อ่าน...เอาเรื่อง ..... ล่าสุด .....

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย แสงแข, 27 พฤษภาคม 2014.

  1. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    �������Ӣͧ �����ط�� - Daily News - Manager Online

    คลื่นใต้น้ำของ “ประยุทธ์”

    โดย สุนันท์ ศรีจันทรา


    การสำรวจความคิดเห็นของประชาชนล่าสุด คะแนนนิยมของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเพิ่มขึ้น เป็นสิ่งสะท้อนว่า แนวทางการแก้ปัญหาของรัฐบาลยังเข้าตาชาวบ้าน แต่ไม่ใช่หลักประกันว่า เสถียรภาพรัฐบาลจะราบรื่นตลอดไป


    เพราะเริ่มพูดถึงคลื่นใต้น้ำกันบ้างแล้ว พร้อมๆ กับความเคลื่อนไหวของอดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย คู่ขนานกับกลุ่มอาจารย์สังกัดค่ายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรที่ออกมาแสดงบทบาททางการเมือง


    ปฏิกิริยาความไม่พอใจรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ปะทุขึ้นเป็นจุดๆ แต่เป็นการจุดปะทุจากคนกลุ่มก้อนเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นอดีตรัฐมนตรีรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย หรือกลุ่มอาจารย์มหาวิทยาลัยต่างๆ ล้วนเป็นเครือข่ายพ.ต.ท.ทักษิณทั้งสิ้น


    60 อาจารย์จาก 16 มหาวิทยาลัยที่ร่วมลงชื่อคัดค้านการปิดกั้นการเสวนาที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เชิญตัววิทยากรที่ร่วมสัมมนาไปสถานีตำรวจ นำโดยอาจารย์นิธิ เอียวศรีวงศ์ ถือเป็นการเปิดหน้าชนกับ คสช.โดยตรง


    60 อาจารย์ที่ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้าน คสช.ก็เป็นกลุ่มอาจารย์หน้าเดิมๆ ที่ไม่เคยวิพากษ์พฤติกรรมของพ.ต.ท.ทักษิณไม่แต่น้อย บทบาทความเคลื่อนไหวจึงไม่เรียกความสนใจเท่าไหร่ น้ำหนักเสียงร้องโหวกเหวกไม่ค่อยมี


    กระแสของพล.อ.ประยุทธ์ก็ยังดีอยู่ การก่อชนวนทำลายศรัทธารัฐบาลจึงจุดไม่ติด


    แต่ความเคลื่อนไหวของพลพรรคภายใต้ปีกของพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นสิ่งบ่งชี้ว่า ยุทธการก่อกวนสร้างความวุ่นวาย ทำความรำคาญใจให้รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว และพ.ต.ท.ทักษิณก็เดินป้วนเปี้ยนใกล้ประเทศไทย


    ปัญหาของพล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้อยู่ที่คลื่นใต้น้ำ แต่อยู่ที่การบริหารกระแส อยู่กับการรักษาคะแนนนิยม ดำเนินนโยบายที่ “โดน” ใจชาวบ้าน และต้องเร่งรัดแก้ปัญหาค่าครองชีพโดยเร็ว


    เศรษฐกิจขณะนี้ยังไม่ดีนัก และซบเซาด้วยซ้ำ แต่เชื่อกันว่า รัฐบาลจะพลิกฟื้นเศรษฐกิจได้ จึงให้เวลาและรอคอยความหวังกันอยู่


    ปัญหาค่าครองชีพกำลังไล่หลัง ราคารถเมล์ รถแท็กซี่เตรียมขยับขึ้น ราคาน้ำมันมีแนวโน้มปรับขึ้น เพื่อให้เป็นไปตามกลไกตลาด ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคอยู่ในภาวะที่อั้นไม่ไหว แต่รายได้ประชาชนไม่เพิ่มเท่าไหร่


    คลื่นใต้น้ำที่เริ่มก่อหวอด ไม่ได้น่ากลัวเท่าไหร่ เพราะเป็นกลุ่มคนหน้าเดิม ไม่ค่อยมีเครดิตทางสังคมเท่าไหร่ มีสมาชิกกลุ่มก้อนที่จำกัด คสช.ไม่ต้องให้ราคามาก


    จะขยายแฟชั่นเอาปี๊บคุมหัวไปอีกกี่อาจารย์ก็เป็นเพียงกระแสที่จะดับวูบอย่างรวดเร็ว


    แต่ภาวะเศรษฐกิจที่เงียบเหงา ภาวะค่าครองชีพที่บีบรัด จะเป็นชนวนสร้างความสั่นคลอนของรัฐบาลจนก้าวไปไม่ถึงฝัน การคืนความสุขให้ประชาชน


    แม้จะขีดเส้นว่า รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์จะอยู่ประมาณ 1 ปี แต่ก็คาดหมายว่า อาจต้องขยายเวลายาวนานออกไป อาจจะ 2 หรือ 3 ปี และดีไม่ดีอาจลากไปถึง 4 ปี


    ไม่ว่าวาระที่แน่นอนจะกี่ปีแน่ แต่ยังไม่มีการพูดถึงการอยู่ครบวาระหรือไม่ เพราะเร็วเกินไปที่จะพูดถึงอายุขัยของรัฐบาล และสถานการณ์รอบด้านไม่มีสัญญาณใดที่ คสช.จะเกิดความสั่นคลอน


    คะแนนนิยมที่ดี นโยบายส่วนใหญ่ออกมาโดนใจ ประชาชนยังให้โอกาส กลุ่มคลื่นใต้น้ำก็มีความเคลื่อนไหวอยู่กลุ่มเดียว พยายามส่งเสียงโหวกเหวกก่อชนวนความวุ่นวายอยู่ฝ่ายเดียว เอกภาพในเหล่าทัพยังแน่นปึก จึงไม่ต้องห่วงในด้านเสถียรภาพ


    รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ยังหายใจสบายๆ อยู่


    แต่ช่วงเวลาสบายๆ อาจสั้นลง หรือเหลือเพียงแค่ช่วงปลายปีนี้เท่านั้น ใน 3 เดือนข้างหน้า ต้นปีหน้า ถ้าเศรษฐกิจยังไม่ถูกขับเคลื่อน การค้าขายยังฝืดเคือง ปัญหาค่าครองชีพทับถม ขาลงของความศรัทธาอาจมาถึง


    กลุ่มกองแช่งที่รอจังหวะอยู่ จะถือโอกาสผสมโรง จนรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์เสียศูนย์ได้


    ภาพทางเศรษฐกิจและการลงทุนที่ดูดีมีเพียงตลาดหุ้นเท่านั้น และตั้งแต่มี คสช.ดัชนีพุ่งขึ้นมาประมาณ 180 จุดแล้ว เพราะนักลงทุนคาดหวังการแก้ปัญหาของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ และพากันซื้ออนาคต


    ดัชนีหุ้นจึงพุ่งสวนทางกับความรู้สึกของคนทั่วไปที่เห็นว่า เศรษฐกิจยังแย่อยู่

    แสดงฝีมือการจัดระเบียบทางสังคมแล้ว แสดงความสามารถในการทำให้การเมืองสงบแล้ว ภารกิจต่อไป ต้องแสดงให้เห็นว่า มีความสามารถพลิกฟื้นเศรษฐกิจ แก้ปัญหาปากท้องของประชาชนได้


    ถ้าพลิกฟื้นเศรษฐกิจได้ บรรเทาปัญหาค่าครองชีพลงได้ ไม่ต้องห่วงอะไรแล้ว คลื่นใต้น้ำก็ไร้ความหมาย อยากจะอยู่กี่ปีก็ตามใจ

    แต่ถ้ารบกับเศรษฐกิจไม่ชนะ ปีหน้าจะเป็นปีที่แสนเหน็ดเหนื่อยของพล.อ.ประยุทธ์
     
  2. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    เหมือนรุก...ที่แท้ล่อให้ห่อมัดตัว | ไทยโพสต์


    เปลว สีเงิน
    Thursday, 25 September, 2014 - 00:00

    เหมือนรุก...ที่แท้ล่อให้ห่อมัดตัว



    เช้าวาน (๒๔ ก.ย.๕๗) เปิดโทรทัศน์หมุนไปช่องสปริงนิวส์ พบกำลังถ่ายสดรายการ "ปฏิรูปพลังงาน ภาค ๒" อยู่พอดี คงสืบต่อจากภาคที่แล้ว เพราะทั้งฝ่ายพลังงาน-ผู้ตอบ และฝ่ายประชาชน-ผู้ถาม "ชุดเดิม" โปรโมเตอร์และผู้ดำเนินรายการก็คนเดิม คือ "หลวงปู่พุทธอิสระ"

    ฝ่ายพลังงาน เท่าที่เห็นหน้าจำได้ก็มี คุณปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานบอร์ด ปตท. คุณคุรุจิต นาครทรรพ รองปลัดฯ พลังงาน คุณไพรินทร์ ชูโชติถาวร ผู้ว่าฯ ปตท. คุณมนูญ ศิริวรรณ และอีกหลายคน จำชื่อไม่ได้

    ทางภาคประชาชน เอาเฉพาะนั่งเรียงแถวบนเวที ก็มีคุณวีระ สมความคิด คุณรสนา โตสิตระกูล ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี คุณปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คุณหมอกมลพรรณ ชีวพันธ์ศรี และอีกหลายคน จำชื่อไม่ได้เช่นกัน

    ก็สาธุกับทุกท่าน ในกุศลเจตนาต่อสังคมรวมที่ได้ร่วมกันทำ ตามหลัก "ธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งความไม่เสื่อม ๗ ประการ" ที่พระพุทธองค์ตรัสไว้ ตามข้อ ๑ และข้อ ๒

    ๑.หมั่นประชุมกันเนืองนิจ การอยู่ร่วมกัน การทำงานร่วมกันของคนในสังคมจะต้องมีการ พบปะ ประชุมปรึกษาหารือกันสม่ำเสมอ เพื่อแก้ไขปัญหาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ยอมรับในเหตุผลที่ถูกต้องที่เป็นประโยชน์ เพื่อความเข้าใจที่ดีต่อกันของทุกคนในสังคม

    ๒.พร้อมเพรียงกันประชุม เลิกประชุม และกระทำกิจที่ควรทำ เพื่อให้เกิดความยุติธรรมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของหมู่คนที่อยู่รวมกัน ไม่กินแหนงแคลงใจกัน จะทำงานอะไรก็สำเร็จได้

    นี่...ใคร-องค์กรไหน ทำได้อย่างนี้ ก็จะหลุดพ้นจากความเสื่อม มีแต่ความเจริญ ความก้าวหน้าร่วมกัน

    หลวงปู่ก็หมั่นเชิญแต่ละฝ่ายที่ยังมีความคิดเห็นและความเข้าใจไม่ตรงกันในเรื่องพลังงานมาเสวนาแบบนี้บ่อยๆ ก็แล้วกัน

    ไม่มีความสำเร็จใดที่ได้มา โดยไม่ผ่านการเข้าใจผิด การทะเลาะเบาะแว้งซึ่งกันและกันมาก่อน เพราะข้อมูลจริง ข้อมูลที่ถูกต้องในโลกนี้ "มีข้อมูลเดียว"

    ฉะนั้น ตราบใดที่ยังไม่ตรงกัน ก็หมั่นแสวงหา และนำมาซักถามซึ่งกันและกัน ซักวัน...ที่ไม่เข้าใจ ที่ปกปิด ที่คลาดเคลื่อนกัน ก็จะเปิดมาบรรจบในจุดเดียวกันเอง

    ขอเพียงทุกฝ่าย "สุจริต" ในเจตนา......

    และยึดประโยชน์มหาชนเป็นที่ตั้งเท่านั้น!

    เท่าที่ผมดู ยอมรับว่าไม่ได้ดูตลอดทั้งหมด บางที...บางทีนะครับ ฝ่ายถาม คล้ายประสงค์แค่ตั้งคำถามให้เป็นประเด็นเท่านั้น

    แต่ไม่ประสงค์จะรับฟังคำตอบจากอีกฝ่าย คล้ายอะไรที่ผิดไปจากข้อมูลฝ่ายตนมี ถือเป็นไม่ใช่ไปทั้งหมด และเป็นการถามมุ่งชนะคะคาน มุ่งตั้งข้อหา ไม่ได้มุ่งแสวงหาข้อเท็จจริงร่วมกัน

    ฝ่ายตอบ บางท่าน-บางที ยึดถืออัตตามากไป เมื่อเจอคำถามและท่าทีจากอีกฝ่าย จะคุมอารมณ์และวุฒิภาวะทางบุคลิกภาพไม่ได้ จะตอบด้วยอารมณ์ กระแทกกระทั้นมากไป

    ไม่งาม และควร "นิ่ง" กว่านี้ เพราะต้องเข้าใจ "ตำแหน่งไม่เกี่ยว" คุณคือผู้อาสาเข้ามาเป็นลูกจ้าง ส่วนประชาชนคือนายจ้าง มีสิทธิ์สงสัย-มีสิทธิ์ถาม

    ฉะนั้น ฝ่ายนายจ้าง ถามตรงประเด็น-ไม่ตรงประเด็น แบบไหน ลูกจ้างมีหน้าที่ต้องตอบ ต้องอดทนอธิบาย

    อย่าแสดงอาการเบื่อหน่าย คล้ายดูถูกนายจ้างว่าโง่กว่าเรา การทำให้นายจ้างกระจ่างในข้อสงสัย คือหน้าที่ของลูกจ้างที่ดี

    คุณคุรุจิต นาครทรรพ น่าจะเป็นแบบอย่างของฝ่ายลูกจ้าง ในการตอบข้อซักถามฝ่ายประชาชนผู้เป็นนายจ้างนะครับ!

    ฝ่ายผู้ถามที่นั่งเรียงแถวบนเวที ถือว่าเป็น "ตัวแทนประชาชน" ดังนั้น ต้องเข้าใจ หน้าตาท่าน คือหน้าตาประชาชน คำถามท่าน คือคำถามประชาชน กิริยาและการแสดงออกในการเสวนา คือกิริยาประชาชน

    แล้วประชาชน คือคนดูอยู่หน้าจอโทรทัศน์ เขาจะเกิดความรู้สึกอย่างไร บนการเปรียบเทียบระหว่าง คำตอบด้วยวุฒิภาวะของอีกฝ่าย กับกิริยาขาดกาลเทศะ ที่ไม่ต้องการฟังคำตอบจากอีกฝ่าย คล้ายประสงค์ถามแบบยัดข้อหา แบบเอามัน-เอาตบมือ เป็นหลัก?

    ถ้าเป็นแบบนี้บ่อยๆ ภาพที่ออกมาจะเป็นตัวบั่นทอนความน่าเชื่อถือ และลดทอนบุคลิกภาพทางผู้นำภาคประชาชน หรือภาคเอ็นจีโอไปเรื่อยๆ เรียกว่า

    ตัวเอง "ลดเครดิตตัวเอง" ประมาณนั้น!

    และเมื่อย้อนนำลีลา "เวทีเสวนา" ที่หลวงปู่พุทธอิสระจัดเมื่อวานที่สโมสรทหารบกมาตั้งเป็นคำถามกับรัฐบาล คสช.ว่า

    "หลวงปู่พุทธอิสระจัดเสวนาได้ แล้วทำไมนักวิชาการปี๊บจัดไม่ได้ แบบนี้ไม่ ๒ มาตรฐานหรือ?"

    มาตรฐาน คสช.ในเรื่องเสวนาแบบไหนจัดได้ แบบไหนจัดไม่ได้ ผมไม่ทราบ แต่ในกรณีนี้ ผมทราบด้วย "สามัญสำนึกสุจริต" ว่า

    อะไรที่สนองตอบเจตนา-ผลประโยชน์ และความต้องการประชาชนส่วนใหญ่ นั่นคือมาตรฐานเหนือประชาธิปไตย เหนือเผด็จการใดๆ ถึงใครห้ามจัด

    สุดท้าย มันก็ต้องจัด-ต้องเกิดขึ้นจนได้!

    อย่างเสวนาพลังงานนี่ สนองตอบเจตนา-ผลประโยชน์-ความต้องการประชาชนส่วนใหญ่ ต่อให้เหนือกว่า คสช.เหนือกว่านายกฯ ประยุทธ์

    ใครก็ห้ามไม่ได้!

    แต่ถ้าจัดหวังกวนโอ๊ย สนองตอบเจตนา-ผลประโยชน์-ความต้องการ "แม้วโปรดักชัน" ไม่เป็นไปในฐานมหาชนต้องการ รัฐบาล คสช.เขาห้าม และการวางเฉยต่อการห้ามของ คสช.

    นั่นคือประชาชน...เห็นด้วย!

    ระบอบทักษิณวันนี้น่ะ เป้าหมายเขามี ๒ อย่างเท่านั้น คือ

    ๑.หลอกล่อทำเป็นรุก ให้รัฐบาล คสช.กลัวความไม่สงบ แล้วกอดกฎอัยการศึกไว้ต่อไปเรื่อยๆ

    ทำไมไม่ต้องการให้เลิก?

    ก็เพราะต้องการอาศัยคำว่า martial law ซึ่งสะท้อนถึงภาวะประเทศจลาจล มีสงคราม ไม่สงบ ไม่ปลอดภัย ผูกติดไว้กับชื่อประเทศไทย ภายใต้รัฐบาล คสช.

    คนจะได้ไม่มาเที่ยว ไม่มาติดต่อเมืองไทย!

    ทักษิณรู้ ภาวะเศรษฐกิจไม่คล่อง มีแต่ต้องหารายได้จากการท่องเที่ยวเท่านั้นเข้ามายันสภาพคล่อง

    จึงกลัวเศรษฐกิจประเทศไทยจะเดินสะดวก เพราะเดินสะดวกแล้วก็จะไม่มีข้ออ้างว่า...ประชาชนเรียกหาทักษิณให้กลับมาแก้เศรษฐกิจ "จึงสร้างเงื่อนไขดึง คสช.ให้หลงทางเป็นระยะ"

    ใช้เสื้อแดงก่อกวน มันโจ่งแจ้ง เห็นเจตนาชัด สู้ใช้พวกเสื้อขาวก่อกวนไม่ได้ ถึงบ้องตื้น แต่ยังพอมีเล่ห์นักวิชาการเฉไฉกลบเกลื่อนทางโจรได้อยู่

    ฉะนั้น จึงเกิดนักวิชาการปี๊บ นักวิชาการหางว่าว เคลื่อนไหวในรั้ว หลอกล่อทำเป็นรุกให้ คสช.ซึ่งส่วนใหญ่เป็นทหาร "หลงติดกับ" ไม่ยอมเลิกกฎอัยการศึก

    การไม่เลิก ทำให้การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และการสัมพันธ์ต่างประเทศของรัฐบาล คสช.เดินได้ไม่เต็มสูบ

    ผลคือ ชาวบ้านจะค่อยๆ คลายศรัทธา เพราะว่าไม่เห็นมีอะไรดีขึ้น เงินทุนก็ไม่ไหลเข้า คสช.จะเฉาไปเรื่อยๆ

    ๒.ระบอบทักษิณไม่กล้ารุกแตกหัก กลัวทหารอ้างเป็นเงื่อนไขอยู่ต่อ เพราะเป้าหมาย รอตุลา ๕๘....!

    ด้วยเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ภายใต้รัฐบาลกอดกฎอัยการศึกไว้ตลอด จะทอนศรัทธา คสช.ไปเรื่อยๆ

    สุดท้าย ชาวบ้านก็ต้องยึดช่องสัญญา "ตุลา ๕๘" มีรัฐธรรมนูญ เลือกตั้งใหม่ เป็นทางเลือกใหม่

    และทางเลือกใหม่นั้น คือทางที่ระบอบทักษิณกำหนดเป็นยุทธศาสตร์แล้วว่าคือ "ทางเกิดใหม่" ของเพื่อไทยใต้ระบอบทักษิณ

    เมื่อหลอกล่อให้ คสช.กอดกฎอัยการศึก "ตอนตัวเอง" ให้เฉาครบสัญญาแล้ว ก็มีความชอบธรรมทางกติกาที่ระบอบทักษิณจะลุกขึ้นมาทวงถามสัญญาเลือกตั้ง และพร้อมจะลุกฮือได้ ถ้า คสช.ทำเฉไฉ

    โดย...ประชาชนส่วนใหญ่ก็จะวาง "อุเบกเขา" ไม่ช่วยอุ้ม คสช.เหมือนตอนแรก เพราะพิสูจน์แล้วว่า ๑ ปีครบตามสัญญา บ่มิไก๊ เศรษฐกิจไม่ไปไหน ทหารสบาย ประชาชนตายยกเข่ง

    ถึงตอนนั้น ใครจะจัดเสวนาด้วยเจตนาไหน ใช่...ประโยชน์ชาติ-ประโยชน์ประชาชนทั้งนั้น ในเมื่อให้โอกาสแล้ว คสช...บ่มิไก๊เอง.
     
  3. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    https://www.facebook.com/Paisal.Fanpage?ref=ts&fref=ts

    Paisal Puechmongkol

    อีกสามเดือนข้าวใหม่จะออก ข้าวเก่ายังเต็มโกดัง

    เงินที่จะพยุงก็ร่อยหรอ กลไกค้าข้าวที่ถูกนโยบายโกงทุกขั้นตอนทำลายยังไม่ฟื้น

    นี่คือเรื่องใหญ่สุดที่เผชิญหน้ารัฐบาล

    ลุงตู่ครับ จัดทัพใหญ่ทำศึกแตกหักกับปัญหาข้าวในทันทีครับ

    เวลากระชั้นมากแล้ว

    กำลังทัพลุงตู่ในเรื่องนี้เป็นใครอยู่ที่ไหน

    ก็คือผู้ส่งออกข้าวทั้งหมดครับ เชิญมาร่วมวางแผนจัดทัพเตรียบรบเลยครับ

    ขอร้องทุกคนรอบนี้ช่วยชาติ ช่วยชาวนากันสักครั้ง

    ทำการสำเร็จก็ขอรับพระราชทานเครืี่องราชฯให้เป็นเกียรติ

    คนเราไม่ได้ต้องการกำไรเสมอไปหรอกครับ

    เรื่องนี้ต้องใช้การเมืองนำ คือเชิญมาช่วยชาติกัน

    ไม่งั้นจะลำบากกันหมด
     
  4. น้องใหม่ 2008

    น้องใหม่ 2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    690
    ค่าพลัง:
    +1,906
    หายไปไหนหลายวัน ติดภารกิจหรือไง รออ่านอยู่ทุกวันเหมือนเดิม
     
  5. น้องใหม่ 2008

    น้องใหม่ 2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    690
    ค่าพลัง:
    +1,906
    ไปไหนเนี่ยะ อย่าบอกว่าไปบวชนะ เพราะหายไปนานเกิ้น.......
     

แชร์หน้านี้

Loading...