เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ กุญแจไขปริศนา
วันนี้จะเอาเรื่องการฝึกเวลาแห่งจิตมาให้คนอื่นอ่านกัน เผื่อจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นนะครับ
ท่านอาจารย์โนวา อนาลัย กล่าวไว้ว่า


หากเธอฝึกฝนใช้ “เวลาแห่งจิต” อย่างสม่ำเสมอ เธอจะมีความตื่นตัวต่อข้อมูลที่หลั่งไหลมาสู่ประสาทสัมผัสภายในอยู่เสมอ เธอจะสามารถรับ-ตอบสนองและควบคุมปริมาณของข้อมูลเหล่านั้นได้มากขึ้นเรื่อยๆ (จากหนังสือความฝันกับวิถีแห่งจิตวิญญาณหน้า 64-65)


ซึ่งในบทที่ 4 เรื่องประสาทสัมผัสภายใน ท่านอาจารย์โนวา อนาลัยบอกไว้ว่าถ้าฝึกใช้ประสาทสัมผัสภายในชนิดนี้จะทำให้ ประสาทสัมผัสภายในชนิดอื่นๆสามารถทำงานได้ง่ายขึ้นอย่างเป็นอัตโนมัติ ซึ่งประโยชน์ของประสาทสัมผัสภายในชนิดนี้ก็คือทำให้รับข้อมูลต่างๆได้มากขึ้นนั่นเอง


ท่านอาจารย์โนวา อนาลัยได้แนะนำวิธีฝึกไว้ว่า การฝึกฝนใช้ “เวลาแห่งจิต” เธอเริ่มต้นได้ด้วยการละการจดจ่อเอาใจใส่ต่อโลกภายนอกทั้งห้าเพียงวันละไม่กี่นาที (หนังสือความฝันกับวิถีแห่งจิตวิญญาณ หน้า 66)

<O</O
ดังนั้นผมจึงเริ่มฝึกด้วยการหลับตาอยู่ในความสงบสักพักหนึ่ง แล้วจินตนาการว่าผมเป็นอิสระจากเวลาในโลกทางกายภาพ ขอให้ผมได้เวลามากมายในเวลาแห่งจิตขณะที่ผมหลับตานี้ และเลิกคิดถึงเวลาในนาฬิกายามตื่นซะ และผมก็ไม่คิดอะไรทั้งสิ้น และเฝ้ามองดูความคิดที่มันผุดขึ้นมาเอง จากนั้นความคิดจำนวนมากมายก็ผุดขึ้นมาและได้ยินเสียงภายในเคลื่อนที่ด้วยข้อความจำนวนมากแต่ในตอนฝึกแรกๆผมจับข้อความนั้นได้ไม่มากเท่าไหร่แต่ก็ถือว่าได้ยิน
อะไรมากขึ้นกว่าแต่ก่อน
และได้ยินอยู่คำนึงที่สะกิดใจผม “หายขาดจากความเจ็บปวด”


ซึ่งในคืนนั้นที่ผมฝึก ผมฝึกเพียงแค่การหลับตาอยู่ในความสงบเพียงสองถึงสามรอบ รอบละนาทีสองนาที ซึ่งผลที่ฝึกได้ก็คือช่วงเวลาที่ผมหลับตาพร้อมกับจินตนาการว่าจะจำข้อมูลในสติสัมปชัญญะได้มากขึ้นและลืมเวลาในนาฬิกายามตื่นซะ ในจินตนาการมันเหมือนกับว่าผมหลับอยู่ในความสงบนั้นนานกว่า
นาทีสองนาทีในแต่ละครั้ง และก่อนนอนผมก็หลับตาแล้วจินตนาการอีกครั้งให้ผมเป็นอิสระจากเวลาของโลกทางกายภาพ และให้เลิกนึกถึงเวลาในนาฬิกาซะ ผลที่ได้ก็คือ ผมสามารถตามสติและเห็นข้อความต่างๆช่วงที่กำลังอยู่ในกึ่ง
หลับกึ่งตื่นได้มากและรู้สึกตื่นตัวที่จะจำ ซึ่งก่อนฝึกเวลาแห่งจิตนี้จะต่างกันมากคือผมมองเห็นแต่สติสัมปชัญญะผมไม่ตื่นตัวมากขนาดนี้และไม่สามารถจำได้เยอะ และผลที่ได้ก็คือการนอนสั้นๆในตอนนั้นเมื่อผมตื่นขึ้นก็รู้สึกอย่างสดชื่นมากกว่าก่อนที่จะฝึกสติสัมปชัญญะชุดนี้ ดังนั้นเวลาว่างๆไม่มีอะไรทำผมก็จะนั่งหลับตาอยู่ในความสงบเพียงนาทีสองนาทีเท่านั้น แต่ผลที่ได้คือผมจำความฝันและตื่นตัวในความฝันและเห็นข้อมูลในความฝันได้มากขึ้น ถ้ายังไงก็ลองทำดูกันนะครับ เพราะประโยชน์ของการฝึกใช้เวลาแห่งจิตคือ จะทำให้มองเห็นข้อมูลจากในฝัน ในภวังค์และที่อยู่ๆก็ผุดขึ้นมาในแต่ละวันได้ในจำนวนมากขึ้นไปเรื่อยๆ แล้วก็ยังทำให้สดชื่นมากกว่าเก่ายามตื่นมาซะอีก<O</O



</TD></TR></TBODY></TABLE>
วิธีฝึกใช้"เวลาแห่งจิต"ที่คุณกุณแจนำมาให้อ่านมีประโยชน์ดีมากครับ
เราจะเห็นว่าปรากฎการณ์ต่างๆไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ดาเจวู ความคิดปิ๊งแว่ป การมองเห็นเสียงหรือได้ยินแสง ความรู้สึกต่อเวลาที่เพิ่มขึ้นหรือสั้นลง การถ่ายทอดข้อมูลต่างมิติระหว่างชาติภพ ไปจนถึงการเกิด-ดับ ล้วนเกี่ยวข้องกับเวลาทางจิตโดยตรงเลยครับ

หากเราสมมุติว่าเวลาทางจิตนั้นมีค่าเท่ากับ 1หรือ 0
ค่าเวลาของมิติอื่นๆ ก็อาจถูกขยายหรือบีบอัดย่อลงไปในแต่ละมิติ
เกิดอัตราความเร่งของระยะทางและช่องว่างที่แตกต่างกันไปได้อีกมากมายครับ
เวลาของโลก นั้นมีประโยชน์ตรงที่ทำให้การสร้างสรรค์นั้นดำรงอยู่และเป็นไปได้
ส่วนเวลาแห่งจิตวิญญาณ นั้นก็เป็นเบื้องหลังของทุกๆปรากฎการณ์ครับ

วันนี้เลยทำภาพประกอบมาสองรูป...
เพื่อทำความเข้าใจและขยายความเรื่องเวลาให้กระจ่างยิ่งขึ้นอีกหน่อยครับ




เวลาทางโลก (เท่าที่นึกได้)
-มีขนาด-ความจำ-ความจุ เกิดกาลเวลา
-ดำเนินไปเป็นเส้นตรงจาก 1-2-3-4----ไปเรื่อยๆ มีอดีต-ปัจจุบัน-อนาคต
-ข้อมูลทางกายภาพบางส่วนถูกบันทึกในรูปแบบรหัส ของอดีต
-เมื่อมีเวลาเป็นตัวกำหนด การเกิด-ดับจึงมีรอยต่อ...
-มีตัวตนทางกายภาพ รหัสทางประสบการณ์ที่รับรู้ด้วยประสาทสัมผัสทั้ง 5
-มีขีดจำกัดอยู่ในเครื่องพราง ทำให้สามารถรู้จริงได้เพียงโลกสามมิติ
-อื่นๆ (มาช่วยกันนึกครับ)


เวลาทางจิตวิญญาณ (รับรู้ด้วยประสาทสัมผัสที่ 6)
-ขับเคลื่อนด้วย หน่วยของประจุไฟฟ้า
สามารถแบ่งแยกแตกตัวออกไปได้ตามการขับเคลื่อนของความรู้สึกนึกคิดและอารมณ์
-อยู่เหนือกฎเกณฑ์ของ ระยะทางช่องว่างและกาลเวลา
-มีแต่ความเป็นปัจจุบัน สามารถรู้แจ้งในโลกอันหลากหลายมิติ
-อื่นๆ ...




นำข้อความโดนใจจากหนังสือธรรมชาติของชาติภพมาฝากด้วยครับ

"..ตัวละครแต่ละหน่วยจะมีการประสานงานกัน เมื่อนักแสดงเหล่านี้รับบทบาท เขาจะต้องรู้แจ้งถึงบทบาทของเขาในสภาวะแห่งความเป็นสามมิติ บุคลิกภาพต่างมิติของเขาไม่สามารถแสดงบทบาทในโลกสามมิติได้ จนกว่าเขาจะทำให้จิตวิญญาณแปลสภาพเป็นวัตถุธาตุขึ้นได้ในโลกสามมิตินั้น

โลกสามมิติเป็นแหล่งที่นักแสดงสามารถนำความคิดสร้างสรรค์มาแสดงให้ปรากฎต่อสายตาได้ด้วยการขับเคลื่อนบุคลิกภาพต่างมิติของเขา ออกมาสู่การแสดงออกอีกระดับหนึ่งของเขาคือ "การรู้แจ้งในโลกสามมิติ" และเขาสามารถช่วยเหลือนักแสดงอื่นๆได้..."

"...เมื่อเธอยอมให้สัญชาติญาณและความรู้เกี่ยวกับบุคลิกภาพต่างมิติของเธอหลั่งไหลมาสู่สติสัมปชัญญะ เธอไม่เพียงแต่เล่นบทบาทชีวิตของเธอได้ดียิ่งขึ้น แต่เธอจะมีพลังใหม่ๆเพิ่มขึ้น มีความเข้าใจถ่องแท้และมีความคิดสร้างสรรค์สูงขึ้นในทุกๆมิติ..."

 

นานแล้วเหมือนกันนะที่ไม่ได้ยกเอาประโยคในหนังสือมาพูดคุยกัน
คุณเซลล์ครับ เรื่องที่ว่ามาถึงความหมายของ 3 เรื่องนี้
1.จิตวิญญาณต่างร่าง แต่ร่วมมิติในอดีต-อนาคตชาติ
2.จิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์ ในปัจจุบันชาติ
3.จิตวิญญาณ (เสมือน) ร่วมร่างแต่ต่างมิติในอดีต-ปัจจุบัน-อนาคตชาติ

อันนี้ตามความเข้าใจของตัวเองนะ
1.จิตวิญญาณต่างร่าง แต่ร่วมมิติในอดีต-อนาคตชาติ ก็คือจิตวิญญาณของบุคคลต่างๆ ที่ร่วมเกิดกับเราในอดีตในอนาคต

2.จิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์ ในปัจจุบันชาติ อันนี้ก็คือจิตวิญญาณของคนรอบๆ ตัวเราในปัจจุบันที่มีวัตถุประสงค์ในปัจจุบันชาติเหมือนกัน

3.จิตวิญญาณ (เสมือน) ร่วมร่างแต่ต่างมิติในอดีต-ปัจจุบัน-อนาคตชาติ อันนี้เป็นจิตวิญญาณของเราเองในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต แต่ที่มีวงเล็บคำว่าเสมือนเพราะว่า จิตวิญญาณในอดีต ในอนาคตของเรามันก็มีเปลี่ยนแปลงไปได้ ตัวตนของเราอาจจะไม่เหมือนตัวตนในอดีตก็ได้ เคยไหมเมื่อเจอใครแล้วจำแทบไม่ได้เลยเพราะว่าเปลี่ยนไปจากแต่ก่อนเยอะมาก เช่นกันตัวเราในอนาคตก็มีสิทธิเปลี่ยนไปแบบนั้นได้เหมือนกัน

 

โห...
ใครเป็นใครบ้าง เขียนอะไรกันบ้าง
ไม่รู้จะอ้างอิง ใครดี...ประเด็นไหนดี
น่าคุยทั้งนั้นเลย....อิอิอิ

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 32 คน ( เป็นสมาชิก 4 คน และ บุคคลทั่วไป 28 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER>[ แนะนำเรื่องเด่น ] </CENTER></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>kindred* ?... ?... ?...</TD></TR></TBODY></TABLE>
` `หวัดดี...นินๆๆๆๆ...อิอิ

 

1.จิตวิญญาณต่างร่าง แต่ร่วมมิติในอดีต-อนาคตชาติ
2.จิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์ ในปัจจุบันชาติ
3.จิตวิญญาณ (เสมือน) ร่วมร่างแต่ต่างมิติในอดีต-ปัจจุบัน-อนาคตชาติ

ดีนะครับคุณเซลล์ คุณซิปฯ ที่เอาเรื่องนี้มาทบทวน..บางทีก็เลือนๆไปเหมือนกัน (อิอิ)
พี่นักเขียนบอกเพิ่มเติมมาด้วยครับว่า ฐานข้อมูลจาก 3 แหล่งนั้นเป็นระบบเปิดจากทุกๆภพชาติและทุกๆมิติด้วย ตัวเราก็เหมือนเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นที่ทำงานร่วมกันเป็นวงดุริยางค์ ที่สื่อสารกันอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ เครื่องดนตรีแต่ละชิ้นก็ต่างบรรเลงและแสดงออกถึงความสนุกสนาน ถึงชัยชนะหรือความพ่ายแพ้ ความรัก-ความเกลียด ความสุข-ความเศร้าโศก ฯ อันเป็นศิลปะของชีวิตที่ประสานกันอยู่เสมอครับ

ถ้าจะให้เกิดประโยชน์จากเรื่องนี้ ก็เมื่อเรารับข้อมูลมาจากความฝันหรือจากประสบการณ์ใดๆก็ตาม เราควรติดตามความคิดไปด้วยนะครับ (การดูจิต) จะช่วยให้เรารู้ว่าในขณะนี้เรากำลังเพ่งจดจ่อไปในทิศทางใด? และการใช้ชีวิต หากเราปล่อยให้อารมณ์เข้ามาผลักดันไปโดยขาดการวางแผนและขาดเจตนาล่ะก็ บางครั้งมันก็สร้างสรรค์ แต่บางครั้งมันก็ทำลายล้างได้โดยไม่รู้ตัว แล้วเรามักโทษโชคชะตาอยู่บ่อยๆ..ทั้งๆที่มันเกิดจากการเผลอสติของเราเองนะครับ

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>

นินจาอีกสองท่าน..จะซ่อนตัวอยู่ใย ?
ท่านมะเดรด ถามหาแล้วคับ...555

 

เห็นแล้วใช่ไหม ขั้อความข้างบนนี้ยืนยืนได้ว่า ข้อความและ ช้อมูลที่จินตวดีรับอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน เป็นการได้รับข้อมูลจากช่วงเวลาแห่งจิต ซึ่งเป็นช่องว่างที่ปราศจากระยะทางและการเวลา ทำให้การถ่ายทอดข้อมูลระหว่างทุกตัวตนเป็นไปได้

คุณทำได้ ถ้าคุณมีความเชื่อมั่นพอ

 

ขอบคุณครับคุณ zip เข้าใจขึ้นเยอะเลย
ตอนแรกยังงงๆ กับ คำว่าจิตวิญญาณต่างร่าง แต่ร่วมมิติในอดีต-อนาคตชาติ
แล้วอย่าง พี่นักเขียน กับ นีล จะจัดอยู่ในข้อไหนครับ
รับสื่อมาจากจักรวาลเหมือนกัน ความหมายที่จะสื่อเหมือนกัน แต่ต่างกันที่ตัวอักษร เพื่อให้จิตวิญญาณที่ต่างที่ ต่างภาษา ต่างวัฒนธรรม เข้าใจได้

​

เอารูปภาพมาช่วยประกอบครับ คุณ mead

อุปมาอุปมัย เหมือนเราเป็นลูกแก้วทั้งลูก

ภายในลูกแก้ว ที่มีซ้อนกันเป็นชั้นๆ ตามระดับความสั่นสะเทือน
แทน มิติต่างๆ

พอมองเข้าไปในลูกแก้ว ก็จะเห็นทะลุเข้าไปเป็นชั้นๆเข้าไป

จนมองเข้าไปสู่ใจกลางลูกแก้ว แล้วก็กลับกลายมาเป็นลูกแก้วอีก

ลูกแก้วก็คือลูกแก้ว พอมองอีกทีกลับไม่ใช่ลูกแก้ว มองต่อไปอีกก็กลับเป็นลูกแก้ว อิอิ..

การมองผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 ก็เหมือนเราเลือกมองเฉพาะมิติใด มิติหนึ่ง

เราเลยยังไม่ได้ใช้ สิ่งที่เรามี ซึ่งคือ ลูกแก้วทั้งหมด

ออกทะเลแว๊ว...

(เห็นหัวข้อของคุณ mead เลยนึกถึงความฝันที่เพิ่งผ่านมาครับ ฝันว่า ไปกับเพื่อน และเค้าบอกว่า มีของจะใช้ เค้าพาไปยืนอยู่หน้าหิ้งพระ เราก็เห็นว่า ของๆเรา วางอยู่ กำลังเอื้อมมือจะหยิบ แต่มีคนอื่นมาหยิบไปก่อน ในใจก็นึกเสียดาย ที่หยิบไม่ทัน เพื่อนก็บอกว่า ไม่เป็นไรหรอก มีเก็บไว้ให้เพียบ แล้วก็ยกพระพุทธรูปขึ้น ภายในมีลูกแก้วอยู่หลายลูก ก็เลยหยิบมาลูกนึง และก็มองเข้าไปในลูกแก้ว เห็นรูปทรงสี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม วงกลม รูปทรงเรขาคณิตอื่นๆ ซ้อนกันเป็นชั้นๆ ลึกลงไปเรื่อยๆ และชั้นต่อมา ก็เป็นท้องฟ้าสีใสๆ มองเข้าไปอีก เห็นเป็นแสงสว่างสีขาว ในฝัน รู้สึกปวดหน้าผากมาก ก็เลยเลิกดู ยังคิดอยู่ในฝันว่า ลูกแก้วนี้มันคืออะไร แล้วให้เอาไปทำอะไร แต่มองเข้าไปก็สนุกดี แล้วเรามองอย่างนี้ได้ด้วยเหรอ งั้นเดี๋ยวเก็บไปฝากเพื่อนๆหน่อยดีกว่า (ยังไม่รู้ว่าฝันไป อิอิ))

 

เอาอันนี้ก่อนละกัน
...เป็นคอนเซปท์ เนื้อหาในหนังสือ ที่สุดแสนจะงง...สำหรับข้าพเจ้า

1.จิตวิญญาณต่างร่าง แต่ร่วมมิติในอดีต-อนาคตชาติ
ข้าพเจ้าขอเดาว่า...เป็น ตัวเราเมื่ออายุต่างๆ ดำเนินไป-เป็นไป อยู่ในโลกเดียวกัน
แต่คนละคาบเวลา และเปลี่ยนใหม่หมด ทุก 7 ปี ดังนั้น ตัวตนปัจจุบันจึงไม่ใช่ร่างเดิม
แต่เนื่องด้วยว่า อดีต-ปัจจุบัน-อนาคต ดำเนินไปพร้อมกัน
เพราะฉะนั้น เวลาเหล่านี้จึง เกิดขึ้นพร้อมกันหมด

การติดต่อสื่อสารกับตัวตน(เสมือน)ร่วมร่างนี้ ทำได้แต่เพียงในจินตนาการ
เพราะ ในมิติของจิตวิญญาณ ไม่มีช่องว่าง และกาลเวลา
แต่มิติทางกายภาพ มีช่องว่าง แลการเวลา มันจึงอยู่คนละตำแหน่งกัน


2.จิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์ ในปัจจุบันชาติ
อันนี้ไม่เดา อันนี้ คิดว่าน่าจะใช่
ความเห็นคล้ายของคุณซิปป์ แต่ขอเสริมหน่อยตรงที่ว่า
เป็นบุคคลที่เราพบเจอและเกี่ยวข้องทั้งสิ้น หนิด ไม่หนิด รู้จักไม่รู้จัก นับหมด
ติดต่อสื่อสาร ได้ทั้งมิติทางจิตวิญญาณ และทางกายภาพ


3.จิตวิญญาณ (เสมือน) ร่วมร่างแต่ต่างมิติในอดีต-ปัจจุบัน-อนาคตชาติ
ข้าพเจ้าขอเดาว่า...เป็น ตัวตนของเรา ในชาติภพอื่น ที่ไม่ใช่ชาติภพนี้(ทางกายภาพ)
แบบ การระลึกชาติ เดจาวู....การติดต่อ กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ บรรพบุรุษ ฯลฯ
ข้อนี้เป็นข้อ ที่กังขาสุดๆ แต่คิดแบบนี้ไปก่อน ไม่งั้น มันจะไม่มีข้อมูล ให้ตั้งเป็นสมมติฐาน

แหะ แหะ...ยิ่งพูดยิ่ง งง พอก่อนดีกว่า หัวบวม อีกแล้ววว...

 

ความฝันนอกจากจะซับซ้อนแล้ว ความฝันยังสามารถตีความหรือแปลได้หลายชั้น อย่างของคุณไวด์ฮาร์ด ในความฝันหนึ่งชุดนั้นยังสามารถตีความได้เพิ่มเติมอีก

ชั้นที่ หนึ่ง มองเห็นเป็นรายการข้อมูลของจิตวิญญาณที่ถ่ายทอดผ่านทางช่วงเวลาแห่งจิต คือเป็นลักษณะของโค้ดข้างบน

ชั้นที่ สอง เป็นอุปมาอุปมัยแสดงถึงธรรมชาติของจิตวิญญาณ ในโลกทางกายภาพ เรามักจะแทนค่ามารดา คือผู้ให้กำเนิด (อันนี้ส่วนใหญ่นะ บางท่านอาจแทนอย่างอื่นได้ขึ้นอยู่กับภาวะจิตแต่ละคน) การที่คุณไวด์ฮาร์ดได้รับดอกกุหลาบสีแดง (ในจิตคุณหมายถึงอะไร สำหรับจินต์มันแทนการแสดงออกซึ่งความรัก) แสดงว่าตัวไวด์ฮาร์ดได้รับการถ่ายทอดความรักอันปราศจากเงื่อนไข จากแหล่งกำเนิดอยู่ตลอดเวลา เพราะธรรมชาติของมารดาย่อมรักลูกโดยปราศจากเงื่อนไขอยู่แล้ว

ขั้นที่ สาม ความหมายของจิตวิญญาณ อันนี้ดูความฝันช่วงต้นที่ปรากฏสุนัขสีแกมแดง วิ่งเข้าไปในป่า ออกมาเป็น ผู้ชายสวมหมวกฟักทอง อันผู้ชายที่สวมหมวกฟักทองนั้นในทางกายภาพมักจะทดแทนความหมายของ ศิลปิน จิตรกร พวกที่ใช้ จินตนาการเป็นหลัก ดังนั้นข้อความนี้จึงมีความหมายในตัวของสีแดง อันหมายถึง จินตนาการ ความรู้ ซึ่งก็คือ จิตวิญญาณ จินตวดีเคยวาดรูปอาจารย์อนาลัยหนึ่งครั้ง เป็นรูปผู้ชายใส่หมวกฟักทองเช่นกัน อยากให้ใครเอามาแปะจังเลย)


ขั้นที่ สี่ ยังสามารถมองเห็นบุคลิคภาพอันมีลักษณะเฉพระของตัวตนผู้ฝันด้วย เพราะมองความฝันปร๊าดเดียวก็พอจะรู้ภาวะจิตของคุณไวด์ฮาร์ดว่าค่อนข้างใกล้เคียงกับจินตวดีมาก คือ โผงผาง ตรงไปตรงมา แต่ก็มีพรหมวิหารสี่ แต่ของจินตวดี สองข้อหลังตกบ่อย ข้อ อดทน อดกลั้น และ วางเฉย อย่างคำว่า ตายอย่างสมศํกดิ์ศรี นั้น เปรียบถึงภาวะจิตของคุณเอง ต้นไม้ล้วนแต่มีเงาของต้นไม้ ท่านจึงต้องแยกให้ออกว่า อะไรคือต้นไม้ อะไรคือ เงาของมัน เช่นเดียวกับ ว่า อะไรคือข้อมูล และ อะไรคือภาวะจิตส่วนตัว



เมื่อใดที่ทุกท่านเริ่มต้นฝึกฝนการใช้เวลาแห่งจิต เมื่อนั้นจิตของคุณจะเปิดรับข้อมูลและคุณจะเข้าใจความหมายทุกอย่างด้วยตัวคุณเอง ต่อให้คุณอ่านมันซักเท่าไร แต่ถ้าปราศจากการฝึกฝน ความเข้าใจที่เกิดจากข้างในอันเป็นความเข้าใจอันแท้จริงอันเกิดจากการเปลี่ยนความเชื่อให้เป็นความรู้ย่อมเป็นไปไม่ได้ และเมื่อคุณเริ่มเข้าใจ จิตวิญญาณของคุณจะผลักดันให้ตัวคุณเริ่มขนขวายหาข้อมูลนี้เพิ่มขึ้นอีก จนถึงจุดหนึ่งของความเข้าใจ กำแพงจะสลายลง เมื่อนั้นคุณจะเริ่มมองทุกอย่างอย่างไร้เงื่อนไข และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างแท้จริง




ด้วยรัก

จินตวดี จุ๊บ
ป.ล. ว่าจะไม่ตื่นขี้นมาแล้ว แต่ข้างในผลักดันเหลือเกิน เลยต้องมา

 

คำตอบมีในธรรมชาติชาติภพ หนังสือชุดนี้ท่านจะอ่านเล่มใดก่อนก็ได้ แต่เล่มแรกสุดควรจะเป็น เล่มธรรมชาติ ชาติภพก่อน เพราะถ้าท่านปราศจากความเข้าใจเกี่ยวกับ แหล่งที่มาของจิตวิญญาณทั้งสาม อันได้แก่

1. จิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมมิติ ในอดีต และ อนาคต
2. จิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์
3. จิตวิญญาณ เสมือนร่วมร่างแต่ต่างมิติในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต

ความเข้าใจที่แท้จริงย่อมไม่เกิดขึ้น

คุณเซลล์วานมาอธิบายความหมายทั้งสามข้อทีเร้ว

 

ว่าแล้วคิดถึงฝันของไวด์ฮาร์ดอีกอันที่เป็นสมุห์บัญชี ได้บอกว่า "พี่ขอแต่งตั้งเธอให้เป็นสมุห์บัญชีแทนพี่ตั้งแต่วันนี้" (ในฝันสมุห์บัญชีคือ แดง) พร้อมเอาหน้าผากมาชนกัน ลักษณะของการถ่ายทอดข้อมูลความรู้

คุณกำลังได้รับการถ่ายทอดข้อมูลความรู้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวันจากหมวด ความฝัน จินตนาการ ความรู้อยู่แล้ว (แดง)

มองเห็นภาพกันหรือยัง

 

ขอบคุณเหลือเกินค่ะคุณจินต์ พอเห็นความฝันของเรามีเพื่อนเมตตามาช่วยถอดรหัสความหมายของมันได้เห็นเด่นชัดอย่างนี้ ถ้าลำพังไวด์ฮาร์ทเองสักกี่สิบปีถึงจะสามารถถอดมันออกมาได้ทีละเปลาะก็ไม่รู้ ขอจินตนาการว่าไวด์ฮาร์ทกำลังหอมแก้มซ้ายและขวาของคุณจินต์เบา ๆ เป็นการแสดงความขอบคุณอีกครั้งคุณจินต์ที่รักยิ่ง..<O</O
<O</O

 

"เมื่อใดที่ทุกท่านเริ่มต้นฝึกฝนการใช้เวลาแห่งจิต เมื่อนั้นจิตของคุณจะเปิดรับข้อมูลและคุณจะเข้าใจความหมายทุกอย่างด้วยตัวคุณเอง ต่อให้คุณอ่านมันซักเท่าไร แต่ถ้าปราศจากการฝึกฝน ความเข้าใจที่เกิดจากข้างในอันเป็นความเข้าใจอันแท้จริงอันเกิดจากการเปลี่ยนความเชื่อให้เป็นความรู้ย่อมเป็นไปไม่ได้ และเมื่อคุณเริ่มเข้าใจ จิตวิญญาณของคุณจะผลักดันให้ตัวคุณเริ่มขนขวายหาข้อมูลนี้เพิ่มขึ้นอีก จนถึงจุดหนึ่งของความเข้าใจ กำแพงจะสลายลง เมื่อนั้นคุณจะเริ่มมองทุกอย่างอย่างไร้เงื่อนไข และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างแท้จริง"
อ้างอิง: ข้อความคุณJINTAWADEE
อนุโมทนาบุญอย่างยิ่งอีกเช่นกันค่ะ

 

ที่มา: www.oneclickmarket.com/<WBR>shopcore/product.php?s...
ฝากภาพนี้ให้น้องpk010209ค่ะที่บ้านมีอยู่1ภาพเพื่อนให้มาเป็นของขวัญขนาดใหญ่มากพี่เห็นแทบทุกวัน (ที่เหลือบไปมอง) อิอิ มันเลยติดตาพี่ค่ะ
พอดียังไม่ได้ถ่ายลงคอมฯ ว่างๆจะส่งไปให้ดูค่ะ ยืนยันว่าใหญ่มาก
​

 

เอ...คุณzipperคราวก่อน ท่านใดกล่าวถึงหนังสือการ์ตูน "<!--WapAllow0=Yes--><!--pda content="begin"--><BIG><BIG><!--Topic-->the TALENT "หรือเปล่าค่ะ หาจนห่วงแระ อ่านผ่านตาแว่บๆหาไงก็ไม่เจอ ไปนอนแระค่ะ ง่วงมากกกกกกกกกกกกกก</BIG></BIG>
<BIG><BIG>ราตรีสวัสดิ์ ค่ะทุกท่าน </BIG></BIG>
<BIG><BIG><TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 8 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 5 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER>[ แนะนำเรื่องเด่น ] </CENTER></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>สงบระงับ, angsana p, กุญแจไขปริศนา </TD></TR></TBODY></TABLE></BIG></BIG>

 

คุณซิป อธิบายสั้นๆ แต่หายข้องใจไปได้เยอะเลยครับคุณจินต์
แต่ประเด็นนี้ เป็นหนึ่งประเด็นที่น่าคุยจริงๆครับเพื่อนๆ

จำได้ว่าในหนังสือ อ.อนาลัย บอกว่า จิตวิญญาณต่างประสานกันเป็นระบบ เป็นหนึ่งเดียว ที่ท่านแบ่งแยกออกมา เป็น 3 หัวข้อ เพื่อให้เราเข้าใจได้ง่ายขึ้น

จะลองอธิบายตามความเข้าใจเบื้องต้นนะครับ

สมมติเหตุการณ์จากในฝันละกันนะครับ

นายเอ จะไปที่แล๊ปทดลอง มีเพื่อนผู้หญิงชื่อบี และ ซี ไปด้วย
ทั้งสามตัดสินใจไปขึ้นมอเตอร์ไซด์ ที่วิน
เจ้าของวินนายดี เป็นคนเดียวกับเจ้าของร้านอาหาร ได้บอกว่า จะให้ลูกน้องพาไปส่งก็ได้ แต่ต้องไปแวะที่ร้านเค้า 10 นาที แล้วค่อยไป
นายเอ สงสัยว่า ทำไมจะต้องไปแวะที่ร้านด้วย ไปส่งเลยไม่ได้เหรอ
แต่ก็จำใจที่จะต้องไป
เลยนั่งมอเตอร์ไซด์ ไปกับเพื่อนผู้หญิง 2 คน ไปที่ร้านอาหาร
ร้านนี้จัดเป็นแบบ outdoor ทุกคนที่เป็นพนักงานร้านนี้ ต่างมีงานประจำทำกันทั้งหมด
นส.เอฟ และ นส.จี เสร็จจากงานนี้ ก็ต้องไปทำงานที่อีกร้านอาหารนึงในตอนเย็น
ส่วนคนอื่นๆ ก็ไม่ต่างกัน
ทุกคนที่มาที่นี่ ต่างไม่รู้จักกัน มีส่วนนึง ที่มาเพราะต้องไปนั่งมอเตอร์ไซด์ที่วินนายดี คือ ต้องมาช่วยงานก่อน ถึงจะไปที่ที่ต้องการได้
แต่เมื่อทุกคนมารวมกันที่นี่แล้ว ต่างก็ทำงานกันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
จนการจัดร้าน เตรียมงาน เสร็จสิ้น
นายเอ จึงได้นั่งมอเตอร์ไซด์ ไปที่แล๊ปทดลองได้

ตัวอย่างแค่เคส ที่นาย a จะเดินทางไปที่แล๊ป (มองเป็นเส้นตรง)

1.จิตวิญญาณต่างร่างร่วมวัตถุประสงค์ ก็มี นายดี ลูกน้องนายดี นส.บี นส.ซี เพื่อนที่ร้านอาหารทั้งหมด เพื่อนที่แล๊ปทั้งหมด

2.จิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมมิติ ในอดีต และอนาคต

นายดี ลูกน้องนายดี นส.บี นส.ซี เพื่อนที่ร้านอาหารทั้งหมด (อดีต)

เพื่อนๆที่แล๊ป (อนาคต)

บุคคลทั้งหมด ที่อยู่แวดล้อม ทั้งในอดีต และอนาคต

3.จิตวิญญาณ เสมือนร่วมร่างแต่ต่างมิติในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต

ตัวนาย a ในทุกๆแอ๊คชั่น (ก่อนไปที่วิน-ไปที่วิน-อยู่ที่ร้านอาหาร-อยู่ที่แล๊ป)


ถ้ามองในแง่ นายดี ลูกน้องนายดี นส.ซี นส.บี และคนอื่นๆ ก็จะเป็นอีกแบบ

แต่ทั้งหมดล้วนเกี่ยวข้องกันอย่างเป็นระบบ เพื่อจะช่วยให้จิตวิญญาณหน่วยอื่นๆ บรรลุวัตถุประสงค์ที่ต้องการ

ขอโยนกลับไปที่คุณจัมโบ้เอ ช่วยอธิบายต่อละกันครับ
ก่อนจะส่งต่อให้เพื่อนคนอื่นๆ อธิบายต่อ อิอิ..