ใครศรัทธา หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด มาพูดคุยกันครับ

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย คุณสนุก, 4 พฤศจิกายน 2010.

  1. จงอาง

    จงอาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,537
    ค่าพลัง:
    +7,799
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="95%" height=450><TBODY><TR><TD class=text1 vAlign=top align=left>ใจหายกันทั้งวงการบันเทิง เมื่อพระเอกเขตต์ ฐานทัพ หวานใจนางเอกสาวนุ่น-วรนุช วงษ์สวรรค์ ขับรถอัดท้ายรถ 6 ล้อเมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 11 มกราคม ท้องที่ของสน.ดินแดง บริเวณปากซอยมหาวงศ์ ใกล้โบสถ์แม่พระ ถนนอโศก-ดินแดงขาเข้า แขวงและเขตดินแดง
    ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณเกาะกลางถนน ซึ่งอยู่ระหว่างปรับพื้นที่เพื่อทำสะพานข้ามแยกโบสถ์แม่พระ รถเก๋ง MINI COOPER ป้ายแดง สีน้ำเงิน ทะเบียน ว.3394 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ในสภาพตัวถังด้านหน้าแตกร้าวพังยับ ฝากระโปรงฉีกออกเป็นสองซีก กระจกหน้าแตกร้าวทั้งบาน พวงมาลัยยุบเข้ามาเกือบติดเบาะ ซึ่งคนงานที่กำลังทำงานอยู่ตรงจุดที่พระเอกเขตต์ประสบอุบัติเหตุนั้นเล่าว่า เห็นพระเอกเขตต์ขับรถคันดังกล่าวมาด้วยความเร็วแล้วรถเกิดเสียหลักหักเข้าเสยท้ายรถ 6 ล้ออย่างแรง ตอนแรกคนงานนึกว่าคนขับคงไม่รอดแน่ แต่ปรากฏว่าเดินออกมาจากรถได้อย่างสบาย มีเพียงเลือดที่ออกจากศีรษะเท่านั้น

    ต่อมาเพื่อนของเขตต์ได้ขับรถมารับพาไปโรงพยาบาลวิภาวดี โดยรักษาตัวอยู่ห้อง 3514 ชั้น 15 เมื่อผู้สื่อข่าวได้เข้าไปสอบถามเรื่องราวเห็นสภาพของพระเอกยังอิดโรยแต่ก็ยิ้มและต้อนรับผู้สื่อข่าวเหมือนอย่างเคย โดยเขตต์มีผ้าปิดแผลสีขาวแปะอยู่บริเวณหน้าผาก ซึ่งต่อมาทราบว่าเย็บไป 9 เข็ม เนื่องจากเขตต์ขับรถไม่คาดเข็มขัดนิรภัย เดชะบุญที่เขาไม่เป็นอะไรมาก
    เขตต์ได้นำพระเครื่องที่ติดตัวอยู่ตลอดเวลาออกมาโชว์ทีมข่าวบันเทิงวันหยุดบอกว่า อาจจะเป็นเพราะเหรียญเจ้าพ่อเสือที่เสาชิงช้ากับหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ ช่วยชีวิตของเขาเอาไว้ เพราะคนที่เห็นเหตุการณ์วันนั้นบอกว่า เห็นรถของเขตต์มุดเข้าไปในรถ 6 ล้อแล้วคิดว่าคนขับคงไม่รอดแน่ แต่เขากลับออกมาจากรถเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่ตัวเขตต์เองก็ไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยด้วยซ้ำ แรงกระแทกแค่ทำให้หน้าเขาไปฟาดกับกระจกหน้าทำให้แค่หน้าผากแตกเท่านั้นเอง
    ทั้งนี้ ตัวเขตต์และญาติของเขาต่างก็เชื่อว่าอาจจะเป็นอิทธิฤทธิ์ของเหรียญเจ้าพ่อเสือกับเหรียญหลวงปู่ทวดที่เขตต์ห้อยคออยู่ ซึ่งเขตต์ศรัทธามาก ว่ากันว่าเพราะสิงศักดิ์สิทธิ์สองสิ่งนี้เลยทำให้เขตต์รอดชีวิตจากอุบัติครั้งนี้อย่างปาฏิหาริย์
    "ผมเองก็งงเหมือนกันว่าทำไมถึงไม่เป็นอะไรมาก เพราะเห็นสภาพรถที่ชนแล้วยังหวาดเสียวอยู่เลย ผมก็ไม่ได้ขับเร็วนะครับแค่ 80 แต่ช่วงที่ลงสะพานมีรถมอเตอร์ไซค์มาตัดหน้าเลยหักหลับ พอดีมีรถ 6 ล้อที่เขาจอดทำงานอยู่ตรงนั้นพอดี ก็เลยมุดเข้าไปเสยท้ายอย่างแรง ตอนแรกก็ตกใจ งงไม่รู้สึกว่าเป็นอะไร แต่รถพังขับไม่ได้ พอหายงงแล้วจึงรู้ว่าตัวผมเองไม่ได้เป็นอะไรมากแค่หัวแตกเย็บ 9 เข็ม ได้เอกซเรย์สมองแล้วคุณหมอบอกว่าไม่มีอะไรกระทบกระเทือนสมอง ผมเชื่อว่าอาจเป็นเพราะเหรียญเจ้าพ่อเสือกับหลวงปู่ทวดที่ผมห้อยคออยู่นี้ทำให้ตัวผมไม่เป็นอะไรมาก จากหนักเลยกลายเป็นเบา แต่เรื่องนี้ก็อยู่ที่ความเชื่อส่วนบุคลนะครับ" เขตต์กล่าว
    อย่างไรก็ตาม หากขับรถโดยประมาท หรือขับรถไม่คาดเข็มขับนิรภัย หรือเมาแล้วขับเมื่อไหร่ อุบัติเหตุอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ความโชคดีอาจจะไม่มีบ่อยนัก เช่นเดียวกับพระเอกเขตต์ ฐานทัพ ที่ครั้งนี้ถือว่าโชคดีที่ไม่เป็นอะไรมาก แต่อย่าประมาท เพราะครั้งหน้าความโชคดีและสิ่งปาฏิหาริย์อาจจะไม่เกิดขึ้นซ้ำสองก็เป็นได้

    ที่มา : http://www.wanyood.com/Content/Conte...-0501311200299

    </TD></TR></TBODY></TABLE><!-- google_ad_section_end -->
     
  2. จงอาง

    จงอาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,537
    ค่าพลัง:
    +7,799
    "สุเทพ วงศ์คำแหง" แขวน'หลวงปู่ทวด'ไม่ตายโหงจริงๆ

    [​IMG]
    ปัจจุบัน "นักร้องลูกกรุง" ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในอดีตมีมากมาย อาทิ สวลี ผกาพันธุ์, ชรินทร์ นันทนาคร, จินตนา สุขสถิตย์, ธานินทร์ อินทรเทพ, ดาวใจ ไพจิตร, จิตติมา เจือใจ, อุมาพร บัวพึ่ง

    และหากจะเอ่ยชื่อ สุเทพ วงศ์คำแหง ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีสากล) ปี ๒๕๓๓ คนส่วนใหญ่ในทุกวันนี้ยังคงรู้จักกันเป็นอย่างดี เนื่องจากท่านผู้นี้เคยฝากผลงานเพลงเอาไว้เป็นตำนานเพลงรักมากมาย ที่หลายคนต่างรู้จักจนกลายเป็น เพลงอภิมหาอมตะนิรันดร์กาล ไปแล้ว เช่น รักคุณเข้าแล้ว เธออยู่ไหน จงรัก นางใจ บทเรียนก่อนวิวาห์ พ่อแง่แม่งอน เทพเจ้าแห่งความระทม ฯลฯ

    แต่ชีวิตที่โด่งดังของศิลปินแห่งชาติท่านนี้เคยหวิดดับเพราะลูกปืนมาแล้ว

    สุเทพ เล่าว่า เมื่อครั้งเดินทางไปร้องเพลงกล่อมขวัญทหารที่ประเทศเวียดนาม มีเหตุการณ์เฉียดตายอย่างหวุดหวิด เนื่องจากได้ยินเสียงลูกกระสุนปืนลอยผ่านไปผ่านมาเท่านั้น

    เหตุการณ์ที่เฉียดตายสุดๆ น่าจะเป็นเหตุการณ์ไปร้องเพลงกล่อมขวัญทหารที่ จ.หนองคาย เช่นกัน ระหว่างขึ้นไปร้องเพลงอยู่นั้น มีนายทหารกลุ่มหนึ่งที่ยังอยู่ฝ่ายตรงข้ามใช้อาวุธปืนยิงขึ้นมาบนเวทีที่เรากำลังยืนร้องเพลงอยู่ แต่ทั้งนี้การยิงขึ้นมาครั้งนั้นฉิวเฉียดอย่างมาก ลูกปืนพุ่งไปโดนผู้หญิงที่นั่งอยู่ในรถจิ๊ปเพื่อมาตามสามีที่ทำงานเกี่ยวกับอุตสาหกรรมไม้ ให้ไปร่วมงานศพญาติที่กรุงเทพฯ

    กระสุนไปโดนผู้หญิงคนนั้นเสียชีวิตคาที่ ทหารนายนี้เห็นว่าพลาดเป้าแล้วขยับตัวเตรียมที่จะยิงปืนขึ้นบนเวทีอีกครั้ง นับว่าโชคดีอย่างมากที่มีนายทหารคอยคุ้มกันอยู่โดยรอบ ได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงระดมยิงนายทหารคนนั้นเสียชีวิตทันที


    [​IMG] [​IMG]
    การรอดตายมาได้ในวันนั้น เป็นวันที่จำได้ไม่เคยลืมเลย แม้จะผ่านมาเป็นเวลาสิบๆ ปีแล้วก็ตาม สิ่งหนึ่งที่จะลืมไม่ได้คือ พระหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ ที่แขวนติดตัวไม่เคยห่าง น่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยชีวิตเอาไว้ ซึ่งคิดว่าท่านมีคุณต่อตนเองอย่างมาก จนวันนี้ก็ยังมีองค์ท่านแขวนติดตัวอยู่เป็นประจำ

    หลายคนที่พูดว่าใครมีพระหลวงปู่ทวดแขวนติดตัว จะไม่ตายโหงนั้น น่าจะเป็นเรื่องจริง

    "แม้จะยากต่อการพิสูจน์ให้ใครๆ ได้เห็นก็ตามที จึงทำให้ผมมีความเคารพนับถือพระหลวงปู่ทวดมาก ผมรอดตายมาได้นับเป็นปาฏิหาริย์จริงๆ เป็นปาฏิหาริย์ที่เกิดจากพระหลวงปู่ทวดที่ผมแขวนติดตัวระหว่างเกิดเหตุ เพราะว่าเราคนไทยมีอะไรที่เรายึดมั่นในองค์พระที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เราทำอะไรก็จะมีความสบายใจทั้งชีวิตการทำงาน และความเป็นอยู่ รวมทั้งความแคล้วคลาดจากภัยอันตรายทั้งปวง ยิ่งผมรอดตายมาได้หลายครั้ง ผมจึงมีความเชื่อในเรื่องเหล่านี้มาตลอดชีวิต" นักร้องศิลปินแห่งชาติ เชื่อรอดตายเพราะแขวนพระหลวงปู่ทวด

    ส่วนพระเครื่องและวัตถุมงคลที่แขวนติดตัวอยู่ในสร้อยทั้ง ๓ เส้น ได้แก่ เหรียญหลวงพ่อเกษม เขมโก สำนักสุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง ได้มาจากอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง หลวงพ่อบ้านแหลม ได้มาจาก อนันต์ เหล่าพาณิชย์ เพื่อนร่วมอัสสัมชัญคอมเมอร์ซ ปัจจุบันคือ "บิ๊กบอส" ของบริษัท ไทยซังเกียว จำกัด มอบให้พร้อมกับสร้อย ตั้งแต่ได้พระองค์นี้มาชีวิตมีแต่ดีขึ้นเรื่อยๆ การเงินการทองก็คล่องตัวขึ้น รวมทั้ง อีแปะ ที่ไม่ใช่เครื่องรางของขลัง โดยมีข้าวสารสามเม็ด ที่เชื่อว่าจะช่วยให้คนไม่มีความทุกข์


    อย่างไรก็ตาม ศิลปินแห่งชาติยังเชื่อในเรื่องกฎแห่งกรรมด้วยว่า ใครทำความดีย่อมได้ดีตอบแทน เพราะการทำดีคงไม่ได้ทำให้เราจะต้องได้รับเรื่องร้ายต่างๆ ส่วนที่คนเราจะได้รับเรื่องร้ายครั้งใดผลความดีทั้งหลายที่เราทำเอาไว้ก็จะดลบันดาลมาช่วยเรา ฉะนั้นเรามีพระเครื่องแขวนติดตัวก็เพื่อว่าเราทำอะไรแล้วให้นึกถึงคุณพระคุณเจ้าว่าสิ่งไหนไม่ดีแล้วเราก็จะไม่ต้องทำ เพราะถ้าเราทำอะไรไม่ดีลงไปก็จะเป็นการสร้างบาปติดตัว และบาปที่ทำไปก็ไม่รู้ว่าจะหมดลงในภพชาติไหน แต่ถ้าจะให้ดีเราต้องลดการทำบาป น่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

    "ทุกวันนี้นอกจากจะทำบุญเป็นประจำแล้ว ผมยังชอบสวดคาถาวันเสาร์ ยะโตหัง ภะคินิ อะริยา ชาติยา ชาโต นาภิชา นามิ สัญจิจจะ ปาณัง เพราะเป็นคนเกิดวันเสาร์ ตามความเชื่อว่าจะค่อนข้างเป็นคนแข็ง พอสวดคาถาแล้วเชื่อกันว่าจะได้เป็นที่รักของคนรอบข้าง แล้วถ้าวันไหนต้องเดินทางไกลๆ ก็จะต้องระลึกนึกถึงคุณพ่อแม่และคุณพระให้ช่วยเหลือในยามที่ตกอยู่ในอันตราย"

    ที่มา : http://www.bp-th.org/webboard/index....4727318907fafe
    <!-- google_ad_section_end -->

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->
     
  3. ล้างใจ

    ล้างใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    7,268
    ค่าพลัง:
    +24,819
    [​IMG]
     
  4. Aimee2500

    Aimee2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    1,703
    ค่าพลัง:
    +1,765
    นะโมโพธิสัตโต อาคันติมายะอิติภะคะวา
    นะโมโพธิสัตโต อาคันติมายะอิติภะคะวา
    นะโมโพธิสัตโต อาคันติมายะอิติภะคะวา

    สัทธา ทานัง อนุโมทามิ.....สาธุ
     
  5. จงอาง

    จงอาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,537
    ค่าพลัง:
    +7,799
    ประสบการณ์พิศวง:บารมีหลวงปู่ทวด โจรใต้รัวm16 ยิงไม่เข้า

    ผมได้มีโอกาสไปปฎิบัติหน้าที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ผมไปก็อยู่ใน อ.สุไหปาดี จ.นราธิวาส ในขณะที่ผมตั้งด่านอยู่ อีกที่หนึ่งห่างกันประมาณ 2 กม.ก็มีด่านอีกซึ่งเป็นด่านของชุด.ชรบ. ได้มีคนร้ายมาที่ด่านของชุด.ชรบ.แล้วได้ใช่อาวุธปืนออกมาหันมาทางผู้ใหญ่บ้าน แต่กระสุนไม่ทำงาน และในขณะเดียวกันก็หันมายิงอีกคน ที่นี้โดนเต็มๆ ปรากฎว่าล่วงครับ ส่วนที่ผู้ใหญ่บ้านคนนั้นได้แขวนพระองค์เดียว คือหลวงปู่ทวด ที่สร้างโดย วัดประชุมชลธารา พอวันรุ่งขึ้นผู้ใหญ่บ้านคนนั้นได้มาคุยกับผม และเป็นเพราะเขาแขวนหลวงปู่ทวดแน่ๆ และไม่ใช่เพราะเหตุบังเอิน แต่เป็นบารมีของหลวงปู่ทวด และไม่เท่านั้นครับ พนง.ขร.ของวัดประชุมชลธาราก็โดนยิงด้วยปืน M16. พรุนรถทั้งคัน ในมือกำหลวงปู่ทวด ของวัดประชุม.. ก็รอดตายมาได้ โดยที่เขาบอกผมว่าตอนที่โดนยิงเขาคิดอย่างเดียวว่าเขาตายแน่ๆ แต่ก็รอดตายมาได้ และอีกครั้งหนึ่ง ตชด.โดนภรรยาหลวงยิงแบบเข้าเต็มที่ชายโคลงขวาเพราะจับได้ว่ามีภรรยาน้อย ด้วยปืนขนาด 9 มม.ถึง 3 นัดซ้อน ทำให้ซิ้โคลงขวาหักไป 3 ท่อน แต่ กระสุนไม่เข้าเลยสักนัดเดียวครับ และภรรยาหลวงคนนั้นก็หันมายิงTV. เขานึกว่าเป็นกระสุนปลอม แต่TV. กระจายเลย และมีเหตุการณ์อีกหลายครั้งครับ
    จ่าแดน.

    ที่มา : http://xchange.teenee.com/index.php?showtopic=41465

    ขอขอบคุณ คุณ Leo tn
     
  6. จงอาง

    จงอาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,537
    ค่าพลัง:
    +7,799
    พระเครื่องคู่ใจคนดัง :
    ประสบการณ์ปาฏิหาริย์หลวงปู่ทวด ของ ส.ส.สุพร อัตถาวงศ์ (ส.ส.แรมโบ้)


    พระครูนครธรรม โฆสิต (หลวงปู่นิล อิสฺสริโก) วัดครบุรี ต.ครบุรีใต้ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา เกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงเป็นที่เคารพ ศรัทธาและเลื่อมใส ของชาวโคราชมาเป็นเวลาช้านาน ท่านได้มรณภาพเมื่อวันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๓๗ สิริอายุได้ ๙๒ ปี พรรษา ๗๒ และได้มีการจัดงาน พระราชทาน เพลิงศพเมื่อวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๕ นับเป็นพระเกจิอาจารย์ ที่เคารพ นับถือของ "ส.ส.แรมโบ้" สุพร อัตถาวงศ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต ๑๒ จ.นครราชสีมา ในฐานะกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย
    นอกจากนี้ ส.ส.สุพร ยังนับถือ หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ จ.ปัตตานี อีกด้วย แม้ว่าก่อนหน้านี้จะเป็นคนที่แขวนพระหลวงปู่ทวดติดตัว เป็นประจำ แต่ระยะหลังไม่ได้แขวนอันเนื่องมาจากเป็นคนขี้ร้อน ตามคอจะมีอาการ แพ้สายสร้อยกับองค์พระ จึงนำพระหลวงปู่ทวด ที่เคยแขวนเก็บไว้ในตู้เซฟ
    ส.ส.สุพร เล่าถึงเหตุการณ์ เฉียดตายว่าครั้งแรกเกิดขึ้น ระหว่างนั่งเครื่องบิน ๔๓๐ ไปประชุมที่ จ.แม่ฮ่องสอน ในฐานะเลขานุการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปรากฏว่าเครื่องบิน ไม่สามารถลงจอดได้เนื่องจาก สภาพอากาศปิด กัปตันจึงขับเครื่องบินวนอยู่รอบๆ สนามบินนานเป็นชั่วโมง
    กระทั่งมีอธิบดีท่านหนึ่ง ที่นั่งมาด้วยกันได้ถามว่า ส.ส.สุพร มีพระหลวงปู่ทวดไหม จึงตอบไปว่ามีอยู่ที่คอ อธิบดีท่านนั้น ก็เลยขอยืมไปแล้วก็ยกมือขึ้นไหว้อธิษฐาน ทันใดนั้นเองเครื่องบินก็กระแทกรันเวย์ตึงๆ เสียงดัง จนน่ากลัว ความรู้สึกในตอนนั้นเหมือนล้อจะหลุด
    เหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นเรื่องรอดตายจากบารมีหลวงปู่ทวด จากที่ได้ศึกษาบารมีของหลวงปู่ทวด ตามความเชื่อก็พบว่า ใครที่มี พระหลวงปู่ทวดไว้บูชาจะทำให้ชีวิตมั่งมีศรีสุข ผู้ใหญ่เห็นก็ จะให้ความรัก ความเมตตา สงสาร ยิ่งความเชื่อเกี่ยว กับอุบัติเหตุ ด้วยแล้วต่างเชื่อกันมากว่า ใครมีพระหลวงปู่ทวดไว้บูชา จะไม่มี วันตายโหงเพราะ บางครั้งไม่ว่าคนเรา จะพบกับ ภัยอันตรายใดๆ ก็จะแคล้วคลาดเสมอ เหมือนกระแสจิต ของท่านจะแผ่บารมี มาช่วยให้ปลอดภัยตลอดเวลา
    "ถ้าถามว่าจิตใจในวันที่เกิดเหตุ เป็นอย่างไร ขอบอกตาม ตรงว่าจิตใจตอนนั้นไม่ดีเลย คิดว่าถ้าบินกลับกรุงเทพฯ ก็คงไม่ถึงแน่เพราะ น้ำมันจะหมดเสียก่อน จึงทำได้สถานเดียวคือ ต้องนำเครื่องลงจอดให้ได้ แต่วันนั้นอากาศมันปิด ลงไม่ได้จริงๆ เชื่อไหมว่าผมใจสั่นไปหมด ทุกคนใจหายใจคว่ำไปตามๆ กัน เครื่องมันทำท่าร่อนลงอยู่หลายครั้ง แต่ก็ลงไม่ได้สักที ที่ผมรอดตายมาได้ก็เชื่อว่าเป็นเพราะบารมีหลวงปู่ทวดอย่างแน่นอน" นี่คือความเชื่อในปาฏิหาริย์ของ ส.ส.แรมโบ้
    ส.ส.สุพร เล่าต่อว่า ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นอีกเมื่อครั้ง นำคณะพี่น้องในพื้นที่ครบุรีและเสิงสางกว่าร้อยคนขึ้นรถบัสไป ๒ คัน เดินทางไป จ.ภูเก็ต จากนั้นได้เดินทางต่อไปเพื่อไหว้หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี
    บังเอิญระหว่างเดินทาง มีคนหนึ่ง พูดเล่นขึ้นมาว่า หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ทำไมไม่ไปเหยียบทะเลน้ำเค็มบ้าง
    คนที่พูดเขาไม่ได้คิดอะไร เชื่อไหมว่ารถบัสวิ่งออกจากวัดช้าง ให้มาไม่ถึงกิโลเมตรปรากฏว่าแอร์ดับทั้งสองคัน เมื่อรถไม่มีแอร์อากาศหายใจก็มีไม่พอ ทำให้หลายคนเป็นลมต้องนำส่งโรงพยาบาล
    จังหวะที่กำลังช่วยคนนำส่งโรงพยาบาลอยู่นั้น ก็นึกขึ้น ได้ว่ามีคนพูดจา ดูหมิ่นหลวงปู่ทวดจึงได้พนมมืออธิษฐานว่า หลวงปู่หากพวกลูกๆ กระทำสิ่งหนึ่ง สิ่งใดหรือบุคคลหนึ่ง บุคคลใดในคณะดูหมิ่น หรือกล่าวด้วยคำพูดที่ไม่ดีต่อหลวงปู่ ก็ขอให้อโหสิกรรมด้วย และให้อภัยไว้ตรงนี้เพราะ ทุกคนที่มาสักการะหลวงปู่ทวด ล้วนมีเจตนาดีด้วยกันทุกคน พออธิษฐานจบลงก็เป็นช่วงเวลาที่รถเสียนานเป็นชั่วโมง ไม่น่าเชื่อว่ารถยังไม่ทันขับเข้าอู่เลย แอร์ที่ดับอยู่นั้นกลับเปิดขึ้นมา เป็นปกติ อย่าง น่าประหลาด ในวันนั้นทุกคนต่างก็เดินทางกลับ จ.นครราชสีมา ได้อย่าง ปลอดภัยทุกคน
    ส่วนปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นอีกครั้งนั้นอยู่ที่ในระหว่างเดินทางเข้ากรุงเทพฯ โดยมีลูกน้องเป็นคนขับ ไม่รู้ว่าลูกน้องอ่อนเพลีย หรืออย่างไรไม่ทราบ เกิดหลับใน ขับรถวิ่งไปในเขตเลนที่มีรถประจำทางสวนมา ภาพที่เห็นคือ รถวิ่งผิดเลน ประกอบกับก็เห็นรถกำลังวิ่งสวนเข้ามาหา มีความรู้สึกว่าตกใจคิด ในใจว่างานนี้ ต้องตายแน่ๆ ไม่รอดอย่างแน่นอน "จังหวะที่รถวิ่งเข้าไปในเลนรถบัส ที่วิ่งสวนมา ผมก็เอามือกำหลวงปู่ทวดที่แขวนติดตัวไว้ ฉับพลันทันใดนั้น คนขับรถ ก็หักพวงมาลัย ทำให้รถวิ่งเข้ามา ในเลนเดิม เชื่อไหมว่ารถประจำทางกับรถของผมเฉียดกันนิดเดียว รถผมก็เสียหลัก ไปนิดเดียว ผมไม่รู้จะทำอะไรพอผ่านพ้นเหตุการณ์นั้นมาได้ก็ยกมือไหว้หลวงปู่ทวดทันที มาวันนี้ผมจึงโดยแท้จริงว่า รอดตายมา ได้ก็เพราะบารมี ของพระหลวงปู่ ทุกวันนี้จะไปไหนมาไหน ผมต้องมีพระหลวงปู่ทวดติดตัวเป็นประจำ" ส.ส.สุพร กล่าว

    ที่มา:
    http://www.komchadluek.net/column/pra/2005/08/06/02.php
    <!-- google_ad_section_end -->
     
  7. Aimee2500

    Aimee2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    1,703
    ค่าพลัง:
    +1,765
    <table id="post5995339" class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%" align="center"><tbody><tr><td class="thead" style="font-weight:normal; border: 1px solid #FFFFFF; border-right: 0px">[​IMG] วันนี้, 06:53 PM </td> <td class="thead" style="font-weight:normal; border: 1px solid #FFFFFF; border-left: 0px" align="right"> #11761 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border: 1px solid #FFFFFF; border-top: 0px; border-bottom: 0px" width="175"> จงอาง
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Mar 2009
    ข้อความ: 1,266
    พลังการให้คะแนน: 198 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_5995339" style="border-right: 1px solid #FFFFFF"> <ins style="display:inline-table;border:none;height:280px;margin:0;padding:0;position:relative;visibility:visible;width:336px"><ins id="aswift_0_anchor" style="display:block;border:none;height:280px;margin:0;padding:0;position:relative;visibility:visible;width:336px"></ins></ins>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" height="450" width="95%"><tbody><tr><td class="text1" valign="top" align="left">ใจ หายกันทั้งวงการบันเทิง เมื่อพระเอกเขตต์ ฐานทัพ หวานใจนางเอกสาวนุ่น-วรนุช วงษ์สวรรค์ ขับรถอัดท้ายรถ 6 ล้อเมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 11 มกราคม ท้องที่ของสน.ดินแดง บริเวณปากซอยมหาวงศ์ ใกล้โบสถ์แม่พระ ถนนอโศก-ดินแดงขาเข้า แขวงและเขตดินแดง
    ที่ เกิดเหตุอยู่บริเวณเกาะกลางถนน ซึ่งอยู่ระหว่างปรับพื้นที่เพื่อทำสะพานข้ามแยกโบสถ์แม่พระ รถเก๋ง MINI COOPER ป้ายแดง สีน้ำเงิน ทะเบียน ว.3394 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ในสภาพตัวถังด้านหน้าแตกร้าวพังยับ ฝากระโปรงฉีกออกเป็นสองซีก กระจกหน้าแตกร้าวทั้งบาน พวงมาลัยยุบเข้ามาเกือบติดเบาะ ซึ่งคนงานที่กำลังทำงานอยู่ตรงจุดที่พระเอกเขตต์ประสบอุบัติเหตุนั้นเล่าว่า เห็นพระเอกเขตต์ขับรถคันดังกล่าวมาด้วยความเร็วแล้วรถเกิดเสียหลักหักเข้า เสยท้ายรถ 6 ล้ออย่างแรง ตอนแรกคนงานนึกว่าคนขับคงไม่รอดแน่ แต่ปรากฏว่าเดินออกมาจากรถได้อย่างสบาย มีเพียงเลือดที่ออกจากศีรษะเท่านั้น

    ต่อ มาเพื่อนของเขตต์ได้ขับรถมารับพาไปโรงพยาบาลวิภาวดี โดยรักษาตัวอยู่ห้อง 3514 ชั้น 15 เมื่อผู้สื่อข่าวได้เข้าไปสอบถามเรื่องราวเห็นสภาพของพระเอกยังอิดโรยแต่ก็ ยิ้มและต้อนรับผู้สื่อข่าวเหมือนอย่างเคย โดยเขตต์มีผ้าปิดแผลสีขาวแปะอยู่บริเวณหน้าผาก ซึ่งต่อมาทราบว่าเย็บไป 9 เข็ม เนื่องจากเขตต์ขับรถไม่คาดเข็มขัดนิรภัย เดชะบุญที่เขาไม่เป็นอะไรมาก
    เขตต์ ได้นำพระเครื่องที่ติดตัวอยู่ตลอดเวลาออกมาโชว์ทีมข่าวบันเทิงวันหยุดบอกว่า อาจจะเป็นเพราะเหรียญเจ้าพ่อเสือที่เสาชิงช้ากับหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ ช่วยชีวิตของเขาเอาไว้ เพราะคนที่เห็นเหตุการณ์วันนั้นบอกว่า เห็นรถของเขตต์มุดเข้าไปในรถ 6 ล้อแล้วคิดว่าคนขับคงไม่รอดแน่ แต่เขากลับออกมาจากรถเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่ตัวเขตต์เองก็ไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยด้วยซ้ำ แรงกระแทกแค่ทำให้หน้าเขาไปฟาดกับกระจกหน้าทำให้แค่หน้าผากแตกเท่านั้นเอง
    ทั้ง นี้ ตัวเขตต์และญาติของเขาต่างก็เชื่อว่าอาจจะเป็นอิทธิฤทธิ์ของเหรียญเจ้าพ่อ เสือกับเหรียญหลวงปู่ทวดที่เขตต์ห้อยคออยู่ ซึ่งเขตต์ศรัทธามาก ว่ากันว่าเพราะสิงศักดิ์สิทธิ์สองสิ่งนี้เลยทำให้เขตต์รอดชีวิตจากอุบัติ ครั้งนี้อย่างปาฏิหาริย์
    "ผมเองก็งงเหมือน กันว่าทำไมถึงไม่เป็นอะไรมาก เพราะเห็นสภาพรถที่ชนแล้วยังหวาดเสียวอยู่เลย ผมก็ไม่ได้ขับเร็วนะครับแค่ 80 แต่ช่วงที่ลงสะพานมีรถมอเตอร์ไซค์มาตัดหน้าเลยหักหลับ พอดีมีรถ 6 ล้อที่เขาจอดทำงานอยู่ตรงนั้นพอดี ก็เลยมุดเข้าไปเสยท้ายอย่างแรง ตอนแรกก็ตกใจ งงไม่รู้สึกว่าเป็นอะไร แต่รถพังขับไม่ได้ พอหายงงแล้วจึงรู้ว่าตัวผมเองไม่ได้เป็นอะไรมากแค่หัวแตกเย็บ 9 เข็ม ได้เอกซเรย์สมองแล้วคุณหมอบอกว่าไม่มีอะไรกระทบกระเทือนสมอง ผมเชื่อว่าอาจเป็นเพราะเหรียญเจ้าพ่อเสือกับหลวงปู่ทวดที่ผมห้อยคออยู่นี้ทำ ให้ตัวผมไม่เป็นอะไรมาก จากหนักเลยกลายเป็นเบา แต่เรื่องนี้ก็อยู่ที่ความเชื่อส่วนบุคลนะครับ" เขตต์กล่าว
    อย่าง ไรก็ตาม หากขับรถโดยประมาท หรือขับรถไม่คาดเข็มขับนิรภัย หรือเมาแล้วขับเมื่อไหร่ อุบัติเหตุอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ความโชคดีอาจจะไม่มีบ่อยนัก เช่นเดียวกับพระเอกเขตต์ ฐานทัพ ที่ครั้งนี้ถือว่าโชคดีที่ไม่เป็นอะไรมาก แต่อย่าประมาท เพราะครั้งหน้าความโชคดีและสิ่งปาฏิหาริย์อาจจะไม่เกิดขึ้นซ้ำสองก็เป็นได้

    ที่มา : http://www.wanyood.com/Content/Conte...-0501311200299
    </td></tr></tbody></table>


    </td></tr></tbody></table><table id="post5995359" class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%" align="center"><tbody><tr><td class="thead" style="font-weight:normal; border: 1px solid #FFFFFF; border-right: 0px">[​IMG] วันนี้, 07:00 PM </td> <td class="thead" style="font-weight:normal; border: 1px solid #FFFFFF; border-left: 0px" align="right"> #11762 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border: 1px solid #FFFFFF; border-top: 0px; border-bottom: 0px" width="175"> จงอาง
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Mar 2009
    ข้อความ: 1,266
    พลังการให้คะแนน: 198 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_5995359" style="border-right: 1px solid #FFFFFF"> "สุเทพ วงศ์คำแหง" แขวน'หลวงปู่ทวด'ไม่ตายโหงจริงๆ

    [​IMG]
    ปัจจุบัน "นักร้องลูกกรุง" ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในอดีตมีมากมาย อาทิ สวลี ผกาพันธุ์, ชรินทร์ นันทนาคร, จินตนา สุขสถิตย์, ธานินทร์ อินทรเทพ, ดาวใจ ไพจิตร, จิตติมา เจือใจ, อุมาพร บัวพึ่ง

    และหากจะเอ่ยชื่อ สุเทพ วงศ์คำแหง ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีสากล) ปี ๒๕๓๓ คนส่วนใหญ่ในทุกวันนี้ยังคงรู้จักกันเป็นอย่างดี เนื่องจากท่านผู้นี้เคยฝากผลงานเพลงเอาไว้เป็นตำนานเพลงรักมากมาย ที่หลายคนต่างรู้จักจนกลายเป็น เพลงอภิมหาอมตะนิรันดร์กาล ไปแล้ว เช่น รักคุณเข้าแล้ว เธออยู่ไหน จงรัก นางใจ บทเรียนก่อนวิวาห์ พ่อแง่แม่งอน เทพเจ้าแห่งความระทม ฯลฯ

    แต่ชีวิตที่โด่งดังของศิลปินแห่งชาติท่านนี้เคยหวิดดับเพราะลูกปืนมาแล้ว

    สุเทพ เล่าว่า เมื่อครั้งเดินทางไปร้องเพลงกล่อมขวัญทหารที่ประเทศเวียดนาม มีเหตุการณ์เฉียดตายอย่างหวุดหวิด เนื่องจากได้ยินเสียงลูกกระสุนปืนลอยผ่านไปผ่านมาเท่านั้น

    เหตุการณ์ที่เฉียดตายสุดๆ น่าจะเป็นเหตุการณ์ไปร้องเพลงกล่อมขวัญทหารที่ จ.หนองคาย เช่นกัน ระหว่างขึ้นไปร้องเพลงอยู่นั้น มีนายทหารกลุ่มหนึ่งที่ยังอยู่ฝ่ายตรงข้ามใช้อาวุธปืนยิงขึ้นมาบนเวทีที่เรา กำลังยืนร้องเพลงอยู่ แต่ทั้งนี้การยิงขึ้นมาครั้งนั้นฉิวเฉียดอย่างมาก ลูกปืนพุ่งไปโดนผู้หญิงที่นั่งอยู่ในรถจิ๊ปเพื่อมาตามสามีที่ทำงานเกี่ยวกับ อุตสาหกรรมไม้ ให้ไปร่วมงานศพญาติที่กรุงเทพฯ

    กระสุนไปโดนผู้หญิงคนนั้นเสียชีวิตคาที่ ทหารนายนี้เห็นว่าพลาดเป้าแล้วขยับตัวเตรียมที่จะยิงปืนขึ้นบนเวทีอีกครั้ง นับว่าโชคดีอย่างมากที่มีนายทหารคอยคุ้มกันอยู่โดยรอบ ได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงระดมยิงนายทหารคนนั้นเสียชีวิตทันที


    [​IMG] [​IMG]
    การรอดตายมาได้ในวันนั้น เป็นวันที่จำได้ไม่เคยลืมเลย แม้จะผ่านมาเป็นเวลาสิบๆ ปีแล้วก็ตาม สิ่งหนึ่งที่จะลืมไม่ได้คือ พระหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ ที่แขวนติดตัวไม่เคยห่าง น่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยชีวิตเอาไว้ ซึ่งคิดว่าท่านมีคุณต่อตนเองอย่างมาก จนวันนี้ก็ยังมีองค์ท่านแขวนติดตัวอยู่เป็นประจำ

    หลายคนที่พูดว่าใครมีพระหลวงปู่ทวดแขวนติดตัว จะไม่ตายโหงนั้น น่าจะเป็นเรื่องจริง

    "แม้จะยากต่อการพิสูจน์ให้ใครๆ ได้เห็นก็ตามที จึงทำให้ผมมีความเคารพนับถือพระหลวงปู่ทวดมาก ผมรอดตายมาได้นับเป็นปาฏิหาริย์จริงๆ เป็นปาฏิหาริย์ที่เกิดจากพระหลวงปู่ทวดที่ผมแขวนติดตัวระหว่างเกิดเหตุ เพราะว่าเราคนไทยมีอะไรที่เรายึดมั่นในองค์พระที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เราทำอะไรก็จะมีความสบายใจทั้งชีวิตการทำงาน และความเป็นอยู่ รวมทั้งความแคล้วคลาดจากภัยอันตรายทั้งปวง ยิ่งผมรอดตายมาได้หลายครั้ง ผมจึงมีความเชื่อในเรื่องเหล่านี้มาตลอดชีวิต" นักร้องศิลปินแห่งชาติ เชื่อรอดตายเพราะแขวนพระหลวงปู่ทวด

    ส่วนพระเครื่องและวัตถุมงคลที่แขวนติดตัวอยู่ในสร้อยทั้ง ๓ เส้น ได้แก่ เหรียญหลวงพ่อเกษม เขมโก สำนักสุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง ได้มาจากอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง หลวงพ่อบ้านแหลม ได้มาจาก อนันต์ เหล่าพาณิชย์ เพื่อนร่วมอัสสัมชัญคอมเมอร์ซ ปัจจุบันคือ "บิ๊กบอส" ของบริษัท ไทยซังเกียว จำกัด มอบให้พร้อมกับสร้อย ตั้งแต่ได้พระองค์นี้มาชีวิตมีแต่ดีขึ้นเรื่อยๆ การเงินการทองก็คล่องตัวขึ้น รวมทั้ง อีแปะ ที่ไม่ใช่เครื่องรางของขลัง โดยมีข้าวสารสามเม็ด ที่เชื่อว่าจะช่วยให้คนไม่มีความทุกข์


    อย่างไรก็ตาม ศิลปินแห่งชาติยังเชื่อในเรื่องกฎแห่งกรรมด้วยว่า ใครทำความดีย่อมได้ดีตอบแทน เพราะการทำดีคงไม่ได้ทำให้เราจะต้องได้รับเรื่องร้ายต่างๆ ส่วนที่คนเราจะได้รับเรื่องร้ายครั้งใดผลความดีทั้งหลายที่เราทำเอาไว้ก็จะ ดลบันดาลมาช่วยเรา ฉะนั้นเรามีพระเครื่องแขวนติดตัวก็เพื่อว่าเราทำอะไรแล้วให้นึกถึงคุณพระคุณ เจ้าว่าสิ่งไหนไม่ดีแล้วเราก็จะไม่ต้องทำ เพราะถ้าเราทำอะไรไม่ดีลงไปก็จะเป็นการสร้างบาปติดตัว และบาปที่ทำไปก็ไม่รู้ว่าจะหมดลงในภพชาติไหน แต่ถ้าจะให้ดีเราต้องลดการทำบาป น่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

    "ทุกวันนี้นอกจากจะทำบุญเป็นประจำแล้ว ผมยังชอบสวดคาถาวันเสาร์ ยะโตหัง ภะคินิ อะริยา ชาติยา ชาโต นาภิชา นามิ สัญจิจจะ ปาณัง เพราะเป็นคนเกิดวันเสาร์ ตามความเชื่อว่าจะค่อนข้างเป็นคนแข็ง พอสวดคาถาแล้วเชื่อกันว่าจะได้เป็นที่รักของคนรอบข้าง แล้วถ้าวันไหนต้องเดินทางไกลๆ ก็จะต้องระลึกนึกถึงคุณพ่อแม่และคุณพระให้ช่วยเหลือในยามที่ตกอยู่ใน อันตราย"

    ที่มา : http://www.bp-th.org/webboard/index....4727318907fafe
    </td></tr></tbody></table><table id="post5995373" class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%" align="center"><tbody><tr><td class="thead" style="font-weight:normal; border: 1px solid #FFFFFF; border-right: 0px">[​IMG] วันนี้, 07:05 PM </td> <td class="thead" style="font-weight:normal; border: 1px solid #FFFFFF; border-left: 0px" align="right"> #11765 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border: 1px solid #FFFFFF; border-top: 0px; border-bottom: 0px" width="175"> จงอาง
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Mar 2009
    ข้อความ: 1,266
    พลังการให้คะแนน: 198 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_5995373" style="border-right: 1px solid #FFFFFF"> ประสบการณ์พิศวง:บารมีหลวงปู่ทวด โจรใต้รัวm16 ยิงไม่เข้า

    ผม ได้มีโอกาสไปปฎิบัติหน้าที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ผมไปก็อยู่ใน อ.สุไหปาดี จ.นราธิวาส ในขณะที่ผมตั้งด่านอยู่ อีกที่หนึ่งห่างกันประมาณ 2 กม.ก็มีด่านอีกซึ่งเป็นด่านของชุด.ชรบ. ได้มีคนร้ายมาที่ด่านของชุด.ชรบ.แล้วได้ใช่อาวุธปืนออกมาหันมาทางผู้ใหญ่ บ้าน แต่กระสุนไม่ทำงาน และในขณะเดียวกันก็หันมายิงอีกคน ที่นี้โดนเต็มๆ ปรากฎว่าล่วงครับ ส่วนที่ผู้ใหญ่บ้านคนนั้นได้แขวนพระองค์เดียว คือหลวงปู่ทวด ที่สร้างโดย วัดประชุมชลธารา พอวันรุ่งขึ้นผู้ใหญ่บ้านคนนั้นได้มาคุยกับผม และเป็นเพราะเขาแขวนหลวงปู่ทวดแน่ๆ และไม่ใช่เพราะเหตุบังเอิน แต่เป็นบารมีของหลวงปู่ทวด และไม่เท่านั้นครับ พนง.ขร.ของวัดประชุมชลธาราก็โดนยิงด้วยปืน M16. พรุนรถทั้งคัน ในมือกำหลวงปู่ทวด ของวัดประชุม.. ก็รอดตายมาได้ โดยที่เขาบอกผมว่าตอนที่โดนยิงเขาคิดอย่างเดียวว่าเขาตายแน่ๆ แต่ก็รอดตายมาได้ และอีกครั้งหนึ่ง ตชด.โดนภรรยาหลวงยิงแบบเข้าเต็มที่ชายโคลงขวาเพราะจับได้ว่ามีภรรยาน้อย ด้วยปืนขนาด 9 มม.ถึง 3 นัดซ้อน ทำให้ซิ้โคลงขวาหักไป 3 ท่อน แต่ กระสุนไม่เข้าเลยสักนัดเดียวครับ และภรรยาหลวงคนนั้นก็หันมายิงTV. เขานึกว่าเป็นกระสุนปลอม แต่TV. กระจายเลย และมีเหตุการณ์อีกหลายครั้งครับ
    จ่าแดน.

    ที่มา : http://xchange.teenee.com/index.php?showtopic=41465

    ขอขอบคุณ คุณ Leo tn
    </td></tr></tbody></table><table id="post5995387" class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%" align="center"><tbody><tr><td class="thead" style="font-weight:normal; border: 1px solid #FFFFFF; border-right: 0px">[​IMG] วันนี้, 02:08 PM </td> <td class="thead" style="font-weight:normal; border: 1px solid #FFFFFF; border-left: 0px" align="right"> #11766 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border: 1px solid #FFFFFF; border-top: 0px; border-bottom: 0px" width="175"> จงอาง
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Mar 2009
    ข้อความ: 1,267
    พลังการให้คะแนน: 198 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_5995387" style="border-right: 1px solid #FFFFFF"> พระเครื่องคู่ใจคนดัง :
    ประสบการณ์ปาฏิหาริย์หลวงปู่ทวด ของ ส.ส.สุพร อัตถาวงศ์ (ส.ส.แรมโบ้)


    พระ ครูนครธรรม โฆสิต (หลวงปู่นิล อิสฺสริโก) วัดครบุรี ต.ครบุรีใต้ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา เกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงเป็นที่เคารพ ศรัทธาและเลื่อมใส ของชาวโคราชมาเป็นเวลาช้านาน ท่านได้มรณภาพเมื่อวันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๓๗ สิริอายุได้ ๙๒ ปี พรรษา ๗๒ และได้มีการจัดงาน พระราชทาน เพลิงศพเมื่อวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๕ นับเป็นพระเกจิอาจารย์ ที่เคารพ นับถือของ "ส.ส.แรมโบ้" สุพร อัตถาวงศ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต ๑๒ จ.นครราชสีมา ในฐานะกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย
    นอกจากนี้ ส.ส.สุพร ยังนับถือ หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ จ.ปัตตานี อีกด้วย แม้ว่าก่อนหน้านี้จะเป็นคนที่แขวนพระหลวงปู่ทวดติดตัว เป็นประจำ แต่ระยะหลังไม่ได้แขวนอันเนื่องมาจากเป็นคนขี้ร้อน ตามคอจะมีอาการ แพ้สายสร้อยกับองค์พระ จึงนำพระหลวงปู่ทวด ที่เคยแขวนเก็บไว้ในตู้เซฟ
    ส.ส.สุพร เล่าถึงเหตุการณ์ เฉียดตายว่าครั้งแรกเกิดขึ้น ระหว่างนั่งเครื่องบิน ๔๓๐ ไปประชุมที่ จ.แม่ฮ่องสอน ในฐานะเลขานุการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปรากฏว่าเครื่องบิน ไม่สามารถลงจอดได้เนื่องจาก สภาพอากาศปิด กัปตันจึงขับเครื่องบินวนอยู่รอบๆ สนามบินนานเป็นชั่วโมง
    กระทั่งมีอธิบดีท่านหนึ่ง ที่นั่งมาด้วยกันได้ถามว่า ส.ส.สุพร มีพระหลวงปู่ทวดไหม จึงตอบไปว่ามีอยู่ที่คอ อธิบดีท่านนั้น ก็เลยขอยืมไปแล้วก็ยกมือขึ้นไหว้อธิษฐาน ทันใดนั้นเองเครื่องบินก็กระแทกรันเวย์ตึงๆ เสียงดัง จนน่ากลัว ความรู้สึกในตอนนั้นเหมือนล้อจะหลุด
    เหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นเรื่องรอดตายจากบารมีหลวงปู่ทวด จากที่ได้ศึกษาบารมีของหลวงปู่ทวด ตามความเชื่อก็พบว่า ใครที่มี พระหลวงปู่ทวดไว้บูชาจะทำให้ชีวิตมั่งมีศรีสุข ผู้ใหญ่เห็นก็ จะให้ความรัก ความเมตตา สงสาร ยิ่งความเชื่อเกี่ยว กับอุบัติเหตุ ด้วยแล้วต่างเชื่อกันมากว่า ใครมีพระหลวงปู่ทวดไว้บูชา จะไม่มี วันตายโหงเพราะ บางครั้งไม่ว่าคนเรา จะพบกับ ภัยอันตรายใดๆ ก็จะแคล้วคลาดเสมอ เหมือนกระแสจิต ของท่านจะแผ่บารมี มาช่วยให้ปลอดภัยตลอดเวลา
    "ถ้าถามว่าจิตใจในวันที่เกิดเหตุ เป็นอย่างไร ขอบอกตาม ตรงว่าจิตใจตอนนั้นไม่ดีเลย คิดว่าถ้าบินกลับกรุงเทพฯ ก็คงไม่ถึงแน่เพราะ น้ำมันจะหมดเสียก่อน จึงทำได้สถานเดียวคือ ต้องนำเครื่องลงจอดให้ได้ แต่วันนั้นอากาศมันปิด ลงไม่ได้จริงๆ เชื่อไหมว่าผมใจสั่นไปหมด ทุกคนใจหายใจคว่ำไปตามๆ กัน เครื่องมันทำท่าร่อนลงอยู่หลายครั้ง แต่ก็ลงไม่ได้สักที ที่ผมรอดตายมาได้ก็เชื่อว่าเป็นเพราะบารมีหลวงปู่ทวดอย่างแน่นอน" นี่คือความเชื่อในปาฏิหาริย์ของ ส.ส.แรมโบ้
    ส.ส.สุพร เล่าต่อว่า ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นอีกเมื่อครั้ง นำคณะพี่น้องในพื้นที่ครบุรีและเสิงสางกว่าร้อยคนขึ้นรถบัสไป ๒ คัน เดินทางไป จ.ภูเก็ต จากนั้นได้เดินทางต่อไปเพื่อไหว้หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี
    บังเอิญระหว่างเดินทาง มีคนหนึ่ง พูดเล่นขึ้นมาว่า หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ทำไมไม่ไปเหยียบทะเลน้ำเค็มบ้าง
    คนที่พูดเขาไม่ได้คิดอะไร เชื่อไหมว่ารถบัสวิ่งออกจากวัดช้าง ให้มาไม่ถึงกิโลเมตรปรากฏว่าแอร์ดับทั้งสองคัน เมื่อรถไม่มีแอร์อากาศหายใจก็มีไม่พอ ทำให้หลายคนเป็นลมต้องนำส่งโรงพยาบาล
    จังหวะที่กำลังช่วยคนนำส่งโรงพยาบาลอยู่นั้น ก็นึกขึ้น ได้ว่ามีคนพูดจา ดูหมิ่นหลวงปู่ทวดจึงได้พนมมืออธิษฐานว่า หลวงปู่หากพวกลูกๆ กระทำสิ่งหนึ่ง สิ่งใดหรือบุคคลหนึ่ง บุคคลใดในคณะดูหมิ่น หรือกล่าวด้วยคำพูดที่ไม่ดีต่อหลวงปู่ ก็ขอให้อโหสิกรรมด้วย และให้อภัยไว้ตรงนี้เพราะ ทุกคนที่มาสักการะหลวงปู่ทวด ล้วนมีเจตนาดีด้วยกันทุกคน พออธิษฐานจบลงก็เป็นช่วงเวลาที่รถเสียนานเป็นชั่วโมง ไม่น่าเชื่อว่ารถยังไม่ทันขับเข้าอู่เลย แอร์ที่ดับอยู่นั้นกลับเปิดขึ้นมา เป็นปกติ อย่าง น่าประหลาด ในวันนั้นทุกคนต่างก็เดินทางกลับ จ.นครราชสีมา ได้อย่าง ปลอดภัยทุกคน
    ส่วนปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นอีกครั้งนั้นอยู่ที่ในระหว่างเดินทางเข้ากรุงเทพฯ โดยมีลูกน้องเป็นคนขับ ไม่รู้ว่าลูกน้องอ่อนเพลีย หรืออย่างไรไม่ทราบ เกิดหลับใน ขับรถวิ่งไปในเขตเลนที่มีรถประจำทางสวนมา ภาพที่เห็นคือ รถวิ่งผิดเลน ประกอบกับก็เห็นรถกำลังวิ่งสวนเข้ามาหา มีความรู้สึกว่าตกใจคิด ในใจว่างานนี้ ต้องตายแน่ๆ ไม่รอดอย่างแน่นอน "จังหวะที่รถวิ่งเข้าไปในเลนรถบัส ที่วิ่งสวนมา ผมก็เอามือกำหลวงปู่ทวดที่แขวนติดตัวไว้ ฉับพลันทันใดนั้น คนขับรถ ก็หักพวงมาลัย ทำให้รถวิ่งเข้ามา ในเลนเดิม เชื่อไหมว่ารถประจำทางกับรถของผมเฉียดกันนิดเดียว รถผมก็เสียหลัก ไปนิดเดียว ผมไม่รู้จะทำอะไรพอผ่านพ้นเหตุการณ์นั้นมาได้ก็ยกมือไหว้หลวงปู่ทวดทันที มาวันนี้ผมจึงโดยแท้จริงว่า รอดตายมา ได้ก็เพราะบารมี ของพระหลวงปู่ ทุกวันนี้จะไปไหนมาไหน ผมต้องมีพระหลวงปู่ทวดติดตัวเป็นประจำ" ส.ส.สุพร กล่าว

    ที่มา:
    http://www.komchadluek.net/column/pra/2005/08/06/02.php
    </td></tr></tbody></table>


    ขอบคุณค่ะอจงอางเล่าอีกเล่าอีกฟังเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อเรื่องบารมีของหลวงปู่
     
  8. ล้างใจ

    ล้างใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    7,268
    ค่าพลัง:
    +24,819
    [​IMG] [​IMG]
     
  9. ล้างใจ

    ล้างใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    7,268
    ค่าพลัง:
    +24,819
    [​IMG] [​IMG]
     
  10. Norragate

    Norragate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    19,518
    ค่าพลัง:
    +37,735
    ขอบคุณสำหรับเรื่องราวประสบการณ์ต่างๆเกี่ยวกับหลวงปู่ทวดมาให้อ่านกันนะครับอาจารย์จงอาง.....ผมนั่งอ่านสองรอบก็ไม่เบื่อเลย.. (^__^)
     
  11. Norragate

    Norragate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    19,518
    ค่าพลัง:
    +37,735
    สุดยอดเลยครับเสี่ยล้างใจ.... (^___^)
     
  12. ล้างใจ

    ล้างใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    7,268
    ค่าพลัง:
    +24,819
    ขอบคุณครับเสี่ยนอร์......................(deejai)
     
  13. รักษ์สยาม

    รักษ์สยาม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    707
    ค่าพลัง:
    +1,129
    กลับบ้านคราวนี้ ไปเจอของดีแต่แปลกเข้าแล้วครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P4070772.JPG
      P4070772.JPG
      ขนาดไฟล์:
      367.6 KB
      เปิดดู:
      74
    • P4070773.JPG
      P4070773.JPG
      ขนาดไฟล์:
      381.3 KB
      เปิดดู:
      41
  14. charoen.b

    charoen.b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    5,726
    ค่าพลัง:
    +15,488
    [​IMG]

    รักพี่....................เสียดายน้อง
     
  15. จงอาง

    จงอาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,537
    ค่าพลัง:
    +7,799
    คอลัมน์ "อาถรรพณ์ ปาฏิหาริย์" ก็กลับมาพบกับท่านผู้อ่านอีกครั้งในนิตยสาร "ชีวิตต้องสู้" ฉบับต้อนรับเดือนแห่งความรัก โดยมีผม "หงสา ราชาวดี" คอยนำเรื่องราวลี้ลับที่เกิดขึ้นจริงทั้งกับตัวของผู้เขียนเอง และเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับบุคคลรอบข้างนำมาเล่าสู่กันฟังโดยไม่มีการเสริมแต่งให้เกินจากความเป็นจริง...!
    รื่องลี้ลับที้จะนำมาเล่าสู่กันฟังในฉบับนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงกับตัวผู้เขียนเองตั้งแต่ยังอยู่ในวัยเด็ก ซึ่งเป็นเรื่องราวความศักดิ์สิทธิ์ของ "หลวงปู่ทวด" วัดช้างไห้ จังหวัดปัตตานี ที่เกิดปาฏิหาริย์อยู่หลายครั้งจนทำให้ผู้เขียนเกิดความเคารพศรัทธามาจนถึงทุกวันนี้ ดังตัวอย่างเรื่องหนึ่งที่ผู้เขียนจะหยิบยกมาเล่าให้ท่านผู้อ่านได้รับทราบว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้เป็นเหตุบังเอิญ หรือด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของ "หลวงปู่ทวด" กันแน่ "นะโม โพธิสัตโต อะคันติมายะ อิติภะคะวา" ท่านผู้อ่านที่มีความเคารพเลื่อมใสและศรัทธาในองค์ "หลวงปู่ทวด" คงจะคุ้นเคยกับคาถามงคลนี้กันเป็นอย่างดี เช่นเดียวกับตัวผู้เขียนเองที่สามารถท่องคาถาบทนี้ได้อย่างขึ้นใจมาตั้งแต่อายุแค่เพียง 4 ขวบ...!
    และเป็นเวลา 50 กว่าปีมาแล้วที่ผู้เขียนได้สวดมนต์บทนี้ทุกวันไม่เคยขาด ทั้งก่อนที่จะเดินทางออกจากบ้าน และทุกค่ำคืนก่อนที่จะเข้านอน ซึ่งจำได้ว่าสมัยที่ยังเป็นเด็กคุณแม่ได้ให้พระมาคล้องคอเราเพื่อความเป็นสิริมงคล และคุ้มครองตัวเราให้พ้นภัยอันตรายทั้งปวง พระที่คุณแม่ให้มา 2 องค์นั้นเป็นพระ "หลวงปู่ทวด" องค์แรกนั้นเป็นเหรียญรูปไข่ด้านหน้าจะเป็นรูปหลวงปู่ทวด ส่วนด้านหลังจะเป็นรูป "หลวงปู่ทิม" ส่วนองค์ที่สองจะเป็นรุ่นที่เขาเรียกกันว่า "รุ่นหลังเตารีด" เป็นพิมพ์นูนทำจากทองเหลืองรูปร่างคล้ายเตารีด สร้างและปลุกเสกเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2500

    ตลอดระยะเวลา 50 กว่าปีที่ผ่านมาผู้เขียนได้พบกับอิทธิปาฏิหาริย์ขององค์หลวงปู่ทวดอยู่หลายครั้ง จึงทำให้บังเกิดความเลื่อมใสศรัทธามากยิ่งขึ้น และทำให้ผู้เขียนมีความเชื่อมั่นว่าสิ่งลี้ลับที่ยากจะพิสูจน์ได้ในโลกนี้ยังมีอยู่จริง เพราะได้ประสบเหตุการณ์มากับตัวเราเอง ซึ่งก็เป็นการยากอย่างยิ่งที่จะอธิบายหรือบอกเล่าให้คนที่ไม่มีความเชื่อถือในเรื่องนี้ได้รับทราบ ดีไม่ดีเขาอาจจะหาว่าเรางมงายไร้สาระไปก็เป็นได้
    ปาฏิหาริย์ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2507 ซึ่งในขณะนั้นตัวผู้เขียนเองกำลังเรียนอยู่ชั้นประถมปีที่ 4 ที่โรงเรียนสันติราษฎร์บำรุง (ปัจจุบันคือโรงเรียนสันติราษฎร์วิทยาลัย) ถนนศรีอยุธยา กทม. และเหตุการณ์ที่ยากจะลืมเลือนนี้ก็ได้เกิดขึ้น ณ สถานที่แห่งนี้ในเย็นวันหนึ่งหลังเลิกเรียน เด็กๆ ส่วนใหญ่ก็มักจะพากันเล่นอย่างสนุกสนานเพื่อรอเวลาที่ผู้ปกครองจะมารับ ตัวผู้เขียนเองก็มักจะชอบเล่นฟุตบอลกับเพื่อนๆ อย่างเพลิดเพลินในบริเวณสนามฟุตบอลของโรงเรียน จนกระทั่งใกล้ค่ำจึงพากันแยกย้ายกลับบ้าน ซึ่งก็เป็นกิจวัตรประจำวันที่เรามักจะทำกันอยู่เสมอ
    ขณะที่เตรียมตัวจะกลับบ้านนั้น ผู้เขียนต้องใจหายวาบเมื่อรู้ตัวว่าพระหลวงปู่ทวดที่เราคล้องคอมาตั้งแต่เริ่มจำความได้นั้นได้ล่วงหล่นหายไปแล้ว และหายไปตั้งแต่เมื่อไรนั้นก็สุดที่คาดเดา ผู้เขียนพยายามนึกทบทวนว่าพระได้หล่นหายไปตอนไหน และมั่นใจว่าจะต้องหล่นไปขณะที่กำลังเล่นฟุตบอลอยู่ที่สนาม จึงได้เดินค้นหาไปจนทั่วสนามฟุตบอลด้วยใจที่กระวนกระวายและเสียดายเป็นอย่างมาก พยายามค้นหาเท่าไรก็ไม่พบจวบจนแสงตะวันเริ่มลับขอบฟ้าความมืดมิดเข้ามาปกคลุมจึงได้ตัดสินใจกลับบ้าน ตลอดทางที่เดินกลับบ้านนั้นในใจก็ครุ่นคิดไปตลอดทางว่าจะทำอย่างไรดี นี่ถ้าแม่รู้เข้าก็คงจะดุว่าเราแน่ๆ เพราะพระเป็นของเก่าและคล้องคอเรามาตลอดชีวิต
    เมื่อย่างกรายเข้าประตูบ้านคำถามแรกที่ได้ยินจากแม่ก็คือ "ไปไหนมาถึงได้กลับบ้านค่ำมืดอย่างนี้" ผู้เขียนคิดอยู่ในใจว่าจะบอกแม่ดีหรือไม่ แต่ถ้าไม่บอกสักวันแม่ก็จะต้องรู้จึงตัดสินใจเล่าความจริงให้แม่ฟัง ซึ่งก็ผิดคาดที่คุณแม่ไม่ได้ดุว่าอะไรแล้วยังบอกอีกว่า "ไม่เป็นไรหรอกลูก...พระท่านคงไม่อยากอยู่กับเราถึงได้มีอันเป็นไป" ค่ำคืนวันนั้นผู้เขียนนอนครุ่นคิดอยู่นานจนกระทั่งเผลอนอนหลับไป และคืนนั้นเองจะด้วยความวิตกกังวลที่พระหายไปจนทำให้เกิดฝันประหลาดขึ้นมา ซึ่งแม้กระทั่งความฝันนั้นจะล่วงเลยมาหลายสิบปีแล้วแต่ก็ยังจำได้ติดตามาจนกระทั่งทุกวันนี้ ในฝันนั้นผู้เขียนฝันไปว่าได้เดินอยู่คนเดียวในบริเวณโรงเรียน พลันก็มีชายแก่คนหนึ่งปรากฏร่างขึ้นมา ในฝันยังจำได้ว่าชายแก่คนนั้นมีรูปร่างผอมสูงนุ่งโจงกระเบนและใส่เสื้อสีขาวมีผ้าขาวพาดบ่า ผมยาวมีเคราสีขาววาววับท่าทางเป็นคนใจดี ชายคนนั้นเดินเข้ามาถามผู้เขียนว่า "หนูกำลังหาพระอยู่ใช่ไหม" ผู้เขียนพยักหน้า
    ชายแก่คนนั้นพูดต่อไปอีกว่า "มา...มากับลุง...ลุงจะพาหนูไปหาพระ" พูดแล้วชายแก่คนนั้นก็จูงมือผู้เขียนเดินไปที่สนามฟุตบอลซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่เรายืนอยู่นัก พอมาถึงบริเวณใกล้กับเสาประตูฟุตบอล ชายแก่คนนั้นก็ชี้ไปที่กอหญ้าข้างเสาประตูแล้วพูดว่า "หนูแหวกกอหญ้านี่ดู...พระหล่นอยู่ตรงนี้" ในความฝันผู้เขียนได้แหวกกอหญ้าออกตามที่ชายแก่บอก ก็เห็นพระหลวงปู่ทวดที่หล่นหายอยู่ในกอหญ้า แล้วความฝันก็จบลงเพียงแค่นั้น พอรุ่งเช้าผู้เขียนรีบตื่นขึ้นแต่เช้าตรู่แล้วรีบแต่งตัวไปโรงเรียน ในจิตสำนึกยังจำภาพของความฝันได้อย่างแม่นยำ ก่อนจะออกจากบ้านคุณแม่ได้ถามด้วยความแปลกใจว่า ทำไมวันนี้ถึงรีบไปโรงเรียนแต่เช้า ผู้เขียนจึงได้เล่าความฝันให้คุณแม่ฟังแล้วจึงรีบออกจากบ้านเพื่อไปให้ถึงโรงเรียนโดยเร็ว เพราะในใจนั้นมีความต้องการที่จะพิสูจน์ความฝันว่าจะเป็นจริงตามที่เราได้ฝันไปหรือเปล่า
    พอถึงโรงเรียนสิ่งแรกที่ผู้เขียนทำก็คือ รีบตรงดิ่งไปที่สนามฟุตบอลทันที และยืนเพ่งมองตามภาพแห่งความฝันเพื่อทบทวนความทรงจำ ซึ่งลักษณะของพื้นที่และภาพที่เห็นนั้นตรงกับในความฝันทุกอย่าง ผู้เขียนพยายามมองหาจนพบกอหญ้าที่มีลักษณะเหมือนในความฝันไม่มีผิด ไม่รอช้าจึงใช้มือแหวกกอหญ้านั้นออกดู สิ่งที่ปรากฏต่อสายตา และทำให้เป็นที่แปลกประหลาดใจมากก็คือ เหรียญ "หลวงปู่ทวด" องค์ที่หล่นหายตกอยู่ตรงนี้จริงๆ ผู้เขียนมีความรู้สึกขนลุกซู่ไปทั้งตัว ไม่นึกไม่ฝันว่าความฝันของเราจะเป็นจริงไปได้
    เย็นวันนั้นหลังเลิกเรียนพอกลับถึงบ้าน ผู้เขียนได้นำพระหลวงปู่ทวดมาให้คุณแม่ดู แล้วบอกว่าทุกอย่างเป็นไปจริงๆ ตามที่เราฝัน ซึ่งคุณแม่บอกว่าคงจะเป็นบุญของเราจึงได้พระกลับคืนมา และจากนั้นมาผู้เขียนจะเก็บพระหลวงปู่ทวดไว้บูชาจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ แม้จะมีใครหลายคนมาขอเช่าให้ราคาสูงมากขนาดไหนผู้เขียนก็จะไม่ยอมปล่อยให้หลุดมือไปอย่างเด็ดขาด....!
    ปาฏิหาริย์ "หลวงปู่ทวด" เรื่องที่สอง เรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับตัวผู้เขียนโดยตรง แต่เกิดขึ้นจริงกับเพื่อนของผู้เขียนคนหนึ่งซึ่งเขาเป็นทหารพรานชื่อว่า "น้อย" เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2526 สงครามทางความคิดที่แตกต่างกันทางลัทธิของพรรคคอมมิวนิสต์กำลังแผ่ขยายไปทั่วโลก ประเทศไทยก็เป็นอีกประเทศหนึ่งที่กำลังประสบกับปัญหาการแทรกซึม และบ่อนทำลายความมั่นคงของชาติจากคอมมิวนิสต์ ทั่วทุกภาคของประเทศไทยจะมีการสู้รบกันอย่างหนักระหว่างทหารและพรรคคอมมิวนิสต์ในประเทศไทย
    สมรภูมิห้วยโกร๋นจังหวัดน่านในขณะนั้นก็เป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่มีการสู้รบกันอย่างหนัก "น้อย" ทหารพรานหนุ่มในขณะนั้นก็เป็นอีกผู้หนึ่งที่ถูกส่งเข้าร่วมรบเพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทย ทหารและตำรวจที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ทุกคนจำเป็นที่จะต้องมีเครื่องรางของขลังติดตัวเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ ทหารพรานน้อยก็เช่นเดียวกัน เขามีพระ "หลวงปู่ทวด" ห้อยคอติดตัวอยู่เพียงองค์เดียว ซึ่งเป็นพระที่เขาเช่ามาในราคาเพียงองค์ละ 1 บาท จากแผงพระริมรั้ววัดมหาธาตุก่อนที่เขาจะถูกส่งตัวเข้าสู่สมรภูมิเลือด
    วันหนึ่งขณะที่เขากำลังออกลาดตระเวนกับเพื่อนทหารพรานในป่าลึกของจังหวัดน่าน สิ่งที่ไม่ทันได้ระวังตัวก็เกิดขึ้น เมื่อเขาถูกซุ่มโจมตีอย่างหนักจากผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ เสียงปืนดังก้องกังวานสนั่นป่าถี่ยิบ สลับกับเสียงระเบิดเป็นระยะๆ ทหารพรานน้อยถูกคมกระสุนปืน เอ็ม.16 กระหน่ำยิงเข้าใส่เต็มแผ่นหลังหลายสิบนัด เขารู้สึกได้ถึงความรุนแรงของหัวกระสุนปืนที่กระทบร่างของเขาจนเสื้อชุดทหารพรานขาดกระจุย ร่างของทหารพรานน้อยกระเด็นล้มลงกับพื้นดิน เขารู้สึกเจ็บและเสียววาบไปทั่วแผ่นหลัง ในขณะที่เหตุการณ์กำลังชุลมุนอยู่นั้นสิ่งที่เขานึกถึงเป็นอันดับแรกก็คือ "หลวงปู่ทวด" ที่เขาห้อยคอติดตัวอยู่เป็นประจำ
    ทหารพราน "น้อย" กำเหรียญหลวงปู่ทวดไว้แน่นอยู่ในมือ พร้อมอาราธนาให้หลวงปู่ทวดช่วยคุ้มครอง และท่องบทสวดมนต์อยู่ในใจ พอฝ่ายผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ล่าถอยไป เพื่อนทหารต่างพากันกรูเข้ามาช่วยเหลือเขาทันที ภาพที่เห็นกับตาตอนแรกของการยิงต่อสู้กันนั้น ทุกคนคิดว่าเขาต้องเสียชีวิตอย่างแน่นอน แต่ทุกคนก็ต้องประหลาดใจเป็นอย่างมากที่คมกระสุนไม่สามารถระคายผิวของทหารพรานหนุ่มคนนี้แม้แต่น้อย ซึ่งตัวเขาเองได้กล่าวอย่างมั่นใจว่าเป็นเพราะพุทธานุภาพอันศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่ทวด ที่มาปกป้องคุ้มครองจึงทำให้เขารอดชีวิตมาได้อย่างน่าทึ่งนี่ก็เป็นปาฏิหาริย์อีกเรื่องหนึ่งที่เกิดขึ้นจริงกับทหารพรานน้อยเมื่อ 25 ปีที่ผ่านมา ถึงแม้พระหลวงปู่ทวดที่เขาห้อยคออยู่นั้นจะไม่ได้ผ่านพิธีปลุกเสกมาก่อน และเช่ามาเพียงแค่องค์ละ 1 บาท จากแผงพระริมรั้ววัดมหาธาตุ แต่เมื่อเรามีความเคารพและศรัทธาอย่างแรงกล้าในองค์ท่านแล้ว พุทธานุภาพของท่านก็ย่อมที่จะช่วยปกปักรักษาให้เรารอดพ้นจากภยันตรายทั้งปวง..!
    ---------------------------------------------------------------------------------
    ขอบคุณ คุณKea.99999<!-- google_ad_section_end -->
    <!-- google_ad_section_end -->
     
  16. จงอาง

    จงอาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,537
    ค่าพลัง:
    +7,799
    ฮือฮาปาฏิหาริย์ หลวงปู่ทวด กระสุนปืนไม่ลั่น

    เฒ่าวัย 71 ปี เมาสุราไปเกลี้ยกล่อมสาวหมอนวดแผนโบราณ ให้ไปอยู่กินด้วยในฐานะภรรยา สาวเจ้าไม่เล่นด้วย โมโหชักปืนลูกซองสั้นจ่อยิงระยะประชิด 2 นัด แต่ปาฏิหาริย์กระสุนปืนไม่ลั่น ทำเอาตะลึงกันทั้งร้าน เชื่อพุทธคุณรูปหล่อลอยองค์หลวงปู่ทวดที่ห้อยคอ…

    เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 5 เม.ย. พ.ต.ท.ฉันทลักษณ์ จันวดี สารวัตรเวร สภ.นาโยง จ.ตรัง รับมอบตัวนายพันธ์ เหลือรักษ์ อายุ 71 ปี อยู่บ้านเลขที่ 104 ม.2 ต.นาชุมเห็ด อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ผู้ต้องหาคดีพยายามฆ่าผู้อื่น

    นายพันธ์ ให้การว่า เมื่อเวลา 22.30 น.วันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้ใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นจ่อยิง นางจารุวรรณ จินดาแจ้ง อายุ 49 ปี อาชีพหมอนวดแผนโบราณ อยู่บ้านเลขที่ 222/49 ม.6 ต.ภูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยพยายามสับไกปืน จำนวน 2 ครั้ง แต่เกิดมีปาฏิหาริย์กระสุนไม่ลั่น เหตุเกิดบริเวณหน้าร้าน ส.โพธิ์เวชนวดแผนโบราณ ตั้งอยู่เลขที่ 162/5 ม.4 ต.นาโยงเหนือ เขตเทศบาล ต.นาโยงเหนือ หลังหายตกตะลึงจึงขับรถหลบหนีไป ก่อนเข้ามอบตัวดังกล่าว

    ด้านนางจารุวรรณ หมอนวดแผนโบราณผู้เสียหาย ให้การว่า นายพันธ์ ได้มาหาตนที่ร้าน พยายามพูดจาเกลี้ยกล่อมจะพาไปอยู่ด้วยในฐานะภรรยา แต่ตนปฏิเสธ ทำให้นายพันธ์ ซึ่งมีอาการมึนเมาสุรา โกรธ ชักปืนออกมาจ่อยิงตนในระยะประชิด ลั่นไกปืน 2 ครั้ง ท่ามกลางเสียงหวีดร้องของเพื่อนหมอนวดภายในร้าน โดยที่ตนได้จับสร้อยคอซึ่งห้อยรูปหล่อลอยองค์หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด ไว้แน่น คิดว่าต้องตายแน่แล้ว แต่ปรากฏว่ากระสุนปืนด้าน จึงวิ่งหลบหนีเข้าไปในร้าน แล้วรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่.

    ขอขอบคุณ : ไทยรัฐออนไลน์
     
  17. ธุลี-ดิน

    ธุลี-ดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2012
    โพสต์:
    12,650
    ค่าพลัง:
    +12,202
    [​IMG] [​IMG]
     
  18. ธุลี-ดิน

    ธุลี-ดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2012
    โพสต์:
    12,650
    ค่าพลัง:
    +12,202
    [​IMG] [​IMG]
     
  19. motana2008

    motana2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    4,929
    ค่าพลัง:
    +10,336

    แปลกจริงครับมิเคยเห็นเลย
    ออกวัดอะไรเอ่ย
     
  20. ธุลี-ดิน

    ธุลี-ดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2012
    โพสต์:
    12,650
    ค่าพลัง:
    +12,202
    [​IMG] [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...