อ่าน...เอาเรื่อง ..... ล่าสุด .....

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย แสงแข, 27 พฤษภาคม 2014.

  1. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
  2. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    การเมือง - “บิ๊กตู่”ตั้งสภาสมานฉันท์ สลายสีเสื้อ ผุดทั่วประเทศลดแตกแยก ยังไม่รู้ได้นายก�

    [​IMG]



    “บิ๊กตู่”ตั้งสภาสมานฉันท์


    สลายสีเสื้อ

    ผุดทั่วประเทศลดแตกแยก

    ยังไม่รู้ได้นายกฯเมื่อไหร่

    “อ๋อย”ใช้สื่อนอกสู้คสช.

    โผล่ให้จับกลางสโมสรฯ

    ส่งขึ้นศาลทหารรายแรก

    เมื่อช่วงเช้าวันที่ 27พฤษภาคม ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เป็นประธานการประชุมคณะทำงาน คสช. โดยได้มีการพูดถึงแนวทางในการทำงานของ คสช.นับจากนี้เพื่อให้เป็นรูปธรรมและเห็นผลโดยเร็ว

    ตั้งสภาสมานฉันท์สลายสีเสื้อ

    ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้แสดงความเป็นห่วงกลุ่มสีต่างๆในขณะนี้ โดยได้ให้แนวทางกับคณะทำงานไปหาวิธีในการสลายสีเสื้อต่างๆด้วยการตั้ง“สภาสมานฉันท์”ขึ้นในทุกพื้นที่ทั่วประเทศและเร่งดำเนินการให้ดีที่สุดเพื่อให้สถานการณ์กลับคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็ว พร้อมกันนี้ พล.อ.ประยุท์ ยังจะเดินหน้าตั้งสภาปฏิรูปและสภานิติบัญญัติ เพื่อเร่งหาทางทางออกนำไปสู่การเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลได้เมื่อใด ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์เป็นตัวกำหนด

    กองทัพเร่งผุดทั่วประเทศ

    ด้าน พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วย พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทองและพ.อ.วีระชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษก คสช.ร่วมแถลงว่า หัวหน้า คสช.เห็นชอบ รวมถึงการใช้อำนาจของหัวหน้า คสช.พยายามสร้างสภาวะแวดล้อมให้ปลอดภัย โดยบังคับใช้กฎหมายที่เข้มข้นควบคู่ไปกับการสร้างความสมานฉันท์ภายในประเทศ ลดความขัดแย้งของคนในชาติ ซึ่งจะเร่งดำเนินการทันที โดยทางหัวหน้า คสช.มอบหมายให้ทุกกองทัพภาคตั้งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์ในทุกพื้นที่ โดยเป็นศูนย์กลางให้ทุกฝ่ายที่เห็นต่างประชาชนในพื้นที่ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น โดยศูนย์ดังกล่าวจะให้ข้อมูลสร้างความเข้าใจให้ความรู้ในการบริหารราชการของ คสช.เพื่อป้องกันการนำข้อมูลไปบิดเบือน ซึ่งทำให้วงจรความขัดแย้งไม่คลี่คลาย ซึ่งจะเร่งดำเนินการให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว

    ตบเท้ารายงานตัวคสช.ต่อเนื่อง

    สำหรับบรรยากาศที่หอประชุมกองทัพบก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการเข้ารายงานตัวเพิ่มเติมของบุคคลต่างๆ ตามคำสั่ง คสช.โดยเวลา 10.00 -12.00น.นางฐิติมา ฉายแสง อดีตสส.พรรคเพื่อไทย ที่ไม่ได้มารายงานตัวในรอบแรก เข้ามารายงานตัวเป็นคนแรก ต่อด้วย นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรครักประเทศ พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า มารายงานตัวตามคำสั่งและไม่ได้เตรียมเสื้อผ้าหรือสัมภาระมาด้วย เพราะไม่มีเหตุผลถูกควบคุมตัว เชื่อว่า ศสช.เรียกมาเพื่อขอความเห็นให้ช่วยแก้ไขปัญหาประเทศ ซึ่งตนยินดีให้ความร่วมมือ โดยหลังรายงานตัวเสร็จก็ได้รับการปล่อยตัวไป

    ปล่อย”บรรหาร-ชูวิทย์”กลับ

    ต่อมานายอุกฤษ มงคลนาวิน ประธานคณะกรรมการอิสระว่าด้วยหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.)ได้เดินทางเข้ารายงานตัว กระทั่งเวลา 10.10น.นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา (ชพน.) เดินทางด้วยรถยนต์เข้าไปด้านในสโมสรกองทัพบก ตามมาด้วย นายผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตเลขานุการ รมว.มหาดไทยและคนสนิทพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ นายบรรหาร ได้รายงานตัวนานกว่า 1ชั่วโมง ก่อนเดินทางกลับไป
    ”เฮียเฮ้ง”เจ้าของตู้เกมโดนด้วย

    จากนั้น เวลา 11.00น.นายแดง แซ่เฮง หรือเฮียเฮ้ง เจ้าของตู้เกมที่ใหญ่ที่สุดในไทย น.ส.รังสิมา รอดรัศมี อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ นายอดิสร ผลลูกอินทร์ อดีตผู้สมัคร สส.พรรคเพื่อไทย จ.สุรินทร์ นางจุรีพร สินธุไพรนายวิทยา แก้วภราดัย แกนนำ กปปส.นายผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ นายทยากร ยศอุบล พ่อของน้องเคนและเค้กที่เสียชีวิตจากระเบิดหน้าบิ๊กซีราชดำริ เข้ารายงานตัว ตามมาด้วย นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง แกนนำกลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาชน (กวป.) และ พ.ต.ท.กุลธน ประจวบเหมาะ อดีต สส.พรรคเพื่อไทย ส่งตัวแทนมารายงานตัวและพล.ต.อ.วิรุฬห์ พื้นแสน อดีต สส.พรรคเพื่อไทย ได้เข้ารายงานตัว

    ส่ง”รังสิมา-วิทยา”ให้DSIคดีกบฎ

    น.ส.รังสิมา รอดรัศมี กล่าวก่อนเข้ารายงานตัวว่า ได้เตรียมเสื้อผ้า และของใช้ต่างๆสำหรับ 5วัน การถูกเรียกก็ยังงงอยู่ เพราะไม่รู้ว่า โดนเรียกข้อหาอะไร หลังรายงานตัวปรากฎว่า นางรังสิมา ถูกส่งตัวไปดำเนินคดีฐานกบฎยังกรมสอบสวนคีดพิเศษ (ดีเอสไอ)

    ต่อมา เวลา 13.50น.นายวิทยา เปิดเผยหลังเข้ารายงานตัวว่า รายงานตัวเรียบร้อย แต่ไม่ได้ถูกควบคุมตัว เพราะตนมีหมายจับข้อหากบฏอยู่ จึงถูกนำตัวส่งต่อไปยังดีเอสไอ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายวิทยาและน.ส.รังสิมาไปให้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอสอบปากคำจนเสร็จสิ้น จึงใช้หลักทรัพย์คนละ 1แสนบาท ขอประกันตัวกลับออกไป

    ปล่อย"ณัฐภัทร"ลูกพะเยาว์แล้ว

    ด้านพ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพ กล่าวว่า คสช.ได้ปล่อยตัว นายณัฐภัทร อัคฮาค หนึ่งในผู้ชุมนุมเคลื่อนไหวทางการเมือง หลังจากเข้าคุมตัวระหว่างการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ถนนอักษะ เมื่อวันที่ 22พฤษภาคม ทั้งนี้ คสช.ได้ดูแลและนำเข้าสู่กระบวนการสร้างความเข้าใจและปรับทัศนะคติที่ดี ซึ่งเจ้าตัวได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี โดยในวันนี้ นางพะเยาว์ อัคฮาค มารดา มารับตัวกลับบ้านเรียบร้อยแล้ว

    "มท.1-กี้ร์-ลายจุด"ยังล่องหน


    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบุคคลที่ฝ่าฝืนยังไม่มารายงานตัวตามคำสั่งคสช. ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือไม่ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาทนั้น ปรากฏว่าทั้งนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตรมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายสมบัติ บุญงามอนงค์ บก.ลายจุด นายพายัพ ปั้นเกตุและนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะมารายงานตัว

    “อ๋อย”โผล่ท้าทายสโมสรสื่อนอก


    ต่อมาเวลา 14.00น. นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีต รมว.กระทรวงศึกษาธิการ ที่ยังไม่ยอมไปรายงานตัว ได้ไปปรากฏตัวที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศ อาคารมณียา ถนนพระราม1 ย่านเพลินจิต พร้อมแถลงข่าว และแจ้งการเดินทางผ่านสื่อโซเซียลท้าท้ายให้คสช.ตามไปจับกุมกลางสายตาสื่อต่างประเทศ

    ใช้สื่อตปท.เป็นเครื่องมือสู้คสช.


    โดยนายจาตุรนต์ แถลงว่า ไม่ตั้งใจลี้ภัยไปต่างประเทศ หรือสู้ใต้ดิน แต่พร้อมจะถูกจับ ยืนยันว่าจะใช้เสรีภาพเรียกร้องให้ประเทศกลับสู่ประชาธิปไตย โดยเรียกร้องให้ คสช.คืนอำนาจสู่ประชาชนทันที ทั้งนี้เชื่อว่าสื่อต่างชาติมีภูมิต้านทานมากกว่าสื่อไทย จึงเลือกมาแถลงที่นี่ เพราะสื่อไทยคงนำเสนอเรื่องนี้ไม่ได้ ตอนนี้พร้อมจะถูกจับแล้ว และยืนยันว่าจะไม่ไปรายงานตัว ผมเป็นรัฐมนตรี ไม่ใช่นักเรียน ทำไมต้องไปรายงานตัว

    ทหารวิ่งกรูบุกหิ้วตัวทันควัน

    จากนั้น เวลา 15.30น.นายจาตุรนต์ กำลังจะให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวไทยอีกครั้ง เมื่อเริ่มไปได้เพียง 2-3 นาที มีนายทหารกว่าสิบนาย พร้อมอาวุธครบมือ ขึ้นมาห้องแถลงข่าว ทำให้เกิดความโกลาหลเนื่องจากสื่อไทยสื่อต่างประเทศพยายามกรูเข้ามาล้อมวงเพื่อให้ได้ภาพวินาทีที่ทหารคุมตัวนายจาตุรนต์ เมื่อทหารเดินมาถึงระบุว่า"ไม่มีอะไรนะครับ ผมมาทำตามหน้าที่ ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้มาเชิญตัว"

    ดังสมใจสื่อนอกแย่งถ่ายรูป


    โดย นายจาตุรนต์ ตอบว่า"ขอบใจมากที่มาด้วยความยิ้มแย้มแจ่มใส เพราะรู้อยู่แล้วว่าจะต้องมา สื่อมวลชนเพียงต้องการบันทึกภาพเท่านั้น"แต่ช่วงควบคุมตัวเป็นไปด้วยความทุลักทุเล เนื่องจากสถานที่คับแคบ แต่สื่อมีเป็นจำนวนมากที่แย่งกันบันทึกภาพ แม้กระทั่งช่วงนำตัวจากที่นั่งแถลงข่าวมายังหน้าลิฟต์ที่อยู่ห่างกันไม่กี่เมตรใช้เวลานานร่วมสิบนาที รวมทั้งช่วงมาถึงยังชั้นล่างกำลังจะนำตัวเข้ารถตู้ก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก แต่ที่สุดก็ผ่านไปได้ด้วยความเรียบร้อย ทหารนำขึ้นรถตู้ออกไปโดยไม่ทราบจุดหมายสถานที่จะนำไปควบคุมตัว

    ทำคดีส่งศาลทหารเป็นรายแรก

    ต่อมาทีมโฆษก คสช.แถลงถึงการจับกุม นายจาตุรนต์ ฉายแสง ว่า เพราะเลยเวลาที่ คสช.ได้ประกาศไว้ให้มารายงาน ถือว่าขัดขืนและเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เพราะเนื้อหาที่ นายจาตุรนต์ แถลงส่วนใหญ่นำไปสู่ความไม่สงบ พฤติกรรมแถลงข่าวผ่านสื่อต่างประเทศจึงไม่เหมาะสม คสช.จึงส่งเจ้าหน้าที่ไปเชิญตัว การกระทำของ นายจาตุรนต์ เป็นการช่วงชิงความได้เปรียบในพื้นที่สื่อ แต่ คสช.มั่นใจถึงเหตุผลความจำเป็นและมีข้อมูลเพียงพอที่จะไปทำความเข้าใจกับสื่อต่างประเทศว่า ทุกอย่างต้องปฏิบัติตามกฎหมาย นายจาตุรนต์ อยู่ในกลุ่มคนที่ขัดขืนคำสั่ง คมช.ถือว่าผิดกฎหมาย ทางเจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการอยู่แล้วและต้องนำตัวขึ้นศาลทหาร

    “นายจาตุรนต์ มีความผิดในการฝ่าฝืนประกาศ คสช.ซึ่งขัดต่อการประกาศกฎอัยการศึก รวมทั้งพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอยู่แล้ว เจ้าหน้าที่มีอำนาจในการควบคุมและนำตัวเข้าสู่กระบวนการเพื่อส่งฟ้องต่อศาลทหารต่อไป” พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษก คสช.กล่าว

    “จารุพงศ์”ท้าทายกำลังทำงานใหญ่

    ส่วนความเคลื่อนไหวของ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและอดีต รมว.มหาดไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 07.16น.มีการโพสต์ข้อความผ่านเฟช“จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ” ซึ่งเป็นเพจที่ใช้ติดตามความเคลื่อนไหวของ นายจารุพงศ์ นับแต่ คสช.ประกาศยึดอำนาจว่า “เพจนี้เรามีไว้สื่อสารกับประชาชนรักประชาธิปไตย หัวใจเสรีไทยนะครับ สำหรับผู้เห็นต่างทีมงานขอแบน มันเป็นการรบครับ ไม่ใช่ห้องสัมมนา เมื่องานใหญ่เสร็จ เราพร้อมรับฟังทุกความคิดเห็น”

    กองปราบ-ทหารดูแลบ้าน”ปู”


    ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) แหล่งข่าวซึ่งเป็นหนึ่งในชุดปฏิบัติการของ บก.ป.ระบุว่า ได้รับคำสั่งจาก สตช.ให้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ 3ชุดๆละ 6นาย เข้าเวรร่วมกับทหารผลัดเปลี่ยนกันไปดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยบ้านเลขที่38/9 ซอยโยธินพัฒนา3 ซึ่งเป็นบ้านพัก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายรัฐมนตรี โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ เดินทางกลับเข้าบ้านพักตั้งแต่วันที่ 23พฤษภาคมที่ผ่านมา หลังเข้ารายงานตัวตามคำสั่ง คสช.ขณะที่ ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร หรือน้องไปป์ บุตรชายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้ออกไปไหน มีเพียงวันที่ 24พฤษภาคม ซึ่งออกไปซ้อมฟุตบอล

    คสช.ย้ำปล่อย'ยิ่งลักษณ์”แล้ว

    พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษก คสช. เปิดเผยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้รับการปล่อยตัวแล้ว แต่หากจะเดินทางไปไหนทั้งในและต่างประเทศ ให้แจ้ง คสช.ๆ ทั้งนี้หลายคนจะควบคุมตัวไม่เกิน 3วัน แต่ปฏิเสธที่จะเปิดเผยข้อมูลว่า แกนนำ นปช.ได้รับการปล่อยตัวแล้วหรือไม่ ซึ่งวันที่ 28พฤษภาคมนี้คณะรองโฆษกจะชี้แจงตัวเลขบุคคลที่รายงานตัวตามประกาศ คสช.ทั้งหมด

    ไอซีที เร่ง ปิด เว็บภัยความมั่นคง

    นายสุรชัย ศรีสารคาม ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ปิดเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสม หมิ่นประมาทและเป็นภัยต่อความมั่นคงตามประกาศ คสช.ไปแล้วกว่า 200เว็บไซต์และติดตามเฝ้าระวังตรวจสอบเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาเข้าข่ายกระทำผิดต่อเนื่อง พร้อมตั้งคณะทำงานกำกับดูแลการใช้อินเทอร์เน็ตและสื่อสังคมออนไลน์ โดยมีผู้แทนจากกระทรวงไอซีที สำนักงาน กสทช. กองทัพบกและสตช.ร่วมเป็นคณะทำงาน เพื่อกำกับดูแลสื่อออนไลน์ในระดับที่เข้มข้นมากขึ้น

    "กำนัน"เข้าเยี่ยมผู้ชุมนุมถูกบึ้ม


    วันเดียวกัน ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. พร้อม นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ แกนนำ กปปส.เดินทางมาเยี่ยม นางพรศรี ยอดเพรช ผู้ชุมนุม กปปส.ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ระหว่างร่วมชุมนุมกับ กปปส.โดยนางพรศรี ต้องสูญเสียดวงตาและใบหน้ายุบ จากอาณุภาพสะเก็ดระเบิด ซึ่งแพทย์ได้ผ่าตัดใส่กระดูกเทียมรองเบ้าตา 4ชิ้นและใส่ตาเทียม โดน กปปส.รับผิดชอบค่าใช้จ่าย พร้อมหาทุนดูแลครอบครัวผู้ชุมนุมที่เสียชีวิตและส่งเสียด้านการศึกษาให้ลูกผู้ชุมนุม ทั้งนี้ นายสุเทพ ได้มอบดอกไม้และกระเช้าผลไม้ให้ นางพรศรี แต่ปฏิเสธกล่าวถึงเรื่องการเมือง โดยจะขอเดินสายเยี่ยมผู้ชุมนุมที่ได้รับบาดเจ็บก่อน โดยเวลา 11.00น.วันที่ 28พฤษภาคม จะเดินทางไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่ รพ.กลาง

    ขี้ข้าพท.แนะบิ๊กตู่ปล่อยทุกคน


    นายสมคิด เชื้อคง อดีต สส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ทำจดหมายถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ในฐานะหัวหน้า คสช.โดยเนื้อหาระบุว่า ถ้าอยากให้บ้านเมืองสงบจริงๆ ทำได้ไม่ยากเลย หยุดการใส่ร้ายฝ่ายตรงข้าม ปล่อยตัวนักการเมือง-นักวิชาการที่ถูกควบคุมตัวทั้งหมด เพราะไม่ควรจำกัดสิทธิ์เขา รังแต่จะสร้างความเกลียดชังเปล่าๆ คณะยึดอำนาจจะอยู่ได้หรือไม่ได้ มันอยู่ที่การกระทำของตนเอง การยึดอำนาจแล้วเข้าครอบครองเองทุกเรื่อง นับถอยหลังได้เลย ประชาชนมองดูคุณอยู่หลายล้านสายตา อย่าคิดปิดแผ่นฟ้าด้วยฝ่ามือ

    “วัชรพล"เตรียมผ่าตัดสตช.ใหม่

    พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รอง ผบ.ตร.รักษาราชการแทน ผบ.ตร.ปฏิเสธเรื่องแนวคิดการจัดตั้งกระทรวงการรักษาความปลอดภัยภายในตามแผนปฏิรูปโครงสร้างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) แต่ยอมรับว่า การปฏิรูปโครงสร้างตำรวจมีในแผนงาน จะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบบริหารงานในรูปแบบนิติบุคคล เน้นกระจายอำนาจ โดยผู้บัญชาการภาคแต่ละภาคมีอำนาจบริหารจัดการภายในและมีนโยบายเป็นของตัวเอง ไม่ต้องรับคำสั่ง หรือนโยบายจาก สตช.ส่วนระยะเวลาดำเนินการนั้น ยังไม่สามารถยืนยันได้ เพราะต้องหารืออย่างรอบคอบและได้รับความเห็นชอบจากผู้บังคับบัญชาระดับสูงและรัฐบาลใหม่ในอนาคต ส่วนตัวเห็นว่า หากผู้นำองค์กรเป็นผู้นำที่ดี มีจริยธรรม จะทำให้องค์กรเป็นองค์กรที่ดี สามารถขับเคลื่อนต่อไปได้

    ผ่าDSIโปร่งใส-ไร้การเมืองแทรก


    ขณะที่ นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) ในฐานะปฏิบัติหน้าที่ รมว.ยุติธรรม เปิดเผยถึงแนวทางการปรับการทำงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอว่า ต้องให้มีความโปร่งใส ไม่ถูกแทรกแซงจากการเมือง โดยเฉพาะที่มาของอธิบดี ที่ต้องปรับให้มีมาตรฐานคล้ายการคัดเลือกของคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ตร.) ซึ่งต้องมีผู้ทรงคุณวุฒิเข้าร่วมแต่งตั้งด้วย ไม่ใช่มีแต่นักการเมือง เนื่องจากอำนาจอธิบดีดีเอสไอ ไม่ต่างจากอำนาจของ ผบ.ตร.
     
  3. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    Paisal Puechmongkol

    https://th-th.facebook.com/Paisal.Fanpage

    รายชื่อ ครม ว่อนเน็ต


    ไม่ต้องถามใครเลย

    แค่พิเคราะห์เอาก็รู้ ว่าไม่จริง

    จะ ปล่อย ข่าวลวง ทั้งที ยังทำไม่เป็น

    ก็ยัง ไม่มี รัฐธรรมนูญหรือประกาศรองรับ จะมี ครม ได้ไง
     
  4. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    บทความใน นสพ.แนวหน้า เรื่อง "มองกระบวนการเดินหน้าของประเทศชาติ" 28 พ.ค.2557

    บทความใน นสพ.แนวหน้า เรื่อง "มองกระบวนการเดินหน้าของประเทศชาติ" 28 พ.ค.2557
    บทความพิเศษ
    เขียนโดย สิริอัญญา

    วันพุธที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๑:๓๔ น.



    คสช. ได้ยึดอำนาจการปกครองอย่างเรียบร้อยและโดยไม่เสียเลือดเนื้อเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 นับถึงวันนี้เป็นเวลา 6 วันแล้ว เป็นเวลา 6 วัน

    ที่ คสช. ได้ทำการมากหลายเพื่อนำประเทศเข้าสู่ความสงบสุข อันจะเป็นบาทฐานของการกอบกู้ฟื้นฟูชาติเพื่อความรุ่งเรืองไพบูลย์สืบไป


    ที่สำคัญที่สุดที่ทำให้ คสช. ยืนอยู่ได้ก็เพราะได้รับการสนับสนุนจากประชาชนชาวไทยทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างกว้างขวางที่สุดเท่าที่มีการปฏิวัติเป็นต้นมา

    และที่สำคัญที่สุดกว่านั้นคือ การหยุดยั้งแผนการร้ายทั้งหลายที่มีการเตรียมการมานานปี เพื่อรับมือหากว่ามีการปฏิวัติ

    แผนการร้ายเหล่านั้นได้ถูกทำลายลงอย่างสิ้นเชิง ซึ่งประชาชนชาวไทยควรจะได้รับรู้เพื่อจะได้ทุ่มเทความสนับสนุนให้การใหญ่ของแผ่นดินประสบความสำเร็จ

    เรื่องแรก คือการหยุดยั้งการปฏิวัติตัวเอง และการปฏิวัติซ้อน ที่มีการเตรียมการวางแผนอย่างแยบยล แต่แผ่นดินนี้ศักดิ์สิทธิ์ พระสยามเทวาธิราชมีจริง

    แผนการร้ายจึงล่วงรู้ถึงฝ่ายทหารและสามารถกำราบปราบปรามได้อย่างราบคาบ และอย่างเงียบเชียบด้วย


    เรื่องที่สอง คือการหยุดยั้งการอาศัยต่างชาติมาต่อต้านการปฏิวัติ

    ไม่ว่าแผนการเข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ในสถานทูตบางแห่ง และใช้ฐานพื้นที่บางจังหวัดในภาคเหนือซึ่งเตรียมการมานานเป็นฐานการต่อต้านปฏิวัติ ประสานเข้ากับการใช้กองกำลังที่เตรียมการไว้จำนวนมากก่อวินาศกรรมและทำการต่อสู้กับกองทัพไทยตามที่ได้ประกาศไว้

    เรื่องที่สาม คือการหยุดยั้งการสร้างสถานการณ์วุ่นวายเพื่อทำลายการปฏิวัติและการกลับคืนฟื้นตัวอีกครั้งหนึ่ง

    แผนก่อวินาศกรรม แผนทำร้ายบุคคลสำคัญ แผนการวางเพลิงสถานที่ราชการและอาคารสถานที่ของเอกชนเพื่อลุกฮือขึ้น ถูกทำลายลงอย่างสิ้นเชิง


    เรื่องที่สี่ ที่ยังคงดำเนินการอยู่คือการจัดกระบวนผีสันติภาพ ที่เคยใช้มาก่อนเมื่อปี 2550 แล้วสมทบด้วยการถอดเสื้อสีมาผสมโรง โดยมีการจ่ายค่าจ้าง การประสานกับสื่อพิษและล็อบบี้ยิสต์ในต่างประเทศ เพื่อสร้างภาพว่าประเทศไทยมีการจลาจลวุ่นวายเพื่อให้ต่างชาติเข้ามาแทรกแซง แต่แผนนี้ก็ถูกกุมสภาพได้ ยุทธการสาวใยไหมที่จะเก็บทั้งใยไหมและตัวไหมจึงถูกนำมาใช้เพื่อรับมือกับแผนการร้ายนี้ อันควรที่ประชาชนซึ่งไม่รู้อิโหน่อิเหน่พึงถอนตัว พึงรู้เท่าทันและไม่ควรเข้าร่วมอย่างเด็ดขาด


    นั่นเป็นเรื่องของการทำให้บ้านเมืองกลับสู่ความเป็นปกติสุข และในส่วนของการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า แทบไม่น่าเชื่อว่า คสช. ได้ดำเนินการไปอย่างรวดเร็วหลายเรื่อง ที่สำคัญคือ


    ข้อแรก การช่วยเหลือชาวนาให้ได้รับเงินค่าข้าวที่ถูกโกงมากว่า 6 เดือน ซึ่งเริ่มต้นแล้ว และกำลังจะเสร็จสิ้นแล้ว ทำให้ชาวนามีทุนรอนทันเพาะปลูกในฤดูกาลใหม่ ทำให้เงินนับแสนล้านบาทไหลลงสู่รากหญ้าในชนบทที่จะบำรุงเลี้ยงระบบเศรษฐกิจตั้งแต่ชนบทขึ้นสู่ต้นไม้คือเมืองหลวงเป็นครั้งแรก ทำให้เกิดเสียงเฮลั่นสนั่นทุ่งทุกจังหวัด

    ข้อสอง การประกาศสำคัญที่ว่า จะไม่ให้ประชาชนไทยต้องจ่ายค่าน้ำมันและแก๊สหรือพลังงานที่แพงอีกต่อไป และได้ดำเนินการประชุมเบื้องต้นไปแล้ว คาดว่าจะผลิดอกออกผลในเร็ววันนี้

    ข้อสาม
    การเร่งผลักดันให้มีการใช้จ่ายเงินงบประมาณปี 2557 ที่ยังไม่ได้ใช้งบพัฒนาเลย เพื่อให้ระยะเวลา 4 เดือนที่เหลือเป็น 4 เดือนแห่งการทุ่มเท พัฒนา และขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศครั้งยิ่งใหญ่ในรอบปีนี้

    ข้อสี่
    การสั่งการให้จัดทำงบประมาณ 2558 ซึ่งได้ล่วงเลยเวลาตามกรอบเวลาทำงบประมาณมาช้านานแล้ว โดยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ประกาศชัดเจนว่าจะต้องทำให้เสร็จและใช้ทันปีงบประมาณ 2558 ให้ได้


    ทั้งสี่เรื่องนั้นล้วนเป็นเรื่องใหญ่ใจกลางของการขับเคลื่อนบริหารราชการแผ่นดิน และเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2557 หัวหน้า คสช. ก็ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าคณะ คสช. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว อันเป็นสัญญาณหมายว่ากระบวนการยึดอำนาจครั้งนี้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ทั้งพฤตินัยและนิตินัยแล้ว


    เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินแต่นี้ไปก้าวรุดหน้าไปอย่างมั่นคงและรวดเร็ว จะทำอะไรกัน? ซึ่งบัดนี้ คสช. ยังมิได้แถลงอย่างชัดเจน แต่จากเท่าที่มีการแถลงมาบ้างก็พอที่จะสรุปให้เห็นถึงจังหวะก้าวในการขับเคลื่อนการบริหารราชการแผ่นดินดังนี้

    ขั้นแรก หลังจากได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นหัวหน้า คสช. แล้วก็น่าจะเป็นการนำความกราบบังคมทูลเพื่อประกาศใช้ธรรมนูญการปกครองแผ่นดิน หรือรัฐธรรมนูญ 2557 เพื่อเป็นหลักในการบริหารประเทศ โดยน่าจะยังคงสงวนอำนาจรัฏฐาธิปัตย์และอำนาจเด็ดขาดเพื่อความจำเป็นในการแก้ปัญหาวิกฤตของประเทศไว้อีกระยะหนึ่ง

    ขั้นที่สอง การโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีจะได้ถวายคำแนะนำเพื่อโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรีประกอบเข้าเป็นคณะรัฐมนตรีบริหารราชการแผ่นดินต่อไป ตามรัฐธรรมนูญและประกาศหรือคำสั่งของ คสช.

    ขั้นที่สาม การตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อทำหน้าที่รัฐสภา

    ขั้นที่สี่ การแต่งตั้งสภาปฏิรูปโดยกระบวนการซึ่งน่าจะกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ เพื่อกำหนดแนวทางปฏิรูปประเทศไทยอย่างทั่วด้าน

    ก็ได้แต่หวังว่าในรัฐธรรมนูญที่จะประกาศใช้นั้นจะไม่มีบทบัญญัติที่โง่เขลาที่กำหนดให้ต้องเลือกตั้งกันเมื่อนั่นเมื่อนี่ และที่สำคัญ ให้จับตาดูว่าจะมีกระบวนการยึดอายัดทรัพย์เหล่ามหาโจรที่โกงบ้านกินเมืองหรือไม่อย่างไรด้วย?
     
  5. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    ล้างบอร์ดการเมืองรัฐวิสาหกิจ - โพสต์ทูเดย์ ข่าวเศรษฐกิจ-หุ้น


    “บิ๊กจิน” สั่งปลัดคลังล้างบางบอร์ดรัฐวิสาหกิจ คาด กรุงไทย-ออมสิน-บินไทย-ทอท.จ่อเจอเปลี่ยนตัวอันดับต้นๆ

    นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลังปฏิบัติหน้าที่ รมว.คลัง เปิดเผยว่า พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คสช. ได้ให้นโยบายกระทรวงการคลังในเรื่องของการปรับประสิทธิภาพรัฐวิสาหกิจ (รสก.)

    ทั้งนี้ พล.อ.อ.ประจิน ให้พิจารณาเปลี่ยนคณะกรรมการ (บอร์ด) ของ รสก.ต่างๆ ให้มีความเหมาะสมมากขึ้น เพราะที่ผ่านมามีกรรมการของ รสก.เข้ามาเป็นกรรมการด้วยอะไรไม่รู้

    นอกจากนี้ ในวันที่ 31 พ.ค. พล.อ.อ.ประจิน ได้สั่งการให้เรียกผู้บริหาร รสก.ทั้งหมดไปหารือ ซึ่งปลัดกระทรวงการคลังและผู้บริหารคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ที่เป็นผู้ดูแลกำกับ รสก.ทั้งหมดจะต้องเข้าร่วมประชุมด้วย

    นายรังสรรค์ กล่าวว่า ข่าวลือการปรับเปลี่ยนคณะกรรมการบริษัท ปตท. ที่ลือกันมาหลายวันแล้วในโซเชียลมีเดีย ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร

    นอกจากนี้ ปตท.เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ การเปลี่ยนบอร์ดบริษัทเป็นอำนาจของผู้ถือหุ้น ถึงแม้ว่ากระทรวงการคลังจะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ แต่ก็ต้องเรียกประชุมผู้ถือหุ้นก่อน ขณะนี้ยังไม่ได้รับสัญญาณจาก คสช.ให้ปรับเปลี่ยนกรรมการ ปตท. ในเวลานี้

    แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คสช.ได้สั่งให้กระทรวงการคลังทำรายละเอียดผู้ที่เป็นคณะกรรมการใน รสก.ทั้งหมดทุกแห่งให้ คสช. โดยให้ระบุว่ากรรมการแต่ละคนเป็นใคร มีประวัติการศึกษาและประสบการณ์ทำงานอย่างไร ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลไหนให้เข้าเป็นกรรมการในหน่วยงานนั้นๆ หรือใครเป็นผู้แต่งตั้งเข้าไปเป็นกรรมการ

    แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ทางกระทรวงการคลังได้ส่งรายละเอียดบอร์ด รสก.ทุกแห่งให้ คสช.แล้ว แต่ถูกตีกลับมาให้ทำใหม่ โดยให้โยงใยความสัมพันธ์ของกรรมการแต่ละคนกับคนในรัฐบาลนั้นๆ เพื่อดูความสัมพันธ์ของกรรมการ รสก.กับนักการเมือง

    “ที่ผ่านมารัฐวิสาหกิจกลายเป็นแหล่งแสวงหาผลประโยชน์ ยังใช้เป็นการให้รางวัลกับคนใกล้ชิดหากจะต้องเปลี่ยนแปลงบอร์ดรัฐวิสาหกิจ คาดว่าคงจะต้องถูกเปลี่ยนทุกหน่วยงาน และ คสช.สามารถที่จะสั่งเปลี่ยนได้เลย แล้วเรียกประชุมผู้ถือหุ้นแจ้งให้ทราบใน|ภายหลังได้”แหล่งข่าวเปิดเผย

    สำหรับบอร์ด รสก.ที่คาดว่าจะถูกเปลี่ยนเป็นอันดับต้นๆ คือ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน บริษัท การบินไทย และบริษัทท่าอากาศยานไทย (ทอท.)
     
  6. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    https://www.facebook.com/Paisal.Fanpage?hc_location=timeline

    17 นาทีที่แล้ว

    คสช ได้อำนาจรัฐแล้ว
    ต่อไปนี้คือรักษาอำนาจและใช้อำนาจ

    ทั้งสองเรื่องนี้ต้องพึ่งประชาชน อาศัยประชาชน รู้จักมิตรและศัตรู

    สามัคคีมิตร แก้ปัญหาศัตรู

    หากคิดว่าจะทำเป็นกลาง ก็จะโดดเดี่ยวและพ่ายแพ้

    อย่าลืมว่าที่ทำอยู่นี้มันเป็นสงครามชนิดหนึ่ง

    ไม่ใช่เรื่องเล่นขายของหรือสนองคุณมิตรสหาย


    [​IMG]
     
  7. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    https://th-th.facebook.com/Paisal.Fanpage

    น่าสงสารคนรู้เท่าไม่ถึงการ


    มอเตอร์ไชด์ คันละ 2500 ถ้าถูกยึดรถ จะคุ้มหรือ

    ชาวบ้าน 3 ชั่วโมง 400-800 พอคุ้มค่า ขึ้นศาลทหารไหมละเนี่ย

    พวกแกนไม่กล้าโผล่ แต่หนีได้หรือ ทีมประสานนัดหมายจะถูกรวบก่อน

    หากใช้ความรุนแรงถึงคนตาย หรือวางเพลิงอาจเจอ มุ้ย จุ้ยเจริญ

    แล้วจะร้องขอให้ใครช่วยได้

    มุ้ย จุุ้ยเจริญ คือเพชรฆาตที่ยิงเป้าคนกลางสนามหลวงนะจ๊ะ

    ช่วยกันเตือนเถอะครับ ใครเป็นญาติพี่น้องต้องรีบหน่อย

    เวรกรรมๆๆ
     
  8. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    https://www.facebook.com/Paisal.Fanpage?hc_location=timeline

    9 นาทีที่แล้ว ·


    บอกแล้วไงว่ามันเป็นสงครามชนิดหนึ่ง

    ปิดเฟสบุคโดยแจ้งว่าเป็นคำสั่ง คสช


    นี่มันจงใจสร้างศัตรูนับล้านคนให้ คสช นะเว้ย

    คนค้า คนขาย sme เขาจะเดือดร้อนแค่ไหน

    คิดว่าทหารเขาโง่เรอะ แป๊บเดียวเขาก็จับได้ไล่ทัน

    พี่น้องทั้งหลาย การปิด เฟสบุคนี้นะ คสช เขาไม่ได้เกี่ยว

    ไอ้พวกขี้ข้าซากเดนมันเล่นกลนะครับ
     
  9. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
  10. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    https://www.facebook.com/Paisal.Fanpage?hc_location=timeline

    ชมรมคนไทยในสหรัฐ ส่งข่าวมารายงานพี่น้องประชาชนดังนี้


    ๑ ชาวไทยในสหรัฐและในอีกหลายประเทศ ได้มีหนังสือเรียกร้องไปยังประธานาธิบดีโอบามา คัดค้านการแทรกแซงประเทศไทยและแฉว่าระบอบเก่าเป็นอาชญากรก่อการร้ายและจอมคอมรัปชั่นของโลก

    ในการนี้ยังได้ระดมเครือข่ายทั้งที่เป็นทนายความ นักกฎหมายและนักการเมือง

    ระดมคัดค้านด้วย จนขณะนี้ทั้งทำเนียบขาวและสภาคองเกรสมีแต่เรื่องคนไทยคัดค้านการแทรกแซงประเทศไทย


    ๒ มีการตรวจสอบพบว่าเครือข่ายนักการเมือง กำลังประสานงานเตรียมการโจมตีค่าเงินบาท โดยประสานงานกับนักโจมตีค่าเงินทั้งในนิวยอร์ค ซานฟรานและอีกหลายสถาบัน

    และยังมีการประสานงานกับสถาบันประเมินความเชื่อมั่นเพื่อลดเครดิตประเทศไทยด้วย
     
  11. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    �Ƿҧ��û���ٻ�ӹѡ�ҹ��¡���٧�ش - Daily News - Manager Online


    แนวทางการปฏิรูปสำนักงานอัยการสูงสุด


    โดย สิริอัญญา 28 พฤษภาคม 2557 15:30 น.


    หลายปีที่ผ่านมานี้ คนไทยชอกช้ำใจกับข่าวคราวในเชิงลบของพนักงานอัยการ ที่ได้ออกสู่สาธารณะอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย เป็นข่าวคราวเกี่ยวกับการกระทำที่คนไทยรู้สึกว่าสวนทางกับความยุติธรรมอย่างร้ายแรงหลายครั้ง

    กระทั่งเห็นว่าเป็นอุปสรรคต่อการอำนวยความยุติธรรมและการปราบปรามการทุจริต ที่มักจะมีข่าวคราวว่าการดำเนินคดีอาญาของ ป.ป.ช.จะเกิดความขัดแย้งจากทางพนักงานอัยการและสูญเสียเวลาไปเป็นอันมาก กระทั่ง ป.ป.ช.ต้องฟ้องคดีเอง และหลายคดี ป.ป.ช.ก็เป็นฝ่ายชนะคดี โดยที่ผู้เกี่ยวข้องในการไม่ยอมฟ้องคดีไม่เคยต้องรับผิดชอบใดๆ เลย

    กระทั่งมีการใช้อำนาจถอนฟ้องคดีที่มีการฟ้องคดีต่อศาลแล้ว เพื่อเอื้อประโยชน์ทางการเมืองให้นักการเมือง มีการสั่งไม่ฎีกาในคดีที่มีปกติต้องฎีกา เพื่อประโยชน์ของนักการเมือง รวมทั้งการเข้าไปเป็นกรรมการของรัฐวิสาหกิจ ทำให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อน และในที่สุดก็เกิดความเสียหายใหญ่หลวงแก่รัฐวิสาหกิจหลายครั้ง

    เหล่านี้เป็นความชอกช้ำระกำใจที่คนไทยต้องการเห็นการปฏิรูปสำนักงานอัยการสูงสุด

    ยิ่งล่าสุดนี้พฤติกรรมของอดีตอัยการสูงสุดที่ให้คำตอบต่อฝ่ายทหารว่า นาทีนี้ไม่ลาออก และก่อนหน้านั้นเล็กน้อยที่แสดงท่าทีอันส่อว่าจะกระทบต่อพระมหากษัตริย์ สร้างความเจ็บช้ำน้ำใจอย่างยิ่ง

    เพราะคำพูดสุดท้ายของอดีตอัยการสูงสุดที่รู้กันทั้งบ้านทั้งเมืองว่า มีความสัมพันธ์ลึกล้ำกับระบอบทักษิณ จึงทำให้เกิดคำพูดแรกสุดของฝ่ายทหารคือ ถ้าอย่างนี้ผมยึดอำนาจ และเกิดการรัฐประหารครั้งที่ 13 ขึ้นดังที่เป็นอยู่ในขณะนี้

    เราจะปฏิรูปสำนักงานอัยการสูงสุดกันอย่างไร? จะต้องรู้จักฐานะและภูมิหลังของหน่วยงานนี้เสียก่อน

    ข้อแรก แต่ก่อนหน้านี้พนักงานอัยการทั้งหลายสังกัดอยู่ในกรมอัยการ ซึ่งเป็นหน่วยงานระดับกรมในกระทรวงมหาดไทย ทำหน้าที่เป็นทนายแผ่นดินในการฟ้องคดีอาญาผู้กระทำผิดตามกฎหมาย ที่กระทบต่อรัฐและว่าต่างแก้ต่างให้กับหน่วยราชการหรือส่วนราชการที่เป็นคดีความ

    ฐานะของกรมอัยการคือกลไกหนึ่งของรัฐบาลในการฟ้องผู้กระทำความผิดต่อศาล และในการเป็นทนายความว่าต่างแก้ต่างให้ส่วนราชการและข้าราชการ ฐานะดังกล่าวจึงเป็นฐานะที่เป็นหน่วยงานของรัฐบาล ไม่ใช่องค์กรอิสระที่จะทำอะไรตามใจชอบก็ได้ดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

    นับตั้งแต่ประเทศไทยมีระบบกฎหมายขึ้นใช้บังคับเป็นต้นมา กรมอัยการและฐานะของพนักงานอัยการเป็นดั่งนี้ กระบวนการยุติธรรมขั้นกลางที่ต่อเนื่องมาจากตำรวจคือพนักงานสอบสวนซึ่งเป็นกระบวนการยุติธรรมขั้นต้น จึงเป็นองค์กรหรือเครื่องมือของรัฐบาลในการบังคับใช้กฎหมาย ไม่ใช่ฐานะที่เป็นอิสระ และได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยดีตลอดมา

    ต่อมาก็มีความพยายามที่จะยกฐานะของอัยการให้ทัดเทียมหรือเสมอกับฝ่ายตุลาการ ทั้งๆ ที่เป็นคนละเรื่องคนละราว เพราะฝ่ายตุลาการนั้นเป็นอำนาจตุลาการ เป็นอธิปไตยหนึ่งทัดเทียมกับอำนาจบริหารและอำนาจนิติบัญญัติ แต่หน่วยงานระดับกรมอย่างอัยการกลับใฝ่ฝันที่จะมีฐานะองค์กรและฐานะของบุคลากรเสมอด้วยสถาบันตุลาการ

    ความพยายามดังกล่าวไม่สามารถฝ่าฝืนหลักการที่อัยการคือกลไกหรือเครื่องมือของฝ่ายบริหาร และไม่อาจนำไปเปรียบเทียบกับสถาบันตุลาการได้ ยกเว้นเฉพาะด้านเงินเดือนก็ได้มีการเคลื่อนไหวรณรงค์จนกระทั่งบุคลากรของอัยการมีฐานะและเงินเดือนทัดเทียมกับฝ่ายตุลาการ

    เริ่มมีความแปลกเปลี่ยนเกิดขึ้นจากการวิ่งเต้นเข้าหานักการเมือง ยอมตนเป็นเครื่องไม้เครื่องมือของนักการเมืองเพื่อผลักดันให้อัยการมีฐานะทัดเทียมกับอำนาจตุลาการ และในที่สุดความแปรเปลี่ยนนั้นก็เป็นผลให้นักการเมืองแต่งตั้งให้พนักงานอัยการเข้าไปเป็นกรรมการในรัฐวิสาหกิจต่างๆ โดยอ้างว่าเพื่อช่วยดูแลทางด้านกฎหมาย ซึ่งเป็นคนละเรื่องเพราะหากเป็นปัญหาทางกฎหมาย หน่วยงานของรัฐมีหน้าที่ต้องปรึกษาสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ไม่ใช่อัยการ

    ทำให้บางครั้งอัยการมีบทบาทกลายเป็นที่ปรึกษาแทนสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปเลยก็มี การเข้าไปเป็นกรรมการในรัฐวิสาหกิจทำให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อนและเกิดความเสียหายขึ้น และเมื่อมีคดีความเกิดขึ้นก็มีการเอื้อประโยชน์หรือดำเนินการเพื่อหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ ทำให้เสื่อมเสียต่อผลประโยชน์แห่งรัฐ

    แต่ครั้งหนึ่งเมื่อมีการปฏิวัติเกิดขึ้น ผู้นำของอัยการคนหนึ่งมีบทบาทในการร่างประกาศคณะปฏิวัติ จึงได้ฉวยโอกาสนั้นก่อการเคลื่อนไหวเรื่อยมา เป็นผลให้มีการแยกอัยการออกจากกระทรวงมหาดไทย ตั้งเป็นสำนักงานอัยการสูงสุด และผู้บริหารสูงสุดก็คืออัยการสูงสุด ทำนองเดียวกับประธานศาลฎีกา หรือผู้บัญชาการทหารสูงสุดฝ่ายทหาร

    และเมื่อมีการตรารัฐธรรมนูญในระยะหลัง ก็ได้มีการตราให้สำนักงานอัยการสูงสุดเป็นองค์กรอิสระ และได้ก่อให้เกิดความรู้สึกที่เจ็บช้ำน้ำใจ จนก่อเกิดเป็นกระแสเรียกร้องให้มีการปฏิรูปขึ้น

    ประเทศนี้ไม่สามารถปล่อยให้สำนักงานอัยการสูงสุดเป็นอย่างนี้ต่อไปได้ แล้วจะปฏิรูปกันอย่างไร?

    ประการแรก จะต้องกลับสู่สถานะเดิม คือเป็นกลไกหนึ่งของรัฐ ดังที่เป็นมาแต่เดิม ไม่ใช่เป็นองค์กรอิสระที่จะฟ้องใครหรือไม่ฟ้องใคร หรือจะถอนฟ้องใครอย่างไรก็ได้ดังที่เป็นอยู่ในขณะนี้ นั่นคือต้องตรากฎหมายให้สำนักงานอัยการสูงสุดเป็นหน่วยงานระดับทบวงในสังกัดกระทรวงยุติธรรม โดยให้อัยการสูงสุดเป็นหัวหน้าส่วนราชการเหมือนเดิมและโครงสร้างตามเดิม ทั้งต้องไม่ตรารัฐธรรมนูญยกฐานะเป็นองค์กรอิสระอีกต่อไป

    ประการที่สอง จะต้องห้ามเด็ดขาดไม่ให้พนักงานอัยการไปดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการในรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานของรัฐ ในกรณีมีปัญหาทางกฎหมาย ต้องให้ไปปรึกษาหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เว้นแต่มีการประสานงานในระหว่างการดำเนินคดีกับส่วนราชการ ก็เป็นเรื่องของการประสานงานเท่านั้น เพื่อป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างสิ้นเชิง เช่นเดียวกับฝ่ายตุลาการที่ห้ามเด็ดขาดมิให้มีผลประโยชน์ทับซ้อนในลักษณะนี้ และต้องไม่มีข้อยกเว้นเป็นช่องทางแล้วใช้ช่องทางนี้ก่อผลประโยชน์ทับซ้อนจนเกิดความเสียหายใหญ่หลวงขึ้น

    ประการที่สาม จะต้องตราระเบียบการอัยการว่าด้วยการสั่งฟ้อง ว่าด้วยการดำเนินคดี ว่าด้วยการว่าต่าง แก้ต่าง ว่าด้วยการถอนฟ้อง ถอนอุทธรณ์ ถอนฎีกาให้มีความชัดเจน และเป็นหลักปฏิบัติ ทำนองเดียวกับพระธรรมนูญศาลยุติธรรมและวิธีพิจารณาความของสถาบันตุลาการ

    ประการที่สี่
    จะต้องมีผู้ตรวจการสำนักงานอัยการสูงสุด ในสังกัดของกระทรวงยุติธรรม เพื่อทำหน้าที่ตรวจราชการและการปฏิบัติของสำนักงานอัยการสูงสุดและข้าราชการอัยการเพื่อถ่วงดุลและคานอำนาจกับคณะกรรมการอัยการ เพื่อทำให้ความยุติธรรมดำเนินไปอย่างถูกต้องเที่ยงตรง

    สำนักงานอัยการสูงสุดกลายเป็นองค์กรอิสระ และเกิดผลดังที่เห็นๆ กันอยู่ก็เพราะการปฏิวัติ ดังนั้นการกลับไปสู่สถานะเดิมเพื่ออำนวยความยุติธรรมในบ้านเมืองให้เป็นที่พึ่งของอาณาประชาราษฎรทั้งหลายก็ต้องกลับด้วยการปฏิวัติด้วยเช่นเดียวกัน!
     
  12. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    https://www.facebook.com/Paisal.Fanpage

    Paisal Puechmongkol
    13 นาทีที่แล้ว


    พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๕ เคยมีพระบรมราชวินิจฉัยว่า ไม่มีชาติใดจะมั่งคั่งได้ เพราะทำการเกษตรแบบดั้งเดิม สยามจึงไม่สามารถอยู่ได้เพราะเกษตรกรรมดั้งเดิม

    และสยามก็ไม่มีพื้นฐานทางอุตสาหกรรมแบบยุโรป ไม่มีโนว์เฮา ไม่มีทุน ไม่มีเทคโนโลยี ไม่มีตลาด

    สยามจึงไม่มีทางทำอุตสาหกรรมของตัวเองได้

    ทรงมีพระบรมราชวินิจฉัยว่าแนวทางที่เหมาะแก่สยามคือการพัฒนาประเทศเป็นแบบเกษตรอุตสาหกรรม นั่นคืออุตสาหกรรมการเกษตร


    ตลอดรัชกาล ทรงนำพาประเทศ เดินหนทางสายนี้ ทำให้สยามมั่งคั่งมากที่สุดในภูมิภาค

    แต่ธงชัยผืนนี้ถูกเลิกล้มไปหลังสิ้นรัชกาล

    แล้วมาเปลี่ยนเป็นเดินหนทางอุตสาหกกรรมถึงทุกวันนี้


    ครั้งนี้เป็นโอกาสดี ที่เราจะอัญเชิญธงชัยของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๕ กลับมาอีกครั้ง

    พัฒนาภาคเกษตรให้เป็นแบบอุตสาหกรรม

    พัฒนาการแปรรูปผลิตผลการเกษตรเพื่อส่งไปขายทั่วโลก แทนที่จะส่งเพียงวัตถุดิบซึ่งได้ราคาน้อยกว่ามาก


    ดังเช่นยางพารา แทนที่จะส่งยางดิบออกไปขายเหมือนเมื่อ๑๐๐ ปีที่ผ่านมา

    ก็ควรระดมเอาผู้ประกอบอุตสาหกรรมแปรรูปยางพาราจากทั่วโลกมาลงทุนทำในไทย และควรลดภาษีให้ครึ่งหนึ่ง ไทยก็จะจำเริญ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 28 พฤษภาคม 2014
  13. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    [​IMG]

    ภาพ พระพุทธเจ้าหลวง ทรงเสด็จหัวเมืองปักษ์ใต้

    พระองค์ทรงเกวียนโคคู่ มีทหารเรือไม่ใส่รองเท้ากางเกงสีขาวเลอะโคลน ยืนรับเสด็จทำให้เกิดจินตนาการร่วมสมัยถึงความทุกข์ยากยุคนั้น

    รู้สึกประทับใจในภาพแม้จะยากลำบากพระองค์ก็เสด็จไปเยี่ยมพสกนิกรของพระองค์​


    หมายเหตุเพิ่มเติม

    ภายหลังเสียดินแดน ๔ รัฐมลายู คือไทรบุรี กลันตัน ตรังกานู และปะลิส ให้แก่อังกฤษ คราวกู้ยืมเงินเพื่อก่อสร้างทางรถไฟสายใต้เมื่อปลายปี พ.ศ. ๒๔๕๑ พร้อมกับมีข้อตกลงลับกับรัฐบาลอังกฤษที่มลายูว่า สยามจะไม่ส่งกองทหารลงไปประจำในคาบสมุทรมลายู ตั้งแต่ บางสะพานน้อยลงไป จนสุดพระราชอาณาเขตในมณฑลปัตตานี

    เพื่อประกอบพระราชวินิจฉัยในการจัดการป้องกันประเทศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร จึงได้เสด็จพระราชดำเนินเลียบหัวเมืองมณฑลปักษ์ใต้เป็นครั้งแรก ระหว่างวันที่ ๘ เมษายน – ๓๑ พฤษภาคม ๒๔๕๒ เพื่อทอดพระเนตรสภาพภูมิประเทศ และชัยภูมิในแนวคอคอดกระรวมถึงความเป็นอยู่ของราษฎรในมณฑลปักษ์ใต้

    ครั้งนี้ พระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินโดยเรือพระที่นั่งมหาจักรีไปขึ้นบกที่ปากน้ำชุมพร จากนั้นได้ประทับช้างและม้าไปยังเมืองระนอง ตะกั่วป่า ภูเก็ต พังงา ตะกั่วทุ่ง กระบี่ เกาะลันตา ตรัง ทับเที่ยง ทุ่งสง ร่อนพิบูลย์ และ นครศรีธรรมราช

    หลังจากเสด็จขึ้นครองราชย์แล้ว พระองค์ยังได้เสด็จประพาสมณฑลปักษ์ใต้อีก ๒ ครั้ง คือ ในปี ๒๔๕๘ และปี ๒๔๖๐


    เครดิต Chaoprayanews สำนักข่าวเจ้าพระยา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 28 พฤษภาคม 2014
  14. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    อย่าไปยุ่งกะมัน 'สื่อสารไอที' น่ะ! | ไทยโพสต์

    เปลว สีเงิน
    Thursday, 29 May, 2014 - 00:00


    อย่าไปยุ่งกะมัน 'สื่อสารไอที' น่ะ!


    วันนี้...."ในประเทศไทย" ตอกย้ำให้เห็นชัดว่า "อำนาจครองโลก" แท้จริงแห่งยุค ไม่ใช่สหรัฐ ไม่ใช่จีน ไม่ใช่รัสเซีย ไม่ใช่ผู้ก่อการร้ายสากลกลุ่มไหนทั้งสิ้น

    ผู้มีอำนาจครองโลก "ตัวจริง" คือ
    "อินเทอร์เน็ต-เฟซบุ๊ก"!


    "บิ๊กตู่" ทำรัฐประหาร นับว่าเรื่องใหญ่แล้ว แต่ที่จู่ๆ "เฟซบุ๊ก" ในประเทศไทย ไม่รู้ถูกใครทำรัฐประหาร "บล็อกตัว" ไว้ร่วมครึ่งชั่วโมง เมื่อบ่ายวาน (๒๘ พ.ค.๕๗)

    ทำเอาสามัคคีสะท้าน "ครบทุกเฉดสี"!
    โฆษก คสช.แถลงทันควัน เปล่าสั่ง ไม่มีนโยบายบล็อกเฟซบุ๊ก คสช.ไม่มีความจำเป็นต้องทำอย่างนั้น

    กระทรวงไอซีที ก็...เปล่าทำ!?

    "ไอ้นวย" หรือ "ไอ้ปื๊ด" อีกละซี...ท่า ที่ทำ ตรวจสอบไป-ตรวจสอบมา ก็พบต้นตออยู่ที่....เกตเวย์

    "ขัดข้องทางเทคนิค" น่ะ!

    ก็หายใจโล่งอก...เกตเวย์ ก็เกตเวย์ อย่าให้เป็นเกตเวรก็แล้วกัน ที่ว่าโล่ง ไม่ใช่ตรงเฟซบุ๊กใช้ได้ตามปกติ

    แต่โล่งแทน คสช.น่ะ เพราะถ้าไปสั่งบล็อก หรือไอซีทีเดาใจแล้วทำแทน มีหวังเละยิ่งกว่า กปปส.โดน M79 ถล่มรายคืนซะอีก

    ก็ต้องยอมรับกันละว่ายุคนี้ "การสื่อสารไอทีครองโลก" จริงๆ วิธีบริหารการสื่อสารไอทีดีที่สุด ไม่ใช่การปิดกั้น เพราะต้องเข้าใจว่า ที่ไหนมีอากาศเข้าถึง ที่นั่นข่าวสารทุกชนิด ทั้งลวง-ทั้งจริง ก็เข้าถึง

    ขืนปิดกั้นสื่อสารไอทีที่ไหน ก็เท่ากับปิดกั้นไม่ให้อากาศเข้าที่นั่น เผลอๆ ไอทีไม่ตาย แต่มนุษย์นั่นแหละ "ขาดอากาศหายใจ"

    ......ตายก่อน!

    วิธีรับมือดีที่สุดก็คือ ใช้มัน แทนการปิดกั้นมัน เปิดให้กว้าง มนุษย์หายใจสดชื่นมากเท่าไหร่ แสดงว่าอากาศ ณ ที่นั้น บริสุทธิ์มากขึ้นเท่านั้น

    ข่าวสารก็เหมือนกัน เมื่อเปิดช่องทางให้อากาศไหลเวียนปกติ ด้วย "อากาศบริสุทธิ์" ทำให้มนุษย์สามารถ "แยกแยะ" สิ่งผิดปกติที่ลอยมาในอากาศได้ด้วยประสาทสัมผัส "มีประสิทธิภาพ" ไวกว่าในอากาศเป็นพิษ



    เฟซบุ๊กวันนี้ เป็นชีพจรที่สองของมนุษย์ไปแล้ว รวมทั้งคนไทย ยุคนี้ ปิดทีวี-ปิดหนังสือพิมพ์ ยังพอทนกันได้ แต่ถ้าปิดอินเทอร์เน็ต ปิดเฟซบุ๊ก

    กระแสเลือด "ไหลย้อนศร" ทันที!

    รบกับอเมริกา รบได้ ให้ยิ่งลักษณ์เป็นแม่ทัพ โอบามาอาจขอสงบศึก แต่อย่าหาญไปรบกับอินเทอร์เน็ต-เฟซบุ๊ก แพ้แหงแก๋ลูกเดียว ยุคนี้ "เป็นยุคของเขา" เราต้องยอม

    เฟซบุ๊กนี่ ดูให้ดีเถอะ เป็นเครื่องมือสำหรับ "คนรู้ทัน" และใช้เป็น ได้ดีกว่าใช้คน หรือใช้เครื่องมือชนิดอื่น

    เหมือน "ดินโป่ง" ในป่าใหญ่ สัตว์ทุกชนิด ไม่ว่าสัตว์เล็ก-สัตว์ใหญ่ ทั้งที่เคยเห็น-ไม่เคยเห็นว่ามีอยู่ในโลกนี้ จะเผยตัวจากที่หลบ-ที่ซ่อน ออกมาให้เราเห็น เพื่อกิน "ดินโป่ง"

    สบายเรา...เลือกเอาได้ตามประสงค์!

    ผมเองก็ยังต้องใช้บริการเฟซบุ๊ก ย่นโลก ย่นเหตุการณ์ ย่นบุคคล ย่นความคิดเห็น ย่นข้อมูล เท็จ-จริง

    โดยตีค่าข่าวสารจาก fb เป็นผักหญ้าสมบูรณ์ในป่าใหญ่ "กินเป็น-กินตาย" อยู่ที่เราเลือกด้วยรู้ทัน และรู้จักกลั่นกรอง ไปโทษต้นไม้ ใบไม้ ผักหญ้าว่าเป็นพิษไม่ได้หรอก

    เพราะนั่นคือ "ธรรมชาติ" แห่งยุค!

    อย่างดูเฟซบุ๊กตอนนี้ ใครโพสต์รูป-โพสต์ข่าว "นายจาตุรนต์ ฉายแสง" ที่ไปสร้างฉากให้ทหารจับเพื่อสร้างพื้นที่ข่าวให้ตัวเองวันก่อน ผมกดเลยไปหมด

    ไม่ได้เกลียดเขา....

    แต่รู้ทัน คือรู้ว่าคนอย่างนายจาตุรนต์ เหมือน "ขยะโรงยี่เก" ไม่เคยมีค่าในสายตาผมเลย!

    แล้วเฟซบุ๊กก็เป็นผู้สื่อข่าวรายงานให้ผมทราบว่า แกนนำ นปช. "ตู่-เต้น-เหวง-ธิดา-วีระกานต์" และอีกหลายคน หลังจากปฏิบัติธรรมในค่ายทหารครบ ๗ วัน

    คสช.ก็อนุญาตให้กลับไปเจริญสมาธิภาวนาต่อ ที่บ้านใคร-บ้านมัน!

    คนกลุ่มนี้ ไม่พูดถึงวิธีการที่เขาทำ แต่พูดถึงกล้าหาญ-เปิดเผย กล้าคิด-กล้าทำ ผมให้เครดิตด้วยนับถือ

    นับถือที่พวกเขา "เป็นคนจริง" ไม่ใช่ประเภทจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ รำยี่เกแก้บนเป็นพระเอกไร้สาระคนเดียวตลอดกาล!

    เห็น คสช.จะตั้ง "ศูนย์สมานฉันท์" เพื่อสลายสีเสื้อ ผมว่าคนที่เหมาะรับภาระสมานฉันท์ "สลายสีเสื้อ" ทำงานร่วมกันให้ประสบความสำเร็จ ต้อง ๒ คนนี้

    นายจตุพร พรหมพันธุ์ แห่ง นปช.
    กับ.....
    นายชุมพล จุลใส แห่ง กปปส.!

    แล้วเฟซบุ๊กยังทำให้ผมทราบว่า เมื่อวาน "กำนันสุเทพ" นอกจากไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลกรุงเทพ ท่ามกลางแฟนๆ ล้นหลามแล้ว

    ก็ยังทราบด้วยว่า กำนันตระเวนเยี่ยมเยียน ไต่ถามสารทุกข์สุกดิบ พี่น้องมวลมหาประชาชนที่ร่วมทำหน้าที่ พิทักษ์ชาติ พระศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์ และได้รับบาดเจ็บจากเอ็ม ๗๙ อยู่ตามโรงพยาบาลต่างๆ ด้วย

    นี่แหละ "คนจริง-นักเลงจริง-ผู้นำจริง" เมื่อร่วมสนามรบ ยามเลิกรา ก็ไม่ทิ้งกันใครสุข-ใครทุกข์ อยู่ที่ไหน จะพูดสวยๆ แค่ว่า "ใจถึงใจ" แต่ตัวไม่โผล่ไปให้เห็นหน้ากันบ้าง

    ลั่นกลองใหม่ แล้วใครจะมา?

    ผมจะอุ่นเหมาไถ รอวันอากาศหนาว ฝนปนน้ำถล่มที่ใกล้เข้ามา หนาวเนื้อ-หนาวใจได้ที่แล้ว จะขอเชิญมาชนเหมาไถให้ "อุ่นกาย" ซักจอก สองจอก

    และจากเฟซบุ๊กอีกเหมือนกัน ทำให้ผมรู้ว่า ระยะ ๓-๔ วันมานี้ แม่ค้าแถววัดตะพาน ดินแดง มีรายได้เสริมคนละ ๔๐๐-๕๐๐ จากค่าจ้างไปชูแผ่นกระดาษ "ต้านรัฐประหาร" ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิตอนเย็นๆ

    ดูแล้วก็ "แปลก" ในใจ คือพวกรับจ้างก่อกวนชูป้าย หวังเป็นภาพ-เป็นข่าว แค่กระหยิบ-กระหยอย ด้วยกลุ่มคนหน้าตาบอกที่มาและคุณภาพ

    แต่โอ้โฮ...นักข่าว ช่างภาพ สารพัดสื่อไทย-เทศ แห่แหนไปทำข่าว!

    พูดก็จะว่าผมใส่สี เผลอๆ นักข่าว-ช่างภาพจะมากกว่าแก๊งรับจ้างสร้างกระแสต้าน คสช.ด้วยซ้ำ

    กลับปรากฏว่า พวกกระหยิบ-กระหยอย เป็นข่าวตรึม ทั้งทางโทรทัศน์ ทางหนังสือพิมพ์ และโซเชียลมีเดีย

    ตรงข้ามกับที่ "มวลมหาประชาชน" นับล้านๆ ออกมาต่อต้าน-ขับไล่ระบอบทักษิณกินเมือง ภาพ-ข่าว มีแต่ทางเฟซบุ๊กเป็นหลัก

    ทางโทรทัศน์แต่ละช่อง กำนันสุเทพต้องจัดขบวนไปอ้อนวอนงอนง้อ ให้ช่วยทำบุญ-ทำทาน เสนอเป็นข่าวให้บ้างเถิดพ่อคุณ..แม่คุณ

    ขนาดนั้น...บางช่องยังแค่แวบๆ แบบเสียไม่ได้!


    ก็เฟซบุ๊กอีกนั่นแหละ ทำให้ผมได้รู้ว่า "ฝ่ายทหาร" แก้เกมก่อกวนจากพวกกเฬวรากที่หวัง "เป็นข่าว" ได้ชนิดที่ต้องซูฮก ยกนิ้วโป้งให้

    วันแรกๆ ใช้ทหาร "เต็มชุด" ไปตั้งกำแพงรับ ภาพที่ออกมาให้ความรู้สึกไปว่า...กะแค่มดกัดไข่ ทำไมต้องใช้ทั้งกองทัพไปไล่จับ-ไล่บี้

    ให้ความสำคัญกับมดปลวกมากไป!

    พอมาวันหลังๆ ฝ่ายทหารเปลี่ยนใช้ "สารวัตรทหารหญิง" มาทำหน้าที่แทนทหารชาย ปรากฏได้ผลทางจิตวิทยาเกินคาด

    จากน่ากลัวทหาร เป็นน่ารักทหาร ไปทันตาเห็น!

    พวกรับจ้างชูป้ายไปไม่เป็น กลายเป็นตัวตลกอนาถา น่าเกลียด-น่าทุเรศไปทันที ทั้งสื่อ ทั้งประชาชนที่มุงดูรอบอนุสาวรีย์ชัยฯ ต่างพุ่งความสนใจไปที่สารวัตรทหารหญิงหมด

    ภาพ-ข่าวในเฟซบุ๊กตอนนี้ โฟกัสจึงอยู่ที่ความแปลกใหม่ ฝ่ายทหารใช้ สห.หญิง มาทำหน้าแทนทหารชาย "กลุ่มกระหยิก-กระหยอย" จึงถูกสารวัตรทหารหญิง "ชิงพื้นที่ภาพ-ข่าว" ไปกินเรียบ!

    ครับ...วันนี้ก็เรื่อยเปื่อย เพราะผมก็ค่อนข้างเปื่อย จะเป็นเพราะอากาศ หรือสภาพสังขารใกล้หลุมก็ไม่ทราบ

    แต่อยากย้ำว่า คสช.อย่ามองสื่อ "ในทุกรูปแบบ" ว่าเป็นช่องทางนำปัญหามาเป็นอุปสรรคในการทำหน้าที่กวาดล้างบ้านเมืองของ คสช.

    เหมือนไม้จิ้มฟัน ถ้าปลายไม่แหลม มันจะจิ้มเอาเศษอาหารออกจากซอกฟันให้ยิ้มสวย ๓๖๐ องศาได้หรือ?

    อย่าริใช้ "ปลายกระบอกปืน" แคะฟันเลย ทันตแพทย์ไม่แนะนำ.
     
  15. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    https://th-th.facebook.com/Paisal.Fanpage

    23 นาทีที่แล้ว
    “ไพศาล” เชื่อ ยุทธการสาวใยไหม กำราบ ยุทธการผีประชาธิปไตยได้

    เมื่อเช้าวันนี้ นายไพศาล พืชมงคล อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้วิเคราะห์สถานการณ์ให้กับสื่อมวลชนบางสำนักฟังว่า

    แผนยุทธการต่างๆ ของระบอบทักษิณในการปฏิวัติตัวเอง หรือในการต่อต้านการรัฐประหาร ได้ล้มเหลวลงอย่างสิ้นเชิงทั่วประเทศแล้ว ขณะนี้คงเหลือยุทธการอีกยุทธการหนึ่งคือการจ้างมวลชนออกมาต่อต้านรัฐประหาร หรือที่เรียกว่ายุทธการผีประชาธิปไตย หรือผีสันติภาพ

    แต่เชื่อว่า “ยุทธการสาวใยไหม” ที่ฝ่ายทหารใช้รับมือนั้นสามารถสยบยุทธการผีประชาธิปไตยได้อย่างสันติ

    นายไพศาล พืชมงคล กล่าวว่ากระบวนการเพื่อดำเนินการให้ได้อำนาจกลับ
    คืนของระบอบทักษิณนั้น ได้ทำมาตั้งแต่ปี 2550 และหนึ่งในยุทธการทั้งหลายก็คือยุทธการที่ใช้มวลชนต่อต้านรัฐประหารอย่างสันติ และได้ก่อตัวขยายวงจนกดดันให้การรัฐประหารครั้งนั้นต้องรีบเลือกตั้ง

    ทำให้อำนาจกลับไปสู่ระบอบทักษิณในเวลาแค่ปีเศษ และหลังจากปี 2550 ระบอบทักษิณก็ได้พัฒนายุทธการนี้และถือเป็นยุทธการหลักอย่างหนึ่งในการฟื้นอำนาจ

    ซึ่งได้ยินมาว่ามีการจัดกระบวนถึง 10 กระบวน ไม่รวมการจัดกระบวนลุกฮือขึ้นในต่างจังหวัด

    ยุทธการดังกล่าวนี้ถูกเรียกขานว่ายุทธการผีประชาธิปไตย หรือยุทธการผีสันติภาพ

    นายไพศาล พืชมงคล กล่าวว่าฝ่ายทหารก็ได้ติดตามศึกษากระบวนการ แผนการ และยุทธการดังกล่าวมาตั้งแต่ 3-4 ปีก่อน

    และมีคนเสนอเป็นยุทธการรับมือที่เรียกว่า ยุทธการสาวใยไหม โดยกำหนดขึ้นจากธรรมชาติของตัวไหมที่จะคายไหมออกมา

    ยิ่งคายออกมามากก็ยิ่งมัดตัวเองมาก ในที่สุดตัวไหมก็จะตาย ใยไหมก็จะถูกนำไปใช้เป็นเส้นไหมทำเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม

    ตัวไหมก็จะถูกเอาไปต้มหรือผัดกิน


    นายไพศาล พืชมงคล กล่าวว่าการยึดอำนาจผ่านไปแค่ 4 วัน ก็มีการใช้ยุทธการผีประชาธิปไตย


    แต่เนื่องจากพวกนี้ไม่ใช่ผู้ที่มีจิตวิญญาณประชาธิปไตยจริง แต่ใช้ความรุนแรง ถอดเสื้อสีออก มาใส่สีดำหรือสีขาว

    ทำทีเป็นนักสันติภาพ แต่พบใครที่ไม่เห็นด้วยก็ใช้ความรุนแรงทุบตี กระทั่งใช้ผงพริกไทยฉีดใส่ตา ใส่หน้าทหาร ขว้างก้อนหินและขวดน้ำทำร้ายทหาร ดังภาพที่ปรากฏให้เห็นแต่ละวัน

    มีการใช้เครือข่ายโซเชี่ยลเน็ทเวิร์คในการติดต่อประสานงานนัดหมาย มีการใช้เงินจ้าง

    ดังนั้นจึงขาดจิตวิญญาณประชาธิปไตย ทำให้ขาดพลังในการต่อสู้ ยุทธการนี้ขณะนี้จึงนัดชุมนุมกันแค่เพียงวันละ 3-4 ชั่วโมงเท่านั้น

    ฝ่ายทหารก็รับมือกับยุทธการนี้ตามแผนการสาวใยไหม หากจุดไหนชุมนุมน้อยก็จับไปอบรมสัมมนาทำความเข้าใจ จุดไหนชุมนุมมากก็จู่โจมจับแกนนำตอนเริ่มต้นหรือตอนเลิกชุมนุม

    หรือมิฉะนั้นก็จู่โจมไปจับตามที่พักแล้วตัดการสื่อสาร พาตัวไปฝึกอบรมสัมมนา ซึ่งเป็นผลให้ขณะนี้การนัดชุมนุมกลุ่มย่อยหายไปหมดแล้ว เหลือบางจุดที่เป็นจุดใหญ่ ซึ่งคงยื้อกันสักพักหนึ่ง

    และขณะนี้ก็มีข่าวว่าจะนัดชุมนุมใหญ่พร้อมกันหลายจุด ใยไหมยิ่งออกมามากเท่าใด ก็ยิ่งมัดตัวไหมมากขึ้นเท่านั้น และเป็นอาการว่าความสิ้นสุดของยุทธการนี้น่าจะใกล้เข้ามา

    เพราะคาดว่าฝ่ายทหารก็คงรู้ข้อมูลข่าวสารแล้วว่าใครคือผู้บงการ คงจะจัดการเรื่องนี้โดยสันติ ไม่ยาก ไม่ลำบาก เป็นห่วงก็แต่ประชาชนซึ่งไปรับจ้างโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์จะพากันเดือดร้อนเพราะอาจต้องขึ้นศาลทหารในเวลาไม่ปกติ


    นายไพศาล พืชมงคล กล่าวว่าจึงอยากจะเตือนว่ายุทธการนี้เอาชนะ คสช.ไม่ได้

    ปมเงื่อนก็คือ ไม่ใช่การต่อต้านของประชาชนที่แท้จริง แต่เป็นการกระทำที่มีผู้บงการ ผู้ว่าจ้าง และเพื่อประโยชน์ของคนไม่กี่คนเท่านั้น แนวรบนี้โดดเดี่ยวที่สุดอยู่แล้ว


    ผู้คนก็ไม่มีทางรวมตัวได้มาก เพราะขณะนี้ไม่มีทางที่จะระดมกำลังจากต่างจังหวัดเข้ามาได้ มีแต่คนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งแกนนำก็ร่อยหรอลงไป และคนที่รับจ้างมาก็เริ่มเห็นว่าไม่คุ้มกับการเสี่ยงขึ้นศาลทหาร ครอบครัว ญาติพี่น้อง ก็ช่วยกันเตือน ช่วยกันดึง และเมื่อใดที่ยุทธการผีประชาธิปไตยสิ้นสุดลง ก็จะทำให้การเดินหน้าฟื้นฟูประเทศชาติก้าวรุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว.
     
  16. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    ��ѪþŔ ���ʹ�� ���.���ǔ �д��Թ�����鹵͹ - Crime - Manager Online

    “วัชรพล” ชี้ถอดยศ “นช.แม้ว” จะดำเนินตามขั้นตอน



    “วัชรพล” เผยถอดยศ “นช.แม้ว” ต้องดำเนินการตามขั้นตอน หลังได้รับเรื่องไว้แล้ว

    ส่วนจะรื้อคดีฆาตกรรม “เอกยุทธ” ขึ้นมาพิจารณาใหม่หรือไม่ ต้องให้ฝ่ายกฎหมายเข้าไปตรวจสอบพยานหลักฐานว่าเป็นของใหม่หรือไม่

    วันนี้ (27 พ.ค.) เมื่อเวลา 15.45 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีที่ นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือให้ดำเนินการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น ว่า ทางสำนักงานเลขานุการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับเรื่องไว้ และจะส่งเรื่องให้หน่วยงานที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการและนำเสนอขึ้นมา เพื่อจะได้สั่งการในขั้นตอนต่อไป โดยวันนี้ที่นายวัชระมายื่นหนังสือนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องไปตรวจสอบความเป็นมาเป็นไป และข้อกฎหมายต่างๆ เพื่อดำเนินการไปตามขั้นตอน ทั้งนี้ ตนยังไม่ทราบรายละเอียด และยังไม่รู้ว่าเรื่องดังกล่าวมีความเป็นมาอย่างไร โดยต้องรอให้ดำเนินการตามขั้นตอน


    ผู้สื่อข่าวถามถึงคดี นายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจการเงินและอสังหาริมทรัพย์ ที่ถูกอุ้มฆ่าเมื่อปีที่ผ่านมา จะถูกรื้อคดีมาทำใหม่หรือไม่นั้น พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า ในเรื่องนี้ตนต้องถามฝ่ายป้องกันปราบปราม เพราะการรื้อฟื้นคดีอะไร ก็ต้องให้ฝ่ายกฎหมายเข้าไปตรวจสอบพยานหลักฐานว่าเป็นของใหม่หรือไม่ เพราะทุกเรื่องจะเข้าเงื่อนไขของกฎหมาย


    เมื่อถามว่ากรณีเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นทางภาคใต้ ได้รับรายงานในเรื่องนี้หรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า ตนได้รับรายงาน และพูดคุยกับผู้ที่รับผิดชอบ เจ้าหน้าที่มีมาตรการและขั้นตอนในการทำงานร่วมกันของฝ่ายตำรวจ และทหารอย่างรัดกุมแล้ว ก็ต้องดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานแก้ไขต่อไป ซึ่งในเรื่องนี้ ทางฝ่ายสืบสวนจะเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งตนคิดว่าทุกกระบวนการมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว แต่ต้องยอมรับว่า ฝ่ายผู้ที่กระทำความผิด มันเป็นเรื่องที่เราป้องกันได้ลำบาก แต่เราพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด โดยจำนวนเจ้าหน้าที่ที่เราฝึกอบรม และสามารถป้องกันระงับได้ มันอาจจะไม่มีตัวเลขโชว์ ซึ่งต้องเรียนรู้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด และนำมาเป็นบทเรียน เพื่อปรับปรุงมาตรการในการแก้ไขปัญหาต่างๆ


    เมื่อถามว่า สถานการณ์ในภาคใต้ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ เป็นปฏิกิริยาที่เป็นผลกระทบจากสถานการณ์การเมืองภายในประเทศหรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า ในเรื่องนี้ต้องให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องดู และหาความเชื่อมโยง เพื่อใช้ในการวิเคราะห์กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งในเรื่องนี้ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะทุกอย่างไม่สามารถกระทำได้เลย โดยต้องมีหลักฐานในการทำงาน
     
  17. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    https://th-th.facebook.com/Paisal.Fanpage

    Paisal Puechmongkol
    3 ชั่วโมงที่แล้ว



    ความเคลื่อนไหวการเมือง 29-5-57 เวลา 06.15 น.


    -"พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา" ผบ.ทบ. และหัวหน้า คสช. เรียกคณะที่ปรึกษา 10 คน เข้าหารือรับมือแก้ปัญหานัดแรก วันนี้

    -พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ยืนยัน ทีมศก."คสช." สนใจสานต่อโครงการ 2 ล้านล้าน -โครงการรถไฟความเร็วสูง คาด 2 สัปดาห์รู้ผลเดินหน้าหรือไม่.

    -"พล.อ.ประยุทธ์" สั่งปรับโครงสร้าง สตช.-แก้การเมืองแทรกแซง ให้เพิ่มกำลังพลรองรับงานข่าว และ เตรียมตั้ง "ศูนย์ปฏิบัติการอำเภอ" บูรณาการแก้ปัญหาไฟใต้ พร้อมเพิ่มจำนวน "ปลัดอำเภอ-ชรบ."

    -"พล.อ.ประยุทธ์" สั่งคณะทำงานฝ่ายเศรษฐกิจ-ความมั่นคง ประเมินสถานการณ์เมืองท่องเที่ยว หากไม่มีม็อบชุมนุมประท้วง อาจประกาศยกเลิกเคอร์ฟิวบางพื้นที่ สร้างบรรยากาศท่องเที่ยวให้ดีขึ้น

    -ศาลทหารให้ฝากขัง "จาตุรนต์" 12 วัน ค้านประกันตัว หลังถูกฟ้องฐานละเมิดคำสั่งคสช.-กม.อาญาม.116 ด้านเจ้าตัวระบุไม่เครียดและไม่หนักใจ

    -ปลัด มท.ย้ายผู้ว่าฯ 5 จังหวัดเข้าเป็นผู้ตรวจ : กาฬสินธุ์ จันทบุรี ร้อยเอ็ด ระยอง อุบลราชธานี

    -รักษาการ ผบ.ตร.สั่งย้าย 16 นายตำรวจ เข้ามาช่วยราชการ สตช.

    -คสช.สั่งปลด! ชูเกียรติ รัตนชัยชาญ พ้นเลขาฯ กฤษฎีกา ให้ ดิสทัต โหตระกิตย์ รองเลขาฯ รักษาราชการแทน

    -คสช. สั่งปลด ธงทอง จันทรางศุ ตั้ง มล.ปนัดดา ดิศกุล รอง ปลัด มท. มาควบปลัดสำนักนายกฯ แทน

    -สั่งปลดนายทหารอากาศ ที่โพสต์ให้ร้าย พลเอก ประยุทธ์ - พาดพิงเบื้องสูงออกจากราชการ

    -คสช.เรียก ′วีรพัฒน์ ปริยวงศ์′ นักวิชาการชื่อดังรายงานตัว /"วีรพัฒน์" เผยถูกมือปืนบุกยิงบ้าน พร้อมพูดคุยกับคสช. แต่ขอเดินสาย ตปท.ก่อน ขณะนี้อยู่อังกฤษ

    -คสช. ปล่อยตัว "จตุพร-ณัฐวุฒิ-ธิดา-วีระกานต์-เหวง และก่อแก้ว'' แกนนำ นปช. เป็นอิสระแล้ว หลังถูกควบคุมตัวไว้ 7 วัน ตามกฎอัยการศึก / "จตุพร" ระบุแกนนำ นปช. รับเงื่อนไขไม่เคลื่อนไหวทางการเมือง

    -แกนนำพท.สั่งลูกพรรคงดเคลื่อนไหว เผยเป็นเงื่อนไขแลกกับการปล่อยตัว

    -คสช.ยืนยันไม่ได้สั่งบล็อก FACEBOOK เมื่อเย็นวาน ที่ใช้การไม่ได้ทั่วประเทศ ระบุขัดข้องทางเทคนิค

    -"พล.ต.ท.จักรทิพย์" รรท.ผบช.น. พร้อมรื้อคดี "เอกยุทธ อัญชันบุตร" หากมีพยานหลักฐานเพิ่ม

    -วันนี้ 14:00 น.สมเกียรติ อ่อนวิมล จะไปเยี่ยม กปปส. ผู้บาดเจ็บระหว่างการชุมนุมที่โรงพยาบาลกลาง

    -มหาดไทยตอบสนองคำสั่ง คสช. ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดตั้งศูนย์ปรองดองฯระดับจังหวัด เร่งใช้งบพัฒนาฯแก้ปัญหาประชาชน
     
  18. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
  19. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    https://th-th.facebook.com/Paisal.Fanpage

    Paisal Puechmongkol
    ประมาณ 1 ชั่วโมงที่แล้ว ·

    ถามกันจังว่ารัฐบาลก่อนทำโครงการน้ำ ๓๕๐,๐๐๐ล้านโครงการพื้นฐาน ๒ ล้านล้านตอนนั้นว่าไม่ดีค้านกันจัง


    ทำไมตอนนี้ คสช ทำท่าว่าจะทำ ก็ต้องบอกให้ทราบทั่วกันว่า

    โครงการน้ำนั้นจำเป็นและดี และปล่อยให้เสี่ยงน้ำท่วมวายวอดไม่ได้ ต้องทำ

    โครงการโครงสร้างพื้นฐานทั้งรถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง มอเตอร์เวย์ ท่าเรือ จำเป็นและดี ต้องทำเป็นผลประโยชน์ของประเทศ ไม่ทำไม่ได้และต้องรีบทำด้วยเพราะช้ามามากแล้ว

    ที่คัดค้านกันทั้งประเทศเพราะรัฐบาลก่อนไม่ทำจริง เอาโครงการบังหน้าเพื่อจะโกงกัน คือจะใช้วิธีกู้เงินมาแล้วตั้งหน่วยงานเฉพาะมีคนไม่เกิน ๗ คนบริหารจัดการโดยไม่ผ่านระบบงบประมาณ ไม่มีการตรวจสอบ ไม่มีการทำโครงการ จะโกงกันอย่างไรก็ได้ไม่ให้ใครรู้และที่สำคัญการโกงแบบนี้ขัดรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญจึงตัดสินว่าเป็นโมฆะ

    ที่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์แสดงท่าทีจะทำเพราะต้องทำและจำเป็นต้องทำเพื่อประโยชน์ของชาติ แต่วิธีทำคงไม่เอาแบบขี้โกงของรัฐบาลก่อนแน่ ตอนนี้อาจทำโครงการลักษณะใดลักษณะหนึ่งดังนี้

    ก. ให้สัมปทานนานาชาติ มาลงทุนทุกโครงการ เป็นระยะเวลา ๓๐ ปี โดยไทยไม่ต้องเป็นหนี้ ไม่ต้องเสี่ยงขาดทุนและได้เงินลงทุนเข้าประเทศมหาศาล

    ข. ให้สัมปทานแบบ ก บางโครงการ โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนโครงการน้ำอาจใช้เงินกู้ ซึ่งไม่เป็นภาระงบประมาณมากนัก

    เขาขอเวลา ๒ สัปดาห์ตัดสินใจ ไม่นานดอกท่าน ผมเชื่อว่าดีแน่ๆ

    จุ๊ๆๆ รู้ไหมว่าถ้าคิดในเชิงกลยุทธ ก็กล่าวได้ว่า คสช ได้ปลดพลังอำนาจต่อรองของคุณทักษินที่วิ่งเจรจาในต่างประเทศและเอาพลังนี้มาใช้เอง ทั้งยังเพิ่มอีกหลายโครงการเช่น การสร้างถนนเลียบเจ้าพระยา หรืออาจมีโครงการคลองกระอีก พลังต่อรองในเวทีนานาชาติของ คสช ตอนนี้จึงเหนือกว่าคุณทักษินมหาศาล
     
  20. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    https://th-th.facebook.com/Paisal.Fanpage

    Paisal Puechmongkol
    57 นาทีที่แล้ว

    วันนี้ได้อธิบาย ยุทธการสาวใยไหม ไปแล้ว

    และเมื่อบ่ายนี้ มีประกาศบางฉบับและ ปปช ก็แถลงบางเรื่อง

    ในภาพรวมพอกล่าวได้ว่า วิชาไหมฟ้า มาแล้ว

    ควรที่จะเลิกต่อว่าต่อขานว่าทำไมไม่ยึดทรัพย์พวกโกงชาติเสียที

    ซึ่งขอบอกว่าอย่าไปติดยึดในรูปแบบเก่าๆ ซึ่งเห็นกันแล้วว่ามันไม่ได้ผล

    ผมมองว่า

    ปปช ท่าจะตื่นแล้ว จึงแถลงว่าพบพิรุธในการแสดงบัญชีทรัพย์สินของ ครม ทุกคนของ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ เอาจริงก็ยึดได้บานตะไทแน่

    คสช ตั้งคณะตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินของ ครม ทุกคน ทุกคณะในรัฐบาลที่ผ่านมา มีใครบ้าง ก็พอเห็นเพลงกระบี่

    อธิบดีสรรพากร ก็เกี่ยวกับการไม่เสียภาษี โกงภาษี และประเมินเรียกภาษีเงินเพิ่มเบี้ยปรับ เกือบเกลี้ยงละครับ

    ข. ปปง ก็เกี่ยวกับการฟอกเงิน ยักย้ายถ่ายเทเงิน พบก็ยึดเกลี้ยงเลย

    ค. ปปส ก็เกี่ยวกับยาเสพติด ใครเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด หรือหมุนเอายาเสพติดที่เป็นของกลางมาสร้างฉากจับใหม่เอาเงินสินบน ก็ยึดเรียบ

    ดีเอสไอ ใครทำผิดคดีสำคัญก็ไปติดคุกติดตะรางซะ

    ปปช ยังตรวจสอบเรื่องการโกงข้าวที่เสียหาย ๕๐๐,๐๐๐ ล้านบาท อีกด้วย คงได้ยึดทรัพย์หมดละครับ

    วิชาไหมฟ้าในระยะการกวาดเป็นอย่างไร ไปถามฮุ้นปวยเอี๊ยงดูสิ
     

แชร์หน้านี้

Loading...