เดี่ยวเขากินข้าวไม่ได้ เจ็บป่วยล้มตายไป เราจะบาป" <O</O
ได้ของดีตอนดึกอย่างนี้ ไอ้เราก็กระหยิ่มยิ้มย่อง นึกในใจเมิงโดนตูแน่เฟ้ยยย !!!! หลับไปตื่นมาอีกทีตอนเช้ามืด ประมาณ ตีห้ากว่า ๆ ก็รีบอาบน้ำแปรงฟัน สะพายย่าม ตามพระออกไปบิณฑบาท ภาวนาตั้งแต่ลงบรรไดวัดตาลกง พวกน้องหมาในวัดมันไม่เห่า (ก็มาเห็นหน้ากันเกือบทุกวันนี่หว่า) ไอ้เราก็แฮะ คาถา ลพ.ได้ผลเจ๋งจริง ๆท่องไปเรื่อย มาถึงบ้านญาติโยมแถววัด หลวงพี่ที่ไปด้วยรีบบอก <O</O
"เอก ๆ บ้านแถวนี้หมาดุทั้งนั้น ระวังหน่อยนะ เพราะเราไม่เคยมา " หมู่เอก ยิ้ม ๆ ก่อนบอก "หลวงพี่ไม่ต้องห่วงผมมีคาถาดี อิอิ" หลวงพี่ก็พยักหน้าหงึก ๆ เป็นอันว่ารับทราบ ภาวนาตลอดเวลา แต่ไอ้เจ้าน้องหมานี่สิ แทบที่จะสงบเสงี่ยม กลับเป็นเห่ากระโชก แยกเขี้ยว ยิงฟันขาว ไม่เหมือนสาว ๆ โฆษณาคอลเกตสักนิด แยกเขี้ยวขู่ไม่ว่า นี่เล่นวิ่งมาจะกัด ตอนนั้นก็เร่งภาวนา เห็นจวนตัวไอ้เสือเอาวา หมู่เอกเลยต้องรีบหยิบไม้ขู่ ถึงได้สงบเสงี่ยม สรุปวันนั้นเดินไปบ้านไหนก็มีแต่น้องหมา เห่าเตรียมตัวกัด (คาถาที่หลวงพ่อให้น่ะ ไม่สัมฤทธิ์ผลแฮะ) ขาเดินกลับวัด หลวงพี่ยังแซว "ว่าไงล่ะเอก ไปบ้านไหนก็เกือบโดนกัดนะ ไหนว่ามีของดี " <O</O
แต่ตอนนั้นหมู่เอกไม่มีอารมณ์ขำ หน้าบูด บ่นอุบตลอดทาง พอขึ้นกุฏิได้เท่านั้นละ รีบตรงดิ่งไปฟ้องหลวงพ่อทันที “หลวงพ่อ หลวงพ่อ ดูดิ คาถาที่ ลพ.ให้ไปใช้ไม่ได้ ผมเกือบโดนหมากัดแน่ะ ต้องใช้ หลวงพ่อไม้ อ่ะ ถึงเอาอยู่ พูดจบ หลวงพ่อ.ยิ้มหัวเราะ และยิ้มแก้มปริ ก่อนเมตตาตอบ "จิตต้องมั่นคงแข็งแรง มีความเชื่อมั่น มันถึงจะขลัง มึงเล่นนกแก้วนกขุนทอง พรุ่งนี้มึงไปลองใหม่ดูสิว่าจะได้ผลไหม” <O</O
หมู่เอกทำหน้าบูด บอกบุญไม่รับ เหอ ๆ ๆ ผมไม่เอาดีกว่า เอาไว้ลองในวัดดีกว่า ถ้าวันนี้ผมใช้คาถาหลวงพ่อคงต้องหามกลับวัดเป็นแน่...................พูดจบหลวงพ่อหัวเราะชอบใจ<O</O
ฟังหมู่เอกเล่าแล้ว ก็นึกถึงเรื่องของตนบ้าง ในสมัยที่ผมเป็นเด็ก ผมมีความจำเป็นต้องเดินผ่านสวนย่านวัดดีดวดทุกวัน สิ่งที่ผมกลัวมากที่สุดในตอนเดินผ่านสวนก็คือ “น้องหมา” นี่แหละครับ ใครไม่เคยมีประสบการณ์ไม่รู้หรอกว่า “หมาสวนน่ะดุแค่ไหน” ไม่ได้เห่าให้ตกใจกลัวอย่างเดียวนะครับ มันงับด้วย ไม่ใช่น่องนะขอบอก หมาพวกนี้มันกระโดดงับเอว งับก้น เลยทีเดียว แล้วเวลางับน่ะ ไม่ใช่งับแล้วปล่อยนะ มันงับแล้วสะบัดเขี้ยวด้วย ถ้ามันกัดจมเขี้ยวล่ะก็ เหวอะเลยเชียว ใครที่เคยโดนหมาสวนกัดล่ะก็ เป็นเข็ดกลัวไปจนตาย ดังนั้น ผมจึงไม่กล้าเดินผ่านสวนคนเดียวเป็นอันขาด ถ้าไม่มีผู้ใหญ่ที่บ้านไปด้วย ก็ต้องรอจนกว่าคนที่เขามีบ้านอยู่ในสวน หรือ เดินผ่านสวนในทางเดียวกัน เขาช่วยเดินไปเป็นเพื่อน แต่กระนั้น ก็ยังไม่วางใจครับ แม้ตำราจะว่า เดินตามหลังผู้ใหญ่หมาไม่กัดก็จริง เห็นจริงด้วยครับ หมามันไม่กัดผู้ใหญ่ แต่มันกัดเด็กที่เดินตามครับ เพราะผู้ใหญ่ตัวใหญ่กว่า เดินนำหน้าผ่านไปแล้ว มันไม่โง่ที่จะเสียเวลาอ้อมไปข้างหน้าเพื่อกัดผู้ใหญ่ ดังนั้น คำพังเพยที่ว่า คิดไปคิดว่า โดนผู้ใหญ่หลอกนี่หว่า<O</O
เนื่องจากบ้านผมอยู่ในเขตวัดชิโนรสฯ ซึ่งมีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังทั่วประเทศมาปลุกเสกพระเครื่องที่วัดบ่อย ๆ ผมจึงสนใจเรื่องของพระเครื่องรางของขลัง ที่พกพาติดตัวแล้ว หมาไม่กัด หรือ กัดไม่เข้า มาตั้งแต่เล็กแต่น้อย แน่นอนครับ ต้องมีประสบการณ์ที่หมากัดไม่เข้าเป็นแน่แท้ จึงเกิดความเชื่อมั่นในอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และพุทธคุณที่ปกป้องคุ้มครองภัยมาจนทุกวันนี้<O</O
คำถามที่หลวงพ่อไม่ยอมตอบ<O</O
เรื่องนี้หมู่เอกได้นำมาเล่าเอาไว้ในวันศุกร์ ที่ ๓ กรกฎาคม ๒๕๕๒<O></O>
หลังจากที่ ลพ.อุ้น ท่านสรงน้ำเสร็จ หมู่เอกก็ได้เข้าไปกราบนมัสการท่านตามปกติ เปิดห้องเข้าไปคราวนี้ ไม่ได้ออกตัวเหมือนเดิม (ทุกทีจะบอกว่า ลพ.ๆๆ ทหารมาแล้ว) ลพ.ได้ยินเสียงเปิดประตูดัง แกร๊ก ก็เลยถาม ใครน่ะ (หมู่เอกไม่ตอบ) ถามว่าใคร ถามย้ำมาอีกครั้ง คราวนี้เรานึกในใจ ถ้าไม่ตอบเดี๋ยวคงมีเฮ.... <O</O
ผมเองครับหลวงพ่อ ไม่กล้าตอบ แล้วปากมึงไม่มีเรอะ เป็นใบ้หรือไง ผมค่อย ๆ คลานเข้าไปกราบท่าน ก่อนเล่าเรื่อง หลวงปู่ทิม อดีตเจ้าอาวาสวัดพระขาว อยุธยา ที่มรณภาพแล้ว สังขารไม่เน่าเปื่อย ให้ท่านฟัง..... และหมู่เอกเลยแย็บต่อ.... "หลวงพ่อ ๆ เขาว่าพระที่สังขารไม่เน่าไม่เปื่อย หรือ กลายเป็นพระธาตุได้นี่ ต้องสำเร็จบางสิ่งบางอย่างใช่ป่าวครับ" หลวงพ่ออุ้น ไม่ตอบ แต่เหลือบตามามองหน้าหมู่เอก<O</O
"ทำไม อยากรู้ทำไม" “ก้อศิษย์อยากรู้" <O</O
“เรื่องของแต่ละคนเขา เขาจะทำยังไงก็เรื่องของเขา กูไม่เห็นใครทนไฟได้สักคน เดี่ยวก็มอดหมดอ่ะ” กล่าวจบท่านก็หัวเราะ <O</O
"หลวงพ่อตอบศิษย์ไม่ตรงคำถาม ศิษย์ถามว่า พระองค์นั้นต้องสำเร็จญาณ อะไรประมาณนี้หรือป่าว” คราวนี้ท่านหันมามองหน้าแบบดุ ๆ ก่อนกล่าว<O</O
"มึงนี่จิตมันฟุ้งซ่าน มานี่ ๆ ตัดเล็บให้กูดีกว่า" แหม ๆ ตัดบทศิษย์ซะอย่างนั้น<O</O
ฟังหมู่เอกเล่าในตอนนี้แล้ว ผมเห็นเป็นเรื่องธรรมดาครับ ที่พระเคร่งครัดในพระธรรมวินัยอย่างหลวงพ่อ ถึงกับได้รับสมณศักดิ์จากวงการสงฆ์ว่า“พระครูวินัยวัชรกิจ” ซึ่งแปลว่า พระครูซึ่งเคร่งครัดในพระธรรมวินัย ประพฤติปฏิบัติอย่างมั่นคงดุจเพชร” จะตอบคำถามในสิ่งที่พระวินัยห้ามเอาไว้ หรือที่เราเคยได้ยินกันบ่อย ๆ คือ “อวดอุตริมนุสธรรม” อันแปลว่า อวดคุณวิเศษที่ไม่มีในตน แต่ก็นั่นแหละครับ หากพระภิกษุผู้นั้นมีคุณวิเศษล่ะ อวดได้ไหม ข้อนี้ตอบว่า อวดได้แน่นอนครับ แต่ท่านมักไม่โอ้อวดหรือบอกใคร เพราะพระพุทธเจ้าท่านไม่ทรงสรรเสริญ หรือ ให้กระทำเช่นนั้น ดังจะเห็นได้จากการที่พระอรหันต์ในสมัยพุทธกาลหลายองค์ ได้แสดงฤทธิ์ให้เป็นที่ปรากฎแน่ชัดต่อสายตาของพุทธศาสนิกชนมาแล้ว แม้แต่พระพุทธองค์ก็ยังทรงแสดงฤทธิ์เมื่อถึงคราวจำเป็นที่จะต้องกำหราบพวกเดียรถีย์ (นักบวชนอกพระพุทธศาสนา) เช่นกัน<O</O
สำหรับ เหรียญอรหัง ที่เพิ่งมีประสบการณ์ไม่นานมานี้ เป็นเหรียญที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น เพราะเป็นรุ่นเดียวที่สร้างเป็น รูปอาร์ม หรือ รูปโล่ห์ และทางวัดจัดสร้างน้อยมาก คือ เหรียญทองคำสร้าง ๓ เหรียญ, เงิน ๑๕๘ เหรียญ,นวะโลหะ ๓๑๕ เหรียญ,อัลปาก้า ๑,๐๔๑ เหรียญ และ ทองแดงรมดำ ๓,๘๐๐ เหรียญ รวมทั้งหมด ๕,๓๑๗ เหรียญ จึงได้รับความนิยมอย่างมาก <O</O