เห็นภาพคลื่นน้ำทะเลซัดท่วมภูเขามาเลย(พี่ที่ทำงานบอกนั่งสมาธิเห็น)

ถ้าพลังงานจิตมนุษย์เอียงไปฝ่ายลบ(ความชั่ว)มากกว่าฝ่ายบวก(ความดี) จนทำให้ทุกอย่างในธรรมชาติเสียสมดุล..นั้นจะหมายถึงการเกิดสงครามโลกครั้งที่3ก็อาจจะเกิดขึ้นจริงๆก็ได้...ทุกคนอยากเห็นสงครามโลกหรืออยากเห็นภัยพิบัติ...เลือกกันเองนะ

 

ธรรมชาติของโลก..คือธรรมชาติของร่างกายเรานี้แหละ...มี4ธาตุเหมือนกัน...ร่างกายมนุษย์...ธาตุดินอยู่ด้านหน้า...ธาตุน้ำอยู่ด้านขวา...ธาตุไฟอยู่ด้านหลัง...ธาตุลมอยู่ด้านซ้าย...ฐานนั้นอยู่ระดับสะดือ...ลองเขียนเป็นวงกลมแล้วขีดเส้นตัดสองเส้นเป็นเครื่องหมายบวก....จุดตัดของทั้งสองเส้นนั้นแหละคือที่ตั้งจิต... "จิตสังขาร"



นี้เป็นวิชชาธรรมกายเบื้องต้น

 

ท่านรู้รึเปล่าเวลาท่านกล่าวถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์...จิตเราจะกระเพื่อมทีนึง...สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านกล่าว...มันอยู่ในจิตเรานี้แหละ...แต่ตอนนี้ยังหลับอยู่...เข้าใจนะ

 

พูดมากไม่ดี...เดี๋ยวจะมีคนเพ่งโทษมาที่เรา...เอาเท่านี้แหละ...คุยเรื่องอื่นดีกว่านะ

 

สวัสดีท่านแบม...

 

จิตยิ้มอยากให้ขยายความคำว่า "เรือ" อีกครั้งค่ะ หมายถึงสิ่งใด หลายคนอาจตีไปหลายความหมายนัยยะตามทิฐิที่ของแต่ละคนมีอยู่แล้วแต่ข้อมูลที่ได้รับมา บางทีจิตยิ้มก็คิดไปเกี่ยวกับเรือโนอาร์เหมือนในหนัง หรือว่ามีข้อมูลที่รู้กันอยู่ว่ามีจานบินของต่างดาวไปโน่นเลยคะ หรือว่าเป็นอย่างนั้นคะ

หรือว่า "เรือ" จะเป็นคำว่า "นิพพาน" กับ ความรู้ใหม่ของยุคพลังงานใหม่ว่าคนยุคนั้นต้องมีจิตใจวิธีคิดทัศนคติแบบไหน ซึ่งจิตใจของคนในยุคนั้นจะแตกต่างจากยุคพลังงานเก่า ที่ทุกคนต้องมีเป้าหมายเดียว คือ ไปนิพพาน เท่านั้น เพราะแห่งการยกระดับมิติ จิตใจผู้คนจะคล้ายกับยุคพระศรีอาริย์ และบรรลุนิพพานกัน

ถ้าสมมุติว่าคนที่มีธรรมแต่เป็นธรรมที่เป็นมิจฉาทิฐิ คือ หลงไสย หรือ มอมเมามัวเมาลุ่มหลงกิเลสตัณหาอวิชชาที่ห่างจากสัจจะความจริง ก็ให้เปลี่ยนใจเสียใหม่ อย่างนี้หรือเปล่าคะ

คือหมายความว่า "ผู้ที่ก้าวไปสู่ยุคใหม่ได้นั้น จะต้องเป็นผู้ที่ปราถนานิพพาน และนิพพานให้ได้ชาตินี้เท่านั้นหรือคะ

คือ ตรงจุดนี้จิตยิ้มคิดว่ามีบางคนที่สงสัยแน่เลย!! เพราะบางคนมาสร้างบารมีอาจจะยังไม่บรรลุชาตินี้เพราะกำลังยังไม่เต็มก็มี หรือที่ว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์กล่าวว่า "สิ้นยุคเจ้าแล้วกลับบ้านกันเถิดลูก" นี่หมายความว่า ทุกคนจะต้องปราถนากลับนิพพานในชาตินี้เท่านั้นอย่างเดียว ใช่หรือเปล่าคะ

และข้อสอบนั้นคือสิ่งใด...


ขอช่วยไขข้อข้องใจให้ด้วยค่ะ

 

คำว่า... "เรือ" ...สำหรับเราคนเดียวนะ...หมายถึง...การข้ามฝั่งจากฝั่งโลกียะ...ไปสู่ฝั่ง...โลกุตระ...คือการเป็นอริยบุคคล..โสดาบันเป็นอย่างน้อย...

...ส่วนข้อสอบนั้นเราคิดว่าน่าจะเป็นพรหมวิหาร4...ความคิดเราคนเดียวนะ...ส่วนความหมายของท่านอื่นนั้นเราไม่รู้...เพราะตรงนั้นไม่ใช่หน้าที่เรา

 

สวัสดี..ท่านอรรยานัฏฐ์...คนบ้านใกล้วัด...จิตใจอยู่ในวัตร..

 

จิตยิ้มยังรอคำตอบจากท่านศูนย์วันศูนย์อยู่ค่ะ

แต่สิ่งที่น่าเศร้าใจหากเป็นจริง......

หากใครไม่เข้าใจเรื่องแก่นแท้ของเราทุกคนคือสิ่งใด เราไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน ผลที่สุดจิตวิญญาณมนุษย์ที่เหลวไหล ไม่เอาถ่าน และไม่เอาไหน ที่ถูกชำระให้จบสิ้นชีวิตลงไปในแผนการชำระโลกครั้งที่สี่นี้ โดยพวกเขาเข้าสู่ภพภูมินรกขั้นต่ำสุด คือ นรกชั้นที่ 13 -16 ตามผิดบาปที่ได้ก่อไว้ในภพชาตินี้ ซึ่งนรกเหล่านี้อาจกล่าวว่าอยู่ใกล้ใจกลางโลกมากที่สุดก็ได้ และจะเป็นนรกชั้นที่จิตวิญญาณที่อยู่ในชั้นนี้จะไม่มีโอกาสได้กลับคืนสู่การเกิดใหม่ มีภพชาติใหม่ ไม่ว่าจะเป็นภพภูมิใด ๆ ได้อีกตลอดกาล ไม่ว่าเดิมพวกเขาจะเป็นคนถือศาสนาใด หรือ ไม่ถือศาสนาใด ๆ เลยก็ตาม จะต้องทนทุกข์ทรมานกับการถูกลงโทษอย่างหนักกับความร้อนแรงในใจกลางโลกตลอดไป

 

สิ่งศักดิ์สิทธิ์กล่าวว่า.....

พวกมนุษย์ไม่เคยสำนึกกันบ้างเลยว่า พฤติกรรมทางจิตที่เป็นอารมณ์ขยะอันเกิดจากกิเลสตัณหาของพวกเจ้านั้น มันก่อให้เกิดผลลัพธ์ทางพลังงานที่เรียกว่า "ผลกรรม" สั่งสมอยู่บนโครงข่ายสนามแม่เหล็กโลกไว้อย่างหนาแน่นซึ่งเป็นขยะพลังงานที่ดาวเคราะห์โลกไม่ต้องการ เพราะมันมีคุณสมบัติทางไฟฟ้าเป็นลบ เพราะพลังงานหยาบ ๆ ทั้งหลายเมื่อเกิดขึ้นแล้วจะไม่หายไปไหนได้นั่นเอง ในชั้นบรรยากาศของโลกจึงเต็มไปด้วยอนุภาคประจุไฟฟ้าลบ อันเกิดจากคลื่นพลังงานจิตด้านลบที่แผ่ออกมาภายนอกร่างกายอยู่ในชั้นบรรยากาศไว้มากมายมหาศาล รู้หรือไม่ว่า น้ำหนักมวลรวมของขยะพลังงานที่มนุษย์ช่วยกันสั่งสมไว้ในชั้นบรรยากาศโลกหนักมากกว่า 100 กิโลกรัมแล้ว (นี้นัยยะของขยะพลังงานที่เป็นอนุภาคลบที่มีคุณสมบัติทางไฟฟ้า)

ถ้าโลกใหม่ ฟ้าสวยใส พอลลูชั่นใด ๆ ในชั้นบรรยากาศโลกจะถูกกำจัดหมดให้สิ้นไป ประมาณนี้คะ กำจัดอย่างไหรือคะ สันนิษฐานฝนชำระล้าง๑ จึงเป็นเหตุที่มาของน้ำท่วมโลก หรือ การส่งคลื่นพลังงานบวกเข้ามาทำให้ชั้นบรรยากาศโลกเกิดชำระล้างโดยคลื่นชั้นบรรยากาศแปรปรวนด้วยเสียงดังจากฟ้าร้อง ฟ้าผ่า น่าจะประมาณนี้

 

เราขอความรู้จากท่านสงบ เรื่องวิชชาธรรมกาย หน่อยนะครับ
เราทราบว่าในวิชชาธรรมกายชั้นสูงนั้น มีการเดินวิชชาปราบมารด้วย ท่านสงบพอจะทราบเรื่องนี้บ้างไหมครับ ว่าเขาทำกันอย่างไร

 

มาเขียนกระทู้นีบ้าง
ท่าทางคุณศูนย์วันศูนย์จะรู้เรื่องเยอะอยู่นะ

ในโลกธาตุนี้กว้างเป็นอนัตตจักรวาล
เรียกว่าฝั่งสมมุติหาจุดสิ้นสุดไม่เจอ
แล้วแต่กรรมจะจำแนกพาสัตว์ไปเกิด

เพราะเกิดจากการบำเพ็ญตนไปจากโลกนี้

 

ถ้าโลกพลิกกลับขั้ว น่าจะมาจากสาเหตุพลังงานสนามแม่เหล็กโลกอ่อนแรง ถ้าพลิกกลับขั้วจริงความเสียหายน่าจะมหาศาล แต่เมื่อกี้มีกนะทู้ขึ้นใหม่ของท่านกิตติเกี่ยวกับชนวนสงครามโลก ที่ท่านปูตินฟ้องโลกว่าสหรัฐจะเป็นผู้จุดชนวน

หากว่าเป็นดังนั้นจริง สิ่งศักดิ์เคยกล่าวเตือนว่าหากไม่คิดจะหยุดยั้งจุดศุนย์กลางแห่งการสั่นสะเทือน จะมีพลังงานส่งมาจากนอกระบบโลกเข้าที่ทวีปที่เป็นจุดศูนย์กลางของการสั่นสะเทือน จะตรงกับคำว่า "แผ่นดินอธรรมจะถล่มเป็นทะเล" ค่ะ เมื่อเราอยู่โลกเดียวกัน ส้มลูกเดียวกันเมื่อมีสิ่งใดสะเทือนอีกจุดหนึ่ง ย่อมส่งผลถึงอีกจุดหนึ่งเสมอ

 

เหนือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็มีแม่ในแดนธรรม

ใหญ่กว่าเพื่อน

 

ที่จริงแล้ว สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็คือสิ่งนั้นแหละค่ะ จิตยิ้มไม่กล้าบอกตรง ๆ ค่ะ

 

และไม่ต้องสงสัยในตัวจิตยิ้มด้วยนะคะ เป็นคนที่แสนจะธรรมดาคนหนึ่ง พอหมดที่ตรงนี้ก็ไม่มีอะไรเลยคะ งง!ไหมคะ

 

เริ่มเข้าท่าครับ

 

ม้นต้องดูตอนจบครับ
ตอนนี้ยังส่งการบ้านกันอยู่

 

เราว่าชาติก่อนๆที่เราเกิดมานั้น...เราได้ฝึกวิชชาธรรมกายมาอย่างละเอียดแล้วล่ะ...แต่ชาตินี้เราได้แค่วิชชาธรรมกายเบื้องต้น....คือได้แค่โพธิญาณ...แต่ถ้าเอาคำที่ท่านดาราแฟร์เคยบอกไว้มาพิจารณา...มันคือการเพ่งกสินไฟนี้แหละคล้ายๆกัน...แต่ของเราเมื่อเพ่งแล้วมันจะเป็นลำแสงสีแดง...เราก็ไม่แน่ใจ...แต่เวลาคับขันมันจะเป็นเอง...หรือ...เวลามีอาการตกใจกลัว...ส่วนมากแล้วมีแต่เทวดาคอยมาช่วยบอกช่วยเตือนมากกว่า...ท่านก็ลองเพ่งกสินไฟดูนะ..ส่วนเรานั้นใช้เพ่งหลอดไฟกับเพ่งพระอาทิตย์

 

ในธรรมดานั้นอาจมีอะไรซ่อนอยู่...ค้นหาในจิตของตนเองให้เจอสิ...แม่ชี...เอาเวลาไปดูลมหายใจให้มากๆ...เดินให้มีคำภาวนา...รับประทานให้มีสติอยู่กับการเคี้ยว...ถ่ายอุจจาระ_ปัสสาวะให้มีสติอยู่กับตัว...นอนก็ให้นอนภาวนา...นอนท่าไหนให้หลับท่านั้น...ฝึกให้มากขึ้นสิ...ทำให้ยิ่งขึ้นสิ...ความเพียรให้มีมากๆสิ...แม่ชีจิตยิ้ม