เปิดตำนานหลวงพ่อทิม วัดละหารไร่

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย แก้วสว่าง, 17 เมษายน 2011.

  1. tanatsan

    tanatsan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    447
    ค่าพลัง:
    +1,082
    ขอฟังด้วยคนนะครับ:d
     
  2. เม่นจัง

    เม่นจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    370
    ค่าพลัง:
    +401
    ยินดีมากครับอาจารย์แก้วสว่าง เรามีสมาชิกเพิ่มอีก 1 คน แล้ว ขอเรียกว่าอาจารย์วังน้ำแล้วกันนะครับ เห็นคุณโต้งบอกว่าเป็นอาจารย์ รออ่านผลงานอยู่ครับ
    ปล. อาจารย์แก้วสว่างครับ ตอนใหม่กำลังจะมาหรือยังครับ รออยู่เหมือนกันนะครับ ไม่ได้กดดันนะครับ:cool::cool::cool:
     
  3. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,321
    สวัสดีจ้า คุณวังน้ำจ้า

    ผมขอมาปูเสื่อนอนรอฟังเรื่องราวดีๆ จากคุณวังน้ำจ้า:cool:
     
  4. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,321
    ผมก็มารออยู่เหมือนกันจ้า
    ไม่ได้กดดันนะจ้า คิดถึงท่าน อ.แก้วสว่างม๊ากกมาก:cool:
     
  5. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,321
    สวัสดีจ้า คุณ 15ค่ำ คุณโต้ง คุณต๋อย คุณนิรัน..คุณ อาร์ท คุณภู คุณลิน คุณ อ.แก้วสว่าง
    คุณเก่ง คุณโจ คุณโชค คุณkong และคุณวังน้ำ สมาชิกทุกๆท่านจ้า
    ผมคิดถึงทุกคนเลยจ้า
    ชะอำวันนี้ลมพัดเย็นดีจัง:cool:
     
  6. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,321
    555ถ้าผมอยู่ด้วยนะ คุณนิรัน ก็จับพลังไป...
    ผมจะขอช่วยคุณ15ค่ำเก็บพระทั้งหมดใส่ถุงกลับบ้านจ้า...:cool:
     
  7. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,390
    ค่าพลัง:
    +19,715

    เอาเข้าให้ ช่วงนี้มีแต่คนจะไปช่วยพี่โมทเก็บกวาดบ้านแฮะ 55555
     
  8. น้าต๋อย เซมเบ้

    น้าต๋อย เซมเบ้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2009
    โพสต์:
    7,815
    ค่าพลัง:
    +58,748
    คุณ 15 ค่ำ แกอาศัยช่วงชุลมุน ถ้าไม่ติดว่าถุงเล็กนะ.....หึหึ

    คาดว่างานปลุกเสกพระรุ่นสร้างศาลาการเปรียญวัดหนองสะเดา ฯ ที่วัดละหารไร่ ของพี่หนุ่มเมืองแกลง
    จะเป็นงานที่พวกเรา เหล่าคนเคารพที่รักหลวงปู่ทิมกันนะครับ ผมหวังว่าวันนั้น
    คงจะได้พบกันถ้วนหน้า และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ
     
  9. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    พระทิม อิสริโก (ต่อจากตอนที่แล้ว)

    [FONT=&quot]ตัวพระทิมเองจากการที่ท่านเป็นคนทำอะไรอย่างจริงจังมั่นคงและเคร่งครัด ท่านคงได้ซาบซึ้งในรสพระธรรมต้องการจรรโลงจิตใจในพระพุทธศาสนาเพื่อเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้าในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ตกทุกข์ได้ยากหรือต้องการให้เป็น ที่พึ่งทางจิตใจในการที่จะช่วยทำนุบำรุงศาสนาให้ดำรงอยู่และสืบทอดต่อไป ประกอบกับพระทิมเองท่านก็ไม่มีภาระอันใดมากที่ต้องเป็นห่วงสำหรับทางบ้าน เพราะพี่ชายของท่านคือตัวปู่ชื่นเองท่านก็ได้ดูแลนายแจ้และนางอินทร์มาโดยตลอด ประกอบกับบ้านของท่านก็อยู่ไม่ห่างไกลจากวัดละหารไร่ พอถึงเวลาวันพระปู่ชื่นก็จะพานายแจ้และนางอินทร์มาทำบุญที่วัดละหารไร่เป็นประจำ หลังจากพระทิมมาอยู่ที่วัดละหารไร่ก็ได้เคร่งครัดในกิจวัตรของสงฆ์โดยเฉพาะการสวดมนต์เพื่อระลึกถึงคุณพระรัตนตรัยและการเจริญภาวนาเมตตาซึ่งจัดได้ว่าเป็นพื้นฐานของการเจริญวิปัสสนาซึ่งเปรียบเสมือนอันเป็นรากฐานหรือแก่นสารของพระพุทธศาสนา ดังคำโบราณเคยกล่าวไว้ว่า [/FONT][FONT=&quot]สวดมนต์เป็นยาทา ภาวนาเป็นยากิน[/FONT][FONT=&quot] พระทิมท่านได้หมั่นฝึกท่องบทสวดมนต์บทเจ็ดตำนานและสิบสองตำนานซึ่งเป็นบทสวดมนต์ของการสวดมนต์ในสมัยก่อนซึ่งแต่เดิมจะมีชื่อเรียกว่าการสวดพระปริตรโดยตามหลักพระพุทธศาสนาจะแปลว่าเครื่องคุ้มครอง คือจะเป็นมนต์บทสวดสำหรับการปกป้องและคุ้มครองหรือการอาจจะเรียกได้ว่าเป็นบทสวดเพื่อการป้องกันภยันตรายต่างๆก็ว่าได้ การสวดนั้นก็จุดประสงค์เพื่อให้มีความเป็นสิริมงคล และเพื่อเพิ่มพูลเสริมสร้างบารมี ซึ่งการสวดพระปริตรนี้จะเป็นที่นิยมมากในหมู่ชาวพุทธซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลมาจวบจนถึงปัจจุบัน พอเวลายามว่างพระทิมท่านก็ได้ศึกษาตำราใบลานเก่าของหลวงพ่อสังข์เฒ่าควบคู่กันไปด้วยโดยที่พระทิมได้ศึกษาเรียนรู้ของท่านเองและจากคำกล่าวที่ว่าพระพุทธมนต์ซึ่งเปรียบเสมือนมนต์ของพระพุทธเจ้า พระทิมท่านคงมีจิตในการที่จะมุ่งแสดงหลักธรรมทางพระพุทธศานาโดยแท้จริงในการที่จะให้การสวดมนต์นั้นขลังหรือมีความศักดิ์สิทธิ์ซึ่งความจริงแล้วก็มีความเป็นไปได้หลายประการ ซึ่งประกอบด้วยเหตุผลผู้สวดมนต์ก็จะต้องทำจิตของตนให้นิ่งหรือสงบเพื่อให้จิตของตนเป็นสมาธิ และด้วยอำนาจของจิตที่เป็นสมาธินี้เองก็สามารถทำให้เกิดสิ่งที่ไม่น่าเชื่อต่างๆขึ้นได้ ซึ่งอำนาจจิตนี้ก็จะต้องได้รับการฝึกฝนเพื่อให้เกิดอำนาจของจิตนี้เป็นพลังซึ่งเราอาจจะรวมเรียกกันว่าพลังจิตก็ว่าได้ซึ่งสามารถทำให้เกิดฤทธิ์เดชหรืออิทธิปาฏิหารย์ต่างๆได้อย่างเหลือเชื่อและตัวพลังจิตนี้ถ้าวิเคราะห์ให้ดีน่าจะเป็นตัวสำคัญที่ทำให้เราได้เห็น ทำให้เราได้ยิน และทำให้เราเคลื่อนไหวในอิริยาบถต่างๆ หลังจากที่พระทิมได้หมั่นท่องบทสวดเจ็ดตำนานและสิบสองตำนานจนจบโดยใช้ระยะเวลาไม่นานด้วยความมุมานะความเพียรพยายามและความตั้งใจอันแน่วแน่ของพระทิมท่านสามารถท่องบทสวดมนต์ได้อย่างคล่องแคล่วว่องไว และในการศึกษาตำราใบลานเก่าของหลวงปู่สังข์เฒ่านั้นพระทิมท่านคงศึกษาและเรียนรู้ในการสวดท่องบทคาถาต่างๆในตำรา และอาจมีตำราบางบทเวลาถ้านำไปใช้ถ้าทำจิตหรือสมาธิไม่ถึงขั้นคาถาบทนั้นก็ยังใช้ไม่ได้ผล หรืออาจบางทีการที่จะเสกของหรือวัตถุสิ่งใดก็แล้วแต่เพื่อให้เกิดสัมฤทธิ์ผลขึ้นมาถ้าจิตหรือสมาธิของผู้เสกยังไม่ถึงระดับอภิญญาญาณก็ยังไม่สามารถทำได้ พระทิมท่านได้หมั่นฝึกฝนจิตหรือสมาธิของท่านอยู่เสมอ ถ้าจะให้ถึงจุดมุ่งหมายได้ให้ถึงระดับที่เรียกว่าอภิญญาหรืออภิญญา [/FONT]6[FONT=&quot] คือสามารถแสดงฤทธิ์หรืออิทธิฤทธิ์ได้ เป็นทิพโสตมีหูทิพย์ ตาทิพย์ สามารถรู้การตายของคนและสัตว์สามารถรู้วาระจิตรู้ความคิดของคน สามารถระลึกชาติได้และสามารถหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดได้ ซึ่งสิ่งดังกล่าวนี้ถ้าจะให้บังเกิดผลได้ก็จะต้องทำปัญญาให้เห็นแจ้งซึ่งเรื่องของปัญญานี้ย่อมเป็นตัวสำคัญในการดำเนินชีวิตและเป็นตัวชี้นำในการแก้ปัญหาต่างๆในชีวิตประจำวัน และจะต้องมีความตั้งมั่นอยู่ในศีลในธรรมให้จิตเกิดความสงบได้ทั้งกายวาจาใจคือจะต้องมีการเจริญสมถะวิปัสสนากรรมฐาน พระทิมท่านได้ศึกษาและเรียนรู้เรื่องการภาวนาต้องมีความเชื่อมั่นศรัทธาเชื่อมั่นในการบริกรรมภาวนาอันเป็นอารมณ์ของจิต การที่จะภาวนาแล้วจะต้องบังเกิดผลนั้น พระทิมท่านได้ศึกษาและเรียนรู้ว่าการภาวนานั้นจะต้องมีใจที่แน่วแน่ มั่นคง ให้จิตอยู่กับพุทโธและให้พุทโธเข้าถึงจิต ซึ่งจะทำให้จิตนั้นกลายเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ทำให้มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีและสิ่งสำคัญนี้ก็จะไม่เกิดในจิตของการภาวนาพุทโธนี้ พระทิมเวลาจะภาวนาท่านจะใช้พุทโธนี้ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการฝึกฝนจิตและทำจิตให้สงบ เพื่อการเจริญกรรมฐานเพื่อที่จะขจัดนิวรณ์ทั้ง [/FONT]5[FONT=&quot] คือ[/FONT]1[FONT=&quot]. กามฉันทะคือความใคร่ในกาม [/FONT]2[FONT=&quot].พยาปาทะคือความพยาบาทเคียดแค้น [/FONT]3[FONT=&quot].ถีนะมิทธะคือความง่วงเหงาหาวนอน [/FONT]4[FONT=&quot].อุทธัจจะกุกกุจจะคือความฟุ้งซ่านรำคาญ [/FONT]5[FONT=&quot].วิจิกิจฉาคือความลังเลไม่ตกลงใจที่จะประพฤติปฏิบัติธรรมโดยเอาชีวิตเข้าแลก และการให้จิตภาวนาว่าพุทโธซึ่งการฝึกฝนจิตนั้นจะต้องตั้งมั่นอยู่ในคำบริกรรมพุทโธนี้และให้เอาสติไปควบคุมอยู่ในพุทโธเป็นอารมณ์เดียวและการภาวนาพุทโธไปเรื่อยๆจะทำให้ใจเป็นกลาง วางจิตให้เสมอ เอาสติไปกำหนดจิตและบริกรรมภาวนาพุทโธไปเรื่อยๆนี้จะทำให้กิเลสความยึดมั่นถือมั่นในสิ่งทั้งปวงมันจะค่อยๆหายไปเอง และขอให้เชื่อมั่นในพุทโธซึ่งคำว่าพุทโธนี้ก็เปรียบเสมือนการระลึกถึงพระพุทธเจ้า ซึ่งจะเห็นได้ว่าพระทิมท่านได้ยึดมั่นและถือมั่นในองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยแท้จริงซึ่งท่านได้ยึดหลักปฏิบัติในพระพุทธศาสนาเรื่อยมา และมีสิ่งหนึ่งที่ท่านเคยสอนให้กับชาวบ้านและลูกศิษย์ยุคเก่าๆอยู่เสมอให้ทุกคนยึดในหลักพุทธศาสนาคือให้มีศีล สมาธิ ปัญญา ดั่งคำบาลีกล่าวไว้ว่า[/FONT][FONT=&quot]สีเล ปติฏฐายนโร สปญโญ จิตฺตํ ปัญญญ จ ภาวยํ อาตาปิ นีปโก ภิกขุ โสอิมํวิชฏเย ชฏํ [/FONT][FONT=&quot]บุคคลใดตั้งอยู่ในศีล ทำสมาธิให้เกิด ยังวิปัสสนา ปัญญาให้แจ้ง บุคคลผู้นั้นก็จะสางความยุ่งเหยิงในโลกนี้ได้[/FONT][FONT=&quot]ซึ่งความยุ่งเหยิงก็คือ กิเลส มี โลภะโทสะ โมหะ หรือความโลภ ความโกรธ ความ[/FONT][FONT=&quot]หลง ที่มาวุ่นวายในจิตใจเราตลอดเวลา ซึ่งจะเห็นว่าพระทิมท่านได้ละกิเลสแล้วทั้งสิ่งทั้งปวงและท่านได้ศึกษาหลักธรรมในพระพุทธศาสนาจนลึกซึ้ง และได้เห็นถึงแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาและการเจริญทางแห่งวิสุทธิมรรค และพระทิมท่านคงได้บรรลุธรรมในพระพุทธศาสนา ซึ่งท่านได้เห็นว่า ศีล สมาธิ ปัญญา นี้ซึ่งถ้ากล่าวก็จะอธิบายได้ว่า ศีล(มะ) สามารถละกิเลสทางกายและวาจา สมาธิ(อะ) สามารถละความคิดฟุ้งซ่านต่างๆ ปัญญา(อุ) สามารถละความรัก ความชัง ที่เกิดจากการได้เห็น ได้ยิน รูป เสียง กลิ่น รสสัมผัสที่ดีไม่ดีได้ ซึ่งจะเห็นได้ว่าพระทิมท่านจะให้ยึดหลักใน ศีล สมาธิ ปัญญา หรือ ความหมายอีกอย่างก็คือ มะอะอุ ซึ่งตามความหมายของหลักพุทธศาสนาก็คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ถ้าเราสามารถเข้าไปถึงแก่นแท้ได้ก็จะเป็นอานุภาพแห่งความบริสุทธิ์อันศักดิ์สิทธิ์นี้ มีอีกประการหนึ่งที่พระทิมท่านได้พิจารณาจนสิ้นสุดลงได้และเห็นถึงหลักธรรมะคือหลักของไตรลักษณ์ซึ่งหลักไตรลักษณ์นี้เป็นธรรมที่พระพุทธเจ้าท่านได้ตรัสรู้ไว้มีหลักสามประการคือ [/FONT]1[FONT=&quot]. อนิจจัง คือความไม่เที่ยงไม่ยั่งยืน มีการเสื่อมและสลายไปซึ่งแสดงถึงความไม่เที่ยงของขันธ์ห้า [/FONT]2[FONT=&quot].ทุกขัง คือการเป็นทุกข์เป็นภาวะที่ทนได้ยากความไม่สบายทั้งกายและใจ แสดงถึงความทุกข์ของขันธ์ห้า [/FONT]3[FONT=&quot].อนัตตา เป็นอาการของสิ่งที่ไม่ใช่ตัวตน กายนี้ไม่ใช่ของเราเป็นอนัตตา ความตายไม่มีใครหลีกหนีพ้นไปได้ และนี่คือหลักสัจธรรมของมนุษย์ที่พระทิมท่านได้พิจารณาจนพบทางแห่งความสำเร็จและท่านคงได้สำเร็จในหลักสัจธรรมของจิตคือการหลุดพ้นจากกิเลสทั้งหลายทั้งปวง[/FONT][FONT=&quot]หลังจากที่พระทิมได้เพียรพยายามฝึกฝนตนเองจนพบทางแห่งความหลุดพ้นซึ่งเป็นหนทางสู่พระนิพพาน ซึ่งการที่จะพบหนทางแห่งจุดมุ่งหมายที่สำคัญนั้นจะต้องมีการบำเพ็ญสณธรรม ด้วยการเดินธุดงค์เพื่อแสวงหาที่เงียบสงัดวิเวกสำหรับการฝึกสมาธิจิต บำเพ็ญเพียรเพื่อมรรคผลต่อไป หลังจากนั้นครั้นพอถึงเวลาออกพรรษา พระทิมท่านก็ได้กราบลาเจ้าอาวาสวัดละหารไร่เพื่อการธุดงค์ต่อไป<o> (ติดตามตอนต่อไปในวันพฤหัสหน้านะครับ.......)
    </o>
    [/FONT]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1271931945.jpg
      1271931945.jpg
      ขนาดไฟล์:
      141.9 KB
      เปิดดู:
      37
  10. kong2

    kong2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    767
    ค่าพลัง:
    +883
    สวัสดีครับอาจารย์
    สวัสดีครับพี่ๆเพื่อนๆทุกคน
    อาจารย์มาลงให้อ่านอย่างจุใจแล้วครับ

    กทม ฝนตก ลมแรง ฟ้าร้อง หลับเพิ่งตื่นครับ
     
  11. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,321
    555 วันนี้คุ้มกับเวลาที่รอคอยจ้า ขอยาวๆแบบนี้อีกนะครับ
    ขอให้ท่าน อ.แก้วสว่าง รวยๆนะครับ
    ผมมาปูเสื่อนอนรอตอนต่อไปจ้า อิอิ
     
  12. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,321
    ช่วยแบ่งฝน กทม มาตกชะอำบ้างนะจ๊ะ แล้งจังจ้า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มิถุนายน 2011
  13. เม่นจัง

    เม่นจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    370
    ค่าพลัง:
    +401
    ขอบคุณอาจารย์แก้วสว่างมากครับ วันนี้ซาบซึ้งใจจริงๆครับ
     
  14. บุญพามา

    บุญพามา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2010
    โพสต์:
    605
    ค่าพลัง:
    +1,566
    (ติดตามตอนต่อไปในวันพฤหัสหน้านะครับ.......)

    [FONT=&quot]</O>[/FONT]ขอบคุณครับ ผมจะรอติดตามต่อวันพฤหัส ซึ่งถือเป็นวันครู ด้วยครับ...
     
  15. เม่นจัง

    เม่นจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    370
    ค่าพลัง:
    +401
    นอนสบายเลยนะเพื่อน อิจฉาจัง
     
  16. kong2

    kong2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    767
    ค่าพลัง:
    +883
    เชื่อว่าไม่น่าจะเกินคืนนะครับพี่ ฝนจะตกที่นั่น
     
  17. kong2

    kong2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    767
    ค่าพลัง:
    +883
    ฝันแปลกๆด้วยเม่น ทานข้าวยังเม่น
     
  18. kong2

    kong2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    767
    ค่าพลัง:
    +883

    อาจารย์จะไปไหนเหรอครับ ทำไมถึงบอก(ติดตามตอนต่อไปในวันพฤหัสหน้านะครับ.......) นะครับ
     
  19. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    อาจารย์ไม่ได้ไปไหนต้องให้เวลาพักสมองสักหน่อย ทำงานด้วยเขียนบทความให้ทุกๆท่านได้อ่านด้วยเดี๋ยวจะแก่ก่อนวัย เอาน่ะครับอยากได้อ่านบทความดีๆก็ขอเวลาหน่อยนะครับ......
     
  20. น้าต๋อย เซมเบ้

    น้าต๋อย เซมเบ้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2009
    โพสต์:
    7,815
    ค่าพลัง:
    +58,748
    นิมนต์หลวงปู่ทุกอาทิตย์ก็แย่แล้วครับ....รับแขกเป็นนิจ
     

แชร์หน้านี้

Loading...