เปิดตำนานหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ภาค 2

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย แก้วสว่าง, 15 ธันวาคม 2012.

  1. kengeg

    kengeg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2009
    โพสต์:
    1,735
    ค่าพลัง:
    +7,227
    กราบหลวงปู่ทิม , ลุงสาย แก้วสว่าง

    สวัสดียามเช้าอ.แก้วสว่างและทุกๆท่านครับ
     
  2. ปลาช่อนนา

    ปลาช่อนนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    126
    ค่าพลัง:
    +744
    ครับตอนนี้ความจริงนั้นคงเริ่มกระจ่างกันบ้างกับพระขุนแผนและผงพราย หาดูกันในเฟสบุคนะครับ เปิดตำนานหลวงปู่ทิม
     
  3. แควใหญ่

    แควใหญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,271
    ค่าพลัง:
    +10,008
    กราบหลวงปู่ทิม คุณลุงสาย แก้วสว่าง สวัสดีครับอาจารย์แก้วสว่าง น้าต๋อย พี่โต้ง พี่รัก พี่เดชา พี่ภู พี่คนบนเกาะ พี่เตอร์ พี่ทหารเก่า พี่อาทิ พี่romegat พี่รุ่ง คุณโอ๊ด คุณอภิเชษฐ์ ท่านนายกู๊ด คุณthavornsiripat และพี่ๆเพื่อนๆลูกศิษย์หลวงปู่ทิมทุกท่าน สบายดีกันทุกคนนะครับ
     
  4. kengeg

    kengeg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2009
    โพสต์:
    1,735
    ค่าพลัง:
    +7,227
    กราบหลวงปู่ทิม , ลุงสาย แก้วสว่าง

    สวัสดียามเช้าอ.แก้วสว่างและทุกๆท่านครับ
     
  5. kengeg

    kengeg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2009
    โพสต์:
    1,735
    ค่าพลัง:
    +7,227
    กราบหลวงปู่ทิม , ลุงสาย แก้วสว่าง

    สวัสดียามเช้าอ.แก้วสว่างและทุกๆท่านครับ
     
  6. แควใหญ่

    แควใหญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,271
    ค่าพลัง:
    +10,008
    กราบหลวงปู่ทิม คุณลุงสาย แก้วสว่าง สวัสดีครับอาจารย์แก้วสว่าง น้าต๋อย พี่โต้ง พี่รัก พี่เดชา พี่ภู พี่คนบนเกาะ พี่เตอร์ พี่ทหารเก่า พี่อาทิ พี่romegat พี่รุ่ง คุณโอ๊ด คุณอภิเชษฐ์ ท่านนายกู๊ด คุณthavornsiripat และพี่ๆเพื่อนๆลูกศิษย์หลวงปู่ทิมทุกท่าน สบายดีกันทุกคนนะครับ
     
  7. kengeg

    kengeg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2009
    โพสต์:
    1,735
    ค่าพลัง:
    +7,227
    กราบหลวงปู่ทิม , ลุงสาย แก้วสว่าง

    สวัสดียามเช้าอ.แก้วสว่างและทุกๆท่านครับ
     
  8. แควใหญ่

    แควใหญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,271
    ค่าพลัง:
    +10,008
    กราบหลวงปู่ทิม คุณลุงสาย แก้วสว่าง สวัสดีครับอาจารย์แก้วสว่าง น้าต๋อย พี่โต้ง พี่รัก พี่เดชา พี่ภู พี่คนบนเกาะ พี่เตอร์ พี่ทหารเก่า พี่อาทิ พี่romegat พี่รุ่ง คุณโอ๊ด คุณอภิเชษฐ์ ท่านนายกู๊ด คุณthavornsiripat และพี่ๆเพื่อนๆลูกศิษย์หลวงปู่ทิมทุกท่าน สบายดีกันทุกคนนะครับ
     
  9. kengeg

    kengeg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2009
    โพสต์:
    1,735
    ค่าพลัง:
    +7,227
    กราบหลวงปู่ทิม , ลุงสาย แก้วสว่าง

    สวัสดียามเช้าอ.แก้วสว่างและทุกๆท่านครับ
     
  10. PraKhoonPhan

    PraKhoonPhan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2010
    โพสต์:
    881
    ค่าพลัง:
    +6,625
    ขออนุญาติ อ.แก้วสว่างนำคาถาที่หลวงปู่ทิม ได้มอบให้นายพรวนไว้ปฏิบัติ ระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
    ในกระทู้ เปิดตำนานหลวงพ่อทิม หน้าที่ 335 อยากได้พี่ๆทุกท่านที่ศรัทธาในหลวงปู่ทิม ได้ท่องและปฏิบัติ แถมบทความที่จะทำให้คุณรักพี่เสือกมากขึ้นด้วย

    เราจะเห็นว่าแม้จะเป็นเขี้ยวเสือ หนังหน้าผากเสือหรือจะเป็นเสือที่แกะจากไม้ที่ลูกศิษย์ลูกหาได้นำมาให้หลวงปู่ทิมท่านได้ปลุกเสกหรือการภาวนาจิตเพื่อให้เกิดอานุภาพที่ดีอย่างที่เชื่อมั่นได้นั้น หลวงปู่ท่านมีจิตวิเคราะห์ที่ดีที่ต้องการนำวิชาอาคมต่างๆที่ได้ร่ำเรียนรู้มา ซึ่งเมื่อลูกศิษย์ลูกหาต่างมีจิตประสงค์หรือความต้องการที่ดีที่จะต้องการนำไปใช้ติดตัวเพื่อประโยชน์อันดีกัน หลวงปู่ท่านก็มีจิตที่เมตตาตอบสนองผลที่ดีที่ต้องการให้ชาวบ้านนั้นมีความปลอดภัยจึงได้มีจิตภาวนาที่มั่นคงเพื่อให้วัตถุมงคลต่างๆนั้นมีอานุภาพที่ศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาได้ เสือที่หลวงปู่ทิมท่านมีจิตประสงค์ที่จะปลุกเสกในยุคแรกๆนั้น เมื่อมีชาวบ้านและลูกศิษย์ลูกหาที่นับถือก็ได้นำมาให้หลวงปู่ท่านปลุกเสกซึ่งเป็นการปลุกเสกให้เฉพาะกิจหรือเฉพาะเจาะจงกันไปซึ่งอาจจะมีจำพวกที่เป็นเขี้ยวเสือที่หาได้กันมา ซึ่งพอในยุคต่อมาด้วยเขี้ยวเสือนั้นหายาก นายสาย แก้วสว่างซึ่งเป็นลูกศิษย์ของท่านก็ได้นำไม้มาแกะให้เป็นรูปเสือขึ้นมา โดยที่หลวงปู่ท่านมีจิตประสงค์เพื่อตั้งใจสื่ออำนาจความรู้และวิชาอาคมที่มีอยู่เพื่อให้อำนาจของพุทธคุณในวัตถุมงคลที่หลายคนเชื่อกันว่าเสือนั้นมีอำนาจพุทธคุณที่เหนือกว่าอำนาจของอวิชาทั้งหลายหรืออำนาจปรากฏการณ์ที่ไม่พึงประสงค์หรือที่คาดการณ์ได้ เสือเป็นสัตว์ที่ได้ขึ้นชื่อว่ามีความดุร้ายและโหดร้ายซึ่งต่างก็กลัวในอำนาจของมัน ซึ่งอำนาจของเสือนั้นก็สามารถนำมาสื่อใช้ให้เป็นอำนาจของพุทธคุณที่เชื่อมั่นได้ ดังตัวอย่างที่ นายพรวน สายัญ ซึ่งถิ่นฐานบ้านเกิดอยู่ในหมู่บ้านจำพังซึ่งเป็นหมู่บ้านที่อยู่ทางเหนือของวัดละหารไร่ออกไปเคยได้รับเสือไม้แกะของหลวงปู่ทิมมาตัวหนึ่ง ซึ่งในยุคสมัยนั้นถนนหนทางยังเป็นทางเกวียนการเดินทางมีแต่ป่าเขา โดยนายพรวนได้เล่าว่า ตนไปมาหาสู่ที่วัดละหารไร่อยู่เป็นเนืองๆและมาทำบุญที่วัดทุกครั้งเมื่อเวลามีเทศกาลต่างๆ และมีอยู่ครั้งหนึ่งตนมีอาการเจ็บป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุได้ กินยาหม้อยาต้มมาจากหมอแผนโบราณมาหลายขนานก็ไม่หายขาดได้ จากนั้นตนตัดสินใจเดินทางมาหาหลวงปู่ทิมที่วัดละหารไร่เพื่อมารักษาอาการที่เจ็บป่วยซึ่งมันก็เป็นๆหายๆ จากนั้นก็ได้มาหาหลวงปู่ทิมที่วัดซึ่งตอนนั้นหลวงปู่ท่านกำลังนั่งสนทนากับลูกศิษย์ลูกหาของท่านอยู่ จากนั้นตนก็ได้ก้มลงกราบหลวงปู่ทิมเมื่อหลวงปู่ท่านเห็นดังนั้นท่านไม่พูดกลับชี้ให้ตนไปนั่งรอที่นอกชาน ซึ่งอยู่ติดกับหอฉันท์ซึ่งตอนนั้นตนเองก็งงทำไมหลวงปู่ถึงให้ไปรอที่นอกชาน ซึ่งพอหลังจากที่หลวงปู่ท่านสนทนากับลูกศิษย์ลูกหาของท่านเสร็จจากนั้นหลวงปู่ท่านก็ได้เดินมาที่ตนและได้หยิบขันน้ำมาใบหนึ่งจากนั้นหลวงปู่ท่านก็ได้ทำน้ำมนต์อยู่สักพัก จากนั้นหลวงปู่ทิมท่านก็ให้ตนดื่มน้ำมนต์นั้นจนหมดขัน พอเสร็จจากนั้นตนก็ได้เดินตามหลวงปู่ไปที่หน้ากุฏิ ซึ่งตนเองตอนนั้นก็มีความรู้สึกกระอักกระอ่วมในท้องเหมือนจะอาเจียนเมื่อได้ดื่มน้ำมนต์เข้าไปแต่อาการนั้นสักพักใหญ่ก็เริ่มจะค่อยๆพอทุเลาลง จากนั้นตนก็ได้เล่าสาเหตุอาการเจ็บป่วยต่างๆให้หลวงปู่ท่านฟัง ซึ่งหลวงปู่ท่านก็บอกแต่เพียงว่าให้ระลึกถึงคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ แล้วอาการต่างๆก็จะดีขึ้นมาเอง จากนั้นหลวงปู่ทิมท่านก็ได้เดินเข้าไปในห้องของท่านแล้วได้หยิบเสือไม้แกะมาให้ตนตัวหนึ่งและหลวงปู่ท่านก็ได้กล่าวแต่เพียงว่าเวลาใช้จงทำจิตให้มั่น หลังจากนั้นเมื่อตนได้รับเสือไม้แกะมาจากหลวงปู่และจากนั้นตนก็ได้ก้มกราบและได้ลาหลวงปู่ไปและตนก็ยังได้จดจำคำที่หลวงปู่ท่านได้กล่าวไว้เสมอแต่ตนเองก็ยังคิดและแปลกใจอยู่ที่ว่าหลวงปู่ทิมท่านรู้ได้อย่างไรว่าตนมีอาการเจ็บป่วยอยู่ทั้งทีตนก็ยังไม่ทันได้เอ่ยปากก่อน หรือเราอาจจะคิดได้ว่าท่านสามารถล่วงรู้ด้วยวาระจิตของท่านก็เป็นได้ ซึ่งหลังจากนั้นตนก็ได้ปฏิบัติตามที่หลวงปู่ท่านบอกก็ได้สวดมนต์ระลึกถึงคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ซึ่งตนก็ได้หมั่นทำอยู่เสมอมิได้ขาด ซึ่งตนเองก็ไม่มีอาการเช่นนั้นขึ้นมาอีกจึงคาดคิดว่าตนเองอาจจะคิดเพ้อเจ้อไปเองหรือจิตมันคิดไปเองก็เป็นได้จึงได้คิดว่าตนหายจากอาการที่เป็นอยู่แล้ว จากนั้นมาระยะหลังๆตนเองก็ได้สวดบ้างไม่สวดบ้าง ด้วยความที่ตนเองมีอาชีพทำไร่ทำนาจึงไม่ค่อยมีเวลาจึงได้ห่างหายจากการสวดมนต์ไป และมีอยู่วันหนึ่งตนก็มีอาการแบบนั้นขึ้นมาอีกโดยไม่ทราบสาเหตุซึ่งมีอาการปวดท้องบิดเบี้ยวเหมือนจะอาเจียน ซึ่งตนก็ได้ทานยาก็ยังไม่หาย ซึ่งช่วงเวลานั้นก็เป็นเวลาค่ำมืดดึกดื่นซึ่งบ้านตนก็เป็นบ้านป่าที่อยู่ห่างไกลความเจริญ และตนคงคาดคิดว่าคงต้องตายแน่ๆเพราะทนอาการที่เป็นอยู่ไม่ไหวมันจะเป็นๆหายๆหรือขึ้นๆลงๆ จึงได้แต่นอนทนทุกข์ทรมานอยู่พักหนึ่ง จากนั้นตนจึงได้มีจิตคิดขึ้นมา และจำคำที่หลวงปู่ทิมท่านเคยกล่าวไว้เสมอให้ระลึกถึงคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ จากนั้นตนก็คิดได้ว่าหลวงปู่ท่านเคยให้เสือมาตัวหนึ่งจากนั้นตนก็ได้เดินไปหยิบเสือที่วางไว้บนหิ้งพระ จากนั้นตนก็ได้ตั้งจิตอธิษฐานทำน้ำมนต์โดยตักน้ำมาขันหนึ่งแล้วเอาเสือไม้แกะนั้นใส่ลงไปในขัน จากนั้นตนก็ได้จุดธูปสามดอกระลึกถึงคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ และทำตามคำที่หลวงปู่ทิมท่านบอกกล่าวโดยตั้งจิตให้มั่น ซึ่งตนก็ได้แต่นึกถึงหลวงปู่ทิมและขออำนาจเสือขอให้หายจากอาการที่เป็นอยู่และตนก็ได้ระลึกจิตให้มั่นโดยที่ตนก็ยังมีอาการเจ็บปวดแบบเป็นๆหายๆและทรมานอยู่นานที จากนั้นสักพักพอธูปเริ่มไหม้หมดตนก็ได้ดื่มน้ำมนต์ที่ตนเองได้ตั้งจิตอธิษฐานขึ้นโดยดื่มไปจนหมดขัน พอผ่านไปสักระยะหนึ่งปรากฏว่าอาการที่เป็นอยู่นั้นก็เริ่มทุเลาลงและค่อยๆหายจากอาการที่เป็นอยู่นั้นได้อย่างปาฏิหาริย์ซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่เหลือเชื่อได้ สิ่งที่มันเกิดขึ้นและเป็นปรากฏการณ์ของอำนาจคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่มีอานุภาพเหลือคณานับได้ เมื่อเรามีจิตใจที่ตั้งมั่น ความสำเร็จโดยที่หมายหรือสิ่งที่เป็นอานุภาพที่มหัศจรรย์ที่ยังคงความศักดิ์สิทธิ์ได้นั้นก็จะมีอานุภาพได้อย่างเหลือเชื่อ ซึ่งเป็นเหตุทำให้เกิดแรงจูงใจหรือแรงบันดาลใจซึ่งเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลเหนือจิตใจ ที่สามารถก่อให้เกิดผลของอานุภาพที่ดีที่เราอาจจะคาดคิดไม่ถึงได้ถึงแรงแห่งพลังอานุภาพของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ใจเราได้ยึดมั่นเพื่อให้ประสบผลเป็นได้ดั่งที่ใจเราต้องการและเพื่อให้เกิดการสัมฤทธิ์ผลที่ดีนั้นขึ้นมาได้นั้น หลวงปู่ทิมท่านได้เคยกล่าวไว้ว่าให้ระลึกถึงพระพุทธเจ้าอยู่เสมอซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราได้บูชาและกราบไหว้เพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวทางด้านจิตใจ ให้จิตใจของเรานั้นมั่นคงเสมอเมื่อเจอต่ออุปสรรคต่อสิ่งที่มารบเร้าหรือสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ได้ หรืออาจเป็นกุศลมูลที่เราต้องมาประสบเพื่อให้รอดพ้นจากเจ้ากรรมนายเวรที่ต้องมาเวียนว่าย ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้เราจะเห็นว่า การได้ที่พึ่งทางด้านจิตใจและการได้ยึดมั่นถือมั่นเพื่อให้รอดพ้นจากกิเลสและเคราะห์กรรมต่างๆ พระพุทธเจ้าท่านได้บัญญัติไว้ว่า ใครทำความดีย่อมได้รับผลดี ใครประกอบความชั่วก็ได้รับผลกรรมกันไป ซึ่งก็ไม่มีอำนาจใดๆจะมากำหนดชีวิตของตัวเราไปได้นอกจากตัวเราเองที่ได้กำหนดทางเดินของชีวิตได้ หรือเปรียบได้ดั่งคำพุทธพจน์ที่ว่า “ ชีวิตคนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะเป็นอยู่ได้ “ ซึ่งเราอาจจะมองในการเลือกเกิดคนเรานั้นมันไม่แน่นอน ซึ่งบางคนเกิดมาในครอบครัวที่ยากจน แต่ทำไมบางคนเกิดมาในตระกูลที่ร่ำรวยทั้งๆที่คนเราก็เกิดมาเหมือนกัน ซึ่งบางคนคงคิดว่าชาติก่อนตัวเองคงทำบุญมาน้อยคงเกิดมาในตระกูลที่ยากจนได้ ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้มันเป็นเรื่องของการเสวยชาติกรรมหรืออาจเป็นเรื่องของผลบุญและกรรมซึ่งมันอาจจะล้วนเป็นสิ่งที่อาจจะบังเกิดได้เสมอ ซึ่งบางคนที่เกิดมาในตระกูลที่ร่ำรวยแต่ไม่ช้าก็อาจจะหมดสูญสิ้นได้ถ้าเขาหมดบุญที่ได้ทำมาหรือกระทำตัวไม่ดีไม่สมกับชาติตระกูลที่ได้กำเนิดมา ซึ่งชีวิตคนเรานั้นเลือกเกิดไม่ได้แต่เลือกที่จะเป็นได้คือการทำความดีที่มนุษย์ทุกคนทำได้เสมอโดยไม่เลือกชั้นวรรณะหรือแม้กระทั่งสัตว์ก็ยังได้เกิดมาในครอบครัวที่เลี้ยงดูอย่างดีหรืออาจจะอยู่อย่างไร้การเหลียวแล มันก็เป็นไปได้ ซึ่งมันอาจจะเป็นผลของการกระทำเมื่อชาติปางก่อน ส่วนใหญ่เราจะคาดคิดกันอยู่เสมอเมื่อเรานั้นทำอะไรไม่ประสบผลสำเร็จก็จะไปโทษตัวเองที่ชาติก่อนนั้นทำบุญมาไม่ถึงหรือไม่ได้ทำมา หลวงปู่ทิม อิสริโกท่านได้กล่าวให้ลูกศิษย์ฟังอยู่เสมอว่า ให้กระทำแต่คุณความดียึดมั่นในคุณของพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ซึ่งถือเป็นคุณอันยิ่งใหญ่และเป็นคุณที่มีความบริสุทธิ์ที่ไม่มีอำนาจมนต์ดำใดๆจะสามารถมาทำลายล้ายได้ อำนาจของคุณพระทั้งสามประการนี้เป็นคุณอันบริสุทธิ์ที่จะสามารถมีพลังอำนาจของพุทธคุณที่จะก่อให้เกิดอานุภาพที่ดีนั้นอยู่ที่การได้ศรัทธาและยึดมั่นซึ่งมันเป็นเหมือนพลังอำนาจอย่างหนึ่งซึ่งมันอาจจะเป็นกระแสพลังงานอย่างหนึ่งที่สถิตอยู่ในใจเรา และเมื่อถึงเวลาเกิดนำออกมาใช้นั้นก็จะเป็นพลังงานแห่งอานุภาพที่ดีที่จะสามารถนำมาใช้ให้เป็นพลังงานที่เกิดจากพลังอำนาจพุทธคุณในสิ่งที่จิตศรัทธาของเราได้ยึดมั่นต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพื่อจุดประสงค์ความตั้งใจที่ดีได้ เราจะเห็นว่าพลังอำนาจที่อยู่ในตัวเราถือว่าเป็นพลังอย่างหนึ่งที่สามารก่อให้เกิดอานุภาพและปาฏิหารย์ขึ้นได้ถ้าจิตของเรานั้นมีการยึดมั่นและการศรัทธามั่นคงที่ดี เราจะเห็นว่าทุกวันนี้เราได้บูชากราบพระพุทธเพื่อน้อมรำลึกถึงคุณของท่านเพื่อคุณประโยชน์และความสุขที่ดีเพื่อชีวิตความเป็นอยู่ได้อย่างปกติสุขและมั่นคงเสมอ การรำลึกถึงคุณพระพุทธที่ดีนั้นสามารถก่อให้เกิดอานุภาพที่พึงประสงค์ได้เมื่อมีจิตที่ยึดมั่นได้ ดังตัวอย่างที่หลวงปู่ทิมท่านได้กล่าวแนะแก่นายพรวนให้ระลึกถึงคุณพระพุทธ ซึ่งถือเป็นอย่างแรกที่ต้องนึกถึงเพื่อขออำนาจพลังแห่งพุทธานุภาพที่ก่อให้เกิดอานุภาพขึ้นได้ ถ้ามีจิตยึดมั่นในสิ่งที่ถูกต้องได้ อย่างที่สองก็คือคุณพระธรรมซึ่งเป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าเป็นคำสั่งสอนที่ให้ทุกคนยึดมั่นและถือมั่นในการทำความดีเพื่อเป็นอานิสงฆ์ผลบุญของตัวเราเองที่ได้ปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า สามารถที่จะเกิดอานิสงส์ของตัวเราเองได้เมื่อได้เชื่อมั่นและศรัทธาอย่างเคร่งครัดและถูกต้องได้สามารถรวมเป็นพลังแห่งอานุภาพที่ดีได้ ส่วนอย่างที่สามคือคุณพระสงฆ์ คือการได้นำหลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้ามาเผยแพร่เพื่อการปฏิบัติสิ่งที่ดีและถูกต้องเพื่อให้คนเราได้มีจิตสำนึกที่ดีเพื่อให้ศรัทธาต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและวงการพระพุทธศาสนาให้มีความเชื่อมั่นอันดีเพื่อความเป็นไปในสังคมของโลกมนุษย์จะได้อยู่อย่างสงบสุข

    หลังจากที่นายพรวนได้นำเสือไม้แกะแล้วนำมาอธิษฐานทำน้ำมนต์เพื่อให้หายจากอาการที่เป็นอยู่ จากนั้นนายพรวนก็ได้ประสิทธิผลของความสำเร็จด้วยพลังแห่งอานุภาพจากอำนาจของพุทธคุณที่ตนนั้นได้มีความยึดถือและเชื่อมั่น ซึ่งหลังจากที่นายพรวนหายจากอาการที่เป็นอยู่ในค่ำคืนตอนนั้น พอรุ่งขึ้นเช้านายพรวนก็ได้เดินทางไปหาหลวงปู่ทิมที่วัดละหารไร่ทันทีเพราะด้วยความไม่แน่ใจจากอาการของตนเองเพราะมันจะเป็นๆหายๆ จากนั้นตนก็ได้มาพบกับหลวงปู่ทิมพอดีและตนก็ได้พูดคุยกับหลวงปู่โดยตนก็ได้เล่าอาการต่างๆให้หลวงปู่ท่านฟัง ซึ่งหลวงปู่ท่านก็ไม่ได้พูดอะไรมากหลวงปู่ท่านก็ได้กล่าวเพียงว่าจงทำจิตให้มั่น แล้วจะหายไปเองซึ่งก็เหมือนกับที่หลวงปู่ท่านกล่าวไว้เมื่อครั้งแรกที่ได้มาหา แต่ตนเองก็ยังไม่สิ้นสงสัยจึงได้เซ้าซี้ถามหลวงปู่อยู่ตลอดจนหลวงปู่ท่านคงจะทนต่อการเซ้าซี้ไม่ได้จึงได้กล่าวกับนายพรวนว่า “ไปทำอะไรมาเขาถึงไม่สบเอา “ ซึ่งเมื่อตนได้ยินหลวงปู่ทิมท่านกล่าวดังนั้น ตนจึงได้นึกย้อนเหตุการณ์ที่ผ่านมาจึงจำได้ว่าตนได้มีเรื่องทะเลาะกับเพื่อนบ้านที่อยู่ในหมู่ละแวกเดียวกันซึ่งมีอาชีพตัดยางและพื้นเพเดิมเป็นคนมาจากทางภาคอีสานซึ่งตอนนั้นก็ได้เกิดการว่ากล่าวและอาฆาตมาดร้ายกันแต่ตนก็ไม่ได้เฉลียวใจอะไรเพราะคิดว่าเพียงด่าทอกันเพื่อให้จบสิ้นกันไป แต่นายพรวนก็ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกลับเกิดการฆาตแค้นจึงคิดไม่ดีกับตนจึงได้ใช้ที่พึ่งทางไสยศาสตร์หรือเราจะเรียกว่าการทำคุณไสยเพื่อให้ตนนั้นมีอาการต้องทนทุกข์ทรมานในสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ได้ซึ่ง เราอาจจะเรียกว่าการเล่นของทางไสยศาสตร์มนต์ดำซึ่งมันเป็นของอวิชา หลังจากที่นายพรวนได้นึกย้อนเรื่องราวต่างๆซึ่งหลังจากที่ได้ทะเลาะกันจากนั้นตนก็ได้มีอาการที่เป็นแบบนี้อยู่เป็นประจำจากนั้นตนก็ได้พูดคุยปรึกษากับหลวงปู่ ซึ่งหลวงปู่ท่านก็บอกกล่าวให้กำลังใจและบอกว่าความดีจะชนะความชั่วได้ ขอให้ทำจิตให้มั่นระลึกถึงคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์และยึดมั่นต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ จากนั้นหลวงปู่ทิมท่านก็ได้ให้บทสวดมนต์บทหนึ่งไปและให้ตนนั้นหมั่นสวดมนต์บทนี้เป็นประจำอยู่เสมอ แล้วสิ่งไม่ดีก็จะสิ้นหายหรือสิ้นเคราะห์ไปเอง ซึ่งหลังจากนั้นตนก็ได้ปฎิบัติตามคำที่หลวงปู่ท่านบอกกล่าว ซึ่งหลังจากที่ตนกลับไปถึงบ้าน ตนก็ได้ปฏิบัติตามและกราบไหว้พระระลึกถึงคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์หรือเราจะรวมเรียกว่าคุณพระรัตนตรัยและบทสวดมนต์ที่หลวงปู่ท่านให้มาจากนั้นตนก็ได้หยิบเสือไม้แกะที่อยู่บนหิ้งพระซึ่งเป็นวัตถุมงคลสิ่งเดียวที่หลวงปู่ทิมท่านได้มอบให้และตนก็ได้นำมาห้อยติดตัวใช้ตลอดทุกครั้งแม้กระทั่งเวลานอนซึ่งตนก็ได้ปฏิบัติอย่างยึดมั่นเสมอมา และจากนั้นตนก็ไม่เคยมีอาการแบบที่เคยเป็นอยู่นั้นเกิดขึ้นเลย จนมีอยู่คืนวันหนึ่งขณะที่ตนนอนหลับแล้วได้ฝันไปว่า มีเงาดำดวงใหญ่ได้วิ่งเคลื่อนที่ไปเคลื่อนที่มา จากนั้นเงาดำดวงใหญ่ดวงนั้นก็ได้วิ่งพุ่งเข้ามาที่ตน จากนั้นเงาดำดวงใหญ่ก็ได้วิ่งมากระทบที่บริเวณหน้าอกตนจากนั้นตนก็ได้ล้มหงายลงไป ซึ่งขณะที่ล้มหงายนั้นตนมีความรู้สึกเหมือนกับว่าตนเองยังไม่ทันที่จะตั้งตัวหรือระวังตัว แต่จากนั้นในฝันนั้นก็มีความรู้สึกเหมือนกับว่ามีสิ่งหนึ่งมากระตุ้นเร้าให้ตนต้องลุกขึ้นจากนั้นตนก็มีความรู้สึกเหมือนกับว่ามีอำนาจบางสิ่งบางอย่างมาสถิตอยู่ในจิตตนและจากนั้นในฝันตนก็ได้ลุกขึ้นยืนอีก จากนั้นเงาดำดวงนั้นก็ได้รวมตัวกันอีกแต่ทีนี้เงาดำกลับรวมตัวกันเป็นเงาดำดวงใหญ่จากนั้นเงาดำก็ได้เริ่มที่จะเคลื่อนที่และก็ได้แกว่งไปแกว่งมาอีก จากนั้นเงาดำดวงใหญ่ก็ได้พุ่งเข้ามาที่ตนอีกแต่ก่อนที่เงาดำดวงใหญ่นั้นใกล้จะเข้ามากระทบที่หน้าอกตนก็ได้มีแสงสว่างเป็นดวงใหญ่วิ่งออกมาจากวัตถุมงคลที่ตัวเองห้อยติดตัวอยู่ไปปะทะกับเงาที่มืดดำดวงใหญ่นั้นแตกกระจายออกไป แต่เงาดำดวงนั้นก็ไม่ท้อถอยคราวนี้เงามืดดำดวงนั้นก็ได้รวมตัวกันมาเป็นเงาดวงใหญ่เพิ่มขึ้นอีก จากนั้นก็ได้พุ่งมาที่ตนอีกแต่ทันใดนั้นเองก็ได้มีดวงไฟสว่างพุ่งออกมาจากวัตถุมงคลที่ตนห้อยอยู่อีกแต่คราวนี้ดวงไฟอันสว่างนั้นก็ได้วิ่งไปชนกับเงามืดดำดวงใหญ่จนเงาดำนั้นแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆแล้วหายวับออกไปในทันใด จากนั้นตนก็ได้ตื่นขึ้นจากความฝันซึ่งตนเองก็ยังตื่นเต้นกับความฝันอยู่แต่ตนเองก็คิดว่ามันเป็นเพียงแค่ความฝันธรรมดาคงไม่มีอะไรเกิดขึ้น จากนั้นตนก็ได้ปฏิบัติตนตามปกติโดยยึดตามคำที่หลวงปู่ทิมท่านได้แนะไว้ โดยเฉพาะบทสวดมนต์ที่หลวงปู่ท่านให้มาและวัตถุมงคลที่เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวสำหรับห้อยใช้ติดตัวอยู่เสมอและสิ่งที่ลืมไม่ได้คือการรำลึกถึงคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ หรือคุณพระรัตนตรัยซึ่งถือว่าเป็นคุณอันสูงสุด ซึ่งหลวงปู่ท่านให้สวดและระลึกอยู่เสมอมิได้ขาดแล้วสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายก็ไม่สามารถที่จะมากล้ำกรายได้ ขอให้มีสติที่ยึดมั่นที่ดี ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานตนก็ได้ทราบข่าวจากเพื่อนบ้านว่าคนที่เคยทำไม่ดีกับตนนั้นได้ล้มป่วยลงโดยไม่ทราบสาเหตุซึ่งก่อนที่จะล้มป่วยลงมีคนที่อยู่บ้านติดกันเล่าให้ฟังว่า ช่วงเวลาค่ำคืนดึกดื่นคืนก่อนนั้นเขาได้นั่งสวดท่องคาถาเพื่อที่จะทำพิธีอะไรบางอย่าง จากนั้นก็ได้ยินเสียงดังตึงตังอยู่พักหนึ่งแล้วก็หายไปจนรุ่งขึ้นเช้าภรรยาของเขาก็ได้มาพบว่าเขาได้นอนสลบไศลไม่ได้สติปากก็ได้แต่พร่ำเพ้อว่า “ ข้อยยั่นแล้วๆ “ ซึ่งก็ได้แต่พูดซ้ำๆหรือพูดวกไปวนมาสิ่งของที่ทำพิธีที่อยู่ใกล้ตัวก็กระจัดกระจายกันไปคนละทิศคนละทาง จากนั้นก็ได้พากันไปสถานพยาบาลซึ่งได้ตรวจแล้วก็ไม่เป็นไรปรกติทุกอย่าง จากนั้นก็ได้ไปหาหมอผีหรือหมอแผนโบราณให้รักษาก็ไม่เป็นผลใดๆแม้กระทั่งพาไปให้พระรดน้ำมนต์ก็เพียงแค่ให้ความบรรเทาก็ยังไม่หายสิ้นดี ซึ่งเราจะอาจคาดคิดว่ามันเป็นผลของการเล่นของไสยศาตร์มนต์ดำหรือเป็นของอวิชาที่บางครั้งการใช้อำนาจจิตที่ไม่ถูกต้องหรือถูกหลักของพิธีการ หรืออาจโดนอำนาจที่ลึกลับซึ่งมันอาจจะส่งผลสะท้อนกลับเข้าหาตัวเองได้ ถ้าอำนาจจิตหรือพลังอำนาจของตัวเองไม่เพียงพอที่จะปะทะกับแรงอำนาจของสิ่งที่มีพลังอำนาจที่เหนือกว่าได้ และหลังจากนั้นภรรยาของเพื่อนบ้านคนนั้นซึ่งก็ได้นำไปรักษาแล้วก็ไม่เป็นผลดังที่ต้องการต่อจากนั้นเขาจึงได้ขนย้ายสิ่งของกลับถิ่นอีสานไปจนถึงทุกวันนี้โดยที่ยังไม่ทราบผลของชะตากรรมที่ได้เล่นสิ่งที่เป็นของอวิชชาหรือเดรัจฉานวิชาต่างๆ ซึ่งจากนั้นนายพรวนเองก็ได้คาดคิดไปว่าสิ่งที่ตัวเองฝันนั้นจะเป็นเรื่องที่น่าสอดคล้องกับความเป็นจริงที่ได้ประสบผลกับความฝันที่ตัวเองได้ประสบเห็นได้ และคงคาดคิดว่าเขาคงจะไปเจอดีเข้าแน่หรืออาจจะเจออำนาจเสือของหลวงปู่ที่ตัวเองห้อยติดตัวที่ได้ยึดมั่นมาตลอด ซึ่งมันก็อาจจะเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ และการใช้อำนาจจิตในการเล่นของอวิชชาหรือเดรัชฉานวิชานั้นถือเป็นไสยศาสตร์อย่างหนึ่งที่เป็นอำนาจของมนต์ดำแต่ต้องมาพ่ายแพ้กับอำนาจของพุทธคุณซึ่งเป็นอำนาจอันบริสุทธิ์ที่จะไม่มีอำนาจของสิ่งใดในโลกนี้จะมาเปรียบเสมอมิได้เลย

    เราจะเห็นว่าอำนาจของพุทธคุณที่ได้อธิษฐานจิตและปลุกเสกไปเพื่อให้เกิดอานุภาพที่ดีและถูกต้องได้นั้น หลวงปู่ทิมท่านได้กล่าวกับลูกศิษย์อยู่อย่างเสมอว่าการที่ได้ยึดมั่นและถือมั่นนั้นถือว่ามีอิทธิพลอย่างมากในการที่จะใช้ให้สอดคล้องกับวัตถุมงคลเพื่อให้บังเกิดผลของอานุภาพพุทธคุณที่ดีและสามารถสื่อใช้วัตถุมงคลนั้นได้อย่างมั่นใจได้ เราจะเห็นว่าทำไมหลวงปู่ทิมท่านจะสอนกล่าวให้ทุกคนนั้นยึดมั่นในคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ และคุณของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายรวมทั้งคุณบิดามารดาและคุณครูบาอาจารย์ที่เคารพนับถือต่างๆซึ่งถือว่าเป็นคุณที่ศักดิ์สิทธิ์ ย่อมมีอานุภาพที่บังเกิดผลได้ดีเมื่อนำมาใช้อย่างถูกหลักและเชื่อมั่น เราจะเห็นว่าคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์นั้นซึ่งรวมกันเรียกว่าคุณพระรัตนตรัยหรือพระไตรรัตน์อันหมายถึงแก้วสามดวงหรือแก้วสามประการซึ่งเป็นสิ่งที่ประเสริฐสุดสามอย่างซึ่งประกอบด้วย พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ซึ่งเมื่อกล่าวโดยสรุปแล้ว พระพุทธเจ้านั้นทรงพระคุณอันประเสริฐ 3ประการด้วยกัน คือ พระปัญญาธิคุณ หมายถึง พระปัญญาธิคุณของพระพุทธเจ้าที่ทรงผ่านการปฏิบัติและพัฒนาจนสามารถขจัดสรรพกิเลสได้โดยสิ้นเชิง และทรงช่วยชี้ทางให้สรรพสัตว์ทั้งหลายพ้นจากความทุกข์ได้จริง พระบริสุทธิคุณ คือพระพุทธคุณความบริสุทธิ์ของพระพุทธเจ้าซึ่งสืบเนื่องจากพระปัญญาธิคุณที่ทำหน้าที่ขจัดอวิชชา ทำให้ตื่นจากความหลง ความเขลา และความหลับใหลเพราะอำนาจของกิเลส พระกรุณาธิคุณ คือ พระพุทธคุณของพระกรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อสรรพสัตย์ที่ทรงช่วยเหลือด้วยการชี้แนะแนวทางในการดับทุกข์และมุ่งไปสู่ความสุขอันแท้จริงคือ นิพพาน และความมีอยู่ของพระนิพพานนั้นมิใช่สภาวะที่เกิดจากการสร้างสรรค์ของจิต แต่มีอยู่โดยตัวของตัวเอง คือเป็นความจริงในโลกแห่งปรากฏการณ์ มีสภาวะที่เที่ยง ไม่ใช่สิ่งที่เกิดดับสลับกันไปแบบสิ่งต่างๆ ในโลก ที่พ้นไปจากปัจจัยในการปรุงแต่ง ในสภาวะของนิพพานทั้งรูปและนามนั้นย่อมดับไม่เหลือซึ่งก็เปรียบเหมือนกับความว่างเปล่า แต่ในพุทธศาสนานั้นกล่าวว่าพระนิพพาน.เป็นธรรมที่ต้องเห็นด้วยอริยะจักษุ เป็นธรรมอันบุคคลผู้เพียบพร้อมด้วยมรรคเท่านั้นจะพึงถึงได้ซึ่งพระนิพพานจึงมิใช่เรื่องของการเข้าใจ แต่อยู่ที่การเข้าถึงผลจากการปฏิบัติธรรมของตนเอง ซึ่งเราจะเห็นว่าการที่ได้ยึดในหลักการยึดมั่นของตนเองนั้นสามารถนำมาเป็นแรงของอานุภาพที่ดีได้จากการที่ได้ยึดมั่นและศรัทธาของตนเองเป็นส่วนประกอบหลักด้วยและเราจะเห็นว่าอำนาจของคุณพระรัตนตรัยถือเป็นหลักของอำนาจของพุทธคุณที่ทุกคนนั้นได้ยึดถือและเชื่อมั่นกันแต่จะศรัทธากันมากน้อยเพียงใดแค่ไหนนั้นก็อยู่ที่จิตศรัทธากันของแต่ละคน แต่ถึงอย่างไรคุณของพระรัตนตรัยหรือคุณแก้วสามประการนี้ก็ยังถือเป็นอำนาจที่สูงสุดที่ยังยึดมั่นได้เสมอดังตัวอย่างที่เราเคยได้ยินได้ฟังมา เช่นเวลาที่เกิดเรื่อราวไม่ดีหรือเกิดอุบัติเหตุที่ใกล้ตัวเราจะนึกถึงคำว่า “ พ่อแก้วแม่แก้ว ช่วยลูกด้วยหรือ พ่อแก้วแม่แก้วช่วยลูกช้างที ” ซึ่งบางครั้งเราก็จะได้ยินได้ฟังอยู่เสมอ ซึ่งเราก็จะได้ยินหรือได้ประสบกับอานุภาพของพ่อแก้วและแม่แก้วซึ่งก็หมายถึงแก้วสามดวงก็คือคุณของพระรัตนตรัยส่วนคำว่าพ่อและแม่นั้นอาจจะมาจากคุณของบิดามารดาซึ่งเป็นผู้ให้กำเนิดจึงสามารถรวมกันเป็นพลังแห่งอานุภาพที่เกิดมีความศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาได้นั่นเอง แต่ก็ไม่มีอำนาจใดๆที่จะเกินไปกว่าแรงกรรมหรือกฎแห่งกรรมลงไปได้ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็คือสัจธรรมของชีวิตซึ่งบางครั้งอำนาจของแรงบุญและแรงกรรมก็อาจที่จะสามารถลิขิตชีวิตได้ถ้าจิตศรัทธาของแต่ละคนนั้นได้แตกต่างกันไป หลวงปู่ทิมท่านสอนให้ลูกศิษย์นั้นยึดมั่นแต่คุณความดี ซึ่งเราเห็นว่าคนเราเกิดมานั้นมีทั้งผลบุญและผลกรรมที่ได้สร้างกันมาเมื่อครั้งก่อนซึ่งหมายรวมถึงการสร้างทั้งสิ่งที่ดีที่เป็นกุศลและการกระทำในสิ่งที่ไม่ดีหรือเป็นอกุศล ที่ไม่พึงปรารถนานั้น หลวงปู่ทิมท่านได้สอนศิษย์ไม่ให้ยึดติดหรือหลงใหลในสิ่งที่เป็นวัตถุต่างๆเพื่อให้เกิดกิเลสมูลขึ้นมาซึ่งมันเป็นสิ่งที่ไม่เกิดผลความปรารถนาเพื่อให้เกิดหนทางแห่งมรรคได้ และไม่ให้เชื่อหรือยึดติดในเรื่องของผลบุญและผลกรรมที่ต่างกัน แต่หลวงปู่ท่านจะสอนให้ประกอบแต่คุณความดีเท่านั้น ซึ่งผลของคุณความดีนั้นก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดอานิสงส์ผลบุญที่ดีที่จะส่งผลให้เกิดความปรารถนาดีในภายภาคหน้า ซึ่งผลของการประกอบคุณความดีนั้น จะสามารถที่เป็นแรงพลังหนุนนำที่ดีที่จะสามารถสื่อได้จากอำนาจของคุณพระรัตนตรัยและคุณของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆทั้งหลายที่ได้กระทำตามสัตย์ที่ได้เกิดการศรัทธาจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆทั้งหลายและได้ยึดมั่นในคุณความดีนั้นอยู่เสมอ

    เราจะเห็นได้ดังตัวอย่างที่นายพรวนนั้นได้ประจักษ์กับผลของแรงแห่งอานุภาพที่ได้ประสบกับความเป็นจริงที่เกิดกับตนเองจึงทำให้มีความเชื่อมั่นได้ถึงประสิทธิ์ภาพของอำนาจแรงแห่งพุทธานุภาพที่ตนนั้นได้หมั่นปฎิบัติอยู่เป็นประจำอยู่เสมอ ซึ่งจากเหตุการณ์นั้นมาทำให้คนเรานั้นมีความรู้สึกที่เห็นว่าการที่จะเกิดพลังอำนาจใดๆนั้นก็ต้องเกิดการร่วมแรงร่วมใจด้วยจิตที่ยึดมั่นถือมั่นและแรงศรัทธาที่ดีจึงจะประสบผลแห่งความสำเร็จที่พึงปรารถนาได้ซึ่งเราอาจจะเรียกว่าพลังแรงแห่งศรัทธาก็ว่าได้ และเราจะพึงเห็นได้ถึงหลักความสำคัญต่างๆในพระพุทธศาสนานั้นที่หลวงปู่ทิมท่านได้กล่าวเพียงว่า ให้ยึดมั่นในคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ที่เราได้นับถือและศรัทธากันโดยแท้จริง จึงสามารถที่จะเกิดพลังอำนาจแห่งอานุภาพของอำนาจคุณต่างๆได้อย่างมหัศจรรย์มาก ซึ่งหลังจากนั้นมานายพรวนก็ได้หายจากอาการที่เคยเป็นๆหายๆอยู่นั้นอย่างปลิดทิ้งลงไปได้ และคนที่เคยกระทำในสิ่งที่ไม่ดีกับตนซึ่งก็ได้บังเกิดกับผลของเหตุการณ์ต่างๆนาๆที่ได้ประสบพบเจอกัน จากนั้นคนที่เคยกระทำในสิ่งที่ไม่ดีนั้นก็ได้กลับไปยังถิ่นฐานเดิมตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาโดยไม่ทราบข่าวคราวเลย แต่สิ่งที่ตนเองยังได้ยึดมั่นอยู่เสมอคือหลักคำสอนของหลวงปู่ทิมที่ท่านได้กล่าวไว้ ถึงแม้มันจะเนิ่นนานมาแล้วก็ตามที แต่สิ่งที่ได้ยังศรัทธาอยู่เสมอคือการได้บูชาถึงคุณของพระรัตนตรัยและคุณของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆทั้งหลาย และสิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือการได้ระลึกถึงและการยึดมั่นที่ดีต่อองค์หลวงปู่ทิมอิสริโก แห่งวัดละหารไร่และวัตถุมงคลที่ท่านได้ให้ไว้เพื่อเป็นสื่อในการยึดมั่นที่ดีเพื่อประสบผลของความสำเร็จและความมั่นคงในชีวิตที่ดีต่อไป
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0767.JPG
      IMG_0767.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.4 MB
      เปิดดู:
      166
    • IMG_0768.JPG
      IMG_0768.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.4 MB
      เปิดดู:
      104
    • IMG_0769.JPG
      IMG_0769.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.5 MB
      เปิดดู:
      88
  11. kengeg

    kengeg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2009
    โพสต์:
    1,735
    ค่าพลัง:
    +7,227
    กราบหลวงปู่ทิม , ลุงสาย แก้วสว่าง

    สวัสดียามเช้าอ.แก้วสว่างและทุกๆท่านครับ
     
  12. bbnman

    bbnman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +146
    สวัสดีทุกท่านครับ
    ติดตามกระทู้มานาน เพิ่งจะมีบุญได้พระของหลวงปู่มาติดตัวครั้งเเรก
    ขอฝากตัวเป็นสมาชิกอีกคนครับผม -/\-
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. The29

    The29 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    848
    ค่าพลัง:
    +2,279
    ขอบคุณ อ.แก้วสว่าง และคุณรักรังสิต มากครับ
    ผมได้รับปลัดขิก ที่อ.แก้วสว่างมอบให้ และทางคุณรักรังสิตเป็นผู้จัดส่ง
    ขอบคุณมากครับ
     
  14. ekasit S

    ekasit S เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    84
    ค่าพลัง:
    +256
    สวัสดีครับทุกท่านเพิ่งมารู้ว่ามีพระเนื้อขาวหลวงปู่ทิม ลังเลอยู่นานจากการหาข้อมูลต่างๆ สุดท้ายก็ได้มาบูชาหนึ่งองค์ บอกตามตรงเลยนะครับ ได้มาวันแรกรู้สึกใจสั่นแบบบอกไม่ถูกเลยทีเดียว นี้ก็เลี่ยมขึ้นคอแล้ว ก็ยังสั่นๆอยู่ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN7721.JPG
      DSCN7721.JPG
      ขนาดไฟล์:
      301.2 KB
      เปิดดู:
      143
    • DSCN7722.JPG
      DSCN7722.JPG
      ขนาดไฟล์:
      313.3 KB
      เปิดดู:
      102
  15. kengeg

    kengeg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2009
    โพสต์:
    1,735
    ค่าพลัง:
    +7,227
    กราบหลวงปู่ทิม , ลุงสาย แก้วสว่าง

    สวัสดียามเช้าอ.แก้วสว่างและทุกๆท่านครับ
     
  16. แควใหญ่

    แควใหญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,271
    ค่าพลัง:
    +10,008
    กราบหลวงปู่ทิม คุณลุงสาย แก้วสว่าง สวัสดีครับอาจารย์แก้วสว่าง น้าต๋อย พี่โต้ง พี่รัก พี่เดชา พี่ภู พี่คนบนเกาะ พี่เตอร์ พี่ทหารเก่า พี่อาทิ พี่romegat พี่รุ่ง คุณโอ๊ด คุณอภิเชษฐ์ ท่านนายกู๊ด คุณthavornsiripat และพี่ๆเพื่อนๆลูกศิษย์หลวงปู่ทิมทุกท่าน สบายดีกันทุกคนนะครับ
     
  17. วต

    วต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2010
    โพสต์:
    514
    ค่าพลัง:
    +1,382
    พิมพ์เศียรโตลงน้ำยาทาเล็บปิดทองแบบลูกทุ่ง สาธุ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. kengeg

    kengeg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2009
    โพสต์:
    1,735
    ค่าพลัง:
    +7,227
    กราบหลวงปู่ทิม , ลุงสาย แก้วสว่าง

    สวัสดียามเช้าอ.แก้วสว่างและทุกๆท่านครับ
     
  19. bundarika32

    bundarika32 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    76
    ค่าพลัง:
    +92
    กราบหลวงปู่ทิม และขอบคุณข้อมูลต่างๆได้อ่านเพื่อมีสติ
    ขอบคุณชาวเวปและอนุโมทนา
     
  20. shinuka

    shinuka ชินจีวร

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +229
    สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...