"ในหลวง"ทรงพระประชวร ผิวพระสมองด้านซ้ายขาดเลือด

ขอพระองค์จงทรงพระเจริญ

 

อนุโทนา

 

เรื่องขำๆ ของในหลวง อ่านแล้วเราจะรักท่าน
เรื่องที่จะเล่าให้ฟังอยู่เหตุการณ์หนึ่งซึ่งเป็น เรื่องจริง
เหตุการณ์เกิดที่จังหวัดตาก
เมื่อพระเทพทรงเสด็จไปเยี่ยมราษฏรตามที่
ต่างๆและได้ทรง
เสด็จไปเยี่ยมประชาชนในตลาด
สดและ ถามความเป็นอยู่กับบรรดาแม่ค้า ในตลาดแต่ก็มา
ถึงแม่ค้าปลาซึ่งพระองค์ทรงตรัสถามว่า
"ปลาพวกนี้ขายอย่างไงจ๊ะ"
แม่ค้าตอบว่า "ที่สวรรคตแล้ว กิโล
ละ 40 บาทและที่เสด็จไปเสด็จมากิโลละ 80 บาทจ๊ะ"
เหตุการณ์นี้ ทำให้ข้าราชบริพาลที่ตามเสด็จหัวเราะกัน ทุกคน
เช้าวันหนึ่ง เวลา ประมาณ 7
โมง เช้านาง<?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-comffice:smarttags" /><st1ersonName w:st="on" ProductID="สนอง พระโอษฐ์">สนอง พระโอษฐ์</st1ersonName> ของฟ้าหญิง องค์เล็ก
ได้รับโทรศัพท์เป็นเสียงผู้ชาย ขอพูดสายกับฟ้าหญิง
ทางนางสนองพระโอษฐ์ ก็สอบถามว่าใครจะพูดสายด้วย
ก็มีเสียงตอบกลับมาว่า คนที่แบงค์นางสนองพระโอฐก็ งง...งง
ว่าคนที่แบงค์ทำไมโทรมา แต่เช้า แบงค์ก็ยังไม่เปิด นี่
หว่า แต่ พอฟ้าหญิงรับโทรศัพท์แล้วถึงได้รู้ว่า คนที่ แบงค์ น่ะ
ก็ที่แบงค์จริงๆนะ ไม่เชื่อเปิดกระเป๋าตังค์
แล้วหยิบแบงค์มาดูสิ ... ขนลุกเลย(ทรงตัสกับในหลวงท่านอยู่ นั่น<เอง)
>>> อีกครั้งหนึ่งที่ภาคอีสานเมื่อเสด็จขึ้นไปทรงเยี่ยมบนบ้าน ของราษฎรผู้
หนึ่งที่คณะผู้ตามเสด็จทั้งหลายออกแปลกใจในการกราบ บังคม
ทูลที่คล่องแคล่วและใช้ราชาศัพท์ได้อย่างน่าฉงวน
>> เมื่อ ในหลวงมีพระราชปฏิสันถารถึงการ ใช้ราชาศัพท์ได้ดี
นี้จึงมีคำกราบทูลว่า "ข้าพระพุทธเจ้าเป็นโต้โผ ลิเกเก่าบัดนี้มี
อายุมากจึงเลิกรามาทำนาทำสวนพระ พุทธเจ้า
ข้า.."มาถึงตอนสำคัญที่ทรงพบนกในกรงที่เลี้ยงไว้ที่ ชานเรือนก็ทรงตรัส
ถามว่า เป็นนกอะไรและมีกี่ตัว.>พ่อ ลิเก เก่ากราบบังคมทูล ว่า"มี ทั้ง
หมดสามตัว พระมเหสีมันบิน หนีไปทิ้งพระโอรสไว้สองตัว ตัวหนึ่งที่ยังเล็ก ตรัสอ้อแอ้อยู่เลยและทิ้งให้พระบิดาเลี้ยงดูแต่ผู้เดียว เรื่องนี้ ดร.สุเมธเล่าว่าเป็นที่ต้องสะกดกลั้นหัวเราะกันทั้งคณะไม่ ยกเว้นแม้ในหลวง เมื่อครั้งท่านพระชนม์มายุ 72
พรรษามีการผลิตเหรียญที่ระลึกออกมาหลายรุ่น>เจ้า ของกิจการนาฬิกายี่ห้อหนึ่งได้ยื่น เรื่องขออนุญาตนำพระบรมฉายาลักษณ์ของท่านมาประดับที่หน้าปัดนาฬิกาเป็น รุ่น
พิเศษท่านทราบเรื่องแล้วตรัสกับเจ้าหน้าที่ว่า"ไปบอกเค้านะเราไม่ใช่มิกกี้เมาส์";
เรื่องการใช้ราชาศัพท์กับในหลวงดูจะเป็นเรื่องใหญ่ที่ใครต่อใครเกร็งกันทั้งแผ่น
ดินและไม่เว้นแม้กระทั่งข้า ราชการชั้นผู้ใหญ่ที่ได้เข้า เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายรายงานครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อนมีข้าราชการระดับสูงผู้หนึ่ง
กราบบังคมทูลรายงานว่า "ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อมข้าพระพุทธเจ้าพล ตรีภูมิพลอดุลยเดชขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต
>กราบบังคม ทูลรายงาน ฯลฯ"ข้าพระพุทธเจ้าพลตรีภูมิพลอดุลยเดช ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตกราบบังคมทูลรายงาน ฯลฯ"เมื่อสิ้นคำกราบ บังคมทูลชื่อในหลวงทรงแย้มพระ สรวลอย่างมีพระอารมณ์ดี และไม่ถือสาว่าเออ ดี เราชื่อเดียวกัน..."ข่าวว่าวันนั้น ผู้เข้าเฝ้าต้องซ่อนหัวเราะ ขำขันกันทั้งศาลาดุสิดาลัยเพราะผู้รายงานตื่นเต้นจนจำชื่อตนเอง ไม่ได้มีอยู่ครั้งหนึ่งทรงเสด็จไปพระราชทานปริญญา
บัตรให้กับนักศึกษา ของมหาวิทยาลัยแห่ง หนึ่งในระหว่างที่ทรง เปลี่ยนในครุย ทรงโปรดสูบมวน พระโอสถแต่ว่าทรงหาที่จุดไม่ได้ทางอธิการบดีซึ่งเฝ้าอยู่ก็จุดไฟให้พร้อมทูลว่า>>"ถวายพระเพลิงพระเจ้า ข้า"ในหลวงทรง ชะงัก ก่อนจะแย้มสรวลน้อยๆ กับอธิการบดี ว่า"เรายังไม่ตายถวาย พระเพลิงไม่ได้หรอก"เคยมีเรื่องเล่า ให้ฟัง
ว่าในหลวงเสด็จไปในถิ่นทุรกันดารเเพื่อ เยี่ยมเยียนราษฎรมีอยู่ ครั้ง
หนึ่งพระองค์ท่านทรงแจกพระ เครื่องให้กับราษฎรจนหมด
แล้วแต่ ราษฎรผู้หนึ่งกราบบังคมทูลขอรับพระ ราชทานพระเครื่อง
ว่า"ขอเดชะ ขอพระหนึ่งองค์">ในหลวง ทรงตรัสว่า "ขอเดชะ พระ หมด
แล้ว"วันหนึ่งพระองค์ท่านเสด็จเยี่ยมเยียนพสกนิกรของท่าน ตามปกติที่ต่าง
จังหวัด ก็มีชาวบ้านมาต้อนรับในหลวง มากมายพระองค์ท่านเสด็จ พระราชดำเนินมาตามลาดพระบาทที่ แถวหน้าก็มีหญิงชราแก่คนหนึ่งได้ก้ม ลงกราบแทบพระบาทแล้วก็เอามือของแกมาจับ พระหัตถ์ของในหลวงแล้วก็พูดว่า ยายดีใจเหลือเกินที่ได้ เจอในหลวงแล้วก็พูดว่า ยายอย่าง โน้น ยายอย่างนี้อีกตั้งมากมายแต่ในหลวงก็ทรงเฉยๆมิได้ตรัสรับสั่ง ตอบว่ากระไรแต่พวกข้าราชบริวาน ภารก็มองหน้ากัน
ใหญ่กลัวว่าพระองค์จะ ทรงพอพระราชหฤหัย หรือไม่แต่พอพวกเราได้ยินพระองค์รับสั่งตอบว่ากับหญิงชราคนนั้น>ทำให้ เราถึงกับกลั้นหัวเราะไว้ไม่ไหว เพราะพระองค์ทรงตรัสว่าเรียกว่ายายได้อย่างไร อายุอ่อนกว่าแม่ฉัน ตั้งเยอะต้องเรียกน้าซิถึง จะ
ถูก"ต้องเรียกน้าซิถึง จะถูก"ครั้งหนึ่งหลายๆ ปีมา
แล้วพระเจ้าอยู่หัวทรงประชวรนิดหน่อยเกี่ยวกับพระฉวีมีพระ อาการ
คันมีหมอโรคผิวหนังคณะหนึ่งไปเข้าเฝ้าฯ เพื่อถวาย การ
รักษาคุณหมอเป็นผู้เชี่ยวชาญทางโรคผิวหนังแต่ไม่ได้เชี่ยวชาญ ทางราชา
ศัพท์ก็กราบบังคมทูลว่า "เอ้อ - ทรง...>อ้า-ทรงพระคันมา นานแล้วหรือยังพะยะค่ะ" อ้า- ทรงพระคันมานานแล้วหรือยังพะยะ ค่ะ"พระเจ้าอยู่หัวก็ทรงพระสรวล ตรัส
ว่า >ฉันไม่ใช่ผู้หญิงนี่จะท้องได้ยังไง"แล้วคงจะทรงพระกรุณาว่าหมอคงจะไม่รู้ราชาศัพท์ทางด้านอวัยวะร่างกายจริงๆ>>ก็พระ ราชทานพระบรมราชานุญาตว่า เอ้า พูดภาษาอังกฤษกันเถอะเป็นอันว่าก็กราบบังคมทูลซักพระอาการกันเป็นภาษา อังกฤษ
ไปเรื่องนี้ รุ่นพี่ที่จุฬาฯเล่าให้ฟังว่า> มีอยู่ปีนึงที่ในหลวงทรงเสด็จพระราช ทานปริญญาบัตรอธิการบดีอ่านรายชื่อบัณฑิตแล้ว บังเอิญว่ามีเหตุขัดข้องบางประการ ทำให้อ่านขาด ตอนก็ต้องรีบหาว่าอ่านรายชื่อไปถึง ไหนแล้ว ปรากฏว่าในหลวงท่านทรงจำได้ ท่านเลยตรัสกับอธิการ ไปว่าเมื่อกี้นี้ (ชื่อ....) เค้ารับไปแล้ว" และมีอีกปีนึงขณะที่พระราชทานปริญญาบัตร อยู่
ดีๆไฟดับไปชั่วขณะ...ทำให้บัณฑิตคน หนึ่งพลาดโอกาสครั้งสำคัญในการถ่าย
รูปพอในหลวงทรงพระราชทานปริญญาบัตรเรียบร้อย
แล้วก่อนที่จะให้พระบรมราโชวาทท่าน ทรง
ให้อธิการบดีเรียกบัณฑิตคนนั้นมา รับพระราชทานอีกครั้งเพื่อจะได้มีรูปไว้เป็นที่ระลึกตื้นตันกันถ้วนทั่วทั้งหอประชุมขอจงทรง พระเจริญยิ่งยืน
นาน<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
<o> </o>

 

ขออาราธนาบารมีสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ได้โปรดช่วยดลบันดาลให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของปวงชนชาวไทย หายจากอาการประชวรในเร็ววัน และอยู่เป็นมิ่งขวัญของประชาชนตราบนานเท่านานด้วยเถิด

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า อิงธรรม

 

หายประชวรโดยเร็วนะคับ

 

ท่านสามารถทำได้ดังนี้

1. ถวายธูปเทียนดอกไม้แด่ "พระไภษัชยคุรุพุทธเจ้า" แล้ว
2. อธิษฐานผลบุญถวายแด่ "ในหลวง" ขอให้ทรงมีพลานามัยแข็งแรง

ดังนี้

1. เตรียมดอกไม้ "สีเหลือง" 3 ชนิด คือ ดอกไม้ที่ทนที่สุด ตัดแล้วไม่เหี่ยว
คือ "เบิร์ดออฟพาราไดซ์" สีเหลือง, ดอกไม้จากไม้ยืนต้น เช่น นกยูงสีเหลือง
ดอกไม้ที่ทนต่อแสงตะวัน คือ ดอกทานตะวัน เพื่ออธิษฐานจิตจนเกิดพลัง
(หรือทำบุญด้วยกุศโลบายอื่นๆ ตามแต่ปัญญาพิจารณา)

2. คาถาบูชาพระไภษัชยคุรุพุทธเจ้า

โอม นะโม ภะคะวะเต ไภษัชยะคุรุ ไวฑูรยะ ปราภา
ราชายะ ตะถาคะตายะ อะระหะเต สัมยักสัมพุทธายะ
ตัถยะถา ไภษัชเย ไภษัชเย ไภษัชยะ สัมมุทคะเต สะวะหา

3. คาถาถวายดอกไม้ธูปเทียน

อิมานิ อะหัง ภันเต ทีปะธูปะปุปผะวะรานิ ระตะนัตตะยัสเสวะ
อะภิปูชะยามิ อัมหากัง ระตะนัต ตะยัสสะ บูชา
ฑีฆะรัตตัง หิตะสุขา วะหา โหตุ อาสะวักขะยัปปัตติยา

4. คาถาบูชาอายุ (ยืดอายุ)

อิติปิโส ภะคะวา พระอาทิตย์เทวา วิญญาณสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา พระจันทร์เทวา วิญญาณสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา พระอังคารเทวา วิญญาณสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา พระพุธเทวา วิญญาณสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา พระพฤหัสเทวา วิญญาณสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา พระศุกร์เทวา วิญญาณสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา พระเสาร์เทวา วิญญาณสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา พระราหูเทวา วิญญาณสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา พระเกตุเทวา วิญญาณสัมปันโน

อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง
อิติปิโส ภะคะวา สัมมาสัมพุทธโธ
อิติปิโส ภะคะวา วิชชาจะระณะสัมปันโน
อิติปิโส ภะคะวา สุคะโต
อิติปิโส ภะคะวา โลกะวิทู
อิติปิโส ภะคะวา อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ
อิติปิโส ภะคะวา สัตถา เทวะมะนุสสานัง
อิติปิโส ภะคะวา พุทธโธ
อิติปิโส ภะคะวา ภะคะวาติ

ฑีฆายุโก โหตุ ภูมิพล อะดุลยะเดช มะหาราชา

สาธุ สาธุ สาธุ

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>พระราชินีพระราชทานอาหาร “เจ้าหน้าที่-สื่อมวลชน”</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>18 ตุลาคม 2550 14:26 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานอาหารแก่สื่อมวลชน-เจ้าหน้าที่ที่ถวายงาน ยังความปลาบปลื้มอย่างหาที่สุดมิได้ ท่านผู้หญิงอรนุช เผย สมเด็จฯทรงทดสอบรสชาติอาหารด้วยพระองค์เอง และมีพระราชเสาวนีย์เพิ่มสารอาหารโปรตีนให้เพียงพอกับทุกมื้อ

สำหรับบรรยากาศที่โรงพยาบาลศิริราช ช่วงบ่ายวันนี้ (18 ต.ค.) ยังคงเนืองแน่นไปด้วยผู้คนที่มาร่วมลงนามถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โปรดเกล้าฯ ให้ท่านผู้หญิงอรนุช อิศรางกูร ณ อยุธยา นางสนองพระโอษฐ์ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ นำอาหารพระราชทานจากมามอบให้สื่อมวลชนและข้าราชการ

ท่านผู้หญิงอรนุช กล่าวว่า วันนี้ได้นำอาหารพระราชทานมามอบให้แก่เจ้าหน้าที่ข้าราชการและสื่อมวลชนที่มาถวายงาน ในบริเวณอาคารเฉลิมพระเกียรติ และอาคารศาลาศิริราช 100 ปี โดยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงตรวจสอบรสชาติอาหารที่พระราชทานทุกมื้อด้วยพระองค์เอง พร้อมรับสั่งให้เพิ่มอาหารให้เพียงพอในทุกๆ วัน และมีพระราชเสาวนีย์ ว่า ให้เพิ่มสารอาหารโปรตีนให้เพียงพอในอาหารพระราชทานทุกมื้อ

ทั้งนี้ พระมหากรุณาธิคุณดังกล่าวยังความปลาบปลื้มแก่สื่อมวลชนทุกคนที่ได้รับพระราชทานอาหาร

สำหรับเมนูอาหารพระราชทานจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ประกอบด้วย มื้อเช้า-เป็นข้าวสวย ไก่ต้ม ผักกาดดอกผัดไข่ มื้อกลางวัน-เป็นข้าวสวย ไข่พะโล้ 2 ฟอง น่องไก่ 2 น่อง และขนมจีนแกงเขียวหวานไก่

สำหรับบรรยากาศการลงนามถวายพระพรนั้น เวลาประมาณ 12.10 น.หม่อมหลวงประกิต นรากุล ผอ.กองเรือในพระราชพิธี เดินทางไปลงนามพร้อมทูลเกล้าฯถวายแจกัน

จากนั้นเวลา 12.20 น.ชุมชนบางกอกน้อยได้นำข้าวกล่องจำนวน 500 ชุด มามอบให้สำนักพระราชวัง เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชน

ต่อมา เวลา 12.30 น.ชมรมรักษ์พระบรมธาตุแห่งประเทศไทย นำบทสวดโพชฌงคปริตร ซึ่งเป็นบทสวดที่มีพุทธคุณช่วยในเรื่องอาการเจ็บป่วย จำนวน 2 หมื่นแผ่น มาแจกจ่ายให้ประชาชนเพื่อให้สวดถวายพระเจ้าอยู่หัว

13.00 น.นายสุรินทร์ โตทับเที่ยง ประธานกรรมการบริษัท อาหารกว้างไพศาล เดินทางมาลงนามถวายพระพร พร้อมกับนำโจ๊กฮ่องกงหอยลายเห็ดหอม 8,000 ชุด และอาหารสำเร็จรูป 8,000 ชุด มอบให้พระราชวังและแจกจ่ายให้ประชาชน

13.10 น.ศ.นพ.ประดิษฐ์ เจริญชัยทวี ประธานมูลนิธิเพื่อการพัฒนาและสันติ ซึ่งเป็นแพทย์ผู้เคยถวายการรักษาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ได้เดินทางมาลงนามถวายพระพรด้วย

13.30 น.ท้าวดักแด้ หรือ นายบัญชา คำทอง กองเชียร์นักกีฬาทีมชาติไทย เดินทางมาลงนามถวายพระพร พร้อมทั้งกล่าวว่า ตั้งใจจะมาหลายวันแล้ว แต่พ่อของตนเองก็เข้า รพ.ที่ต่างจังหวัด ทันทีที่พ่อหายออกจาก รพ.ได้ ก็รีบกลับมากรุงเทพฯเพื่อมาลงนามถวายพระพรทันที

เวลา 14.15 น. นายเผือด หอมชื่น อายุ 45 ปี ชาว อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา เดินทางร่วมลงนามถวายพระพร พร้อมทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย กรอบรูปขนาดใหญ่ บรรจุพระเครื่องและวัตุมงคล ที่ได้รับจากพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง จากวัดสำคัญใน จ.พระนครศรีอยุธยา จำนวน 60 องค์ จาก 60 วัด อาทิ หลวงพ่อพระมงคลบพิตร หลวงพ่อโต วัดพนัญเชิง หลวงพ่อยิ้ม วัดท่าการ้อง โดย ลุงเผือด เปิดเผยว่า เป็นพระที่ตนเองได้สะสมไว้เป็นเวลา 2 ปีแล้ว ส่วนจำนวนพระที่นำขึ้นทูลเกล้าฯถวาย 60 องค์นั้น เพื่อให้สอดคล้องกับปีที่ทรงครองสิริราชสมบัติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยขอถวายพระพรขออำนาจพระพุทธคุณ อำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ปกปักรักษาให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว

เวลา 14.35 น. นายวุฒิชัย วัชรีรัตน์ รองเลขาธิการวุฒิสภา นำสามเณรจากวัดยานนาวาที่บวชในโครงการบรรพชาสามเณร 84,000 รูป จากทั่วประเทศ จำนวน 111 รูป เดินทางมาสวดมนต์อิติปิโส พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสังฆคุณ รวมทั้งนั่งสมาธิ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ซึ่งระหว่างสวดมนต์นั่งสมาธิได้มีประชาชนสนใจและปฏิบัติตาม

นอกจากนี้ยังมีนักบวชศาสนาพราหมณ์ จากฮินดูธรรมะสภาวัดวิษนุ จำนวน 5 รูป เดินทางมาลงนามถวายพระพรด้วย

นายปรีชา ลาภคล้อย ประธานบริษัทไทย-ด๊อยช์ เอนจิเนียริ่ง ได้นำเสื้อสีเหลืองและเสื้อสีฟ้าที่ได้ขอพระราชทานตราสัญลักษณ์ครองศิริราชสมบัติครบ 60 ปี และตราสัญลักษณ์ฉลอง 80 พรรษา จำนวน 1,100 ตัว และพระบรมฉายาลักษณ์ชุดครองศิริราชสมบัติครบ 60 ปี จำนวน 1,500 แผ่น มามอบให้ทางสำนักพระราชวังเพื่อขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย และขอพระบรมราชานุญาตแจกจ่ายให้กับประชาชนต่อไป

บรรยากาศใต้โถงศาลา 100 ปีขณะนี้มีประชาชนเฝ้าติดตามพระอาการเป็นจำนวนมาก แทบไม่มีที่ยืน เนื่องจากมีประชนให้ความสนใจต่อคิวรับพระบรมฉายาลักษณ์ที่มีหน่วยงานและผู้ที่นำมามอบดังกล่าวข้างต้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าแม้บรรยากาศด้านนอกจะมีแดดที่ร้อนมาก แต่ลานพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศรอดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ก็ยังคงมีประชาชนที่เนืองแน่น และต่างเฝ้ามองที่ชั้น 16 ตึกเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งเป็นตึกที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประทับอยู่

15.00น. คณะพระสงฆ์จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย เดินทางมาเจริญพระพุทธมนต์ภายในศาลา 100 ปี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้งนี้ประชาชนที่อยู่บริเวณโดยรอบก็ได้ร่วมสวดมนต์เพื่อถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วย

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ทูตฮังการียกย่องในหลวงพระมหากษัตริย์นักพัฒนา-30 ศิลปินร้องเพลงพ่อของแผ่นดินก้องศิริราช</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>18 ตุลาคม 2550 16:55 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> เอกอัครราชทูตฮังการียกย่องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นพระมหากษัตริย์นักพัฒนาผู้ยิ่งใหญ่ ที่ทรงมีโครงการตามพระราชดำริ เพื่อยกระดับชีวิตคนไทยอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ด้าน 30 ศิลปินร่วมขับร้องเพลงพ่อของแผ่นดินดังก้อง รพ.ศิริราช

ในช่วงบ่ายยังคงมีบุคคลสำคัญที่มาลงนามถวายพระพรอย่างต่อเนื่อง
ฯพณฯ อนดราช บาร็อด เอกอัครทูตฮังการีแห่งประเทศไทย กล่าวภายหลังร่วมลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า ทันทีที่ทราบข่าวพระอาการประชวรในฐานะตัวแทนของประธานาธิบดีฮังการี คณะรัฐบาล ผู้บริหาร ตลอดจน ประชาชนชาวฮังกาเรียนทุกคน ได้มีความห่วงใยในพระอาการประชวรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

"พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นพระมหากษัทริย์ที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ เพื่อการพัฒนาอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมอย่างแท้จริง ขอให้พระองค์ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว"

อย่างไรก็ตามเวลา 16.00 น.บรรดานักแต่งเพลงและศิลปินนักร้องกว่า 30 ชีวิต อาทิ นายวิรัช อยู่ถาวร,นายวินัย พันธุรักษ์,นายวสุ แสงสิงห์แก้ว,นายเศรษฐา ศิระฉายา ,นางรวงทอง ทองลั่นทม, นส.จินตหรา สุขพัฒน์ ได้ร่วมขับร้องเพลงพ่อของแผ่นดิน บริเวณขั้นบันไดศาลา 100 ปี รพ.ศิริรราช

เนื้อเพลงพ่อของแผ่นดิน

(หญิง) อัครศิลปิน กรองศาสตร์ กรองศิลป์ การดนตรี
ร้อยกรอง บทกวี ซึ้งกมล
ตราบฟากฟ้า ครึ้มฝน ต้นไม้ทุกต้น พลอยยินดี
รู้รักสามัคคีเพื่อพ่อแห่งไทย

(ชาย) เหล่าประชา คารวะ สดุดี
แผ่นดินนี้ มีสุข ด้วยองค์ พระทรงชัย
บรรดาชาติชน ชื่นชม สมใจ
ถวายบังคม เทิดไท้ ภูมิพลมหาราชา

(หญิง) ภักดีถวาย ดวงใจ ของไทยทั้งชาติ
มหาราช ปราดเปรื่อง เรื่องของกีฬา

(ชาย) ล้ำเลิศสื่อสาร พลังงานแทนแก้ปัญหา
ฝนหลวง ฟ้าห่วงชาวนา
ชาติไทย นับว่าโชคดี

(ชาย - หญิง) ทรงนำเศรษฐกิจพอเพียง หล่อเลี้ยงชีวา
เป็นปรัชญา เกริกฟ้า ก้องปฐพี
ไทยทั้งผอง ภูมิใจ ไทยเป็นไทยจนวันนี้
เพราะองค์ภูมิพลที่ คุ้มครองไทย
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ในหลวงพระสมองไม่ขาดเลือด ไม่สูญเสียเนื้อสมอง ไม่พบหลอดพระโลหิตตีบหรืออุดตัน
http://www.manager.co.th/QOL/ViewNew...=9500000125291
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>22 ตุลาคม 2550 18:05 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=200 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=200> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อเวลา 17.55 น.วันนี้ (22 ต.ค.) สำนักพระราชวัง ได้ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 10 ความว่า

วันนี้ คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้รายงานผลการตรวจพระสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ว่า พระสมองไม่มีการขาดเลือด ไม่มีการสูญเสียเนื้อสมอง ไม่พบหลอดพระโลหิตตีบ หรืออุดตัน แสดงว่า พระโลหิตเลี้ยงพระสมองไม่เพียงพอเป็นภาวะชั่วคราว

สำหรับผลการตรวจพระนาภี (ท้อง) ด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ พบว่า พระอันตะ (ลำไส้ใหญ่) มีเนื้อเยื่อเป็นติ่งถุง (Diverticulum) อักเสบนั้น การอักเสบเหลือน้อยมากจนเกือบเป็นปกติ พระอาการทั่วไปดี จึงขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน

สำนักพระราชวัง
22 ตุลาคม พุทธศักราช 2550
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>สมเด็จพระบรมฯ-พระองค์หญิง-พระองค์ภา เสด็จฯเฝ้าในหลวง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>22 ตุลาคม 2550 17:01 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1></TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1></TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1></TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif></TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1></TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1></TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯพร้อมด้วยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่รพ.ศิริราช ด้านเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐตุรกีประจำประเทศไทยร่วมลงนามถวาย ขอพระองค์หายจากอาการพระประชวรในเร็ววัน

เมื่อเวลา 14.30 น.สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ณ อาคารเจ้าฟ้าสิรินธร จากนั้นเวลา 15.30 น.สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนิน พร้อมด้วยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เสด็จพระราชดำเนินเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยตลอดทางเสด็จฯ สมเด็จพระบรมฯ ทรงแย้มพระสรวลพระราชทานแก่ประชาชนที่มารอเข้าเฝ้าฯ ชมพระบารมี ส่วนพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา นั้นได้โบกพระหัตถ์และแย้มพระสรวลพระราชทานแก่ประชาชน สำหรับพระเจ้าหลานเธอฯ ก็ได้แย้มพระสรวลพระราชทานแก่ประชาชน ยังความปลาบปลื้มหาที่สุดมิได้แก่พสกนิกรชาวไทยที่มาเฝ้ารอรับเสด็จฯ เป็นล้นพ้น

จากนั้นในเวลา 17.10 น.สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินกลับ โดยระหว่างเสด็จฯ ได้ทรงโบกพระหัตถ์เบื้องซ้ายทักท้ายประชาชนที่เฝ้ารอรับเสด็จฯด้วย ซึ่งในระหว่างที่พระวรชายาเสด็จกลับ ได้มีพระปฏิสันถารกับนางสรภัค ประทีปแจ่มจรัส อายุ 36 ปี มารดาของด.ช.เก่งกาจ อายุ 6 ขวบ หรือ "น้องเก่ง" ซึ่งน้องเก่งมีความพิการทางการเคลื่อนไหว เนื่องจากขาดอากาศหายใจตอนคลอดในนางสรภัคเปิดเผยภายหลังการเสด็จพระราชดำเนินกลับว่า

"เคยเข้าเฝ้าพระวรชายามาแล้ว และมาครั้งนี้ได้เจอพระองค์ท่านอีกครั้ง ท่านได้ทรงสอบถามถึงอาการป่วยของน้องเก่งว่าเป็นอย่างไรบ้าง ก็ได้กราบทูลว่าสบายดี"

นางสรภัคกล่าวต่ออีกว่า ได้ทูลถามพระวรชายาถึงพระอาการในหลวง พระวรชายาก็รับสั่งว่า "พระองค์ท่านสบายดี" อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้พระวรชายาได้ทรงรับน้องเก่งเป็นคนไข้ในพระราชานุเคราะห์อีกด้วย
ด้าน ฯพณฯ มิสเตอร์ชีนาร์ อัลเดมีร์ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐตุรกีประจำประเทศไทย เดินทางมาลงนามถวายพระพรพร้อมทูลเกล้าฯ ถวายพานดอกไม้สด และเปิดเผยว่า ในนามรัฐบาลตุรกีและประชาชนชาวตุรกี ขอส่งความรู้สึกปรารถนาดี และถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หายจากพระอาการประชวรในเร็ววัน กลับมาบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ประชาชนชาวไทย เพราะที่ผ่านมาพระองค์ทรงทำทุกอย่างเพื่อให้ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข

และเมื่อเวลา 17.40 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี โปรดเกล้าฯ ให้เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง นำขนมปังจำนวน 5 ลัง มาพระราชทานให้แก่ประชาชนที่เฝ้าติดตามข่าวพระอาการประชวรบริเวณใต้โถงอาคารเฉลิมพระเกียรติ

นอกจากนี้ ยังมีประชาชนทั่วไป นำของมาทูลเกล้าฯ ถวาย อาทิ นางภัทรา ศิลาอ่อน กรรมการผู้จัดการ บ.เอสแอนด์พี ซินดิเคทพับบลิก จำกัด ได้นำเค้กถวายพระพรขนาดใหญ่ ตกแต่งด้วยครีมสีเหลือง มีข้อความ “ทรงพระเจริญ” มาทูลเกล้าฯ ถวาย, นางมะยม ขจรกุลเดช ได้นำน้ำผึ้งหลวงแท้จากจังหวัดอุดรธานี มาทูลเกล้าฯ ถวาย,นางสาววิไลลักษณ์ สิทธิวิบูลย์วัฒน์ นำนมกล่องจิตรลดา จำนวน 2 แพก พร้อมการ์ดถวายพระพร ทูลเกล้าฯ ถวาย พร้อมทั้งเปิดเผยว่า เดินทางมาศาลาศิริราช 100 ปี ทุกวัน เพื่อนำสิ่งของ อาทิ นมตราหมี และขนมที่ทำเอง มาทูลเกล้าฯ ถวายในหลวง และได้นำพระบรมฉายาลักษณ์ที่หาชมได้ยากมาทูลเกล้าฯ ถวายด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นางพรเพ็ญ เกยานนท์ ภริยา พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้นำคณะภริยาทหารเรือเดินทางมาลงนามถวายพระพรพร้อมทูลเกล้าฯ ถวายพานดอกไม้สด
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

วันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 30 ฉบับที่ 10818​

ผลตรวจพระสมอง"ในหลวง" ไม่มีสูญเสีย กรมวังประสานวันเสด็จกลับ

กำหนดจุดสื่อถ่ายภาพ พระราชา"จิกมี"ถวายพร



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#f8b8cb><TD>
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม

</TD></TR></TBODY></TABLE>คณะแพทย์รายงานผลตรวจพระสมอง"ในหลวง" ไม่พบหลอดพระโลหิตตีบ ไม่มีการสูญเสียเนื้อสมอง อาการอักเสบของพระอันตะเหลือน้อยมากจนเกือบปกติ

เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ที่โรงพยาบาลศิริราช ประชาชนยังคงพร้อมใจกันเดินทางมาเฝ้าติดตามพระอาการพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กันอย่างเนืองแน่น

สมเด็จพระบรมฯเสด็จศิริราช

ทั้งนี้ เวลา 15.30 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา มายังอาคารเฉลิมพระเกียรติ เพื่อเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่ามกลางประชาชนที่มาเฝ้าฯรับเสด็จ พร้อมทั้งกล่าวคำว่า ทรงพระเจริญ ตลอดเส้นทางการเสด็จฯ ทั้งสามพระองค์แย้มพระสรวลกับประชาชนด้วยพระพักตร์แจ่มใส

เวลา 17.10 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินกลับ พร้อมด้วยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ระหว่างที่ทั้งสามพระองค์เสด็จฯกลับ ประชาชนได้ทูลถามถึงพระอาการประชวรของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ตรัสว่า "พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ทรงไม่เป็นไร สบายดีแล้ว และใกล้จะเสด็จกลับวังศุโขทัยแล้ว"

พระเทพฯพระราชทานขนมปัง

เวลา 17.45 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานขนมปังกรอบจำนวน 7 ลัง โดยให้เจ้าหน้าที่นำมาแจกจ่ายแก่ประชาชนที่เดินทางมาเฝ้าติดตามพระอาการ ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่เมื่อได้รับแจกขนมปังพระราชทานแล้ว ต่างยกขนมปังขึ้นเหนือหัวก่อนที่จะรับประทาน

ก่อนหน้านี้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ โปรดให้ผู้แทนพระองค์เชิญแจกันดอกไม้ ทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

แพทย์ระบุพระสมองไม่ขาดเลือด

เมื่อเวลา 18.00 น. สำนักพระราชวัง ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 10 ความว่า "วันนี้ คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้รายงานผลการตรวจพระสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าว่า พระสมองไม่มีการขาดเลือด ไม่มีการสูญเสียเนื้อสมอง ไม่พบหลอดพระโลหิตตีบหรืออุดตัน แสดงว่า พระโลหิตเลี้ยงพระสมองไม่เพียงพอเป็นภาวะชั่วคราว

สำหรับผลการตรวจพระนาภี (ท้อง) ด้วยเครื่องเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ พบว่า พระอันตะ (ลำไส้ใหญ่) มีเนื้อเยื่อเป็นติ่งถุง (Diverticulum) อักเสบนั้น การอักเสบเหลือน้อยมากจนเกือบเป็นปกติ พระอาการทั่วไปดี

ผู้นำ3ปท.ส่งสาส์นถวายพระพร

ด้านนายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า มีพระราชสาสาส

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์" เสด็จฯ เยี่ยมพระอาการประชวรในหลวง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>23 ตุลาคม 2550 12:44 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> <CENTER></CENTER>

วันนี้(23 ต.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จฯ ยังชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช เพื่อเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และทรงติดตามพระอาการประชวร โดยมีประชาชนเฝ้ารอรับเสด็จจำนวนมาก

ขณะที่บรรยากาศโดยรอบศาลาศิริราช 100 ปี มีประชาชนจากทั่วสารทิศหลั่งไหลมาร่วมลงนามถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางสำนักพระราชวัง ก็ได้นำพระบรมฉายาลักษณ์จัดพิมพ์พิเศษฉลองพระองค์สูทสีเทา ด้านหลังพระบรมฉายาลักษณ์จัดพิมพ์บทเพลงพ่อของแผ่นดิน ซึ่งประพันธ์ขึ้นในวโรกาสเฉลิมฉลองพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา แจกให้กับประชาชนที่เดินทางมาลงนามด้วย
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ตำรวจเพิ่มกำลังรอบ รพ.ศิริราช ปรามมิจฉาชีพ-พร้อมส่งเสด็จกลับ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>23 ตุลาคม 2550 11:24 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> เจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มกำลังรักษาความปลอดภัยภายใน รพ.ศิริราชเพิ่มขึ้น เตือนมิจฉาชีพคิดให้ดีก่อนลงมือ เพราะมีตำรวจปะปนอยู่กับประชาชนเต็มโรงพยาบาล “พงศพัศ” เผยตำรวจเตรียมพร้อมส่งเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้ว

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการลงนามถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ รพ.ศิริราช ว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าทั้งบริเวณอาคารเฉลิมพระเกียรติ ศาลาศิริราช 100 ปี และบริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระบรมราชชนก เนืองแน่นไปด้วยประชาชนจำนวนมาก โดยเวลาประมาณ 10.10 น.พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วยผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมาตรวจดูความเรียบร้อยที่ รพ.ศิริราช ในช่วงเวลาที่มีการผลัดเปลี่ยนเวรเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาดูแลความปลอดภัยให้ระชาชน

พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า ในวันนี้จะมีการปรับเปลี่ยนกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจใหม่ทั้งหมด เพื่อดูแลความปลอดภัยให้ประชาชนและความเรียบร้อยภายในโรงพยาบาลฯ โดยจะมีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมากขึ้นจากเดิมประจำอยู่ 260-270 นาย เป็น 500 นาย โดยปะปนอยู่กับประชาชนที่มาร่วมลงนามถวายพระพร ทั้งในจุดที่มีการรับอาหารซึ่งจะมีประชาชนไปต่อแถวจำนวนมาก เนื่องจากที่ผ่านมาได้จับผู้ต้องสงสัยได้ 5-6 ราย ในที่ส่วนที่ไม่มีหลักฐานก็จะส่งกลับภูมิลำเนา ส่วนที่มีหลักฐานก็จะต้องขยายผลเพื่อดำเนินการตามกฎมายต่อไป

“สำหรับพฤติกรรมของคนกลุ่มนี้จะสวมเสื้อสีเหลือง เมื่อมีการแจกของก็จะเข้าแถวรับแจกของด้วย ก็ขอเตือนว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบสังเกตการณ์อยู่ในโรงพยาบาลจำนวนมาก จะทำอะไรก็ขอให้คิดให้ดี เพราะอาจจะเจอกับตำรวจได้”

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวอีกว่า ในส่วนการเตรียมความพร้อมเพื่อส่งเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกลับจากโรงพยาบาลฯ ขณะนี้ได้ประสานงานกับสำนักพระราชวังแล้ว ส่วนของตำรวจมีความพร้อมในการวางกำลังเจ้าหน้าที่ในจุดที่จะมีการส่งเสด็จทุกจุดเพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไม่ดี หรือประชาชนกลับบ้านไปอย่างเสียความรู้สึก

นพ.ปิยสกล สกลสัตยาทร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า คิดว่าทุกคนที่เดินทางมาถวายพระพรที่ศิริราช มีความจงรักภักดี เป็นการทำความดีต่อพระมหากษัตริย์ แต่หากใครคิดไม่ดีก็ไม่ควรจะมา รพ.ศิริราช เราต้องการทำเรื่องดีๆ ถวายพระองค์ และขอร้องว่าอย่ากระทำสิ่งที่ไม่ดี เพราะขณะนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจตรึงกำลังทั้งโรงพยาบาลแล้ว

ส่วนกลุ่มบุคคลและบุคคลสำคัญที่เดินทางมาร่วมลงนามถวายพระพรตั้งแต่ช่วงเช้า อาทิ นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช คณะอาจารย์สถาบันพระปกเกล้า คณะอาจารย์โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน มิสทีนไทยแลนด์ “หญิง พลอยปภัส ธนันต์ชัยกานต์” ซึ่งเดินทางมาเนื่องในวันปิยมหาราชและมาร่วมลงนามถวายพระพร ซึ่งวันนี้ยังมีการนำพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาแจกให้กับประชาชนด้วย

ทั้งนี้ ในเวลา 10.00 น. นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช นายกสมาคมเสริมสร้างครอบครัวอบอุ่นเป็นสุขและคณะ เดินทางมาร่วมลงนามถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยนางระเบียบรัตน์ กล่าวว่า เป็นครั้งที่ 2 แล้วที่ได้เดินทางมาลงนามถวายพระพรแด่ในหลวง ซึ่งขอให้พระองค์อยู่ดีมีสุข มีพลานามัยแข็งแรง เป็นมิ่งขวัญของประชาชนชาวไทยยิ่งยืนนาน และขอฝากให้เยาวชนที่เดินทางมาลงนามถวายพระพรแต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย โดยเฉพาะดารานักแสดงที่เป็นบุคคลสาธารณะควรทำคนเป็นแบบอย่างที่ดี ตระหนักถึงเรื่องของการแต่งกายที่เรียบร้อยมากกว่าคนธรรมดา ซึ่งก็ขอแนะนำให้ใส่เสื้อสีเหลืองมาเพื่อความเหมาะสม

เวลาเดียวกัน น.ส.นาตยา เชษฐโชติรส นายกสมาคมนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ตัวแทนสมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย จาก 12 สมาคม เช่น สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ สมาคมนักข่าว นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เดินทางมาร่วมลงนามถวายพระพรพร้อมกับนำแจกันดอกไม้ทูลเกล้าฯ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีท่านผู้หญิงเพ็ญศรี วัชโรทัย นางสนองพระโอษฐ์ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เป็นผู้รับมอบ

น.ส.นาตยา กล่าวว่า ในวันที่ 17 พ.ย.นี้ จะมีการจัดงานเฉลิมพระเกียรติครบรอบ 80 พรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อรวมใจสื่อมวลชนจากทั่วประเทศร่วมลงนามถวายพระพรที่สมาคมนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ซึ่งที่ผ่านมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นนักนวัตกรรม นักสื่อสารมวลชน ที่เป็นแบบอย่าง ทั้งในเรื่องของการถ่ายภาพ เป็นผู้จัดตั้งวิทยุอาสาสมัคร ทำคุณประโยชน์ให้กับงานสื่อสารมวลชนเป็นอย่างมาก

จากนั้นในเวลา 10.30 น. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินยังอาคารเฉลิมพระเกียรติ เพื่อเข้าเฝ้าละอองธุลีพระบาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และติดตามพระอาการประชวรที่ชั้น 16

สำหรับในวันนี้ยังคงมีผู้นำอาหารและเครื่องดื่มมาแจกจ่ายให้แก่ประชาชน เช่นมูลนิธิท่านหญิงจันทร จรัสศรียุคล ได้นำขนมโมจิจำนวน 3000 กล่อง มาแจกจ่ายให้ประชาชน เช่น กระทรวงพานิชย์ กรมการค้าภายใน นำอาหารกล่อง พร้อมเครื่องดื่มจำนวน 2000 ชุด มาแจกจ่ายให้ประชาชนที่มาลงนามถวายพระพร ชมรมไทยปาทาน และมูลนิธิเพื่อศุนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทยร่วมลงนามถวายพระพรและนำอาหารกล่องมาแจกจ่ายประชาชนที่มาร่วมลงนามถวายพระพร จำนวน 1000 กล่อง ประชาชนทั่วไปที่นำอาหารมาและเครื่องดื่มมาแจกจ่ายเช่น ผัดไทย แซนด์วิส ข้าวต้มทรงเครื่อง เป็นต้น

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>