โดนขังวิญญาณ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ainteerati, 14 สิงหาคม 2010.

  1. to2504

    to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,449
    ค่าพลัง:
    +1,230
    เข้าห้องสอบเลยค่ะ มีอาจารย์มาสอบอารมณ์ ทำเหตุการณ์ให้ดู แล้วในฝันนั้นเราจะแก้สถานการณ์อย่างไร บางครั้งก็ถามคำถามให้เราตอบ ถ้าตอบถูกก็ย้ายไปตอบอีกห้อง หลังจากถูกสอบอารมณ์ก็จะมีเหตุการณ์แบบที่ในฝันเกิดขึ้นจริง ๆ และเราก็ต้องทำจิตใจแบบในฝัน บางครั้งก็ต้องพิจารณาแก้สภาวะเอาเองก็มีค่ะ

    การสอบอารมณ์นี้ จะลงลึกถึงจิตใต้สำนึก คือตอนไม่มีสติ เราจะโกหกไม่ได้เลย ปฏิบัติได้แบบไหนก็จะโดนสอบแบบนั้นค่ะว่าผ่านหรือไม่ผ่าน

    ส่วนของคุณทิพย์ นั้นที่เค้าทำให้ดูว่าคุณทิพย์ จะรับสภาพของแม่คุณทิพย์ ได้มั้ย จะยอมรับความจริงได้มั้ยหากว่าแม่ของคุณทิพย์เป็นแบบนั้น จิตใต้สำนึกของคุณทิพย์ ปล่อยวางได้หรือยัง ในนั้นจะมีคำตอบอยู่ค่ะ พิจารณาดูดี ๆ ค่ะ
     
  2. i3lack

    i3lack เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    288
    ค่าพลัง:
    +102
    อนุโมทนาด้วยครับ :cool:
     
  3. noinid0209

    noinid0209 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    742
    ค่าพลัง:
    +570
    อนุโมทนาบุญด้วยคนนะครับ

    เมื่อคืนผมก็ฝันเห็นแม่ครับ แต่แม่ผมเสียไปแล้ว 3 ปี
    ความรู้สึกว่าเป็นแม่นะ แต่ไม่เห็นหน้า ร้อยวันพันปี ไม่เคยฝันเห็น
    มาเมื่อคืนฝัน ในฝันก้ไปเจอแม่ที่บ้านที่สุพรรณ เข้าไปกอด
    เข้าไปนอนตักแม่ แล้วก็บอกแม่ว่า ผมรักแม่ นะ ในฝันร้องไห้ใหญ่เลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มิถุนายน 2011
  4. ainteerati

    ainteerati เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,233
    ค่าพลัง:
    +2,275
    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1542344/[/MUSIC]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. Assarin

    Assarin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    119
    ค่าพลัง:
    +104
    ทิพย์น่าจะผ่านยากค่ะคุณทีโอเรื่องแม่เนี่ยแค่ฝันก็ร้องไห้ใจจะขาดแล้ว แม้แต่เส้นทางระยองชลบุรี

    ถนนเส้นนั้นถ้าผ่านทีไรทิพย์ก็จะนึกถึงวันที่ย้ายแม่ออกจากรพ.กรุงเทพระยองไปโรงพยาบาลชลบุรี

    เวลาผ่านถนนเส้นนั้นทีไรจิตใจเราจะตกอยู่ในภวังอยู่นานเป็นปีเหมือนกันค่ะ แต่วันที่ไปปฏิบัติที่สำนักแม่ชีไทยพัฒนาจิตฯ

    ที่ฉะเชิงเทราทิพย์ไปกับลูกพี่ลูกน้องที่ปากเขาเบี้ยวนั่นละค่ะคือพาไปให้แม่ชีบำบัดเพราะมีพี่คนหนึ่งแนะนำมา

    แต่ยังไม่กล้าพาแม่ไปเพราะเวลาไปปฏิบัติความทรมานมันจะมากกว่าปกติ ๕๕๕ สิ่งที่ทิพย์โดนสอบอารมณ์

    นอกจากเวทนาที่มากกว่าทุกครั้งแล้วอาจจะเพราะทิพย์ให้แม่ชีบำบัดโดยใช้ไฟฟ้ากระตุ้นจุดที่ปวดหรือกล้ามเนื้อที่มีปัญหา

    ทำให้หลังจากถอดเครื่องแล้วระบมเจ็บมากกว่าเก่ามากเวลานั่งสมาธิจะปวดเป็นเท่าทวีคูณเลยยิ่งปวดสติก็ยิ่งดี

    แต่ที่นั่นนกจะเยอะ และมาอึที่ศาลาบำบัด และศาลาหลวงพ่อองค์ดำเยอะพอควรทิพย์ก็ไปถูอึนกออกเพราะว่ามันคาว

    พอเราถูออกพอตอนเย็นโอแม่เจ้า เหมือนโดนกลั่นแกล้ง๕๕๕ ที่นี้เขามาเป็นแถวเลยค่ะตามแนวระเบียงทั้งหมด

    เขาอึแบบนกท้องเสียเต็มไปหมด เราก็ไปเอาสก๊อตไบร์ทกับน้ำสบู่มาขัดอีกค่อยขัดไปเรื่อยๆ รู้แต่ว่าที่ตัวเรา

    เหม็นแต่กลิ่นคาวนั้น จมูกจับแต่กลิ่นหนอพออีกวันเราไปนั่งที่ศาลาพระองค์ดำเจ้านกเขาคงเกลียดทิพย์มาก

    ทีนี้เขาไม่ไปอึที่อื่นแล้ว เขามาอึใส่หัวทิพย์เลยตอนนั่งสมาธิแต่ก็ไม่ได้โกรธเขานะคะแม่ชีนก(ชื่อแม่ชีค่ะ)

    บอกว่าเขามาสอบอารมณ์ทิพย์ แต่วันที่กลับตอนไปกราบหลวงพ่อองค์ดำทีนี้รังนกหล่นลงมาทั้งรังไม่รู้ว่าเขาหล่นมาจากไหน

    รังใหญ่มากและมีไข่เขาตกลงมาแตกด้วยแต่มองขึ้นไปข้างบนก็ไม่เห็นจะมีตรงไหนเป็นขื่อเป็นคานที่นกจะทำรังใหญ่ขนาดนั้นได้เลย
     
  6. Assarin

    Assarin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    119
    ค่าพลัง:
    +104
    คุณทีโอพี่จิโปไปไหนคะ ทำไมไม่มีนิทานก่อนนอนมาหลายวันแล้ว โหว.. ทิพย์นึกว่าจะมีเรื่องหนุกๆให้อ่านหลังกลับมา

    กลับถึงบ้านง่วงเกือบตายแต่ก็อยากอ่านนิทาน พอเข้ามาไม่มีไรให้อ่านเลย ฮือๆ เลยหลับเป็นตายเลยค่ะ ๕๕๕

    พึ่งจะฟื้นตอนบ่าย 3 วันนี้
     
  7. ศิลามณี

    ศิลามณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    1,008
    ค่าพลัง:
    +1,321
    ศิลามณี แวะเข้ามาทักนะคะ ช่วงนี้งานยุ่งนิดหน่อยคะ..อืมร์ นั่นสิ คุณจิ-โป หายแวบไปเลย...
     
  8. ainteerati

    ainteerati เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,233
    ค่าพลัง:
    +2,275
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]จารึก" หลักหนึ่งพบในปราสาทร้าง ที่ตั้งอยู่สุดขอบบารายตะวันออก (East Baray) ในเขตเมืองพระนครหลวง เป็นจารึกสำคัญที่หลงรอดจากการ “ทำลาย”มาในแต่ละยุคสมัย[/FONT][SIZE=-0][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif].[/FONT][/SIZE]
    [SIZE=-0][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][/FONT][/SIZE][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif] ปราสาทร้างหลังนั้นมีชื่อภาษาเขมรว่า “ปราสาทตอว์ (Parsat Tor)” หรือ “ปราสาทราชสีห์” เนื่องจากคำว่า “ตอว์” หรือ “ตาว” ในภาษาเขมรแปลว่า “สิงโต” ครับ[/FONT]
    [SIZE=-0][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif].[/FONT][/SIZE]
    [​IMG]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif].[/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif] [/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif] ปราสาทตอว์ เป็นปราสาทร้าง ในรูปแบบของอโรคยศาล (Arogaya-sala ,Hospital Chapel) หรือ โรงพยาบาลแห่งพระพุทธเจ้า กายสีน้ำเงิน พระนามว่า “ไภษัชยไวฑูรยประภาสุคต” แห่งนิกายพุทธศาสนา “วัชรยานบายน”[/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif].[/FONT]
    [SIZE=-0][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif] ชื่อ ปราสาทมากมายในประเทศกัมพูชาหรือในประเทศไทยก็ตาม ต่างก็ไม่พ้นชื่อที่ถูกตั้งขึ้นมาใหม่ จากประสบการณ์ ความจำเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม เหตุการณ์ หรือความประทับใจของผู้คนที่ “ย้าย” ชุมชนเข้ามาครอบครองเหล่าพื้นที่ใกล้ปราสาทที่สาบสูญและสิ้นมนตราแห่ง “อำนาจ” ของเหล่าอาณาจักรโบราณเหล่านั้น[/FONT][/SIZE]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif].[/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif] เช่น เดียวกับปราสาทตอว์ คงเพราะปราสาทตั้งอยู่ในที่รกร้าง ป่ารกชัฏเข้าปกคลุม รูปสลักสิงโตคู่ตรงทางเข้าคงเป็นที่มาของชื่อปราสาทแน่ ๆ[/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]. [/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif] [/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ถึงจะไม่ใช่เหตุผลนี้ ก็ใกล้เคียงล่ะครับ !!![/FONT]
    .
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif] “จารึก” หลักสี่เหลี่ยมแบบหลักศิลาจารึก(เจ้า)ปัญหาของกรุงสุโขทัย หรือหลักกิโลเมตรเมืองไทย กล่าวถึงเรื่องราวแห่ง “ชัยชนะ” ของ “พระบรมโพธิสัตว์ชัยวรมัน - พระราชาผู้ปรารถนาความดีและประโยชน์อย่างยิ่งแก่มวลสัตว์โลก” ที่มีเหนือดินแดนตะวันตก[/FONT]
    [SIZE=-0][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif].[/FONT][/SIZE]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif] มันเป็นหลักฐาน “สงคราม” และชัยชนะของพระองค์เหนือเหล่า “พระราชาตะวันตก” บนแผ่นดินสุวรรณภูมิ !!![/FONT]
    .
    [​IMG]
    .
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif] อาณาจักรของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 จากพระนครหลวงได้ขยายออกไปทางทิศตะวันตก และได้ปราบปราม ครอบครองหัวเมืองดั่งเดิมตามลุ่มแม่น้ำต่าง ๆ มาจนถึงลุ่มน้ำแม่กลอง หัวเมืองที่ยังเป็นวัฒนธรรมแบบ "ทวารวดี"[/FONT]
    [SIZE=-0][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif].[/FONT][/SIZE]
    [SIZE=-0][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][/FONT][/SIZE][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif] สอดรับกับหลักฐานจาก “จารึกปราสาทพระขรรค์” ในเมืองพระนครหลวง ที่กล่าวถึงการสร้าง “วิษัยนคร”(จังหวัด) ขึ้นใหม่ 5 – 6 แห่ง ภายหลังชัยชนะของพระองค์ “อาณานิคม” ใหม่ของมหาอาณาจักรกัมพุเทศเกิดขึ้นแล้วที่ปลายทิศอัสดง !!![/FONT]
    .
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif] “วิษัยนคร” ที่ถูกสถาปนานครขึ้นใหม่ 6 แห่ง มีนามเมืองตามจารึกว่า เมืองศรีชัยวัชรปุระ (เพชรบุรี) เมืองศรีชัยราชปุระ(ราชบุรี) เมืองศรีชัยสิงหปุระ(ปราสาทเมืองสิงห์) เมืองสุวรรณปุระ (เนินทางพระ- สุพรรณ ?) เมืองสุพรรณภูมิปุระ (อโยธยา ?) และเมืองศรีศัมพูกปัฏฏนะ (สระโกสินารายณ์)[/FONT]
    [SIZE=-0][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif].[/FONT][/SIZE]
    [SIZE=-0][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][/FONT][/SIZE][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif] แต่ทว่า ชัยชนะของพระองค์ก็ไม่ได้ยั่งยืนนัก ปราสาทและบ้านเมืองทั้งหลายได้เสื่อมสลายลงในเวลาไม่ถึงศตวรรษ !!![/FONT]

    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif] “ศรีศัมพูกปัฏฏนะ” หรือชื่อใหม่ว่า ”เมืองโบราณโกสินารายณ์” ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแม่กลอง ตามถนนสายบ้านโป่ง – กาญจนบุรี ในเขตตำบลท่าผา อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ครับ[/FONT]
    [SIZE=-0][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif].[/FONT][/SIZE]
    [SIZE=-0][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][​IMG][/FONT][/SIZE]
    .
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif] จากภาพทางอากาศก่อนปี 2502 ทำให้เราได้เห็น “ผังเมือง” ของวิษัยนคร “ศรีศัมพูกปัฏฏนะ” อย่างชัดเจน เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีความกว้างเกือบเท่ากับความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร [/FONT]
    [SIZE=-0][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif].[/FONT][/SIZE]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif] ใจกลางเมืองเป็นที่ตั้งของ "จอมปราสาท" ปราสาทหินขนาดย่อม ซึ่งดูจากร่องรอยของหินทรายที่กระจัดกระจายอยู่โดยรอบ ที่ใช้เป็นวัสดสำหรับกรอบประตู หน้าต่าง ตามแบบแผนการก่อสร้างปราสาท "สุคตาลัย" (สถานบูชาพระพุทธเจ้าไภษัชยคุรุไวฑูรยประภา หรือ พระอวโลกิเตศวร ประจำโรงพยาบาล "อโรคยศาล" ในยุคนั้น[/FONT]
    [SIZE=-0][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif].[/FONT][/SIZE]
    [SIZE=-0][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][​IMG][/FONT][/SIZE]
    .
    [SIZE=-0][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][​IMG][/FONT][/SIZE]
    .
    [SIZE=-0][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][​IMG][/FONT][/SIZE]
    .
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif] วิษัยนคร“ศรีศัมพูกปัฏฏนะ” มีสระน้ำอยู่ภายในตัวเมืองรวม 4 ทิศ เรียกกันตามความนิยมในยุคหลังว่า สระนาค สระจรเข้ สระมังกร และสระแก้ว ซึ่งก็แทนความหมายของมหาสมุทรทั้ง 4 ที่รายล้อม "เขาพระสุเมรุ" ที่สถิตแห่งพระพุทธเจ้าสูงสุดบนสรวงสวรรค์[/FONT]
    [SIZE=-0][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif].[/FONT][/SIZE]
    [SIZE=-0][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][/FONT][/SIZE][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif] หลังจากครอบครองดินแดนตะวันตก และสถาปนาวิษัยขึ้น 6 แห่ง เมืองขนาดย่อม “ศรีศัมพูกปัฏฏนะ” จึงได้ถูกสร้างขึ้นตามเส้นทางน้ำแม่กลอง เพื่อการเชื่อมโยงเส้นทางระหว่าง “เมืองศรีชัยสิงหปุระ(ปราสาทเมืองสิงห์)” เมืองหลักของอาณานิคมนี้ กับ เมืองลวปุระ (ลพบุรี) และสุพรรณภูมิปุระ (อยุธยา) หัวเมืองใหญ่ของอาณาจักร[/FONT]
    [SIZE=-0][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif].[/FONT][/SIZE]
    [SIZE=-0][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][​IMG][/FONT][/SIZE]
    .
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif] “สงคราม” ที่ไม่มีรายละเอียด... การเข้ายึดครองแผ่นดินลุ่มน้ำแม่กลองของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 คงไม่ได้ทำได้อย่างง่ายนัก จากหลักฐานที่เราพบ ทั้งที่ “ศรีศัมพูกปัฏฏนะ”(โกสินารายณ์) และเมืองศรีชัยสิงหปุระ(ปราสาทเมืองสิงห์) คือ การค้นพบ "พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรเปล่งรัศมี" ทั้งสองแห่งครับ[/FONT]
    [SIZE=-0][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif].[/FONT][/SIZE]
    [SIZE=-0][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][​IMG][/FONT][/SIZE]
    .
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif] “พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรเปล่งรัศมี” เป็นรูปเคารพสำคัญของลัทธิ "โลเกศวร" ซึ่งแตกออกมาจากศาสนาพุทธนิกาย “วัชรยานตันตระ” ซึ่งเป็นคติที่นิยมเฉพาะในช่วงสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 เท่านั้นครับ เขาถือพระโลกเกศวรเปล่งรัศมีว่า "พระองค์เป็นประหนึ่งวิญญาณของจักรวาลที่ได้เปล่งประกายสารัตถะแห่งการช่วยเหลือสัตว์โลกให้หลุดพ้นจากภาวะทั้งปวง และ ความรอบรู้ชั้นสูงสุดยอดที่จะเผยแผ่ให้คงอยู่ได้ยาวนานตลอดไปด้วยจำนวนมาก มายที่มีอยู่ของบรรดาพระพุทธองค์ทั้งหลายอันอยู่รอบพระวรกาย" [/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]. [/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif] รูปสลัก “เปล่งรัศมี” อันแสดงถึงอานุภาพแห่งพระโพธิสัตว์ จะพบเฉพาะในบ้านเมืองหรือ “เขต (Areas)” ที่มีความขัดแย้งหรือสงครามที่รุนแรง [/FONT]
    [SIZE=-0][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif].[/FONT][/SIZE]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif] เช่นเดียวกับที่ดินแดน “ตะวันตก” แห่งนี้ !!![/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif].[/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][​IMG][/FONT]
    .
    [SIZE=-0][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif] เมื่อสิ้นอำนาจแห่งองค์พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 วิษัยนครแห่งนี้ก็ยากแก่การป้องกันตัว “สงครามครั้งใหญ่”คง กลับมาเยือนอีกหลายครั้ง ทั้งเหตุการกระด้างกระเดื่องแยกตัวไม่ขึ้นกับกษัตริย์เมืองพระนครพระองค์ ใหม่โดยเหล่ากมรเตงชคต (ผู้ปกครอง)เดิม [/FONT][/SIZE]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif].[/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][​IMG][/FONT]
    .
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][​IMG][/FONT]
    .
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][​IMG][/FONT]
    .
    [SIZE=-0][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif] หรือจากเหตุการ "แย่งชิงอำนาจ" ในอาณานิคม รวมทั้งประเด็นการตามทำลายล้าง “สัญลักษณ์” และ“อำนาจ” อาณาจักรแห่งพระพุทธเจ้าโดยกษัตริย์พระองค์ใหม่ผู้ “ชิงชัง” ระบบ “ศาสนจักร”เดิม [/FONT][/SIZE]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif].[/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][​IMG][/FONT]
    .
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][​IMG][/FONT]
    .
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][​IMG][/FONT]
    .
    [SIZE=-0][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif] และที่คงลืมไม่ได้ก็คือ “เหล่าพระราชาตะวันตก” อาจหวนคืนกลับมา ทวงแผ่นดินแม่กลองกลับคืนไป !!! [/FONT][/SIZE]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif].[/FONT]
    [SIZE=-0][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif] นคร “ศรีศัมพูกปัฏฏนะ” จึงปรากฏร่องรอยของความขัดแย้ง รูปเคารพ “เปล่งรัศมี” ที่สลักไว้ปรามเหล่าผู้คนในอาณาจักรให้เกรงกลัวและภักดี ก็ถูกทุบทำลายอย่างย่อยยับ[/FONT][/SIZE]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif].[/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif] “ปราสาทแห่งพระพุทธเจ้า” ก็มีร่องรอยถูกทำลายให้พังทลายลง ดั่งเพื่อถมทับอำนาจเก่าให้สาบสูญจมธรณีไป ......ตลอดกาล !!![/FONT]
    [SIZE=-0][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif].[/FONT][/SIZE]
    [SIZE=-0][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][​IMG][/FONT][/SIZE]
    [SIZE=-0][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif].[/FONT][/SIZE]
    [SIZE=-0][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][​IMG][/FONT][/SIZE]
    .
    [SIZE=-0][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][​IMG][/FONT][/SIZE]
    .
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif] ซากเมืองโบราณ “ศรีศัมพูกปัฏฏนะ”ได้กลายมาเป็น เมืองโกสินารายณ์ มี การพัฒนามาโดยตลอด จากเมืองที่ถูกคลุมด้วยป่ารกกลายมาเป็นเมืองตามเส้นทางแห่งความเจริญ คลองชลประทานตัดผ่านเมือง กองหินที่เคยเป็นปราสาทถูกรื้อเอาหิน “ศิลาแลง” ไปใช้ประโยชน์ สระน้ำทั้งสี่ตื้นเขินและถูกไถถม คงเหลือแต่ สระโกสินารายณ์ ที่ตั้งอยู่ทางทิศเหนือติดกับกำแพงเมืองเดิม [/FONT]
    [SIZE=-0][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif].[/FONT][/SIZE]
    [SIZE=-0][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][​IMG][/FONT][/SIZE]
    .
    [SIZE=-0][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][​IMG][/FONT][/SIZE]
    .
    [SIZE=-0][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][​IMG][/FONT][/SIZE]
    .[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif] [/FONT]
    [​IMG]
    .
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif] แนวกำแพงเมืองทางทิศเหนือ กลายมาเป็นคันคลองที่มีถนนอยู่ด้านบน เมื่อมีการพัฒนาและขุดลอก”สระโกสินารยณ์”[/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif].[/FONT]
    [SIZE=-0][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif] หลัง ปี 2519 เครือซิเมนต์ไทยได้เข้าดำเนินกิจการธุรกิจกระดาษ และบรรจุภัณฑ์ ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดิน อันเป็นที่ตั้งของ "จอมปราสาท" จัดสร้างเป็นโรงงานขนาดใหญ่ชื่อว่า “โรงงานสยามคราฟท์” ในเครือบริษัทเยื่อกระดาษสยาม จำกัด (มหาชน) จอมปราสาทจึงกลายไปเป็นเนินดินทำหน้าที่เป็นศาลพระภูมิประจำโรงงาน [/FONT][/SIZE]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif].[/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][​IMG][/FONT]
    .
    [SIZE=-0][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][​IMG][/FONT][/SIZE]
    [SIZE=-0][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]. [/FONT][/SIZE]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif] สระโกสินารายณ์ ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของเทศบาลตำบลท่าผา ก็ได้ดำเนินการพัฒนาปรับเปลี่ยน "โบราณสถาน" ที่เหลืออยู่ ให้กลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชุมชน[/FONT]
    [SIZE=-0][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif].[/FONT][/SIZE]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif] หากท่านต้องการเข้าไปเยี่ยมเยือน นครตะวันตกที่สาบสูญ อย่าง “ศรีศัมพูกปัฏฏนะ” ที่สระโกสินารายณ์ ก็สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ของโรงงาน เข้าไปเยี่ยมชมเนิน "จอมปราสาท" ได้เลยนะครับ วันนี้ กรมศิลปากรกับภาคธุรกิจเข้าได้เจรจาตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หุหุ[/FONT]
    [SIZE=-0][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif].[/FONT][/SIZE]
    [SIZE=-0][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][​IMG][/FONT][/SIZE]
    .
    [SIZE=-0][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][​IMG][/FONT][/SIZE]
    .
    [SIZE=-0][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][/FONT][/SIZE]
    เมื่ออำนาจและเวลาผันผ่านไป
    คงทิ้งไว้แต่เศษซากแห่งศักดิ์ศรี
    เศษละออง กองทับ ใต้ปัฐพี
    ฝังความดี ความร้าย ให้จดจำ
    .
    .
    .
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][​IMG][/FONT]
    [SIZE=-0][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif].[/FONT][/SIZE]
     
  9. กาโน

    กาโน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2010
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +152
    อ่านเพลินและมีความรู้เพิ่มอีกด้วย
    ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ นะครับ
     
  10. ainteerati

    ainteerati เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,233
    ค่าพลัง:
    +2,275
    [FONT=&quot]รัชกาลที่[/FONT][FONT=&quot]๓๗[/FONT][FONT=&quot]พระราชาทรงพระนามว่า[/FONT][FONT=&quot]“[/FONT][FONT=&quot]พระเจ้าพังตน[/FONT][FONT=&quot]” [/FONT][FONT=&quot]ราชโอรสองค์ก่อน[/FONT][FONT=&quot]ที่เราเรียกว่า[/FONT][FONT=&quot]“[/FONT][FONT=&quot]พระเจ้าพังคราช[/FONT][FONT=&quot]” [/FONT][FONT=&quot]ที่มีความสัมพันธ์กับเมืองเชียงแสน[/FONT][FONT=&quot]พระธาตุจอมกิตติ[/FONT][FONT=&quot]ทรงมีอายุได้[/FONT][FONT=&quot]๑๘[/FONT][FONT=&quot]ปี[/FONT][FONT=&quot]ขึ้นเสวยราชสมบัติ[/FONT][FONT=&quot]พออายุได้[/FONT][FONT=&quot]๒๐[/FONT][FONT=&quot]ปี[/FONT][FONT=&quot]เจ้าขอมดำก็มาอาละวาด[/FONT]
    [FONT=&quot]ตอนนี้สิลูกรักของพ่อ[/FONT][FONT=&quot]เราฟังมาถึงตอนนี้[/FONT][FONT=&quot]เราพอจะสรุปใจความได้ว่า[/FONT][FONT=&quot]คนเราที่เกิดมาทุกคน[/FONT][FONT=&quot]จะมีฐานะเป็นยังไงก็ตามที[/FONT][FONT=&quot]เรื่องจะพ้นกฎของกรรมนั่นก็คือ[/FONT][FONT=&quot]เกิด[/FONT][FONT=&quot]แก่[/FONT][FONT=&quot]เจ็บ[/FONT][FONT=&quot]ตาย[/FONT][FONT=&quot]นั่นไม่ได้[/FONT][FONT=&quot]เพราะว่าพระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า[/FONT][FONT=&quot]ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกมันเป็นอนิจจัง[/FONT][FONT=&quot]หาความเที่ยงไม่ได้[/FONT][FONT=&quot]ถ้ามันไม่เที่ยง[/FONT][FONT=&quot]เราก็จะเข้าไปยุ่งกับความไม่เที่ยง[/FONT][FONT=&quot]ให้มันเที่ยงมันก็เป็นทุกข์[/FONT][FONT=&quot]อารมณ์ของคนที่เป็นทุกข์มันก็เพราะไม่ยอมรับนับถือกฎของความเป็นจริง[/FONT]
    [FONT=&quot]คำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น สอนตามความจริง คือ ให้คนทุกคนไม่ฝืนความจริงเท่านั้น ถ้าคนใดไม่ฝืนความจริง คนนั้นไม่มีทุกข์ [/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มิถุนายน 2011
  11. ainteerati

    ainteerati เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,233
    ค่าพลัง:
    +2,275
    [FONT=&quot]ดูตัวอย่างพระราชา[/FONT][FONT=&quot]ผ่านมาแล้วตั้ง[/FONT][FONT=&quot]๓๗[/FONT][FONT=&quot]รัชกาล[/FONT][FONT=&quot]สมัยพระเจ้าพังคราช[/FONT][FONT=&quot]นี่ท่านยืนยันเลยว่าเป็น[/FONT][FONT=&quot]พ[/FONT][FONT=&quot].[/FONT][FONT=&quot]ศ[/FONT][FONT=&quot].[/FONT][FONT=&quot]๙๐๐[/FONT][FONT=&quot]ปี[/FONT][FONT=&quot]พอดี[/FONT][FONT=&quot]เป็นอันว่าราชวงศ์นี้[/FONT][FONT=&quot]สืบราชสมบัติต่อมาเกินกว่า[/FONT][FONT=&quot]๙๐๐[/FONT][FONT=&quot]ปี[/FONT][FONT=&quot]ไม่มีการขบถ[/FONT][FONT=&quot]ไม่มีทรยศ[/FONT][FONT=&quot]ไม่มีการแย่งชิงความเป็นใหญ่ซึ่งกันและกัน[/FONT]
    [FONT=&quot]ตอนนี้[/FONT][FONT=&quot]พ่อขอพูดเรื่องประเพณีนิยมของคนไทยหรือระเบียบวินัย[/FONT][FONT=&quot]คนไทยที่เป็นไทยจริง[/FONT][FONT=&quot]ๆ[/FONT][FONT=&quot]นั้น[/FONT][FONT=&quot]เป็นผู้รักธรรม[/FONT][FONT=&quot]ประกอบไปด้วยพรหมวิหารสี่[/FONT][FONT=&quot]แต่ทว่าอาศัยความดีของคนไทย[/FONT][FONT=&quot]นี่ลูกรัก[/FONT][FONT=&quot]เราจึงต้องขยับขยายพื้นที่กันอยู่ตลอดเวลา[/FONT][FONT=&quot]ผ่านมา[/FONT][FONT=&quot]๓๗[/FONT][FONT=&quot]รัชกาล[/FONT][FONT=&quot]ข่าวการรุกรานประเทศ[/FONT][FONT=&quot]ข่าวการรบไม่มี[/FONT][FONT=&quot]เราจึงขยายเขตออกไปให้มันกว้าง[/FONT][FONT=&quot]ให้พอกับคนจำนวนมาก[/FONT][FONT=&quot]เพราะยิ่งนานปี[/FONT][FONT=&quot]คนก็เกิดมาขึ้นทุกที[/FONT][FONT=&quot]เวลานั้นพื้นที่ขยายไม่ยาก[/FONT][FONT=&quot]มันเป็นป่า[/FONT][FONT=&quot]คนอยู่กันเป็นหย่อม[/FONT][FONT=&quot]ๆ[/FONT][FONT=&quot]สมัยพระเจ้าพังคราชนี่[/FONT][FONT=&quot]เรามีประชาชน[/FONT][FONT=&quot]ตั้งแต่แบผ้าอ้อมถึงคนแก่เหลาเหย่ทำอะไรไม่ไหวแล้ว[/FONT][FONT=&quot]ประมาณ[/FONT][FONT=&quot]๑[/FONT][FONT=&quot]แสนคนเท่านั้น[/FONT][FONT=&quot]แต่กำลังคนที่จะรวมเป็นกองทัพจับอาวุธสู้ได้คือ[/FONT][FONT=&quot]ตั้งแต่อายุ[/FONT][FONT=&quot]๑๖[/FONT][FONT=&quot]ปี[/FONT][FONT=&quot]ถึง[/FONT][FONT=&quot]๖๐[/FONT][FONT=&quot]ปี[/FONT][FONT=&quot]ได้ประมาณ[/FONT][FONT=&quot]๓[/FONT][FONT=&quot]หมื่นคนเท่านั้น[/FONT][FONT=&quot]เป็นการระดมพลใหม่[/FONT]
    [FONT=&quot]จงจำไว้ให้ดีลูกรักของพ่อทุกคนเป็นคนไทย[/FONT][FONT=&quot]เราเป็นคนไทย[/FONT][FONT=&quot]จงอย่าทำใจเป็นทาสทำใจของเราให้ทรงไว้ซึ่งความเป็นอิสรภาพ[/FONT][FONT=&quot]คือ[/FONT][FONT=&quot]ความเป็นไท[/FONT][FONT=&quot]สิ่งที่จะสร้างความสุขให้แก่ลูก[/FONT][FONT=&quot]อย่าลืมว่า[/FONT][FONT=&quot]ชีวิตของพ่อไม่นานนัก[/FONT][FONT=&quot]พ่อก็ตาย[/FONT][FONT=&quot]เวลานี้พ่อมีอายุใกล้[/FONT][FONT=&quot]๗๐[/FONT][FONT=&quot]ปีเข้าไปแล้ว[/FONT][FONT=&quot]ดูพระราชาทั้งหลายเหล่านั้นท่านก็ตาย[/FONT][FONT=&quot]ความตายของพ่อก็มีจริง[/FONT][FONT=&quot]พ่อรู้ตัวว่าพ่อจะตาย[/FONT][FONT=&quot]ฉะนั้นทุกสิ่งทุกอย่าง[/FONT][FONT=&quot]วิชาความรู้ที่พ่อให้ลูก[/FONT][FONT=&quot]ลูกของพ่อทุกคน[/FONT][FONT=&quot]พ่อมีความรัก[/FONT][FONT=&quot]อย่าลืมนะว่าพ่อรักลูกทุกคน[/FONT][FONT=&quot]แต่ลูกจงระวังนะ[/FONT][FONT=&quot]คนอีกพวกที่เขาไม่ใช่ไท[/FONT][FONT=&quot]เขามีใจเป็นทาส[/FONT][FONT=&quot]เขาอาจจะมีพ่อเป็นไทย[/FONT][FONT=&quot]มีแม่เป็นไทย[/FONT][FONT=&quot]แต่ว่าใจเขาเป็นทาส[/FONT][FONT=&quot]ที่เขาคอยเข้ามาทำลายความสามัคคีของมันมีอยู่[/FONT][FONT=&quot]เขาจะใช้วิธีง่าย[/FONT][FONT=&quot]ๆ[/FONT][FONT=&quot]คือ[/FONT][FONT=&quot]บอกลูกคนนั้น[/FONT][FONT=&quot]บอกลูกคนนี้[/FONT][FONT=&quot]ให้ดูทีรึ[/FONT][FONT=&quot]เห็นไหมว่า[/FONT][FONT=&quot]พ่อรักเราไม่เสมอกัน[/FONT][FONT=&quot]เราเป็นคนจน[/FONT][FONT=&quot]เราเป็นคนมีความรู้ไม่ดี[/FONT][FONT=&quot]พ่อไม่ได้สนใจเราเลย[/FONT][FONT=&quot]ตอนนี้เขาจะแหย่นิด[/FONT][FONT=&quot]แหย่หน่อย[/FONT][FONT=&quot]แหย่ให้ลูกแตกความสามัคคี[/FONT]
     
  12. ainteerati

    ainteerati เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,233
    ค่าพลัง:
    +2,275
    [FONT=&quot]ลูกจงระวังให้ดีนะ[/FONT][FONT=&quot]พ่อน่ะเป็นคนคนเดียวนะลูกนะ[/FONT][FONT=&quot]บางทีลูกของพ่อ[/FONT][FONT=&quot]พ่อนึกชื่อไม่ออกก็มีใช้อยู่ทุกวัน[/FONT][FONT=&quot]เพราะอะไร[/FONT][FONT=&quot]เพราะพ่อเหน็ดเหนื่อย[/FONT][FONT=&quot]ความเหนื่อยของพ่อนี่ลูก[/FONT][FONT=&quot]พ่อเหนื่อยจริง[/FONT][FONT=&quot]ๆ[/FONT][FONT=&quot]“[/FONT][FONT=&quot]แต่เพื่อลูกแล้วพ่อก็พร้อม[/FONT][FONT=&quot]แม้พ่อจะเหนื่อยแทบขาดใจตายเสียเวลานี้พ่อก็ทำ[/FONT][FONT=&quot]” [/FONT]
    [FONT=&quot]อีกประการหนึ่ง[/FONT][FONT=&quot]สังคหวัตถุ[/FONT][FONT=&quot]ลูกรัก[/FONT][FONT=&quot]ที่จะยึดเหนี่ยวน้ำใจซึ่งกันและกันไว้ได้[/FONT][FONT=&quot]โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิชาความรู้[/FONT][FONT=&quot]คือ[/FONT][FONT=&quot]มโนมยิทธิ[/FONT][FONT=&quot]ที่พ่อให้ไว้[/FONT][FONT=&quot]ต้องรักษาไว้ด้วยชีวิตจิตใจของลูก[/FONT][FONT=&quot]จับไว้เฉพาะพระนิพพานเป็นอารมณ์[/FONT]
    [FONT=&quot]การจะทบทวนชีวิตเป็นของดี[/FONT][FONT=&quot]ว่าเราเกิดมาแล้วกี่ชาติ[/FONT][FONT=&quot]มันเสียหายตรงไหนบ้าง[/FONT][FONT=&quot]มันทรงอะไรไว้ได้บ้าง[/FONT][FONT=&quot]ทรัพย์สินที่หาไว้ได้เวลานั้น[/FONT][FONT=&quot]มันมีอะไรบ้าง[/FONT][FONT=&quot]จงระมัดระวัง[/FONT][FONT=&quot]ขอลูกจงจำ[/FONT][FONT=&quot]การที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงให้เราตั้งศูนย์สงเคราะห์คนยากจนในถิ่นทุรกันดาร[/FONT][FONT=&quot]แล้วทรงประทานพระราชทรัพย์ร่วมมาด้วย[/FONT][FONT=&quot]และของที่โดยเสด็จพระราชกุศลก็มา[/FONT][FONT=&quot]“[/FONT][FONT=&quot]ควรทำต่อไป[/FONT][FONT=&quot]ถ้าพ่อตายแล้ว[/FONT][FONT=&quot]พวกลูกยังทำกิจนี้อยู่[/FONT][FONT=&quot]ก็ชื่อว่าลูกยังเกาะชายจีวรของพ่ออยู่[/FONT][FONT=&quot]” [/FONT]
    [FONT=&quot]ในช่วงเวลาที่พ่อเปลี่ยนหน้าเทป[/FONT][FONT=&quot]มองไปทางด้านโน้นเขาเตรียมเพลงอะไรบ้างก็ไม่รู้[/FONT][FONT=&quot]เห็นจะเป็นเพลงมอญ[/FONT][FONT=&quot]เล่นกัน[/FONT][FONT=&quot]เท่งทึ้ง[/FONT][FONT=&quot]ๆ[/FONT][FONT=&quot]เพื่อคลอเสียงพ่อพูด[/FONT][FONT=&quot]แต่เขาอยู่ไกลออกไป[/FONT][FONT=&quot]ลูกเห็นไหมลูก[/FONT][FONT=&quot]นี่แหละเรื่องของโลกจะต้องเป็นอย่างนี้[/FONT][FONT=&quot]ไม่ใช่ว่าจะเอาแต่ใจตัวเองเป็นสำคัญ[/FONT]
    [FONT=&quot]“[/FONT][FONT=&quot]การทำงานทุกอย่างต้องเป็นประเภท[/FONT][FONT=&quot]โลกไม่ช้ำธรรมไม่เสีย[/FONT][FONT=&quot]” [/FONT][FONT=&quot]จะถือว่า[/FONT][FONT=&quot]ฉันต้องการสงบ[/FONT][FONT=&quot]ฉันมีกำลังใจสงบสงัดดีแล้ว[/FONT][FONT=&quot]ใครจะมายุ่งไม่ได้ต้องตามใจฉัน[/FONT][FONT=&quot]ถ้าทำแบบนี้ก็ชื่อว่า[/FONT][FONT=&quot]ฝืนคติขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า[/FONT][FONT=&quot]นั่นคือ[/FONT][FONT=&quot]เขายังเดินแนวทางไม่ถูก[/FONT][FONT=&quot]เนื้อแท้จริง[/FONT][FONT=&quot]ๆ[/FONT][FONT=&quot]แล้ว[/FONT][FONT=&quot]พระพุทธเจ้าเทศน์ไว้[/FONT][FONT=&quot]๓[/FONT][FONT=&quot]แบบ[/FONT][FONT=&quot]คือ[/FONT][FONT=&quot]๑[/FONT][FONT=&quot].[/FONT][FONT=&quot]พระธรรมวินัย[/FONT][FONT=&quot]๒[/FONT][FONT=&quot].[/FONT][FONT=&quot]พระสุตตันตปิฎก[/FONT][FONT=&quot]๓[/FONT][FONT=&quot].[/FONT][FONT=&quot]พระอภิธรรม[/FONT]
    [FONT=&quot]ถ้าจะเล่นเถนเด่[/FONT][FONT=&quot]([/FONT][FONT=&quot]พ่อไม่เรียกเถนตรง[/FONT][FONT=&quot]เรียกว่าเถนเด่[/FONT][FONT=&quot]) [/FONT][FONT=&quot]ว่า[/FONT][FONT=&quot]ฉันต้องการสงบสงัดอย่างเดียว[/FONT][FONT=&quot]นั่นต้องดูตัวอย่างพระพุทธเจ้าท่านทำอะไรไว้บ้าง[/FONT][FONT=&quot]ควรจะดูตอนท่านทรมานชฏิล[/FONT][FONT=&quot]ท่านทำยังไง[/FONT][FONT=&quot]ท่านนั่งเทศน์หลับตาปี๋อย่างเดียวยังงั้นรึ[/FONT][FONT=&quot]หรือว่าเวลาที่พระองค์ทรมานบุคคลทั้งหลาย[/FONT][FONT=&quot]เช่น[/FONT][FONT=&quot]พระเจ้าชมพูบดี[/FONT][FONT=&quot]ท่านทำยังไง[/FONT][FONT=&quot]ซึ่งตอนนั้นเป็นการแสดงละครโรงใหญ่กันจริง[/FONT][FONT=&quot]เป็นละครฉากใหญ่[/FONT]
    [FONT=&quot]มาเลี้ยวถึงชีวิตของลูกชั่วเวลา[/FONT][FONT=&quot]๒[/FONT][FONT=&quot]-[/FONT][FONT=&quot]๓[/FONT][FONT=&quot]นาที[/FONT][FONT=&quot]ที่พ่อใช้เวลาหาคาสเซทมาเปลี่ยนหน้าเทป[/FONT][FONT=&quot]“[/FONT][FONT=&quot]ลูกบาง[/FONT][FONT=&quot]คนน้ำตาไหล บางคนมีอาการสะอื้น บางคนมีอาการซึม[/FONT][FONT=&quot]” [/FONT][FONT=&quot]พ่อคิดว่า ความรู้สึกของลูกในเวลานั้น คงจะพบกับสภาพ[/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มิถุนายน 2011
  13. ainteerati

    ainteerati เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,233
    ค่าพลัง:
    +2,275
    [FONT=&quot]ความเป็นจริงที่เรามีส่วนร่วมในการบูชาพระบรมสารีริกธาตุบนดอยตุง ซึ่งพระเจ้าอชุตราช และพระเจ้ามังรายมหาราช นำมาบรรจุไว้ในเจดีย์ที่ลูกเห็นเวลานี้ เป็นเจดีย์ที่เขาสร้างขึ้นภายหลัง สำหรับเจดีย์องค์เดิมอยู่ภายในเป็นทองคำทั้ง ๒ องค์ และในเจดีย์ทองนั่นบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่กษัตราธิราชเจ้าทั้ง ๒ พระองค์ คือ พระเจ้าอชุตราช พระราชบิดากับพระเจ้ามังรายมหาราช ราชโอรส นำมาบรรจุที่นี่ พระบรมสารีริกธาตุดังกล่าวท่านได้มาโดยพระมหากัสสปเถรเจ้าพร้อมด้วยพระอรหันต์อีก ๕๐๐ องค์ นำมาถวายพระเจ้าอชุตราช และภายหลังมีพระอรหันต์นามว่าวชิระองค์พระอรหันต์นำมาถวายพระเจ้ามังรายมหาราช การบูชาคราวนั้นเป็นงานยิ่งใหญ่มาก [/FONT]
    [FONT=&quot]ขณะนี้ ลูกบางคนมีอำนาจธรรมปีติ ที่เห็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระอรหันต์ทั้งหลาย ท่านไปอยู่นิพพานมีความสุข ฉะนั้น อารมณ์ของลูกทั้งหมด จงอย่าให้มีอารมณ์เป็นทุกข์ มีอย่างเดียว คือ [/FONT][FONT=&quot]“[/FONT][FONT=&quot]ธรรมสังเวช[/FONT][FONT=&quot]” [/FONT]
    [FONT=&quot]ธรรมสังเวชตอนไหน ตอนที่เราเลวเกินไป จะว่าเลวเกินไปก็ไม่ถูก เพราะการบรรลุธรรมต้องอาศัยความดีพอสมควร เขามีกำหนดเวลา สำหรับสาวกภูมิต้องบำเพ็ญบารมีมาแล้ว ๑ อสงไขยกับแสนกัป อัครสาวก และพระปัจเจกพุทธเจ้าต้องบำเพ็ญบารมี ๒ อสงไขยกับแสนกัป สมเด็จพระสัมาสัมพุทธเจ้าทรงขั้นปัญญาธิกะ อย่างสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ซึ่งทรงพระนามว่า สมเด็จพระสมณโคดม ต้องบำเพ็ญบารมีถึง ๔ อสงไขยกับแสนกัป ถ้าศรัทธาธิกะ ต้องบำเพ็ญบารมีถึง ๘ อสงไขยกับแสนกัป และวิริยาธิกะต้องบำเพ็ญบารมีถึง ๑๖ อสงไขยกับแสนกัป [/FONT]
    [FONT=&quot]แต่พวกเราย่องมาถึง ๑๖ อสงไขยกับแสนกัปแล้ว ก็แสดงว่า เราเอาดีบ้าง ทำถูกทำผิดบ้าง เป็นของธรรมดา ฉะนั้นการผิดมาในกาลก่อนถือว่าเป็นครู ในสมัยนี้ชาตินี้อย่าให้ผิดต่อไป ลูกทุกคนที่นั่งอยู่นี่ ๒๐๐ คนเศษ เป็นผู้ทรงอภิญญาเล็ก คือ มโนมยิทธิ และมีวิชชา ๘ เข้าควบคุมใจ จงใช้วิชชา ๘ ของลูกนี้ควบคุมใจว่า [/FONT][FONT=&quot]“[/FONT][FONT=&quot]ทางใดที่องค์สมเด็จพระจอมไตรทรงไปแล้ว พระอรหันต์ทั้งหมดท่านไปแล้ว ขอลูกจงเดินตามทางนั้นนะลูกเวลานี้[/FONT][FONT=&quot]” [/FONT][FONT=&quot]ถ้าพ่อพูดไม่ผิด จิตของพ่อไม่เสีย ลูกจะเห็นว่า ท่านปู่อชุตราชท่านทรงชุดสีทองเป็นพรหม ลูกบางคนเห็นท่านในสมัยที่เป็นมนุษย์ [/FONT]
     
  14. ainteerati

    ainteerati เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,233
    ค่าพลัง:
    +2,275
    [FONT=&quot]ท่านแสดงให้เห็นคนละอย่างให้ลูก เทวดา พรหม องค์เดียวกัน ท่านแสดงเป็นคนละภาพได้ อย่าเถียงกันนะลูกนะ อำนาจความเป็นทิพย์ ถ้าลูกใช้กำลังใจของลูกให้เป็นทิพย์อยู่เสมอ ลูกจะรู้อานุภาพแห่งความเป็นทิพย์ [/FONT]
    [FONT=&quot]นี่การปฏิบัติพระกรรมฐานเป็นคุณอย่างยิ่ง เรามากันวันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๒๑ ซึ่งความจริงมโนมยิทธิที่ลูกเพิ่งได้ กระตุ๋มกระติ๋มมาก เพิ่งจะมาซู่ซ่ากันเมื่อวันที่ ๑๓ อาศัยรุ่นแรกก็ทำลำบากหน่อย เพราะไม่มีตัวอย่าง แต่เราก็ได้กันมากแล้วนี่ พ่อไม่ได้ขยายคนเดียว พ่อให้คนที่เขาทำได้แล้วไปขยายกันต่อไป แต่พ่อก็ทราบว่า คนที่รับไปสอนนั้นก็ดีบ้าง ชั่วบ้าง ก็ช่างปะไร บางคนก็ปฏิบัติตรง บางคนก็หวังลาภสักการ [/FONT][FONT=&quot]“[/FONT][FONT=&quot]ใครอยากจะได้ลาภก็ไปอยู่กับเทวทัต ใครหวังความดีก็ไปอยู่กับพระพุทธเจ้า[/FONT][FONT=&quot]” [/FONT][FONT=&quot]ก็หมดเรื่องกันไป [/FONT]
    [FONT=&quot]จะไปนั่งห่วงว่า คนที่ได้ไปแล้วดีไม่ดีพลาดท่าจะลงนรก คนลงจะไปนรกซะอย่างเดียว ยังไง ๆ เขาก็ลงนรกจนได้ แต่ให้เขาลงอย่างคนมีความดีอยู่บ้าง ดูตัวอย่างพระเทวทัตหรือว่าพระเจ้าอชาติศัตรูนั่นลงนรกก็ลงไม่เต็มที่ขึ้นมาก็ได้ดีเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าดีกว่าลงแบบดื่มลงไป อีกประการหนึ่งที่มีความรู้จากการฝึกอยู่บ้างการจะทำความชั่วก็มีการยับยั้งบ้างตามสมควรนี่เป็นปัจจัยที่ทำให้ถูกลงโทษไม่เต็มอัตราศึก หมายความว่าไม่เต็มกำหนดของอเวจี คือ ๑ กัป อยู่ไม่ถึงก็ขึ้นได้แล้ว [/FONT]
    [FONT=&quot]เป็นอันว่า ตอนนี้ลูกก็สลดใจ ตั้งใจไว้ให้ดีนะลูกว่า เราจะไม่ต้องการความเกิดต่อไป ดูต้นไม้ที่มีความแข็งแรงมันหายไปมากไหมลูก ดูภูเขาที่เขียวชะอุ่มไปด้วยต้นไม้ ถูกชาวเขาทำเสียจนเป็นภูเขาหัวโล้น นี่มาเทียบกับชีวิตของเรามันก็เหมือนกัน [/FONT]
    [FONT=&quot]“[/FONT][FONT=&quot]ชีวิตของเราต้องร่วงโรยเหมือนกับใบไม้ที่หล่น ร่วงโรยมาอย่างต้นไม้ที่ถูกโค่นกี่วาระแล้ว[/FONT][FONT=&quot]” [/FONT][FONT=&quot]ลูกจงใช้อำนาจปุพเพนิวาสานุสติญาณรวบรัดตัดความทันที อย่าไปนับชาติ ๑[/FONT][FONT=&quot]-[/FONT][FONT=&quot]๒[/FONT][FONT=&quot]-[/FONT][FONT=&quot]๓ นะลูก ดูว่าอัตภาพของเราเกิดมาเป็นคนก็ดี เป็นสัตว์ก็ดี มีปริมาณเท่าไร ขอดูทันทีทันใดจะเห็นพร้อมกันทั้งหมด จงอย่านับด้วยกำลังของการนับ ๑[/FONT][FONT=&quot]-[/FONT][FONT=&quot]๒[/FONT][FONT=&quot]-[/FONT][FONT=&quot]๓ ต้องนับด้วยกำลังของจิตเป็นทิพย์จะทราบทันที และนอกจากเกิดเป็นคนเกิดเป็นสัตว์ที่มีชีวิตไม่เสมอกันในการเกิดเป็นคน บางคราวเกิดเป็นกษัตริย์ บางคราวเกิดเป็นยาจกเข็ญใจ บางคราวเป็นคหบดี บางคราวเป็นเศรษฐี บางคราวมีความสุขมาก บางคราวเราถูกเบียดเบียนมากนั่นเป็นเพราะกรรมอะไร ลูกจะใช้ยถากรรมมุตตาญาณเป็นเครื่องชี้ชัด จะบอกความดีความชั่วของเราที่รับผลดีผลชั่วไว้ [/FONT]
    [FONT=&quot]“[/FONT][FONT=&quot]รวมความแล้วเราดีไม่พอ ที่เรายังต้องเกิด จงแสวงหาความไม่เกิดต่อ[/FONT][FONT=&quot]” [/FONT]
    [FONT=&quot]การวัดระดับของการเกิดจากนรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดียรัจฉาน คน เทวดา พรหม และไปให้ถึงนิพพานเป็นของดี แต่ไม่ใช่ว่า รู้จุดนี้แล้วจะอยู่เฉพาะจุดนั้นต้องศึกษาหาทางลงโทษตัวเองว่า [/FONT][FONT=&quot]“[/FONT][FONT=&quot]เราลงนรกขุมไหมบ้าง เพราะกรรมอะไรเป็นเหตุ[/FONT][FONT=&quot]” [/FONT][FONT=&quot]นี่จะต้องรู้ ไม่ใช่จะไปรู้แต่ดี ถ้ารู้แต่ดีไม่[/FONT]
     
  15. ainteerati

    ainteerati เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,233
    ค่าพลัง:
    +2,275
    [FONT=&quot]ช้าเราก็ต้องพลาดมาหาชั่ว ต้องไปรู้ชั่วของเราไว้ด้วยเป็นครู ไปนรกขุมไหนถามเขาด้วยว่า เราเคยมากี่ครั้ง แต่ละครั้งเราทำอะไรจึงมาลงนรกขุมนี้ จะได้ชี้จุดชั่วของตัวเราแล้วหลีกเลี่ยงกรรมชั่วนั้นเสีย[/FONT]
    [FONT=&quot]การเกิดเป็นมนุษย์แต่ละคราว เราเกิดเป็นคนยากจนเพราะอะไรจึงจน ถ้าเกิดเป็นคนรวยเพราะทำอะไรจึงรวย ความสุข ความทุกข์ อะไรเป็นเหตุให้สุขให้ทุกข์ นี่ใช้ยถากรรมมุตาญาณ ทำไมเราจึงเป็นภุมเทวดา เพราะอะไรจึงเป็นรุกขเทวดา และเป็นอากาศเทวดา เราทำยังไงจึงไปเป็นพรหม แล้วทำไมจึงลงมาเกิดเป็นมนุษย์อีก ทวนไปทวนมาอย่างนี้[/FONT]
    [FONT=&quot]“[/FONT][FONT=&quot]ชาตินี้ควรเป็นชาติสุดท้ายของลูก ถ้าไม่ทำอย่างนี้นะลูกรัก มองแต่ด้านเดียวด้านความดีเท่านั้น มันจะเผลอ ดีไม่ดีไปเสียจุดใดจุดหนึ่ง เราก็จะกลับมาเกิดเป็นคนอย่างนี้อีก พ่อขอแนะว่า สักกายทิฐิตัวเดียว ลูกรัก คือ อย่าสนใจในรูป รูปเราก็ดี รูปเขาก็ดี รูปวัตถุธาตุก็ดี ตัดกันเสียที เรื่องการเกิดเป็นมนุษย์ เป็นเทวดา หรือพรหม เลิกกัน เราไม่ต้องการมันต่อไป เพราะว่ามันเป็นของไม่ดี เราไปนิพพานกันดีกว่านอนให้เป็นสุข[/FONT][FONT=&quot]” [/FONT]
    [FONT=&quot]มาเลี้ยวเขาเรื่องของเราต่อไป เป็นอันว่า เมื่อพระเจ้าพังคราชบรมกษัตริย์พระบาทท้าวเธอต้องเถลิงราชสมบัติตั้งแต่อายุ ๑๘ ปี ท่านเป็นกษัตริย์แบบราษฎรธรรมดา ๆ พระราชาสมัยก่อน ยามปกติท่านก็เดินไป ดีไม่ดีก็ไปคนเดียว กลางค่ำกลางคืนไปเยี่ยมราษฎร และเวลาจะทำอะไรก็ต้องปรึกษาหารือกัน เขาเรียกว่าสมบูรณาญาสิทธิราช พระราชามีอำนาจแต่ผู้เดียว ความจริงนั่นเขาสมมติให้ เนื้อแท้จริง ๆ งานทุกอย่างต้องปรึกษาหารือซึ่งกันและกัน ไม่มีพระราชาองค์ไหนจะมีมัน[/FONT]
    [FONT=&quot]สมองทำคนเดียวไหว ต้องมีเสนาบดีมีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ต้องมีข้าราชการชั้นผู้น้อย สมัยนั้นเราปกครองกันในวงแคบแค่เชียงแสนลงมาไม่ถึงเชียงใหม่แค่กว๊านพะเยานี่เดินมาก็ไม่ยาก ขี่ช้างชี่ม้ามาก็ไม่ยาก ดังนั้น พระราชาจึงเข้าถึงประชาชนได้ง่ายเพราะอยู่ในวงแคบ มีแต่ความรักกันมีความสุข ไม่เคยเกิดสงคราม ไม่เคยคิดว่าใครเขาจะมาทำสงคราม[/FONT]
    [FONT=&quot]สมัยนั้นเราอยู่กันแบบเงียบ ๆ เราไม่มีกองทหารใหญ่ มีแต่ทหารรักษาพระองค์ ซึ่งก็คือมหาดเล็ก หรือคนรับใช้เท่านั้นเอง ถ้ามีเรื่องราวเกิดโจรผู้ร้ายขึ้น และถ้าเจ้าของหมู่บ้านเขาไม่สามารถปราบได้ก็รายงานเข้ามาหมาดเล็กนี่แหละจะออกไปช่วยปราบโจรผู้ร้าย จะเรียกกองทหารก็ไม่เป็นกองทหาร[/FONT]
    [FONT=&quot]เวลานั้นเจ้าขอมดำหรือเจ้ามอญหริภุญไชย แถวนั้นคือเชียงใหม่ ลำพูน หากินไม่ได้ดี ทำนาก็ไม่ได้ดีเท่าเชียงราย ซึ่งเชียงรายหรือโยนกนคร หรือเชียงแสนสมัยนั้นมีความอุดมสมบูรณ์พูนสุขมาก ทำมาหากินทุกอย่างดีมาก จะค้าขาย ทำพืชไร่ก็ดีมาก ทองคำมีมาก เจ้าขอมดำมันมีกำลังมาก เวลานั้นกำลังของเขากระจายไปทั่วประเทศไทย ปกครองสายใต้สุดถึงเลยเขตทวาราวดี นครปฐมลงไปอีก คนไทยเราอยู่เกลื่อนเวลานั้น แต่เขาไม่เรียกว่าไทย มาสมัยหลังเรียก ละว้า อยู่เป็นหย่อม ๆ ไม่มีกำลังจะเข้ามารวมตัวกัน จึงตกอยู่ในอำนาจของขอมโดยคิดว่าเขาจะว่าอย่างไรก็ช่างเขา เขาให้เสียภาษีอากรเล็กน้อยก็ให้เขาไม่คิดจะเป็นบ้านเป็นเมือง[/FONT]
     
  16. ainteerati

    ainteerati เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,233
    ค่าพลัง:
    +2,275
    [FONT=&quot]พวกขอมดำนี่ไม่ใช่เขมร เป็นพวกที่ขาดเมตตา มีจิตคิดเห็นแก่ตัวอยู่ตลอดเวลา เขาส่งคนมาดูความอุดมสมบูรณ์ของโยนกนคร ส่งคนมาทำการค้าขายทุกจุด พร้อมกับดำเนินนโยบายการเมืองไปด้วย พวกนี้เป็นทหารของเราไม่ทราบ รัชกาลที่ ๖ ท่านตรัสไว้ว่า [/FONT][FONT=&quot]“[/FONT][FONT=&quot]ถ้ารักสงบ จงเตรียมรบให้พร้อมสรรพ[/FONT][FONT=&quot]” [/FONT][FONT=&quot]เขามาสืบกำลังคนของเราว่ามีกำลังคนจริง ๆ ทั้งหมดแสนเศษนิด ๆ เขากลับไปก็เรียกระดมพลได้แสนหนึ่งยกทัพมาเท่า ๆ กับประชาชนของเราที่มีอยู่จริง ๆ ม้าเร็วของเราจากกว๊านพะเยารีบเข้ามาแจ้งข่าวว่าขอมดำยกทัพตรงมาโยนกนครแล้ว[/FONT]
    [FONT=&quot]พระเจ้าพังคราชบรมกษัตริย์พระองค์เสวยราชสมบัติตั้งแต่อายุ ๑๘ ปี มาจนกระทั่งขอมดำยก[/FONT][FONT=&quot]ทัพมาก็ ๒ ปี ผ่านไปเท่านั้น เวลานั้นพระองค์อายุ ๒๐ ปี ท่านก็ปรึกษามุขอำมาตย์และประชาชน ยกเว้นเด็กและคนชรา ไม่ว่าผู้หญิงผู้ชายออกรบหมด ถึงคราวจำเป็นแล้วก็รบเพื่อชาติ รบเพื่อความเป็นอยู่ ประมวลกำลังแล้วเวลานั้นท่านบอกว่าได้กำลัง ๓ หมื่นคน เศษอาวุธยุทโธปกรณ์ของเราก็ไม่พร้อม เรามีกองทัพช้าง กองทัพม้า กองทัพพลเดินเท้า กองเสบียง แต่ก็ไม่ได้เตรียมพร้อมเอาไว้ ก็ยกไปตั้งทัพรับเจ้าขอมดำที่ท้ายกว๊านพะเยา และเพื่อความไม่ประมาทพวกที่อยู่ในเมืองพระองค์สั่งให้ขนของมีค่าไปเก็บไว้ในถ้ำที่ต่าง ๆ ที่ดองตุงนี่ และสั่งพวกเด็ก ผู้หญิงทั้งหลายว่าถ้าไม่ไหวจริง ๆ ให้ถอยหลังไปอยู่ที่ ที่เวลานี้กองพล ๙๓ อยู่นั่น บางส่วนขยายไปทางแม่สายข้ามเขตแดนไปบ้าง กระจายกันอยู่ตามหุบเขา ตามถ้ำที่มีทางเขาได้ทางเดียว ถ้ากองทัพที่เรายกออกไปรับเขาสู้ไม่ได้ ก็จะถอยมาสู้กันเป็นจุดสุดท้ายตามด้วยกันที่นี่[/FONT]
    [FONT=&quot]การรบคราวนั้นรู้สึกสงสารพระเจ้าพังคราชบรมกษัตริย์ เพราะกองทัพของเราไม่ได้เตรียมฝึกไว้ก่อน เมื่อกองทัพต่อกองทัพปะทะกันสู้กันด้วยความสามารถ ขึ้นชื่อว่าไทยพร้อมที่จะสู้จนตัวตาย เพียงแต่ทัพหน้าของเขาก็เท่ากับกองทัพเราทั้งหมดที่ยกไป แต่เมื่อทัพหน้าเขาปะทะกับเราจริงๆ เขาก็แตกไม่เป็นขบวน นี่น้ำใจคนไทยนะลูกนะ เรื่องการรบกันก็ต้องตายด้วยกันทั้งสองฝ่าย แต่พอทัพหลวงของเขายกเข้ามา ปีกซ้าย ปีกขวาของเขาก็โอบเข้ามานี่เราสู้เขาไม่ได้ตอนนี้ตายฝ่ายต่างตาย เขาตายมากกว่าเรา เพราะเขามากกว่าเรามากนัก เพียงเขาใช้มือดันเราก็ต้านไม่ไหวแล้ว เพราะกำลังเราน้อยกว่าเขามากนัก ทัพไทยก็จำเป็นต้องถอยแตกกลุ่มออกเป็นกองโจร คอยโจมตีข้าศึก การทำแบบนี้ไม่ได้หวังชนะหวังการประวิงเวลาของข้าศึกไว้ แล้วก็ส่งม้าเร็วเข้ามาในเมือง สั่งขนของไปยังที่นัดหมายกันไว้[/FONT]
    [FONT=&quot]สำหรับพระเจ้าพังคราชบรมกษัตริย์มีกองทัพคุ้มกันอยู่ส่วนหนึ่ง เมื่อขนของแล้วจะสั่งเผาเมืองก็กลัวขนของไม่ทัน คิดว่าเราแพ้เขาแน่ เขาได้แต่อาคารตัวเมืองไป ของมีค่าขนไปไว้ดอยตุงนี่บ้าง แม่สายนี่บ้าง ข้ามฝั่งไปบ้าง ประชาชนก็หลบตามเชิงเขา ตามถ้ำบ้าง กองโจรตีประวิงเวลาขนของนี่ประมาณเดือนเศษจนกองทัพใกล้โยนกนคร พระเจ้าพังคราชจึงให้ชักธงขาวขึ้นแสดงว่ายอมแพ้ เจ้าขอมดำเห็นเรายอมแพ้เขาก็วางอาวุธ เข้ามาจับพระเจ้าพังคราชไปพิจารณาโทษ[/FONT]
    [FONT=&quot]แต่ทว่ามีอำมาตย์ของขอมดำคนหนึ่งท่านบอกว่าชื่อ [/FONT][FONT=&quot]“[/FONT][FONT=&quot]พันจาม[/FONT][FONT=&quot]” [/FONT][FONT=&quot]เป็นแม่ทัพสำคัญ มีมันสมอง ได้กราบทูลเจ้านายเขาว่า พระเจ้าพังคราช[/FONT]
     
  17. to2504

    to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,449
    ค่าพลัง:
    +1,230
    เมื่อคืนนี้วันพระ ข้างขึ้นแล้ว
    พี่จิ-โป หายไปคาดว่าน่าจะถือศีล เราก็เลยนึก เค้าเล่าให้ฟังว่า ถ้าเห็นพระองค์ไหน หรือใครก็ตามที่ออกจากการถือศีล ใหม่ ๆ ให้ทำบุญ ในใจก็เลยนึกอยากจะทำบุญกับพี่จิ-โป เพราะเห็นพี่เค้าถือศีล

    เมื่อคืนก็เลยฝัน ท่อนแรกก่อนนะคะ อันนี้ถือว่าเป็นวิทยาทาน ไม่ทราบเหมือนกันว่าคนอื่นจะเป็นแบบนี้หรือเปล่า คือเมื่อวานนี้ทีโอ เข้าไปเล่นในเวป ๆ นึง พอดีทีโอ เห็นเค้าพูดถึงเรื่อง ความทุกข์เรื่องความรัก อยากข้ามภพ ทีโอ ก็เลยอธิบายให้เค้าฟังว่าเกิดจากอะไร อย่างไร แล้วจะทำอย่างไร แต่พอ พูด ๆ ไปทีโอก็นึกเอะใจ เพราะจิตเข้าสภาวะลึกมาก ก็เลยต้องหยุดพูด ออกมาพิจารณา เอ๋! เรานี่ไม่น่าพูดเลย บางทีเค้าเองไม่รู้ว่าจะเข้าใจในสิ่งที่เราพูดหรือเปล่า ถ้าหากเค้าไม่รับธรรมที่เราพูดไปก็คงจะไม่ดีกับตัวเราเป็นแน่ ก็เลยหยุด ว่าจะไม่เข้าเวปนั้นแล้ว และจะไม่สอนใครอีก (ทีโอเคยสอน คนที่เค้าปฏิบัติธรรมมาก่อนนะ ก่อนหน้านี้หลายปีแล้ว สอนให้เค้าแก้สภาวะที่เป็นอยู่ แล้วจากนั้นทีโอ ก็อธิษฐานว่าจะจบที่ตัวเอง ก็เลยไม่สอนอีกเลย เพราะไม่อยากย้อนรอยเดิมแบบอดีตอีก)
    เมื่อคืนก็เลยฝันว่า เห็นตัวเองพาคน ๆ หนึ่ง หนี เหาะบ้างกระโดดบ้าง ข้ามกำแพง ขึ้นหลังคา หลบหนีทั้งคืน ก็ตื่นขึ้นมากลางดึก เลยพิจารณา อ้อ! นี่เค้าเตือนเราแล้วนะ ว่า หยุดน่ะดีแล้ว อย่าสอนใครเด็ดขาด เพราะเค้ามีกรรมอยู่ หากจะพ้นกรรมเค้าต้องกระทำด้วยตัวเค้าเอง แต่การไปสอนเค้า เป็นซะว่าเราพาเค้าหนีกรรม
    จากนั้นก็นึก ถ้ามีอะไรจะเตือนก็ฝันต่อนะคะ ก็เลยไปบ้านพี่จิ-โป มีโต๊ะอาหาร และกับข้าวเต็มไปหมด มีภรรยาพี่จิ-โป (แต่ว่าทีโอเห็นภรรยาพี่จิ-โป เป็นแม่ของพี่จิ-โปนี่นา) แล้วก็เห็นลูกของพี่จิ-โป แต่ก็เห็นพี่จิ-โป ทำเช่นเคย แม้หลับก็ยังทำงานเช่นเคย เห็นงูด้วย เราเองกระโดดขึ้นไปตรงโต๊ะอาหาร หลบงูก่อน พี่เค้ากำลังไล่งู เสร็จพี่เค้าก็มานั่ง แล้วก็ถามว่า " ไหน มีอะไรบ้าง วันนี้มีอะไรกินบ้างจ๊ะ " ทีโอก็เลยยื่นอาหารให้พี่จิ-โป ทีละอย่าง แล้วก็ตักข้าวใส่จานให้ โดยที่มีภรรยาของพี่จิ-โป ยืนดูอยู่ (ใจดีมาก) เค้าไม่รังเกียจเรา ตอนตักข้าวให้พี่จิ-โป นั้น มีรู้สึกจะมีข้าว และอะไรปนด้วย พี่จิ-โปถามว่า ทำมัยถึงตักแบบนี้ (พี่จิ-โป ไม่ได้ดุนะ แต่ถามแล้วยิ้ม) เราก็บอกว่า อ้อ! ที่บ้านทีโอ เค้าก็กินกันแบบนี้แหล่ะ มีอะไรก็กินไปไม่เรื่องมากกัน (ตักเหมือนพระที่ท่านฉันท์รวมน่ะค่ะ)

    พอตื่นเช้ามา ก็เลยมานั่งพิจารณา นี่เราได้ทำบุญกับพี่เค้าแล้วนี่นะ คิดว่าวันนี้พี่จิ-โปน่าจะเข้ามาในนี้ แต่ก็ไม่แน่ อาจจะถือศีลต่อ

    ก็เลยมานั่งพิจารณาอีก เอ! หรือว่าข้าวที่เราตักให้พี่จิ-โป มันติดนิสัยเดิมเราที่ชอบทำอะไรมั่ว ๆ ไม่รู้จักแยกให้ออก น้า 55
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กรกฎาคม 2011
  18. คะรุทา

    คะรุทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,243
    ค่าพลัง:
    +3,477
    อนุโมทนาบุญกับคุณทีโอด้วยค่ะ..คะรุทาก็ระลึกถึงคุณจิ-โปเช่นกัน ว่าเอ..หายไปไหน ไม่สบายหรือเปล่าน๊า ได้แต่คิดว่าถ้าเจ็บไข้ได้ป่วยก็ขอให้หายเร็วๆ
    คุณจิ-โป ถือศีลนี่เอง...สาธุๆๆๆๆ อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ
     
  19. ainteerati

    ainteerati เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,233
    ค่าพลัง:
    +2,275
    [FONT=&quot]นี่ไม่มีความผิด เพราะไม่ได้ยกไปตีเมืองเรา แต่เรายกมาตีเขา ถ้าจะฆ่าพระเจ้าพังคราชก็จะผิดความมุ่งหมายไปมาก เพราะเราต้องการพื้นที่ แต่การจะให้เป็นกษัตริย์ต่อไปนั้นเป็นไปไม่ได้ ควรจะส่งพระเจ้าพังคราชไปที่ [/FONT][FONT=&quot]“[/FONT][FONT=&quot]วังสีทอง[/FONT][FONT=&quot]” [/FONT][FONT=&quot]อยู่ทางแม่สายให้มีเนื้อที่ทำมาหากินประมาณแสนไร่ต้อนคนไทยทั้งหมดไปอยู่ในเขตนั้น นอกจากนั้น แผ่นดินทั้งหมดเป็นของขอมดำหรือมอญหริภุญไชย [/FONT]
    [FONT=&quot]เราต้องแพ้สงครามคราวนั้น ลูกรักของพ่อ ลูกใช้ปุพเพนิวาสานุสติญาณซิลูกว่าตัวลูกอยู่ในสมัยนั้นด้วยหรือเปล่า ถ้าลูกใช้กำลังของทิพยจักขุญาณด้านปุพเพนิวาสานุสติญาณ คือระลึกชาติเฉพาะชาตินั้น ลูกจะเห็นภาพการรบ เห็นภาพการต่อสู้ ภาพการตาย ภาพการร้องไห้ เพราะกองทัพเราแพ้สงคราม ถ้าลูกมองไม่เห็นให้ใช้อตีตังสญาณดูแถวอดีตว่าสภาวะเป็นยังไง พ่อจะเล่าไม่ละเอียด [/FONT]

    [FONT=&quot]ตอนนั้นพระเจ้าพังคราชทำยังไงรู้ไหมลูก พระราชาต้องทรงไว้ซึ่ง ขัตติยะมานะ ท่านเป็นชายชาติทหารแท้ ๆ เขาสั่งประหารชีวิตแล้วถามท่านว่า กลัวตามไหม พระองค์ก็ตรัสว่า [/FONT][FONT=&quot]"[/FONT][FONT=&quot]ขึ้นชื่อว่าความตายเป็นของธรรมดา เราเป็นคนไทย เป็นผู้บังคับบัญชาเขา เราพร้อมที่จะตายเพื่อคนอื่น ขอให้เราผู้เป็นกษัตริย์ตายแทนคนอื่นก็แล้วกัน คนอื่นไม่ต้องตายเพราะความเป็นผู้แพ้นี่ถือว่าเป็นความผิด แต่ความจริงเราไม่ได้คิดจะไปรบกับท่าน ท่านยกทัพมาเราก็ต้องสู้ เมื่อสู้ไม่ได้เราเป็นแพ้ ท่านต้องการอะไรก็เป็นเรื่องของท่าน เราเป็นคนของท่านซะแล้ว หมายความว่า เรื่องที่คิดจะสู้ท่านน่ะมันไม่มี เมื่อสู้ไม่ได้เรายอมแพ้ก็ต้องแพ้อย่างมีระเบียบวินัย นี่วิสัยไทยแท้[/FONT][FONT=&quot]" [/FONT]

    [FONT=&quot]พอพูดเท่านี้เล่นเจ้าขอมดำยิ้ม หน้าตาสดชื่น คิดว่าเป็นผู้ชนะแน่นอน ความใจอ่อนพร้อมกับ[/FONT][FONT=&quot] "[/FONT][FONT=&quot]พันจาม[/FONT][FONT=&quot]" [/FONT][FONT=&quot]แม่ทัพเขาห้ามปราบว่าไม่ควรฆ่าพระเจ้าพังคราช แต่ก็ควรใช้อำนาจของความเป็นผู้ชนะบังคับให้เราไปอยู่จุดใดจุดหนึ่งในฐานะผู้แพ้สงครามต้องส่งส่วยให้ขอมดำด้วย ปรากฏว่ามีคนของเขาคนหนึ่งค้านเรื่องส่งส่วยว่าในเมื่อเรายึดพื้นที่ ยึดเมืองแล้ว ทำไมต้องให้เขาส่งส่วยด้วย นี่ความจริงคนของเขาก็มีดีเหมือนกัน [/FONT]

    [FONT=&quot]แต่เจ้าขอมดำนายใหญ่ ในใจของมันคิดว่า คนไทยไม่ควรจะมีอยู่ในพื้นที่นี่ มันอยากจะขับไล่ไปเสียแล้ว ไปให้ไกลจากแดนอุดมสมบูรณ์ที่เขาต้องการ จึงบอกว่าการส่งส่วยเป็นของดีควรส่งส่วยเป็นทองคำปีละ ๘๐ ชั่ง [/FONT][FONT=&quot]([/FONT][FONT=&quot]๑ ชั่ง [/FONT][FONT=&quot]= [/FONT][FONT=&quot]๘๐ บาท ๘๐ ชั่ง ก็เป็นทองคำหนัก ๖[/FONT][FONT=&quot],[/FONT][FONT=&quot]๔๐๐ บาท[/FONT][FONT=&quot]) [/FONT]

    [FONT=&quot]พระเจ้าพังคราชยืนฟังแล้วก็หนักใจ ว่าจะหาทองคำที่ไหนให้เขาได้ยังไงปีละตั้ง ๘๐ ชั่ง แต่มุขอำมาตย์ขอมคนหนึ่งเขาก็เสนอว่า ๘๐ ชั่ง มากเกินไปสำหรับคนไทยไม่ถึงแสนคนในเนื้อที่แสนไร่ไม่พอกัน ควรให้เป็นปีละ ๒๐ ชั่งก็พอ แล้วถามพระเจ้าพังคราชว่า ท่านจะหาทองคำให้เราได้ไหม พระเจ้าพังคราชก็ตอบว่า [/FONT][FONT=&quot]"[/FONT][FONT=&quot]เราเป็นผู้แพ้ก็เหมือนเป็นทาสรับใช้ของท่าน ท่านสั่งทำอะไรเราก็ต้องทำตาม[/FONT][FONT=&quot]" [/FONT]

    [FONT=&quot]นี่ลูกรักของพ่อ ตอนนี้ขอมดำเห็นใจ แต่ความโหดร้ายมันก็มีมาก จึงส่งพระเข้าพังคราชไปอยู่ที่ [/FONT][FONT=&quot]"[/FONT][FONT=&quot]วังสีทอง[/FONT][FONT=&quot]" [/FONT][FONT=&quot]ให้ไล่ต้อนคนไทยไปอยู่ที่นั่น ความโหดร้ายของขอม ลูกเขาเมียใครถ้ามันต้องการเอาไปบำรุงบำเรอมันชั่วคราวหรือตลอดกาลต้องเป็นของเขา การใช้งานต่าง ๆ ถ้าไม่เป็นที่[/FONT]
     
  20. i3lack

    i3lack เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    288
    ค่าพลัง:
    +102
    เรื่องราวกำลังตื่นเต้นครับ :cool: แถมข้อคิดก็มาก
     

แชร์หน้านี้

Loading...