เรื่องราวที่คนทั่วๆไปไม่ค่อยรู้

ลูกศิษย์ของหลวงปู่ยีนั้น เพื่อนผมเองก็เป็นลูกศิษย์ของพระสงฆ์องค์หนึ่งที่ท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ยี วัดดงตาก้อนทอง หลวงปู่ยีนั้น ท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่พระอุตรเถระเจ้าครับ

พระสงฆ์องค์นี้ ท่านเคยบอกกับเพื่อนผมว่า หลวงปู่ยีนั้น บางวันท่านเหาะเข้ามาทางหน้าต่าง ท่านถือตาลปัดมาด้วย หลวงปู่ยีท่านจะมาสนทนาธรรมกับลูกศิษย์ของท่านเสมอครับ

.

 

ลูกศิษย์ของหลวงปู่ยีนั้น เพื่อนผมเองก็เป็นลูกศิษย์ของพระสงฆ์องค์หนึ่งที่ท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ยี วัดดงตาก้อนทอง หลวงปู่ยีนั้น ท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่พระอุตรเถระเจ้าครับ

พระสงฆ์องค์นี้ ท่านเคยบอกกับเพื่อนผมว่า หลวงปู่ยีนั้น บางวันท่านเหาะเข้ามาทางหน้าต่าง ท่านถือตาลปัดมาด้วย หลวงปู่ยีท่านจะมาสนทนาธรรมกับลูกศิษย์ของท่านเสมอครับ จริงๆแล้วผมเองจะไม่ลงเนื่องจากว่าเป็นเรื่องอจินไตย แต่เห็นคุณอัญญาสิทธิ์ คุยในเรื่องหลวงปู่ยีครับ
.

 

โอ้ว

 

ผมเอาเรื่องของ กายนคร มาให้ทำความรู้จักกัน ผมเห็นว่า ความคิดผมนะ คนเรานี่มันก็แปลก รวมผมด้วย อยากจะรู้แต่เรื่องของคนอื่น จนรู้เรื่องของคนอื่นดีกว่าเรื่องของ นครที่เราอยู่คือ กายนคร ทั้งหมดนี่คือ เรื่องภายในที่นักปฏิบัติ สายวิปัสสนา ควรรู้ แต่ที่คุยๆกันอยู่นั้นคือ สมถะ

๑.บริเวณ เมือง กายนคร

เมืองกายนคร ( เมืองสังขาร ) นี้ มีเนื้อที่กว้างศอก ยาววา หนาคืบ

มีกำแพง ๔ ชั้น

 

ผมขอขอบคุณคุณอัญญาสิทธิ์ ที่มาแลกเปลี่ยนความรู้กัน ผมนำเรื่องหลวงปุ่บรมครูเทพโลกอุดรมาโพสนั้น ผมเองจะเผยแพร่เรื่องของหลวงปู่ในความคิดเห็นของผม(ซึ่งเป็นความคิดเห็นของท่านอาจารย์ประถม อาจสาครและท่านพันเอกชม สุคันธรัตน์) มีหลายสิ่งหลายอย่างในเรื่องราวต่างๆ ส่วนใหญ่จะไม่ได้มีแฟกเตอร์เพียง 2 ถึง 3 ประเด็น แต่บางทีอาจมีแฟกเตอร์บางเรื่องที่คิดไม่ถึงก็มี บางทีแฟกเตอร์บางเรื่องเป็นสิ่งที่ไม่รู้ก็มี แต่ผมเองก็ขอขอบคุณที่คุณอัญญาสิทธิ์ได้นำเรื่องราวของพระศรีฯ มาเล่าสู่กันฟังนะครับ



และผมขอขอบคุณ คุณkitjang<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_349808", true); </SCRIPT> ที่นำเรื่องราวดีๆมาเล่าสู่กันฟัง เป็นคำสอนของพ่อ(พระพุทธองค์) และพระอริยสงฆ์ที่เป็นครูบาอาจารย์ ที่สอนให้เราไม่ควรไปสนใจในเรื่องนอกตัว ให้มาพิจารณาในตัวเอง โมทนาสาธุครับ


.

 

วันนี้เป็นวันที่น่าเสียใจสำหรับชาวมอญ ที่เสียหลวงพ่อ อุตตมะไป ข้าพเจ้าขอแสดงความเสียใจที่ ท่านจากไป ท่านเป็นพระที่เผยแผ่พุทธธรรม ไปยังชาวมอญ ท่านทำความดีไว้ให้กับศาสนาไว้มาก ท่านก็คงไปสู่ในที่ที่ดี คุณงามความดีที่ทำไว้จะอยู่คู่ วัดวังก์วิเวการาม สืบต่อไป

 

มันดีๆ ชอบๆ เล่าอีกๆ.

 

ขอบคุณครับ คุณkitjang ที่นำเรื่องกายนคร มาให้ได้อ่านกัน
เรื่องกายนคร ผมได้ซื้อ cd มาฟังเหมือนกัน
แต่ฟังเท่าไร ก็ไม่จบซักที ดีมากครับ
หลวงพ่อพุทธอิสระ ท่านเปรียบเทียบเล่าเป็นนิทาน
ให้ฟังได้อย่างไม่รู้เบื่อ แต่ต้องใช้เวลาหน่อย เพราะมันยาว

เมื่อ 2-3 ปี ที่ผ่านมา ผมได้ไปที่สำนักพิมพ์ผู้จัดการ ท่าพระอาทิตย์
เพื่อซื้อเทปบรรยายธรรม ของหลวงปู่
ซื้อทีก็ 30-40 ม้วน ปีละครั้ง
ซื้อติดต่อกันได้ สัก 2 ปี แล้วก็แจกจ่ายให้กับผู้ที่สนใจต่อไป

ภูมิธรรมของหลวงปู่สูงส่งจริงๆครับ
ผมได้อะไรดีๆ จากการฟังเทปของท่าน
ช่วงหลังยังไม่ได้หามาฟังเพิ่ม
คงต้องนำของเก่ากลับมาฟังใหม่

ขออนุโมทนาครับ

 

ขออนุญาตแทรกกวนเวลาของท่านเจ้าของกระทู้หน่อยนะค่ะ

ส่วนความเสียใจก็มีอยู่บ้างนะ แต่เป็นความเสียใจที่ปะปนด้วยความดีใจและยินดีเป็นส่วนใหญ่ค่ะ เนื่องด้วยลักยิ้มเคยไปกราบท่านตอนประมาณเดือนเศษเห็นจะได้ที่ รพ.ศิริราช พบท่านแล้ว ตกใจและสลดใจเสียใจมากค่ะ เพราะเห็นท่านนอนบนเตียงแบบไม่รัรบรู้สิ่งใดทางกาย ผิวดำคล้ำ ปากบวมแดง(คล้าย ๆ ปลิ้น) ตัวท่านก็บวมด้วยมั้งค่ะ ถึงได้ให้ผู้ที่สะดวกไปกราบท่านเพื่อระลึกเป็น สติ ไว้

บุญบารมีและคุณความดีท่านประมาณมิได้ ท่านยังหนีไม่พ้น กฎของธรรมชาติเลย นับประสาอะไรกับบรรดาพวกเรา แม้แต่ศีล 5 บางท่านยังต้องครองแบบเลี้ยงไข่อยู่เลย เผลอเป็นแตก ๆ

เคยไปได้ยินศิษย์ท่านหนึ่งเรียนถามพระอาจารย์ที่เขานับถือว่า เวลาพระอริยเจ้าทั้งหลาย จะขอละซึ่งสัลขาร แล้วลูกศิษย์ของท่านเหล่านั้นขอให้ท่านทรงขันธ์ต่อ ทำไมบางทีท่านถึงไม่ยอมสงเคราะห์ (ประมาณแบบนี้นะค่ะ)

ซึ่งพระอาจารย์ท่านก็ตอบให้คิดกันแบบง่าย ๆ ว่า ทุกอย่างควรคำนึงถึงเป็นจริง สังขารเป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง เมื่อมีแล้วทุกข์ไหม มันทุกข์ ปกติมันก็ต้องทุกข์ แล้วเวลาเจ็บไข้ได้ป่วยก็ยิ่งทุกข์ หลายโรครุมเร้า ถ้าเป็นเรา..เราอยากอยู่ต่อไหม ท่านก็เช่นเดียวกัน (ประมาณว่าเช่นนี้นะค่ะ)

เมื่อฟังจบแล้วก็ซาบซึ่งถึงกระดองใจว่า เอ๋อหนอ...เวลาที่ท่านอยู่พวกเราก็ไปกวน ๆๆๆๆ ท่าน ไม่หยุดไม่หย่อน เหนื่อยก็ไม่ค่อยได้พักเพราะเกรงว่ากำลังใจและศรัทธาของญาติโยมทั้งหลายจะเสียไป แม้ท่านป่วย สังขารก็ล่อแร่ ๆ ยังจะขอให้ท่านทรงสังขารต่ออีก เฮ้อ...เหนื่อย ๆ อย่างหลวงพ่ออุตตะมะท่านเองก็ทรงขันธ์มาตั้ง ขนาดดนี้ เหนื่อยแสนเหนื่อยมากแล้ว ถึงเวลาท่านละวางแล้วแม้แต่ขันธ์ท่านเอง ตอนนี้ลักยิ้มก็เลยมีความรู้สึกว่าขอยินดีและกราบโมทนาบุญกับท่านอย่างสุดซึ่งเลยค่ะ อย่างน้อยก็ยังได้กราบปลายเท้าท่านบนเตียงผู้ป่วยก็ยังดี .... แม้จะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายแต่จะซาบซึ้งไปจนวันตายของลักยิ้มเชียว

โมทนาบุญกับศิษย์ของหลวงพ่อท่าน ทุก ๆ ท่านเลยค่ะ(verygood)

 

ผมขอ อนุโมทนา ร่วมบุญไปด้วยนะขอรับ
ในเวลานี้เรื่องปัจจัยยังไม่พร้อมขอส่งบุญกุศลแทนนะครับ
สาธุ สาธุ สาธุ (-/|\-)

 

สำหรับหลวงพ่ออุตตมะนั้นเพียงแต่สังขารท่านแตกดับใช้การไม่ได้เท่านั้น แต่จิตวิญญาณท่านยังอยู่และไม่เคยตายครับ หากท่านใดปฏิบัติจิตถึงก็ยังถึงท่านได้ครับ

วันก่อนผมถามหลวงปู่เทพโลกอุดรว่า ทำไมท่านมีชื่อมากมาย ท่านบอกว่าแต่ละยุค แต่ละช่วงสมัย แต่ละวาระท่านใช้ชื่อต่างกันเท่านั้นเอง ท่านบอกว่าคำว่าโลกอุดรนั้นก็เป็นคำกลางที่ใช้กันทั่วไป ใครใช้ก็ได้ ของจริงมี ของเท็จก็มี ชื่อต่างๆนั้นมันไม่สำคัญหรอก สำคัญที่ศรัทธาหรือความเชื่อของโยมนั่นแหละว่าจะเชื่อมั่นในสิ่งที่ตนเองประสบมาขนาดไหน เมื่อมีบุพกรรมร่วมกันไม่ต้องแสวงหาก็ได้เจอกัน ท่านบอกว่าโยมเคยเกิดร่วมชาติกันมาถึงเวลาก็ต้องมาเจอกันแหละ

ท่านบอกว่าในประเทศไทยตอนนี้มีพระสงฆ์เพียงรูปเดียวที่ท่านรู้เรื่องเกี่ยวกับหลวงปู่เทพโลกอุดรอย่างละเอียด เป็นพระหนุ่มที่หลวงปู่วัย ขอกราบไหว้และเคารพเป็นอาจารย์ แต่พระท่านก็ขี้เกียจจะพูด ท่านเคยทำบันทึกเกี่ยวกับพระครูเทพโลกอุดรไว้แล้วก็ฉีกทิ้ง ทำอย่างนี้อยู่เป็นประจำ ท่านบอกว่าไม่มีประโยชน์อะไร ท่านไม่ต้องการอะไรจากใคร ท่านบอกว่าท่านมีปราสาท 3 ฤดูอยู่เบื้องบน ท่านรอวันตายอย่างเดียว แต่ก็ไม่ตายสักที ว่าแล้วก็หัวเราะหึหึ บางคนได้พบพระครูเทพโลกอุดรอยู่ต่อหน้าแต่ก็ยังไม่สามารถหยั่งรู้ได้ว่าเป็นท่านแล้วมันจะมีประโยชน์อะไร

เอ้อ น่าเสียดายวันที่ 5 พ.ย. นี้ หลวงปู่เทพโลกอุดรท่านมาร่วมงานทักษิณาวัตรครูบาอาจารย์ท่านหนึ่ง ครูบาอาจารย์ท่านบอกแล้ว แต่ผมก็ติดภารกิจไปร่วมงานท่านไม่ได้ ก็ทำได้แต่ฝากเครื่องขันธ์ห้าไปคารวะครูบาอาจารย์เท่านั้น

 

เรื่องราวของหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรนั้น มีคนเคยนำเรื่องราวของท่านไปในทางที่ไม่ถูกต้อง ชีวิตล้มเหลวมาเยอะแล้วครับ หลวงปู่นั้นโดยปกติแล้วหลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร) กับครูฝึก จะเป็นผุ้ที่ไปโปรดพระสงฆ์และคนโดยทั่วๆไป ส่วนหลวงปู่พระอุตรเถระเจ้ากับหลวงปู่พระโสณเถระเจ้านั้น จะพบหรือเจอท่านนั้นยากมาก ชื่อจริงของหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรนั้น ตามลายเซ็นผม

.

 

สวัสดีครับพี่อัญญาสิทธิ์

รายชื่อพระเถระที่จะนิมนต์มาร่วมอธิษฐานจิต (ที่จะอธิษฐานนั่ง 8 ทิศ)

1. พระเทพสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม) วัดอัมพวัน จ. สิงห์บุรี
2. พระราชญาณปรีชา (หลวงพ่อถวิล กนฺตสิริ) วัดราชาธิวาส สามเสน กทม.
3. พระราพิพัฒนาทร (หลวงพ่อมหาถาวร ถาวโร) วัดปทุมวนาราม กทม.
4. พระครูเกษมวรกิจ (หลวงพ่อวิชัย เขมิโย) วัดถ้ำผาจม อ.แม่สาย จ. เชียงราย
5. พระอธิการ ถวิล จนฺทสโร วัดถ้ำพระบำเพ็ญบุญ จ.เชียงราย
6. พระปลัดซุ่งเฮง อาจารสมฺปนฺโน วัดทองย้อย อ.บ้านนา จ.นครนายก
7. หลวงปู่ละมัย ฐิตมโน สำนักสงฆ์คีรีนามฑา จ.เพชรบูรณ์
8. หลวงพ่อจำเนียร สีลเสฏฺโฐ วัดถ้ำเสือ จ.กระบี่

ขออนุโมทนาครับ

 

ที่บ้านนาก็มีหรือนี่? ไม่น่าใกล้เกือกินด่างเลยตู...

 

คุณอัญญาสิทธิ์ ผมเอาข้อความจากเวปอื่นมาให้อ่าน ผมไม่ได้มีเจตนาให้ตอบโต้กัน ทุกคนต่างก็หวังดีต่อ ศาสนา มุ่งหวังเส้นทางเดียวกัน แต่วิธีไปอาจต่างกัน บางคนอาจจะขึ้นรถไปเร็วกว่า บางคนอาจจะเดินไป คนที่คิดไปเร็วกว่าก็อย่าดูถูกคนเดินไป เพราะไปทางรถอาจจะเกิดอุบัติเหตุ ทำให้ไปไม่ถึง คนที่เดินไปก็ต้องพบกับอุปสรรคนานาชนิด ต่างคนก็ต่างคิดว่าถูกแล้ว ผมว่าครูบาอาจารย์ท่านสอนมาดีแล้ว


ธรรมในส่วนพุทธประเพณีที่หลวงปู่ทองทิพย์และลูกศิษย์เข้าใจผิด
<TABLE width=550 border=0><TBODY><TR><TD>ผมเห็นข้อธรรมในสื่ออินเตอร์เน็ตรู้สึกแปลกใจมากที่ลูกศิษย์หลวงปู่ทองทิพย์ซึ่งอ้างว่าเป็นพระศรีอาริย์แบ่งภาคมาเกิด ในส่วนที่สำคัญเป็นพิเศษ คือ
1. หลวงพ่อฤาษีฯ เป็นพระอรหันต์แล้วแต่ลามาเป็นก้ามซ้ายของหลวงปู่ทองทิพย์
2. หลวงปู่แหวน ที่คนจำนวนมากเห็นว่าเป็นพระอรหันต์แล้วแต่กลับมาเป็นก้ามขวาของหลวงปู่ทองทิพย์
หมายเหตุ เขาบอกว่าหลวงปู่ทองทิพย์เป็นพระศรีอาริย์ และหลักฐานทางธรรมต่างๆ ก็พยายามค้านหลวงพ่อฤาษีฯ มาตลอด เช่น
1. หลวงพ่อฤาษีฯ บอกว่า พระพุทธเจ้าเป็นประธานประชุมพระโพธิสัตว์ที่เทวสภา แต่ศิษย์หลวงปู่ทองทิพย์ค้านว่าเขาไม่เคยเห็นพระพุทธเจ้าเป็นประธาน แต่เห็นพระศรีอาริย์คือหลวงปู่ทองทิพย์เป็นประธาน
2. ลูกศิษย์หลวงปู่ทองทิพย์อ้างว่า หลวงปู่ทองทิพย์สอนว่า เข้านิพพานแล้วออกมาไม่ได้ แต่หลวงพ่อฤาษีฯ สอนผมว่า ถ้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายเสด็จมาเยี่ยมพระโพธิสัตว์ไม่ได้ จะแสดงเหตุปัจจัยการเป็นพุทธประเพณีในอดีตและอนาคตกันได้อย่างไร
3. หลวงพ่อฤาษีฯ ท่านสอนว่า พระพุทธเจ้าองค์ปฐมคือ พระพุทธสิกขีทศพลที่ 1 แต่ศิษย์หลวงปู่ทองทิพย์อ้างว่าหลวงพ่อฤาษีฯ รู้ไม่จริง ญาณทัสสนะผิดพลาด (ลามาเป็นอัครสาวกของหลวงปู่ทองทิพย์แล้วจะมารู้เรื่องพุทธวิสัยไม่ได้) ทางลูกศิษย์หลวงปู่ทองทิพย์อ้างว่าพระพุทธเจ้าองค์ปฐมเรียกว่า พระพุทธวิปัสสี
4. เขาพยายามเคลียร์งานกันพระสุวิทย์แห่งวัดอ้อน้อย และพระใหญ่แห่งวัดธรรมกายาราม จ.ราชบุรี ลูกศิษย์หลวงปู่ทองทิพย์อ้างว่า หลวงพ่อฤาษีฯ ถูกดุด่าว่ากล่าวจากผู้ที่จะเป็นพระพุทธเจ้าได้ เพราะหลวงพ่อฤาษีฯ ลามาเป็นสาวกฯ แล้ว

เรื่องต่างๆ ที่กล่าวมา แม้จะไม่ร้ายแรงเท่ากับจะถูกปิดสายมโนมยิทธิเหมือนไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งผมก็ใช้ปัญญาแก้ปัญหาให้ ถ้าหากพระสงฆ์นักปกครองในส่วนกลางจะปิดสายมโนมยิทธิให้ได้เหมือนปิดสายธรรมกายไปแล้วก็ไม่ยาก แต่ต้องให้พระผู้ใหญ่ทั้ง 2 นิกายถอนสามัญญผลสูตรออกจากพระไตรปิฎกเล่ม 9 ให้ได้ก่อน (อันนี้พระพุทธเจ้า หลวงปู่ปาน และหลวงพ่อฤาษีฯ สอนผมไว้ไม่ต้องทำอะไรมาก ใช้ทำบันทึก 2 ฉบับก็แก้ปัญหาได้)
ที่ว่าไม่ร้ายแรงเหมือนจะถูกปิดสายมโนมยิทธิ แต่ข้อธรรมที่แสดงคัดค้านกันมานี้ ใจจริงแล้วผมก็ต้องการรู้ว่าที่ครูบาอาจารย์ให้ความรู้ผมมาทั้งหมดนั้นผมมีความรู้จริงหรือไม่ จริงๆ แล้วผมก็ไม่ได้เข้าข้างสายมโนมยิทธิ (เพราะที่ผ่านมาผมก็บอกว่าหลวงพ่อฤาษีฯ ไม่ได้ลาพุทธภูมิ แต่ท่านจะเป็นพระพุทธเจ้า) และสิ่งที่สำคัญคือ ผมต้องการรู้จริงๆ ว่า เรื่องพุทธภูมิซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดในโลกธาตุ ทำไมศิษย์หลวงปู่ทองทิพย์ไม่หาหลักฐานอายัดกันให้ละเอียดกว่านี้ เพราะใครหลงก็เป็นสัตว์นรกเป็นทางการ ไม่ต้องเป็นปัญหาคาใจใครทั้งหมด
1. ทำไมลูกศิษย์หลวงปู่ทองทิพย์ไม่แสดงแบบแผนมโนมยิทธิเต็มกำลังแบบโลกุตระและอริยประเพณีแต่ละขั้นทางจิตมาสอนลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษีฯ เป็นทางการให้ได้เสียก่อน แล้วค่อยอายัดฯ หลวงพ่อฤาษีฯ
2. ทำไมลูกศิษย์หลวงปู่ทองทิพย์ไม่แสดงแบบแผนสอนนิมิตแห่งสัมมาสมาธิให้ตรงกับสายธรรมกาย หลวงปู่มั่น และผลแห่งอริยประเพณีแต่ละขั้นให้ลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษีฯ ได้เข้าถึงเสียก่อน แล้วค่อยอายัดฯหลวงพ่อฤาษีฯ
3. ถ้าอ้างว่าหลวงปู่ทองทิพย์จะเป็นพระศรีอาริย์ ทำไมไม่สอนมโนมยิทธิแบบพุทธประเพณีให้ลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษีฯ ที่ปรารถนาพุทธภูมิให้ได้เสียก่อน ค่อยลงสื่ออินเตอร์เน็ตว่ากล่าวตักเตือนหลวงพ่อฤาษีฯ ในฐานะหลวงปู่ทองทิพย์จะเป็นพระศรีอาริย์จริง

เหตุที่ผมต้องออกมาปกป้องความรู้ของสายมโนมยิทธิ เพราะ
1. ลูกศิษย์หลวงปู่ทองทิพย์เฉพาะที่ลงอินเตอร์เน็ตคัดค้านและดูถูกการบำเพ็ญของหลวงพ่อฤาษีฯ ทำไมไม่เอาหลักการและวิธีการของหลวงปู่ทองทิพย์มาสอนจิตของลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษีฯ ให้เข้าถึงนิมิต อาการ อารมณ์ของสมถะ 40 จากสมาบัติ 1

 

เรียนคุณ kitjang

แนวทางการปฏิบัติของแต่ละองค์ แต่ละอาจารย์ แตกต่างกันไปตามจริตและบารมีที่ได้สะสมกันมา สมัยนี้การที่จะรู้ว่าใครเป็นพระอรหันต์ พระอริยะเป็นสิ่งที่สามารถพิสูจน์ได้ยากนัก นอกจากพระพุทธองค์ หรือพระอริยะด้วยกันเท่านั้นที่สามารถรู้กันเห็นกันได้ การบำเพ็ญของพระโพธิสัตว์แต่ละบุคคลก็แตกต่างกันไป ถ้าคนๆนั้นรู้เห็นเนื้อนาบุญตนเองแล้ว ด้วยจิตอันเที่ยงตรง ก็สามารถที่จะเห็นบารมีตนเองว่าทำได้มากน้อยแค่ไหน แล้วอย่างไร

การที่จะมาถกเถียงกันว่าพระท่านั้น ท่านนี้ หรือ ลูกศิษย์ของอาจารย์นั้น อาจารย์นี้ สอนขัดแย้งกับของตน แสดงว่าท่านทั้งหลายก็ยังเดินไม่ถูกทางอยู่ดี ถังแม้จะได้เคยไปไหว้นมัสการพระจุฬามณีบนดาวดึงส์ หรือรู้เห็นเกี่ยวกับนรกสวรรค์แล้ว ควรที่เห็นไปในทิศทางเดียวกันที่ว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว มากกว่า ที่จะมาถกเถียงกันอย่างนี้

ตราบใดที่เราไม่สามารถเห็นด้วยจิตสติปัญญาของตนอันซื่อตรงและเที่ยงธรรมแล้ว ก็ไม่ควรยึดมั่นถือมั่นจนเกินไป จริงอยู่ ถึงแม้เราจะเคารพเทิดทูนครูอาจารย์ ก็ควรที่จะเห็นด้วยตนเองอย่างมีสติปัญญาเอง พอเราสามารถพิสูจน์ได้แล้วจึงค่อยเชื่อ
หลวงพ่อทองทิพย์เป็นพระศรีอารย์หรือไม่นั้น ไม่สำคัญ สำคัญที่ว่า ตนเองนั้นเดินตามทางที่พระพุทธองค์ทรงตรัสสั่งสอนหรือเปล่า ถ้าท่านเป็นพระมหาโพธิสัตว์จริง เท่ากับว่าเราได้ทำบาปอันใหญ่หลวงที่ไปตำหนิท่าน
หรือถ้าคิดว่า หลวงปู่ฤาษีฯท่านเป็นพระอรหันต์จริงก็แสดงว่าเป็นบุญของตนเองที่ได้เดินตามทางอริยบุคคล
ควรที่จะเอาใจที่ตำหนิคนอื่น มาตำหนิตนเองดีกว่า พอพัฒนาจิตตนเองจนถึงจุดหนึ่งที่แก่กล้าพอ ก็สามารถเห็นได้ว่า อะไรคือข้อเท็จจริง อะไรคือไม่ใช่
ผมคิดว่า ไม่ว่าจะเป็นหลวงปู่ทองทิพย์ หลวงปู่ฤาษี หลวงปู่แหวน หลวงปู่ต่างๆ คงไม่ต้องการให้เรามานั่งถกเถียงกันเรื่องนี้นะครับ ท่านทั้งหมดต้องการให้เราเดินตามทางของพระพุทธเจ้า เดินตามทางของอริยบุคคลมากกว่า

ควรที่จะฟังอะไร อ่านอะไรด้วยปัญญาอันแยบคาย ไม่ใช่เชื่อเพราะว่าท่านเป็นครูอาจารย์เรา ควรรู้เห็นด้วยใจตนอันซื่อตรงเที่ยงธรรมก่อนแล้วค่อยเชื่อ

ดังนั้นเหตุแห่งความขัดแย้งก็ไม่เกิดขึ้นได้ ทางสายกลางควรดำเนิน

ขออนุโมทนา

 

เป็นพระอรหันต์หรือไม่ อยู่ที่สภาวะธรรมครับ ดูภายนอกไม่ได้แน่ๆ ต้องฟังจากประสบการณ์การบรรลุธรรม สภาวะธรรม แล้วเทียบเคียงกับสภาวะพระอริยะที่บรรลุแล้ว จะพบว่าหลักๆ จะเหมือนๆกัน วิธีนี้โอกาสผิดมีน้อยครับ ถ้ามีเวลาผมจะแจกแจงให้อ่านกัน

 

ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพ สร้างพระพุทธรูปพระพุทธเจ้า 5 พระองค์


ความเป็นมาของการสร้างพระพุทธเจ้า 5 พระองค์<O</O

​

ในปี 2542 พระเดชพระคุณหลวงปู่ทองทิพย์ พุทธปัญโย(โพธิสัตโต) หรือหลวงปู่ทองคำศรี รัตนโคตร ซึ่งเป็นประธานสงฆ์วัดป่าสีดาพระรามลักษณ์รัตนโคตร(วัดป่าพระเจ้านั่งแท่น) ได้มีดำริให้นาวาอากาศโท วีระพงศ์ คงสวัสดิ์ เป็นผู้รับขันธ์หน้าที่ในการสร้างพระพุทธรูปพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ที่ตรัสรู้ในภัทรกัปป์ปัจจุบันนี้ คือ พระกกุสันโธ พระโกนาคมโน พระกัสสโป พระโคตโมและพระศรีอริยเมตตรัยโย โดยมีวัตถุประสงค์ในการสร้างองค์พระเพื่อสืบทอดอายุพระศาสนา ไว้สักการะบูชาแก่เทพยดาและมวลมนุษย์รวมทั้งจะมีผลานิสงส์ในการค้ำจุนประเทศไทยและช่วยสงเคราะห์ ยับยั้งภัยพิบัติต่างๆนานาที่อาจจะเกิดขึ้นแก่ประเทศไทยในอนาคตอันใกล้นี้ด้วย<O</O

พุทธลักษณะขององค์พระ<O</O​

องค์พระมีพุทธลักษณะ ตามพุทธลักษณะของพระแก้วมรกตองค์จริง โดยขยายขนาดให้ใหญ่ขึ้นคือองค์พระกกุสันโธ พระโกนาคมโน พระกัสสโป พระโคตโม นั้นจะมีขนาดหน้าตัก 3.50 เมตร (7 ศอก) และองค์พระศรีอริยเมตไตรโย จะมีขนาดหน้าตัก 3.80 เมตร(8 ศอก) องค์พระพุทธรูปทั้ง 5 พระองค์จะหล่อด้วยทองเหลืองพ่นสีเขียวมรกต เมื่อสร้างเสร็จแล้วจะนำไปประดิษฐานไว้ที่วัดป่า สีดาพระรามลักษณ์รัตนโคตร ต.สีกาย อ.เมือง จ.หนองคายและจะสร้างปราสาทรองรับเพื่อประดิษฐานพระพุทธรูปทั้ง 5 พระองค์ด้วย<O</O
บัดนี้ถึงกาลเวลาที่จะดำเนินการสร้างพระพุทธรูปตัวแทนของพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ดังกล่าวแล้ว เหล่าผู้ศรัทธาในพระพุทธศาสนาและสานุศิษย์ผู้ศรัทธาในองค์หลวงปู่ทองทิพย์ฯ จึงตกลงพร้อมใจกันที่จะจัดพิธีหล่อพระพุทธรูปพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ขึ้นในวันมาฆบูชา(เพ็ญเดือน 3) ปี พ.ศ. 2550 โดยจะใช้สถานที่ในการหล่อองค์พระที่วัดธรรมศาลา อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม และจะดำเนินการหล่อพระให้แล้วเสร็จภายใน 1 วัน

<O
ความเป็นมาเกี่ยวกับวัดป่าสีดาพระรามลักษณ์รัตนโคตร<O</O​

</B>​

วัดป่าสีดาพระรามลักษณ์รัตนโคตรเป็นสถานที่สำคัญมาแต่สมัยโบราณ ตามตำนานสถานที่แห่งนี้เป็นวัดเก่าแก่และเคยเป็นสถานที่บำเพ็ญบารมีของพระพุทธเจ้าทั้ง 5 พระองค์ในภัทรกัปป์นี้คือ พระพุทธเจ้ากกุสันโธ พระโกนาคมโน พระกัสสโป พระโคตโมและ พระศรีอริเมตตรัยโย และในตำนานพระธาตุพนม มีบันทึกปรากฏไว้ว่า เมื่อพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช พระมหากษัตริย์ของลาว ผู้อัญเชิญพระแก้วมรกตจากเมืองเชียงใหม่ มาประดิษฐานที่เมืองเวียงจันทร์ เมื่อพระองค์เสด็จมาสักการะบูชาพระธาตุพนม เสร็จแล้วได้เสด็จมาสักการะพระธาตุเจดีย์ที่เมืองรามลักษณ์ ซี่งเป็นพระธาตุเจดีย์สมัยเดียวกันกับพระธาตุพนม ซึ่งปัจจุบันอยู่ภายในวัดป่าสีดาพระรามลักษณ์รัตนโคตร นั่นเอง และในตำนานของประเทศลาวเกี่ยวกับการสวรรคตของพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ว่า พระองค์ได้ขี่ม้ามาล้มลง แล้วหายไป ณ เมืองรามลักษณ์<O</O

เมื่อหลวงปู่ทองทิพย์ พุทธปัญโย(โพธิสัตโต) หรือหลวงปู่ทองคำศรี รัตนโคตร ได้เดินธุดงค์กลับจากการไปบำเพ็ญบารมีและปฏิบัติธรรมที่ภูเขาควาย ประเทศลาว ท่านได้ค้นพบว่าสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่สำคัญ ซึ่งเกี่ยวพันกับการบำเพ็ญบารมีของพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ ท่านจึงได้ชักชวนญาติโยมผู้ศรัทธา พัฒนาขึ้นเป็นวัดสำหรับเป็นสถานที่ทำปฏิบัติธรรมและทำบารมีของบรรดาผู้ปรารณาพระโพธิญาณและเหล่าสาวกทั้งหลายต่อไป<O</O

​

​

</O


​

 

ประธานฝ่ายสงฆ์<O</O​

หลวงปู่ทองทิพย์ พุทธปัญโย (หลวงปู่ใหญ่)<O</O
หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร<O</O
<O</O
<O</O​

รายชื่อพระเถระที่จะนิมนต์มาร่วมอธิษฐานจิต (นั่งอธิษฐานทั้ง 8 ทิศ)​

1. พระเทพสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม) วัดอัมพวัน จ. สิงห์บุรี
2. พระราชญาณปรีชา (หลวงพ่อถวิล กนฺตสิริ) วัดราชาธิวาส สามเสน กทม.
3. พระราชพิพัฒนาทร (หลวงพ่อมหาถาวร ถาวโร) วัดปทุมวนาราม กทม.
4. พระครูเกษมวรกิจ (หลวงพ่อวิชัย เขมิโย) วัดถ้ำผาจม อ.แม่สาย จ. เชียงราย
5. พระอธิการ ถวิล จนฺทสโร วัดถ้ำพระบำเพ็ญบุญ จ.เชียงราย
6. พระปลัดซุ่งเฮง อาจารสมฺปนฺโน วัดทองย้อย อ.บ้านนา จ.นครนายก
7. หลวงปู่ละมัย ฐิตมโน สำนักสงฆ์คีรีนามฑา จ.เพชรบูรณ์
8. หลวงพ่อจำเนียร สีลเสฏฺโฐ วัดถ้ำเสือ จ.กระบี่​

<O</O
<O</O
รายชื่อครูบาอาจารย์ที่จะมาร่วมงานหล่อพระ
พระอาจารย์น้อย อนุตตะโร ป่าช้าอภัยทาน จ.หนองคาย
หลวงพ่อทองฤทธิ์ วัดป่าวรพตปรีดาราม จ.หนองบัวลำพู
หลวงพ่อทองแดง วัดป่าลาดทอง จ. อุดรธานี<O</O
ฯลฯ​

กำหนดการ
วันมาฆบูชา (ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3)
ตรงกับ วันเสาร์ ที่ 3 มีนาคม 2550

เวลา 11: 09 บวงสรวงเทพยดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์
เวลา 11: 30 เจริญพระพุทธมนต์
เวลา 12: 00 เททองหล่อพระ
เวลา 13 : 00 พระเถระอธิษฐานจิต​

​

คณะกรรมการดำเนินงาน​

ผู้มีจิตศรัทธาสามารถติดต่อร่วมบุญมหากุศลได้ที่<O</O
<O
นาวาอากาศโท วีระพงศ์ คงสวัสดิ์ (081-444-9954)<O</O
คุณกฤษณพจน์ สิทธิศุข (089-202-7216)<O</O
คุณฐตธนวัฒฆ์ พงศ์พานภักดี (086-980-4431)
และศิษยานุศิษย์ของหลวงปู่ทองทิพย์ พุทธปัญโย<O</O​

 

คุณ อัญญาสิทธิ์ ครับ ทำไมผมไม่เห็นมีรายชื่อ พระที่อยู่วัดป่าสีดาฯ เลยหล่ะครับ หรือว่า พระเจ้าอาวาสรูปปัจจุบันไม่มี หรือไม่มีพระที่ดำเนินงาน แล้วหรือครับ เพราะปกติ งานบุญต้องมีประธานฝ่ายสงฆ์ หรือ กรรมการฝ่ายสงฆ์ ที่ดูแลวัดอยู่ขณะปัจจุบัน ดำเนินงานด้วย เพราะผมเห็นแต่พระวัดอื่น แต่พระวัดป่าสีดาฯไม่มีครับ