ไม่เคยฝึกมโนมยิทธิ แต่สิ่งที่ตัวเองสื่อได้ คล้ายๆจะมาทางด้านนี้

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย Me, myself, 3 มีนาคม 2009.

  1. waterydis

    waterydis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    318
    ค่าพลัง:
    +1,995
    อ่านของคุณพี่ Me แล้วสมเพสตัวเองที่เคยตัดพ้อต่อว่าโชคชะตา ว่าชีวิตตัวเองลำบากอย่างนั้นอย่างนี้ เทียบกับพี่แล้วเราลำบากนิดเดียวเอง
     
  2. Chanseenak

    Chanseenak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    271
    ค่าพลัง:
    +506
    กราบขออนุโทนาบุญ กับคุณพี่สาวครับ
    และขอกราบอนุโมทนาบุญ กับคุณโมขทรัพย์ ท่านก้าวหน้าไปเร็วมากครับ


    อยากถามเทคนิคการจับภาพพระหน่อยครับ แบบว่าหลับตาแล้วเห็นภาำพพระ หรือว่าใช้นึกเอาครับ ทำอย่างไรให้จับภาพพระได้ดีครับ

    คือผมยังมืดรอบด้านครับ


     
  3. โมกขทรัพย์

    โมกขทรัพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    474
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,849
    อ๊าก!! พิมพ์ไป สองหน้าแล้ว ดันกดผิด ลบหมดเลย แย่ๆ ไว้พรุ่งนี้จะพิมพ์ใหม่ดีกว่าคร๊าบ
     
  4. โมกขทรัพย์

    โมกขทรัพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    474
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,849
    อนุโมทนาครับ

    การจับภาพพระ อันนี้ผมก็ไม่ค่อยจะคล่องเท่าไรครับ เพราะยังเป็นผู้ฝึกใหม่อยู่ จะอธิบายเท่าที่รู้จากประสบการณ์ละกันครับ ผิดถูกอย่างไรโปรดชี้แนะด้วยนะครับ การฝึกจำภาพพระนั้น ให้กำหนดภาพพระที่เราชอบมาภาพหนึ่งเพราะเราจะจดจำง่ายดี

    เริ่มจาก ลืมตาดูภาพพระแล้วก็จำไว้ในใจว่าท่านมีลักษณะอย่างไร พอจะลืมก็ มาดูใหม่ แต่พยายามให้ทรงภาพนั้นไว้ให้นานที่สุด หาก มีภาพอื่นที่ไม่ใช่ภาพนั้นเกิดขึ้น ไม่ต้องสนใจครับ นึกเฉพาะภาพพระนั้นอย่างเดียว หากมันขึ้นแต่ภาพอื่นที่ไม่ใช่ภาพพระนั้นตลอดเวลา ก็ให้ลืมตาครับ ไปดูภาพพระใหม่ กำหนดไว้ในใจ ทำใจสบายๆ ไม่ต้องไปเพ่งมากจนถึงกับแสบตาล่ะครับ ทำให้ได้ทั้งหลับตาและลืมตา พอทำไปเืรื่อยๆ ภาพพระจะแจ่มใสขึ้น ย่อให้เล็กให้ใหญ่ ขยาย ไปหน้า ไปหลัง ไ้ว้บนหัว ไว้ในอก หรือที่ใดก็ได้ตามแต่ใจเรานึกจะให้ไป พยายามรักษาอารมณ์นั้นไว้ตลอดวัน พอทำจนคล่องแล้ว อยากเห็นตอนไหนก็เห็นได้ตลอด

    ทำให้เคยชิน ทำบ่อยๆ จนภาพพระนั้นเปลี่ยนสี สุดท้ายแล้ว ก็จะเป็นสีประกายพรึก สว่างไสว แพรวพราวระยิบระยับเองละครับ อีกอย่างครับ คนที่ทำกสิณพระส่วนมากแล้วจะฝึกมโนฯนั้นค่อนข้างจะไปได้เร็วครับ นึกถึงพระท่าน ท่านก็จะมา ขอบารมีท่านยกจิตไปกราบท่านนิพพานเลยครับ สุข สว่าง สงบ สบาย โอ๊ยบรรยายไม่ถูก ต้องทำครับถึงจะรู้

    แรกๆจะยากหน่อย แต่ขอบอกว่าไม่มีอะไรเกินความสามารถเรา ถ้าเราตั้งใจจริง ใช้อิทธิบาท๔ เยอะๆ ครับ อย่าท้อถอยล่ะ เพราะไอ้ที่้้ท้อนี่ล่ะ เราเริ่มจะใกล้สำเร็จแล้วให้คิดแบบนี้ เพราะมารเขาจะมาเรื่อยล่ะ ทำให้เราท้อบ้าง มีอุปสรรค์เยอะแยะมากมายบ้าง แต่ไม่ต้องกลัวครับ มารเขาไม่่ชอบคนตื้อ ยิ่งคุณตื้อเก่งเท่าไร เดี๋ยวเขาก็จะเลิกราไปเอง แต่ยังก่อนครับ เขาไปชั่วคราวเท่านั้น เดี๋ยวก็แวะมาอีก เขาจะมาเรื่อยๆล่ะ ไม่ต้องห่วง เขามีบททดสอบเราเยอะมาก ส่วนมากจะมาในรูป ราคะ โลภะ โทสะ และโมหะ

    พยายามทรงอารมณ์ที่จับภาพพระไว้ตลอดนะครับ หรือสลับกับดูลมหายใจก็ได้ ได้กรรมฐานหลายกองดี โดยเฉพาะ อานาปานสติ ซึ่งเป็นกรรมฐานใหญ่ ไม่ควรทิ้ง หรือจะทรงทั้งสองอารมณ์ยิ่งดีครับ ปกติผมก็ใช้กสิณพระ บวก อานาปานสติและ คำภาวนาครับ ในเวลาทีทำงานก็แบ่งอารมณ์ ไว้ซัก ๒๐เปอร์เซ็นต์ อย่างน้อย เราก็ทรงฌานไว้เกือบตลอดวันล่ะ พอทำไปเรื่อยๆ ก็จะชินเองครับ แรกๆเหนื่อยหน่อย มันจะคอยวิ่งไปนู่นไปนี่ตลอด ก็จิตเรามันเคยเป็นแบบนี้ซะที่ไหน เราตามใจมัันซะเคยตัว พอเราจะมาตีกรอบให้มันอยู่นิ่งๆ มันก็ยากอยู่

    ลองดูครับ เรื่องแบบนี้เป็นปัจจัตตัง ใครทำใครรู้ อนุโมทนาครับ

    ล.พี่สาวถ้าจะกรุณาตอบแนวทางการจับภาพพระเพื่อเป็นวิทยาทานสำหรับคนฝึกใหม่ๆเช่นผม หรือคนอื่นๆ ก็จะขอบพระคุณมากครับ เนื่องจากผมอาจจะอธิบายผิด หรือว่่าผมอาจจะทำผิดก็ได้ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 เมษายน 2012
  5. วิณวิญ

    วิณวิญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +2,089
    ขอเชิญพี่ๆน้องๆทุกๆท่านและชาวภูเก็ตร่วมกันน้อมใจถวายองค์พระ สมเด็จพระพุทธรัตนศรีอริยมิ่งมงคลทศพลอุดมเมตตาบารมี พร้อมกันใน วันจันทร์ที่ ๙ เมษายน ~ เวลา. ๙โมงเช้า ~ ณ. หมู่บ้านคนเล ชายหาดราไวย์ จ.ภูเก็ต

    นำถวายมหาสังฆทานในครั้งนี้:-
    - พระสมเด็จองค์ปฐมทรงเครื่องจักรพรรดิ์ หน้าตัก ๒๖นิ้ว
    - ผอบพระบรมสารีริกธาตุนาคนฤมิตร โดยพระมหาอาวรณ์ ภูริปญโณ วัดปันเสา จ.เชียงใหม่
    - เครื่องสังฆทานและสังฆทานยา พร้อมผ้าไตรจีวร
    - ภัตตาหารเพล
    - หนังสือธรรมะ
    - ปัจจัยไทยทาน


    ปล.๑ ~ การเดินทางไปวัดเกาะแก้วโดยเรือหางยาว กรุณาแต่งกายปลอดภัยและรัดกุม
    ปล.๒ ~ แนะนำให้เตรียมแผ่นทองคำเปลว เพื่อสำหรับนมัสการรอยพระพุทธบาทนัมทานที ประดิษฐานณ.โขดหินบนเกาะแก้ว
    ปล.๓ ~ พรุ่งนี้เช้า ๖ เมษา เอจะออกเดินทางไปเกาะภูเก็ต อาจจะไม่ได้เข้าเว็ปทั้งวัน กรุณาโทรติดต่อทางมือถือได้เลยนะคะ 089-291 3684

    ขอโมทนาบุญเป็นอย่างสูงกับทุกท่านที่ร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพและที่เข้ามาโมทนาบุญในกระทู้นี้ด้วยค่ะ [​IMG]
     
  6. โมกขทรัพย์

    โมกขทรัพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    474
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,849
    อนุโมทนากับพี่สาวด้วยครับ ที่เข้าใจได้ทุกข์ได้แจ่มแจ้ง จนสามารถปล่อยวางได้ ผมซะอีกที่โดน กิเลสมันเล่นงานซะงอมพระรามเลย เดี๋ยวมาเล่าให้ฟังครับ

    พี่สาวผมเก่งจริงๆ ผมคิดไว้ไม่ผิด และผมคิดว่าผมคิดไม่ผิดว่าพี่สาวผมต้องไม่ธรรมดา

    ว่าจะลองกราบถามสมเด็จท่านฯ แต่เกรงว่ามันไม่เหมาะ เอาเป็นว่าละไว้ในฐานที่เข้าใจละกันเนอะ ^^

     
  7. โมกขทรัพย์

    โมกขทรัพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    474
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,849
    เล่ามาซะเห็นภาพเลยครับ เป็นฉากๆเลย กำลังพี่สาวดีเยี่ยมเลยครับ พรหมวิหาร๔ ทรงอารมณ์ได้แน่นมากครับ ผมหลุดตลอด บางทีพระท่านต้องมาเตือน
    วันนี้จิตตกมาก เพราะว่า ดันทำมือถือ(ไอโฟนสี่) ที่ไปเคลมมาใหม่ๆ ร่วงแล้วจอแตก ซึ่งมัน

    เคยเสียความรู้สึกที่ไปเสียเวลาเคลมแล้วดันไม่ได้เครื่องต้องรออีกหลายวัน ซึ่งมือถือเรา้ต้องใช้งานติดต่อกับลูกค้า พอเคลมมาได้ไม่กี่วัน ดันต้องกลับไปเคลมอีก แล้วไอ้ที่เคลมต้องเสียเงินเจ็ดพัน แถมเสียเวลา สรุป ถ้าไปเคลมอีกงวดนี้ ผมซื้อมือถือใหม่ได้อีกเครื่องเลยครับ พอจิตตก แล้วมันไม่อยากทำไร มัวแต่เอาจิตไปจับตัวนี้ จนพระท่านก็มาเตือนบอกว่า "ลืมพรหมวิหาร๔ หรือ ทำไมตามจิตตัวเองไม่ทัน เรื่องแค่นี้ ของนอกกาย ทำให้จิตเศร้าหมองทำไม วางใจให้เป็นอุเบกขาสิ"

    ผมถึงได้สติ หลุดพลั๊วเลยครับ!สรุปแล้ว เราก็ทำหน้าที่ของเราไป ไปเคลมก็ต้องไปเคลม จะเสียเิงิน เสียเวลา แต่อย่าเสียความรู้สึก อันนี้สำคัญ ทรงอารมณ์ให้แจ่มใสไว้ คิดง่ายๆก็คือ ของทุกอย่าง บุคคล สัตว์ วัตถุธาตุมันอยู่ภายใต้กฏไตรลักษณ์ทั้งนั้น แต่เราไปเกิด ตัญหา ภวตัญหา และวิภวตัญหาเอง ที่อยากให้มันเป็นอย่างที่ใจเราต้องการ โดยไม่ได้คำนึงถึงความเป็นจริง อย่างผมนี่ เกิด ภวตัญหา อยากให้มันคงทนสภาพถาวร จนลืมมองหลักความเป็นจริงซะงั้น เฮ้อ!! แย่เนอะ แพ้ไม่เป็นท่าเลย

    ผมว่าทุกข์ที่เกิดขึ้น มันเหมือนเป็นบทเรียนสอนให้เราได้ใช้สติ สมาธิ ปัญญา ตามดูให้รู้ทันมัน แล้วก็ปล่อยวาง ไม่ยึดติดกับทุกข์ใดๆ หากถึงที่สุดแ้ล้ว แม้สุข ก็ไม่ยึด แต่เพราะผมมันกิเลสหนา ปัญญาเบา ก็เลย ตามดูตามรู้ไม่ทัน จิตยังอ่อนแอ ฝึกมาน้อยก็งี้ล่ะครับ

    พี่สาว ภูมิจิตภูมิธรรมสูงมาก สามารถละได้ ผมอยากทรงอารมณ์แบบนั้นบ้าง กำลังพยายามอยู่ครับ

    อนุโมทนากับข้อความดีๆนะครับ นานๆจะเห็นพี่โพสแบบยาวๆแบบนี้ มีกำลังดีครัีบ
     
  8. โมกขทรัพย์

    โมกขทรัพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    474
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,849
    ยอดบุญอิ่มใจจริงๆครับ สาธุๆ
     
  9. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0

    เปล่าเลย พี่ไม่ได้เก่งอะไร เพราะก็ยังมีสิ่งที่ต้องพยายามละให้ได้อีกหลายเรื่อง เพียงแต่เอามาเล่าให้ฟังว่า มันน่าจะเจอแบบนี้นะ เราถึงจะละได้ ไม่ใช่ละแบบสัญญา แต่ลึกๆใจยังติดกังวลอยู่

    เมื่อก่อนไม่อยากเขียนเพราะเกรงว่าจะหนักเกินไปสำหรับบางท่าน แต่ไม่รู้เมื่อวานนึกยังไงก็เขียนออกมาซะงั้น แล้วยังมีเรื่องให้เขียนอีกเหมือนกัน สำหรับคนที่จะปฏิบัติเพื่อการหลุดพ้นนะ ใครยังอยากจะเกิดอีกก็ขอให้ผ่านไปอย่าสนใจ แต่วันนี้มีสอนมโน เดี๋ยวถ้าว่างแล้วจะมาเขียนให้อ่านกัน อนุโมทนากับทุกท่านที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ขอให้เจริญในธรรมค่ะ
     
  10. diya

    diya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,950
    ค่าพลัง:
    +13,031
    โมทนาสาธุด้วยนะคะคุณโมกขทรัพย์ ขออนุญาตนำไปแชร์ที่กระทู้อื่นๆ ลูกหลานหลวงพ่อด้วยนะคะ สาธุ
     
  11. diya

    diya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,950
    ค่าพลัง:
    +13,031
    ธรรมะสวัสดีค่ะพี่ Me, myself รออ่านเรื่องเล่าต่อๆ ไปนะคะ
     
  12. Chanseenak

    Chanseenak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    271
    ค่าพลัง:
    +506
    ขออนุโมทนาครับท่านโมขทรัพย์ ถ้าไม่พลาดพลั้งลงเหวไปก่อนสักวันผมคงเห็นแสงสว่างบ้างเหมือนกัน
    กิเลสมันคอยดึงอยู่ตลอดครับ
     
  13. cookieberry

    cookieberry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2009
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +4,607
    เรื่องเงินเพิ่มเนี่ยฝนเคยเป็นเหมือนกันสองครั้ง

    ปกติฝนจะไม่เช็คเงินเลยว่ามีเท่าไร

    วันนั้นฝนมีติดตัวห้าร้อย ฝนก็ไปซื้อนู่นๆนี่ๆ สามร้อยบาทได้ แต่พอวันถัดมาเงินก็เหลือเกือบห้าร้อยเหมือนเดิม

    อีกครั้งนึงฝนไปวัดพระอาจารย์ฝน ก่อนกลับท่านพาไปเวียนเทียนที่วัดพระธาตุนาดูน ฝนเหลือเงินอยู่ร้อยเดียว ตัดใจช่างมันเถอะเดี๋ยวก็ถึงบ้านและ ฝนหยอดเงินลงตู้ไปอย่างไม่เสียดาย พอกลับบ้านจะไปกดเอทีเอ็มหรืออะไรเนี่ยแหล่ะ เงินร้อยบาทที่หยอดตู้ไปกลับมานอนเเอ้งเเม้งในกระเป๋าเฉยเลย
    ----------------------------------------

    โมทนากับพี่สาวด้วยค่ะ เรื่องของพี่สาวสอนคนได้หลายคนเลย

    ฝนว่านะคนที่เห็นทุกข์แล้วคิดเป็นจะปลงได้ง่ายขึ้น
    -----------------------------------

    แต่คนที่เจอทุกข์แล้วกระโดดอย่างกับโดนน้ำร้อนลวกอย่างฝนก็มี ฝนโทรไปหาหมอดูที่เรียกได้ว่าหมอดูประจำบ้านเลยเพราะบ้านฝนทุกคนต้องไปตรวจดูชะตากับหมอดูคนนี้

    วันนี้ฝนโทรไปหาเค้าๆ บอกดวงฝนราหูเข้า ฝนรู้เลยต้องเสียเงินอีกแล้ว เค้าต้องบอกให้ทำสังฆทาน ทำบุญ สร้างพระ ตักบาตรส่งพระราหู คิดไม่แพงราคากันเองห้าพันห้าร้อยบาทถ้วน เอิ๊กกกก ก่อนหมอดูจะไปมีการดูดวงให้เป็นน้ำจิ้มด้วยนะว่าดวงไม่ดีมาตั้งแต่กลางปีที่แล้วและจะไม่ดีไปถึงกลางธันวา

    โอ้ววว ฝนซวยแน่ๆ ทำไงอ่ะ นึกได้พระอาจารย์ฝนท่านเคยว่าไว้ว่า คนเราพอหมอดูทักให้หน่อยว่าราหูเข้า ยอมเสียเงินตั้งเยอะไปแก้ราหู จริงๆวิธีแก้ไม่ยากคือ..... ฝนลืมมม
    เอาแล้วววว ทำไงดีอ่าาาา จิตตกว่าบเลยหมอดูพูดอย่างงี้ ฝนแย่เเน่เลย ทำไงๆๆ

    นึกออกแล้วโทรหาอาจารย์แม่ดีกว่า อาจารย์แม่ก็เมตตาด้วยการเติมคำในช่องว่างที่ฝนลืมไป ท่านว่าก็สวดมนต์ ปฏิบัติ ภาวนาสิ เคยได้ยินไหมคนที่เค้าจะตายเพราะอุบัติเหตุแต่สุดท้ายก็รอดมาได้ด้วยการปฏิบัติ จริงๆๆๆ

    อาจารย์แม่บอกว่าคนที่ทำพิธีส่งราหูแล้วเค้าว่าเค้าดีขึ้นเพราะเค้ามีกำลังใจว่าเพราะเค้าทำพิธีแล้วสิ่งที่ควรโดนหนักกว่านี้ก็เบาลงเพราะความศรัทธาในความเชื่อ กำลังใจเค้ามาดี

    แต่ถ้าเราปฏิบัติกำลังใจเราก็ดีเหมือนกันและเราก็ไม่ต้องเสียเงิน

    หุหุ ฝนรอดแล้ว พี่ริคาโด้เมตตาสอนน้องจนหมดพุงพี่เค้าเลย ใครๆก็เมตตาฝน แล้วฝนจะไม่สู้ก็ไม่ได้แล้วล่ะ
     
  14. sabzajeed

    sabzajeed เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    299
    ค่าพลัง:
    +4,744
    ตามคำสอนของครูบาอาจารย์ท่านก็บอกว่าให้เราละโน่นละนี่ แล้วเราจะพ้นทุกข์ ไม่มาเวียนว่ายตายเกิดอีก แต่ไอ้การละของเรานี่ล่ะ มันละได้จริงหรือยัง มันละได้ด้วยสัญญาหรือว่าปัญญากันแน่

    อนุโมทนาด้วยค่ะ
     
  15. kunchan

    kunchan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2011
    โพสต์:
    130
    ค่าพลัง:
    +163
    วันนี้(6เมย.)โอนเงินร่วมสร้างพระจำนวน 478. บาทครับ บทความของพี่สาวอ่านแล้วได้ประโยชน์เตือนสติมาก ขอบคุณพี่สาวมากครับ.
     
  16. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ไม่ได้เขียนเล่าอะไรนานมากแล้ว มันก็เป็นปกติอ่ะนะ มีเบื่อเป็นธรรมดา ที่เขียนๆมาก็เป็นแนวทางให้เอาไปฏิบัติกันได้แล้ว แต่ส่วนใหญ่จะอ่านเอาสนุกกันมากกว่าหรือเปล่า การปฎิบัติจริงๆ ไม่รู้ว่าจะมีมากน้อยแค่ไหน แล้วหลังๆดิฉันเองก็เน้นที่จะมาฝึกตัวเองด้วย เลยไม่ค่อยจะได้เล่าอะไรเหมือนเก่า แต่ก็มีพูดคุยกับญาติธรรมทางหลังไมค์บ้าง โทรศัพท์บ้าง ปรึกษาข้อธรรมะกัน

    จากบทความเรื่องการละในสิ่งต่างๆที่เขียนเล่าไว้นั้น เมื่อก่อนก็ไม่เคยคิดที่จะเล่าหรอก เพราะเป็นเรื่องเฉพาะตน แต่ที่เอามาเล่าเพราะเพื่อให้เป็นแนวทางแล้วก็อย่าหลงประเด็นไป เพราะบางคนอาจจะไปเข้าใจว่า การฝึกมโนมยิทธิได้แล้ว ไปพระนิพพานได้แล้ว จะทำให้เราไปพระนิพพานได้ในที่สุด จริงๆการฝีกมโนก็เพื่อให้จิตเราจับอยู่กับพระนิพพานจนชินนั่นเอง แต่การปฏิบัติเพื่อให้ไปพระนิพพานจริงๆนั้น อยู่ที่การละสังโยชน์ทั้งสิบข้อ ซึ่งแต่ละข้อมองดูเหมือนง่ายแต่ไม่ง่ายเลย แรกๆดิฉันก็มองว่า อืมมๆๆ ไม่ยาก แต่พอเจอวิบากกรรมแต่ละอย่างมา ทำให้ต้องคิดใหม่ว่าไม่ได้ง่ายเลย อย่างการละ เราก็พูดกันได้ปาวๆว่าละนั่นละนี่ ฉันทำได้ไม่ยาก หุหุ จริงๆแล้วมันละด้วยสัญญากันไม่ใช่ด้วยปัญญา

    ทุกคนยังยึดติดกับสิ่งรอบตัวอย่างแน่นหนามาก สมัยก่อนยังมีแค่ปัจจัยสี่ เดี๋ยวนี้มากกว่าสี่อีก เป็นปัจจัยห้า หก เจ็ด แปด เก้า สิบ ฮา อย่างอะไรบ้างละ ต้องมีโทรศัพท์มือถือ ไอฟงไอโฟน ไอพอด ไอแพด จนจะไอค๊อกไอแค๊กแล้วเพราะเสียเงินไปกับสิ่งเหล่านี้ สมัยนี้มันเป็นพวกวัตถุนิยม ก็ยากหน่อยที่จะไม่ตามสมัย แต่นั่นเท่ากับเพิ่มการยึดติดเข้าไปอีก การที่จะลด ละ เลิก ก็ยิ่งยากเป็นเงาตามตัว ครูบาอาจารย์เคยบอกว่าหากเกิดอะไรขึ้น (เช่นภัยพิบัติ) คนที่ปฏิบัติธรรมะมาก็ตายได้เพราะห่วงสมบัติบ้า ท่านพูดอย่างนี้ นี่แค่ทรัพย์สมบัตินะ ถ้าเป็นพ่อแม่ ญาติพี่น้อง สามีภรรยา ลูกละ มันยิ่งละได้ยากขึ้นไปอีก ถูกไหม แล้วเราเองก็คบกับกิเลส ตัณหามายาวนาน จะสลัดให้หลุดทีเดียวอ่ะยาก มันต้องค่อยฝึกค่อยเป็นค่อยไป ฝึกปล่อยวาง มันก็ไม่ใช่ง่ายๆ แต่ก็ไม่ยากที่จะทำ แต่ว่าต้องใช้กำลังใจที่เข้มข้นจริงๆ

    การฝึกมโนมยิทธิ จริงๆคนที่ฝึกได้ถือว่าโชคดีนะ เพราะจะได้ขึ้นไปหาพระให้ท่านสอนธรรมะ อะไรที่เราจะออกนอกลู่นอกทาง ท่านจะเตือนและดึงเรากลับ ถ้าไม่มัวคิดเอาวิชาไปเที่ยวเล่นไร้สาระไปวันๆนะคะ อย่างดิฉันนี่ท่านจะเน้นสอนเรื่องเมตตาให้มากๆ และก็ให้ปล่อยวาง วางเฉยกับสิ่งที่มากระทบ แรกๆก็มีอ่ะนะ หงุดหงิดกับเรื่องโน้นเรื่องนี้ ก็ยังไม่ได้บรรลุ มันก็เป็นธรรมดาๆละ แต่ท่านจะเมตตามาเตือนเสมอๆ ทำให้เราฝึกระงับไปเรื่อยๆ

    จะเล่าเรื่องให้ฟังขำๆ เรื่องการแผ่เมตตา ดิฉันจะมีคู่กรณีติดตามมาตั้งแต่อดีต อาฆาตมาตลอด มาชาตินี้ก็เจอกันก็โดนเขาด่าว่าร้าย ส่งอีเมล์ด่าทุกวันๆ ก็หงุดหงิดเหมือนกันนะ อะไรฟะ อยู่ดีๆก็โดนด่า แต่ก็ไม่เคยด่ากลับนะ ขึ้นไปหาพระท่าน ท่านก็ว่าให้แผ่เมตตาให้เขาไป ปล่อยวางซะ เราก็ทำตามที่พระท่านบอก เดือนก็แล้ว สองเดือนก็แล้ว สามเดือนก็แล้ว โห ก็ยังด่าอยู่ยังงั้น จนวันหนึ่งจะไปเรียนสมาธิกับ อจ คณานันท์ ตอนเช้าเช็คเมล์เจออีเมล์นรกอีกแล้ว ปรี๊ดแตกอ่ะดิตอนนี้ บอกว่า เลิกๆๆ พอกันที ฉันจะไม่แผ่เมตตาให้เธอแล้ว แผ่แล้วเธอก็ไม่รับ ก็ปิดคอมแล้วก็ไปเรียนสมาธิ พอเรียนเสร็จมีการแผ่เมตตา อจ พูดว่า "เวลาเราแผ่เมตตาถ้าเป็นพวกแมวหมามันรับได้ มันก็จะมาเคล้าเคลียเราใช่ไหม แล้วถ้าเราแผ่ให้คน ถ้าเขาไม่รับแล้วเราจะทำยังไง เลิกใช่ไหม" (อจ พูดพร้อมกับมองหน้าเรา) จ๊ากกก โดนตีกลางแสกหน้าเลย พระท่านมาสอนผ่าน อจ ตรูเพิ่งพูดอยู่เมื่อเช้านี่เอง ฮือๆ โดนเลย เลยต้องตอบท่านกลับไปว่า "ไม่ใช่ค่ะ ต้องแผ่ต่อไป" อจ ว่า "ใช่ ถูกต้อง ต้องแผ่ต่อไป แต่ถ้าเขาไม่รับ ก็ให้อธิษฐานว่า ขออย่าได้มาเจอกันก็แล้วกัน" สรุปข้าเจ้าก็แผ่ต่อไปเรื่อยๆ จนทุกวันนี้เขาก็เงียบหายไปแล้ว
     
  17. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    แล้วก็การแผ่เมตตานั้น พระท่านเคยสอนไว้ว่าต้องแผ่ให้ได้แม้กระทั่งศัตรูของเรา เพราะเคยเกิดกรณีที่ดิฉันจะแผ่เมตตา แต่แผ่ยังไงก็ไม่มีกระแสออกไป อันนี้คือขึ้นไปแผ่บนพระนิพพานนะคะ ต่อหน้าพระศาสดา พอแผ่ไม่ออกก็เลยโดนพระศาสดาท่านสอนว่า "เนี่ย เพราะใจเธอมันไม่มีเมตตา (เอิ๊ก) เพราะเธอยังเลือกที่รักมักที่ชัง เธอต้องแผ่ให้ได้แม้กระทั่งศัตรูของเธอ" ก็จริงของท่าน เพราะตอนนั้นยังทำใจยากนิที่จะแผ่ให้คนที่เราไม่ชอบ ท่านก็สอนให้ปรับอารมณ์ใหม่ สอนๆๆจนเราจิตดีขึ้น มีเมตตามากขึ้นและปล่อยวางได้มากขึ้น จิตใสแล้วท่านจึงบอกให้แผ่เมตตาได้ ปรากฏว่าแสงมันออกกระจายไปทุกทิศทุกทางเลย ไม่เชื่ออย่าลบหลู่น๊า

    ดิฉันก็จะโดนท่านเตือนท่านสอนมาเรื่อยๆ แล้วก็เจอวิบากกรรมมาเรื่อยๆเหมือนกัน หนักหนาสาหัสเอาการเลยแต่ละเรื่อง เล่นเอาน้ำตาตกไปหลายร้อยรอบแล้วมั้ง ท้อก็หลายหน ไม่ขึ้นไปกราบพระท่านเลยก็มี ช่วงที่โดนเล่นหนักๆ มันไม่มีกระจิตกระใจจะไปหรอก แต่บุญยังพอมีก็จะช่วยดึงสติเรากลับมาได้ทุกครั้ง ก็โดนบททดสอบมาเรื่อย ตีกระหน่ำน่าดู แล้วดิฉันไม่รู้เป็นยังไง เวลาเจอวิบากกรรมแต่ละครั้ง หาคนปรึกษาไม่ได้ เราต้องแก้ปัญหาเองทุกครั้ง ว่าจะทำยังไงให้ใจกลับมาดีได้เหมือนเดิม แต่ละครั้งก็หนักขึ้นๆทุกครั้ง น้องตู่ยังเคยบอกว่า "พี่ พี่ต้องโดนถีงที่สุดๆอ่ะ พี่คิดว่าตอนนี้ของพี่มันถึงที่สุดหรือยัง" ก็บอกว่า "มันก็ที่สุดกว่าทุกครั้งที่เจอมาแหละ แต่พอต่อไปมันก็มีที่สุดกว่านี้มาอีก แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าไอ้ที่เราคิดว่าที่สุดอ่ะ มันสุดแล้วหรือยัง" ตอบกันไม่ได้ ฮา ก็กระเสือกกระสนกันต่อไป

    เวลาเจอแบบนี้ จิตตกมากๆ เมื่อก่อนตอนที่ยังมีรถ ดิฉันก็จะขับรถไปไหว้หลวงพ่อโต แล้วก็เลยไปทำบุญตามวัดต่างๆให้มันสบายใจ จนถึงตอนไม่มีรถไปไหนก็ไม่ได้เครียดอย่างแรง หนนั้น รู้สึกว่าหนักที่สุดในชีวิต ปกติก็ร้องไห้อยู่บ่อยๆ แต่ครั้งนั้นเป็นหนเดียวที่นั่งสวดมนต์ไหว้พระอยู่ในห้องพระ แล้วร้องไห้โฮออกมาเลยขณะที่กำลังสวดมนต์นั่นแหละ มันไม่ไหวจริงๆ มันรับไม่ได้แล้ว คนไม่เจอก็ไม่เข้าใจหรอกนะ หนนั้นทุกข์ที่สุดที่เคยเจอมาเลย

    พออกุศลกรรมเข้ามารก็ยิ่งกระหน่ำซ้ำเลย คุยกับใครก็เกลียดเขา อิจฉาเขา ไม่พอใจ หมั่นไส้ เราเริ่มสังเกตุแล้วว่า ตอนนี้เราโดนมารโจมตีแล้ว เริ่มเล่นคนใกล้ตัวเรา เพราะจุดอื่นเราผ่านแล้วไง พอคิดได้ หยุดเลยไม่คุยกับใคร ไม่ติดต่อใคร จนกว่าจะหาทางแก้อาการของตัวเองได้ หงุดหงิด จิตตก ไปวัดก็ไม่ได้ไม่มีรถ เงินก็ไม่มี แต่เราจะหลุดจากตรงนี้ยังไง ดึงจิตตัวเองกลับมาได้ยังไง ก็คิดว่าต้องหาธรรมะใหม่ๆมาดูมาอ่าน ก็เสริทหา ก็ไปเจอคลิปสอนธรรมะของพระอาจารย์ภาสกร โอย..ฮามาก ท่านสอนได้สนุกแล้วก็ฮาจริงๆ ทำให้เราหายจากอาการที่เป็นอยู่ กลับมาเป็นเราเหมือนเดิม ดิฉันนั่งดูคลิปของท่านทุกอันที่เขาเอาลงไว้ในยูทูปใช้เวลาไปสองวันสามคืน ดูตลอดนะ พอดูหมดแล้วก็คิดว่า อย่างนี้ต้องเอาไปให้คนอื่นๆดู (หายบ้าแระ) พอดีก็กลับเข้าไปคุยกับเพื่อนๆต่อ กลายเป็นว่าคนอื่นเริ่มเป็นอาการแบบที่เราเป็น (ยังงี้ทุกที เราต้องโดนก่อนเพื่อน) เราก็เลยให้คำปรึกษาคนอื่นได้ไง
     
  18. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    จากที่ได้ดูการสอนของพระอาจารย์ภาสกร มีเรื่องหนึ่งที่ท่านพูดแล้วโดนใจจริงๆ ท่านเล่าว่ามีคนมาพูดว่า ดิฉันไปบวชเนกขัมมะมาค่ะ หน้าตาผ่องใสมากค่ะ ท่านเลยถามไปว่า โยม..ก่อนไปบวช โยมเกลียดนาย ก. รักนาย ข. พอกลับจากบวชแล้ว โยมเกลียดนาย ก. มากขึ้นหรือน้อยลง รักนาย ข. มากขึ้นหรือน้อยลง (จริงๆท่านยกตัวอย่างคนอื่นนะ แต่ไม่อยากเขียน เดี๋ยวเป็นประเด็น ฮา) ถ้าว่าเกลียดมากขึ้นหรือน้อยลง หรือรักมากขึ้นหรือน้อยลง นั่นคือผิด เพราะเป็นการยึดติด การไปวัดปฏิบัติธรรม มันต้องทำแล้ว ลด ละ เลิกกิเลสได้ ไม่ใช่มาฝึกแข่งนั่งทนกัน นั่งไปทำไม นั่งแล้วไม่ได้ช่วยให้ลดกิเลสลง

    เหมือนมโนมยิทธิฝึกแล้วก็ควรจะเอามาใช้เพื่อการ ลด ละ เลิกกิเลสเราเหมือนกัน ไม่ใช่ไปหลงระเริงว่าตรูเป็นผู้วิเศษ รู้โน่น เห็นนี่ ไปนรก สวรรค์ นิพพานได้ เอาความรู้ไปเป็นหมอดู ไปอวดชาวบ้าน ไปส่องจิตคนอื่น ไปดูอดีตแล้วก็มายึดติดว่าคนนั้นเคยเป็นสามีฉัน คนนี้เป็นเมียฉัน ไปรื้อฟื้นเรื่องเก่า ไม่คิดว่าภพชาติมันจบไปแล้ว อย่างนี้หลวงพ่อท่านบอกว่ามีนรกเป็นที่ไป แทนที่จะได้ไปนิพพานก็จะไปเสวยสุขข้างล่างแทน

    ทุกอย่างมีสองด้าน ก็เคยเขียนบอกไว้แล้ว มโนมยิทธิถ้าใช้ในทางดีก็เกิดผลดี แต่ถ้าใช้ในทางผิดก็มีโทษเหมือนกัน ตั้งแต่สอนน้องๆมาก็จะคอยเตือนตลอดและก็ตามดูด้วยว่าน้องๆเขาเริ่มจะเป็นมิจฉาไปหรือไม่ ก็มีให้เตือนกันเรื่อยๆ บางคนต้องเตือนแรงๆ แต่ถ้าใครเตือนแล้วไม่ฟัง ก็จะอุเบกขาเพราะถือว่าเราทำหน้าที่ของเราแล้ว ไอ้ตัวมานะนี่เป็นอะไรที่ฝังแน่นอยู่ในตัวคน ถ้ายึดติดนี่หลุดยาก มโนไม่สมควรใช้พร่ำเพรื่อ มันจะเฝือ เหมือนน้องเบนนี่ ต้องคอยดึงกันประจำ เพราะน้องเบนนี่ชอบเอามโนดูไปเรื่อยเปื่อย ไปไหนก็ดูโน่นนี่ แล้วดูคนเดียวไม่ว่านะ ยังต้องมาถามคนอื่นอีก เห็นแบบนั้นไหม แบบนี้ไหม บางทีก็ไปบอกคนที่ยังไม่ได้อีกว่าตัวเองเห็นอะไร ก็ต้องเตือนว่าอย่าใช้ไปเรื่อย ให้ใช้ในเวลาที่จำเป็นจริงๆเท่านั้น นอกจากจะเฝือแล้ว ทำให้น้องคิดว่าตัวเองเป็นพระอริยะเข้าไปอีกด้วย เราก็ดูอยู่พักหนึ่ง จนแน่ใจว่าถ้าไม่เตือน มีหวังหลุดโลกแน่ ดีนะว่าเตือนแล้วได้สติกลับมา แต่พอห่างๆไปกลับไปอยู่บ้าน เอาอีกแล้วเริ่มอีกละ จนตอนหลังมาพักอยู่ด้วยกันสามเดือน สั่งให้หยุดใช้มโน ให้นั่งแต่อานาปาแทน ก็ดีขึ้นเยอะ จริงๆน้องเบนนี่มโนเขาแจ่มนะ ถ้าไม่หลงไปกับมัน ต้องคอยคุมอยู่บ่อยๆ

    มี อจ สอนกรรมฐานท่านหนี่ง (ขอไม่เอ่ยนาม) ท่านบอกว่าท่านเคยคิดว่า เออ เรานี่เป็นฮีโร่เว้ย สอนคนอื่นๆได้ เรานี่เก่ง ท่านบอกว่าแค่คิดแบบนี้เท่านั้น พระท่านปิดมโนท่านไปสามปีเต็มๆ การที่เราคิดแบบนี้เป็นมานะ เป็นมิจฉา ปกติจะเพี้ยนกันหนักไป แต่เพราะว่า อจ ท่านอธิษฐานอยู่เสมอว่าขอเป็นสัมมาทิฐิ ก็เลยโดนปิดมโนเพื่อให้ได้กลับมาคิด ท่านว่าต้องกลับมาคิดใหม่ ปรับใหม่หมดเลย

    ดิฉันก็เหมือนกัน กลัวกลายเป็นมิจฉา ก็ขอพระท่านไว้ว่าให้เอาญาณรู้ของดิฉันไปให้หมดเลยก็ได้ แต่ขออย่าให้ดิฉันกลายเป็นมิจฉาเด็ดขาด ทุกวันนี้ก็จะสำรวจตัวเองอยู่เสมอๆว่าเรายังเลวอะไรอยู่อีกบ้าง ยิ่งมาเป็นครูสอนมโนด้วย ยิ่งต้องระวังหนักไม่ให้ไปหลงกับโลกธรรมแปด ครูบาอาจารย์ท่านสั่งว่าห้ามไปหลงในลาภสักการะ ยศหรืออะไร ท่านให้สังเกตุดูว่า ถ้าเราเริ่มที่จะอยากให้คนมาเคารพนับถือ เริ่มหาสาวกบริวาร เริ่มหลงในลาภสักการะ เริ่มอยากเด่นอยากดัง อะไรประมาณนี้ให้รู้ไว้ว่า นั่นคือเราเป็นมิจฉาแล้ว การที่เรามาอยู่ตรงตำแหน่งนี้ เป็นอะไรที่เราจะหลงไปกับโลกธรรมแปดได้ง่ายมาก ต้องฝึกจิตตัวเองให้พร้อมอยู่เสมอ สำหรับดิฉันแล้ว รู้สึกว่าเป็นทุกข์ไปอีกเพราะต้องมาวุ่นวายกับคนอื่น ไม่ได้นึกคิดจะเด่นจะดัง นี่ถ้ามันเลิกได้นะ จะรีบไปขอยกเลิกเลย ทุกข์ทั้งนั้น
     
  19. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ดึกแล้ว วันนี้ขอพักยก
     
  20. Wake Me Up

    Wake Me Up เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +132
    ขอร่วมทำบุญจัดสร้างถวาย "สมเด็จองค์ปฐมทรงเครื่องจักรพรรดิ์" ด้วยนะคะ 100บาท โอนเมื่อวันที่ 5เมษายน เวลาประมาณ 12.30 ค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...