เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mead, 8 สิงหาคม 2007.

  1. stefa

    stefa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,241
    ค่าพลัง:
    +1,790
    อมตะแห่งจิตวิญญาณ ภาคต้น

    จุดประสานมิติ
    เปรียบเสมือน โรงงานผลิตกระแสไฟฟ้า
    ซึ่งถูก กระตุ้น เมื่ออารมณ์ ความรู้สึกนึกคิด มีความเข้มข้นรุนแรง หรือ หนาแน่นพอ
    จุดประสานมิติ จะทำให้ ความเข้มข้น รุนแรง หรือ หนาแน่น
    เพิ่มขึ้นมาก อย่างเป็น กลาง
     
  2. stefa

    stefa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,241
    ค่าพลัง:
    +1,790
    อมตะแห่งจิตวิญญาณ ภาคต้น

    จุดประสานมิติ
    กล่าวโดยย่อได้ว่า ในประเทศของเธอ ท้องที่ริมฝั่งทะเล
    รวมถึง กรุงเทพฯ และ เมืองใหญ่ ในจังหวัดต่างๆที่มี
    การเปลี่ยนแปลง มีการเคลื่อนไหว มีการก่อสร้าง
    เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และ มากมาย

    ล้วนเป็นท้องที่ที่ถูกครอบคลุม ด้วย จุดประสานมิติ ดังกล่าวซึ่ง

    การสร้างสรรค์ และ การทำลายล้าง
    มีความเป็นไปได้สูงพอๆกัน
     
  3. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    คุณสเตฟา ขยันมาก..
    เล่มนี้ผมต้องไปซื้อมาอ่านต่อแน่ [อมตะแห่งจิตวิญญาณ ภาคต้น+ภาคปลาย]
     
  4. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425

    ปมปริศนา & เงื่อนงำ..วันที่9 เดือน10 ได้ความยังไงมาเฉลยด้วยนะครับ :cool:
    ได้ข่าวจากคุณ Bassate บอกว่าถ้าใครอ่านหนังสืออาจารย์อนาลัย ได้จบทำความเข้าใจได้เมื่อไหร่ ชีวิตจะเปลี่ยนไป จะมีมุมมองลึกล้ำมาก..อันนี้เห็นด้วยครับ อ่านไป 2 เล่มยังรู้สึกถึงความเปลื่ยนแปลงทางสมอง..เหมือนมี six sence ไปในทางบวกครับ สมาธิดีขึ้นคล่องขึ้นจริงครับ อนาคตจะเป็นแบบที่อาจารย์อนาลัยกล่าวไว้แน่นอนครับ

    "ต่อไปในอนาคตอันใกล้ วิทยาศาสตร์ที่แท้จริงจะเป็นศาสตร์ที่ศึกษาเกี่ยวกับจิตวิญญาณ"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 สิงหาคม 2007
  5. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    ใช่ๆ เดี๋ยวนี้ six sense คุณ Mead พัฒนาไปมาก (b-cap)
     
  6. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    download ความรู้จากความฝัน vs download-Live

    อ้างอิง:
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ MOUNTAIN
    ผมมีคำถามฉุกขึ้นมาในใจครับ อยากเรียนถามพี่นักเขียนว่า
    การสื่อความรู้ทางฝัน เพื่อให้ได้ความรู้นั้นมา กับการสื่อแบบประทับทรง ข้อมูลความรู้ที่ได้จะแตกต่างกันมากน้อยไหมครับ
    ขอขยายความคำตอบอีกนิดค่ะ คุณ Mountain
    ที่พี่นักเขียนบอกว่า "แม้จะมีสติสัมปชัญญะที่ควบคุมได้ แต่ก็เหมือนควบคุมไม่ได้ในส่วนที่ว่า หยุดพิมพ์หรือหยุดถ่ายทอดไม่ได้จนกว่าข้อมูลจะหลั่งไหลออกมาจนเพียงพอแล้ว" มันคือความรู้สึกที่ว่าเหมือนน้ำล้น ต้องปล่อยให้ล้นจนต้นน้ำหยุดไหลมาสู่ภาชนะที่ไม่พอใส่ และภาชนะในภาวะนั้นคือ สติสัมปชัญญะของเราเอง

    สิ่งที่แตกต่างกันระหว่างความฝัน กับ การรับถ่ายทอดสดๆ (Live from Kansas :) เวลาตอบคำถามอีกสาระหนึ่งก็คือ การเรียนรู้ของตัวเรา

    ในความฝัน เรียนรู้อย่างช้ดเจนระหว่างฝัน แต่ตื่นขึ้นมา พูดไม่ออก บอกไม่ถูก พอจด บอกได้เป็นหัวเรื่อง หรือ out line บวกเรื่องราวเป็นอุปมาอุปมัย บวกภาพและคำประหลาดๆที่ยังไม่เข้าใจดี แต่เมื่อนำมาพิมพ์หรือถอดความ ก็จะตกอยู่ในภาวะน้ำลัน เขียนได้ พิมพ์ได้ แปลงเป็นถ้อยคำได้ และเรียนรู้ ณ จุดนั้น เหมือนครูมาสอนให้ถอดสมการที่จดมาจากความฝัน และเป็นไปไม่รวดเร็วเท่าถ่ายทอดสด แต่ถอดความไปเรื่อย เหมือนเติมน้ำให้เต็มภาชนะไปเรื่อยๆ - flow ตลอด จะหยุดพักเมื่อไรก็ได้ จะทำต่อเมือไรก็ได้ แต่รู้กำหนดล่วงหน้าว่า ช่วงนี้จะเขียนกี่หน้า และข้อมูลทั้งหมดจะใช้เวลากี่วันเสร็จตั้งแต่ลงมือพิมพ์บรรทัดแรก ซึ่งใช้เวลา 9 วันบ้าง 17 วันบ้าง 33 วันบ้าง พอมีสมาธิพร้อมลงมือถอดสมการ ก็มีตัวรู้ผุดขึ้นมาทันทีว่า 9 วันเสร็จ เป็นต้น แม้จะไม่ได้กาปฏิทิน และตั้งหน้าทำลูกเดียว แต่เวลาที่ใช้จะตรงเป๋งตาม schedule ที่ผุดขึ้นมาทุกครั้ง

    ในยามตื่น ที่ตอบคำถามด้วยความรู้สึกว่า download มาตอบ เห็นคำถาม-ไม่มีคำตอบส่วนตัว-ถ้าเป็นนักเรียนแล้วถูกครูถาม ก็เหมือนเด็กไม่ได้ดูหนังสือไปสอบ-ว่างจ๋อย มีแต่อารมณ์รักและสงสารจับใจที่เอ่อขึ้นมา ขนหัวลุก(ซึกขวา-ซีกเดียว) แล้วก็มีตัวรู้เกิดขึ้น มีคำตอบผุดขึ้นมา และการเรียนรู้ของตนเองก็เกิดขึ้นพร้อมๆกันกับการรับ download คำตอบมาถ่ายทอด

    บางอย่าง หรือบางคำถามที่ได้รับในขณะนั้น เสมือนเคยได้ download file คำตอบมาจดไว้เป็นรหัสแล้วจากความฝัน แต่ยังไม่เคยถอดรหัส เพราะไม่มีใึครถามหรืออยากรู้ พอเจ้าของคำถามเขามาถาม ก็ตกเข้าภาวะถ่ายทอด Live อย่างที่ว่า

    9 ตุลาคม - คุณ Mead พูดถูกว่า เป็นรหัสส่วนตัวและความหมายส่วนตัวของคุณ Mountain จับอารมณ์แล้วขยายอารมณ์มาบอกกันหน่อย
    จับอารมณ์ได้ ก็จับจิตวิญญาณได้ เหมือนเห็นใบไม้ไหว ก็รู้เห็นลมและทิศทางของลมได้ชัดเจน
     
  7. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    ยังฝันถึงสมเด็จโตอยู่หรือเปล่า?

    เมื่อสมัยอยู่เมืองไทย ฝึกสมาธิและสอนสมาธิที่บ้าน นำสมเด็จโตมาตั้งเป็นองค์ประธานในห้องสมาธิ จะฝันเห็นครูบาอาจารย์ที่มาสอนและถ่ายทอดความรู้ให้เป็นองค์สมเด็จโตเสมอ ฝันถึงท่านติดต่อกันหลายปี จนฝันว่าท่านส่งมอบตัวพี่นักเขียนให้ครูบาอาจารย์อีกท่านหนึ่งที่เป็นลมกรรโชกรุนแรงมาจากทิศใต้ แล้วเราก็ไปกับท่าน

    มาทุกวันนี้ ฝันเห็นครูบาอาจารย์มาในรูปลักษณ์ของบุคลิกภาพจำเพาะอันหลากหลาย ไม่เป็นใครหรือบุคคลตัวตนเดียว แต่ซ้อนกันหลายบุคคล หลายตัวตน แล้วแต่ว่าสาระของข้อมูลความรู้ที่ท่านมาถ่ายทอดให้เกี่ยวกับอะไร และบ่อยครั้ง แม้รู้สึกถึงบุคลิกภาพซ้อน หรือรวมกันหลายๆคน-เป็นท่านอาจารย์อนาลัย
    แต่ก็ไม่ได้รู้เห็นท่านเป็นตัวตนที่เป็นกายภาพ มีแต่ความรู้สึกว่าท่านอยู่ตรงนั้น และเป็นภาวะที่ใหญ๋โต สว่างไสว หรือดังเหมือนฟ้าผ่า แต่ก็มีอารมณ์รักและเมตตา เวลาตัวเราพูดกับท่าน เรียกชือเล่นตัวเองกับท่านราวกับว่าเราเป็นลูกหลานท่านด้วยซ้ำไป

    พี่นักเขียนเชื่อว่า การที่ตัวเองเห็นครูบาอาจารย์เป็นสมเด็จโต ก็เพราะจิตเราจดจ่อกับท่าน เราเคารพบูชาท่าน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า จิตวิญญาณอันเป็นองค์ความรู้ที่มาถ่ายทอดให้คือ บุคคลที่ตายไปแล้วท่านนั้น-อันได้แก่สมเด็จโต

    หากพี่นักเขียนเป็นคนนับถือคริสต์ เชื่อว่า แทนที่จะฝันเห็นสมเด็จโต เราก็คงฝันเห็นพระเยซู นักบุญยอเซฟ หรือพระแม่มารี ฯลฯ ที่จิตของเราจดจ่อ เพราะจิตวิญญาณรวมคงไม่มาปรากฏให้เราเห็นในภาวะที่เราไม่รู้จัก เพราะจะทำให้การสื่อสารเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นการปรากฏของ บุคลิกภาพ-ของสมเด็จโต จึงเปรียบเสมือนการปรากฏของหมวดความรู้หมวดหนึ่ง ซึ่งเกี่ยวพันกับการฝึกปฏิบัติในทิศทางจำเพาะ

    ต่อเมื่อเรามีความเข้าใจได้มากขึ้นว่า จิตวิญญาณของครูบาอาจารย์ ไม่ได้เป็นใคร และไม่ใช่จิตวิญญาณเป็นหน่วยๆ ที่จากร่างแต่ละร่างมาทั้งดวง แต่กลายเป็นพลังงานที่รวมตัวกันกับพลังงานอื่นๆ หรือเรียกได้ว่ากลายเป็นจิตวิญญาณที่รวมตัวกับจิตวิญญาณอื่นๆ หรือเป็นข้อมูลความรู้และความทรงจำข้ามชาติภพที่รวมกันกับข้อมูลความรู้และความทรงจำข้ามชาติภพอื่นๆ ท่านก็ไม่ได้เป็นใคร แต่เป็นองค์ความรู้ ที่มีอารมณ์และความรู้สึกนึกคิดและบุคลิกภาพหลากหลาย

    แม้จิตวิญญาณจะเรียนรู้ได้อย่างไร้ขีดจำกัด แต่สมองทางกายภาพของเราก็มีข้อจำกัด ดังนั้นหากเราจะรับถ่ายทอดความรู้จากเบื้องบน หรือต้นกำเนิด เราก็จำเป็นต้องเอาจิตไปจดจ่อจำเพาะเรื่อง เหมือนการ download file จาก Internet หากเราจดจ่อสาระสำคัญบางอย่าง แล้ว search แต่เรื่องนั้นๆ ก็จะได้ความรู้มากมายที่ลึกซึ้ง แต่ถ้าหาก download ไปเรื่อยๆ เป็นโจรสลัดบ้าง :) เป็นนักร้องบ้าง :) ก็ได้ข้อมูลหลากหลายปนเปกัน ซึ่งก็ไม่ได้หมายความว่าเรา download ไม่ได้ แต่อาจ download ห้องสมุดมาทั้งห้อง แทนที่จะ download หนังสือมาเพียง 10 เล่ม series เดียวกันทั้งหมด

    พี่นักเขียนเชื่อว่า เราทุกคน download ข้อมูลความรู้กันอยู่ทุกเมื่อเชื่อคืน หากแต่ว่าบางคน download มามากมายเกินไปจนทำให้หาอะไรไม่พบ ไม่ใช่ว่า download มาน้อยเกินไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 สิงหาคม 2007
  8. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    ฝันอีกแล้ว

    ฝันว่ามีนัด และไปเฝ้าดูเลขาของท่านผู้หนึ่งกำลังทำงานอยู่อย่างสนุกสนาน รับโทรศัพท์และหัวเราะไปเรื่อยๆ ก็เข้าไปสนุกกับเขา โดยบอกให้เลขาฯ ผู้นั้นวิ่งไปรับโทรศัพท์อีกโต๊ะหนึ่ง ระหว่างที่กำลังสนุกกัน Big Boss ที่พี่นักเขียนนัดพบก็กลับเข้ามา

    พี่นักเขียนเข้าไป shake hand ด้วยความดีใจ รู้เห็นว่าท่าน Big Boss คือท่านอาจารย์อนาลัย แต่มาในบุคลิกภาพของศิลปินชื่อดัง ที่มีความสุภาพ ถ่อมตนมากๆ พอสัมผัสมือท่าน ก็หาตัวตนของท่านไม่พบ ตัวตนของตัวเองก็หาไม่พบ และได้ยินเสียงบอกว่า ไม่สำคัญว่า ใครเป็น Big Boss ของสำนักงานแห่งนี้

    ส่ิงที่สำคัญที่สุดคือการปกป้องแม่แมวสีขาวบริสุทธื์ ซึ่งเพิ่งออกลูกมาหลายตัว นับดู ได้ 7 ตัว อยู่ๆก็ไดิยินเสียง (คุณ Mead) ร้องบอกว่า "ไม่ใช่เจ็ดตัวครับพี่น้กเขียน มีทั้งหมด 9 ตัว" รู้สึกขอบคุณ คุณ Mead มากๆ ในความฝัน เพราะจะตกหล่นไม่ได้

    ห้องที่แม่แมวและลูกแมวสีขาวบริสุทธิ์อยู่กัน เป็นห้องกว้างขวางใหญ่โตมาก มีสุนัขวิ่งผ่านไปมา จนน่ากลัวจะเป็นอันตราย แม่แมวก็หอบลูกๆของมันไต่ขึ้นไปอาศัยอยู่บนผ้าม่าน

    เมื่อเห็นดังนั้น จึงตัดสินใจล้อมรั้วเตี้ยๆกันสุนัข โดยกั้นพื้นที่ไว้กว้างใหญ่ให้แม่แมวและลูกๆของมันวิ่งเล่นอย่างอิสระ พอเห็นทุกอย่างเป็นไปตามคาดหวัง ก็รู้สึกว่าได้ทำหน้าสำเร็จ ตื่นขึ้นมา ได้ความหมายคลุมเครือ อยากถามว่าลูกแมว 9 ตัวทำให้ คุณ Mead วิ๊งๆบ้างหรือเปล่า?
     
  9. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    อิสระแห่งความปรารถนา

    โลกยามตื่น เป็นโลกแห่งความเป็นจริงภายนอก-ภายใต้เครื่องพรางแห่งช่องว่าง-ระยะทางและกาลเวลา
    โลกแห่งความฝัน เป็นโลกแห่งความเป็นจริง อันปราศจากเครื่องพราง และเป็นโลกอันเป็นต้นกำเนิดของการสร้างโลกภายนอกและประสบการณ์ทั้งหลายในชีวิตของเรา

    จิตวิญญาณของเรามาถือกำเนิด เป็น ร่างกายเนื้อหนัง

    เรากลับไปเยี่ยมเยือนบ้านเก่าอันเป็นต้นกำเนิดที่จิตวิญญาณของเราเลือกที่จะจากมา เพื่อเติมเต็มช่องว่างแห่งประสบการณ์และคุณค่าชีิวิต ด้วยการเผชิญกับความท้าทายในโลกทางกายภาพ เพื่อแสวงหาประสบการณ์ และพัฒนาด้วยการเปลี่่ยนความเชื่อเป็นความรู้ ด้วยการใช้ความคิดสร้างสรรค์ และการแสดงออกซึ่งความเป็นเอกลักษณ์ของเราอย่างดีที่สุด

    เราไม่จำเป็นจะต้องโหยหาจิตวิญญาณของเรา และดำเนินชีวิตด้วยร่างกายเนื้อหนังแต่เพียงอย่างเดียว เพียงเพื่อรอคอยการกลับไปสู่ภาวะต้นกำเนิดอันเป็นจิตวิญญาณ เพราะเรากำลังเป็นจิตวิญญาณอยู่ทุกลมหายใจในปัจจุบันนี้-ทุกอนู และเราก็กลับไปเยี่ยมเยือนบ้านเก่าของเราอยู่ทุกเมื่อเชื่อคืนในความฝัน เราได้รับการสนับสนุนจากญาติมิตรทางจิตวิญญาณทั้งจากบ้านเก่าในโลกแห่งความฝัน และจากจิตวิญญาณทั้งหลายที่มาถือกำเนิดร่วมชาติภพ ร่วมมิติ ต่างชาติภพ-ต่างมิติ ในยามตื่น-ในโลกทางกายภาพ เมื่อเราเหงาเศร้าสร้อย ตัวตนในอนาคตชาติก็ปลอบประโลมเรา ให้มองเห็นความหวัง และตัวตนในอดีตก็สนับสนุนเราด้วยความรู้และประสบการณ์มากมาย เราจึงไม่ได้มาถือกำเนิดเป็นร่างกายเนื้อหนังอย่างโดดเดี่ยว ไร้การสนับสนุน

    จิตวิญญาณปรารถนาการเติมเต็มช่องว่างแห่งประสบการณ์ด้วยร่างกายของเรา-ร่างนี้ และวิถีชีวิตของเรา-เช่นนี้ จากมุมมองของเรา-มุมมองนี้ เพราะจิตวิญญาณเลือกที่จะพัฒนาด้วยสภาวะอันจำเพาะนี้

    ชีวิตทางกายภาพในร่างกายเนื้อหนัง จึงไม่ใช่ชีวิตที่เรามาดำเนินไปเพียงเพื่อจะรอวันตายและกลับคืนไปสู่ภาวะต้นกำเนิดอันเป็นจิตวิญญาณ หากแต่เป็นภาวะที่เราเลือก เพื่อมาเผชิญกับความท้าทาย-ใฝ่รู้ และสนเท่ห์ในการสรัางสรรค์ของตนเอง ด้วยการใช้พลังอำนาจของจิตวิญญาณในร่างมนุษย์-ในโลกมนุษย์อย่างร่าเริง-สนุกสนาน และด้วยการใช้อิสระแห่งความปรารถนาที่จะมีได้-เป็นได้-ทำได้-สมความปรารถนา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 05cover.jpg
      05cover.jpg
      ขนาดไฟล์:
      10.6 KB
      เปิดดู:
      72
  10. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    ความฝัน กับ ความเป็นเหตุ-เป็นผล

    --- Pranee Hansukjariya <hpranee@hotmail.com> wrote:
    >
    > เรียนคุณพี่นักเขียนที่เคารพ
    >
    > เมื่อคืนนี้ได้เปิดฟัง Audio book แล้ว
    > ขอพูดออกจากใจเลยว่า ดีมากทีเดียวค่ะ
    > ที่มีเสียงดนตรีเป็น background เป็นอย่างนั้นจริงๆ
    > คือรู้สึกว่าเราได้สัมผัสลึกเข้าไปถึงจิตวิญญาณภายใน
    > ไม่ได้อยู่แค่ประสาทหูและสมอง
    > เพราะเสียงเครื่องดนตรีบางชนิดเช่นเปียโน ไวโอลิน
    > เป็นอะไรที่ชอบฟังมากตั้งแต่เด็กๆเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
    > อ่านที่คุณพี่คุยถึงประสบการณ์เกี่ยวกับดนตรี
    > โดยเฉพาะที่คุณพี่มีโอกาสได้เรียนเปียโน
    > อ่านแล้วชอบจัง ยังคิดว่าคุณพี่ทำบุญเก่ามาดีจัง
    > แสนจะโชคดี
    > ครั้งหนึ่งน้องไปนั่งเล่นบ้านของเพื่อนซึ่งเป็นหลานสาวแท้ๆของท่าน
    > ก.สุรางคณางค์ เขาเล่นเพลงบ้านทรายทองให้ฟัง
    > โดยใช้เปียโนตัวเดียวกับที่คุณยายเล่นเมื่อครั้งประพันธ์เรื่องบ้านทรายทอง
    > ความไพเราะของเสียงเปียโนน่าจะทำให้เกิดแรงบันดาลในงานประพันธ์ของท่าน
    > น้องเล่นดนตรีไม่เป็นเพราะไม่มีโอกาสได้เรียน
    > แต่จะดื่มด่ำกับความไพเราะของเสียงดนตรี
    > โดยเฉพาะดนตรีคลาสสิก
    > เคยฟังธรรมะที่เขาหาคนอ่านเสียงดีๆ เช่นของคุณดังตฤณ
    > คนอ่านเสียงดีทั้งน้ำเสียงและจังหวะการอ่าน
    > ถ้าเขามีดนตรีเป็น background ก็จะดีไม่น้อย
    > เพราะจะดึงจิตคนฟังให้จดจ่อกระแสเสียงธรรมะทีมาพร้อมกับเสียงแทรกของดนตรี
    > มีอีกอย่างที่รายงาน
    > คือวันนี้ได้อ่านหนังสือตามวิธีที่คุณพี่แนะ
    > ได้ผลเลยคือไม่ง่วง แล้วยังเข้าใจดีขึ้นด้วย
    > คือตั้งสมาธิ อ่านช้าๆ
    > ค่อยๆรับสัมผัสเข้าไปภายใน(บรรยายเป็นภาษาพูดยากแฮะ
    > คือเหมือนกับว่าในความเข้าใจนั้นมีจินตภาพเกิดตามไปด้วย)
    >
    > มีคำถามอย่างหนึ่งเกี่ยวกับ
    > ความฝันอยากเรียนถาม คือ
    > หากในความฝันที่เราจดจำได้แม่นยำ
    > โดยเฉพาะจำได้ถึงความคิดที่เกิดขึ้นในฝันนั้นแสดงว่าสติของเราในการหลับเริ่มดีขึ้นหรือเปล่าคะ
    > ขอยกตัวอย่างว่า
    > คืนหนึ่งฝันว่าเดินไปซื้อปาท่องโก๋ถุงใหญ่
    > ขากลับเดินผ่านรถเข็นขายกาแฟ
    > คนขายกำลังขายให้ลูกค้าร้านคนหนึ่ง
    > ได้ยินเสียงเด็กลูกจ้างเอ่ยบอกลูกค้าซื้อกาแฟว่า
    > วันนี้ปาท่องโก๋หมดแล้ว น้องก็หยุดชะงัก
    > แล้วคิดว่าเราไปซื้อปาท่องโก๋จนหมด เขาเลยไม่มีทาน
    > ควรที่เราจะแบ่งของเราให้เขาบ้าง
    > ก็เลยยื่นถุงปาท่องโก๋ให้ลูกค้าร้านกาแฟแบ่งให้เขา
    > พอตื่นนอนก็แปลกใจว่า ตัวเราคิดได้อย่างไรนะ
    > คือหมายถึงว่าคิดเป็นเหตุเป็นผลด้วยในความฝัน
    >
    > รบกวนเวลาคุณพี่แค่นี้ก่อนนะคะ
    > ตอนนี้น้องอ่านหนังสือของท่านอาจารย์อนาลัยแล้วมีความสุขกว่าแต่ก่อนมาก
    > เพราะเริ่มเข้าใจดีขึ้น
    > ถึงอย่างไรก็ตั้งเป้าไว้แล้วว่าจะอ่านอย่างละเอียดทุกเล่มทุกตอนและทุกบรรทัด
    >
    > ขอขอบคุณพี่อีกครั้งนะคะ
    >
    > ปราณี

    คุณน้อง(ผู้)ปราณี(สมชื่อ)
    ดีใจจังคะที่คำแนะนำที่ให้ไป-ใช้ได้ผล ขออนุญาตเอาจดหมายไปลงที่ blog พลังิจิต ให้เพื่อนๆได้ทดลองบ้าง จะได้เป็นกำลังใจกัน

    ขอบคุณที่สละเวลาไปฟัง และอธิบายให้ทราบว่าที่ว่าฟังได้ผลนั้น ผู้ฟังรู้สึกและมีเหตุผล มีความประทับใจ หรือมีความชอบอย่างไรเป็นพื้นฐาน เป็นกำลังใจให้ทำต่อให้เสร็จสมบูรณ์ และจะได้สนองความต้องการของผู้ฟังได้ถูกค่ะ

    ความฝันเป็นภาวะที่จิตวิญญาณทำงานได้ตามธรรมชาติ คือมีสติสัมปชัญญะคมชัด รู้เห็นนอกเหนือกฏเกณฑ์ของช่องว่าง-ระยะทางและกาลเวลาค่ะ เรามักคิดว่าในความฝัน เราจะมีความสามารถหรือความเป็นเหตุเป็นผลต่ำกว่ายามตื่น เพราะเราไม่ได้ให้เครดิตมัน แต่โลกแห่งความฝันก็เป็นโลกที่มีความเป็นจริงไม่น้อยไปกว่าโลกยามตื่น และมีความเป็นจริงยิ่งกว่าด้วยซ้ำไป เพราะมันเป็นความเป็นจริงหลากมิติ แต่โลกยามตื่นเป็นความเป็นจริงเพียงมิติเดียว

    การมีสติรู้เห็น-เป็นเหตุเป็นผลในความฝัน เป็นผลของการนำเอาสติสัมปชัญญะยามตื่นติดตามเข้าไปในโลกแห่งความฝัน บางขณะเราจะมองเห็นภาวะของสติสัมปชัญญะที่แยกเป็นสองส่วน หรือรู้สึกเสมือนว่า เรามีสองร่าง สองตัวตน สองสมอง หรือมีความจำสองชุด ซึงเป็นภาวะที่สติสัมปชัญญะของตัวตนภายนอก-ดือตัวตนทางกายภาพ เผชิญกับอีกส่วนหนึ่งของมันคือ สติสัมปชัญญะของตัวตนภายใน-คือตัวตนอันเป็นจินตภาพในความฝัน ภาวะดังกล่าวนี้สติสัมปชัญญะยังทำงานเสมือนแยกส่วน คือส่วนหนึ่งของตัวตนภายนอก อีกส่วนหนึ่งของตัวตนภายใน

    บางครั้งเราก็เผชิญกับภาวะที่รู้เห็นสองตัวตนก่อน โดยเห็นตัวตนอีกตัวตนเป็นคนอื่น แต่แล้วมันก็รวมกันเป็นหนึ่ง หรือแยกไม่ออกว่า ตัวตนใดคือเรา-เขา ภาวะดังกล่าวเป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติเสมอๆ

    เมื่อจิตวิญญาณเปลี่ยนวิถีการจดจ่อด้วยสติสัมปชัญญะ จากตัวตนภายนอกไปสู่ตัวตนภายในอันเป็นจินตภาพได้อย่างคมชัดมากขึ้น ตัวตนภายในปราศจากการเป็นบุคคลอย่างโดดเดี่ยว มันจึงทำให้เราแยกไม่ออกว่าตัวตนใดคือเรา-เขา และบางครั้งเราจะพบการแปลงสภาพ คือเริ่มความฝันด้วยการเป็นบุคคลตัวตนหนึ่งๆ แล้วพอความฝันดำเนินไป ตัวตนนั้นๆก็แปลรูปกายเป็นบุคคลอื่นไป

    ความฝันสะท้อนให้เห็นภาวะจิต การเป็นเหตุ-เป็นผลในความฝันบางทีก็ไม่ใช่สิ่งที่เป็นความรู้เสมอไป มันอาจเป็นเพียงความเชื่อว่าตามขนบธรรมเนียมบ้าง ตามวัฒนธรรมหรือสังคม

    ภาวะที่คุณน้องปราณีเรียกว่า เหตุผล ในความฝันนี้ น่าจะเรียกว่า เป็นอารมณ์อันสุนทรีย์มากกว่า เพราะมันแสดงถึงความอ่อนไหว แสดงถึงภาวะจิตที่มีความเอื้อเฟื้อ

    พี่นักเขียนชอบทานปาท่องโก๋มากๆ หากฝันเป็นคุณน้องปราณีในสถานการณ์นี้ มีหวังกอดปาท่องโก๋ถุงสุดท่าย-วิ่งเช้ิดอย่างพร้อมใจกัน-ทั้งตัวตนภายใน-ภายนอก !!!
     
  11. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    Audio Books update

    เช้านี้ Upload Audio Books เพิ่มเติมให้ตามสัญญา จากหนังสือ
    โนวา อนาลัย ขยายความ ธรรมชาติของชาติภพ
    บทที่ 1 โนวา อนาลัย ขยายความ-ธรรมชาติของชาติภพ
    บทที่ 2 แสวงหาผู้รู้-ผู้ตอบคำถาม
    บทที่ 3 เธอคืออะไร
    ใครอ่านแล้วเข้าใจยาก ไปฟังกันหน่อยค่ะ
    http://www.novaanalai.com/novaanalai/Podcast/Podcast.html
     
  12. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    ผมพบแล้วครับพี่นักเขียน
    9 ตุลาคม มันเป็นรหัสและมีความหมายส่วนตัวของผมจริงๆ
    ผมนั่งจับอารมณ์ พยายามปล่อยวางความคิด นึกแต่คำว่า
    9 ตุลาคม มีความหมายต่อข้าพเจ้าอย่างไร

    เหมือนเราป้อนข้อมูลลงใน Google ต้องใช้เวลาเล็กน้อย
    มีบางอย่างเกิดขึ้นมาให้เลือก แต่ดูแล้วไม่กระทบอารมณ์
    สักพัก ก็เกิด ความรู้สึกว่า 9 เดือน 10
    9 + 10 = 19

    เท่านั้นแหละครับ ผมปล่อยโฮ ออกมาเลย มันกลั้นไม่อยู่จริงๆ(cry)
    เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้เองครับ......ใช่จริงๆ มันมีความหมายกับผมมาก
    ผมไม่มีวันลืม

    ขอบคุณพี่นักเดินทาง และคุณ mead ที่ให้ไกด์ คำว่า เดือน 10 มากๆครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 สิงหาคม 2007
  13. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    พี่เม้าส์ของเราพบคำตอบแล้ว..ว่าแต่เกี่ยวอะไรบอกได้มั๊ยครับ
    ทำไมถึงกับน้ำตาซึม..เกี่ยวกับแม่ หรือครอบครัวใช่มั๊ยพี่..

    (cry)(cry)(cry)
     
  14. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    คุณนักเขียน พูดแล้วขนลุกเหมือนกันครับ
    2คืนก่อน ดูตัวอย่างละครเวทีเรื่อง The Cats ทางทีวีรู้สึกประทับใจครับ
    ทำให้คืนนั้นฝันเห็นแต่เรื่องแมวๆ ในฝันฝันเห็นแมว 2 ตัวอยู่ในบ้านสีขาวๆ สักพักเหมือนกับว่าตัวเองมองผ่านสายตาของแมวออกไปนอกถนน มองเห็นดวงจันทร์ เห็นรั้วบ้าน และรู้สึกอยากออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกมากๆ เดินไปที่ประตูเพื่อจะเปิดออกครับ - ก็ไม่ได้คิดอะไรกับฝันนี้ เกือบลืมไปเหมือนกัน ถ้าคุณนักเขียนไม่ทักขึ้นมาครับ
    และเหตุการณ์จริงเกิดที่บ้าน - ก็เพิ่งมีลูกสุนัขอีกเกิดใหม่ 5 ตัว (ตายไป 2 เพราะน้ำท่วมปอด เกิดมาตอนฝนตนหนัก แม่เค้าไปขุดหลุม-น้ำลงไปขัง ช่วยไม่ทันครับ)..ตอนนี้ลูกสุนัขที่รอดมาก็โตได้เดือนนึงแล้วครับ แต่ก็สงสารเจ้า 2 ตัวนั้นมาก

    ตัวเลขนี่จะเกี่ยวข้องกันยังไงก็ไม่ทราบครับ..แต่ฝันเห็นเรื่องแมวๆกับเรื่องลูกสุนัขเกิดใหม่ด้วย แปลกจริงๆครับ! ความคิดอ่านต่างๆในแม่น้ำของความฝันของแต่ละคนนี่คงไม่มีความลับ..ยิ่งถ้าได้รู้จักกันด้วย แบบนี้เราก็ serch ข้อมูลใครก็เห็นกันหมดสิครับ..ถึงจะตีความในสัญลักษณ์ไม่เก่ง แต่ถ้าใกล้เคียงก็ถือว่าน่าทึ่งแล้วนะครับ _พิสูจน์ได้ว่าความฝันมีการเชื่อมถึงกันได้จริง เรื่องนี่คงเป็นตัวอย่างของเครือข่ายจิตวิญญาณต่างร่าง แต่ร่วมวัตถุประสงค์ ใช่มั๊ยครับหวังว่าคงเข้าใจถูกนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 สิงหาคม 2007
  15. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    พูดแล้วก็ยังระลึกถึงไม่รู้ลืม
    เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับครอบครัวทางภรรยาผมครับ
    ทั้งพ่อตาและแม่ยาย ท่านทั้งสองเป็นคนดีมาก
    ตอนพ่อตาป่วยราวปี 2534 ด้วยโรคไตวาย
    ผมได้รับความช่วยเหลือจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ผูกพันกับเลข 19
    ช่วยประคองรักษาพ่อตามาด้วยดีโดยตลอด เป็นที่น่าอัศจรรย์

    แล้วต่อมาหลังจากพ่อตาเสียประมาณปี 2539
    แม่ยายก็มาป่วยด้วยโรคไตวาย อีกคน เมื่อปี2543
    ได้พึ่งบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่เกี่ยวข้องกับเลข 19 อีกเช่นกัน
    ประคองรักษาไปจนกระทั่งท่านเสียชีวิตเมื่อปี 2548

    สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับเลข 19 คือ

    เสด็จเตี่ย กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ที่ผมเคารพนับถือมาก
    พระองค์ท่านประสูติ 19 ธันวาคม
    เสด็จสู่สวรรคาลัย 19 พฤษภาคม

    และเลข 19 คือเลขประจำพระองค์
     
  16. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    ในที่สุดก็ค้นพบความหมายแล้วนะครับ
    ที่แท้เป็นเรื่องของความผูกพันกับท่านกรมหลวงชุมพรฯ
    ที่ปกปักษ์รักษาคนที่รักในครอบครัวของพี่มาตลอด
    ถึงว่านะครับทำให้พี่เม้าส์น้ำตาซึม ซาบซึ้งใจกับพี่เม้าด้วยครับ
    คุณพี่นักเขียนคงพยายามหัดให้เราดึงเอาจินตนาการออกมาใช้กันได้คล่องๆน่ะครับ
    ด้วยเทคนิคการเรียนรู้แบบนี้ล่ะ วันหน้าจะได้สำรวจในรายละเอียดกันมากขึ้น
    ต้องขอบคุณมา ณ.โอกาสนี้ด้วยครับ สนุกทีเดียวครับ+++

    (bb-flower
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 สิงหาคม 2007
  17. fidgi

    fidgi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +184
    ความงมงายกับความลังเลสงสัย

    เรียนถามพี่นักเขียนค่ะ..

    [​IMG]ทราบมาว่าศัตรูตัวฉกาจที่เป็นอุปสรรคที่ทำให้ไม่เข้าใจและไม่ก้าวหน้าในการฝึก หรือศึกษาเรื่องซับซ้อนแบบนี้ คือความงมงายและความลังเลสงสัย.....ทีนี้เราจะขจัด หรือเปลี่ยนความลังเลสงสัยให้เป็นความศรัทธาได้อย่างไรคะ แล้วศรัทธาอย่างไรถึงจะไม่ดูงมงาย...ทั้งๆ ที่เรื่องมันได้เกิดขึ้นไปแล้ว รับรู้และเห็นแล้วว่าเป็นจริงก็ควรจะเกิดเป็นศรัทธา แต่มันกลับเกิดเป็นความลังเลสงสัยแทนที่ เราจะมีวิธีคิดที่จะเปลี่ยนได้อย่างไรคะ...ขอบคุณค่ะ..
     
  18. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    เธอทั้งหลายไม่ใช่มนุษย์ผู้ใฝ่หาประสบการณ์
    ในมิติของจิตวิญญาณ
    แต่เธอคือจิตวิญญาณผู้มาหาประสบการณ์
    ในมิติมนุษย์

    *******

    ชอบความหมายประโยคนี้มาก
    อ่านแล้วมุมมองจะเปลี่ยนไปอีกแบบ
     
  19. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    เธอทั้งหลายไม่ได้ตกเป็นเหยื่อของโรคร้ายหรือได้รับไวรัส
    แต่ความรู้สึกนึกคิดและความเชื่อของเธอ
    เหนี่ยวนำให้ร่างกายของเธอเจ็บป่วย

    (จาก จิตวิญญาณประสานกาย หน้า 13)

     
  20. ต้นTKenji

    ต้นTKenji เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +683
    ขอให้ทุกๆ ท่านมี สุขนะครับ มีอายุยืนยาว

    แต่ทำไมผมกับ ป่วย สะเอง อะ งง
    [bw-cry]
     

แชร์หน้านี้

Loading...