โดนขังวิญญาณ

หวัดดีครับ คุณเก่งนะครับ...พูดภาษาเทพได้เลย ของผมยังไม่รู้เลยว่าเป็นภาษาอะไรครับ แล้วคนที่เปิดปากให้คุณนั้นเขาบอกรึป่าวครับว่าคุณเป็นแบบประมาณครึ่งมนุษย์ครึ่งเทวดาแล้ว ต่อไปอาจมีมีงานอะไรบ้าง...

 

สิ่งที่อุทิศให้ท่านมันหมดแล้ว ก็หาอันใหม่ให้ อาจจะขอบารมีจากใครไปให้
ก็ได้ ทำเหมือนที่ทำตอนนั้นหลับตานึกถึงบารมีแล้วหน่วงเอาอารมณ์ที่เกิดจาก
การเห็นนั้น ส่งให้ท่านไปครับ

 

สังฆทานได้บุญมากเพราะจะเป็นของสงฆ์ หมายถึงถวายนั้นต้องมีพระอยู่ด้วย
สี่รูปขึ้นไป จะถวายหลายอันก็ได้ อันเดียวก็ได้ แต่กล่าวว่านี้เป็นเครื่องสังฆทาน
เมื่อพระรับเอาแล้ว บุญก็สำเร็จกับเรา แต่พระนั้นเมื่อเอาไปแล้วก็ต้องมาตั้งคำ
สมาทานสังฆทานนี้ทำนองว่าของนี้ดุจลอยมาบนอากาศจะมุ่งหมายว่าให้พระ
รูปหนึ่งรูปใดก็หาไม่ จึงตกลงกันว่าจะยกของสิ่งนี้ให้กับพระชื่อ...อะไรก็ว่าไป
เป็นผู้สมควรได้รับ แล้วกล่าวอนุโมทนาสาธุทั้งหมด. นี่เป็นสังฆทานมาตรฐาน

ส่วนไม่มาตรฐานคือ ทั้งวัดตกลงกันใว้แล้วว่าให้รูปหนึ่งรูปใดมาเป็นคนรับใว้
แล้วเอาไปเข้าห้องเก็บ บางครั้งก็เอาไปแจกวัดที่ยากจนกว่า บางครั้งก็เอาไป
แจกพระรูปหนึ่งรูปใดที่ไม่มีของใช้ อนุโมทนากันใว้ล่วงหน้าแล้ว

ตรงนี้เองถ้าพระที่รับแล้วเอาใส่ย่ามใส่ส่วนตัว จะเป็นเปรตไป คนให้ได้บุญตาม
ปกติครับอย่ากังวลเลย

 

กะว่าจะท่านจิโปสักนิด...แต่วันนี้คงไม่ล่ะครับ คิดว่าท่านคงเหนื่อยแล้ว งานเข้าเย่อะเหลือเกิน....สุ้ๆนะครับ และขอให้ท่านจิโปพรั่งพร้อมไปด้วยบุญบารมียิ่งๆขึ้นไปครับ

 

งูเป็นตัวแทนของความรัก สระน้ำคือจิตที่สงบ เมื่องูโผล่มาจากสระน้ำย่อม
หมายถึงความรักครั้งเก่าผุดขึ้นมาในใจเรา เราจับใว้แล้วขว้างไปหมายถึงเรา
ทิ้งมันไปได้ ละรักเก่าในอดีตได้แต่ท่านเตือนว่าขว้างงูให้พ้นคอย่อมหมายถึง
เยื่อใยของความรัก ให้ตัดให้ขาดด้วย ไม่ใช่ขว้างทิ้งด้วยความรู้สึกอื่นเช่น
โมโห งอน รึเห็นว่าหมดคุณค่าเป็นต้น แต่ให้ตัดให้ขาดด้วยการละในรูปในนาม
อย่างที่เห็นมันทั้งหมดตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบ งูหมายถึงอดีตรักครับ

นี่เดาเอาตามหลักหมอดูนะครับ รับฟังเล่นๆเพลินๆอย่าคิดมาก

 

ถ้าผมว่างก็มานั่งคุยกันได้ครับ ถ้าไม่ว่างก็ถามแปะใว้ ว่างจะเข้ามาตอบเอง
ครับถ้าผมตอบได้

 

พี่จิ-โป ครับ ขอถามแนว วิทย์ หนอ่ยครับ
อยากรู้ว่า ดาวหาง elenin มีลักษณะเปงไงอ่ะครับ แล้วมีคนอาศัยอยู่เปล่าครับ

 

งั้นผมถามไว้เลยครับ การเห็น(ด้วยความรู้สึก)ครั้งล่าสุดของผมนะครับ คือ เมื่อฟองอากาศ(ที่มันหนืดๆน่ะครับ)ที่มีอยู่ในศรีษะถูกเคลียร์ไปได้ ผมจะมีอาการเจ็บปวดในลำคอเป็นลำ คล้ายๆท่อลงไป...ตั้งแต่ลำคอลงไปถึงกลางท้อง เลยเข้าใจว่า...อาการเหล่านั้นน่าจะพัฒนามาจากสิ่งที่อยู่ภายในท้อง และพวกหมอผีเขาจะเรียกสิ่งนี้ว่า...พราย ผมเข้าใจถูกต้องไหม๊ครับ

 

อ้อ...ผมลืมถามไป ถ้าสิ่งที่มีอยู่ในตัวผมนี้ คือ พรายจริงๆ ผมวิธีที่จะช่วยอะไรเขาได้บ้างไหม๊ แบบประมาณเคลียร์กันดีๆ ไม่ต้องรุนแรงน่ะครับ

 

ถามแนววิทย์แต่ผมดันมาตอบแบบนั่งทางใน จะเอาหลักฐานมาประกอบยัง
ไงละครับ เอาเป็นว่าคุยกันเพลินๆละกัน

นั่งมองที่เห็นตอนแรกก็ โอ้วว ดาวลึกลับนี่มันไม่ใช่ดาวแต่เป็นกลุ่มพลังงาน
ที่หมุนวนๆกลายเป็นดวงดาว สีเทาออกขาว เหมือนพายุเมฆที่หมุนๆ ตานี้ก็มอง
เข้าไป เลือกใช้ย่านการมองนับเป็นค่าแถบพลังงานเหมือนที่เรายิงแสงผ่าน
ปริซิ่มคริสตัล เลือกเอาทีละย่านเพื่อจะสื่อดูให้เห็นรูปคนของเขาเมื่อแถบที่เรา
ใช้ดูตรงกันกับสภาวะของเขาก็จะเห็น รู้สึกยังงั้น กำลังไล่หาปรับระดับความละ
เอียดของจิต ตอนนี้ยังไม่เจออะไร..

ชั้นบรรยากาสไม่เหมือนเรา ชั้นบรรยากาศประกอบจากการแตกตัวของสิ่งที่
คล้ายๆเชื้อรา แผ่ออกชิ้นใครชิ้นมัน เหมือนเราย่างเนื้อย่างเกาหลีเป้นชิ้นๆ
เจ้าชิ้นๆนี้เล็กมากแล้วซ้อนกันเป็นชั้นๆ เรียกว่าชั้นบรรยากาศ ในโมเลกุลนั้น
ไม่มีการแตกตัวของอะตอมแต่เป็นการแผ่ออกเหมือนเชื้อราที่ลุกลามแผ่ออก
จะเรียกว่ากลุ่มพลังงานที่เล็กๆซ้อนๆกันเป็นเกราะก็ได้ เนื้อย่างเกาหลีที่ซ้อนๆ
กันเหลายๆชั้นยังงั้นล่ะ (ชักจะหิว)

เข้าไปสิ่งแรกที่เห็นคือปิระมิดครับ ทรงสูงไม่แบนเหมือนของโลก แค่นี้พอครับ
เดี๋ยวยาวไปเขาจะว่าเพี้ยนขี้คุยเพราะเห็นคนเดียวก็โม้ไปงั้นๆ

 

ถูกครับ ผมเคยบอกใว้ว่าของนี้มาจากข้างในผู้หญิง บางทีก็เป็นประจำเดือน
ที่เขาเอามานิดหน่อยให้เรากิน บางทีก็เป็นน้ำมันพรายที่เขาทำมาแล้วก็เอามา
ใส่น้ำมนต์แล้วเอามาให้เรากินโดยไม่เจตนาบอกเราว่านี่ของดีเอามาจากวัด

เมื่อตรงส่วนบนถูกกำจัดไปแล้วก็จะเล็กลงไปจนถึงสาเหตุที่ฝังอยู่ในท้องใน
กระเพาะในลำใส้ พอเราเข้าไปเห็นตรงที่มันเป็นแล้วมันจะโดนจิตเราที่มองเห็น
มันนี้เผา เมื่อเผาแล้ว(จิตมันเผาเองตัวเราไม่ได้บังคับให้เผานะ)ก็จะหายจาก
อาการเหล่านี้เอง ดีนะท่านโดนของพวกนี้แล้วไม่เป็นบ้าวิกลจริตไปเพราะโดย
มากถ้าพวกนี้เดือดเป็นฟองหนืดๆมาที่หัวจะมีเสียงรุมด่าใหหัวจนบ้าไปเลย นี่
ถือว่ามีบุญอยุ่มากโข พยายามมองมันเข้านะ ตามมันเข้าไปจนมันฝ่อลงๆจน
เข้าไปถึงตัวที่มันเกาะ เราเห็นมันมันก็ฝ่อเองเพราะโดนเผาครับ

 

ตกกลางคืนมากลายเป็นว่าผมเหมารอบคุยอยู่คนเดียว
มีคนถามว่า ผมนั่งสมาธิแล้วภาวนาว่าเกิดแก่เจ็บตาย แล้วเผลอแว๊ปเดียวง่วงเคลิ้ม
จะหลับไปเลย จะทำยังไงดี

ก็เลยถือโอกาสเอามาตอบตรงนี้จะได้เป็นแนวทางกับคนอื่นด้วย
ในการภาวนาต่างๆ ทั้งเกิดแก่เจ็บตาย ยุบไม่ยุบหนอ พุทโธเป็นต้นเหล่านี้ จะเป็นส่วน
ของ"นาม"ทั้งหมด สภาวะที่มาจึงจะเป็นอรูปทั้งหมด เมื่ออรูปมาเรามีกำลังน้อยจึงมอง
ไม่เห็นอรูปนี้ สภาวะมาถึงตัวเราเมื่อไหร่ก็เคลิ้มไปเมื่อนั้น นีรวมถึงคนที่เริ่มเกิดทิพญาณ
ด้วยนะ พวกที่คล้ายๆไปเห็นอดีตของคนที่คุยด้วย คล้ายเห็นกรรมในชาติก่อนของเขานั้นๆ
ก็จะเกิดสภาวะของอรูปนี้ติดมาจะเคลิ้มเข้าด้วยเช่นกัน

วิธีการนั้นเราๆท่านๆก็ทำกันเป็นปกติอยู่แล้วแต่ไม่ได้สังเกตุมันเท่านั้นเอง นั่นคือให้หันมา
กำหนด"รูป"แทน (เมื่อกี้พิมพ์ผิดเป็น"รู" ใจหายแว๊ปเลย...) การมาของการเคลิ้มมันจะ
เริ่มมาในรูปยังงี้คือ เช่นเมื่อเรากำหนดวงแห่งแสงสว่างใว้หข้างหน้ามีแสงนวลๆออกมาโดย
รอบๆ อยู่ๆรูปก็เปลี่ยนไปเป็นสีอื่นบ้าง ไปเป็นวงแห่งดิน วงแห่งไฟ วงสีแดงบ้าง นี่คือ
เริ่มจะเคลิ้ม(แต่เรายังไม่เคลิ้มนะ) คือในการกำหนดรูปนี่แค่ "เริ่มจะ" เราก็รู้ก่อนแล้ว ไม่
เหมือนอรูปที่กำหนดมาจากนามธรรมอันนั้นรู้ยากกว่า

เมื่อรูปมันเปลี่ยนแปรไปก็คือเราจะเริ่มเคลิ้ม เราก็ต้องรีบนึกรูปที่เราต้องการขึ้นมา อย่า
สนใจในรูปอื่นๆที่มาแทรกนั้น เพิ่มกำลังใจเราลงไปในภาพที่อยู่ข้างหลังให้มาก (ปกติ
ภาพที่แทรกมักจะแทรกมาบังข้างหน้าแรกๆเป็นเงาก่อน) ถาพที่เรากำหนดมักจะอยู่ข้าง
หลังของรูปที่แทรก อาจจะเป็นคนบ้าง สัตว์บ้าง พระบ้าง ถ้าเรามาสนใจทีนี้ล่ะจะกลาย
เป็นนิมิต เป็นเรื่องเป็นราว งานของกสิณเราก็จะไม่ก้าวหน้า แล้วเราก็จะเริ่มเคลิ้มแล้ว
ก็ถอยจากสมาธินอนยกธงขาวกรนคร๊อกๆเสียงดังเหมือนเรือหางยาวครับ.

 

ขอบคุณครับป๋ม
ฟังดูแล้ว น่าสนใจ คงต้องไปหาภาพมาดูให้ได้ พูดถึงเนื้อย่างเกาหลี ก็
อยากกินเหมือนกัน หุหุ แต่แบบว่าช่วงนี้มีความรู้สึกไม่ค่อยอยากกินเนื้อสัตว์
แต่ก็มีกินบ้างนิดหน่อย คงเพราะฟันที่อุดไว้มันหลุดพอกินไปแล้วมันเจ็บ ก็เลย
พาให้ไม่อยากกิน

 

ขอบคุณครับจะนำไปปฏิบัติ

 

อย่างของผม เวลาที่นั่ง(รถตู้) ก็จะกำหนดดูลมหายใจไปเรื่อย ๆ รู้สติ
ว่าตอนนี้รถวิ่งอยู่ จอดจ่ายเงิน พอลงจากทางด่วน จอดป้ายแรก กับ
รู้สึกว่า ตัวเองหลับไปแต่ไม่รู้ว่าหลับไปตอนไหน

 

การกำหนดดูลมหายใจไปเรื่อยๆแม้ไม่ได้ภาวนาว่าอะไร ก็จัดเป็นอรูปฌาณ
ครับ เพราะลมหายใจเรานั้นเราจะรู้โดยจับสัมผัสแห่งการเข้าออกเลยเป็นนาม
เมื่อสภาวะเคลิ้มมาก่อนฌาณแล้วเรารู้ไม่ทันตามความเคลิ้มไปแว๊ปเดียวก็
ไหลลึกเกินฌาณเข้าภวังค์ไปเลย

ลองหันมากำหนดลมหายใจเข้าออกให้เป็นแสงสีขาวครับ ทั้งหายใจเข้าและ
ออกอันนี้จะเป็นรูปฌาณ ใจเรานึกให้เห็นเป็นแสงสีขาวพร้อมๆกับที่กายสัมผัส
ว่าหายใจเข้า และหายใจออก เหมือนคนชัดเลื่อยตัดใม้ ให้สนใจที่การชัดเข้า
ออกของเลื่อย ไม้นั้นคือตัวเราท่อนซ้ายคือจิต ท่อนขวาคืออายตนะเมื่อเรา
ดูสังเกตุการชักเลื่อยอย่างสม่ำเสมอเมื่อใม้ขาด กายจิตเราแยกออกจากกัน
เราก็จะรู้ว่า อ้อนี่กาย นี่จิต เรากำลังดูทั้งสองอยู่นะ ก็จะเริ่มใช้การได้ครับ

แต่ไม่ใช่ว่าเรานึกเห็นเรานอนแอ้งแม้งหลับตาปี๊ให้เลื่อยตัดนะครับ นั่นท่าน
เปรียบเทียบ ให้สนใจที่ลมหายใจสีขาวมันไหลเข้าไปไหนออกไปพ้นจมูก
เท่าไหร่ก็พอครับ สบายนะครับเกิดเป็นเจ้านายมีคนขับรถให้นั่งหลับ คนขับ
รถเบ้นส์ยังหลับไม่ได้เลย ต้องถ่างตาดูถนนตลอดกรรมของคนรวยเขา

 

แวะเข้ามาทักทาย คุณศิลามณี สบายดีไหมคะ

 

ขอบคุณที่ชี้แนะครับพี่จิ-โป
ขออีกซักเรื่องค้างคาใจมานาน คือทำไมจิตผมชอบคิดถึง แม่นาค อ่ะครับ
หรือเป็นเพราะว่า จะจำฝั่งใจตอนเด็ก ๆ หรือเปล่า ที่เคยดูตอนหนังกลางแปลง
พอคิดมาปุ๊บ ขนหลัง แสตนอัพ ขึ้นทันที ก็พยายาม เปลี่ยน ไม่คิด เพราะกลัวว่า
จะเจอ 555+

 

สวัสดีครับ ท่าน ainteerati, ท่านจิโป และทุกๆท่าน
เอาบุญมาฝากครับ วันนี้ไปทำบุญถวายเทียนพรรษามา พอถวายเสร็จก็มีคนรู้จักโทรมาหาประมาณว่าเดือดร้อน.... ก็เลยอยากรบกวนท่านช่วยเหลือหน่อยครับ เรื่องมีอยู่ว่า... มีคนที่รู้จักกัน ชื่อนายนธิพร เย็นเพิ่มเกิดวันพุธที่ 2 ม.ค. 2521 ปีมะเส็ง วันที่ 4 ก.ค. ที่ผ่านมานี่เอง เขาขับของพิ่ชายรุ่น CRV สีขาว ออกจากบ้านไปประมาณว่าไปเที่ยวประสาหนุ่มๆ แต่ว่าจนบัดนี้ก็ยังไม่กลับมา ติดต่อก็ไม่ได้ หายไปทั้งคนทั้งรถเลย เหตุเกิดที่ชลบุรี ตอนนี้ที่ทำได้คือไปแจ้งความไว้แล้วครับ

ขอบคุณครับ

 

ขอบคุณท่านจิโปมากครับที่คลีคลายปริศนาให้ผม มิน่าล่ะ...ผู้หลักผู้ใหญ่ของผมข้างบนจึงพยายามบอกผมผ่านคนอื่นมาหลายต่อหลายครั้งว่า...ให้พิจารณากายลงธาตุ4 นี่คือเหตุผลนี่เอง ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมเคยเคลียร์ปัญหาบริเวณท้องมาหลายครั้ง เพราะสงสัยในอาการต่างๆแต่มันก็เป็นๆหายๆเลยไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก
และสิ่งที่ผมจะถามต่อไปนี้จะเข้าช็อตเด็ดแล้วนะครับ
1.ทุกๆครั้งที่ผมภาวนามักจะมีเหตุให้ต้องหยุดภาวนากลางคันเกือบทุกที แต่ก็ดีที่เทพเทวาประจำตัวคอยอนุเคราะห์บ้าง เพราะสื่งที่เรียกว่าพรายนี้ใช่ไหม๊
2.อาการตึงที่หน้าผากเหมือนคล้ายๆมีนิ้วมากดจิ้มที่กลางหน้าผากนั้น คือ อะไรครับ...แต่ผมรู้สึกว่ามันคือการส่งของเข้าตัวเรานะครับ ประมาณว่ายิงเข้าทางตาที่สาม....ผมเข้าใจถูกต้องไหม๊ครับ หรือว่า...พรายที่อยุ่ในตัวเรานั้นสามารถวกกลับเข้าหาตัวเราเองได้เลย โดยที่ไม่ต้องอาศัยหมอผีเป็นคนสั่ง
3.แต่ผมเห็นอาการบางอย่าง...ที่ทำให้ผมรู้สึกว่านี้มันมีคนคอยควบคุมอยู่ คือ ก่อนยิงเข้าทางตาที่สาม(หรือกลางหน้าผากนั้น) เขาจะโจมตีริมหน้าด้านบนใกล้ๆชายผม ซึ่งผลจากการโจมตีในตำแหน่งนั้นจะทำให้จักละที่กลางกระหม่อมปิดสนิททันที เมื่อจักละที่ว่าปิดแล้วผลที่ตามมาคือ...เวลาที่เรามันจะทำให้อื้อ..หนักกระหม่อมแล้วง่วงเผลอหลับไปตลอด แม้แค่
จะสวดมนต์สักบทก็จะมีการกดศรีษะทันที เพื่อโจมตีระบบประสาทสัมผัสทั้งหมด...
และที่สำคัญไม่ว่า...ผมจะทำอะไรเกี่ยวปัญหาเรื่องนี้ ผมจะโดนโจมตีในลักษณะนี้ตลอด
และจากการสังเกตุอาการครั้งล่าสุด ทำให้ผมรู้ว่า....แม่ผมน่าจะโดนด้วย
4.วันนี้ผมลองพิจารณาทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมา และคำบอกกล่าวของผู้หลักผู้ใหญ่ครูบาอาจารย์ทั้งหลายนำมาประมวลผลใหม่หมด เลยได้บทสรุปว่า...ลองปั่นธรรมปรับธาตุดู ผลที่
ออกมาคือ ระหว่างที่ปั่นธรรมปรับธาตุนั้น ผมจะรู้สึกได้เลยว่า...มีไอร้อนระบายออกจากตัวเกือบตลอดเวลา ลักษณะของการระบายออกของไอร้อน คือ การสลายสิ่งที่เรียกว่าพรายใช่หรือไม่ครับ รบกวนแถลงต่อเพิ่มอีกนิดนะครับ..