ใคร รู้สึก มึนและเวียนห้ว แบบไม่มีสาเหตุช่วงนี้บ้าง

เป็นครับ หรือว่าผมเพิ่งหายไข้ก็ไม่รู้นะ มึนๆวูบๆ แบบทั้งตัว บอกไม่ถูก เหมือนกำลังเดินๆแล้ว วูบทั้งร่างเหมือนคนเพิ่งลุกจากเตียงตื่นขึ้นมาลุกทันที ประมาณนั้น

 

วิงเวียนเหมือนกันค่ะ
ต้นสังกัดบอกเป็นมนุษย์ต่างดาว
กลางสังกัด บอกไม่ได้เป็นค่ะ
ปลายสังกัด บอกเป็นคนธรรมดา
ฟังหลายอย่างจะเป็นลม
เลยไม่เป็นอะไรเลยค่ะ เพราะจะเป็นลม ลมบ้าหมู......55555

 

รู้สึกมึนและเวียนศรีษะบางครั้งต้องหลับตาเพราะเหมือนจะหมุน ๆ (จากคนที่ไม่เคยดมยาดมเลยเดี๋วยนี้ก๊อซื้อติดตัวไว้) เพื่อนแนะนำให้ไปหาหมอ เลยไปเช็คที่รามาพยาบาลบอกว่าความดันปกติ ก้อมีอาการคันทั้งตัวจนเพื่อนบอกให้ไปเกาไกล ๆ กลัวจะติดขี้กลาก และเวลาเดินผ่านทีวีหรือเข้าใกล้ทีวี ภาพจะลวนหรือล้ม เวลาเดินผ่านวิทยุที่เพื่อนเปิดไว้วิทยุก้อเปลี่ยนคลื่น จนโดนชาวบ้านไล่ให้อยู่ห่าง ๆ หน่อย และวิทยุของตัวเองไม่ว่าจะซื้อมาถูกหรือแพงแค่ไหน(ราคาตั้งแต่เป็น 600-10,000.-กว่าบาท) ก็จะใช้ได้ไม่นานก็จะเสีย(คือคลื่นจะเพี้ยน ๆ)จนเพื่อนที่เป็นวิศวกรที่เป็นช่างซ่อมวิทยุประจำตัวถามว่าใช้ภาษาอะไรซื้อวิทยุให้ราคาเท่าไหร่ก็เสียจนต้องมาซ่อมให้ประจำเลย..จนทุกวันนี้ไม่มีทีวีดูหรือวิทยุใช้ เพราะบื่อที่อุปกรณ์ไฟฟ้าเหล่านั้นใช้ได้ไม่นานก็จะเสียและต้องเดือดร้อนคนอื่นเขา....เป็นคนขี้เกรงใจค่า..ไม่ใช่เท่านั้นนะค่ะเตารีดถ้าใช้ก็จะเสียหรือพังเหมือนกัน...จริง ๆ เรื่องอุปกรณ์ไฟฟ้าเป็นมาตั้งแต่เด็กแล้วล่ะค่ะ

 

ผมก็เป็นมาราวๆอาทิตย์นึง คือมึนๆหัว กลางคืนมันร้อนๆยังไงชอบกล นอนไม่ค่อยหลับทั้งที่เปิดแอร์กลับรู้สึกระบัดร้อนสะบัดหนาว ต้องปิดแอร์ เหลือพัดลม (ปกตินอนหลับง่าย หัวถึงหมอนก็หลับเลย ช่วงนี้มันแปลก)<!-- google_ad_section_end -->
__________________
<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->
ไม่แน่ใจว่าคำแนะนำจะใช้ได้ไหม เหมือนพลังงานในตัวมากเกินไป ลองเอามือแตะต้นไม้ใหญ่ คิดว่าพลังในหัววิ่งลงมาตามเส้นคอ ไหลลงมาที่มือถ่ายไปที่ต้นไม้ ให้ลงดินไปคะ
ลองดูคะ วิธีนี้ใช้กับการเรียนมวยจีน มีชี่มากเกิน

 

มีบ้าง แต่ไม่มากครับ =_="​

 

ขอร่วมตอบกะทู้ด้วยครับ เป็นครับตามอาการที่บอกมาเหมือนกันครับ อารมณ์ก็จะร้อนปัญหาหนักๆก็เข้ามาพร้อมๆกัน หยุดร้อนได้บ้างแล้วครับ หนักสุดๆเลยครับในชีวิต แต่ตอนนี้ดีแล้วครับ แล้วก็ได้มาเป็นสมาชิกเวปนี้ยิ่งดีขึ้นไปอีกและเร็วด้วยครับ อะไรที่ทำให้ผมเข้ามาเป็นสมาชิกเวปนี้ สงสัยจังเพื่อนสมาชิกช่วยแนะนำน้องใหม่ด้วยนะครับ ชอบฟังบทสวดมนต์มากนะครับ

 

ป่วยมาได้ประมาณสองสามสัปดาห์ละ น้ำมูกไหล ปวดหัว อาการคล้ายๆ จะเป็นหวัดแต่ไม่หายซักที มีดีขึ้นบ้าง ที่สังเกตเห็นชัดๆ เลยคือลืมเวลาและวัตถุ ไม่ใช่แบบขาดสตินะ แต่ก่อนจะรู้เป็นช่วงๆ ว่านั่งเรียนผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว ซื้อของเสร็จแล้วเหลือกี่นาที (มันพอกะได้นะ) ตอนนี้คือทำอะไรจะแบบชิลๆ มันไม่มีความรีบร้อนว่าจะต้องทำให้เสร็จในเวลาเท่านี้นะ เพราะคำว่าเวลามันหมดความสำคัญไป ส่วนวัตถุนี้อธิบายยากเหมือนกัน คือเรานั่งเรียนอยู่ รู้ว่าเรานั่งอยู่ในห้อง แต่มันไม่ได้อยู่ในห้อง เพราะห้องเรียนและสิ่งประกอบต่างๆ มันเหมือนมีและไม่มีในขณะเดียวกัน เดินก็เหมือนลอยได้เพราะพื้นไม่มี ไม่รู้สึกว่ามันมีพื้นจริงๆ เหมือนแต่ก่อน มันลอยๆ แปลกๆ

สังสัยคงจะยังไม่หายมึนเลยเกิดอาการแปลกๆ

 

ลองเข้าไปอ่านกระทู้นี้ โพสต์ที่ 1453 ดูนะครับ
เผื่อจะได้อะไรบ้าง

http://palungjit.org/threads/ข้อควา...ิ-ไปสู่มิติที่-5-a.246190/page-73#post4683634

.......................

 

ขอบคุณและเห็นด้วยเลยครับ ช่วงนั้นเหมือนชี่มากผิดปกติในช่วง11โมงถึงตี3คือเยอะผิดปกติ

 

สาเหตุหนึ่ง คาดว่ามาจากความผันผวนของวิกฤติพลังงานของโลกด้วย
ตามองค์ความรู้ของพระอาจารย์รัตน์ ขณะนี้มนุษย์เราโดนเส้นแรงแม่เหล็กโลกทำลายมาก ขณะนี้เส้นแรงแม่เหล็กลงเป็นแถบแล้ว เราจะรู้สึกมึนงง (ของตนเองจะรู้สึกเหมือนถูกแทง จี้ดๆๆ เข้ามาในหัวและตัวเป็นจุดๆ ปวดนืบๆ
ในขณะเดียวกัน ผลจากการระเบิดของดวงอาทิตย์ => พายุสุริยะ ซึ่งมีความถี่เดียวกันเส้นแรงแม่เหล็ก ได้รวมเข้าด้วยกัน เข้ามาในตัวเราด้วย ทำให้เราร้อนมากเหมือนถูกเผา

พระอาจารย์รัตน์ ก็ได้หาวิธีรับมือกับและสอนวิธีปฏิบัติให้เรารักษาตัวเราเอง
สนใจติดตามการอบรมของพระอาจารย์ได้ทั้งที่เชียงใหม่และกรุงเทพนะคะ มีอบรมทุกเดือน

 

ถ้ายังงั้นทุกคนบนโลกต้อง มึนสิ

 

หดหู่

ช่วงนี้มีอาการจิตตก หดหู่ อยากตาย อยู่ๆก็เกิดขึ้นเอง ยังแก้ไม่หายเลย


คิดว่าคงไม่เกี่ยว แต่ลองบอกดู ...

 

เป็นมา 3 วันแล้ว เซงมากกินอะไรก็ไม่อร่อย

 

ขึ้นอยู่กับสภาวะร่างกายและการรับรู้ของแต่ละบุคคล ทั้งยังขึ้นอยู่ความหนาบางของกิเลส ช่องว่างของร่างกาย การสัมผัส การรับรู้

สมมุติเช่น การที่มีคน 100 คน ได้รับเชื้อหวัดทุกคน ผลที่ตามมาก็ไม่ใช่ว่าคนทั้ง 100 คนเป็นหวัด บางคนไม่เป็น เป็นมาก เป็นน้อย เป็นช้า เป็นเร็ว

อาจจะยกตัวอย่างได้ไม่ดีเพราะเหตุและผลที่ต่างกัน แต่ยกตัวอย่างให้เห็นชัดว่า สภาวะร่างกาย และ การรับรู้ของแต่ละบุคคล ต่างกัน

อีกหนึ่งตัวอย่างเช่น คนที่เริ่มเป็นมะเร็งก็ไม่ได้รู้ว่าตัวเองเป็นตั้งแต่แรกเริ่มเป็น บางคนรู้ตัวเร็ว อาจเพราะสังเกตตัวเองและหรือสัมผัสได้ว่าตัวเองผิดปกติ ขณะที่บางคนอาจรู้ช้า อาจจะเป็นเพราะไม่ได้สังเกต หรือสัมผัสไม่ได้ แต่ที่แน่ๆคือ เป็นแล้ว เพียงแต่จะรู้ตัวหรือไม่เท่านั้น

 

ส่วนตัวร่างกายแข็งแรงดีไม่ได้รู้สึกอะไร นอกจากอากาศช่วงนี้ร้อนมาก ออกกำลังกายโดยการปั่นจักรยานทุกวัน

คนที่นอนห้องแอร์ ถ้าเปิด25องศา เอาไม่อยู่ให้ปรับมาเป็น 22-23องศา จะรู้สึกดีขึ้น
..............................


ความเห็นส่วนตัว
ช่วงนี้อากาศร้อน มากๆๆๆจะมีความหนาแน่นน้อยกว่าอากาศเย็น

จากการที่ความดันรอบตัวลดน้อยลงนี่เองจะทำให้ ออกซิเจน(O2)ในอากาศน้อยลงไปด้วย ทำให้ร่างกายต้องหายใจถี่ขึ้นเพื่อให้ได้ออกซิเจนตามที่ร่างกายต้องการ หากร่างกายปรับสภาพไม่ทันอาจทำให้เกิดสภาวะการขาดออกซิเจน

ผลจากการขาดออกซิเจน
เมื่อร่างกายขาดออกซิเจน เซลส์ต่างๆ ทั่วร่างกายจะขาดออกซิเจนร่วมด้วย จึงทำให้เกิดอาการต่างๆ ดังนี้ คือ อ่อนเพลีย ปวดกล้ามเนื้อ เมื่อยล้า ซึมเศร้า มึนศีรษะ กระสับกระส่าย ความจำเสื่อมหรือสูญเสียความจำ การไหลเวียนของโลหิตเสียไป การย่อยและการดูดซึมอาหารบกพร่อง มีกรดในกระเพาะเพิ่มขึ้น ภูมิต้านทานลดลง ติดเชื้อโรคได้ง่าย หมดสติ


..............................................................................................
ผลของการที่ร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ (แบ่งเป็นส่วนๆ)
<table width="80%" align="center" border="0" cellpadding="3" cellspacing="1"><tbody><tr> <td width="74" bgcolor="#0080c0">คอ</td> <td width="897" bgcolor="#d5f1ff">ไอ หลอดอาหารหดตัว(constricted Esophagus) โรคเกี่ยวกับทรวงอก (Thoracic Diseases)</td> </tr> <tr> <td bgcolor="#0080c0">การหายใจ</td> <td bgcolor="#d5f1ff">หายใจไม่ค่อยออก นอนไม่หลับ(insomnia) โรคนอนกรน(snoring)</td> </tr> <tr> <td bgcolor="#0080c0">ปอด</td> <td bgcolor="#d5f1ff">โรคหืด(Asthma) หลอดลมอักเสบ(Bronchitis) ไข้หวัดใหญ่ หรือติดเชื้อไวรัสเฉียบพลัน(Influenza)</td> </tr> <tr> <td bgcolor="#0080c0">ลำไส้เล็ก</td> <td bgcolor="#d5f1ff">ภาวะไม่อยากอาหารหรือไม่สามารถรับประทานอาหารได้ (Anorexia) ระบบการดูดซึมอาหารบกพร่อง</td> </tr> <tr> <td bgcolor="#0080c0">ระบบการทำงานของหัวใจ หลอดเลือด</td> <td bgcolor="#d5f1ff">หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ(Arrhythmia) โรคหัวใจ Heart Disease หัวใจวาย โรคปวดตามข้อ Rheumatism ข้อต่ออักเสบ Arthritis โลหิตจาง(Anemia) โลหิตเป็นพิษ Blood Toxicity ท้องผูก Constipation แผลเรื้อรังเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร(Gastric Ulcer) แผลเรื้อรังที่ลำไส้เล็กตอนต้น(Duodenal Ulcer)</td> </tr> <tr> <td bgcolor="#0080c0">มะเร็ง</td> <td bgcolor="#d5f1ff">เนื้องอกTumors บวมน้ำ(swelling) ปวดกล้ามเนื้อจากการมีกรดแลกติกสะสม การอักเสบ(Inflammation)</td> </tr> <tr> <td bgcolor="#0080c0">ระบบภูมิคุ้มกัน</td> <td bgcolor="#d5f1ff">ความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน</td> </tr> <tr> <td bgcolor="#0080c0">ระบบการไหลเวียนโลหิต</td> <td bgcolor="#d5f1ff">ชาที่ปลายประสาท อาการตะคริว อ่อนเพลี้ยเรื้อรัง เครียด หดหู่ เป็นกังวล</td></tr></tbody></table>

 

พระอาจารย์รัตน์ งวดนี้อบรมที่ห้องกาหลา ราชภัฎสวนดุสิต 28 - 29 พค.54 ค่ะ