85. ญี่ปุ่น(1) : ฮอกไกโด..ชีวิตในองศาที่ติดลบ

​

เดินเก็บรูปไปเรื่อยๆ ก็เจอกับรูปปั้นใครไม่รู้ ใช้โปรแกรมแปลภาษาบอกว่า เป็นรูปปั้นของ Kametaro Otomo เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกเมืองซัปโปโร...

 

​

ใช้มือถือถ่ายรูปเดินไปใกล้ๆ เก็บหอคอยไม่หมด เวลาที่เหลือทั้งทริปนี้ถือกล้องใหญ่ไม่ไหวเสียดายภาพ

 

​

เนวิเกเตอร์ ๒ คนตอนนี้เริ่มพาหลงอีกครั้ง เดินวนบล็อกไปหลายบล็อก ต่างคนต่างจับแผนที่ google ไม่ถูก ไปๆ มาๆ เดินลงถนนช้อปปิ้งใต้ดินตรงซัปโปโรทีวีทาวเวอร์ซะอย่างนั้น ถนนช้อปปิ้งอยู่ระหว่างสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินซุซุกิโนะกับโอโดริ เรียกว่า Sapporo Chikagai หรือ Sapporo Underground Shopping Mall แบ่งเป็น ๒ โซน

โซน Pole Town เชื่อมระหว่างสถานีซุซุกิโนะและสถานีโอโดริ ความยาวประมาณ ๔๐๐ เมตร

โซน Aurora Town เชื่อมระหว่างสถานีโอโดริกับSapporo TV Tower ความยาวประมาณ ๓๑๒ เมตร

 

​

พวกเราเดินลงไปโซนออโรล่า ทาวน์ เดินผ่านๆ ไม่ได้ซื้อของ แล้วไปโผล่อีกฝั่งตรงซัปโปโรทีวีทาวเวอร์ เดินข้ามไปข้ามกลับ ๒ รอบ หลงไปหลงมา ก็มาเจอกับหอนาฬิกาประจำเมือง(Sapporo Clock Tower) เป็นสัญลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ของเมืองซัปโปโร ตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมอาคารไม้ที่เรียกว่าโครงสร้างแบบบอลลูน ซึ่งเป็นที่นิยมในอเมริกากลางและอเมริกาตะวันตกในช่วงยุคบุกเบิก สร้างขึ้นด้วยไม้ ในปี ค.ศ. ๑๘๗๘ ตัวเรือนนาฬิกาซื้อมาจากเมืองบอสตัน เป็นอาคารหลังแรกๆ ที่สร้างในเมืองซัปโปโร

 

เดินวนอยู่แถวๆ นี้​

 

​

เพื่อนพาเดินหลงจนตัดสินใจได้ว่าไปเมืองโอตารุด้วยรถบัสดีกว่า...เอ้า พากันเดินไปที่ Chuo Bus Sapporo Terminal ซื้อตั๋วรถไปกลับเมืองโอตารุ

 

​

 

​

 

เครื่องขายตั๋วรถบัส​

 

​

ซื้อเสร็จแล้วก็เดินแบบ งงๆ หาป้ายรถที่จะขึ้น หาไม่เจอ ไม่รู้อยู่ป้ายไหน เดินๆ ไป เจอป้ายนึงมีคนคอยรถอยู่เดินเข้าไปถาม สื่อสารไม่รู้เรื่องพูดได้แต่ญี่ปุ่น เขาก็พยายามช่วยจนพวกเราขึ้นรถบัสได้ ขอบคุณในน้ำใจจ้า...

 

​

ขึ้นรถบัสเกือบๆ บ่ายโมง ระหว่างนั่งรถ มองดูวิวไปเรื่อยเปื่อยสังเกตเห็นว่าหลายๆ คนใส่ชุดกิโมโนเดินถนนกันจึงคิดเอาเองเข้าใจว่าวันนี้วันหยุด เขาจึงใส่ชุดอย่างนี้ นั่งรถมาถึงป้ายสุดท้ายเกือบบ่ายสองโมงถึงเมืองโอตารุ

 

​

เมืองโอตารุ (Otaru) เป็นเมืองท่าเรือขนาดเล็ก ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองซัปโปโร ทางประวัติศาสตร์ของฮอกไกโด เป็นศูนย์กลางการค้าและเศรษฐกิจ มีธนาคารหลายแห่งมาเปิดสาขาที่นี่ จนได้รับฉายาว่าเป็น วอลล์สตรีททางตอนเหนือ (North of Wall Street) มีย่านโกดังสินค้าเก่าที่มีการขุดลำคลองเล็กคือคลองโอตารุไว้สำหรับการลำเลียงสินค้าในอดีต ปัจจุบันดัดแปลงเป็นย่านการค้า มีทั้ง ร้านเครื่องแก้ว งานฝีมือ กล่องดนตรี ของที่ระลึก รวมถึงร้านขนมหวาน ถนนซูชิยะ(Sushiya) ที่มีซูชิจำนวนมาก ถนนมิยาโกะ(Miyako Dori Shotengai)ถนนช้อปปิ้งเก่าแก่ใกล้สถานีโอตารุ และบริเวณใกล้ๆ ตัวเมืองโอตารุมีจุดชมวิวภูเขาเทนกุ (Mt.Tenguyama) อีกด้วย

 

​

 

​

จากนั้นพวกเราก็เดินเข้าถนน Chuo (Chuo Dori) กันอีกยาวๆ ไม่รู้กี่กิโล ระหว่างทางเจอร้านขายไอศกรีมน่ากิน หนาวขนาดนี้ยังกินได้อีกเหรอ สั่นสะท้านตาย แต่ไหนๆ ลองดูก็ได้ ซื้อมาชิมก็ไม่เย็นเท่าไหร่ อร่อยและมีกลิ่นหอม...

 

​

บ่ายสองโมงครึ่งเดินมาถึงคลองโอตารุ คนค่อนข้างเยอะ คลองโอตารุ (Otaru Canal) ถูกขุดขึ้นเมื่อปี ค.ศ.๑๙๒๓ เป็นเส้นทางสำคัญในการลำเลียงสินค้า มีโกดังสินค้าเก่าที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในทุกวันนี้ ในปี ค.ศ.๑๙๘๐ คลองได้รับการบูรณะให้สวยงาม โกดังริมคลองถูกปรับเปลี่ยนมาเป็นพิพิธภัณฑ์ ร้านค้า ร้านอาหาร ทำให้ผู้คนนิยมมาเดินเล่นริมคลอง เวลากลางคืนได้แสงไฟจากโคมไฟก๊าซโบราณก็ทำให้บรรยากาศริมคลองโรแมนติกสุดๆ และที่นี่ช่วงที่พวกเรามาเที่ยวกันต้นเดือนกุมภาพันธ์ มีการจัดงานเทศกาลแสงไฟริมคลองโอตารุ(Otaru Snow Light Path Festival) ในฤดูหนาว มีการจุดเทียนตามริมคลองและริมถนนต่างๆ

 

​

 

​

 

​

 

​

 

​