แจกต่อ ฟรี! พระผงจักรพรรดิ์ ท่านละ 1 องค์ต่อครั้ง(ระงับแจกชั่วคราว)

ในห้อง 'แจกฟรี' ตั้งกระทู้โดย tanakorn_ss, 6 พฤศจิกายน 2010.

  1. ก ฯลฯ ฮ

    ก ฯลฯ ฮ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    856
    ค่าพลัง:
    +1,172
    [​IMG]

    ก็อปของคุณญัฐ ความเห็น 1114 หน้า 56 มา
    --------------------------------------------------------------------------------------
    ก่อนอื่นขอแจกแจงค่าใช้จ่ายในการสร้างพระผงก่อนดีกว่า
    1. ปูนซีเมนต์ขาว ถุงละั 200 บาท / 1 ถุง ตวงได้ราวๆ 57 ถ้วย / 1 ถ้วย สร้างพระได้ประมาณ 50 องค์
    2. ซองซิป กิโลละ 100 บาท / 1 กิโลมี 1,000 ซอง
    3. บทสวด แผ่นละ 0.50 บาท / 1 แผ่นตัดได้ 8 ชิ้น

    ยกตัวอย่างคร่าวๆ ที่ 1,000 องค์ เป็นค่าใช้จ่ายในการจัดทำโดยประมาณ 250 บาท
    และพระ 1,000 องค์มีน้ำหนักราวๆ 6 กิโลกรัม เสียค่าจัดส่งพัสดุ 110 บาท (ยังไม่รวมค่ากล่องและค่าวัสดุห่อหุ้ม)

    จากเดิมที่พวกณัฐสร้างพระผงมา ก็จะมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ อาทิเช่น ซิลิโคนทำพิมพ์ สีพ่นพระ เครื่องพ่น ฯลฯ ซึ่งไม่นำมารวมในต้นทุนที่คิดตรงนี้

    ดังนั้นจึงอยากขอเมตตาทุกท่านที่รับพระตั้งแต่ 100 องค์ขึ้นไป ร่วมทำบุญและช่วยค่าจัดส่งตามข้อมูลด้านล่างนี้นะคะ เพื่อที่ว่าเงินของทุกท่าน จะได้นำไปต่อยอดการสร้างพระผงสำหรับแจกตามที่ต่างๆ ต่อไปเรื่อยๆ ได้อย่างไม่ขาดสาย
     
  2. nutmof

    nutmof เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    287
    ค่าพลัง:
    +3,215
    สำหรับคิวจัดส่งพระผงจำนวนมากที่ณัฐรับผิดชอบอยู่ ขออนุญาติหยุดชั่วคราวนะคะ เนื่องจากตอนนี้ณัฐอยู่เชียงใหม่ แบบว่า ... บ้านน้ำท่วมอ่ะค่ะ เพิ่งมาถึงเชียงใหม่เดี๋ยวนี้เอง

    ถ้าสถานการณ์สงบ (น่าจะสัปดาห์หน้า) จะรีบกลับกรุงเทพแล้วดำเนินการจัดส่งให้นะคะ ... ช่วงนี้ท่านใดโทรศัพท์มาหาแล้วไม่ได้รับสาย ต้องขออภัยล่วงหน้านะคะ ยังไงส่งเมล์หาหรือโพสทางกระทู้ได้เลยค่ะ จะแวะเข้ามาตอบอีกทีนึง :'(
     
  3. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747

    ถ้าอย่างนั้นช่วงนี้ จะขออนุญาติรับผิดชอบแทนคุณณัฐไปก่อนนะครับ

    ถ้าสถานการณ์สงบเมื่อใหร่ค่อยว่ากันอีกที ทางนี้ก็น่าเป็นห่วงเหมือนกัน เรื่องน้ำเพราะว่าเห็นมีัปัญหาเรื่องการระบายที่รังสิต คลอง 12-13 อยู่ ถ้ามานี้ก็คงต้องหยุดชะงักเหมือนคุณณัฐ

    รายชื่อที่จะจัดส่ง
    1.พระกฤษกร กิตติปญโญ (จัดส่งฟรี)
    สำนักสงฆ์แพร่ธรรมจักร บ้านน้ำพุ เลขที่ 1
    ตำบลบ้านกวาง อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ 54130 โทร 0892137759


    2.นายอริย์ธัช ชูโชติสกุลเลิิศ (รอหลักฐานการส่ง)
    ม. ราชภัฎมหาสารคาม (คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี)
    80 ถนนนครสวรรค์ ตำบลตลาด อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม 44000
    ขอทราบค่าใช้จ่ายในการจัดส่งทั้งหมดครับ ขอบคุณครับ
    naichu4@yahoo.com
     
  4. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747


    ประชาสัมพันธ์

    ความเชื่อส่วนบุคคล


    ฝากความห่วงใยไปถึงทุกท่านนะครับที่มีความเกี่ยวเนื่องหรือไม่ก็ดี

    ปีนี้ขอเน้นย้ำว่า น้ำเยอะมากๆ ภัยต่างๆนี้เพิ่งเิริ่มต้นนะ และมีเข้ามาเรื่อยๆ แรงขึ้นเรื่อยๆ สิ่งที่ไม่เคยเห็น
    ก็ได้เห็น สิ่งที่คิดว่าไม่เิกิดก็จะเกิด ทั่วทุกเชื้อชาติ ศาสนา ทุกมุมโลก ไปสักระยะหนึ่ง.. แต่ช่วงนี้ให้ระมัดระวังเรื่องน้ำ ตัวผู้แจ้งข่าวนี้ไม่แน่ใจว่าจะมาถึงเมื่อใหร่ จะไม่ขอเล่าที่มาที่ไปที่บอกกล่าวนี้ว่าอย่างไร จะกลายเป็นว่าเพี้ยนไป หลุดโลกไป อย่ามัวคิดให้เสียเวลาว่าคนที่แจ้งนี้เขาวิตกจริตหรือเปล่า ตื่นตระหนกหรือเปล่าไม่สำคัญเท่าใหร่ ไม่มีประโยชน์อะไรจริงๆ

    ขอให้จัดเตรียมสิ่งที่คิดว่าจำเป็นซ้อมไว้(ก็ไม่เสียหายอะไร) คิดไว้ วางแผนไว้ และให้ใช้หลักเศรษฐิกิจแนวพอเพียง เพียงพอ พอดี พอใจ ไม่สุดโต่ง ไม่สำคัญตน ยึดทางสายกลาง ปล่อยจิตให้ว่างอิสระจากความยึดถือ

    ที่สำัคัญทำจิตให้ว่าง บริสุทธิ์ ให้ทาน รักษาศิล ภาวนา(ให้มากๆ)


    และมีเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา พิจารณาข้อธรรมอริยสัจและกฏไตรลักษณ์
    ทุกอย่างเป็นเรื่องของกรรม กรรมส่วนตัว กรรมส่วนรวม ใครจะใหญ่เกินกรรม
    ระลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณเป็นสรณะ

    กาลเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนไป บัดนี้เรามัวทำอะไรอยู่
    คนอื่นเราแก้ไขเขาไม่ได้ เรามาแก้ที่เรา ดูที่จิตเราสำคัญที่สุด
    รักษาจิตยิ่งกว่ารักษากาย เพราะกายถ้าไม่มีิจิต ก็เหมือนของตายนั้นเอง

    ที่ยังไม่ทำก็ให้เริ่มทำ ที่ทำแล้วก็ทำต่อไปอย่าให้ขาด ขอโมทนา

    เวลาเหลือน้อยแล้ว ให้หมั่นปฏิบัติให้มากๆ




    ขอโมทนา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กันยายน 2011
  5. ก ฯลฯ ฮ

    ก ฯลฯ ฮ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    856
    ค่าพลัง:
    +1,172

    ได้รับพัสดุแล้วครับ เรียบร้อยพระไม่มีแตกหัก
    บางองค์มีพระธรรมธาตุเสด็จด้วยครับ
    ขอบคุณมากครับ อนุโมทนาครัีบ
     
  6. nisado

    nisado สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +3
    อนุโมธนาบุญครับ

    ขอรับพระผงจักรพรรดิ์ 5 องค์ครับ

    นายอนุสิทธ์ เกษโกวิท
    272 ม.6 หมู่บ้านอมรชัย3
    ถ.บรมราชชนนี แขวงศาลาธรรมสพน์
    เขตทวีวัฒนา กทม 10170
     
  7. สติมั่น

    สติมั่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    584
    ค่าพลัง:
    +500
    กระผม นายอริย์ธัช ชูโชติสกุลเลิศ ได้ทำการโอนเงินผ่านตู้ ATM ในวันที่ 28 กันยายน 2554 เวลา 11: 41 เป็นจำนวน 1 พันบาท เพื่อขอรับพระมหาจักรพรรดิ์ จำนวน 1,200 องค์ โดยโอนเงินเข้าที่บัญชี

    น.ส.ณัฐพร สุรพิทยานนท์
    ธนาคารกรุงเทพ สาขาสาธุประดิษฐ์
    เลขที่บัญชี 171-4-21450-7
    และำสำเนาสลิปหลักฐานการโอนเงิน ส่งทาง EMS ไปที่

    นายฐนกร โสสาร
    13/1 หมู่ 2 ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา
    จ.ปทุมธานี 12150

    จึงขอแจ้งให้ทราบครับ ขอขอบคุณในการร่วมอนุโมทนาบุญกุศลในครั้งนี้ด้วยครับ ถ้ายังพอมีพระธาตุข้าวบิณฑ์ กระผมขอรับด้วยนะครับ
     
  8. tharinee24

    tharinee24 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2008
    โพสต์:
    168
    ค่าพลัง:
    +62
    อนุโทนาค่ะ ขอรับ 10 องค์
    ศิริเพ็ญ เจียวหวาน
    สิริรัตน์แมนชั่น ต.ท่าตลาด อ.สามพราน จ.นครปฐม 73110
     
  9. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    โมทนาสาธุด้วยเช่นกันนะครับ
     
  10. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    โมทนาสาธุ กติกาการขอรับพระ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 เมษายน 2021
  11. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747

    สา๋ธุน้อมกราบอนุโมทนาบุญกับพระคุณเจ้าทั้งหมดทั้งมวล


    [​IMG]
     
  12. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    [​IMG]
    วันนี้ได้รับสำเนาสลิปหลักฐานการโอนเงินแล้วนะครับ
    ขออนุโมทนาบุญกับท่านด้วยเ่ช่นกันนะครับ และขอขอบคุณที่ได้ให้โอกาสหมู่คณะทุกท่านได้มีส่วนร่วมในบุญนี้ทั้งหมดทั้งมวล

    ให้ท่านนำพระผงองค์ท่านไปใช้ให้เกิดประโยชน์ให้มากที่สุดนะครับ
    เพื่อประโยชน์ส่วนรวม จัดส่งให้วันใหนจะแจ้งให้ทราบนะครับ

    โมทนา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 11111.JPG
      11111.JPG
      ขนาดไฟล์:
      252.9 KB
      เปิดดู:
      291
  13. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    ได้ร้บซองพัสดุกันกระแทกจากคุณ เปรม แก้วแปง ขอรับพระผง 20 องค์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กันยายน 2011
  14. nisado

    nisado สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +3
    สงซองไปแล้วนะครับ

    รำดับที่1162 วันนี้ส่งซองไปแล้วครับ บวกเงิน40บาทค่าจัดส่งนะครับ
    ส่วนที่เหลือนั้นยกให้เป็นดุญพินิจของผู้ส่งได้เลยครับ
     
  15. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    <table id="post5181043" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr valign="top"><td class="alt1" id="td_post_5181043" style="border-right: 1px solid #FFFFFF">โมทนาสาธุ กติกาการขอรับพระ


    (หาก จะให้ลงทะเบียนแบบ ems เพื่อป้องกัันการสูญหาย ให้ท่านส่งเงินมาเพื่อทำการลงทะเบียนให้ได้นะครับ เงินที่เหลือขออนุญาตินำไปร่วมทำบุญสร้างพระผงแจกเป็นธรรมทานต่อไป)
    </td> </tr> <tr> <td class="alt2" style="border: 1px solid #FFFFFF; border-top: 0px">
    </td><td class="alt1" style="border: 1px solid #FFFFFF; border-left: 0px; border-top: 0px" align="right">
    </td></tr></tbody></table>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 เมษายน 2021
  16. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    [​IMG]

    คำขอขมากรรม

    โยโทโส โมหะจิตเต นะ พุทธะรัสมิง ปาปะกะโต มะยา ขะมะถะเม กะตัง โทสัง
    สัพพะปาปัง วินาสสันติ

    โยโทโส โมหะจิตเต ธัมมะรัสมิง ปาปะกะโต มะยา ขะมะถะเม ภันเต กะตัง โทสัง
    สัพพะ ปาปังวินาสสันติ

    โยโทโส โมหะจิตเต สังฆะรัสมิง ปาปะกะโต มะยา ขะมะถะเม ภันเต กะตัง โทสัง
    สัพพะ ปาปังวินาสสันติ


    [​IMG] [​IMG][​IMG]



    ประวัติ ข้อธรรม-คำสอน การใช้พระผงจักรพรรดิและลูกแก้วจักรพรรดิ
    ของพระอาจารย์วรงคต วิริยะธโร (หลวงตาม้า)
    วัดพุทธพรหมปัญโญ (วัดถ้ำเมืองนะ) ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว
    จังหวัดเชียงใหม่


    ชาตะภูมิ

    หลวง ตาม้า เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2487 ที่ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร ในสกุล สุวรรณคุณ โยมบิดามีนามว่า วันดี โยมมารดามีนามว่า โสภา ท่านเป็นบุตรคนที่ 2 ในจำนวนพี่น้องทั้งหมด 3 คน

    เมื่อท่านยังเล็กอยู่นั้น โยมมารดาได้นำท่านไปฝากให้คุณยายเลี้ยงดู ทำให้ท่านมีโอกาสและคุ้นเคยกับการเข้าวัดตั้งแต่เด็ก นอกจากนี้ ท่านยังได้ไปร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต พระอาจารย์ใหญ่แห่งสายพระป่าด้วย ซึ่งในงานนั้นท่านได้มีโอกาสพบเห็นพระธุดงค์สายพระป่า ผู้มีปฏิปทาจริยวัตรงดงามเรียบร้อย มาร่วมในงานเป็นจำนวนมาก

    ชีวิตฆราวาส

    ต่อมาหลวงตาได้ เข้ามาอยู่ที่กรุงเทพฯ โดยเข้ามาเป็นเด็กวัดอยู่ที่วัดเบญจมบพิตรคณะ 11 จากนั้นท่านจึงได้เข้าทำงานอยู่ธนาคารกสิกรไทย สำนักงานใหญ่ (สมัยนั้นอยู่บริเวณซอยอารีย์) และในช่วงที่ทำงานอยู่นี้เอง เพื่อนคนหนึ่งของท่านได้ไปบวชที่วัดสะแก ท่านก็ได้ตามไปร่วมงานบวชของเพื่อน และได้พบกับหลวงปู่งดู่เป็นครั้งแรก เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2519-2520

    นับแต่นั้น ท่านก็เทียวมาระหว่างกรุงเทพฯ-อยุธยา เพื่อศึกษาแนวทางการปฏิบัติต่าง ๆ กับหลวงปู่ดู่เป็นเวลากว่า 10 ปี และมีความรู้สึกอยากบวชมาตลอดเมื่อท่านปรึกษาเรื่องการบวชกับหลวงปู่ หลวงปู่ได้ว่า ผู้ที่จะเป็นพระนั้น ใจต้องเป็นพระ บวชจิตให้เป็นพระ ตัวเราก็เป็นพระ ต้องเริ่มจากข้างในไม่ใช่ข้างนอก บางคนข้างนอกห่มจีวรเป็นพระแต่ใจเป็นโจร ก็ไม่เรียกว่าเป็นพระ

    เหตุการณ์ก่อนบวช

    ถึง แม้ว่าหลวงตาม้าจะยังเป็นฆราวาส แต่ท่านก็ใช้การบวชใจเป็นพระเรื่อยมาจนกระทั่งประมาณ 1 ปี ก่อนที่ท่านจะออกบวชจริงๆ ขณะที่ท่านขับขี่มอเตอร์ไซด์อยู่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รถของท่านถูกรถอื่นเฉี่ยวจนตัวท่านลอยสูงแล้วตกลงมาหัวโหม่งกับพื้นถนนอย่าง รุนแรงจนสลบไป หลังจากนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว แพทย์บอกว่ากะโหลกศีรษะของท่านร้าว แต่โชคดีมากที่ไม่มีเลือดคั่งในสมอง และไม่มีบาดแผลรุนแรงใดๆ เลย หลังจากอยู่พักรักษาตัวเพียง 3 เดือน กะโหลกศีรษะก็ประสานกันดีเหมือนเดิม หลวงตาเล่าให้ฟังว่า วันนั้นท่านแขวนเพียงพระและสวมแหวนของหลวงปู่เท่านั้น

    บวชพร้อมทั้งกายและใจ
    หลัง จากที่ได้ผ่านการบวชจิต ได้รับการศึกษาแนวทางปฏิบัติต่างๆ จากหลวงปู่มาอย่างเต็มภูมิ และได้ผ่านอุบัติเหตุครั้งใหญ่แล้ว หลวงตาก็พร้อมจะบวชเป็นพระทั้งกายและใจ หลวงปู่ได้บอกว่า เวลาบวชต้องดูอุปัชฌาย์ ถ้าอุปัชฌาย์ไม่เป็นพระเราก็เป็นพระไม่ได้ แต่เนื่องจากหลวงปู่ดู่ไม่ได้ดำรงตำแหน่งเป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงตาจึงได้ไปอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2531 ณ วัดพุทไธศวรรย์ จ.นครศรีอยุธยา โดยมีพระครูภัทรกิจโสภณ (หลวงพ่อหวล) เจ้าอาวาสวัดพุทไธศวรรย์ (สมณศักดิ์ปัจจุบันคือ พระพุทไธศวรรย์วรคุณ) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูสุนทรธรรมนิเทศ (บุญส่ง) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูพิจิตรกิจจาทร (เสน่ห์) เป็นพระอนุสาวนาจารย์ โดยได้รับฉายาว่า วิริยธโร

    บำเพ็ญบารมีธรรม

    หลัง จากบวชแล้ว หลวงตาต้องการจะออกธุดงค์เลย แต่หลวงพ่อหวลได้บอกให้ท่านอยู่ให้ครบพรรษาเสียก่อน ขณะที่จำพรรษาอยู่วัดพุทไธศวรรย์นั้น หลวงพ่อหวลผู้สืบทอดวิชาสายหลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช และวิชาเหล็กไหลจากสายหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ ยังจะถ่ายทอดวิชาอาคมต่าง ๆ ให้กับหลวงตาม้าด้วย ทั้งที่ปกติท่านไม่เคยถ่ายทอดวิชาให้ใคร แต่หลวงตาก็ไม่ขอเรียน เพราะท่านรู้สึกว่าเรื่องของคาถาอาคมมีพิธีกรรมมาก ต้องใช้เวลาเรียนและจดจำมาก และตัวท่านเองก็สนใจแต่การปฏิบัติตามแนวทางของหลวงปู่ดู่เพียงองค์เดียวเท่า นั้นมาตลอด

    หลังออกพรรษา หลวงตาก็มากราบลาหลวงปู่เพื่อออกธุดงค์ หลวงปู่จึงมอบเงินให้หลวงตาไว้ 500 บาท รวมทั้งของใช้จำเป็นต่าง ๆ และได้หันไปหยิบรูปหล่อหลวงปู่ดู่เนื้อปูน มาให้หลวงตา 1 องค์ และบอกกับหลวงตาว่า เอ็งไปไหน ข้าไปด้วย หากสงสัยอะไรในการปฏิบัติให้แกถามเอาจากพระองค์นี้

    หลังจากกราบลาหลวงปู่ดู่แล้ว หลวงตาได้เดินทางโดยรถไฟไปยังเชียงใหม่ แล้วเริ่มออกธุดงค์ กำหนดจิตตามหาสถานที่ที่มีกระแสพลังงานเกี่ยวเนื่องกับหลวงปู่ดู่ไปเรื่อยๆ จนไปถึงพระบาทสี่รอย ท่านได้พบกับผู้เฒ่าคนหนึ่งที่ได้บอกเล่าถึงตำบลเมืองนะ ว่ามีถ้ำที่มีบรรยากาศสงบสัปปายะ เหมาะกับการปฏิบัติธรรมซึ่งท่านได้ฟังแล้วรู้สึกว่ามีลักษณะคล้ายกับที่ ตามหาอยู่ ท่านจึงได้ออกธุดงค์ต่อไปยังเมืองนะ

    เมื่อธุดงค์มาถึงเมืองนะ ในช่วงแรกหลวงตาได้ไปพักอยู่ที่ ถ้ำฮก ซึ่งหลวงตาได้อยู่ปฏิบัติธรรมที่ถ้ำนี้ประมาณ 1 เดือน แต่เนื่องจากถ้ำฮกเป็นถ้ำลึกที่มีทางน้ำใต้ดินไหลผ่าน ถ้ำมีความชื้นมาก ไม่สะดวกแก่การอยู่ปฏิบัติธรรมนัก ท่านจึงได้ออกธุดงค์หาถ้ำอื่นต่อไป

    หลังออกจากถ้ำฮก หลวงตาได้ธุดงค์ตามกระแสพลังงานของหลวงปู่ดู่ไปเรื่อยๆ จนได้พบกับ ถ้ำเมืองนะ ซึ่งในสมัยนั้นมีต้นไม้ขึ้นปกคลุมจนมองไม่เห็นปากถ้ำ แต่เมื่อแหวกต้นไม้เข้าไปกลับพบว่าในถ้ำซึ่งเป็นถ้ำร้างนั้น กลับสะอาดสะอ้านมาก เหมือนมีใครมาปัดกวาดเช็ดถูอยู่ทุกวัน ท่านจึงได้กำหนดจิตดู ก็พบว่าใต้ถ้ำแห่งนี้เป็นเมืองบาดาล และมีพญานาคอยู่เป็นจำนวนมาก คอยเฝ้ารักษาสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างหนึ่งที่เกี่ยวเนื่องกับหลวงปู่ทวดและ หลวงปู่ดู่เอาไว้ ท่านจึงตัดสินใจอยู่ปฏิบัติธรรมที่ถ้ำเมืองนะแห่งนี้เรื่อยมา

    หลังจากจำพรรษาที่ถ้ำเมืองนะได้ไม่นาน ก็มีลูกศิษย์หลวงปู่ดู่ตามขึ้นมาหาหลวงตา และเล่าให้ฟังว่า หลวงปู่เล่าให้เขาฟังหมดทุกอย่าง ว่าหลวงตาจะไปอยู่ที่ถ้ำไหน ลักษณะของถ้ำเป็นอย่างไร ทั้งที่หลวงปู่ไม่เคยมาที่ถ้ำแห่งนี้ และไม่เคยออกจากกุฏิของท่านที่อยุธยาเลย และในเวลาต่อมา หลวงปู่ดู่ยังได้เมตตาอธิษฐานจิตพระหน้าตัก 19 นิ้วองค์หนึ่ง ให้ลูกศิษย์นำขึ้นมาถวายให้หลวงตาประดิษฐานไว้ในถ้ำเมืองนะแห่งนี้อีกด้วย

    นอกจากถ้ำเมืองนะจะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่เกี่ยวเนื่องกับหลวงปู่ดู่แล้ว ถ้ำนี้ยังมีความเกี่ยวพันกับหลวงตาเป็นอย่างมาก หลวงตาเล่าว่า บริเวณกุฏิของท่านในปัจจุบันนี้ตอนที่พบครั้งแรกท่านรู้สึกคุ้นเคยมาก รู้สึกว่ายังไงก็ต้องเอาตรงนี้เป็นที่พักให้ได้ ท่านจึงได้กำหนดจิตดูก็พบว่า ที่ตรงนี้เคยเป็นวัดมาก่นตั้งแต่สมัยอยุธยา และบริเวณนี้เป็นที่ที่ท่านซึ่งเป็นพระในสมัยนั้นเคยอยู่จำพรรษามาก่อน โดยท่านได้พบหลักฐานเป็นบาตรดินเก่าที่แตกหัก ซึ่งเป็นบาตรเก่าของท่านตั้งแต่สมัยนั้นอยู่ในบริเวณนี้ด้วย




    พระผงกรรมฐาน (พระกำลังจักรพรรดิ)

    ประวัติการสร้างพระผงกรรมฐาน

    ใน ช่วงประมาณ 3 ปีแรกที่หลวงตามาปฏิบัติธรรมอยู่ถ้ำเมืองนะนั้น ท่านจะจำวัดในโลงศพเสมอ และยังได้ตั้งจิตอธิษฐานเร่งความเพียร ปฏิบัติธรรมอยู่แต่ภายในบริเวณถ้ำโดยไม่ออกไปไหน เพื่อหวังจะได้บรรลุนิพพานในชาตินี้ แต่หลังจากที่ท่านเร่งปฏิบัติธรรม พิจารณาทบทวนธรรมะต่างๆ ที่หลวงปู่ดู่ได้ถ่ายทอดไว้ให้แล้ว ท่านก็ได้พบกระแสพลังงานเก่าของตนเอง ว่าท่านเคยปฏิบัติธรรมสร้างบารมี ตามแนวทางพระโพธิสัตว์ เช่นเดียวกับหลวงปู่ดู่ ครูบาอาจารย์ของท่านนับนั้นเป็นต้นมา

    ต่อ มา เมื่อหลวงปู่ดู่มรณภาพลงเมื่อวันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2533 ท่านจึงได้ออกจากถ้ำ เพื่อมาร่วมงานพระราชทานเพลิงศพ ในปี พ.ศ. 2534 โดยหลวงตาได้พิจารณาว่า เมื่อหลวงปู่ไม่อยู่แล้ว ก็ไม่มีใครคอยเป็นหลักในการแผ่เมตตาช่วยเหลือภพภูมิแทนหลวงปู่เลย ในขณะที่ตัวท่านเองเป็นลูกศิษย์ ที่ได้ศึกษากระแสพลังงานเหนือพลัง และความรู้ต่างๆ จากหลวงปู่มาอย่างเต็มภูมิ รวมทั้งได้มาอยู่ที่ถ้ำเมืองนะซึ่งมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่รวมกระแสพลังงานอันไม่มีประมาณของหลวงปู่ทวดหลวงปู่ดู่เอาไว้อีกด้วย ท่านจึงควรจะช่วยทำหน้าที่วางรากฐาน และเผยแพร่แนวทางการปฏิบัติธรรม สร้างบารมี ช่วยเหลือสรรพสัตว์ทั้งหลาย และสร้างพระเครื่องเพื่อใช้ในการปฏิบัติธรรมตามแนวทางของหลวงปู่ดู่ต่อไป

    ใน ครั้งแรก หลวงตาไม่มั่นใจนักว่าจะสามารถทำหน้าที่แทนหลวงปู่ได้หรือไม่จึงได้อธิษฐาน จิตว่า ถ้าจะให้ท่านทำหน้าที่แทนหลวงปู่ได้ ขอให้หลวงปู่นำของที่เกี่ยวเนื่องกับหลวงปู่มาให้ภายใน 3 เดือน ซึ่งหลังจากท่านอธิษฐานได้เพียง 2 เดือน ก็มีลูกศิษย์ของหลวงปู่ขึ้นมาที่ถ้ำ และมอบสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่กายของหลวงปู่ชิ้นหนึ่งให้กับท่าน ทั้งที่เขาบูชาของสิ่งนั้นมาในราคาแพงหลักแสน โดยเขากล่าวว่า อยู่กับเขาก็ไม่มีประโยชน์อะไร อยู่กับหลวงตามีประโยชน์กว่า และหลังจากนั้นก็เริ่มมีคนนำมวลสารของหลวงปู่ดู่มาถวายให้ท่านมากมาย หลายอย่าง ท่านจึงได้เริ่มเผยแพร่แนวทางการปฏิบัติธรรมในสายโพธิญาณ แล้วสร้างพระตามแนวทางของหลวงปู่ดู่เรื่อยมา ตั้งแต่ประมาณปีพ.ศ.2534 จนถึงปัจจุบัน โดยทำเป็นพิมพ์ต่างๆ เช่น พระสมเด็จองค์ปฐมบรมมหาจักรพรรดิประทับยืนปางเปิดโลก พระเหนือพรหม พระศรีสยามเทวาธิราช หลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ ฯลฯ รวมถึงลักษณะปั้นเป็นลูกกลมๆ เรียกว่า ดวงแก้วมณีนพรัตน์

    การที่หลวงปู่ดู่และหลวงตาม้าจัดสร้าง หรืออนุญาตให้สร้างพระเครื่องพระบูชา ก็เพราะเห็นว่า ยังมีบุคคลจำนวนมากที่ขาดที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ และเนื่องเพราะศิษย์หรือบุคคลนั้นมีทั้งที่จิตใจใฝ่ธรรมล้วนๆ กับที่ยังต้องพึ่งพิงกับวัตถุมงคลอยู่ หลวงปู่ดู่เคยกล่าวเป็นข้อคิดไว้ว่า “ติดวัตถุมงคล ก็ยังดีกว่าที่จะให้ไปติดวัตถุอัปมงคล” เพราะอย่างน้อยก็เป็นการดึงให้ใจอยู่กับพระเครื่อง การได้เห็นพระนับเป็นพุทธานุสติ ใจย่อมเป็นบุญ ซึ่งดีกว่าปล่อยให้ใจไปติดอยู่กับเหล้ายาหรือกิเลสสิ่งไม่ดีอื่นๆ

    การสร้างพระของหลวงตานั้น ท่านจะนำมวลสารต่าง ๆ ของหลวงปู่ดู่มาผสมรวมกับปูนซีเมนต์ขาว และน้ำมนต์จักรพรรดิ จากนั้นจึงนำไปกดพิมพ์ออกมา แล้วนำไปอธิษฐานจิตปลุกเสก ด้วยกระแสพลังเหนือพรหมแห่งพระคาถามหาจักพรรดิ นอกจากนี้ พระเครื่องของหลวงตาทุกองค์ ยังได้ผ่านการอธิษฐานจิตปลุกเสกด้วยวิชา ภูตพระพุทธเจ้า จึงทำให้พระเครื่องของท่านสามารถดิ้นได้พูดได้ราวกับมีชีวิต ดังนั้น ผู้ปฏิบัติที่หมั่นนำพระของท่านไปกำสวดมนต์ภาวนาอยู่เสมอ จนจิตสงบเบาสบาย และสามารถจูนพลังงานจิตของตน ให้เข้ากับพลังเหนือพลังอันบริสุทธิ์ที่ท่านได้อธิษฐานไว้ในพระได้ ย่อมสามารถนำพระของท่านมาใช้กำภาวนา ถามตอบแนวทางการปฏิบัติธรรมต่าง ๆ ได้ ราวกับมีหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า มาคอยตอบข้อสงสัยต่างๆ อยู่เบื้องหน้าตนเลยทีเดียว

    นับแค่ครั้งแรกที่เริ่มสร้างพระจนถึงปัจจุบันนั้น หลวงตาได้สร้างพระผลกรรมฐานตามแนวทางของหลวงปู่ดู่ไว้แล้วมากกว่า 10 ล้านองค์ ท่านจะสร้างพระทุกวันพระส่วนหนึ่งท่านจะเก็บไว้ในไห แล้วนำไปไว้ตามถ้ำหรือวัดต่างๆ เพื่อสืบทอดอายุพระพุทธศาสนาต่อไป และพระอีกส่วนหนึ่งท่านจะนำมาแจกให้ลูกศิษย์นำไปใช้กำสวดมนต์เจริญภาวนากัน โดยท่านสร้างพระผงกรรมฐานนี้ไว้เพื่อแจกเพียงอย่างเดียว ไม่ได้ทำเพื่อจำหน่าย หลวงตากล่าวว่า พระผงกรรมฐานนี้ ใครอยากได้ต้องมาขอที่ถ้ำ ท่านจะมอบพระที่เลี่ยมพลาสติกแล้วพร้อมประคำให้ ท่านบอกว่าถ้าไม่เลี่ยมให้ เมื่อได้ไปแล้ว ก็มักจะเอาไปวางไว้ ไม่เอามาใช้สวดมนต์ภาวนากัน ส่วนประคำก็ร้อยให้เพื่อจะได้นำพระมาห้อยคอเพื่อใช้ปฏิบัติธรรมได้เลย

    พระผงกรรมฐานนี้ สามารถป้องกันรังสีนิวเคลียร์ได้ แม้กระทั่งโรคเอดส์โรคไข้หวัดนก รวมไปถึงโรคระบาดใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้




    หลวงปู่ดู่เคยกล่าวไว้ว่า “ถ้าใช้พระเป็น ถึงนิพพานได้เลย”
    พระผงกรรมฐานเป็นพระใช้ มิใช่พระเก็บหรือสะสมเอาไว้เฉยๆ ในตู้และไม่มีกำหนดว่ารุ่นใดเป็นรุ่นหนึ่งรุ่นสอง เพราะหลวงตาม้าและศิษย์ที่ได้รับการครอบวิชาให้สามารถสร้างพระตามสูตรนี้ได้ นั้น มีการสร้างพระอยู่เรื่อยๆ การเก็บพระผงกรรมฐานเอาไว้เฉยๆ ไม่คล้องคอติดตัว ไม่แช่ถังน้ำในบ้านเพื่อทำน้ำมนต์ไว้กินและอาบ ไม่ใช้เพื่อการปรับภพภูมิช่วยส่งวิญญาณ ถือว่าเสียประโยชน์เปล่า เสมือนกับมีเงินทองแล้วไม่รู้จักนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ทั้งตนเองและผู้ อื่น









    แสงสว่างแห่งบุญจากพระเครื่องของหลวงตา

    กระแสพลังงานแห่งบุญบารมีอันบริสุทธิ์ ที่หลวงตาได้อธิษฐานจิตรวมลงสู่พระเครื่องของท่านทุกองค์นั้น นอกจากจะสามารถพิสูจน์ให้เห็นได้อย่างเป็นรูปธรรมจากพระธรรมธาตุที่เกิดขึ้น บนพระเครื่องที่ท่านสร้างแล้ว ยังมีลูกศิษย์หลายคนได้เคยเห็นกระแสพลังงานแห่งบุญอันสว่างไสวนั้นอย่าง ชัดเจนด้วยตนเองอีกด้วย โดยเวลานำพระมาใช้สวดมนต์ภาวนานั้น หลวงตามักจะแนะนำให้ปิดไฟ หรือจุดเทียนไว้ให้มีแสงสว่างเพียงไม่มาก เพื่อให้มีบรรยากาศสงบสัปปายะเหมาะแก่การปฏิบัติธรรม และยังช่วยให้ผู้ปฏิบัติสามารถพิสูจน์ศึกษากระแสพลังงานแห่งบุญได้ด้วยตนเอง อีกด้วย โดยมีลูกศิษย์ที่นำพระของท่านไปหลับตาสวดมนต์และปิดไฟในห้องมืดสนิท แต่กลับเห็นแสงสว่างสีนวลๆ ส่องผ่านเปลือกตาที่หลับอยู่เข้ามาอยู่เสมอ บางคนก็ตกใจ ลืมนาดูว่าแสงอะไร แต่เมื่อลืมตาดูก็พบแต่ห้องมิดสนิท ปราศจากแสงใดๆส่องผ่านมา โดยแสงสว่างเหล่านี้ ไม่ใช่จะเห็นเฉพาะตอนหลับตาสวดมนต์ภาวนาเท่านั้น บางคนแม้ลืมตาอยู่ก็สามารถมองเห็นแสงว่างนั้นได้เช่นกัน

    หลวงตาได้เมตตาอธิบายว่า นั่นคือแสงสว่างแห่งบุญ ทุกครั้งที่เราทำบุญไม่ว่าจะเป็นใส่บาตร สวดมนต์ นั่งสมาธิ ฯลฯ จะมีแสงสว่างแห่งบุญนั้นปรากฏขึ้นเสมอ เพียงแต่จิตเรายังไม่สบายหรือนิ่งละเอียดพอที่จะเห็นแสงสว่างนั้นได้เท่า นั้น แต่เมื่อมากำสวดมนต์ภาวนาจนจิตนิ่งเบาสบายดีแล้ว ก็ย่อมจะสามารถเห็นแสงสว่างอันเกิดจากบุญกุศลที่ตนได้ทำไว้ รวมทั้งแสงสว่างจากเทพพรหมทั้งหลายที่มาอนุโมทนากับบุญที่เราได้ทำ และแสงสว่างแห่งบุญบารมีอันบริสุทธิ์ของพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ พระโพธิสัตว์ เทพพรหมทุกๆ พระองค์ ที่หลวงตาได้อธิษฐานจิตรวมลงสู่พระเครื่องของท่านได้

    ทุกๆ ครั้งที่หลวงตาสวดบทพระคาถามหาจักพรรดิ หรืออธิษฐานจิตปลุกเสกพระเครื่องต่างๆ นั้น ท่านจะอธิษฐานจิตรวมบุญบารมีอันไม่มีประมาณทั้งหมดส่งเป็นกระแสพลังเหนือ พลังไปสู่พระเครื่องที่ท่านได้เคยสร้างไว้ทุกๆ องค์เสมอ ดังนั้นจึงเท่ากับว่าพระเครื่องที่ทุกท่านได้รับจากหลวงตาไปทุกๆ องค์นั้น ได้รับการอธิษฐานจิตปลุกเสกจากหลวงตาอยู่ตลอดเวลา และหากหมั่นนำไปสวดมนต์ภาวนา ทำจิตให้เบาสบายดีแล้ว ก็อาจมีโอกาสได้เห็นแสงแห่งบุญบารมี ที่หลวงตาได้เมตตาอธิษฐานจิตไปสู่พระเครื่องทุกองค์ เพื่อคอยช่วยเหลือดูแลลูกศิษย์ลูกหาทุกคนทั้งทางโลกและทางธรรมด้วยตาของตน เอง ดังมีลูกศิษย์หลายคนได้เคยพบเห็นและพิสูจน์แจ่มแจ้งมาแล้ว


    กระแสบุญบารมีอันบริสุทธิ์สว่างไสว ที่หลวงตาได้อธิษฐานจิตรวมลงสู่พระเครื่องของท่านทุกองค์นี้เอง ทำให้นอกจากจะใช้พระเครื่องของท่านในการปฏิบัติธรรมได้แล้ว ยังสามารถนำมาใช้แผ่บุญส่องสว่างชี้นำทางให้เหล่าภพภูมิทั้งหลาย ที่ยังวนเวียนทุกข์ทรมานในโลกนี้ ให้ได้ไปเกิดในภพภูมิที่ดีมีความสุขมากขึ้น รวมทั้งยังสามารถใช้โน้มนำให้เหล่าภูตผีปีศาจ หรือเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่เป็นสาเหตุหนึ่งของการเจ็บไข้ได้ป่วย อุบัติเหตุต่างๆ ความทุกข์ยากลำบากชีวิต การเงินไม่คล่องตัว ฯลฯ ให้กลับกลายมาเป็นมิตรกับเรา มาร่วมช่วยสร้างบุญกุศลกับเราต่อไปได้อีกด้วย ดังที่จะได้กล่าวถึงต่อไป​





    แก้วจักรพรรดิ (แก้วมณีนพรัตน์)


    แก้วจักรพรรดิ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่ง แก้วมณีนพรัตน์ นั้นสร้างมาตั้งแต่สมัยที่หลวงปู่ดู่ยังทรงขันธ์อยู่ โดยท่านใช้ปูนซีเมนต์ขาวผสมกับผงจักรพรรดิ ปั้นเป็นลูกกลมๆ เจาะรูทะลุตรงกลาง แล้วร้อยเชือกแจกเด็กๆ แถววัดสะแก เคยมีเหตุการณ์ที่เด็กแขวนลูกแก้วจักพรรดิตกน้ำแล้วไม่จม ทำให้เป็นที่ต้องการของชาวบ้าน อีกทั้งว่ากันว่าขอได้ตามใจนึก จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ลูกแก้วสารพัดนึก

    หลวงตาม้าเป็นผู้สืบทอดวิชาการสร้างพระผงจักรพรรดิ (พระผงกรรมฐาน) และลูกแก้วจักรพรรดินี้มาจากหลวงปู่ดู่ แต่เนื่องจากการทำลูกแก้วจักรพรรดิด้วยผงปูน ต้องใช้วิธีปั้นทีละลูก ใช้เวลาทำมาก และเนื่องจากปัจจุบันเทคโนโลยีที่ทันสมัย สามารถผลิตลูกแก้วสำเร็จ และหาซื้อได้ง่าย ลูกศิษย์จึงซื้อลูกแก้วเหล่านั้นมาให้หลวงตาอธิษฐานจิตให้เป็นลูกแก้ว จักรพรรดิ ซึ่งหลวงตาบอกว่ามีคุณสมบัติเหมือนกับลูกแก้วจักรพรรดิที่ทำจากผงปูนทุก ประการ สามารถใช้แทนกันได้ ด้วยเหตุนี้ ลูกแก้วจักรพรรดิของหลวงตาจึงมีแบบชนิดที่เป็นผงปูนปั้น กับชนิดที่เป็นแก้วสำเร็จ

    ลูกแก้วจักรพรรดินี้ สามารถนำมาใช้บูชาติดตัว ใช้กำเอาช่วยภาวนาทำสมาธิ ใช้อธิษฐานเพื่อทำน้ำมนต์ หรือใช้ในการอธิษฐานเพื่อปรับภพภูมิก็ได้ เช่นเดียวกับพระผงกรรมฐานทุกประการ ในกรณีของการใช้เพื่อปรับภพภูมิ ทำให้ผู้ที่ทำการแผ่บุญไม่ต้องเดินทางไปยังสถานที่นั้นๆ บ่อย แต่จะใช้การวางลูกแก้วไว้ในสถานที่นั้นแทน แล้วอธิษฐานขอให้ลูกแก้วจักรพรรดิแผ่บุญออกไปเองโดยอัตโนมัติ เหล่าวิญญาณที่ประจำอยู่ตรงสถานที่นั้น หรือเร่ร่อนผ่านไปยังสถานที่นั้น เมื่อเห็นแสงแห่งบุญที่เปล่งออกจากลูกแก้ว ก็จะสามารถอนุโมทนาในบุญนี้ได้ตลอด




    การ วางลูกแก้วตามสถานที่ต่างๆ เพื่อปรับภพภูมิ จึงเป็นการสงเคราะห์โลกทั้งหลายไม่มีประมาณ และเมื่อมีการขยายพื้นที่ในการวางลูกแก้วกว้างขวางออกไปเพียงไร พื้นที่ในการแผ่บุญบารมีก็จะยิ่งกว้างไกลออกไปเพียงนั้น




    โอวาทของหลวงตาม้า วิริยะธโร
    วัดถ้ำเมืองนะ


    การปฏิบัติน่ะ ถ้าทำจริงนะไม่ยาก ที่ยากน่ะไม่พากันทำ
    (ให้สวด) ก่อนนอน ตื่นนอน กินข้าว อาบน้ำ
    ใครจะใหญ่เกินกรรม


    [​IMG] ขอขอบพระคุณและโมทนาบุญอย่างสูงสำหรับข้อมูลจาก :
    - คณะศิษยานุศิษย์หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด หลวงปู่ดู่พรหมปัญโญ หลวงตาม้า วิริยะธโร. ใครจะใหญ่เกินกรรม.พิมพ์ครั้งที่ 7, 7 พฤษภาคม 2553.


    สนใจร่วมทำบุญทุกอย่างกับหลวงตาม้า ทำุบุญเพื่อพระพุทธศาสนา
    ................................................

    ชื่อบัญชี : พระวรงคต วิริยะธโร (หลวงตาม้า)

    ธนาคาร : ธนาคารกสิกรไทย สาขามูลเมือง จ.เชียงใหม่

    หมายเลขบัญชี : 383 223 9258
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 ตุลาคม 2011
  17. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    ได้รับพัสดุแล้วนะครับ

    โมทนา
     
  18. nutmof

    nutmof เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    287
    ค่าพลัง:
    +3,215
    กลับมาจากน้ำท่วมแล้วค่ะ .... มีข่าวมาอัพเดต



    รายละเอียดอยู่ในกระทู้นี้นะคะ http://palungjit.org/threads/กายสิท...้น-อัพเดตหน้า-16-a.300779/page-16#post5156254
     
  19. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    วันอาทิตย์ที่ 2-10-54 ได้จัดส่งพระผงถึง
    คุณอนุสิทธิ์ เกษโกวิท(กทม)
    พระผง 5 องค์
    คุณ เปรม แก้วแปง(กทม) พระผง 20 องค์

    ถ้าได้ร้บพระแล้ว
    หากสะดวกแจ้งให้ทราบด้วย

    โมทนา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ตุลาคม 2011
  20. nkr56

    nkr56 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +6
    มีแผนจะไปปฎิบัติธรรมที่วัดพุทธพรหมปัญโญหลวงตาม้าที่เชียงใหม่ขอรับบูชาที่วัดได้หรือปล่าวครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...