@@เหรียญ"ก.เกษม อนุสรณ์๗๐๐ปี ลายสือไทย ลพ.เกษม”เพ่งพลังเต็มที่45นาที”"น.21ค่ะ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย punnapak, 19 มีนาคม 2014.

  1. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ติดต่อ ID line:phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,491
    ค่าพลัง:
    +719
    ประวัิติสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรมรังสี

    พระชนมายุ ๕ พรรษา ทรงบรรพชา เป็นสามเณร
    สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรมรังสี ทรงประสูติเมื่อตอนเช้า เวลา ๐๗.๐๐ น. ตรง ของวันพฤหัสบดี เดือน ๕ ขึ้น ๑๕ ค่ำ ปีวอก ตรงกับวันที่ ๑๗ เมษายน พุทธศักราช ๒๓๓๑ ณ ตำบลไก่จ้น อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต้นแผ่นดินรัตนโกสินทร์
    พระองค์ทรงเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ ๒)พระราชมารดาทรงพระนามว่า เกสรคำ เมื่อพระชนมายุ ๕ พรรษา ได้ทรงบรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดระฆังโฆสิตารามมหาวรวิหาร จังหวัดธนบุรี ทรงประพฤติอยู่ในเพศพรหมจรรย์โดยตลอด จนพระชนมายุครบ ๒๐ พรรษา จึงได้ทรงอุปสมบท ณ วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพมหานครนั่นเอง และทรงอยู่ในสมณเพศตลอดจนสิ้นพระชนมายุ ใน เวลาเช้าตรู่ ของวันอาทิตย์ เวลา ๐๖.๐๐ น. ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะเมีย ซึ่งตรงกับวันที่ ๑๙ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๔๑๕ สิริพระชนมายุนับรวมได้ ๘๔ ปี กับ ๒ เดือนเศษ

    ทรงเป็นพระสงฆ์ ๕ แผ่นดิน ในยุคต้นแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ และได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น สมเด็จพระพุฒาจารย์ องค์ที่ ๕ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อวันพฤหัสบดี ขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีชวด พุทธศักราช ๒๔๐๗

    โดยปกติเด็ก ๕ ขวบทั่วไป จะไม่สามารถรับผิดชอบตัวเองได้ ต้องได้รับการช่วยเหลือจากผู้ใกล้ชิด มีพ่อแม่พี่น้องเป็นต้น เมื่อหนังสือเล่มนี้เขียนบอกไว้ว่าพระองค์ท่านบรรพชาเมื่อพระชนมายุ ๕ พรรษา โดยได้พบหลักฐานจากการสร้างพระเป็นรูปไก่ ของสมเด็จพระสังฆราช สุก ไก่ เถื่อนและบันทึกข้อความไว้ว่า“ไก่ ตัวนี้ สุก ไก่ เถื่อน เป็นผู้สร้าง ประสม ทอง เงิน นาน (นาก) ปลุกเสก ๓ พรรษา.ศ. ๒๓๓๒ พอ พ.ศ. ๒๓๓๕ หัวโต วัดระฆังก็ขอไปเลี้ยง” หลักฐานชิ้นนี้ปัจจุบันเก็บรักษาอยู่ที่สำนักธรรมพรหมรังสี
    จากบันทึกของสมเด็จพระสังฆราชสุก ไก่เถื่อน เป็นการยืนยันอย่างชัดแจ้งว่า สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี ได้บรรพชาเป็นสามเณร เมื่อพระชนมายุ ๕ พรรษา และที่วัดระฆังโฆสิตาราม ด้วย แสดงว่า สามเณร โต เป็นผู้มีบุญญาธิการมาประสูติ ดุจเดียวกันกับเจ้าชายสิทธัตถะ เมื่อประสูติ ก็สามารถย่างพระบาทได้ ๗ ก้าว และ อีกพระองค์หนึ่งคือ พระราหุล ซึ่งเป็นพระราชโอรส ของ เจ้าชายสิทธัตถะ ก็ได้บรรพชา ตอนพระชนมายุ ๕ พรรษา เช่นเดียวกัน (เมื่อพระสารีบุตรจรดมีดโกนลงบนพระเศียร เพื่อปลงพระเกศาก็บรรลุพระโสดาบัน และปลงต่อไปจนหมดทั้งพระเศียรก็ทรงบรรลุพระสกิทาคา พระอนาคา และพระอรหันตา ตามลำดับเป็นที่สุด) จากความเป็นจริงที่ปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎกย่อมแสดงให้เห็นโดยชัดแจ้งว่า สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี ได้สั่งสมกุศลบารมีมาเป็นอเนกอนันตชาติดุจเดียวกัน และไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าพระราหุล และเจ้าชายสิทธัตถะ

    น่าจะยืนยันและสรุปได้ว่า สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี ไม่ได้ บรรพชาเป็นสามเณรเมื่อพระชนมายุ ๑๒ พรรษา ดังที่คนทั่วๆไป เข้าใจกันและยิ่งกว่านั้น สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ไม่ใช่พระสงฆ์ธรรมดาทั่วไปอย่างแน่นอน

    พระชนมายุ ๗ พรรษา เริ่มเสด็จออกธุดงค์

    หลังจากทรงบรรพชาเมื่อพระชนมายุ ๕ พรรษาแล้ว ก็เริ่มปฏิบัติธรรมทั้งทางด้านปริยัติ ปฏิบัติและปฏิเวธ ศึกษาค้นคว้าแตกฉานเร็วมากด้วยเหตุแห่งการสั่งสมบารมีมามากเป็นเอนกอนันตชาติ และทรงทราบว่าพระองค์มาจุติหรืออุบัติขึ้นเพื่อเจริญพระศาสนา จึงเร่งศึกษาพระไตรปิฎกอย่างแตกฉานแยกแยะความถูกต้องและผิดพลาดจากการบันทึกไว้ในพระไตรปิฎก เร่งฝึกวิปัสสนาพระกรรมฐานความรู้แจ้งเห็นจริงก็ปรากฏขึ้นในดวงจิตที่มุ่งมั่นสะอาดและบริสุทธิ์
    ทำให้เกิดการรู้เห็นอดีต-ปัจจุบันและอนาคต ยิ่งกว่านั้นรู้ว่าพระองค์มีหน้าที่อะไรจะต้องประพฤติดีปฏิบัติชอบอย่างไร จะต้องโปรดบริวารลูกหลานอย่างไร จึงต้องฝึกจิตรักษาดวงจิตให้เป็นหนึ่งอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้เกิดสมาธิปัญญาอย่างแก่กล้า ได้ฌาน ๔ กสิณ ๑๐ สมาบัติ ๘ สำเร็จโสฬสฌาน จึงเริ่มเสด็จธุดงค์ และมุ่งมั่นไปยังแหล่งสรรพวิชา มหาวิทยาลัยตักศิลา ไปอยู่ตามป่า ตามถ้ำ และในที่สุดก็ไปพบสถานที่หนึ่งซึ่งเคยบำเพ็ญภาวนามาก่อนคือ ถ้ำอิสีคูหาสวรรค์ เมืองกำแพงเพชรพบของเก่ามากมายและที่สำคัญคือใบลานเก่าที่ชำรุดมาก เขียนเป็นภาษาสิงหล “พระคาถาชินบัญชร” พระองค์ท่านได้นำกลับมาเรียบเรียงแก้ไขเป็นภาษามคธ-บาลี เพื่อให้อ่านง่ายและเข้าใจง่าย และได้แปลความหมายของพระคาถาที่ขลังและศักดิ์สิทธิ์มาเป็นร้อยแก้ว เพื่อให้เห็นถึงความสำคัญและอานุภาพของพระคาถา ที่มีค่าท่วมหลังช้าง สามารถนำไปใช้ได้ ๑๐๘ ประการด้วยการสวดท่องและอธิษฐานให้ขจัดทุกข์และบำรุงสุขได้อย่างมหัศจรรย์ ผู้สวดท่องจะทราบทุกคน เพราะเป็นปัจจัตตัง และเป็นสมบัติตกทอดมาจนถึงทุกวันนี้

    พระชนมายุ ๙ พรรษา พระอัจฉริยภาพในการเทศนา

    หลังจากได้ทรงบรรพชาเป็นสามเณร ก็มุ่งมั่นศึกษาค้นคว้าทางด้านปริยัติ ปฏิบัติและปฏิเวธ อย่าง มุ่งมั่นอาจหาญและมั่นคง จึงทำให้ทรงแตกฉานและเพลิดเพลินในพระธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างรวดเร็วและลึกซึ้งมาก จดจำได้แม่นยำเพราะความเป็นพระอัจฉริยะ โดยการสั่งสมบารมีญาณ อยู่ในขันธสันดานอย่างมั่นคงและแก่กล้า มาเป็นเอนกอนันตชาติ ทรงมีพระปัญญาคมกล้าเป็นยอดเยี่ยม จึงสามารถบรรลุมรรคผลอย่างรวดเร็ว โดยการเริ่มเทศน์จากพระคัมภีร์ใบลาน จนกระทั่งเทศน์ด้วยปากเปล่าและในรูปแบบของปุจฉา-วิสัชนา เป็นที่ยอมรับของอุบาสกอุบาสิกาทั้งหลาย ที่ได้ฟังพระสุรเสียงเป็นที่ไพเราะจับใจ ความชัดเจนของอักขระการเอื้อนทำนองวรรคตอนได้ถูกต้อง ภาษาสละสลวย เนื้อหาสาระที่เทศน์ ไม่ว่าจะเป็นพระธรรมเจ็ดคัมภีร์ หรือพระเจ้า ๑๐ ชาติ ก็สามารถเทศน์ให้ญาติโยมได้รับฟังอย่างจับจิตจับใจและฟังอย่างมีความสุข และจดจำเนื้อหาที่เทศน์ได้ และกอร์ปด้วยพระอัจฉริยภาพที่สง่างาม น่ารักของ “ สามเณรจิ๋ว ”

    พระชนมายุ ๑๙ พรรษา สร้างพระสมเด็จรุ่น ๑

    สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี เมื่อได้บรรพชาเป็นสามเณรแล้ว ทรงมุ่งมั่นในการศึกษาพระธรรม และฝึกวิปัสสนากรรมฐาน ในขณะเดียวกัน ก็ได้สร้างผงวิเศษต่างๆ เช่น สร้างดินสอพองขึ้นมาเพื่อเขียนกระดานชนวนลงเลขยันต์ ลบเก็บผงไว้เป็นผงวิเศษ ได้ชื่อว่าผงอิทธิเจ ปถมัง ตรีนิสิงเห มหาราช พุทธคุณ ผงเหล่านี้ เรียกว่าเป็นผงวิเศษ หรือผงศักดิ์สิทธิ์ นอกจากจะสร้างผงขึ้นมาด้วยอำนาจจิต จากความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมา ด้วยพระองค์เองและผงวิเศษที่ได้ถวายมาจากพระอาจารย์ก็ได้เก็บสะสมไว้ โดยตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะเอาไว้สร้างพระ
    พระองค์ท่านได้ตั้งใจในการศึกษาเล่าเรียน แตกฉานว่องไวมาก ได้รับคำชมจากพระอาจารย์ หลายพระองค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือพระอาจารย์สังฆราช สุก ไก่ เถื่อน พระอาจารย์ เฒ่า พระอาจารย์แสง เป็นต้น นอกจากนี้ก็ได้รวบรวมพวกเกสรร้อยแปด ดินเจ็ดโป่งเจ็ดท่า ดินใจกลางเมือง ดินกำฤาษี หรือผงวิเศษจากเทพยดานิมิตให้ ไปเอาจากตามป่าตามเขา ตามถ้ำต่างๆ อยู่ในพระหัตถ์ของพระประธาน ไคลเสมา ไคลโบสถ์ ดินใจกลางเมือง ว่านยาต่างๆ โดยออกธุดงค์ไปยังป่าเมืองต่างๆ เช่น กาญจนบุรี สุพรรณบุรี สุโขทัย กำแพงเพชร เป็นต้น
    เมื่อพระองค์ท่านรวบรวมวัตถุมงคลได้มากพอสมควรก็เริ่มแกะแม่พิมพ์ด้วยพระองค์เอง แม่พิมพ์ที่มีอยู่ในขณะนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นแม่พิมพ์เนื้อผงเกือบ ร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่ได้ทำจากแม่พิมพ์ หินชนวน หรือ หินลับมีด หรือทองเหลือง อย่างที่บางคนเข้าใจ หรือหนังสือบางเล่มเขียนไว้ หรือเมื่อสร้างพระเสร็จแล้วก็ทุบหรือเผาแม่พิมพ์ทิ้งกลัวว่าคนอื่นจะนำไปลอกเลียนแบบ (นั่นเป็นความคิดความเข้าใจของท่านที่คิดหรือเข้าใจว่าพระองค์ท่านเป็นพระสงฆ์ธรรมดา) พระสมเด็จที่พระองค์สร้างก็เลียนแบบศึกษามาจากพระอาจารย์ คือสมเด็จพระสังฆราช สุก ไก่ เถื่อน เพราะมีแม่พิมพ์จำนวนหลายแม่พิมพ์ที่ได้รับการถวายจากสมเด็จพระสังฆราช สุก ไก่ เถื่อน และยิ่งไปกว่านั้นพระบางพิมพ์พระอาจารย์ สมเด็จพระสังฆราช สุก ไก่ เถื่อน ได้มอบหมายให้ มหาโต สัพพัญญู สำนักวัดระฆัง กดพิมพ์แต่ผู้เดียว เป็นต้น

    สำหรับการสร้างพระสมเด็จรุ่น ๑ นั้น พระองค์ท่านมีพระชนมายุเพียง ๑๙ พรรษาเท่านั้น พระสมเด็จรุ่น ๑ สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๓๔๙ หรือ จารึกไว้ที่หลังแม่พิมพ์ว่า ร.ศ ๒๔ การสร้างพระใน ร.ศ ๒๔ นั้นได้สร้างพระไว้จำนวนมากและทรงจารไว้หลังแม่พิมพ์ว่า “แม่พิมพ์สมเด็จพิมพ์ทรงใหญ่” “แม่พิมพ์สมเด็จพิมพ์ทรงเจดีย์” “แม่พิมพ์ทรงนิยม” “แม่พิมพ์ทรงไกรเซอร์” “แม่พิมพ์ทรงปรกโพธิ์” “แม่พิมพ์สังฆาฏิ” “แม่พิมพ์เกศไชโย” “แม่พิมพ์ขุนแผน” “แม่พิมพ์ซุ้มกอ” “แม่พิมพ์พระรอด” “แม่พิมพ์ทุ่งเศรษฐี” “แม่พิมพ์นางพญา” “แม่พิมพ์ผงสุพรรณ” เป็นต้น พร้อมทั้งลงพระนามเป็นอักษรตัว “ต” ไว้ด้วย เช่น “แม่พิมพ์สมเด็จ ต ร.ศ ๒๔ ” “แม่พิมพ์ทรงไกรเซอร์ ร.ศ ๒๔ ต เป็นต้น

    ในการสร้างพระจำนวนมากๆเหล่านี้ จะเห็นได้ว่าพระองค์ท่านต้องใช้ความอดทนพากเพียรพยายามอย่างมาก ใช้พลังจิตอย่างสูงและแกร่งกล้า เป็นธรรมดาคนที่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นก็ต้องกังขาว่า พระสมเด็จรุ่น ๑ มีจริงหรือ? เห็นแต่เป็นเหรียญรุ่น ๑ ที่คนพูดกันของพระเกจิอาจารย์องค์นั้นองค์นี้ พระสมเด็จรุ่น ๑ นั้นทำด้วยเนื้อผง บางองค์แกะพิมพ์สวยงามประณีตบรรจง บางองค์พิมพ์ก็โย้ บางพิมพ์ก็หนา บางพิมพ์ก็บาง แต่จะเป็นพิมพ์หนา พิมพ์บาง หรือพิมพ์โย้ก็ตาม มวลสารเนื้อหาที่ใช้สร้างหรือกดพิมพ์จะเหมือนๆ กันเกือบทั้งหมด เพราะพระองค์ท่านมีสูตรเฉพาะในการสร้างพระ

    ทำไมจึงเชื่อว่าเป็นพระสมเด็จรุ่น ๑ เหตุที่เชื่อว่าเป็นพระสมเด็จรุ่น ๑ เพราะ ทรงจารไว้ด้านหลังแม่พิมพ์ และพระองค์ท่านลงพระนามไว้ด้วย ได้หาดินน้ำมันมากดพิมพ์เพื่อเทียบกับพระที่มีอยู่เป็นแสนเป็นล้านองค์ ใช้เวลาเทียบแม่พิมพ์ค้นหา ๑ ปี เต็มๆ จึงแยกพระออกได้เป็นพิมพ์ต่างๆ ตั้งแต่ แม่พิมพ์รุ่น ๑ ใน ร.ศ ๒๔ หรือ พ.ศ. ๒๓๔๙ แม่พิมพ์ พ.ศ. ๒๓๗๖ , ๒๓๗๘ หรือ ร.ศ ๙๑ รุ่นสุดท้าย ตรงกับ พ.ศ. ๒๔๑๕ สำหรับพระสมเด็จรุ่น ๑ นั้นที่มีอยู่ในขณะนี้ได้มาประมาณ ๙ พิมพ์ และบางพิมพ์ก็จะมีเพียง ๒ องค์ บางพิมพ์อาจจะมี ๑๐ องค์ บางพิมพ์มี เป็น ๑๐๐ องค์แต่ละองค์แม่พิมพ์จะถูกจารไว้ว่าเป็น“แม่พิมพ์พระสมเด็จรุ่น ๑ ”ทั้งนั้น (หากไม่มีการจารไว้บนหลังแม่พิมพ์ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าไม่ใช่พระสมเด็จรุ่น ๑)

    สำหรับในการสร้างพระ พ.ศ. ๒๓๔๙ หรือ ร.ศ ๒๔ ที่พระองค์ท่านบันทึกจารไว้ในหลังแม่พิมพ์เนื้อผงที่มีอยู่ในขณะนี้ จำนวน ๓๐๔ แม่พิมพ์ ตรงนี้เป็นการยืนยันให้เห็นว่า พระองค์ท่านสร้างพระเมื่อพระชนมายุ ๑๙ พรรษา ยังทรงเป็นสามเณร และยังไม่ได้ทรงอุปสมบทเป็นพระภิกษุสงฆ์ หนังสือหลายเล่มเขียนไว้ว่า สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี สร้างพระเมื่อมีพระชนมายุมากแล้ว บางเล่มก็เขียนว่า ๓๘ บางเล่มบอกว่า ๕๐ กว่า บางเล่มบอกว่าตอนท้ายๆ ของพระชนมายุของท่านตอน พ.ศ. ๒๔๑๐, ๒๔๑๑, ๒๔๑๒ เป็นต้น น่าจะไม่ถูกต้องไม่ตรงกับความเป็นจริง เพราะจากหลักฐานที่ผมมีอยู่ ในช่วง อายุมากๆ นั้น ส่วนใหญ่พระองค์ท่านจะออกธุดงค์ จะโปรดบรรดาสรรพสัตว์ในป่าดงดิบ ไปอยู่ตามถ้ำตามเขา ไปยังลาว เขมร พม่า อินเดีย จีน แม้กระทั่ง อย่างวัดเส้าหลินประเทศจีน เมืองเทียนฟง เป็นต้น ซึ่งมีแผ่นจารึกบันทึกไว้ น่าศึกษามาก เพราะฉะนั้น ขอให้ผู้ที่ต้องการศึกษาจงตั้งใจอ่านและค่อยพินิจพิจารณาจากหนังสือ สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ที่ข้าพเจ้ารู้จัก ซึ่งขณะนี้ ได้จัดพิมพ์ทั้งหมด ๕ เล่ม และกำลังดำเนินการจัดพิมพ์ในเล่มที่ ๖ และ ๗ ให้วิเคราะห์ให้ดีว่าเป็นไปได้ไหม เพราะทุกคนก็เกิดไม่ทันพระองค์ท่าน ทางสำนักธรรมพรหมรังสี มีความประสงค์จะเปิดรับสมัครนักวิจัยให้วิจัยผลงานของสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ตามหัวข้อต่างๆ ที่ทางสำนักฯ จะตั้งไว้ ให้วิจัย เพราะฉะนั้นจึงถือโอกาสบอก ณ ที่นี้ว่า หากท่านผู้ใดอ่านหนังสือเล่มดังกล่าวแล้วเกิดสนใจเป็นพิเศษอยากจะทำงานวิจัยเกี่ยวกับวัตถุมงคล ของสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ก็ให้ติดต่อเข้ามา เราจะได้พูดคุยตกลงกันในหลักการต่อไป

    ขอย้ำอีกครั้งว่า ในปี พ.ศ. ๒๓๔๙ หรือ ตรงกับ ร.ศ ๒๔ พระองค์ท่านยังเป็นสามเณร พระชนมายุ ๑๙ พรรษา มีอำนาจจิตแก่กล้า พระปรีชาสามารถอย่างมาก เฉลียวฉลาด องอาจนัก ยากแก่การคาดคะเนหรือเดาได้ เพราะฉายแววแห่งความเป็นอัจฉริยะ และบุญญาธิการมาตั้งแต่เด็ก และได้สร้างพระไว้จำนวนมากมาย ซึ่งผิดกับมนุษย์โดยทั่วไป ซึ่งผมได้ย้ำไว้ในบทนำว่า พระองค์ท่านไม่ใช่พระสงฆ์ธรรมดา อย่างที่หลายคนเข้าใจ เมื่อมองว่าพระองค์ท่านเป็นพระสงฆ์ธรรมดา จึงตามพระอง์ท่านไม่ทัน จะไม่มีวันเข้าใจและจะไม่รู้จักพระองค์ท่านเลย….!!!
    ผู้รู้บางคนบอกว่า เป็นไปได้อย่างไร เรื่อง ร.ศ เพิ่งมีใช้ในรัชกาลที่ ๕ อย่างเป็นทางราชการ เรื่อง ร.ศ ที่บันทึกไว้หลังแม่พิมพ์จึงกลายเป็นเรื่อง เหลวไหล(กลัวว่าคนอื่นจะหลอกหรือครับ) ก็นั่นแหละครับ…. ไปปิดกั้นทางเดินของคลื่นแม่เหล็กในสมองเสียก่อน ใจเลยไม่เปิดกว้าง มัจฉริยทิฐิจึงเข้าครอบงำ ตา หู และใจ จึงทำให้ปฏิเสธสิ่งที่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นไม่เคยได้ยินว่า เหลวไหล แล้วตะโกนบอกคนทั่วไปว่า ผมเคารพเทิดทูน สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี มากได้อย่างไร อย่าว่าแต่แค่เรื่อง ร.ศ เลย สำหรับพระองค์ท่านแล้ว ภายใต้พระอาทิตย์ดวงนี้ ไม่มีอะไรที่พระองค์ท่านจะทราบและกำหนดรู้ไม่ได้

    สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี เป็นนักเทศน์ที่มีชื่อเสียงเป็นที่ทรงคุ้นเคยมาทั้งในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยและพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาโตเป็นผู้ไม่ปรารถนาลาภ ยศสมณศักดิ์ใดๆเมื่อเรียนรู้พระปริยัติมาแล้วก็ไม่เข้าแปลหนังสือเป็นเปรียญและไม่รับเป็นฐานานุกรมเมื่อพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้งให้เป็นพระราชาคณะ พระมหาโตได้ทูลขอตัวมิยอมรับตำแหน่ง หรือเลี่ยงโดยออกธุดงค์ไปตามวัดในชนบทห่างไกลทุกคราวไป จึงคงเป็นพระมหาโตมาตลอดจนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระมหาโตจึงยอมรับพระมหากรุณา


    สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี มีอัธยาศัยมักน้อยเป็นปกติลาภสักการะที่ได้มาในทางเทศนาก็นำไปสร้างสิ่งเกี่ยวเนื่องด้วยพระศาสนาจึงมีผู้นับถือศรัทธามาก บางคนเรียกท่านว่า ขรัวโตเพราะท่านจะทำอย่างไรก็ทำตามความพอใจไม่ถือตามความนิยมของผู้อื่นเป็นใหญ่

    ในปีพุทธศักราช 2395 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงตั้งพระมหาโตเป็นพระราชาคณะที่พระธรรมกิติเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม ในปีขาล พุทธศักราช 2397 ได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะผู้ใหญ่ที่พระเทพกวี ศรีนายกตรีปิฎกปรีชามหาคณฤศรบวรสังฆราชคามวาสี ครั้นสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สน) วัดสระเกศ มรณภาพได้รับสถาปนาเป็นสมเด็จพระพุฒาจารย์ รูปที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์เมื่อวันพฤหัสบดี เดือน 10 ขึ้น 9ค่ำ ปีชวด ตรงกับวันที่ ๘ กันยายน พุทธศักราช ๒๔๐๗

    สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสีได้สร้างวัดและสิ่งเกี่ยวเนื่องด้วยพระพุทธศาสนาจำนวนมาก เช่น
    หลวงพ่อโตวัดอินทรวิหาร บางขุนพรหม พระโตนั่งกลางแจ้งวัดไชโย จังหวัดอ่างทอง พระเจดีย์นอนวัดลครทำ ฯลฯนอกจากศาสนวัตถุต่างๆ แล้ว สมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)ยังได้รจนาบทสวดพระคาถาหลายบทแต่ที่เป็นที่รู้จักและถือว่าเป็นพระคาถาที่ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งและนิยมสวดภาวนาในหมู่พุทธศานิกชน คือพระคาถาชินบัญชร

    ด้วยความที่พระองค์ท่านเป็นปูชนียบุคคลที่พระพุทธศาสนิกชนกล่าวขวัญถึง ในชื่อ “สมเด็จฯโตเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม และเป็นสมเด็จพระพุฒาจารย์ ที่มีความรอบรู้แตกฉานใน พระธรรมวินัย และธรรมปฏิบัติ ความเป็นเลิศในการเทศนา ได้รับการยกย่องสรรเสริญในสติปัญญาและ ปฏิญาณโวหารที่ฉลาดหลักแหลม เปี่ยมด้วย
    เมตตากรุณาแก่ผู้ตกยากมีอัธยาศัยมักน้อยสันโดษท่านถือปฏิบัติในข้อธุดงควัตรทุกประการ คือ ฉันในบาตร ถือผ้าสามผืนออกธุดงค์ เยี่ยมป่าช้า นั่งภาวนา เดินจงกรม จนวาระสุดท้ายท่านมรณภาพเมื่อวันอาทิตย์ เวลา ๐๖.๐๐ น. ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะเมีย ซึ่งตรงกับวันที่ ๑๙ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๔๑๕ สิริพระชนมายุนับรวมได้ ๘๔ ปี กับ ๒ เดือนเศษ

    สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี พระราชสมภพเพื่อพระพุทธศาสนาโดยแท้จริง เพราะพระองค์ทรง
    บรรพชาเป็นสามเณรเมื่อพระชนมายุ ๕ ชันษา และทรงอุปสมบทเป็นพระเมื่อพระชนมายุ ๒๐ ชันษา ปฏิบัติศาสนกิจอย่างต่อเนื่องโดยตลอดพระชนม์ชีพ ทรงมีผลงานทั้งเรื่องการให้พระธรรมคำสอนโดยการเทศนาโปรด ทั้งในระเทศและต่างประเทศ ทรงสร้างวัตถุมงคลไว้เป็นจำนวนมากในพระอิริยาบทต่างๆ เช่น นั่ง ยืน เดิน และนอน และทรงสร้างพระพุทธรูปขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ไว้เป็นจำนวนมาก จนวาระสุดท้ายของพระชนม์ชีพ (พระชนมายุ ๘๕ พรรษา ใน พ.ศ. ๒๔๑๕)
    เมื่อพระองค์ท่านสร้างพระและวัตถุมงคลต่างๆไว้จำนวนมาก จึงทำให้คนที่รู้และเข้าใจ ได้เล็งเห็นถึงคุณค่าอันมหาศาล ก็จะเก็บรักษาและหวงแหนเป็นที่สุด ทำให้เกิดอาชีพ ทำให้คนมีงานทำ สร้างรายได้นำไปจุนเจือเลี้ยงครอบครัว ส่วนคนที่ไม่รู้ไม่เห็นคุณค่าก็ไม่ให้ความสนใจ และไม่ไยดี
    และในการที่พระองค์ท่านได้สร้างพระและวัตถุมงคลไว้เป็นจำนวนมากจึงทำให้คนบางคนเกิดความไม่แน่ใจว่า พระและวัตถุมงคลเหล่านั้นพระองค์ท่านสร้างไว้จริงหรือไม่ และสร้างไว้เป็นจำนวนมากมายอย่างนั้นจริงหรือ? เพราะเขาได้ยินมาว่า “พระองค์ท่านสร้างพระไว้จำนวนไม่มากพระองค์ท่านจะดูฤกษ์ผานาที ฤกษ์ดีก็สร้าง ๙ องค์ ๑๐ องค์ ๒๐ องค์ หมดฤกษ์แล้วก็เลิก แล้วหาฤกษ์ใหม่สร้าง พระจึงมีจำนวนน้อย” ข้าพเจ้าขอยืนยันว่า พระองค์ท่านสร้างพระและวัตถุมงคลเป็นจำนวนมากนับเป็นล้านๆ องค์ โดยเฉพาะพระเครื่อง และท่านผู้ที่สนใจสามารถพิจารณาวิเคราะห์ว่าเป็นพระหรือวัตถุมงคลที่พระองค์ท่านสร้างจริงหรือไม่ โดยดูได้จากส่วนประกอบและลักษณะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ความเก่าของเนื้อพระ รูปทรงในการสร้าง และอิทธิวัตถุมงคลที่ใช้ในการสร้างพระดังต่อไปนี้
    ความเก่าของเนื้อพระ พระที่สร้างโดยพระองค์ท่านนั้น เนื้อของพระจะแห้งโดยธรรมชาติไม่ใช่อบด้วยความร้อน มีลักษณะคล้ายคลึงกับสิ่งของที่นำไปตากแห้ง เช่น ผ้าเปียก เมื่อบิดตากแห้งจะมีริ้วรอย ย่น ยับ ซึ่งเกิดจากน้ำที่ระเหยออกไปจากผ้าเพราะความร้อนหรือลม ผิวของพระจะแห้งและพระบางองค์จะเห็นรอยยุบของเนื้อพระแตกอ้าหรือเป็นร่อง พระบางองค์จะเห็นเหมือนกับเนื้องอกออกมาเป็นปุ่ม ทั้งนี้เกิดจากสารที่เคลือบบนผิวหรือแป้งที่โรยพิมพ์แห้งกร่อนหลุดออกไปตามอายุขัยของพระนั้นๆ หรือบางพิมพ์เนื้อจะละเอียดเนียนเรียบแน่นคล้ายหินอ่อน บางองค์ออกแห้งแกร่ง บางองค์ออกแห้งหนึกนุ่มและบางองค์อาจลงรักปิดทองล่องชาด โดยทั่วๆไปขององค์พระจะเห็นมวลสารเป็นจุดดำ จุดแดง จุดเหลือง เป็นก้อนเล็กๆ หรือเป็นเม็ดคล้ายเม็ดหิน แต่ใสเหมือนแก้ว เหมือนเม็ดข้าวสาร เป็นต้น
    รูปทรงในการสร้าง ส่วนมากพระองค์ท่านจะสร้างเป็นรูป สี่เหลี่ยมผืนผ้า สามเหลี่ยมหน้าจั่ว ทรงกลม หรือรูปหยดน้ำ เป็นต้น สำหรับพระเครื่องรุ่นแรกๆนั้น พระองค์ท่านสร้างรูปทรงค่อนข้างจะกว้างใหญ่ และหนา บางพิมพ์มีสัญลักษณ์อยู่ด้านหลังของพระ เช่นรูปกงจักร รูปช้าง มงกุฎ ตัวอักษร “ต” พระรูป ร. ๕ ฝังตะกรุด ฝังก้างปลา ฝังเพชรพลอย เป็นต้น
    สำหรับด้านหน้า ทรงกำหนดเป็นรูปทรงเป็นพระพุทธรูปแบบต่างๆ หรือปางต่างๆ เช่น ปางขัดสมาธิ ปางสะดุ้งมาร พระประจำวันเกิดต่างๆ พระพุทธรูปสถิตอยู่บนฐาน ๓ ชั้น ๕ ชั้น ๗ ชั้น และ ๙ ชั้น และสำหรับพระบางพิมพ์ก็จะมีพระประจำวันเกิดองค์เล็กๆ เป็นทองเหลือง หรือเป็นทองคำติดอยู่ โดยรอบพระพุทธรูปหรือที่ฐานของพระบางองค์ก็ฝังเพชรฝังพลอยไว้ด้วย และนอกจากนี้ยังมีพระรูปเหมือน และมีดวงพระชะตาของพระองค์ท่าน หรือ พระรูปเหมือนของรัชกาลที่ ๕ พร้อมด้วยดวงพระชะตาของพระองค์ท่านติดอยู่ด้วย และพระบางองค์ฝังตะกรุดทองคำ ตะกรุดเงิน และตะกรุดที่ทำด้วยนาก บางองค์ฝังเหล็กไหล ฝังพระธาตุ และมีเส้นพระเกศาของพระองค์ท่านด้วย
    สำหรับรูปทรงที่นักเล่นพระหรือนักสะสมพระหวงแหนรักษา กำหนดราคาเช่าซื้อแลกเปลี่ยนกันด้วยเงินเป็นเรือนพัน เรือนหมื่น เรือนแสน และเรือนล้านนั้นคือ
    พระสมเด็จพิมพ์ใหญ่ พระพิมพ์ทรงนิยม พิมพ์ทรงเจดีย์ พิมพ์เส้นด้าย พิมพ์ทรงฐานแซมพิมพ์เกศไชโย พิมพ์ทรงไกรเซอร์ พิมพ์ฐานคู่ พิมพ์ปรกโพธิ์ พิมพ์สังฆาฏิ พิมพ์พระประธาน และพระสมเด็จอะระหัง เป็นต้น (เสนอตามหลักฐานที่มีอยู่ขณะนี้)
    สำหรับอิทธิวัตถุมงคลที่ใช้ในการสร้างพระนั้น พระองค์ท่านได้สะสมรวบรวมอิทธิวัตถุมงคลสำหรับสร้างพระมาตั้งแต่พระองค์ท่านยังเป็นสามเณร โดยทรงได้มาจากพระอาจารย์บ้าง ได้จากพระฤาษีบ้าง ได้มาจากองค์เทพยดาเจ้านิมิตให้ตามสถานที่ต่างๆ บ้าง นำมาถวายบ้าง และที่สำคัญพระองค์ท่านทรงสร้างด้วยพระองค์เอง โดยใช้ความพากเพียรวิริยะอุตสาหะอย่างมากและได้แสวงหาอิทธิวัตถุมงคลเหล่านั้นจากสถานที่ต่างๆ ทั่วทุกภาคของประเทศไทย
    พระอาจารย์ของพระองค์ท่านที่มอบอิทธิวัตถุมงคลให้ เช่น ได้รับจากพระอาจารย์ สังฆราช สุก ไก่เถื่อน พระอาจารย์เฒ่า อายุ ๑๑๗ ปี จังหวัดอยุธยา พระอาจารย์แสง พระอาจารย์คง พระอาจารย์คำศีร จากเชียงใหม่ พระอาจารย์ขัวใหญ่ จังหวัดอยุธยา เป็นต้น
    ทรงได้รับจากพระฤาษี เช่น พระฤาษีสัตตนะ พระฤาษีพิกุล พระฤาษีพิลาลัย พระฤาษีบรรลัยโกฎิ พระฤาษีตาวัว พระฤาษีตาไฟ พระฤาษีมัตตะ จากสุโขทัย
    ทรงได้รับนิมิตจากองค์เทพยดาเจ้าให้ไปนำอิทธิวัตถุมงคล เช่น ทอง เงิน นาก เพชร นิล ไม้แก่นจันทน์ ไม้กาหลง ว่าน เกสรในสถานที่ต่างๆ เช่น ในถ้ำ มีถ้ำ ๑๒ คูหา ถ้ำป่ายางโดน ถ้ำอิสีคูหาสวรรค์ ในยอดปราสาท ในพระหัตถ์พระประธานโบสถ์วัดต่างๆ และที่สำคัญพระองค์ท่านได้รับอิทธิวัตถุมงคลซึ่งอัญเชิญมาจากสวรรค์ และน้ำก้อน ซึ่งได้รับพระราชทานจากพระพรหม เป็นต้น
    อิทธิวัตถุมงคลที่ทรงสร้างและแสวงหาด้วยพระองค์เองนั้น ทรงได้มาด้วยความพากเพียรพยายาม ทรงใช้ความวิริยะอุตสาหะอย่างมาก และบางครั้งยังทรงใช้อิทธิฤทธิปาฏิหารย์ ในการได้มาซึ่งอิทธิวัตถุมงคลเหล่านั้น เช่น ผงวิเศษจำนวน ๕ อย่าง มี ผงอิถิเจ๑ ผงปัถมัง๑ ผงตรีนิสิงเห๑ ผงมหาราช๑ ผงพุทธคุณ๑ ส่วนที่พระองค์ท่านแสวงหาด้วยพระองค์เองด้วยความยากลำบากอย่างมากเช่น ว่านยา ๑๐๘ ผงเกสร ๑๐๘ ดินเจ็ดโป่งเจ็ดท่า ไคลเสมา ไคลเจดีย์ พระเก่าเมืองกำแพงเพชร ดินเจ็ดป่าช้า ดินใจกลางเมืองเจ็ดเมือง เถ้าถ่านขุนแผนย่างกุมารทองที่วัดป่าเลไลก์ น้ำผึ้งจากรังผึ้งโดยทรงใช้ใบตองรอง น้ำพระพุทธมนต์ตามหัวเมืองต่างๆ เปลือกหอย และเปลือกมุกจากใจกลางสะดือทะเล และหินจากใต้พิภพ เป็นต้น
    สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ทรงมีเป้าหมายอย่างแท้จริงว่า ต้องการสร้างพระให้เป็นเครื่องผูกใจมนุษย์ ให้ทำดีละชั่ว ไม่ได้มุ่งให้มนุษย์ติดอยู่ในวัตถุ ให้มุ่งสวดมนต์ไหว้พระปฏิบัติธรรม ตามมรรค ๘ เพราะพระองค์ท่านบันทึกไว้ในแผ่นจารึกที่มีอยู่ในมือผม โดยในขณะนั้นพระองค์ท่านเสด็จธุดงค์ไปยังป่าเมืองกาญจนบุรี ผมขอคัดลอกมาแสดงไว้เป็นบางส่วน ณ ที่นี้
    “วันพฤหัสบดี ขึ้น ๑๕ ค่ำ ปีกุล ตรีศก จุลศักราช ๑๒๑๓ ตรงกับ วันที่ ๕ มีนาคม ร.ศ ๗๐ รัชกาลที่ ๔ อาตมาได้ออกเดินธุดงค์มายังเมืองกาญจน์ เขากะโหลก อาตมาได้พักคืนที่ตีนเขา อาตมาได้สวดมนต์ทำวัตรเย็นสิ้นลง ก็ได้นั่งคิดอยู่ภายในใจว่า จะทำการสร้างสิ่งอันเป็นเครื่องผูกใจมนุษย์ ซึ่งยังเป็นปุถุชน (ดอกบัวใต้น้ำ) อยู่มาก ได้มีไว้ติดตัวเพื่อเป็นเครื่องเตือนสติ ครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรจนหลับไปราวๆยามสาม อาตมาได้นิมิตจนต้องตื่นขึ้น” แล้วพระองค์ท่านเสด็จขึ้นไปบนยอดเขา และได้พบตามที่ ท่านชินปัญชระ บอกไว้จริง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 2009417_32814.jpg
      2009417_32814.jpg
      ขนาดไฟล์:
      33.1 KB
      เปิดดู:
      138
    • 2009623_26939.jpg
      2009623_26939.jpg
      ขนาดไฟล์:
      98.2 KB
      เปิดดู:
      74
    • to3.jpg
      to3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      61.6 KB
      เปิดดู:
      66
    • untitled.png
      untitled.png
      ขนาดไฟล์:
      104.7 KB
      เปิดดู:
      77
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 เมษายน 2014
  2. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ติดต่อ ID line:phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,491
    ค่าพลัง:
    +719
    รายการที่ 26 พระผงเจ้าสัวเนื้อว่าน รุ่น ขุมทรัพย์เจ้าสัว วัดห้วยจระเข้

    พระเจ้าสัว เนื้อว่าน รุ่น ขุมทรัพย์เจ้าสัว
    วัดห้วยจระเข้ ปี2556

    จัดสร้างพิธีใหญ่ เข้มขลังตามรูปแบบโบราณของวัดห้วยจระเข้อันโด่งดังไปทั่วประเทศ ประสบการณ์มากมายจากผู้ศรัทธา
    ถอดแบบจากเหรียญ เจ้าสัวหลวงปู่บุญวัดกลางบางแก้ว ด้านหลังยันต์นะคงคา เอกลักษณ์ของหลวงปู่นาค วัดห้วยจระเข้เจ้าตำรับ

    ยันต์นะคงคาของหลวงปู่นาคมีอิทธิฤทธิ์ 108 ทั้งเมตตามหานิยม ร่ำรวย รุ่งเรือง แคล้วคลาด เด่นด้วยลาภยศทรัพย์สินเงินทอง เพิ่มพูนทัดเทียมกับเหรียญเจ้าสัวรุ่นเก่า ด้วยเจตนาผู้สร้างบริสุทธิ์มวลสารดีพิธีกรรมขลังครบครันอยู่ใน เหรียญเจ้าสัวรุ่นนี้ทุกประการ
    หลวงปู่นาคกับหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้วมีความสนิทสนมไปมาหาสู่กันเสมอ หลวงปู่บุญเคารพหลวงปู่นาคเป็นสหธรรมิกรุ่นพี่ ท่านมีอายุแก่กว่าหลวงปู่บุญ 35 ปี หลวงปู่บุญยังยกย่องในอาคมความเข้มขลังของหลวงปู่นาคให้ศิษย์ฟังเสมอ
    เหรียญ เจ้าสัว รุ่นขุมทรัพย์เจ้าสัว เททอง นำฤกษ์โดย เจ้าสัววานิช ไชยวรรณ คนรวยอันดับ 7 ของประเทศไทยเป็นประธานเททองไปเมื่อ 22 กรกฎาคม 56 และกำหนดพิธีมหาพุทธาภิเษก 18 สิงหาคม เวลา 18.18 น. ที่วัดห้วยจระเข้โดยมีพระเกจิดังทุกภาคนั่งปรก

    ขุมทรัพย์เจ้าสัว ผนึกกฤตยาคมแฝดสองอมตพระมหาเถราจารย์ผู้ทรงคุณวิเศษสุดแห่งสยามประเทศ ประจุพลังพุทธาอาคมโดย หลวงปู่เสงี่ยม อาริโย พระเถราจารย์ผู้สืบสายมหาวิชาอักขระยันต์นะคงคาแห่งวัดห้วยจระเข้ และ หลวงพ่อคง กมฺมสูทฺโธ พระเถารจารย์ผู้สืบสายพุทธาคมเจ้าตำรับมนต์จินคามณี แห่งวัดกลางบางแก้ว


    ***พระเจ้าสัวเนื้อว่าน108 อันเป็นมงคลแห่งขุมทรัพย์เจ้าสัว***
    ***เป็นมหาเศรษฐี มหาเมตตา มหาอุต***​

    รับประกันพระแท้ตลอดชีพ
    ราคาเช่าบูชา 450 บาท
    (จัดส่งEMSฟรีค่ะ)
    บูชาแล้วค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2022
  3. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ติดต่อ ID line:phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,491
    ค่าพลัง:
    +719
    Up date ณ วันที่ 3 เมษายน 2557 ค้า^^

    ธรรมะวันนี้

    เกิดในที่ ที่ดี นั้นดีแน่

    เกิดในที่ ที่แย่ ก็ดีได้

    เกิดที่ดี แล้วแย่ มีถมไป

    เกิดที่ไหน ก็ดีได้ ถ้าใฝ่ดี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 เมษายน 2014
  4. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ติดต่อ ID line:phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,491
    ค่าพลัง:
    +719
    คำคม ประจำวันศุกร์ที่ 4 เมษายน 2557

    อำนาจที่ปราศจากเหตุผล คือ อำนาจของคนพาล
    อำนาจที่ปราศจากความเมตตา คือ อำนาจที่นำมาซึ่งความปราชัย

    ...ขงเบ้ง...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 เมษายน 2014
  5. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ติดต่อ ID line:phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,491
    ค่าพลัง:
    +719
    รายการที่ 27 เหรียญพระุพุทธชินราชใบเสมาเนื้อเงินหลังภปร ตอกโค้ด รุ่น ปฏิสังขรณ์ ปี2530

    เหรียญพระพุทธชินราชใบเสมาเนื้อเงิน
    รุ่น ปฏิสังขรณ์ ปี2530 ตอกโค้ด หลัง ภปร.


    เป็นเหรียญอีกรุ่นหนึ่งที่น่าบูชาเป็นอย่างยิ่งค่ะ พิธียิ่งใหญ่ เกจิอาจารย์หลายท่านร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสก เป็นพิธีอันยิ่งใหญ่ของเมืองพิษณุโลก
    พุทธบารมีแห่งองค์พ่อใหญ่ มหาเมตตา มหานิยม มหาบารมี มหาเศรษฐี มหาอุด แคล้วคลาดปลอดภัย
    สภาพพระสวยมากๆค่ะ ไม่เคยผ่านการใช้งาน เก็บอยู่ในกล่องเดิมจากวัด
    ไม่สึกกร่อนเลยแม้แต่น้อย


    รับประกันพระแท้ตลอดชีพ
    ปิดรายการแล้วค้า
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ตุลาคม 2014
  6. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ติดต่อ ID line:phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,491
    ค่าพลัง:
    +719
    รายการที่ 28 หลวงพ่อโต พระพิฆเนศ(กดพิมพ์นำฤกษ์)ปี2550 วัดพนัญเชิงฯ

    หลวงพ่อโต-พระพิฆเนศ รุ่น โตสัมฤทธิ์ผล ชุดกดพิมพ์นำฤกษ์ ปี 2550

    เนื้อดินกากยายักษ์-ผงไม้กฤษณา-ผิวรัก ฝังพลอยไพลิน ขนาด 5.5 ซ.ม. พร้อมตอกโค้ดเบิ้ลคู่
    วัดพนัญเชิงวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พิธีใหญ่ เกจิอาจารย์ชื่อดังหลายท่านร่วมปลุกเสกนำฤกษ์ สภาพพระสวยมาก แป้งเจิมนำฤกษ์ติดหนาชัดเจน แผ่นทองติดเต็มแผ่น สมบูรณ์มาก ไม่เคยผ่านการใช้งาน เก็บอยู่ในกล่องเดิมจากวัดตลอด
    ด้านหน้าเป็นหลวงพ่อโต ด้านหลังเป็นพระพิฆเนศ เทพเจ้าแห่งความสำเร็จทุกประการ
    พุทธานุภาพจึงเปี่ยมล้นทั้งเมตตามหานิยม มหาอำนาจ มหาบารมี ยิ่งใหญ่และสำเร็จสมหวังทุกอย่างทุกประการ
    น่าบูชาเป็นอย่างยิ่งค่ะ

    รับประกันพระแท้ตลอดชีพ
    ราคาเช่าบูชา 1,499 บาท
    (จัดส่งEMSฟรีค่ะ)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มีนาคม 2017
  7. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ติดต่อ ID line:phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,491
    ค่าพลัง:
    +719
    ขออนุโมทนาบุญกับคุณ The old man ด้วยค่ะ^^

    จัดส่งพัสดุEMSให้เรียบร้อยแล้วนะคะ รหัส EL 0555 3540 2TH
    และขอร่วมอนุโมทนาบุญกับคุณThe old man ในบุญร่วมสร้างพระเจดีย์จุฬามณีจำลอง เพื่อเป็นสถานปฏิบัติธรรม และสถานที่ท่องเี่ที่ยว จังหวัดตาก ค่ะ
    ขอผลบุญนี้ส่งผลให้พี่The old man มีความสุขความเจริญ สุขภาพร่างกายแข็งแรง เป็นมหาเศรษฐีทั้งทางโลกและทางธรรม นะคะ^^
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • _0GIF_2.png
      _0GIF_2.png
      ขนาดไฟล์:
      86.4 KB
      เปิดดู:
      64
  8. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ติดต่อ ID line:phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,491
    ค่าพลัง:
    +719
    รายการที่ 29 พระธาตุข้าวบิณฑ์ เกศา จีวร ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม

    พระธาตุข้าวบิณฑ์ เกศา จีวร หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา
    วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม อ.ลี้ จ.ลำพูน

    พระธาตุข้าวบิณฑ์ไม่จัดเป็นพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันต์ธาตุ แต่จัดเป็นพระธาตุเทพนิมิต

    ตามตำรากล่าวว่า ในสมัยพุทธกาล สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จไปตามสถานที่ต่างๆเพื่อโปรดเวไนยสัตว์ วันหนึ่งได้เสด็จมาไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของแม่ระมิงค์เพื่อไปโปรดพวกละว้า พวกละว้าเหล่านั้นอยู่ในภาวะอดอยาก ผืนดินแห้งแล้งทำการเพาะปลูกไม่ได้ผล ต้องหาหัวเผือกหัวมันมาต้มผสมกับข้าวกินเป็นอาหาร เมื่อพระพุทธองค์ได้เสด็จมาถึงที่นั่น พวกละว้าก็เอาข้าวผสมมันซึ่งเป็นโภชนาหารของตนมาใส่บาตร พระบรมโลกนาถก็ทรงรับแล้วฉันภัตตาหารเช้า ณ ที่นั้นซึ่งเรียกว่า ดอยน้อย เสร็จแล้วก็ทรงให้ศีลให้พรพวกละว้าทั้งหลาย หลังจากนั้นจึงทรงโปรดให้พระอานนท์นำข้าวในบาตรหลังจากฉันเสร็จไปเทคว่ำไว้ และแสดงปาฏิหาริย์ให้ข้าวนั้นกลายเป็นหิน กลายเป็นพระธาตุข้าวบิณฑ์ เพื่อให้พวกลั้วะ หันมานับถือพระรัตนตรัย แทนการนับถือผี และเพื่อเป็นตัวแทนของพระพุทธองค์ บางคนเรียกว่า
    "พระธาตุข้าว หรือ พระธาตุพุทธนิมิตร" ลักษณะเป็นองค์กลมๆสีขาวแกมเหลือง พวกละว้าเมื่อเห็นดังนั้นก็เกิดเลื่อมใสศรัทธาเป็นอันมาก พระพุทธองค์จึงทรงให้ศีล 5 และแสดงธรรม และรับสั่งให้พวกละว้ารักษาดอยน้อยไว้ให้ดี ให้รักษาศีล 5 ไว้เป็นปกติ ถ้ารักษาศีลได้ก็เหมือนอยู่ใกล้พระพุทธองค์ ถ้ารักษาศีลไม่ได้ก็เหมือนอยู่ไกลสุดขอบฟ้าจักรวาล

    เมื่อพระครูบาชัยยะวงศาพัฒนาได้มาจำพรรษาเพื่อพัฒนาวัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ณ อ.ลี้ จ.ลำพูน ท่านได้นิมิตเห็นพระธาตุข้าวซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 200 กม. ที่ดอยเกิ้ง ท่านจึงได้อัญเชิญพระธาตุข้าวบางส่วนมาไว้ที่วัดและแจกให้ลูกหลานนำไปสักการบูชา

    ผู้ที่อยู่ในศีลในธรรมที่มีพระธาตุข้าวไว้บูชาแล้ว ความอดอยากขาดแคลนจะไม่บังเกิดขึ้น การทำมาค้าขายโดยสุจริตจะได้ผลเจริญงอกงาม เมื่อประสงค์สิ่งใดให้ทำสมาธิ จิตระลึกถึงคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและครูบาชัยวงศาฯ แล้วตั้งจิตขอในสิ่งที่ปรารถนา จะได้ผลดีมากสำหรับผู้ที่มีศีล 5 เป็นปกติ

    ข้าวก้นบาตรที่กลายเป็นหินนี้ แต่ละเม็ดมีเทพคุ้มครองอยู่ พระธาตุข้าวอาจเพิ่มขึ้นได้เรื่อยๆ หากเกิดโรคภัยไข้เจ็บที่รับประทานยาแผนปัจจุบันแล้วไม่สามารถบรรเทาทุกข์เวทนาให้หายลงได้ ก็ให้ทำน้ำพระพุทธมนต์โดยจุ่มพระธาตุข้าวลงในภาชนะใส่น้ำที่จะทำน้ำพระพุทธมนต์ ตั้งจิตอธิษฐานแล้วดื่มน้ำพระพุทธมนต์นั้น จะบรรเทาทุกข์เวทนาที่เกิดขึ้นได้

    ชุดพระธาตุข้าวบิณฑ์นี้เลี่ยมเดิมจากวัด ค่ะประกอบด้วยเม็ดพระธาตุข้าว 8 องค์ เกศาและจีวรของครูบาวงศ์ เลี่ยมพลาสติกเดิมจากวัด บูชาจากวัดโดยตรงเมื่อปี2533 ค่ะ


    ครูบาวงศ์ได้ละสังขารไปเมื่อปี2543 และเป็นที่อัศจรรย์ ที่สังขารหลวงปู่ไม่เน่าเปื่อย
    ยังบรรจุในโรงแก้วและเป็นที่เคารพสักการะของลูกศิษย์ทั่วประเทศ


    รับประกันพระแท้ตลอดชีพค่ะ
    ปิดรายการแล้วค้า โดยคุณแดงแก่น
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 เมษายน 2014
  9. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ติดต่อ ID line:phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,491
    ค่าพลัง:
    +719
    รับทราบการจองพระธาตุข้าวบิณฑ์จำนวน1องค์ โดยคุณสุคโตค่ะ^^

    ขอบพระคุณพี่นกมากๆค่ะ จะรีบจัดส่งพัสดุEMSให้โดยเร็วที่สุด หลังช่วงเทศกาลสงกรานต์นะคะ^^
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ติดต่อ ID line:phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,491
    ค่าพลัง:
    +719
    รายการที่ 30 พระปิดตาเนื้อเมฆพัตรพิมพ์หูกระต่าย รุ่น ขุมทรัพย์115ปีหลวงปู่นาค

    พระปิดตาเนื้อเมฆพัตร พิมพ์หูกระต่าย รุ่น ขุมทรัพย์115ปี พระปิดตาชั้นบรมครู หลวงปู่นาค แห่งวัดห้วยจระเข้ 1ใน5 พระเบญจภาคีพระปิดตาเนื้อโลหะแห่งกรุงสยาม ยิงเลเซอร์พระมหายันต์ "นะคงคา" หัวกลับ (เรื่องร้ายกลายเป็นดี) สุดยอดมหายันต์หลวงปู่นาค ด้านหลังลงอักขระจารมือทุกองค์ พิมพ์นิยมสูงสุด "พิมพ์หูกระต่าย"
    จัดสร้างเพียง 11,115 องค์เท่านั้น

    "หลวงปู่นาค โชติโก" พระเกจิคณาจารย์องค์แรกของเมืองนครปฐม ได้จัดสร้าง "พระปิดตาเนื้อเมฆพัด" พิมพ์หูกระต่ายและพิมพ์สะดือจุ่น จัดเป็นหนึ่งในชุดเบญจภาคีพระปิดตาเนื้อโลหะ ประกอบด้วย พระปิดตา วัดท้ายย่าน จ.ชัยนาท, พระปิดตาหลวงปู่นาค วัดห้วยจระเข้ จ.นครปฐม, พระปิดตาแร่บางไผ่ หลวงปู่จันทร์ วัดโมลี จ.นนทบุรี, พระปิดตาหลวงพ่อทับ วัดทอง กรุงเทพฯ และพระปิดตาหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง กรุงเทพฯ
    พระปิดตาของหลวงปู่นาคจัดอยู่ในเบญจภาคีพระปิดตาของเมืองไทย เช่าบูชากันองค์ละหลักล้านบาท ในโอกาสที่หลวงปู่นาคได้สร้างวัดครบ 115 ปี และเพื่อรวบรวมปัจจัยไปบูรณะวิหารเก่า สร้างสมัยรัชกาลที่ 5
    ทางวัดโดยหลวงพ่อเสงี่ยม อาริโย อายุ 89 ปี เจ้าอาวาสวัดห้วยจระเข้ ผู้สืบสานตำนานการสร้างพระปิดตา จึงได้กำหนดเททองหล่อพระปิดตา รุ่นขุมทรัพย์ 115 ปี ขึ้นในวันที่ 28 พ.ย.2555 ตรงกับวันเพ็ญเดือน 12 เวลา 22.09 น. กำหนดพิธีพุทธาภิเษกในวันที่ 15 ม.ค.2556

    "พระปิดตาหลวงปู่นาค" วัดห้วยจระเข้ ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม เป็นพระปิดตาสุดยอดของพระปิดตาเนื้อเมฆพัดอยู่ในราคาหลักล้านกว่าบาท การจัดสร้างนั้นหลวงปู่นาคจะปั้นพิมพ์เอง หล่อเอง เสร็จแล้วจะลงไปจารอักขระใต้น้ำโดยใช้ยันต์นะคงคาเป็นตัวหลัก เสร็จแล้วจะขึ้นมาจารอักขระมหาอุดบนพื้นดิน ทำให้พระปิดตาเนื้อเมฆพัดเป็นที่เลื่องลือ

    ปัจจุบันวัดห้วยจระเข้ มีพระครูทักษิณานุกิจ (หลวงปู่เสงี่ยม อริโย) ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส ตั้งแต่ปี พ.ศ.2527 ถึงทุกวันนี้

    เนื่องในโอกาสที่หลวงปู่นาคสร้างวัดมาครบ 115 ปี และหลวงปู่เสงี่ยม เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน สิริอายุ 89 ปี วัดห้วยจระเข้ ได้จัดสร้าง "พระปิดตาหล่อโบราณจารมือ รุ่นขุมสมบัติ 115 ปี" ขึ้น เพื่อให้เป็นสุดยอดวัตถุมงคลต้นปี 2556
    กำหนดเททองหล่อพระปิดตา รุ่นขุมทรัพย์ 115 ปี ขึ้นในวันที่ 28 พ.ย.2555 ตรงกับวันเพ็ญเดือน 12 เวลา 22.09 น. และทำพิธีมหาพุทธาภิเษกเมื่อวันที่ 15 ม.ค. 2556
    ซึ่งการนี้ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานไฟพระฤกษ์จุดเทียนชัยในพิธีมหาพุทธาภิเษก
    มี พระเดชพระคุณพระธรรมปริยัติเวที เจ้าคณะภาค 15 เจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ เป็นประธานจุดเทียนชัย หลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร จ.สมุทรปราการ ดับเทียนชัย

    พระเกจิคณาจารย์ร่วมนั่งปรกอธิษฐานจิตปลุกเสก อาทิ
    1. พระธรรมปริยัติเวที วัดพระปฐมเจดีย์ จ.นครปฐม,
    2. พระครูทักษิณานุกิจ (หลวงปู่เสงี่ยม) วัดห้วยจระเข้ จ.นครปฐม,
    3. หลวงพ่อพูน ฐิตสีโล วัดบ้านแพน จ.พระนคร ศรีอยุธยา,
    4. หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม จ.พระนครศรีอยุธยา,
    5, หลวงพ่อสิริ วัดตาล จ.นนทบุรี,
    6. หลวงพ่อแป๋ว วัดดาวเรือง จ.สิงห์บุรี,
    7. พระอาจารย์แป๊ะ วัดสว่างอารมณ์ จ.นครปฐม,
    8. หลวงพ่อทองคำ วัดพะเนียงแตก จ.นครปฐม,
    9. หลวงปู่บุญ วัดทุ่งเหยียง จ.ชลบุรี,
    10. หลวงพ่อหวั่น วัดคลองคูณ จ.พิจิตร,
    11. หลวงปู่หนู วัดไผ่สามเกาะ จ.ราชบุรี,
    12. หลวงพ่อจำเริญ วัดวังยายหุ่น จ.สุพรรณบุรี,
    13. หลวงปู่โฉม วัดตำหนัก จ.ปทุมธานี
    14. และ หลวงปู่สุข วัดป่าหวาย จ.สิงห์บุรี

    ขอขอบคุณข้อมูลจากข่าวสด

    พระปิดตาเนื้อเมฆพัตร พิมพ์หูกระต่าย เนื้อดำมันวาว เก็บอยู่ในกล่องเดิมจากวัด ไม่เคยผ่านการใช้งาน สภาพ100% รับมาจากมือหลวงพ่อพิทยา (เจ้าพิธี)แห่งวัดห้วยจระเข้ จ.นครปฐม
    ท่านที่ศรัทธาหลวงปู่นาคแห่งวัดห้วยจระเข้
    1ใน5เบญจภาคีพระปิดตาเนื้อโลหะของเมืองไทย
    ไม่ควรพลาดนะคะ




    รับประกันพระแท้ตลอดชีพ
    ราคาเช่าบูชา 1,999 บาท
    (จัดส่งEMSฟรี พร้อมแพคกันกระแทกอย่างดีค่ะ)

    บูชาแล้วค่ะ

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2022
  11. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ติดต่อ ID line:phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,491
    ค่าพลัง:
    +719
    รายการที่ 31 เหรียญเจ้าสัว รุ่น ขุมทรัพย์เจ้าสัว เนื้อทองฝาบาตร ประทับยันต์ นะคงคา

    "มหากาพย์แห่งมนต์ขลัง อมตะแห่งกรุงรัตนโกสินทร์"
    มหาวัตถุมงคลกฤตยาคมแฝดสะท้านแผ่นดิน
    พระอาจารย์พิทยา ปริญญาโณ ผู้สืบสานสรรพมนตราคมการสร้างพระปิดตาเนื้อเมฆพัดชั้นบรมครู ตำรับหลวงปู่นาค วัดห้วยจระเข้

    "รุ่นแรก รุ่นเดียว ที่อลังการงานขลังที่สุดแห่งยุค"
    เหรียญเจ้าสัวหลังประทับมหายันต์"นะคงคา"
    "ขุมทรัพย์เจ้าสัว"
    ผนึกกฤตยาคมแฝดของสองอมตะพระมหาเถราจารย์ผู้ทรงคุณวิเศษสุดแห่งสยามประเทศ ประจุพลังพุทธาคมโดย
    หลวงปู่เสงี่ยม อาริโย พระเถราจารย์ผู้สืบสายมหาวิชาอักขระยันต์นะคงคาแห่งวัดห้วยจระเข้ และ หลวงพ่อคง กมฺมสูทฺโธ พระเถราจารย์ผู้สืบสายพุทธาคมเจ้าตำรับมนต์จินคามณี แห่งวัดกลางบางแก้ว

    อัญเชิญบารมีองค์ครูปฐมาจารย์ หลวงปู่นาค โชติโก เจ้าตำรับอักขระมหายันต์ครูศักดิ์สิทธิ์ "นะคงคา" ขลังที่สุดแห่งยุค
    และบารมีองค์ครูปฐมาจารย์ หลวงปู่บุญ ขนฺธโชติ เจ้าตำรับเหรียญเจ้าสัวซุ้มกระจัง ตำนานผู้สร้างเหรียญเจ้าสัวที่ราคาแพงที่สุดในประเทศไทย
    ปฐมบทแห่งอิทธานุภาพ
    "บันดาลให้ผู้บูชาเป็นอัครมหาเศรษฐีขลังขั้นอุโฆษ"


    จัดสร้างพิธีใหญ่ เข้มขลังตามรูปแบบโบราณของวัดห้วยจระเข้อันโด่งดังไปทั่วประเทศ ประสบการณ์มากมายจากผู้ศรัทธา
    ถอดแบบจากเหรียญเจ้าสัวหลวงปู่บุญวัดกลางบางแก้ว ด้านหลังยันต์นะคงคา เอกลักษณ์ของหลวงปู่นาค วัดห้วยจระเข้เจ้าตำรับ

    ยันต์นะคงคาของหลวงปู่นาคมีอิทธิฤทธิ์ 108 ทั้งเมตตามหานิยม ร่ำรวย รุ่งเรือง แคล้วคลาด เด่นด้วยลาภยศทรัพย์สินเงินทอง เพิ่มพูนทัดเทียมกับเหรียญเจ้าสัวรุ่นเก่า ด้วยเจตนาผู้สร้างบริสุทธิ์มวลสารดีพิธีกรรมขลังครบครันอยู่ใน เหรียญเจ้าสัวรุ่นนี้ทุกประการ
    หลวงปู่นาคกับหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้วมีความสนิทสนมไปมาหาสู่กันเสมอ หลวงปู่บุญเคารพหลวงปู่นาคเป็นสหธรรมิกรุ่นพี่ ท่านมีอายุแก่กว่าหลวงปู่บุญ 35 ปี หลวงปู่บุญยังยกย่องในอาคมความเข้มขลังของหลวงปู่นาคให้ศิษย์ฟังเสมอ
    เหรียญ เจ้าสัว รุ่นขุมทรัพย์เจ้าสัว เททอง นำฤกษ์โดย เจ้าสัววานิช ไชยวรรณ คนรวยอันดับ 7 ของประเทศไทย (รวยเป็นหมื่นๆล้าน) เป็นประธานเททองไปเมื่อ 22 กรกฎาคม 56 และกำหนดพิธีมหาพุทธาภิเษก 18 สิงหาคม เวลา 18.18 น. ที่วัดห้วยจระเข้โดยมีพระเกจิดังทุกภาคนั่งปรก

    เหรียญเจ้าสัวองค์นี้เป็นเนื้อทองฝาบาตร ด้านหลังประทับยันต์นะคงคา มีหมายเลขกำกับ จัดสร้างน้อยเพียง 2,556 องค์เท่านั้น
    สภาพพระสวยมากค่ะ อยู่ในกล่องเดิม ไม่เคยผ่านการใช้งาน
    รับมาจากมือหลวงพ่อพิทยา
    (เจ้าพิธีและประธานตำแหน่งงาน)โดยตรง

    รับประกันพระแท้ตลอดชีพ
    ปิดรายการแล้วค้า
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2014
  12. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ติดต่อ ID line:phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,491
    ค่าพลัง:
    +719
    รายการที่ 32 เหรียญเจ้าสัวเหลือกินเหลือใช้ สมโภชน์พระพุทธชินราช639ปี

    เหรียญเจ้าสัวเหลือกินเหลือใช้ ด้านหน้าพระพุทธชินราช ด้านหลังพระเหลือ อนุสรณ์สมโภชน์พระพุทธชินราช ครบ 639 ปี วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก 28 พฤษภาคม 2539
    พิธีสมโภชน์ยิ่งใหญ่ พระเกจิอาจารย์หลายท่านร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสก สมโภชน์องค์พ่อใหญ่ พระพุทธชินราช พระพุทธรูปที่มีความงดงามที่สุดในประเทศไทย มีความศักดิ์สิทธิ์มากที่สุดองค์หนึ่งในประเทศ และเป็นพระพุทธรูปที่มีผู้ศรัทธามากมายทั้งในประเทศและต่างประเทศ

    พุทธานุภาพรุ่นนี้โดดเด่นมากในเรื่องมหาเศรษฐี เงินทองไหลมาเทมา มีเงินเหลือกินเหลือใช้ เป็นเจ้าสัวเหลือกินเหลือใช้ดั่งชื่อรุ่นค่ะ

    พระสภาพสวยเหลืองทองอร่ามมากๆค่ะ ตอกโค้ดชัดเจน ไม่ผ่านการใช้งาน พร้อมกล่องเดิมจากวัดโดยตรง

    รับประกันพระแท้ตลอดชีพ
    จองแล้วค้า โดยคุณภูวเนศ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ธันวาคม 2014
  13. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ติดต่อ ID line:phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,491
    ค่าพลัง:
    +719
    รายการที่ 33 ล็อคเก็ตสำเร็จแก้ว หป.พรหมมา เขมจาโร หลังแผ่นเงินจารมือตอกโค้ด

    หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร หรือสำเร็จแก้ว วัดสวนหินผานางคอย จ.อุบลราชธานี ผู้สืบสานทายาทวิชาสำเร็จลุนแห่งนครจำปาศักดิ์อันโด่งดัง
    หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร เป็นคนบ้านกุษกร ต.กุษกร อ.ตระการพืชผล เกิดเมื่อพ.ศ.2440 บวชเป็นสามเณรเมื่ออายุ12 ปี จากนั้นได้ศึกษาพระธรรมวินัยและวิชากับสมเด็จ(สำเร็จ)ลุน ที่เวินชัยนคร จำปาศักดิ์ นานถึง 6 พรรษา หลังจากที่สมเด็จลุนได้มรณภาพลง หลวงปู่พรหมมาก็ได้ร่วมเดินธุดงค์พร้อมกับหลวงปู่มั่น ภูริทัตโตขณะธุดงค์ หลังจากนั้นคณะพระธุดงค์ก็แยกย้ายกันไปหาสถานที่อันสงบเงียบบำเพ็ญภาวนาหา วิเวกกันต่อไป ส่วนหลวงปู่พรหมมาได้จำพรรษาที่ถ้ำแห่งหนึ่งบนยอดภูเขาควายนานถึง 45 พรรษาหลวงปู่ได้เรียนวิชาจากครูพระฤาษีในป่ามากมาย และได้เรียนวิปัสนากับ หลวงปู่สรวง ฮอยเตรียลสรูล พระอริยสงฆ์จากภูตะแบงอีกด้วย จนสำเเร็จลุน เรียกท่านว่า สำเร็จแก้ว ต่อมาได้ธุดงค์ข้ามมายังฝั่งไทย เมื่อปีพ.ศ.2533 หลวงปู่พรหมมาได้เห็นว่าถ้ำสวนหิน ภูกระเจียว ในวันเดือนหงายจะมีสัตว์ป่านานาชนิดวิ่งกันขวักไขว่ จึงได้พักบำเพ็ญเพียรแต่นั้นมา ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เคยเสด็จฯมานมัสการหลวงปู่พรหมมาถึง 2 ครั้ง

    ท่านเป็นพระนักปฏิบัติคงแก่วิชาอาคมมาก ประสบการณ์มากมายจากลูกศิษย์ที่ได้พบเจอกับตัวเอง พุทธคุณโดนเด่นมากด้านอยู่ยงคงกระพัน ปืนยิงไม่ออก ฟันแทงไม่เข้า วัตถุมงคลของท่านน่าบูชาเป็นอย่างยิ่งค่ะ

    รับประกันพระแท้ตลอดชีพ
    ปิดรายการแล้วค่ะ โดยคุณแดงแก่น
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 เมษายน 2014
  14. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ติดต่อ ID line:phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,491
    ค่าพลัง:
    +719
    รายการที่ 34 พระสมเด็จ๙อรหันต์ เนื้อผสมอัฐิธาตุ อังคารธาตุ เกศา ชานหมากพระอรหันต์๙รูป

    พระสมเด็จ ๙ อรหันต์
    มวลสารดีมากมาย เนื้อผสมอัฐิธาตุอังคารธาตุเกศาและชานหมากของพระอรหันต์ ๙ รูป
    เป็นพระที่สร้างโดยเจ้าของนิตยสารพระโลกทิพย์,ฤทธิ์อำนาจเมื่อปี38 แล้วนิยมห้อยบูชากันในหมู่ศิษย์และฆราวาสที่นับถือครูบาอาจารย์สายพระป่าสาย กรรมฐานเพราะเป็นพระดีและมีประสบการณ์กันมากมายอีกทั้งมวลสารยังสุดยอดขั้นพระอรหันต์แบบนี้ หายากสุดๆ ปัจจุบันหายากมากแล้วค่ะ เพราะเก็บกันหมด ไม่ค่อยปล่อยมาในท้องตลาด พระอรหันต์ 9 รูป มีรายนามดังนี้

    1. หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต แห่งวัดป่าสุทธาวาส จ.สกลนคร
    2. หลวงปู่แหวน สุจิณโณ แห่งวัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่
    3. หลวงปู่ขาว อนาลโย แห่งวัดถ้ำกลองเพล จ.หนองบัวลำภู
    4. หลวงปู่ชา สุภัทโท แห่งวัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี
    5. หลวงปู่ดุลย์ อตุโล แห่งวัดบูรพาราม จ.สุรินทร์
    6. หลวงปู่สาม อกิญจโน แห่งวัดไตรวิเวก จ.สุรินทร์
    7. หลวงปู่บัว ปัญญาภาโส แห่งวัดป่าพระสถิตย์ จ.หนองคาย
    8. หลวงปู่สิม พุทธาจาโร แห่งวัดถ้ำผาปล่อง จ.เชียงใหม่
    9. หลวงปู่สี ฉันทสิริ แห่งวัดเขาถ้ำบุญนาค จ.นครสวรรค์

    พระสมเด็จ 9 อรหันต์ หรือ พระผงอังคาร 9 อรหันต์ สร้างเมื่อปี พศ.2538 สุดยอดความขลังเป็นที่สุดของมวลสารในการสร้างพระรุ่นนี้ขึ้นมาที่มาของพระ รุ่นนี้คือได้มวลสารหลักๆ อาทิ
    1. พระผงรูปเหมือนหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ซึ่งด้านหลังบรรจุเกศาแท้ ๆ ของหลวงปู่มั่น สร้างโดยหลวงปู่เจี๊ยะ วัดป่าภูริทัตตะฯ จ.ปทุมธานี สมเด็จชานหมากของหลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น ด้านหลังฝังเหล็กเปียกสร้างโดยพระอาจารย์โชติ อาภัคโค วัดภูเขาแก้ว จ.อุบลราชธานี
    2. พระผงรุ่นอายุยืน เส้นเกศา จีวร ชานหมาก ผิวสรีระบางส่วนที่ขูดออก ครั้งเปลี่ยนจีวร สีผึ้งที่ทำจากอุจจาระ ซึ่งก่อนมรณภาพหลวงปู่สี ฉันทสิริ ได้ขับถ่ายออกมาเป็นสีผึ้ง
    3. เส้นเกศา-อัฐิธาตุ-อังคารธาตุ หลวงปู่สิม พุทธาจาโร
    4. อัฐิธาตุ-อังคารธาตุ หลวงปู่แหวน สุจิณโณ
    5. อัฐิธาตุ-อังคารธาตุ หลวงปู่ขาว อนาลโย
    6. พระผงอังคารธาตุ หลวงปู่ชา สุภัทโท
    7. อัฐิธาตุ-อังคารธาตุ ชานหมากหลวงปู่สาม อกิญจโน
    8. อัฐิธาตุ-อังคารธาตุ หลวงปู่ดูลย์ อตุโล
    9. อัฐิธาตุ-อังคารธาตุ หลวงปู่บัวพา ปัญญาภาโส

    บวกด้วยผงธาตุกายสิทธิ์

    1. ผงอิทธิเจ ปถมัง มหาราช
    2. ผงว่าน 108
    3. ดินสังเวชนียสถานทั้ง 4 ประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และปรินิพพาน
    4. ใบโพธิ์ ของต้นโพธิ์ตรัสรู้แท้ ๆ จากประเทศอินเดีย
    5. ผงแร่เกาะล้าน แร่เกาะคาม แร่เกาะภูเก็ต แร่เมฆพัด
    6. ผงแร่เหล็กไหลเพลิง
    7. ผงเหล็กไหลตาแรด หลวงพ่อสัมฤทธิ์ วัดถ้ำแฝด
    8. ผงธูป ผงพระเก่า สมเด็จพระพุฒาจารย์โต
    9. ดินกากยายักษ์ที่ใช้ผสมทำพระผงหลวงปู่ทวด
    10. ผงเกสรดอกไม้บูชาพระอาจารย์หลายรูป
    11. ผงพระเก่าหลวงพ่อมงคลบพิตร
    12. ผงพระธาตุพระสิวลี ชนิดสีขาวและสีดำ
    13. ผงสะเก็ดแก้ว พิสดาร
    ทั้งหมดคือมวลสารกายสิทธิ์ที่จัดสร้างสุดยอดพระผง สมเด็จ 9 อรหันต์ ซึ่งควรค่าแก่การเก็บสะสม

    โดยมีพิธีอธิษฐานจิต-พุทธาภิเษก ถึง 3 ครั้ง

    ครั้งที่1.เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2538 ภายในโบสถ์มหาอุด วัดอินทราราม จ.สมุทรสงคราม ซึ่งตรงกับวันเกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคา โดยหลวงพ่อแดง นันทิโย และพระภิกษุผู้ทรงอิทธิจิตสูงส่งภายในวัดอินทรารามทั้งยังเป็นผู้สร้างพระ สมเด็จ 9 อรหันต์ ตามสูตรการสร้างพระสมเด็จที่สืบทอดมาจากหลวงปู่ใจ วัดเสด็จ และ หลวงปู่หยอด วัดแก้วเจริญ

    ครั้งที่2.เมื่อเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 26 ตุลาคม 2538 พิธีมหาพุทธาภิเษก ภายในพระวิหารพระร่วงโรจนฤทธิ์ วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร จ.นครปฐม โดยมีพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ 9 รูป นั่งปรกแผ่เมตตาดังนี้

    1. หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม จ.กาญจนบุรี
    2. หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ จ.นครปฐม
    3. หลวงพ่อลำไย วัดทุ่งลาดหญ้า
    4. หลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ จ.สมุทรสงคราม
    5. หลวงพ่อยะ วัดท่าข้าม จ.นครปฐม
    6. หลวงพ่อแย้ม วัดสามง่าม จ.นครปฐม
    7. หลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม จ.นครปฐม
    8. หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม
    9. หลวงพ่อสง่า วัดหนองม่วง จ.ราชบุรี

    ครั้งที่3. อธิษฐานจิตแผ่พลังโดยพระป่ากรรมฐานในสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต อีกจำนวนทั้งหมด 22 รูป ดังนี้
    1. หลวงปู่โง่น โสรโย วัดพระพุทธบาทเขารวก จ.พิจิตร
    2. หลวงปู่หลอด ปโมทิโต วัดสิริกมลาวาส กรุงเทพฯ
    3. หลวงพ่อคำพอง ติสโส วัดถ้ำกกดู่ จ.อุดรธานี
    4. พระอาจารย์กิ ธัมมุตตโม วัดสนามชัย จ.อุบลราชธานี
    5. พระอาจารย์ท่อน ญาณธโร วัดศรีอภัยวัน จ.เลย
    6. พระอาจารย์บุญเพ็ง กัปปโก วัดป่าวิเวกธรรมวิทยาราม จ.ขอนแก่น
    7. หลวงปู่หลวง กตปุญโญ วัดป่าสำราญนิวาส จ.ลำปาง
    8. หลวงปู่จันทา ถาวโร วัดป่าเขาน้อย จ.พิจิตร
    9. พระอาจารย์โชติ อาภัคโค วัดภูเขาแก้ว น จ.อุบลราชธานี
    10. พระโพธินันทมุนี วัดบูรพาราม จ.สุรินทร์
    11. พระอาจารย์แปลง สุนทโร วัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร
    12. พระครูอุดมสังวรคุณ วัดบรมนิวาส กรุงเทพฯ
    13. หลวงพ่อเพิ่ม กิตติวัฒฑโน วัดถ้ำไตรรัตน์ จ.นครราชสีมา
    14. หลวงพ่อจำเนียร สีลเสฏโฐ วัดถ้ำเสือวิปัสสนา จ.กระบี่
    15. พระอาจารย์สมาน ชิตมาโร วัดป่าศรัทธาราม จ.นครราชสีมา
    16. หลวงพ่อเที่ยง ผาสุโก วัดหลวงปรีชากูล จ.ปราจีนบุรี
    17. พระครูพิทักษ์มัชฌิมเขต วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม จ.นครราชสีมา
    18. พระอาจารย์เคล็ม ปิยธโร วัดกระสัง จ.บุรีรัมย์
    19. หลวงพ่อแดง นันทิโย วัดอินทราราม จ.สมุทรสงคราม
    20. พระอาจารย์เฉลียว วรกิจโจ วัดป่าโคกมน จ.เลย
    21. หลวงพ่อสิทธา เชตะวัน
    22. พระอาจารย์เกษมสุข เขมสุโข วัดประดู่ธรรมาธิปัตย์ กรุงเทพฯ

    เหตุการณ์ที่พบเจอมากับตัวเอง คือ ได้เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่บ้านต่างจังหวัด ซึ่งทำให้บรรดาปลวกได้ขึ้นไปทำรังบนบ้านซึ่งเป็นบ้านไม้และได้ไปทำรังใหญ่ในตู้เก็บพระเครื่องซึ่งก่อความเสียหายมากๆนับมูลค่าไม่ได้จริงๆค่ะ แต่ก็เป็นที่น่าอัศจรรย์มากๆค่ะ พระสมเด็จ9อรหันต์นี้ซึ่งเป็นพระผงที่มีอยู่จำนวนหนึ่ง ไม่มีแม้แต่รอยปลวกขึ้นแต่อย่างใด แม้แต่รอยที่ขึ้นกล่องก็ไม่มีค่ะ(ทุกองค์เลย) เป็นประสบการณ์ที่ดิฉันสามารถพูดได้อย่างเต็มปากเลยค่ะว่า พระสมเด็จ9อรหันต์นี้ไม่ธรรมดาจริงๆ ดิฉันกล้ารับประกันได้ว่าพุทธคุณเหนือฟ้าเหนือแผ่นดิน
    พระสภาพสวยมากค่ะ อยู่ในกล่องเดิมตลอด

    รับประกันพระแท้ตลอดชีพ
    ปิดรายการแล้วค่ะ โดยคุณบุค^^
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 เมษายน 2014
  15. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ติดต่อ ID line:phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,491
    ค่าพลัง:
    +719
    รายการที่ 35 พระสมเด็จพิมพ์ใหญ่ อนุสรณ์118ปีสมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี วัดระฆังฯ

    พระสมเด็จพิมพ์ใหญ่ รุ่น อนุสรณ์ 118 ปี
    สมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี
    วัดระฆังโฆสิตาราม
    สุดยอดพระสมเด็จ 1 ใน 5 พระเบญจภาคีแห่งกรุงสยาม ไม่มีใครเกินพระสมเด็จของสมเด็จพุฒาจารย์โต แห่งวัดระฆังฯ (รุ่นแรกทะลุหลังร้อยล้านไปแล้ว) ซึ่งทำให้พระสมเด็จรุ่นต่างๆของท่านต่างมีราคาพุ่งสูงกันตามๆกัน
    เนื่องด้วยมหาพุทธานุภาพของสมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ทั้งมหาเมตตา มหานิยม มหาอำนาจ มหาเศรษฐี แคล้วคลาดปลอยภัย ความศักดิ์สิทธิ์ของท่านโด่งดังไปไกลทั่วโลก โดยเฉพาะบรรดามหาเศรษฐีชาวจีน ฮ่องกง สิงคโปร์ ต่างตามหาพระสมเด็จของท่าน ต่างสู้ราคากันไม่อั้น เพื่อให้ได้มาครอบครอง

    พระสมเด็จพิมพ์ใหญ่ รุ่น อนุสรณ์118ปี องค์นี้ สภาพพระสวยมากๆค่ะ เนื้อตึง สวยมาก จุดใหญ่ชัดเจน และยังเห็นรอยประทับรูประฆังด้านหลังชัดเจนค่ะ เช่ามาจากวัดระฆังฯโดยตรง ไม่เคยผ่านการใช้งาน เก็บอยู่ในกล่องเดิมจากวัดตลอด

    รับประกันพระแท้ตลอดชีพ
    ปิดรายการค้า
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 ธันวาคม 2014
  16. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ติดต่อ ID line:phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,491
    ค่าพลัง:
    +719
    จองแล้วค่ะ โดยคุณบุค^^

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ติดต่อ ID line:phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,491
    ค่าพลัง:
    +719
    จัดส่งพัสดุให้คุณบุค เรียบร้อยแล้วนะคะ^^

    รหัสEMS EL 0543 2989 4 TH
    ขอบพระคุณมากๆนะคะ^^
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ติดต่อ ID line:phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,491
    ค่าพลัง:
    +719
    ธรรมะดีๆค่ะ^^

    หยุดความโกรธ...ด้วยการให้อภัย
    หยุดความอาลัย...ด้วยการปล่อยวาง
     
  19. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ติดต่อ ID line:phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,491
    ค่าพลัง:
    +719
    รับทราบการจองพระปิดตาเมฆพัด พิมพ์หูกระต่าย รุ่น ขุมทรัพย์115ปี ค่ะ^^

    คุณชัย จอง1องค์ค่ะ
    ขอบคุณมากค่ะ^^

    รายได้ส่วนหนึ่งร่วมบุญใหญ่ สร้างองค์ปฐม ขนาดหน้าตัก21เมตร สูง59เมตร ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกค่ะ ณ พุทธสถานโพธิสัตว์นิมิต จ.สุรินทร์
     
  20. punnapak

    punnapak พระบ้านพระแท้ by คุณแพร ติดต่อ ID line:phare999 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,491
    ค่าพลัง:
    +719
    รับทราบการจองพระปิดตาเมฆพัด รุ่น ขุมทรัพย์115ปี 1 องค์ค่ะ

    คุณนัท (ผู้ศรัทธานอกเว็บ) จอง 1 องค์ค่ะ
    ขอบคุณมากค่ะ^^
     

แชร์หน้านี้

Loading...