เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน

อะไรคือธาตุมูลฐาน (Fundamental) ของสรรพสิ่ง

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Chayutt, 18 สิงหาคม 2008.

แท็ก: เพิ่มแท็ก

หน้า 7 ของ 8

Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

วันที่สมัครสมาชิก:

3 สิงหาคม 2005

โพสต์:

6,408

ค่าพลัง:

+50,772
การสลายของอนุภาค และการทำลายล้าง (Particle Decays and Annihilations)
<link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><style>  </style> <link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><style>  </style><link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><style>  </style><link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><style>  </style><link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><style>  </style> <link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><style>  </style> <link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><style>  </style> มวลที่หายไป (Missing Mass)
<hr><hr>   <link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><style>  </style> เรายังจำเป็นต้องตอบคำถามนั้นอยู่ ว่ามวลที่หายไปจากการสลายของธาตุกัมมันตภาพรังสีหายไปไหน

ย้อนกลับไปที่พวกเราได้กล่าวว่า เมื่อยูเรเนี่ยมสลายไปเป็นทอเรียมและอนุภาคแอลฟ่า

จะมีมวลที่หายไป = 0.0046 หน่วย

<link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><style>  </style>เหมือนอย่างที่ไอน์สไตน์พูดไว้ว่า

“มวลคือรูปแบบหนึ่งของพลังงาน”,

<center>

</center><link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><style>  </style> ดังนั้น เมื่อยูเรเนี่ยมนิวไคลเกิดการสลายกัมมันตภาพรังสีขึ้น
มวลบางส่วนของมันได้เปลี่ยนไปเป็นพลังงานจลน์ (พลังงานของอนุภาคที่กำลังเคลื่อนที่)
การเปลี่ยนไปเป็นพลังงานดังกล่าวนี้ จึงปรากฎออกมาในรูปของมวลที่หายไป

......................................
#Facebook: Chayutt Naowarat https://web.facebook.com/chayutt.deejaroen
#เพจขายหินออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย: Alchemistic Power of Stones (https://facebook.com/chayutt.naowarat) สร้อยข้อมือ, สร้อยคอ, กำไลข้อมือ, แหวน (เครื่องประดับ), ต่างหู, หินแท้, หิน, คริสตัล, หยก, อัญมณี, ประคำ, ไข่มุก, เขี้ยวหนุมาน, แซฟไฟร์, ทับทิม (อัญมณี), มุกดา, หินออบซิเดี้ยน, โอปอล, ควอตซ์, อำพัน, มรกต, หินตาเสือ, ไคยาไนต์, โกเมน, อะซูไรต์, เบริล, ทัวร์มาลีน, Earing, Pendant, Bangle, Topaz, Jewellery Store

Chayutt, 16 พฤศจิกายน 2009

#121
Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

วันที่สมัครสมาชิก:

3 สิงหาคม 2005

โพสต์:

6,408

ค่าพลัง:

+50,772

การสลายของอนุภาค และการทำลายล้าง (Particle Decays and Annihilations)
<link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><style>  </style> <link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><style>  </style><link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><style>  </style><link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><style>  </style><link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><style>  </style> <link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><style>  </style> <link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><style>  </style> <link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><style>  </style> ตัวกลางแห่งการสลายอนุภาค (Particle Decay Mediators)
<hr>   <link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><style>  </style> ในขณะที่นิวเคลียสของอะตอมของธาตุๆหนึ่ง สามารถสลายไปเป็นนิวเคลียสของอะตอม
ของอีกธาตุๆหนึ่งที่มีมวลน้อยกว่าได้ โดยการแตกออกเป็นส่วนๆ

แล้วอนุภาคมูลฐานเหล่านี้ สามารถสลายไปเป็นอนุภาคมูลฐานชนิดอื่นๆได้อย่างไร?

อนุภาคมูลฐานไม่สามารถที่จะแตกแยกย่อยต่อได้อีกไม่ใช่เหรอ?
เพราะว่ามันไม่ได้ประกอบด้วยส่วนประกอบใดๆ

แต่ในทางตรงกันข้าม ไม่ว่าด้วยวิธีใดก็ตาม พวกมันก็สามารถกลับกลายไปเป็นอนุภาคชนิดอื่นๆได้

<link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><style>  </style> มันกลายเป็นว่า เมื่ออนุภาคมูลฐานเกิดการสลาย มันจะเปลี่ยนไปเป็นอนุภาคที่มีมวลน้อยกว่าชนิดหนึ่ง
และอนุภาคขนส่งแรงอีกชนิดหนึ่ง (ปกติจะเป็นอนุภาค W โบซอนชนิดใดชนิดหนึ่ง)
ซึ่งอนุภาคขนส่งแรงเหล่านี้ ในที่สุด ก็อาจจะกลับมารวมตัวกันเกิดเป็นอนุภาคชนิดใหม่ขึ้นมาได้อีก

ดังนั้น อนุภาคชนิดหนึ่งๆ ไม่ใช่จะเพียงสามารถเปลี่ยนไปเป็นอนุภาคชนิดอื่นๆได้เท่านั้น
แต่มันยังมีอนุภาคขนส่งแรง ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างกลางของกระบวนการสลายเหล่านี้ด้วย

<link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><style>  </style>ในหลายกรณี อนุภาคขนส่งแรงที่เกิดขึ้นชั่วคราวเหล่านี้ มีพฤติกรรมที่ดูเหมือนจะแหกกฎการอนุรักษ์พลังงาน
เพราะว่ามวลของพวกมันมีมากกว่าพลังงานที่หาได้ในปฏิกิริยา แต่อย่างไรก็ตาม
อนุภาคเหล่านี้ก็ดำรงอยู่เพียงแป๊บเดียว เพราะว่ากฎแห่งความไม่แน่นอนของไฮเซนเบิร์ก
(Heisenberg's Uncertainty Principle) ไม่สามารถละเมิดได้

ดังนั้น เราจึงเรียกอนุภาคชั่วคราวเหล่านี้ว่า “อนุภาคเสมือน”(Virtual particle)<table width="507" border="0" height="24"><tbody><tr><td width="75%" valign="TOP">
</td><td width="25%" valign="TOP">
</td></tr></tbody></table>

#Facebook: Chayutt Naowarat https://web.facebook.com/chayutt.deejaroen
#เพจขายหินออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย: Alchemistic Power of Stones (https://facebook.com/chayutt.naowarat) สร้อยข้อมือ, สร้อยคอ, กำไลข้อมือ, แหวน (เครื่องประดับ), ต่างหู, หินแท้, หิน, คริสตัล, หยก, อัญมณี, ประคำ, ไข่มุก, เขี้ยวหนุมาน, แซฟไฟร์, ทับทิม (อัญมณี), มุกดา, หินออบซิเดี้ยน, โอปอล, ควอตซ์, อำพัน, มรกต, หินตาเสือ, ไคยาไนต์, โกเมน, อะซูไรต์, เบริล, ทัวร์มาลีน, Earing, Pendant, Bangle, Topaz, Jewellery Store

Chayutt, 16 พฤศจิกายน 2009

#122
Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

วันที่สมัครสมาชิก:

3 สิงหาคม 2005

โพสต์:

6,408

ค่าพลัง:

+50,772
การสลายของอนุภาค และการทำลายล้าง (Particle Decays and Annihilations)
<link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><style>  </style> <link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><style>  </style><link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><style>  </style><link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><style>  </style><link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><style>  </style> <link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><style>  </style> <link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><style>  </style> <link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><style>  </style> <link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><style>  </style>อนุภาคเสมือน (Virtual Particles)<hr><table border="0"> <tbody><tr> <td width="75%"><link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><style>  </style>อนุภาคสลายไปเป็นอนุภาคขนส่งแรงได้ แต่ในบางกรณี อนุภาคบางอย่างก็สลายไปเป็นอนุภาคขนส่งแรงที่มีมวลมากกว่าอนุภาคตั้งต้นได้ แต่อนุภาคระหว่างกลางเหล่านี้ ก็จะถูกเปลี่ยนรูปไปเป็นอนุภาคที่มีมวลน้อยกว่าโดยทันทีอีกทอดหนึ่ง ซึ่งอนุภาคที่มีอายุสั้นแต่มวลมากเหล่านี้ ดูเหมือนพวกมันจะละเมิดกฎการอนุรักษ์พลังงานและมวลซะด้วย เพราะว่ามวลของพวกมันไม่รู้ว่ามาจากไหน

<link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><style>  </style> ผลของกฎแห่งความไม่แน่นอนของไฮเซนเบิร์ก (Heisenberg's Uncertainty Principle) คือว่าอนุภาคที่มีมวลมากเหล่านี้ อาจจะมีอยู่ได้ ถ้าพวกมันมีช่วงชีวิตที่สั้นอย่างไม่น่าเชื่อแบบนี้ อีกอย่างหนึ่ง พวกมันสามารถรอดพ้นจากการสังเกตได้ ดังนั้นอนุภาคเหล่านี้ จึงถูกเรียกว่า อนุภาคเสมือน (virtual particles)

<link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><style>  </style> อนุภาคเสมือนไม่ได้แหกกฎการอนุรักษ์พลังงาน พลังงานจลน์บวกกับมวลของอนุภาคตั้งต้นที่สลายและผลิตภัณฑ์สุดท้ายของการสลายนี้ มีค่าเท่ากัน อนุภาคเสมือนมีอยู่เพียงแค่ช่วงระยะเวลาสั้นมากๆช่วงหนึ่ง ซึ่งไม่ทำให้ทันสังเกตุเห็นพวกมันได้

<link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><style>  </style> กระบวนการของอนุภาคส่วนใหญ่ มีอนุภาคเสมือนเป็นตัวกลาง ตัวอย่างเช่น การสลายของนิวตรอน-เบต้า, การผลิตอนุภาคมีเสน่ห์ (charm particle), และการสลายของอนุภาค eta-c ซึ่งทั้งหมดนี้ เราจะมากล่าวถึงในเบื้องลึกกัน เร็วๆนี้

..................................................
</td><td width="25%" valign="TOP">
</td></tr></tbody></table>
#Facebook: Chayutt Naowarat https://web.facebook.com/chayutt.deejaroen
#เพจขายหินออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย: Alchemistic Power of Stones (https://facebook.com/chayutt.naowarat) สร้อยข้อมือ, สร้อยคอ, กำไลข้อมือ, แหวน (เครื่องประดับ), ต่างหู, หินแท้, หิน, คริสตัล, หยก, อัญมณี, ประคำ, ไข่มุก, เขี้ยวหนุมาน, แซฟไฟร์, ทับทิม (อัญมณี), มุกดา, หินออบซิเดี้ยน, โอปอล, ควอตซ์, อำพัน, มรกต, หินตาเสือ, ไคยาไนต์, โกเมน, อะซูไรต์, เบริล, ทัวร์มาลีน, Earing, Pendant, Bangle, Topaz, Jewellery Store

Chayutt, 16 พฤศจิกายน 2009

#123
Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

วันที่สมัครสมาชิก:

3 สิงหาคม 2005

โพสต์:

6,408

ค่าพลัง:

+50,772

มาถึงจุดนี้แล้ว ผมเข้าใจดีว่าผู้อ่านทั่วๆไป คงเริ่มจะรู้สึกเอ๋อๆกันบ้างแล้วใช่ไหมหละครับ

ผมเองก็เช่นกันครับ...แต่ว่า มันมีส่วนสำคัญที่อยากให้ท่านได้คุ้นหูเอาไว้ก่อน

เช่น เรื่อง

"มวลที่หายไป"

"มวลคือรูปแบบหนึ่งของพลังงาน"

"อนุภาคเสมือน"

"อนุภาคชนิดหนึ่ง สามารถสลายไปเป็นอนุภาคอีกชนิดหนึ่งได้"

อะไรแบบนี้เป็นต้น

ต่อไปจะเริ่มลงลึกไปอีกขั้นแล้วนะครับ แต่เดี๋ยวเอาไว้มาต่อวันหลังนะครับ

วันนี้ เอ๋อมากพอแล้ว น้ำลายยืดพอแล้วครับ

..................................

#Facebook: Chayutt Naowarat https://web.facebook.com/chayutt.deejaroen
#เพจขายหินออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย: Alchemistic Power of Stones (https://facebook.com/chayutt.naowarat) สร้อยข้อมือ, สร้อยคอ, กำไลข้อมือ, แหวน (เครื่องประดับ), ต่างหู, หินแท้, หิน, คริสตัล, หยก, อัญมณี, ประคำ, ไข่มุก, เขี้ยวหนุมาน, แซฟไฟร์, ทับทิม (อัญมณี), มุกดา, หินออบซิเดี้ยน, โอปอล, ควอตซ์, อำพัน, มรกต, หินตาเสือ, ไคยาไนต์, โกเมน, อะซูไรต์, เบริล, ทัวร์มาลีน, Earing, Pendant, Bangle, Topaz, Jewellery Store

Chayutt, 16 พฤศจิกายน 2009

#124
datedoctor เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

20 ตุลาคม 2008

โพสต์:

539

ค่าพลัง:

+678
หมายเหตุ: มาแก้ไขข้อผิดพลาดที่เห็นได้ชัดในกระทู้นี้นะครับ

ข้อความที่ว่า"นิวเคลียสของฮีเลี่ยมเป็นประเภทอนุภาคโบซอน(ผิดนะครับ) (มีนิวตรอน 2 ตัว และโปรตอน 2 ตัว)
เพราะฉะนั้น มันจึงไม่เคยตกผลึกเลย แม้ว่าจะทำให้เย็นลงไปจนถึงระดับเกือบถึงอุณหภูมิศูนย์สมบูรณ์
(absolute zero) ก็ตาม มันจะกลายเป็น”ของเหลวยิ่งยวด”(Superfluid) เท่านั้น
ซึ่งเป็นของเหลวที่มีคุณสมบัติแปลกประหลาดมากชนิดหนึ่ง เช่น มีความหนืดเป็นศูนย์
และปราศจากแรงตึงผิว "

ที่ถูกต้องจะต้องเป็นฮีเลียมเหลวปกติ(He4)จะมีนิวเคลียส์เป็น เฟอร์มิออนไม่ใช่โบซอน ครับ

คือมีโปรตอน2 นิวตรอน2 และมีอิเล็กตรอน2รอบๆนิวเคลียส์ การมีเฟอร์มิออนเป็นจำนวนคู่ทำให้มันสามารถประพฤติตัวเหมือนมันประกอบมาจากโบซอนได้ นั้นคือมีพฤติกรรมเหมือนของเหลวยิ่งยวด

แต่ในทางกลับกันฮีเลียม3เหลว(He3)ที่มีนิวตรอนเพียง1ตัวจึ่งทำตัวแบบโบซอนคือจะไม่เกิดการเกาะกลุ่มแบบโบส-ไอสน์ไตน์

นี่คือตัวอย่างเล็กๆที่ผิดพลาดนะครับยังมีอีกหลายจุด ที่ต้องแก้ไขเพื่อความถูกต้องตามหลักวิชาการนะครับ
เพื่อประโยช์ในการใช้อ้างอิงต่อไป

แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤศจิกายน 2009

datedoctor, 17 พฤศจิกายน 2009

#125
- ถูกใจ x 1
- ดูรายการ
Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

วันที่สมัครสมาชิก:

3 สิงหาคม 2005

โพสต์:

6,408

ค่าพลัง:

+50,772

ขอบคุณที่ช่วยตรวจสอบให้อีกแรงนะครับ

แต่ข้อความต้นฉบับเขาบอกมาแบบนี้หนะครับ
เอ..หรือว่าผมแปลผิดก็อาจจะเป็นไปได้นะครับ

ลองช่วยกันดูหน่อยนะครับ

http://pdg.web.cern.ch/pdg/particleadventure/frameless/answer_helium.html

"Helium has a boson nucleus (two neutrons and two protons), so it does not ever crystallize, even when cooled to almost absolute zero. It becomes a "superfluid," which is a liquid with strange properties such as having zero viscosity and no surface tension. We will probably discover other strange properties of atoms with boson nuclei in the future."

.........................................................

#Facebook: Chayutt Naowarat https://web.facebook.com/chayutt.deejaroen
#เพจขายหินออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย: Alchemistic Power of Stones (https://facebook.com/chayutt.naowarat) สร้อยข้อมือ, สร้อยคอ, กำไลข้อมือ, แหวน (เครื่องประดับ), ต่างหู, หินแท้, หิน, คริสตัล, หยก, อัญมณี, ประคำ, ไข่มุก, เขี้ยวหนุมาน, แซฟไฟร์, ทับทิม (อัญมณี), มุกดา, หินออบซิเดี้ยน, โอปอล, ควอตซ์, อำพัน, มรกต, หินตาเสือ, ไคยาไนต์, โกเมน, อะซูไรต์, เบริล, ทัวร์มาลีน, Earing, Pendant, Bangle, Topaz, Jewellery Store

Chayutt, 17 พฤศจิกายน 2009

#126
datedoctor เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

20 ตุลาคม 2008

โพสต์:

539

ค่าพลัง:

+678
คือที่ผมบอกนะไม่ผิดหรอกครับ เหตุผลง่ายเพราะมันเป็นสมบัติที่นักฟิสิกส์ทุกคนรู้จักดี(อันนี้ผมเรียนตอนป.ตรีปี2ที่MITและเพื่อนผมที่เป็นอ.เคมีที่ม.ช กำลังทำวิจัยอยู่ ผมยังเคยช่วยเข้าใช้กลศาสตร์เมทริซ์คำนวณให้เขาเลยตอนทำปริญญาโท เพื่ออธิบายว่าการเคลื่อนที่แบบสั้นทางควอนตัมตามหลักความไม่แน่นอน ทำให้การเคลื่อนที่ที่จุดศูนย์ของฮีเลียมมีขนาดใหญ่แค่ไหน? อันที่จริงก็มีฝรั่งทำไว้แล้ว )
ว่ามันประหลาดเช่นไรในตอนเรียนสถิตแบบโบส ไอสน์ไตน์ (เพราะไม่ว่าอุณหภูมิจะเข้าใกล้ศูนย์เพียงไรมันก็ยังเป็นของเหลว)

คนแรกที่ชี้ให้เห็นคือฟริสซ์ ลอนดอน ในปี1938คุณสามารถอ่านผลงานของเขาได้ครับ

ปัจจุบันก็ยังเป็นที่ศึกษากันอยู่เกี่ยวกับสมบัติประหลาดของมัน เช่นเร็วนี้เราพบการเกาะกลุ่มแบบโบสในอิเลียมเหลวชนิดใหม่ที่อุณหภูมิ 0.002K He3จะประพฤติตัวเหมือนโบซอนแทนเพราะแรงดึงดุดอ่อนๆมีขนาดพอจะทำให้มันอยู่เป็นคู่ๆ
การค้นพบนี้เองที่ทำให้
ดักลาส ออชเชอร์ โรเบิร์ต ริชาร์ดสัน เดวิดลี ได้รับรางวัลโนเบลในปี1996

แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤศจิกายน 2009

datedoctor, 17 พฤศจิกายน 2009

#127
- ถูกใจ x 1
- ดูรายการ
datedoctor เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

20 ตุลาคม 2008

โพสต์:

539

ค่าพลัง:

+678
อ้อทั้ง3คนนี้อยู่ที่มหาวิทยาลัยคอร์แนลล์นะครับ
และขอเสริมว่าการเกาะกลุ่มแบบโบส์ไอสน์ไตน์เนี่ย ถูกสร้างในห้องทดลองครั้งแรก โดยอีริก คาร์แนลล์ และคาร์ล วีแมน ในปี1995

datedoctor, 17 พฤศจิกายน 2009

#128
- ถูกใจ x 1
- ดูรายการ
datedoctor เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

20 ตุลาคม 2008

โพสต์:

539

ค่าพลัง:

+678

อีกข้อความนะครับ เกี่ยวกับEmpedocles เป็นคนแรกที่จำแนกธาตุมูลฐานออกเป็น
ธาตุดิน น้ำ ลม และไฟ ถึงแม้ว่าจะมีแผนภาพบางส่วนของพวกเราชี้ว่าคือAristotle
ก็ตามอันนี้ไม่ผิดหรอกครับแต่ไม่ครบถ้วนเพราะธาตุพื้นฐานที่อริสโตเติ้ลเชื่อมีอีก1จาก4คือ อีเทอร์(ธาตุแห่งท้องฟ้า)เป็นการปรับปรุงแนวคิดของEmpedocles

แต่ปฐมสสารจริงสำหรับอริสโตเติ้ลคือ
คุณสมบัติ4อย่างดังนี้คือ ร้อน เย็น แห้ง เปียก
โดยที่คุณสมบัติตรงข้างรวมกันไม่ได้
ดังนั้น
เมื่อร้อนกับแห้งรวมกันเราจะได้ไฟ

เมื่อเย็นและเปียกรวมกันจะได้น้ำ

เมื่อร้อนและเปียกรวมกันจะได้ลม

เมื่อเย็นและแห้งรวมกันจะได้ดิน
แนวคิดนี่เองที่เป็นจุดเริ่มต้อนของการเล่นแร่แปรธาตุ
ต่อมาก็มีการปรับปรุงโดยชาวมุสลิมในยุดมืด
โดยเปลี่ยนเป็น กัมมะถัน ปรอท และตะกั่ว คือธาตุปฐมแทน

datedoctor, 17 พฤศจิกายน 2009

#129
datedoctor เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

20 ตุลาคม 2008

โพสต์:

539

ค่าพลัง:

+678

ต่อมาไฟไม่ธาตุแต่เป็นปฏิกริยาทางเคมีชนิดหนึ่ง
น้ำเองก็เป็นสารประกอบของธาตุ

ดินและลมเป็นสารผสมครับ

ส่วน
(Democritus - 400 ปีก่อนคริสตกาล)
ไม่ใช่คนแรกที่เสนอสมมุติฐานเกี่ยวกับอะตอม แต่เป็นคนแรกที่เรียกมันว่าอะตอมอส
คนแรกที่เสนอคือครูของเขาชื่อลูซิปุส แห่งไมลิตัส ไม่ใช่ดีโมเคตุศแห่ง เอ็บดาราตรับ

ซึ่งเราสามารถอ่านได้จากงานเขียนของอริสโตเติ้ล

แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤศจิกายน 2009

datedoctor, 17 พฤศจิกายน 2009

#130
datedoctor เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

20 ตุลาคม 2008

โพสต์:

539

ค่าพลัง:

+678

มาที่การทดลองที่บอกว่าอะตอมมีส่วนประกอบอื่นอีกคื่อการทดลองหลอดรังสีแคโทสโดยทอมสัน
และการทดลองการกระเจิงของอนุภาคแอลฟ่าโดยรัทเทอร์ฟอร์ดและหยดน้ำมันของมิลิแกน

datedoctor, 17 พฤศจิกายน 2009

#131
datedoctor เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

20 ตุลาคม 2008

โพสต์:

539

ค่าพลัง:

+678
ทำไมเราจึ่งเราไม่รู้ว่าจริงๆแล้วควาร์กและอิเล็กตรอน มีขนาดเล็กแค่ไหน
คำตอบคือเพราะหลักความไม่แน่นอนในการวัดห้ามไว้นั้นเอง(อันนี้เพิ่ม)
เยอะมากครับตาลายเลยครับเวลาจะแก้ให้นี่น่าจะเหลืออีกหลายจุด

มันไม่ผิดหรอกครับแต่ไม่ครบถ้วน

ปัจจุบันนักทฤษฏีสตริงสามารถที่จะตอบคำถามได้แล้วนะครับว่าทำไมจึ่งมีอนุภาคสสารมากกว่าปฏิสสาร 1ในนั้นก็คืออ.ของผม คารัม วาฟา

ส่วนเรื่องปฏิสสารนี่นองจากเราจะใช้แนวคิดของหลักความไม่แน่นอนของพลังงานและเวลาตามแบบของดิเรกแล้ว

เรายังสามารถใช้แนวคิดว่าปฏิสสารเกิดจากอนุภาคสสารของมันเคลื่อนที่ย้อนเวลากลับได้ด้วย ตามแนวความคิดของไฟน์ยแมน ซึ่งแนวคิดนี้เป็นการตีความที่ไม่ปกตินักในการทำความเข้าใจกลศาสตร์ควอนตัม

datedoctor, 17 พฤศจิกายน 2009

#132
- ถูกใจ x 1
- ดูรายการ
Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

วันที่สมัครสมาชิก:

3 สิงหาคม 2005

โพสต์:

6,408

ค่าพลัง:

+50,772
Heureuse said: ↑

กรรม ขอโทษ คุณเข้าใจว่าเราเข้าใจเช่นนั้น นั่นผิดเเล้ว เราเห็นด้วยที่คุณเขียนกระทู้นี้ขึ้นมาเราเห็นด้วยมากๆ นอกจากความรู้ที่คุณเขียนมานี้เเล้ว เรายังได้มองเห็นอย่างอื่นด้วย(นี่หมายความว่าได้ความรู้ทางฟิสิกส์ เเละในเวลาเดียวกัน...ก็ได้อย่างอื่นด้วย) นี่ต่างหากที่เราต้องการจะบอก เราถึงได้บอกว่ากกระทู้ของคุณมีประโยชน์มากๆ เรามิได้มีเจตนาหรือความคิดที่ขัดเเย้งต่อกระทู้ของคุณเลย
Click to expand...

อย่ากังวลไปเลยครับ ผมก็บอกแล้วว่า "ผมเดา" เฉยๆหนะครับ
อันที่จริง ความรู้สึกในแง่ลบหรือไม่พอใจอะไรเกี่ยวกับคุณหนะ
ผมไม่มีเลยครับ..

ผมกล่าวไปรวมๆ เพื่อบอกถึงเจตนาของกระทู้นี้อีกครั้งหนึ่งเท่านั้นเองแหละครับ

บางทีอ่านแล้วมันอาจจะดูคล้ายๆกับโกรธ หรือไม่พอใจ อันที่จริงนั้น หามิได้

เพราะฉะนั้นอย่ากังวล ถ้าเข้าใจอะไรกันผิด ก็แค่บอกกัน แล้วเข้าใจกันใหม่เท่านั้นเองครับ

ดีแล้วหละครับ ที่เราแบ่งปันประสบการณ์ ความรู้ และข้อมูลซึ่งกันและกัน

อันนี้ผมหมายรวมถึงทุกๆคนนะครับ เพราะผมมองว่าพวกเราหนะต่างก็เป็นนักเรียนด้วยกันทุกคน
เพราะฉะนั้น การอภิปรายในจุดที่ตนเองอ่านมา เข้าใจแล้ว รู้มากกว่าเพื่อนแล้ว
ก็เอามาแชร์ให้เพื่อนฟัง อันนี้ดีครับ เพราะเพื่อนก็จะพลอยได้ประโยชน์ไปด้วย

เดี๋ยวอีกสัก 2 - 3 วัน ผมจะมาต่อกระทู้นี้ให้อีกนะครับ
ช่วงนี้ ขอเคลียร์พระไตรปิฎกเสียงก่อนครับ ยังค้างเขาอยู่อื้อเลยครับ

...........................................

#Facebook: Chayutt Naowarat https://web.facebook.com/chayutt.deejaroen
#เพจขายหินออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย: Alchemistic Power of Stones (https://facebook.com/chayutt.naowarat) สร้อยข้อมือ, สร้อยคอ, กำไลข้อมือ, แหวน (เครื่องประดับ), ต่างหู, หินแท้, หิน, คริสตัล, หยก, อัญมณี, ประคำ, ไข่มุก, เขี้ยวหนุมาน, แซฟไฟร์, ทับทิม (อัญมณี), มุกดา, หินออบซิเดี้ยน, โอปอล, ควอตซ์, อำพัน, มรกต, หินตาเสือ, ไคยาไนต์, โกเมน, อะซูไรต์, เบริล, ทัวร์มาลีน, Earing, Pendant, Bangle, Topaz, Jewellery Store

Chayutt, 17 พฤศจิกายน 2009

#133
- ถูกใจ x 1
- ดูรายการ
Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

วันที่สมัครสมาชิก:

3 สิงหาคม 2005

โพสต์:

6,408

ค่าพลัง:

+50,772

datedoctor said: ↑

ทำไมเราจึ่งเราไม่รู้ว่าจริงๆแล้วควาร์กและอิเล็กตรอน มีขนาดเล็กแค่ไหน
คำตอบคือเพราะหลักความไม่แน่นอนในการวัดห้ามไว้นั้นเอง(อันนี้เพิ่ม)
เยอะมากครับตาลายเลยครับเวลาจะแก้ให้นี่น่าจะเหลืออีกหลายจุด

มันไม่ผิดหรอกครับแต่ไม่ครบถ้วน

ปัจจุบันนักทฤษฏีสตริงสามารถที่จะตอบคำถามได้แล้วนะครับว่าทำไมจึ่งมีอนุภาคสสารมากกว่าปฏิสสาร 1ในนั้นก็คืออ.ของผม คารัม วาฟา

ส่วนเรื่องปฏิสสารนี่นองจากเราจะใช้แนวคิดของหลักความไม่แน่นอนของพลังงานและเวลาตามแบบของดิเรกแล้ว

เรายังสามารถใช้แนวคิดว่า ปฏิสสารเกิดจากอนุภาคสสารของมันเคลื่อนที่ย้อนเวลากลับได้ด้วย ตามแนวความคิดของไฟน์ยแมน ซึ่งแนวคิดนี้เป็นการตีความที่ไม่ปกตินักในการทำความเข้าใจกลศาสตร์ควอนตัม
Click to expand...

ในกระทู้ถัดไปของผม (ตอนนี้ยังไม่ได้ตั้งนะครับ แต่คาดว่าจะตั้งหลังจากผมอ่านและแปลไปได้เยอะพอสมควรแล้ว)
จะมีกล่าวถึงเรื่องเกี่ยวกับการเดินทางย้อนเวลาของอนุภาคระดับควอนตัม
หรือถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ การเดินทางแบบไม่ขึ้นกับเวลาแบบเส้นตรง (ในแบบที่มนุษย์เข้าใจ)
ค่อนข้างกระจ่างทีเดียว

เดี๋ยวจะมีอะไรๆให้ประหลาดใจอีกเยอะครับ

..........................

#Facebook: Chayutt Naowarat https://web.facebook.com/chayutt.deejaroen
#เพจขายหินออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย: Alchemistic Power of Stones (https://facebook.com/chayutt.naowarat) สร้อยข้อมือ, สร้อยคอ, กำไลข้อมือ, แหวน (เครื่องประดับ), ต่างหู, หินแท้, หิน, คริสตัล, หยก, อัญมณี, ประคำ, ไข่มุก, เขี้ยวหนุมาน, แซฟไฟร์, ทับทิม (อัญมณี), มุกดา, หินออบซิเดี้ยน, โอปอล, ควอตซ์, อำพัน, มรกต, หินตาเสือ, ไคยาไนต์, โกเมน, อะซูไรต์, เบริล, ทัวร์มาลีน, Earing, Pendant, Bangle, Topaz, Jewellery Store

Chayutt, 17 พฤศจิกายน 2009

#134
gotodido เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

21 พฤศจิกายน 2007

โพสต์:

61

ค่าพลัง:

+147

เมื่อมีผู้รู้ ก็ต้องมีผู้ไม่รู้ ผมชอบกระทู้นี้ครับ ลำดับการโพสดี ครับ
ถึงจะเป็นอจินไตย แต่ท่านก็ไม่ถึงกับห้าม ท่านบอกเพียงแค่ว่ารู้ไปก็ไม่ได้ช่วยให้หลุดพ้น
สำหรับเราๆที่ยังมีกิเลสเกี่ยวอยู่ ความอยากรู้ ถือเป็นเรื่องปกติ

ผมเคยโพสกระทู้นึง กลางปีที่แล้ว คล้ายๆแบบนี้ เผื่อท่านใดสนใจแลกเปลี่ยนความเห็น

http://palungjit.org/threads/ทฤษฎีส...ทางของจิต-การมองเห็นวิญญาน-และกาลเวลา.127089/

บางสิ่งก็เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวครับ
จินตนาการ บวกกับการปรุงแต่งข้อมูลที่ได้จากอายตนะ ทำให้เกิดการพัฒนาของเผ่าพันธุ์ Super homo sapiens แต่ก็อยู่ในกฏของไตรลักษณ์

สิ่งเดียวที่พ้นจากกฏนี้ คือจิตผู้รู้ ที่อยู่เหนือจินตนาการ ความคิด การปรุงแต่งทั้งปวง

อนุโมทนาครับผม

gotodido, 17 พฤศจิกายน 2009

#135
datedoctor เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

20 ตุลาคม 2008

โพสต์:

539

ค่าพลัง:

+678

มาเพิ่มเติมครับ

ทำไมอนุภาคสสารจึ่งมากกว่าอนุภาคปฏิสสารในจักรวาล

คำตอบที่นักฟิสิกส์เชื่อก็คือ เนื่องจากในตอนเกิดบิ๊กแบ็งขึ้นมานั้น สมมมาตรแบบCPถูกลดทอนลง(แนวคิดนี้เป็นของนักฟิสิกส์ชาวรัสเซียชื่อ อังเดร ซาคารอฟ)
สมมาตรแบบCคือสมมาตรของการสลับที่ระหว่างสสารและปฏิสสาร
สมมาตรแบบpคือสมมาตรของการสลับที่ซ้ายขวา

สมมาตรแบบนี้เองที่จำกัดขีดจำกัดในการสื่อสารแนวคิดซ้ายและขวาให้กับมนุษย์ต่างดาว(ถ้าพวกเขามีอยุ่จริงป โดยที่เราไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นมนุษยืสสารหรือปฏิสสารจากของเรา555

กลับมาที่บิ๊กแบ็งณจุดเริ่มต้นของอวกาศและเวลา
ถ้าคุณเชื่อว่าเอกภพนั้นอุบัติมาจากจักรวาลที่ว่างเปล่า และเป็นนิรันดริ์แบบสถานะนิพพานนะครับ แต่ทว่าในความว่างเปล่านี้ก็ไม่ได้ว่างเปล่าอย่างแท้จริงเพราะมันยังเกิดการแตกของสมมาตรได้ในปริมาณเล็กน้อย ซึ่งจะทำให้เกิด
ผลของการละเมิดสมมาตรแบบCP ทำให้เกิดความไม่สมคุลละหว่างสสารและปฏิสสารขึ้นในอัตรา1ในพันล้านส่วน นี่ก็หมายความว่าสสารและปฏิสสารส่วนใหย่ที่เกิดขึ้นนั้นหักล้างกันจนหมดในบิกแบ้งเกิดเป็นรังสีที่แผ่ออกมาอาบเอกภพในวัยเยาว์

ดังนั้นถ้าไม่มีการละเมิดสมมาตรแบบนี้ก็จะไม่เหลือสสารในเอกภพพอที่จะสร้างทุกสิ่งที่เราเห็นได้นั้นเอง

datedoctor, 18 พฤศจิกายน 2009

#136
datedoctor เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

20 ตุลาคม 2008

โพสต์:

539

ค่าพลัง:

+678

สำหรับการเดินทางย้อนเวลาของอนุภาคระดับควอนตัม

เป็นเทคนิคหนึ่งในการตีความกลศาสตร์ควอนตัม โดยเรียกว่า อินทิกรัลตามทางครับ(เป็นแนวทางที่ผมชอบมากที่สุด ฮอว์คิงก็ชอบเช่นกัน เพราะเขาใช้มันคำนวณวิวัฒนาการทั้งหมดของจักรวาล(รวมเอกภพของเรากับเอกภพคู่ขนานทั้งหมด)มาแล้ว (เป็นการหาคำตอบบางส่วนให้กับฟังค์ชั่นคลื่นของจักรวาล) ทะเยทะยานมากแม่อัจฉริยะจริงทำไม่ได้หรอกครับ จะว่าไปในวงการฟิสิกส์ก็มีเขาคนเดียวที่มีกึ๋นพอจะทำแบบนี้ได้)
จะเรียกว่าแนวคิดผลรวมของประวัติศาสตร์ก็ได้
โดยมี2แบบคือขึ้นกับเวลาและไม่ขึ้น

ซึ่งวิธีนี้จะดีกว่าวิธีเดิมของชโรดิงเจอร์และไฮเซนเบริก์ตรงที่ไม่ต้องหาตัวแพร่กระจายของกลุ่มเกาล์เซียนส์ครับ

แต่แนวคิดค่อนข้างเข้าใจยากเล็กน้อย นี่เป็นแนวคิดของQEDครับ

แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤศจิกายน 2009

datedoctor, 18 พฤศจิกายน 2009

#137
Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

วันที่สมัครสมาชิก:

3 สิงหาคม 2005

โพสต์:

6,408

ค่าพลัง:

+50,772

จริงๆกระทู้นี้ผมยังแปล และ โพสต์ไม่เสร็จดีเลย
เดี๋ยวว่างๆ จะมาทำต่อให้จบนะครับ
จะได้มีข้อมูลพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ให้คนที่ยังไม่รู้ได้อ่านด้วย

.......................................

#Facebook: Chayutt Naowarat https://web.facebook.com/chayutt.deejaroen
#เพจขายหินออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย: Alchemistic Power of Stones (https://facebook.com/chayutt.naowarat) สร้อยข้อมือ, สร้อยคอ, กำไลข้อมือ, แหวน (เครื่องประดับ), ต่างหู, หินแท้, หิน, คริสตัล, หยก, อัญมณี, ประคำ, ไข่มุก, เขี้ยวหนุมาน, แซฟไฟร์, ทับทิม (อัญมณี), มุกดา, หินออบซิเดี้ยน, โอปอล, ควอตซ์, อำพัน, มรกต, หินตาเสือ, ไคยาไนต์, โกเมน, อะซูไรต์, เบริล, ทัวร์มาลีน, Earing, Pendant, Bangle, Topaz, Jewellery Store

Chayutt, 28 มิถุนายน 2011

#138
paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

24 เมษายน 2011

โพสต์:

2,478

ค่าพลัง:

+1,878

การเข้าใจธาตุ ก็ มีประโยชน์ ให้เข้าใจความจริงแท้ ว่า ไม่ใช่ตัวตนที่แท้ มันประกอบด้วยเหตุปัจจัยมากมาย เข้าถึงความคลายยึดอันนี้ ก็ นำไปสู่ วิมุติ ได้

paetrix, 28 มิถุนายน 2011

#139
อรธิชา สมาชิกใหม่

วันที่สมัครสมาชิก:

26 มีนาคม 2011

โพสต์:

31

ค่าพลัง:

+0

นึกถึงที่ฝรั่งเค้าเปรียบเทียบ เหมือนหัวหอม ลอกไปทีละชั้น สุดท้ายก็ไม่เหลือ

อรธิชา, 28 มิถุนายน 2011

#140

(คุณต้องเข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน เพื่อที่จะโพสต์)

หน้า 7 ของ 8

แชร์หน้านี้

Loading...