เงินเฟ้อที่เพิ่มความรุนแรงขึ้นแล้ว??? รู้ทันโลก (โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย k.kwan, 11 พฤศจิกายน 2010.

  1. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    “หนูดี-วนิษา” เหลืออด อัด “ผู้นำโง่” พาประชาชนตายหมด

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>18 ตุลาคม 2554 13:45 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

    ASTVผู้จัดการ - ผู้แต่งหนังสือ “อัจฉริยะสร้างได้” สุดทน! ไม่กลัวน้ำท่วม แต่กลัว “ผู้นำโง่” พาประชาชนตายหมด พบถูกขยายผลจำนวนมาก เจ้าตัวแจงพูดอย่างเป็นกลาง-เป็นหน้าที่ประชาชนตรวจสอบ ด้าน “โต้-สุหฤท” เจ้าของแฟ้มตราช้างเผยช่วงวิกฤตน้ำท่วมโรงงานนวนครแล้ว หลังรักษาโรงงานโรจนะไว้ไม่ได้ เจ้าตัวขอสงบเพื่อรบกับชีวิต ยิ้มสู้ให้ฉายา ศปภ. “ศูนย์ปลอดภัยไปวันๆ” ตามเพื่อน

    วานนี้ (17 ต.ค.) “หนูดี” วนิษา เรซ ผู้อำนวยการโรงเรียนวนิษา ซึ่งเป็นที่รู้จักในนามผู้แต่งหนังสือ “อัจฉริยะสร้างได้” ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ @nudi_vanessa ระบุว่า “ขอพูดอะไรแรงๆ สักครั้งในชีวิตค่ะ พูดแล้วจะร้องไห้...น้ำท่วมไม่กลัว กลัวอย่างเดียว...ผู้นำโง่ เพราะพวกเราจะตายกันหมด”ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าข้อความนี้ถูกนำไปโพสต์ต่อ หรือรีทวีตเป็นจำนวนมาก และมีการนำไปโพสต์ต่อในเครือข่ายสังคมออนไลน์ต่างๆ กระทั่งมีผู้สนับสนุนนักการเมืองบางกลุ่มต่อว่า น.ส.วนิษาต่อข้อความดังกล่าวด้วยข้อความหยาบคาย

    ภายหลัง น.ส.วนิษาได้ลบข้อความดังกล่าว และได้โพสต์ข้อความอีกครั้ง ระบุว่า “สำหรับแฟนทวิตหนูดีที่รักทุกคน อยากให้เปิดใจเป็นกลางนะคะ เวลามีการวิจารณ์การเมืองและการบริหารงาน เพราะนั่นเป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตย ขนาดหนูดีเป็นผู้ใหญ่ อายุก็มากแล้ว และก็วิจารณ์การบริหารการชลประทานครั้งนี้ ยังโดนต่อว่า แล้วพวกเด็กๆ ที่กำลังโตขึ้นมาจะกล้าได้อย่างไร

    ขอประกาศอย่างชัดเจนว่า หนูดีพูดถึงการทำงานของผู้บริหารบ้านเมืองอย่างเป็นกลาง และเป็นหน้าที่ประชาชนทุกคน ที่จะสอดส่องการทำงานของภาครัฐ และอยากให้มองไปรอบๆ ขณะนี้ ที่เรารอดกันได้มาก ก็เพราะ “ภาคประชาชน” อย่างพวกเราๆ โดดเข้ามาช่วยกันเต็มที่ หากรอแต่รัฐจะไม่ไหวค่ะ ก็ต้องช่วยกัน

    ดังนั้น หากใครจะ follow หนูดี ขอรบกวนแจ้งไว้ตรงนี้ว่า พื้นที่ตรงนี้ไม่มีเรื่องการเมืองว่า ชอบพรรคไหน เกลียดพรรคไหนทั้งนั้นค่ะ ต้องขอโทษด้วยนะคะ ที่เมื่อสักครู่ อาจพูดแล้วใครบางคนอาจเสียใจ เพราะไม่ได้จะวิจารณ์นักการเมืองคนไหนเป็นพิเศษ พูดถึงภาพรวมอย่างเป็นกลางค่ะ

    เอาล่ะค่ะ เครียดพอแล้วสำหรับวันนี้พูดเรื่องเครียดๆแล้วไม่สนุกเลยนะคะยิ่งพูดการเมืองยิ่งไม่สนุกไปใหญ่ขอคุยเรื่องการเลือกวิตามินช่วงเครียดนะคะ ในช่วงน้ำท่วม เป็นช่วงง่ายที่จะติดเชื้อมาก และมีคนนอนไม่หลับเยอะมากค่ะ เพราะเครียด หนูดีเอง ก็มีแอบนอนไม่หลับ เลยจะขอแนะนำเรื่องวิตามินค่ะ

    สำหรับคนที่เครียดจนนอนไม่หลับ ไม่ควรเริ่มทานยานอนหลับตอนนี้นะคะ หนูดีขอแนะนำวิตามิน 2 ตัว ที่งานวิจัยพิสูจน์แล้วว่า ช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น สำหรับคนนอนไม่หลับ มีฮอร์โมน เมลาโทนิน ซึ่งเป็นสารคล้ายสารสือประสาทในสมอง ตัวนี้ ทานก่อนนอน 1 ชม. แต่ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนนะคะ

    ส่วนตัวหนูดี ทานเมลาโทนินแล้วไม่ค่อยสบายตัวค่ะ เลยเลือกทาน เซนจอนส์เวิร์ต เวลานอนไม่หลับ เป็นสมุนไพรค่ะ แต่ต้องปรึกษาหมอก่อนทุกครั้งนะคะ เซนต์จอนส์เวิร์ต เป็นสมุนไพรที่ทานแล้ว ช่วยให้นอนหลับลึกค่ะ หนูดีเอง ถ้าเครียดวันไหน นอนไม่พอ ก็ทานค่ะ แต่ย้ำอีกครั้ง ปรึกษาแพทย์เสมอนะคะ และวิตามินอื่นๆ ที่สมควรทานช่วงน้ำท่วมนี้ เพื่อปกป้องภูมิคุ้มกันคือ วิตามินซีค่ะ เพิ่มปริมาณเป็นวันละ 2-3 เม็ดได้เลย แถมด้วย B ก็ดีค่ะ

    สำหรับช่วงน้ำท่วมนี้ จะให้ไม่เครียดเลย คงเป็นไปไม่ได้ เพราะผิดธรรมชาติ แต่อยากบอกทุกคนว่า อาหารช่วยได้ วิตามินช่วยได้ มีผลต่ออารมณ์จริงๆ ค่ะ ในนาทีนี้ อยากให้ทุกคน ดูแลตัวเองให้รอดก่อน แล้วค่อยออกมาช่วยเพื่อนๆ หลายคนเอาของขึ้นชั้นสองแล้ว และออกมาช่วยกรอกทราย ต้องชื่นชมค่ะ :)

    ถ้าถามหนูดี นาทีนี้ ทุกคนที่ช่วยน้ำท่วม ก็ทำดีสุดความสามารถแล้ว แต่จะรอดไม่รอด ก็อยู่ที่ทุกคนดูแลตัวเองเต็มที่ด้วย และคนที่รอดก็ช่วยกันด้วย เอาล่ะค่ะ วันนี้ ขอหนีจากทวิตเตอร์ ไปแก้ไขสถานการณ์น้ำที่บ้านแล้วค่ะ เพราะว่า อยู่เขตรังสิต คืนนี้ มีสิทธิท่วมพอสมควร ชาวบ้านระส่ำระสายมาก ต้องขอโทษอีกครั้งนะคะ ถ้าวันนี้หนูดีทวิตวิจารณ์อะไรที่ดุไปนิด หนูดีค่อนข้างห่วงและกังวลกับเหตุการณ์น้ำท่วม ที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศของเราค่ะ

    ขอขอบคุณทุกความเห็นในวันนี้มากๆนะคะ หนูดีขอรับฟังทุกความเห็นค่ะ หนูดีขอเปลี่ยนทุกแรงทวิตในวันนี้มาร่วมเป็นแรงช่วยฟื้นฟูบ้านเรากันดีกว่าคะ หนูดีขออนุญาตบล็อกบางท่านที่ใช้คำพูดค่อนข้างไม่เหมาะสมในนี้นะคะ เพื่อความสบายใจของทุกฝ่ายและไม่อยากให้เด็กๆมาอ่านเจอถ้อยคำที่หยาบคายในนี้คะ” น.ส.วนิษากล่าว

    ขณะเดียวกัน “โต้” สุหฤท สยามวาลา กรรมการผู้จัดการบริษัท ดี เอช สยามวาลา จำกัด ผู้ผลิตแฟ้มตราช้าง และดี.เจ.คลื่น 104.5 แฟต เรดิโอ ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ @Suharit เกี่ยวกับกิจการโรงงานผลิตเครื่องเขียนที่กำลังจะจมน้ำเช่นกัน โดยระบุว่า “กำลังไปโรงงานผมที่นวนครครับ หลังจากโรจนะจม เอาอาหารไปให้สตาฟที่นั่น ไม่แน่ใจเข้าได้หรือไม่ หาซื้อน้ำให้อาสาสมัครไม่ทันครับ รู้สึกห่วงจังครับ ในองค์กรหนึ่งเมื่อเกิดวิกฤต จะเกิด hero ขึ้นในองค์กรจำนวนมากผมจะไม่มีวันลืมพวกเขาเลย

    ความหวังที่นวนครรอดน้อยมากครับ ระหว่างทางลงด่วนบางปะอิน น้ำเริ่มท่วมถนนแล้ว โอย น้ำเริ่มเข้าโรงงงานแล้ว อยากให้ลูกน้องได้อาหาร กำลังหาทางอยู่ ลาก่อนโรงงานนวนคร and we shall return ได้เวลารักษาลมหายใจ

    สถานการณ์ที่นวนครน้ำเริ่มเข้าผุดตามท่อต่างๆ ยังไม่ทุกพื้นที่นะครับ บางที่ก็ลึกมากครับ เขากำลังชะลอน้ำกันอยู่ครับ ผมออกมาแล้ว น้ำมาทุกด้านจริงๆครับ น่ากลัวมากครับ คนเริ่มทยอยออกรถไม่ติดอย่างที่คิดครับ เพียงแต่โกลาหลหน่อยครับ นี้คือภาพเขื่อนบริเวณถนนหน้าโรงงานผม ด้านหลังน้ำสูงเท่าเอวครับและคงไม่นานนี้ครับ คงต้องสงบเพื่อรบกับชีวิต

    ฟังศูนย์แห่งหนึ่งขึ้นต้นด้วย ศ และลงท้าย ภ แล้วภาวะอารมณ์แทรกซ้อนเรื่องนวนครก็บังเกิด “กูโกรธแล้วกูจะนอนหลับฝันดีให้ดู” *-* นายสุหฤทกล่าว

    อย่างไรก็ตาม เช้าวันนี้ (18 ต.ค.) นายสุหฤทได้โพสต์ข้อความอีกครั้ง ระบุว่า “ศปภ.= ศูนย์ปลอดภัยไปวันๆ” (ลอกเพื่อนมา) เพื่อลุยชีวิตในวันนี้ มาลุยชีวิตกันครับ อย่าลืมยิ้มก่อนออกจากบ้าน

    ตอนนี้ผมชอบพูดกับตัวเองเยอะมากครับ รู้สึกดี มันกันตัวเองออกจากอารมณ์ที่อาจตัดสินใจผิดพลาด รู้เลยครับว่าในช่วงนี้คนที่จะทำให้ผมล้มคือตัวเองทั้งสิ้น ไม่เกี่ยวกับน้ำท่วมเลยครับ --" หมดตัวได้ หมดหัวใจไม่ได้ กำลังกายหมดได้ กำลังใจหมดไม่ได้ ทั้งหมดเป็นเรื่องของหัวใจทั้งสิ้น เชื่อและมุ่งมั่นว่าหลังทุกอย่างคลี่คลาย มันจะต้องดีกว่าเดิม แต่การตัดสินใจวันนี้มีผลต่อวันข้างหน้าจริงๆ

    มาประกวดชื่อย่อ ศปภ.ไหมครับ ใครชนะมีรางวัลเป็นซีดีอัลบั้มใหม่ของผมครับ แจกจริงนะครับ อัลบั้มใหม่ “สุหฤท ลื่นขั้นเทพ(*-*)” ครับ” นายสุหฤทกล่าว

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>“หนูดี” วนิษา เรซ ผู้แต่งหนังสือ “อัจฉริยะสร้างได้”</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ข้อความในทวิตเตอร์ที่สร้างความฮือฮาแก่ผู้พบเห็น</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>“โต้” สุหฤท สยามวาลา กรรมการผู้จัดการบริษัท ดี เอช สยามวาลา และดี.เจ.คลื่น 104.5 Fat Radio</TD></TR></TBODY></TABLE>

    Politics - Manager Online -<!-- google_ad_section_end -->
     
  2. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=KBl6Iqn2H2M]นิทาน ชาดก พญากวางยอดผู้นำ - YouTube[/ame]
    นิทานชาดก ลักขณชาดก : กวางยอดผู้นำ
    เหตุที่ตรัสชาดก : ทรงปรารภพระเทวทัตที่ครั้งหนึ่งประกาศขอเป็นผู้ปกครองสงฆ์แทนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระเทวทัตได้ทูลขอให้พระพุทธองค์ทรงบัญญัติพระวินัยให้คณะสงฆ์ปฏิบัติ ๕ ประการ แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ทรงอนุญาต พระเทวทัตได้ทีจึงประกาศว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ทรงเคร่งครัดในพระธรรมวินัย แล้วแยกตัวออกไปพร้อมคณะสงฆ์ที่เห็นด้วยจำนวน 500 รูป แต่เมื่อเวลาผ่านไปเมื่อพระสงฆ์ทั้ง 500 นั้น สำเร็จมรรคผลแล้ว พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงให้พระโมคคัลลานะและพระสารีบุตรไปรับกลับมา
    ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้ามคธครองราชย์สมบัติอยู่ในนครราชคฤห์ ในแคว้นมคธ
    มีพญากวางตัวหนึ่งอาศัยอยู่ในป่า ปกครองบริวารกวางจำนวน 1,000 ตัว พญากวางนั้นมีลูก 2 ตัว ชื่อ กวางลักขณะ และ กวางกาฬะ เมื่อลูกกวางทั้ง 2 โตขึ้น พญากวางก็แก่ลงมาก จึงคิดจะให้ลูกกวางทั้ง 2 เป็นผู้ปกครองฝูงแทนตน
    “ตอนนี้พ่อแก่มากแล้ว พ่ออยากให้พวกเจ้าเป็นจ่าฝูงแทนพ่อ พวกเจ้าแบ่งบริวารไปปกครองตัวละ 500 นะลูก” พญากวางบอกแก่ลูกกวางทั้ง 2
    “ ครับพ่อ” ลูกกวางทั้ง 2 ตอบรับ แล้วพญากวางก็ให้โอวาทในการนำพาฝูงให้อยู่รอดปลอดภัย
    “เจ้ารู้ไหมว่าสิ่งที่อันตรายที่สุดของพวกเราก็คือมนุษย์ พวกเขาจะฆ่าพวกกวางที่ไปกินข้าวกล้าในนา จึงได้ขุดหลุมพราง วางกับดักต่างๆ บ้างก็ดักซุ่มอยู่เพื่อยิงพวกเรา และในตอนนี้ มีข้าวกล้ามากมายกำลังรอเก็บเกี่ยว ดังนั้นในตอนกลางวันพวกเจ้าจงพาบริวารไปอยู่กันที่เชิงเขาแม้อาหารจะไม่อุดมสมบูรณ์ก็จงอดทน เพราะหากพวกมนุษย์เห็น เราจะไม่มีทางหนีได้ทันแน่นอน แล้วจึงค่อยลงมาหากินที่พื้นราบในเวลากลางคืน เข้าใจไหมลูก” เมื่อพญากวางสั่งสอนเสร็จแล้วก็พานางกวางแยกตัวออกไปอยู่ตามลำพังในป่าลึก
    “กาฬะ งั้นเราแยกกันตรงนี้นะ ระวังตัวด้วย อย่าลืมคำสั่งของพ่อล่ะ” กวางลักขณะบอกกับกวางกาฬะ
    “เจ้าอย่าป๊อดไปหน่อยเลย ลักขณะ พ่อก็พูดไปตามประสากวางแก่แหละน่า คอยดูเถอะข้าจะพาบริวารออกหากินในตอนกลางวัน พอหมดฤดูเก็บเกี่ยวข้าจะพากวางทั้ง 500 กลับมาเจอกับเจ้าที่บ้านพ่อ” กวางกาฬะพูดด้วยความลำพองใจ
    ‘หัวดื้อจริงๆ เจ้ากาฬะ’ กวางลักขณะนึกในใจ แล้วกวางทั้ง 2 ฝูงก็แยกย้ายกันไปหากิน
    “โอ้ย หิวจริงๆ เลย พวกเรา ออกไปหาหญ้ากินกันเถอะ” กวางกาฬะตะโกนบอกฝูง
    “แต่ลูกพี่ นี่ยังสว่างอยู่เลย รอให้มืดก่อนไม่ดีหรอ ขืนไปตอนนี้มีหวังโดนชาวบ้านยิงตายแน่เลย” ลูกน้องตัวหนึ่งทักท้วง
    “เจ้าอย่าอวดดีไปหน่อยเลย ข้าเป็นหัวหน้าเจ้านะ ใครไม่อยากอดตายก็ตามข้ามา” กวางกาฬะตะคอกใส่แล้ววิ่งนำออกไป
    ในระหว่างที่กวางกาฬะนำบริวารเล็มหญ้าอย่างเพลิดเพลินอยู่นั้น มีชาวบ้านเดินผ่านมาเห็นเข้าพอดี
    “โอ้ ลาภปากจริงๆ กวางเต็มไปหมดเลย” ชาวบ้านคนหนึ่งกระซิบ
    “ใช่แล้ว มันไม่ทันระวังตัวแบบนี้ วันนี้ได้กลับบ้านหลายตัวแน่” อีกคนหนึ่งกระซิบตอบ แล้วเล็งไปที่กวางตัวอ้วน
    ปั้ก!!
    “เสร็จข้า ฮ่าๆๆๆ”
    เจ้ากวางโชคร้ายเมื่อโดนลูกธนูยิงเข้าที่สะโพกแบบนั้นก็กรีดร้องเสียงดังโหยหวน กวางตัวอื่นเมื่อได้ยินเสียงร้องก็รีบวิ่งเข้าป่าทันที
    “หยุดได้แล้ว พวกมนุษย์ไม่ตามมาแล้ว” กวางกาฬะตะโกนบอก พร้อมกับหอบแฮกๆ
    “ข้าบอกแล้วเห็นไหม เกือบเอาชีวิตไม่รอดแล้วไหมล่ะ เพื่อนเราตายไปตั้งเยอะ” ลูกน้องตัวเดิมบอก แต่แทนที่กวางกาฬะจะสำนึก กลับตะคอกกลับ
    “มันบังเอิญหรอกน่ะ คราวหลังข้าจะพาไปเวลาอื่น!”
    ด้วยความลำพอง และหัวดื้อของกวางกาฬะ มันพาบริวารออกไปหากินตามอำเภอใจ อยากไปเวลาไหนก็ไป จนในที่สุด กวางทั้ง 500 ก็ถูกชาวบ้านยิงตายหมด เหลือมันอยู่เพียงตัวเดียว
    ส่วนกวางลักขณะนั้น เป็นกวางฉลาดและเชื่อในคำสั่งสอนของพญากวาง จึงไม่เคยพาบริวารออกไปหาอาหารในเวลากลางวันเลย แม้ลูกน้องอ้อนวอนเพียงใดก็ตาม จนกระทั่งเวลาผ่านไป เมื่อมนุษย์เก็บเกี่ยวข้าวเรียบร้อยแล้วจึงลงมาจากภูเขาและมุ่งหน้าไปหาพญากวาง พร้อมบริวารทั้ง 500 ตัว
    “ท่านพี่ ลูกกวางลักขณะกลับมาแล้ว” นางกวางบอกกับพญากวาง
    “อ้อ กลับมากันแล้วหรอ พวกเจ้าเป็นยังไงบ้าง สุขสบายดีไหม” พญากวางถามลูกกวางลักขณะ
    “ครับพ่อ พวกเราทำตามคำสั่งสอนของท่าน ไม่ออกหากินเวลากลางวัน แม้หิวก็ทนเอา พวกเราจึงกลับมาครบทั้ง 500 ตัวครับ”
    “อืม พวกเจ้าทำดีมาก แต่… ทำไมกาฬะยังไม่กลับมาอีกนะ” พญากวางมองไปรอบๆ
    “นั่นไงท่านพี่ กาฬะกลับมาแล้ว แต่เขากลับมาตัวเดียว” นางกวางบอก
    พญากวางเห็นลูกทั้ง 2 กลับมาในสภาพที่ต่างกันดังนั้น จึงกล่าวกับนางกวางว่า
    “กวางลักขณะนั้นมีปัญญา ไม่ดื้อดึง สามารถปกครองบริวารได้ ส่วนกวางกาฬะนั้นโง่เขลา อวดดี และดื้อดึง ทำให้บริวารต้องล้มตายกันหมด” แล้วจึงประกาศกับฝูงกวางว่า
    “เอาล่ะ ในเมื่อกาฬะไม่สามรถปกครองบริวารให้อยู่รอดปลอดภัยได้ ข้าขอแต่งตั้งกวางลักขณะเป็นหัวหน้าฝูง ปกครองพวกเจ้าแทนข้า ขอให้พวกเจ้าจงเชื่อฟังลักขณะเหมือนกับที่เชื่อฟังข้า ขอให้พวกเจ้าอยู่กันด้วยความสงบสุขเถิด”
    กวางลักขณะจึงได้เป็นพญากวาง และปกครองบริวารด้วยความสุขสงบ


    ข้อคิดจากชาดก :
    1. ควรเชื่อฟังคำสั่งสอนของผู้ใหญ่ที่มีประสบการณืมากกว่า
    2. ผู้นำควรมีศีล มีความฉลาด ไม่อวดดื้อ ถือดี
    ประชุมชาดก
    กวางกาฬะในครั้งนั้นได้เป็น พระเทวทัต
    กวางลักขณะในกาลนั้น ได้เป็น พระสารีบุตร
    นางกวางในครั้งนั้น ได้เป็น พระนางยโสธรา
    พญากวางในครั้งนั้น ได้เป็น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    นิทานชาดก ลักขณชาดก : กวางยอดผู้นำ | นิทานสอนใจ

    [​IMG]<!-- google_ad_section_end -->
     
  3. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ฉลองลั่นกรุงโรม! ชาวอิตาลียินดี “แบร์ลุสโกนี” ลาออก-วอนไปแล้วไปลับ
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 13 พฤศจิกายน 2554 09:49 น.
    [​IMG]
    นายกรัฐมนตรี ซิลวิโอ แบร์ลุสโกนี ตัดสินใจยื่นจดหมายลาออกต่อประธานาธิบดี จิออร์จิโอ นาโปลิตาโน เมื่อวานนี้(12) สร้างความปีติยินดีแก่ชาวอิตาลีจนมีการเฉลิมฉลองอย่างคึกคักในกรุงโรม


    เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรี ซิลวิโอ แบร์ลุสโกนี พ้นจากตำแหน่งผู้นำอิตาลีแล้ว เมื่อวันเสาร์(12) ท่ามกลางเสียงโห่ร้องแสดงความยินดีของชาวเมืองมักกะโรนีในกรุงโรม หลังความไม่แน่นอนก่อนหน้านี้ได้ฉุดตลาดเงินปั่นป่วนทั่วยูโรโซน

    การยื่นจดหมายลาออกของ แบร์ลุสโกนี ต่อประธานาธิบดี จิออร์จิโอ นาโปลิตาโน ทำให้ชาวอิตาลีในกรุงโรมออกมาร้องรำทำเพลงบนท้องถนน และเปิดแชมเปญเฉลิมฉลองกันอย่างคึกคัก

    “ผมรู้สึกขมขื่นอย่างยิ่ง” แบร์ลุสโกนี วัย 75 ปี ซึ่งครองตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอิตาลีมานานถึง 10 ปีในรอบ 17 ปีที่ผ่านมา กล่าวต่อผู้สื่อข่าว หลังถูกประชาชนตะโกนไล่หลังว่า “ตัวตลก” และ “กลับบ้านไปซะ” เมื่อเสร็จสิ้นการประชุมสภาครั้งสุดท้าย

    “ลาก่อน และไม่ว่าจะอย่างไรก็อย่ากลับมาอีกเลย” ชายคนหนึ่งตะโกน ขณะที่อีกคนบอกว่า “พวกเรามีความสุขมาก”

    ทอมมาโซ โรมิโต วัย 50 ปี ซึ่งสวมผ้าพันคอออกมาสู้อากาศหนาวเย็นในกรุงโรม บอกว่า “พวกเรารู้สึกยินดีอย่างยิ่ง เราทนกับผู้นำที่เอาแต่ผลประโยชน์ส่วนตัวคนนี้มามากพอแล้ว อนาคตของอิตาลีจะต้องดีกว่าเดิม”

    นาโปลิตาโน จะจัดให้มีการหารือระหว่างขั้วอำนาจต่างๆจนถึงเวลา 17.00 น. GMT วันนี้(13) หลังจากนั้นคาดว่าจะมีการแต่งตั้งอดีตกรรมาธิการยุโรป มาริโอ มอนติ ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีชั่วคราวแทน แบร์ลุสโกนี

    คริสติน ลาการ์ด กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) รวมถึงประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ และประธานาธิบดี นิโกลาส์ ซาร์โกซี แห่งฝรั่งเศส ต่างเรียกร้องให้อิตาลีเร่งจัดตั้งรัฐบาลใหม่ แทนที่จะเลื่อนการเลือกตั้งทั่วไปให้เร็วขึ้น

    โอบามา กล่าวในวันก่อนการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก(เอเปก)ที่ฮาวาย ว่า “ประชาคมยุโรปยังมีสิ่งที่ต้องทำอีกมาก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ตลาดว่าอิตาลีจะสามารถแบกรับภาระหนี้สินไว้ได้”

    มอนติ ซึ่งคาดว่าจะมาแทนที่ตำแหน่งของ แบร์ลุสโกนี เป็นนักเศรษฐศาสตร์วัย 68 ปีที่ได้รับความเชื่อถืออย่างกว้างขวาง ในฐานะอดีตกรรมาธิการยุโรป 2 สมัยซ้อน เขาเคยเล่นงาน 2 บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง ไมโครซอฟต์ และ เจเนอรัล อิเล็กทริก ทว่ายังไม่มีประสบการณ์ทางการเมืองมาก่อน

    มอนติ ได้รับการสนับสนุนจากทุกกลุ่มการเมืองในอิตาลี รวมไปถึงพรรค พีดีแอล ของ แบร์ลุสโกนี ซึ่งสัญญาว่าจะหนุน มอนติ ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีชั่วคราว แม้ว่าตัวอดีตนายกฯจะเรียกร้องให้จัดการเลือกตั้งทั่วไปก่อนปี 2013ก็ตาม
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
    Around the World - Manager Online -
     
  4. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
  5. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    Focus: ผู้ประกอบการโวย “ประท้วงวอลล์สตรีท” ทำธุรกิจซบเซา-วอนยุติกิจกรรมโดยเร็ว


    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 15 พฤศจิกายน 2554 11:25 น. Share

    [​IMG]


    การประท้วงวอลล์สตรีทที่ยืดเยื้อมาเกือบ 2 เดือน ส่งผลให้ผู้ประกอบการค้าใกล้สถานที่ชุมนุมมีกิจการซบเซาลง


    เอเอฟพี - ผู้ประกอบการรายย่อยซึ่งเปิดกิจการใกล้กับจุดตั้งแคมป์ของขบวนการ “อ็อคคิวพาย วอลล์สตรีท” ในย่านแมนฮัตตัน เรียกร้องให้ผู้ประท้วงยุติกิจกรรมที่ดำเนินต่อเนื่องมาเกือบ 2 เดือน วานนี้ (14) เพราะทำให้ธุรกิจของพวกเขาได้รับความเสียหาย

    เจ้าของกิจการซึ่งได้รับความเดือดร้อนเดินทางไปยังศาลาว่าการนครนิวยอร์ก เพื่อขอให้นายกเทศมนตรี ไมเคิล บลูมเบิร์ก ช่วยบรรเทาผลกระทบจากเหตุประท้วงวอลล์สตรีท ซึ่งอ้างว่าทำไปเพื่อปกป้องพลเมือง 99 เปอร์เซ็นต์ของสหรัฐฯ ที่ถูกคนร่ำรวยเพียง 1 เปอร์เซ็นต์เอารัดเอาเปรียบ

    “มันคือหายนะ” จอห์น คอสตาลัส เจ้าของร้านอาหาร Essex World Cafe กล่าว พร้อมเล่าว่า ผู้ประท้วงที่มาตั้งแคมป์อยู่ในสวนสาธารณะ ซัคคอตติ พากันมาใช้สุขาและอาบน้ำในร้านของเขา

    “พวกเขาเข้ามารบกวนตลอดเวลา มาใช้ห้องส้วมบ้าง มาอาบน้ำบ้าง ทำให้ลูกค้าไม่อยากเข้าร้าน”

    “พวกนั้นไม่ใช่ประชาชน 99 เปอร์เซ็นต์หรอก พวกผมที่ต้องทำงานตลอด 7 วัน วันละ 15 ชั่วโมง เพื่อจ่ายค่าเช่าให้เจ้าของตึกนี่ต่างหาก คือประชาชน 99 เปอร์เซ็นต์” คอสตาลัส บอก

    เจ้าฟง ซึ่งเป็นผู้จัดการภัตตาคารจีน โฮยิป มานาน 18 ปี บอกว่า เขารู้สึกโกรธมากที่ผู้ประท้วงจำนวนหนึ่งเอาถุงใส่อุจจาระมาวางทิ้งที่หน้าร้าน

    คลิปวิดีโอในโทรศัพท์มือถือของ เจ้า บันทึกภาพหญิงคนหนึ่งกำลังนำถุงสีขาวมาวางทิ้งข้างถุงขยะสีดำของร้าน จนเขาต้องรีบออกไปห้ามและบอกเธอว่า “คุณเอามาทิ้งตรงนี้ไม่ได้นะ เดี๋ยวผมก็ถูกปรับน่ะซี”

    เจ้า เผยด้วยว่า แผงเหล็กซึ่งตำรวจนำมากันผู้ประท้วงบนถนนใกล้เคียง ทำให้การขนส่งสินค้ายากลำบากขึ้น

    “ธุรกิจของเราซบเซาลงมาก วัตถุดิบก็นำเข้ามาลำบากเพราะมีแผงเหล็กของตำรวจกั้นอยู่”

    เจ้า ระบุว่า เขาก็เป็นประชาชน 99 เปอร์เซ็นต์ และรู้สึกเห็นใจผู้ประท้วงวอลล์สตรีทที่ต้องการตอบโต้นักการเมืองและนายธนาคารที่โกงกิน แต่เขารู้สึกว่า การประท้วงซึ่งดำเนินมาตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน ได้สูญเสียเจตนารมณ์ไปแล้ว

    “ผมเข้าใจข้อเรียกร้องของพวกเขา แต่ตอนนี้พวกเขาเหมือนกลุ่มคนที่สร้างความวุ่นวายมากกว่า”

    แม้เจ้าของกิจการที่มาร้องเรียนจะมีไม่ถึง 10 ราย แต่พวกเขาก็คาดหวังให้ทางการเข้ามาแก้ไขความเดือดร้อน เช่นเดียวกับที่ใส่ใจผู้ประท้วงหลายร้อยคนในสวนสาธารณะ ซัคคอตติ

    แม้ผู้ประท้วงในนิวยอร์กจะใช้แนวทางสันติ และอ้างว่าเข้าถึงประชาชนในท้องถิ่น ทว่าเจ้าของร้านอาหารอีกรายหนึ่งกลับขอร้องให้นายกเทศมนตรี บลูมเบิร์ก ส่งตำรวจเข้าไปจัดการ

    มาร์ก เอปสไตน์ ซึ่งเปิดร้าน Milk Street Cafe ใกล้กับตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กเมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมา บอกว่า การนำแผงเหล็กมากั้นผู้ประท้วงและอุปสรรคอื่นๆทำให้ยอดขายตกลงถึง 20 เปอร์เซ็นต์ และจำเป็นต้องปลดพนักงานที่ทำงานอย่างขยันขันแข็งไปแล้ว 20 คน

    “ผมไม่มีปัญหาอะไรกับแนวคิดทางการเมืองของพวกเขาหรอก แต่ไม่เห็นด้วยกับวิธีการ พวกเขาทำให้คนต้องตกงาน ซึ่งมันขัดแย้งกันสิ้นดี!”

    “ผมบอกได้เลยว่า ถ้า อ็อกคิวพาย วอลล์สตรีท ไม่หยุดประท้วงเร็วๆ นี้ และถ้าไม่เอาแผงเหล็กพวกนั้นออก พนักงานแถวนี้เสี่ยงตกงานกันเป็นแถวแน่... ผมอยากให้นายกเทศมนตรีนำคนพวกนี้ออกไปให้พ้นๆ ทำอย่างละมุนละม่อมที่สุดเท่าที่จะทำได้” เอปสไตน์กล่าว

    [​IMG]

    Around the World - Manager Online - <b><font color=blue>Focus:</font></b>
     
  6. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    เจ้รบกวนช่วยหาบทวิเคราะห์เศรษฐกิจของไทยหลังจากน้ำลด มีบ้างไหมครับ
     
  7. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    เตือนชาวมังกรระวัง "มะเร็ง" จากทิสชูเกรดต่ำในร้านอาหาร


    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 15 พฤศจิกายน 2554 09:44 น. Share

    [​IMG]


    ร้านอาหารในจีน ทั้งนี้พบว่าภัตตาคารและร้านอาหารในจีนหลายแห่งใช้กระดาษเช็ดปากด้อยมาตรฐาน ซึ่งมีสารฟอกขาวอาจก่อให้เกิดมะเร็งได้ (ภาพเอเยนซี)


    เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ -- ภัตตาคารร้านรวงขายอาหารเล็ก ๆ บนแดนมังกรในหลายหัวเมืองด้วยกัน มักมีกระดาษเช็ดปากมาตรฐานต่ำระดับราคาถูก ๆ ไว้บริการลูกค้าที่มานั่งรับประทาน แต่หารู้ไม่ว่า นั่นคืออันตรายที่ทำให้อาจเกิดโรคมะเร็งได้เลยทีเดียว

    ดิ อิโคโนมิกส์ อินฟอร์เมชั่น เดลี หนังสือพิมพ์ในเครือซินหวารายงานว่า ประชาชนในแถบหนานหนิง เมืองเอกของเขตปกครองตนเองชนชาติจ้วง ก่วงซี ได้เผยเรื่องราวของตัวเองกับเจ้าหน้าที่จีนเกี่ยวกับกระดาษเช็ดปากซึ่งทำมาจากกระดาษชำระในส้วม

    หนังสือพิมพ์รายงานว่า "ในกระบวนการรีไซเคิลกระดาษชำระของโรงงานในอำเภอปินหยัง มีการใส่สารฟอกขาวชนิดก่อให้เกิดโรคมะเร็งลงไปด้วย เพื่อผลิตกระดาษเช็ดปากให้ดูดี สะอาด ขณะที่นายจ้างของโรงงานผลิตกระดาษ "จินเฉิง เปเปอร์ มิล" เผยว่า เขาไม่รู้ว่าคนซื้อนำผลิตภัณฑ์ของเขาไปทำอะไรบ้าง

    รายงานเผยอีกว่า ภัตตาคารหลายเแห่งมักกจะซื้อกระดาษเช็ดปากที่ด้อยมาตรฐานซึ่งมีราคาถูก เพื่อเป็นการประหยัดต้นทุน และในกระบวนการบรรจุหีบห่อกระดาษเช็ดปากนั้นก็ไม่ได้ระบุข้อมูลแก่ผู้บริโภคว่า สินค้านั้นปลอดภัยหรือไม่

    กระดาษฯ ที่ไม่ได้มาตรฐานจะไม่มีตัวหนังสืออธิบายอะไรทั้งสิ้น และจะมีจุดมัน ๆ เวลาต้องแสงไฟบางจุดสะท้อนออกมา หากนำกระดาษเหล่านี้มาเขย่าก็จะพบว่ามีฝุ่นหลุดออกมาด้วย

    หลี่ หย่งชุน หัวหน้าสำนักงานด้านคุณภาพและการให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยีแห่งอำเภอปินหยัง ให้สัมภาษณ์กับซินหวาว่า ความผิดปกติเหล่านี้สามารถพบได้ในโรงงานผลิตกระดาษ รวมทั้งกระบวนการรีไซเคิลกระดาษและการฝอกขาวผลิตภัณฑ์ที่ไม่ยอมระบุเป้าหมายของการผลิตให้ชัดเจน พร้อมย้ำว่ากระดาษเหล่านี้ไม่มีการรับรองคุณภาพของกระดาษจากหน่วยงานฯ แต่อย่างใด

    หลี่ย้ำว่า "หากผู้บริโภคสัมผัสโดยตรงกับสารฟอกขาวอาจจะก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้"

    ชาวเน็ตเผยว่า การพบเห็นกระดาษฯ ด้อยคุณภาพในร้านค้า ภัตตาคารเป็นเรื่องธรรมดา "จะให้ดีเราก็นำกระดาษชำระของเราไปเอง" ชาวเน็ตคนหนึ่งเขียนข้อความในไมโครบล็อกซิน่า

    หากจะทำให้ได้มาตรฐานระดับชาติสินค้าจำพวกใช้เพื่อชำระความสะอาด ซึ่งหมายรวมถึงกระดาษเช็ดปากด้วยนั้น มีเงื่อนไขว่า วัตถุดิบจะต้องไม่ปนเปื้อนเป็นพิษ และสินค้าเหล่านั้นต้องไม่มีมลภาวะเจือปน

    สำนักงานด้านการให้คำปรึกษาคุณภาพ การตรวจสอบและกักกันเชื้อโรคได้ออกกฎเมื่อปี 2546 ห้ามผู้ผลิตกระดาษเช็ดปากจากกระดาษที่พิมพ์หมึกแล้วนำกลับมารีไซเคิลอีก สิ่งที่อนุมัติให้นำมาใช้ได้มีเพียงอนุญาตให้ผลิตจากไม้ แก้ว และไผ่เท่านั้น

    หนังสือพิมพ์รายงานด้วยว่า ช่องว่างทางกฎหมายก็ทำให้กระบวนการบังคับใช้หย่อนยาน เช่นเดียวกับที่กฎหมายความปลอดภัยด้านอาหารมิสามารถนำมาใช้กับกระดาษเช็ดปากในภัตตาคารได้ เพราะยังพบว่ามีผู้จัดการภัตตาคารหลายคนใช้กระดาษเช็ดปากต่ำกว่ามาตรฐานและก็ไม่ถูกลงโทษตามกฎหมาย

    ศาสตราจารย์ซย่า เสวียหลวน ด้านสังคมวิทยามหาวิทยาลัยปักกิ่ง เผยว่า ควรจะมีกฎหมายระดับภูมิภาคเพื่อมาจัดการกับปัญหานี้ "สำนักงานให้คำปรึกษาด้านคุณภาพฯ ควรจะเข้าแทกแซงและควบคุมคุณภาพกระดาษเช็ดปากในภัตตาคารได้แล้ว"

    China - Manager Online -
     
  8. เทพธรรมบาล

    เทพธรรมบาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,215
    ค่าพลัง:
    +291
    อ่าน แล้ว อั้ว เก็กซิม อ่า
     
  9. nickybamby

    nickybamby เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    216
    ค่าพลัง:
    +174
    บ้านเราเหมือนกันแหละครับ
    สังเกตดีๆสิครับ ทิชชู่ที่เป็นสีชมพูน่ะ จะมีสีดำเป็นจุดๆเล็กๆ
    นั่นแหละ เป็นทิชชู่ที่ผลิตจากกระดาษที่ผ่านการพิมพ์ด้วยผงคาร์บอน พวกถ่ายเอกสาร เลเซอร์ปริ๊นฯ
    บางคนนะ เอามาเช็ดจาน ช้อน แก้ว แล้วใส่ของกิน เลิกเถอะ!!!
     
  10. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    เฮียก่วน เก๊กซิม ก็รู้ตัวว่า เก๊กซิม อยู่ละกัน นะเฮีย

    ดีกั่ว หายใจทิ้ง ไปป่าวๆ ฮิฮิ [​IMG]
     
  11. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    จัดปายยยยยย

    เศรษฐกิจไทยหลังน้ำท่วม

    ธนาคารแห่งประเทศไทย -- อังคารที่ 15 พฤศจิกายน 2554 13:20:17 น.<STYLE>.expanded { width: 620px; z-index: 9999 }</STYLE>
    นางสาวธัญลักษณ์ วิบูลย์ศรีสัจจะ
    เศรษฐกร ทีมวิเคราะห์สนเทศธุรกิจ
    สายนโยบายการเงิน

    เป็นที่รู้กันดีว่าในขณะนี้ภาวะน้ำท่วมได้ขยายวงกว้าง กระทบทั้งพื้นที่เกษตรกรรมและพื้นที่อุตสาหกรรม ทำให้เกิดความเสียหายหลายด้าน ทั้งทางสินทรัพย์ รายได และความเชื่อมั่นของประชาชนความต้องการจับจ่ายใช้สอยสินค้าลดลง ซึ่งจะส่งผลลบโดยตรงต่ออัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ ดังนั้น ก็ไม่น่าแปลกใจหากเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้จะหดตัวลงมาก ในเบื้องต้น ภาวะน้ำท่วมได้ทำให้การคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของทั้งปีนี้ลดลงจากร้อยละ 4.1 ที่ประมาณการไว้เมื่อเดือนกรกฎาคมเป็นร้อยละ 2.6 (ประมาณการ ณ 19 ต.ค. 54)
    แม้ว่าเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 4 จะหดตัว แต่จะเป็นเพียงระยะสั้นๆ เท่านั้น วิกฤตน้ำท่วมนี้เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อศักยภาพการผลิตของประเทศในระยะยาว ไทยมีพื้นฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและปัจจัยสนับสนุนด้านอุปสงค์ที่มีต่อเนื่อง ซึ่งช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วด้วยเหตุผล 5 ประการ ดังนี้
    ประการแรก แรงกระตุ้นจากภาครัฐทั้งที่วางแผนไว้เดิมและที่ต้องทำเพิ่มอีกมากเพื่อฟื้นฟูหลังน้ำท่วมทั้งในระยะสั้นและยาว จะช่วยกระตุ้นทั้งการลงทุนและการบริโภค เชื่อว่าจะเริ่มเห็นผลชัดเจนขึ้นเป็นลำดับจากปลายปีนี้เป็นต้นไป
    ประการที่สอง ภาคเกษตรจะกลับมาเริ่มเพาะปลูกได้ใหม่หลังน้ำลด และคาดว่าผลผลิตจะเพิ่มขึ้นจากปุ๋ยตะกอนดินที่ถูกพัดมา ขณะที่ราคาพืชผลอยู่ในระดับสูงจากอุปทานที่ลดลงและความต้องการในตลาดโลกที่ยังมีอยู่สูง รวมถึงโครงการรับจำนำข้าวของรัฐ ส่งผลให้รายได้เกษตรอยู่ในเกณฑ์ดี
    ประการที่สาม ภาคอุตสาหกรรมน่าจะฟื้นตัวได้ในระยะเวลาไม่นานนัก เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาcluster ในภาคการผลิตมีความเข้มแข็งขึ้น และไทยเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายการผลิตระหว่างประเทศ (International Production Network) ที่แข็งแกร่ง จากการติดตามข่าวสารและพูดคุยกับผู้ประกอบการ พบว่า ผู้ประกอบการยังหาทางปรับตัว สะท้อนว่ายังต้องการผลิตต่อและยังไม่ต้องการย้ายฐานการผลิตไปประเทศอื่น บางอุตสาหกรรมเริ่มผลิตทดแทนโดยย้ายฐานไปยังโรงงานในจังหวัดอื่น เช่น อุตสาหกรรม Hard Disk Drives เซมิคอนดัคเตอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า ขณะที่ภาครัฐเร่งให้ความช่วยเหลือในหลายด้าน อาทิ การเว้นภาษีนำเข้าสำหรับเครื่องจักรหรือชิ้นส่วนทดแทนเพื่อใช้สำหรับเริ่มการผลิตใหม่ การจัดหาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ และมาตรการเร่งรัดการอนุมัติวีซ่าและใบอนุญาตทำงานสำหรับผู้ชำนาญการต่างชาตทิ จะเข้ามาช่วยฟื้นฟูเครื่องจักร เป็นต้น
    ประการที่สี่ ภาคการท่องเที่ยวมีความยืดหยุ่น สะท้อนจากข้อมูลในอดีตที่พิสูจน์ว่า จำนวนนักท่องเที่ยวสามารถฟื้นตัวได้เร็วภายหลังเหตุการณ์สงบ
    ประการสุดท้าย สถาบันการเงินของไทยมีความแข็งแกร่ง พร้อมดูแลประคับประคองลูกหนี้ และสนับสนุนสินเชื่อเพื่อการบูรณะฟื้นฟูหลังน้ำลด ระบบธนาคารพาณิชย์มีเงินทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงในระดับสูงสัดส่วนหนี้เสียต่ำ สามารถทำหน้าที่ตัวกลางทางการเงินได้ดี
    ปัจจัยพื้นฐานเหล่านี้ทำให้สำนักต่าง ๆ ทั้งไทยและเทศคาดการณ์เศรษฐกิจปีหน้าฟื้นตัวไปในทิศทางเดียวกัน
    จากวิกฤตในประเทศที่กำลังประสบอยู่ และปัจจัยแวดล้อมนอกประเทศที่มีความไม่แน่นอนสูง ยิ่งแสดงถึงความสำคัญของการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประเทศ เหมือนคนต้องออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ประเทศเองก็ต้องสร้างความเข้มแข็งและทนทาน ด้วยการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและความแข็งแกร่งที่จะรองรับวิกฤตต่างๆ ซึ่งภาครัฐและภาคเอกชนต้องทำไปพร้อมกัน ในส่วนของภาคเอกชน จำเป็นต้องเร่งเพิ่มประสิทธิภาพ
    การผลิตและศักยภาพในการบริหารความเสี่ยงด้านต่างๆ ธุรกิจจำเป็นต้องใช้แรงงานที่มีอยู่อย่างจำกัดให้สามารถผลิตสินค้าที่มีปริมาณมากขึ้นและมีคุณภาพดีขึ้น เตรียมพร้อมที่จะเผชิญกับการแข่งขันในตลาดโลกที่รุนแรงขึ้น
    ในส่วนของทางการ การสร้างอุปสงค์ภายในประเทศให้แข็งแกร่งเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้เป็นส่วนที่ช่วยรองรับผลกระทบ (Cushion) หากภาคการส่งออกได้รับผลกระทบจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกที่นับวันจะมีมากขึ้น แต่อุปสงค์ในประเทศจะแข็งแกร่งได้นั้น ต้องสนับสนุนให้ประชาชนมีศักยภาพในการหารายได้ด้วยตนเองอย่างยั่งยืน จากการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อยกระดับศักยภาพการผลิตของประเทศ ขณะเดียวกัน เร่งลดต้นทุนให้แก่ธุรกิจโดยปรับปรุงกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรค สนับสนุนการเปิดเสรีทางการค้าและการลงทุน เพื่อสร้างแรงกระตุ้นให้ภาคเอกชนพัฒนาศักยภาพ
    อย่างไรก็ดี จากสถานการณ์น้ำท่วมนี้จะทำใหภ้ ครัฐต้องเบิกจ่ายงบประมาณจำนวนมากเพื่อการลงทุนบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัย แต่ภาครัฐยังจำเป็นต้องยึดกรอบวินัยการคลังอย่างเคร่งครัดและจัดลำดับความสำคัญของแผนการลงทุน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤตหนี้สาธารณะเช่นเดียวกับในยุโรป ที่สำคัญ ควรกันงบประมาณส่วนหนึ่งไว้เพื่อรองรับในกรณีที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ และยุโรปแย่กว่าที่คาดไว?
    <HR>บทความนี้เป็นข้อคิดเห็นส่วนบุคคล จึงไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับความเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทย
    เผยแพร่ในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 15 พฤศจิกายน 2554

    ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย

    เศรษฐกิจไทยหลังน้ำท่วม
     
  12. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    เห็นด้วยค่ะ พอดีเมื่อก่อนไม่ทันคิด พออ่านข่าวทิชชู่ที่เมืองจีน ก็นึกถึงคนไทย
    เหมือนกัน แต่ไม่รู้กระบวนการผลิตของคนไทยจะเหมือนที่เมืองจีนที่มีปัญหาไหม
    แต่ทิชชู่เมืองจีนที่นำเข้ามาราคาถูกๆเนี่ย ต้องระวังมากๆ
    ดูแลสุขภาพตัวเอง ให้ดี นะคะ อ่านข่าวรู้ทันโลก ก็จะได้ระวังรักษาตนเอง
    ให้ปลอดภัยจากภัยที่คาดไม่ถึงและมองไม่เห็นทั้งหลายทั้งปวง
     
  13. ดูงาน

    ดูงาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +2,670
  14. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ขอบคุณค่า เข้าไปอ่านแร้ว สนุกดีค่ะ
     
  15. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    “วาติกัน” ฉุน! สั่ง “เบเน็ตตอง” ปลดโปสเตอร์ฉาว “โป๊ปจูบปากอิหม่าม”
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 พฤศจิกายน 2554 14:06 น
    [​IMG]

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=323 border=0><TBODY><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>หนึ่งในโปสเตอร์โฆษณาชุดใหม่ของ "เบเน็ตตอง" ซึ่งเป็นการตัดต่อภาพสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ทรงจุมพิตอิหม่าม อะเหม็ด เอล ตาเย็บ แห่งมัสยิดอัล-อัซฮาร์ และสร้างความไม่พอใจอย่างยิ่งแก่สำนักวาติกัน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> เอเอฟพี - ห้องเสื้อ “เบเน็ตตอง” ในอิตาลี ยอมถอดโปสเตอร์โฆษณาซึ่งเป็นรูปสมเด็จพระสันตะปาปา และอิหม่ามผู้หนึ่งกำลังจุมพิต วานนี้ (16) หลังถูกสำนักวาติกันออกแถลงการณ์ประณามอย่างรุนแรง

    เบเน็ตตอง ซึ่งเคยถูกวิจารณ์เรื่องสื่อโฆษณามาแล้วหลายครั้ง แถลงว่า รู้สึกเสียใจที่ภาพดังกล่าวทำลายความรู้สึกของชาวคริสต์ผู้ศรัทธา

    คำชี้แจงของเบเน็ตตอง มีขึ้นหลังจากที่สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ประท้วงอย่างรุนแรงที่ห้องเสื้อดังกล่าว “นำภาพของพระสันตะปาปาไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม”

    โปสเตอร์ดังกล่าวเป็นการตัดต่อรูปสมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ที่ 16 ให้ดูเหมือนกำลังจุมพิตอิหม่าม อะเหม็ด เอล ตาเย็บ แห่งมัสยิดอัล-อัซฮาร์ ณ กรุงไคโร ซึ่งเป็นผู้นำคนสำคัญของศาสนาอิสลามนิกายซุนนี

    เบเน็ตตอง เปิดตัวสื่อโฆษณาชุด “ความไม่เกลียดชัง” (UNHATE) โดยทำการตัดต่อภาพผู้นำประเทศและผู้นำทางศาสนาหลายคนกำลังจุมพิต เพื่อสื่อถึงแนวคิดดังกล่าว

    เบเน็ตตองให้เหตุผลว่า จุดประสงค์ของโฆษณาชุดนี้เพียงต้องการ “ขจัดวัฒนธรรมแห่งความเกลียดชังในทุกรูปแบบเท่านั้น”

    นอกจากภาพของสมเด็จพระสันตะปาปา และอิหม่ามตาเย็บแล้ว ยังมีภาพประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯกำลังจุมพิตประธานาธิบดี หู จิ่นเทา ของจีน รวมไปถึงภาพการจุมพิตระหว่าง โอบามา กับประธานาธิบดี ฮูโก ชาเบซ แห่งเวเนซุเอลาด้วย

    ภาพนายกรัฐมนตรีซิลวิโอ แบร์ลุสโกนี จุมพิตนายกรัฐมนตรี แองเกลา แมร์เคิล แห่งเยอรมนี ถูกปลดลงอย่างกะทันหัน หลังอดีตนายกฯอิตาลียื่นจดหมายลาออกจากตำแหน่งเมื่อสัปดาห์ก่อน

    สำนักวาติกัน ประณามภาพตัดต่อสมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ที่ 16 อย่างรุนแรง โดยระบุว่า “เราจำเป็นต้องออกแถลงการณ์ประท้วง เพราะนี่เป็นการนำภาพสมเด็จพระสันตะปาปาไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม เป็นการแต่งเติมเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ทางการค้า” เฟเดริโก ลอมบาร์ดี โฆษกสำนักวาติกันระบุในแถลงการณ์

    “การกระทำเช่นนี้แสดงให้เห็นถึงการไม่เคารพในองค์พระสันตะปาปา เป็นการทำลายความรู้สึกของผู้ศรัทธาชาวคริสต์ และบ่งบอกอย่างชัดเจนว่า สื่อโฆษณาอาจทำลายหลักการพื้นฐานแห่งความเคารพในตัวบุคคลได้ โดยใช้วิธียั่วยุเพื่อดึงดูดความสนใจ”

    โปสเตอร์ชุดนี้ปรากฏอยู่ตามร้านสาขาของเบเน็ตตองทั่วโลก รวมถึงบนหน้าหนังสือพิมพ์ นิตยสาร และเว็บไซต์

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    Around the World - Manager Online -
     
  16. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    แนะช่อง "ปู" ล้วงทุนสำรองฯ ฟื้นฟูประเทศ "หม่อมเต่า" ลั่นเสียวินัยดีกว่าเสียตัว

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>17 พฤศจิกายน 2554 10:05 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

    "หม่อมเต่า" แนะช่องทาง "รบ.ปู" ล้วงทุนสำรองฯ ธปท. ฟื้นฟูประเทศ แต่ต้องมีวิธีการ หรือกระบวนการที่ชัดเจน และเหมาะสม โดยระบุถึงความจำเป็น และทำเพื่ออะไร รวมทั้งให้สัญญาว่าทำแบบชั่วคราว ครั้งเดียวเท่านั้น โดยจะไม่มีการนำทุนสำรองทางการออกมาใช้อีก

    ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แสดงความเห็นกรณีที่รัฐบาลต้องการนำเงินทุนสำรองทางการของ ธปท.บางส่วนออกมาใช้เพื่อฟื้นฟูความเสียหายหลังน้ำลดว่ารัฐบาลสามารถดำเนินการได้ แต่จะต้องมีวิธีการ หรือมีกระบวนการที่ชัดเจนและเหมาะสมในการนำทุนสำรองทางการออกมารวมทั้งทางการจะต้องมีการตราเป็นกฎหมายไม่ว่าจะออกมาในรูปแบบ พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) หรือออกเป็นกฎหมายใหม่ก็ตาม เพื่อรองรับการนำทุนสำรองออกมาใช้ ซึ่งจะต้องระบุในตัวบทกฎหมายอย่างชัดเจนว่า เช่น จะเป็นการนำเงินทุนสำรองออกมาใช้เพื่อความจำเป็นอะไรและเพื่ออะไรรวมทั้งระบุว่า การนำเงินทุนสำรองออกมาใช้ในครั้งนี้จะเป็นกระทำเพียงการทำชั่วคราว ครั้งเดียวเท่านั้น โดยจะไม่มีการนำทุนสำรองทางการออกมาใช้อีก เป็นต้น

    "เนื่อจากสถานการณ์ที่ประเทศเป็นแบบนี้ เห็นว่า อะไรที่มีความจำเป็นก็ต้องช่วยกัน จะรักษาวินัยการเงิน โดยไม่ช่วยอะไรเลยก็คงไม่ใช่ ซึ่งธปท.ก็มีความตระหนักในข้อนี้ดี แต่ถ้าถามว่า หากนำทุนสำรองทางการออกมาใช้จะทำให้เราต้องเสียวินัยการเงินหรือไม่ผมมองว่าเสียวินัยการเงินดีกว่า เสียตัว ก็เหมือนในยามนี้ที่เราผ่อนผันให้คนไปจอดรถบนทางด่วนได้ ทั้งที่ปกติแล้วผิดกฎหมายแต่เราก็ต้องผ่อนผันกันไป เพราะความจำเป็นตามความเหมาะสม"

    สำหรับในส่วนความช่วยเหลือของ ธปท.นั้น ไม่ได้มีเพียง เรื่องทุนสำรองทางการเพียงอย่างเดียว หรือการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียงอย่างเดียวอย่างที่หลายคนเข้าใจกัน แต่ทาง ธปท.ก็ยังสามารถบรรเทาภาระและช่วยเหลือประเทศได้อีกในหลายด้าน ตามบทบาทหน้าที่ตามความเหมาะสม เช่น การดูแลด้านนโยบายการเงินเงินเฟ้อ ที่เหมาะสม หรือจะเป็นตัวกลางในการกำกับดูแลสถาบันการเงิน

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)</TD></TR></TBODY></TABLE>

    ปล. มันจะเสียทั้งเงิน และเสียทั้งตัวอะดิ ไม่อยากทายถูกเรยนะเนี่ย [​IMG]

    Business - Manager Online -
     
  17. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    วันที่ 24 พฤศจิกายน 2554 08:27

    สถาบันการเงินโลกฟันธงศก.ยูโรโซนถดถอยแล้ว

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    [​IMG]

    สถาบันการเงินโลกฟันธงศก.ยูโรโซนถดถอยแล้วขณะอัตราว่างงานในเยอรมนีทะยานต่อเนื่อง
    สถาบันการเงินระหว่างประเทศ (ไอไอเอฟ)นำเสนอรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจทั่วโลก ระบุว่า เศรษฐกิจของกลุ่มยูโรโซนดำดิ่งลงสู่ภาวะถดถอยแล้วและเงื่อนไข ตลอดจนสภาวะเศรษฐกิจด้านต่างๆในกลุ่ม 17 ชาติยูโรโซนเลวร้ายลงอย่างรวดเร็ว
    "สถานการณ์เศรษฐกิจในกลุ่มที่ใช้เงินสกุลยูโรเลวร้ายลงอย่างมากในช่วงเดือนที่ผ่านมา และเราเชื่อว่าเศรษฐกิจของทั้ง 17 ชาติในกลุ่มนี้เข้าสู่ภาวะถดถอยแล้ว ซึ่งจะทำให้มีปัญหาขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้นและคุณภาพสินทรัพย์ภาคธนาคารจะด้อยค่าลงยิ่งกว่าที่เป็นอยู่" ไอไอเอฟ ระบุ
    ไอไอเอฟ ซึ่งมีฐานดำเนินงานในกรุงวอชิงตัน ระบุว่า ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดจนถึงช่วงปลายไตรมาส 3 และต้นไตรมาส 4 บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจของกลุ่มยูโรโซนอ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยเฉพาะอัตราว่างงานที่ทะยานสูงขึ้นในเยอรมนี ซึ่งถือเป็นชาติเศรษฐกิจใหญ่สุดของยุโรป และการชลอตัวของการผลิตภาคอุตสาหกรรมในกลุ่มนี้
    ไอไอเอฟ คาดการณ์ว่า ผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)ของยูโรโซน ซึ่งครอบคลุมทั้งสินค้าและการบริการ จะหดตัว 2.0% ในไตรมาส 4 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว และมีแนวโน้มว่าจะหดตัวในลักษณะนี้ไปจนถึงไตรมาสแรกของปีหน้า
    นอกจากนี้ ไอไอเอฟ ซึ่งเป็นตัวแทนของธนาคารและสถาบันการเงินกว่า 450 แห่งในกว่า 70 ประเทศ ยังคาดการณ์ด้วยว่า จีดีพีในปีหน้าของกลุ่มยูโรโซน จะหดตัวเหลือ 1.0%
    "ภาวะความอ่อนแอของเศรษฐกิจในยูโรโซนกำลังลุกลามไปยังส่วนอื่นๆของโลกที่เหลือผ่านทางช่องทางต่างๆ และหนึ่งในช่องทางที่มีอิทธิพลมากที่สุดคือ อุตสาหกรรมธนาคาร"ไอไอเอฟ เตือน
    ไอไอเอฟ ซึ่งมีสมาชิกประมาณครึ่งหนึ่งมีฐานดำเนินงานอยู่ในยุโรป วิจารณ์บรรดาผู้กำหนดนโยบายในยุโรปเกี่ยวกับการกอบกู้วิกฤติหนี้สาธารณะว่า ไม่ได้ทำให้ดีขึ้น ในทางตรงกันข้ามกลับทำให้วิกฤตินี้เลวร้ายลง

    ʶҺѹ
     
  18. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    วันที่ 24 พฤศจิกายน 2554 10:57

    "มูดี้ส์"ชี้ปัญหาสินเชื่อยุโรปไร้ทางออกฉุกเฉิน

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    [​IMG]

    "มูดี้ส์"ชี้ปัญหาสินเชื่อยุโรปไร้ทางออกฉุกเฉินเหตุผู้กำหนดนโยบายยังบรรเทาวิกฤติหนี้สาธารณะไม่ได้

    นายบาร์ท อูสเตอร์เวลด์ กรรมการผู้จัดการด้านความเสี่ยงระดับโลกของมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส กล่าวว่า ปัญหามากขึ้นเกี่ยวกับสินเชื่อในยุโรปจะยังคงเกิดขึ้นต่อไปอีกระยะหนึ่ง ขณะที่ผู้กำหนดนโยบายพยายามหามาตรการแก้ไขวิกฤติหนี้ยูโรโซน
    "เรามีความเห็นว่า ภาพรวมด้านสินเชื่อของยุโรปจะยังคงอยู่ในเชิงลบไปอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากผู้กำหนดนโยบายกำลังพยายามประสานวัตถุประสงค์ที่ขัดแย้งกัน นั่นคือการรักษายุโรปในรูปแบบปัจจุบัน และขณะเดียวกันก็จะหลีกเลี่ยงการให้คำมั่นสัญญาต่อการรัดเข็มขัดทางการคลังที่เข้มงวดในระยะสั้นจึงมีช่องว่างที่รุนแรงและมากขึ้นระหว่างสิ่งที่ตลาดคาดหวังหรือเรียกร้องและสิ่งที่ผู้กำหนดนโยบายสามารถทำได้อย่างเหมาะสมในเวลาอันสั้น" นายอูสเตอร์เวลด์ กล่าว
    นายอูสเตอร์เวลด์ กล่าวด้วยว่า วิกฤติความเชื่อมั่นกำลังใกล้ที่จะทำให้การปล่อยสินเชื่ออินเตอร์แบงก์หยุดชะงักลง และคุกคามช่องทางเข้าถึงแหล่งเงินทุนของประเทศต่างๆ ขณะที่ยุโรปต้องพึ่งพาการซื้อพันธบัตรจำนวนไม่มากของธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) ว่าเป็นมาตรการแก้ไขวิกฤติครั้งนี้
    "นี่เป็นแผนยุทธศาสตร์ที่อาจจะเผชิญกับความเสี่ยงในการดำเนินการค่อนข้างมาก" ผู้เชี่ยวชาญด้านความเสี่ยงของมูดีส์ กล่าว

    "
     
  19. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ชัด!วิกฤตหนี้คืบคลานถึงเยอรมนี ซ้ำร้ายซาร์โกซี-แมร์เคิลยังแตกคอ
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 พฤศจิกายน 2554 00:30 น.

    เอเจนซีส์ - พันธบัตรคลังเมืองเบียร์ที่นำออกมาขายในวันพุธ(23) แล้วปรากฏว่าขายได้ไม่หมด ถูกระบุเป็น ‘หายนะ’ ซึ่งส่งสัญญาณเตือนอย่างแรงว่า วิกฤตหนี้ของยูโรโซนเริ่มคุกคามแม้กระทั่งพี่ใหญ่เยอรมนี ขณะที่เบอร์ลินและปารีส สองพี่เอื้อยของเขตยูโรโซน ยังคงแตกคอกันเรื่องแนวทางแก้ไขเชิงโครงสร้างระยะยาว

    นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิลของเยอรมนี, ประธานาธิบดีนิโคลาส์ ซาร์โกซีของฝรั่งเศส และนายกรัฐมนตรีมาริโอ มอนติของอิตาลี นัดพบกันที่สตาร์สบูร์กในฝรั่งเศส วันพฤหัสบดี (24) ซึ่งคาดว่าจะมีการหารือเกี่ยวกับแผนการปฏิรูปอิตาลีที่เสนอโดยมอนติ ซึ่งเป็นอดีตกรรมาธิการสหภาพยุโรป (อียู)

    การประชุมนี้ยังเป็นที่คาดหวังว่า จะช่วยนำอิตาลีหลุดพ้นจากยุคของซิลวิโอ เบอร์ลุสโคนี อดีตผู้นำฉาวที่ลาออกไปเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

    อย่างไรก็ตาม ก่อนจะถึงการประชุมนี้ มีเหตุการณ์หนึ่งที่ตอกย้ำความรุนแรงของวิกฤตยูโรโซน ได้แก่ การที่เยอรมนีนำพันธบัตรออกประมูลเมื่อวันพุธ (23) แต่ขายได้ไม่ถึงครึ่งของทั้งหมดที่มีมูลค่า 6,000 ล้านยูโร ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรเมืองเบียร์ระยะ 10 ปีพุ่งขึ้น 0.145% อยู่ที่ 2.056% สูงกว่าผลตอบแทนพันธบัตรคลังสหรัฐฯ เป็นครั้งแรกนับจากต้นเดือนตุลาคม และยังฉุดให้ค่าเงินยูโรลดลงอยู่ที่ 1.336 ยูโรต่อดอลลาร์ และตลาดหุ้นยุโรปดิ่งทำสถิติต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์

    ทั้งนี้ พันธบัตรใหม่เสนออัตราดอกเบี้ย 2% ต่ำที่สุดเท่าที่เยอรมนีเคยนำพันธบัตรระยะ 10 ปีออกระดมทุน

    สมาชิกอาวุโสของพรรคคริสเตียน เดโมแครตส์ (ซีดียู) ของแมร์เคิล พยายามลดทอนความสำคัญของความล้มเหลวนี้ ขณะที่นักการเมืองพรรคอื่นเรียงหน้าออกมาโจมตีนายกฯหญิง

    แฟรงก์ เชฟเฟลอร์ สมาชิกสภาที่ไม่เคยเชื่อมั่นในยูโรจากพรรคฟรี เดโมแครตส์ (เอฟดีพี) ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาล วิพากษ์ว่าเหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่า วิกฤตหนี้หยั่งรากลึกและคืบคลานถึงเยอรมนีแล้ว

    คาร์สเตน ชไนเดอร์ โฆษกฝ่ายงบประมาณของโซเชียล เดโมแครตส์ (เอสพีดี) ซึ่งเป็นพรรคกลางซ้ายในสภา สำทับว่านี่เป็นสัญญาณชัดเจนครั้งแรกว่าเยอรมนีไม่สามารถรอดพ้นจากวิกฤตที่เริ่มต้นที่กรีซเมื่อสองปีก่อน และลุกลามใน 17 ชาติยูโรโซน ดังนั้น แมร์เคิลและรัฐมนตรีคลังต้องบอกความจริงกับประชาชนถึงต้นทุนและความเสี่ยงที่ประเทศกำลังเผชิญ

    ช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ต้นทุนการกู้ยืมของเกือบทุกชาติในยูโรโซน แม้แต่ประเทศที่เคยถูกมองว่าปลอดภัยอย่างฝรั่งเศส ออสเตรีย และเนเธอร์แลนด์ ล้วนพุ่งทะยานเนื่องจากนักลงทุนที่ตื่นตระหนกพากันทิ้งพันธบัตรของชาติเหล่านี้เพราะมองว่าไม่ได้ปลอดความเสี่ยงอีกต่อไป

    ล่าสุดนักลงทุนยังขวัญเสียจากรายงานที่ว่า เบลเยียมกำลังบังคับให้ฝรั่งเศสจ่ายเพิ่มเพื่ออุ้ม เดกเซีย ธนาคารที่ประสบวิกฤตและต้องอยู่ภายใต้แผนฟื้นฟูมูลค่า 90,000 ล้านยูโร จากที่ตกลงกันเมื่อหลายเดือนก่อน

    นอกจากนี้ ยังมีรายงานพิเศษจากฟิตช์ เรทติ้งที่ชี้ว่า ปารีสมีช่องทางจำกัดในการรองรับผลกระทบต่อสถานะการคลังของประเทศจากแนวโน้มเศรษฐกิจขาลงรอบใหม่ หรือการอัดฉีดช่วยเหลือธนาคาร และเรื่องนี้จะกระทบต่ออันดับความน่าเชื่อถือที่อยู่ที่ AAA ในขณะนี้

    แมร์เคิลนั้นตัดสินใจว่าจะไม่ยอมตามแรงกดดันในตลาดการเงิน จึงยังคงยืนกรานต่อต้านเสียงเรียกร้องโดยเฉพาะจากฝรั่งเศส ให้ยอมให้ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) รับบทผู้ให้กู้ยืมแหล่งสุดท้ายสำหรับชาติยูโรโซน

    ในการแถลงต่อสภาล่างเมื่อวันพุธ แมร์เคิลเตือนว่าไม่ควรนำภารกิจในการต่อสู้ภาวะเงินเฟ้ออันเคร่งครัดของอีซีบีมาเสี่ยง ด้วยการพิมพ์ธนบัตรใหม่มาซื้อพันธบัตรรัฐบาลชาติสมาชิก รวมทั้งตอบโต้การเรียกร้องของคณะกรรมาธิการยุโรปเรื่องการออกพันธบัตรร่วมยูโรว่า 'ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง’

    แมร์เคิลยังไม่เห็นด้วยกับการอนุญาตให้กองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินของยุโรป (อีเอฟเอสเอฟ) กู้ยืมจากอีซีบีหรือไอเอ็มเอฟ แต่ทางออกทางเดียวจากวิกฤตในความเห็นของผู้นำเมืองเบียร์คือ สหภาพการเมืองยุโรปที่ก่อตั้งขึ้นโดยอิงกับยูโรโซน

    ทว่า เดวิด ไมลส์ ผู้วางนโยบายของธนาคารกลางอังกฤษ มองว่าข้อเสนอของแมร์เคิลบ่งชี้ความเสี่ยงที่จะต้องมีชาติใน 17 ชาติหลุดจากยูโรโซน

    สอดคล้องกับการสำรวจความคิดเห็นที่สำนักข่าวรอยเตอร์สจัดทำขึ้นและเผยแพร่ออกมาเมื่อวันพุธ ซึ่งพบว่านักวิชาการ อดีตผู้วางนโยบาย และนักคิดอิสระชื่อดัง 14 จาก 20 คน เห็นพ้องว่า องค์ประกอบของยูโรโซนอาจมีการเปลี่ยนแปลง

    นักเศรษฐศาสตร์ 10 คนมองตรงกันว่า ยูโรโซนใหม่ที่จะมีสมาชิกน้อยลงอาจเป็นวิธีแก้ปัญหา โดย 7 คนในจำนวนนี้ฟันธงว่า ผู้ที่ต้องไปคือกรีซ

    เจฟฟรีย์ แซคส์ ผู้อำนวยการเอิร์ธ อินสติติวท์ ของมหาวิทยาลัยโคลัมเบียในนิวยอร์ก ขานรับว่า ยูโรโซนสามารถและควรอยู่รอด แต่ไม่ใช่ในวิถีที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

    Around the World - Manager Online -
     
  20. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    Nibiru, Planet X: HERCOLUBUS IS THE NAME - YouTube
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=lYNA9ivrLpg&feature=player_detailpage"]Nibiru, Planet X: HERCOLUBUS IS THE NAME - YouTube[/ame]

    นาทีที่ 3.35 Before the arrival of Hercolubus (planet X) terrible economic crisis wil take place.

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=6vn8cVoK70M&feature=player_embedded"]Michael Jackson warns of 2012 Illuminati conspiracy? - YouTube[/ame]

    ในช่วงเวลาหนึ่งก่อนการเสียชีวิตของไมเคิล ในช่วงต้นปี 2009 ในการอธิษฐานก่อนการซ้อมเพื่อเตรียมคอนเสิร์ตครั้งใหญ่ ไมเคิลอาจจะรับรู้อะไรมาบางอย่าง และได้ทิ้งปริศนาไว้ในลักษณะ "คำเตือน" ครับ คือ "We have four years to make it right or else it's irreversable. Then we're done" ซึ่งแปลความได้ว่า "เรามีเวลาอีก 4 ปี เพื่อจะทำให้มันถูกต้อง หรือไม่มันก็ไม่สามารถที่จะย้อนเวลากลับมาได้อีก พวกเราจบ " ซึ่งอีก 4 ปีที่จะถึงนับจากปี 2009 ก็คือปี "2012".......อีกแล้วครับ (เครดิต คุณJimmySiri)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤศจิกายน 2011

แชร์หน้านี้

Loading...