อัลบั้มพระ ประวัติ และวัตถุมงคล

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ปู ท่าพระ, 26 ธันวาคม 2013.

  1. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    หลวงปู่ทองวัดราชโยธา หลวงปู่เผือกวัดกิ่งแก้ว ได้ยินชื่อท่านมานานแต่ยังไม่มีโอกาสได้ไปกราบท่านเลยคร๊าบบ
     
  2. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    น้อมกราบหลวงปู่หงษ์ -/\-
     
  3. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    เนื้อสวยมากน้องเขี้ยว
     
  4. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    น้อมกราบสมเด็จฯโต -/\-
     
  5. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    เหรียญรุ่นนี้แกะได้สวยเหมือนหลวงปู่ เดี๋ยวทริปเหนือจะนำขึ้นไปกราบหลวงปู่ด้วยคร๊าบบ
     
  6. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]

    หลวงปู่ทองวัดราชโยธา ท่านเป็นยอดพระเกจิที่เก่งมากๆในสมัยก่อน โดยท่านเป็นศิษย์รุ่นน้องของสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี) ซึ่งมีอาจารย์ร่วมสำนักเดียวกันคือ หลวงปู่แสง วัดมณีชลขันธ์ จ.ลพบุรี (ศิษย์ร่วมสำนักเดียวกันอีกท่าน คือ หลวงปู่แก้ว วัดเครือวัลย์) รูปถ่ายของท่านจะมีเพียงไม่กี่รูปครับ เพราะถ่ายรูปท่านไม่ติด ภาพนี้จะเป็นภาพตอนท่านไปฉันเพล ขณะก้าวลงบันได แล้วได้ขออนุญาติถ่ายรูปครับ

    หลวงปู่ทอง วัดราชโยธา

    เป็นพระเกจิอาจารย์รุ่นเก่ายุคก่อนสงคราม ท่านมีวิชาอาคมแก่กล้า

    หลวงปู่ทอง อายานะ เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2363 ตรงกับปลายสมัยรัชกาลที่ 2 เป็นบุตรของนายฮวด แซ่ลิ้ม ชาวจีนฮกเกี้ยน มารดาเป็นชาวมอญ ต่อมาท่านได้อุปสมบทเมื่อปี พ.ศ. 2384 ได้อุปสมบท ณ วัดเงินบางพรม ตลิ่งชัน โดยมีท่านเจ้าคุณวินัยกิจจารีเถระ (ภู่) อดีตเจ้าอาวาสองค์ที่ 2 ของ วัดเงินบางพรม เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาตามภาษามคธว่า อายะนะ หลังจากอุปสมบทมา ได้พำนักจำพรรษา ณ วัดแห่งนั้นเพื่อศึกษาพระธรรมวินัย และคอยอุปัฏฐากพระอุปัชฌาย์ของท่านภายหลังได้ธุดงค์วัตรเพื่อแสวงหาโมกขธรรม เมื่อพระราชโยธาก่อสร้างวัดราชโยธาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้นิมนต์ท่านให้มาเป็นเจ้าอาวาส ท่านจึงเป็นเจ้าอาวาสองค์แรกของ วัดราชโยธา และท่านเป็นศิษย์น้องของ สมเด็จโต วัดระฆัง
    และเป็นศิษย์พระอาจารย์แสงวัดมณีชลขันธ์ ลพบุรี
    ผู้เป็นอาจารย์ของสมเด็จพุฒาจารย์โต
    นอกจากนั้นท่านยังได้มีโอกาสศึกษาวิชาเพิ่มเติมกับสมเด็จโตอีกด้วย


    ส่วน เกจิอาจารย์ที่คุ้นเคยไปมาหาสู่กัน เช่น หลวงปู่ปั้นวัดเงิน ตลิ่งชัน หลวงพ่อปานวัดมงคลโคธาวาส สมุทรปราการ หลวงปู่ศุขวัดมะขามเฒ่า ชัยนาท หลวงปู่ภูวัดอินทร์ กรุงเทพฯ และท่านเจ้ามาวัดสามปลื้ม กรุงเทพฯ

    สำหรับลูกศิษย์ของท่านก็มี

    หลวงปู่เผือกวัดกิ่งแก้ว สมุทรปราการ
    หลวงปู่เหลือ วัดสาวชะโงก ฉะเชิงเทรา,
    หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก อยุธยา,
    หลวงปู่คง วัดบางกะพ้อม สมุทรสงคราม,
    หลวงปู่จาด วัดบางกะเบา ปราจีนบุรี,
    หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ,
    หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขันธ์ นครศรีธรรมราช,
    หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพระองค์ สมุทรสาคร,
    หลวงพ่ออี๋ สัตหีบ,
    หลวงพ่อเพชรวัดสามปลื้ม กรุงเทพฯ


    และศิษย์ที่เป็นฆราวาส เช่น อาจารย์แก้วคำวิบูลย์ อาจารย์แถว
    และอาจารย์เจ็ก
    ในสมัยก่อนหลวงปู่ทอง ท่านเป็นพระที่มีอาวุโสสูง
    และทรงไว้ซึ่งวิทยาคมแก่กล้า
    ดังนั้นไม่ว่าใครก็ล้วนมาขอเรียนวิชาต่างๆจากท่าน


    หลวงปู่ทองมีอายุยืนยาวถึง 117 ปี
    จึงมรณภาพด้วยโรคชราเมื่อปี 2480


    ท่าน ได้สร้างพระเครื่องไว้มากมายหลายรุ่นหลายพิมพ์มีทั้ง พิมพ์สมเด็จยันต์ข้าง พิมพ์ปิดตายันต์ข้าง พิมพ์แม่ธรณีบีบมวยผมยันต์ข้าง พิมพ์ปิดตาหลังยันต์อุเนื้อเมฆพัด เป็นต้น

    สำหรับพระเครื่องวัตถุมงคลต่างๆ หลวงปู่ทองก็สร้างไว้พอสมควร
    แต่ปัจจุบัน ไม่ค่อยได้เห็นกัน เพราะหายากมาก
    คนรุ่นนั้นต่างเก็บไว้ใช้กันหมด ที่เราพอจะได้เห็นกันบ้างก็คือ
    สมเด็จเขียวเหนียวจริง หรือพระสมเด็จกรุบึงพระยาสุเรนทร์
    ซึ่งท่านสร้างและปลุกเสกให้

    แม้แต่ตอนสงครามอินโดจีน พระยาพหลพลพยุหเสนา
    อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ยังได้นิมนต์ท่านขึ้นเครื่องบิน ไปโปรยทรายเสก รอบวัดพระแก้ว และสนามหลวง รวมทั้งบริเวณใกล้เคียง
    เพื่อให้คุ้มครอง มิให้เป็นอันตรายจากระเบิดของข้าศึก
    และยังได้ขอร้องให้ท่านสร้างเสื้อยันต์เพื่อแจกทหารไปใช้ในสงคราม

    ซึ่ง เสื้อยันต์นี้มีกิตติศัพท์เลื่องลือกันมาก ว่าแคล้วคลาดยิงไม่ถูกหรือโดนยิงแล้วไม่เป็นอะไร บางคนโดนยิงล้มลง ก็ยังลุกขึ้นมาสู้ใหม่ได้ จนได้รับฉายาว่า ทหารไทยเป็นทหารผี


    ซึ่งตอนนั้น เสื้อยันต์ที่ท่านสร้าง จะจารเขียนด้วยดินสอดำ
    ท่านเองทำให้ไม่ทัน จึงได้ขอให้พระอาจารย์อีก 5 ท่าน
    มาร่วมสร้างด้วย คือ
    1.หลวงปู่แช่ม วัดตาก้อง นครปฐม,
    2.หลวงปู่คง วัดบางกะพ้อม,
    3.หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก อยุธยา,
    4.หลวงปู่จาด วัดบางกะเบา ปราจีนบุรี,
    5.หลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว สมุทรปราการ


    หลวงปู่ทองท่านเป็นพระที่ความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างยิ่ง
    ท่านมีอภิญญาปาฏิหาริย์มากมาย แม้แต่คนจะถ่ายรูปท่าน
    ก็ยังถ่ายไม่ติดเลยครับ ทำให้ปัจจุบัน จึงไม่ค่อยมีรูปท่านให้เห็นกัน
    จะ มีที่เห็นก็เพียงรูปเดียวก็คือ รูปที่บรรดาลูกศิษย์ทั้งหลายร่วมกันไปอ้อนวอนขอถ่ายรูปท่าน ซึ่งเป็นรูปที่ท่านกำลังลงจากกุฏิไปฉันเพลเท่านั้น

    ส่วนเนื้อหาก็มีทั้ง เนื้อดิน เนื้อผง ดินผสมผง และเมฆพัด
    พระเครื่องของท่านมีพุทธคุณสูงทางด้านเมตตาแคล้วคลาด
    และคงกระพัน ขนาดที่ว่าพี่น้องชาวมุสลิมที่อาศัยบริเวณใกล้เคียงวัด
    ยังให้ความเคารพนับถือท่านอย่างสูงเลย


    ที่มา: เกจิสยาม, wunjun
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤษภาคม 2014
  7. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    เรื่องเล่าถึง "ปาฏิหาริย์" หลวงปู่ทองเรื่องหนึ่ง เล่าสืบกันมาว่า

    วัดลาดบัวขาว หรือที่เรียกกันอย่างคุ้นว่าวัดราชโยธา กรุงเทพมหานคร ในอดีตสมัยที่หลวงปู่ทองเป็นเจ้าอาวาส ตั้งอยู่ในแวดวงของหมู่แขก มีบ้านแขกเรียงรายล้อมรอบอยู่ทั่วไปในบริเวณ ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าขานกันว่าหลวงปู่ทองได้แสดงอิทธิปาฏิหาริย์ สร้างความดีจนบรรดาพวกแขกนับถือหลวงปู่ทองเป็นจำนวนมาก

    กล่าวได้ทีเดียวว่าสมัยหลวงปู่ทองเป็นเจ้าอาวาสวัดราชโยธา พวกแขกในย่านนั้นแทบทุกบ้านต่างก็พากันนับถือหลวงปู่ทอง

    มีแขกคนหนึ่งเข้าไปตกปลาในวัด ด้วยปลาที่หน้าวัดและที่ในสระนั้นมีชุกชุมนัก แต่แกตกปลาตลอดทั้งคืนก็หาได้ปลาไม่ แม้บางครั้งเหมือนจะมีปลามาติด แต่พอวัดขึ้นมากลายเป็นใบไม้ บางครั้งก็ฮุบเหยื่อเหนี่ยวไปเหนี่ยวมา พอวัดจวนจะพ้นน้ำดิ้นไปมาจนน้ำกระจาย แต่พอพ้นน้ำขึ้นมากลับกลายเป็นใบไม้ไป





    ครั้งสุดท้ายคล้ายปลาจะกินเบ็ดจริงๆ แต่วัดเท่าไรก็ไม่ขึ้น มันลากไปลากมาอยู่ในสระน้ำ ในใจก็คาดคิดว่าจะเป็นปลาตัวใหญ่ ด้วยบางทีลากเสียปลายคันเบ็ดจมลงน้ำไปด้วย บางคราวก็ฉุดลากจนตัวแกเกือบคะมำลงน้ำ สุดท้ายเมื่อลากขึ้นมาพ้นน้ำได้กลับกลายเป็นหัวกะโหลก ตกใจจนจับไข้อยู่หลายวัน


    ข่าวผีกินเบ็ดก็แพร่กระจายออกไปว่า หลวงปู่ทองใช้ผีเฝ้าปลาในสระวั


    ยามที่มีผู้คนล้มป่วย ซึ่งในสมัยนั้นการคมนาคมไม่สะดวก ห่างไกลจากสถานพยาบาล ทำให้มีผู้คนล้มตายกันด้วยรักษาไม่ทันการ ชาวบ้านในละแวกวัดที่เป็นคนไทยพุทธล้วนต่างไปหาหลวงปู่ทอง ท่านก็เป่าเสกให้กินยา กินน้ำมนต์ พากันหายจากโรค
    ก็เป็นที่ร่ำลือกันว่าหลวงปู่ทองเป็นหมอวิเศษ

    คราวหนึ่งโรคอหิวาต์ได้ระบาดในชุมชนหมู่บ้านแขก และไทยพุทธ รอบๆ วัดราชโยธา มีผู้คนล้มป่วยกันมากมาย ชาวไทยพุทธที่ไปหาหลวงปู่ทองรักษาให้ล้วนต่างหายจากโรคกัน เป็นที่ร่ำลือกัน

    วันหนึ่งพวกแขกละแวกวัดหลายสิบคนต่างพากันไปหาหลวงปู่ทอง มีหญิงแขกคนหนึ่งอุ้มลูกที่ป่วยมาด้วย หลวงปู่ทองก็ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ได้ถามไถ่ว่ามีเหตุธุระอันใดจึงมาหาท่านถึงวัด พวกแขกก็เล่าเรื่องราวให้ฟัง ท่านก็บอกให้เอาเด็กป่วยมาให้ท่านดู พอเห็นท่านก็ทราบว่าเด็กน้อยคนนี้เป็นอะไร

    หลวงปู่ทองให้ลูกศิษย์ไปหยิบไพลมาให้หัวหนึ่ง เมื่อได้มาท่านก็เหลาปลายไพลให้พอแหลม แล้วท่านก็จี้ลงไปที่ตัวเด็ก ทันทีที่จี้ถูกตัว เด็กร้องว่า "กลัวแล้วๆ ผมกลัวแล้ว"


    หลวงปู่ทองก็ถามไป "เอ็งชื่ออะไร"

    เสียงเด็กตอบว่า "ผมชื่อโดดครับ"

    หลวงปู่ทองว่า "ใครใช้เอ็งมา"

    เด็กตอบว่า "หมอสอนครับ"

    หลวงปู่ทองถามต่อ "เอ็งมาทำไม"

    เด็กตอบกลับว่า "มาเอาชีวิตอ้ายหวังครับ"

    หลวงปู่ทองถาม "อ้ายหวังมันทำอะไรให้"

    เสียงเด็กตอบมาว่า "มันเยี่ยวรดหมอสอนครับ"

    หลวงปู่ทองก็ว่า "หน็อยแน่เรื่องเพียงเท่านี้ถึงจะมาเอาชีวิตชีวาเชียวรึ เอ็งจะอยู่หรือจะไป ถ้าอยู่ข้าจะให้เฝ้าปลาในสระที่หน้าวัด"

    เด็กคนนั้นนั่งก้มหน้าเฉย หลวงปู่ทองจึงเอาไพลจี้พร้อมสำทับไปว่า "ยังไง เอ็งจะอยู่หรือจะไป"

    เด็กคนนั้นก็ว่า "ไม่อยู่ครับ หมอสอนแกสั่งให้รีบกลับเร็วๆ ครับ"

    หลวงปู่ทองจึงเอากำหญ้าคาจุ่มน้ำมนต์ฟาดลงไปที่ตัวเด็ก เสียงของผีร้ายในร่างเด็กก็ร้องว่า "ผมกลัวแล้วๆ ผมไปแล้วครับ" หลวงปู่ทองก็เอาน้ำมนต์ซัดลงไปที่ร่างเด็กอีกครั้ง เด็กดิ้นล้มลงนอนเหยียดยาวแล้วเงียบไปชั่วขณะหนึ่ง พอลืมตาก็ลุกขึ้นนั่งได้ตามปกติ หายราวปลิดทิ้ง แล้วท่านก็เอาด้ายสายสิญจน์มาผูกข้อมือให้

    หลวงปู่ทองว่า ด้ายนี้เอาไว้ป้องกันมันจะเข้าอีกไม่ได้ แล้วก็เอาน้ำมนต์ให้พวกแขกไปคนละขวด พร้อมด้ายสายสิญจน์ ส่วนน้ำมนต์เอาไปอาบบ้าง กินบ้าง ประพรมบ้านบ้าง น้ำมนต์นี้ป้องกันผีห่าได้

    ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา พวกแขกเหล่านั้นก็เชื่อมั่นในตัวหลวงปู่ทอง ต่างพากันนับถือ บางคนเห็นความศักดิ์สิทธิ์ของ "น้ำมนต์" หลวงปู่ทองด้วยตาของตนเอง บ้างก็ได้ยินคำร่ำลือคำบอกเล่า บางครั้งพระพายเรือออกบิณฑบาตผ่าน

    ทางหน้าบ้านของแขกเหล่านั้น พวกเขาจะกวักมือเรียกให้พระจอดเรือแล้วเอาข้าวของมาฝากให้หลวงปู่ทอง บางคราวก็นำมาให้ถึงวัด เขาบอกว่าเขาให้คนที่นับถือ คนที่ไม่เข้าใจก็คิดว่าแขกใส่บาตรพระ


    ที่มา: wunjun
     
  8. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]

    สวัสดียามเช้าครับพี่วรรณ พี่เอ๊ะ พี่กูน พี่ตี๋ พี่โญ พี่ชาญ พี่ช้าง พี่รุ่ง พี่อ้วน คุณบอย น้องโอ๊ต น้องเอ็ม น้องเขี้ยว คุณหนุ่ม น้องเอ๋ คุณวุฒิ น้องนิก คุณตั้น คุณกันตปัญโญ คุณหมอ คุณhmoomoo คุณsellcat คุณjamitcom คุณEYEOFVENUS คุณwawa22 น้องกานต์ คุณpp2 น้องแพนและพี่ๆน้องทุกท่าน ขอบคุณทุกภาพสวยๆและเรื่องราวดีๆจากทุกท่านครับ
     
  9. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]

    [​IMG]

    พระปางสมาธิกับเช้าวันพฤหัสฯ​
     
  10. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    สวัสดียามเช้า คุณปู คุณวัน คุณเอ๊ะ อ.โญ คุณกูล คุณเคี้ยว คุณโอ๊ต คุณช้าง คุณเอ็ม คุณเอํ คุณบอย คุณกานต์ คุณกันต์ คุณเหน่ง คุณรุ่ง คุณพีพี2 คุณแพน119และเพื่อนๆทุกๆท่าน
    ทำการทำงานใด ทำมาค้าขายใด ขอให้เจริญรุ่งเรือง ปลอดโปร่ง ราบรื่น กันนะครับ
     
  11. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา
    น้อมกราบนมัสการ ลต.มหาบัว ครับ
     
  12. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    คม ชัด ทั้ง 2เหรียญครับ
     
  13. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,533
    ค่าพลัง:
    +53,107
    [​IMG]

    สวัสดีทุกๆท่านด้วยครับผม
     
  14. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    หลวงพ่อ สวาท วัดโป่งจันทร์ บ้านน้ำขุ่น(ม.2) ต.คลองพลู อ.สวาท(เขาคิชกูฏ) จ.จันทบุรี สายวัดป่า ท่านเป็นลูกศิษย์ ลป.แหวนฯครับ

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  15. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    น้อมกราบนมัสการ ครูบากฤาฎาครับ
     
  16. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    สวัสดีคุณเคี้ยว
    สวยทั้ง 2 องค์ครับ
     
  17. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    ขอบคุณครับ ถ้าหาพบแล้วจะนำมาให้ชม ไม่ค่อยแน่ใจว่าจะพบ ลองหลายรอบแล้วครับ
     
  18. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    สวัสดีคุณเอ็ม ยามเช้าหรือยามเย็นครับ
    สวยมาก
     
  19. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    พุทธัง สรณัง คัจฉามิ
    ขอบคุณคุณปู ที่นำพระสวยๆมาให้ชมครับ
     
  20. pp2

    pp2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    564
    ค่าพลัง:
    +1,434
    หายากแบบนี้ต้องมาแบ่งๆกันละครับ .... อิๆๆๆๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...