คลังเรื่องเด่น
-
สมเด็จพระสังฆราช เสด็จเปิดประชุมสัมนาวิชาการพุทธศาสนาระดับนานาชาติ เนื่องในวันวิสาขบูชา พร้อมประทานธรรมกถา
สมเด็จพระสังฆราช เสด็จเปิดประชุมสัมนาวิชาการพุทธศาสนาระดับนานาชาติ เนื่องในวันวิสาขบูชา พร้อมประทานธรรมกถา
การประชุมวิชาการนานาชาติสมาคมมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนานานาชาติครั้งที่ ๓ เนื่องในวันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของโลก
วันที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๖๐ เวลา ๐๙.๐๐ น. ณ หอประชุม มวก. ๔๘ พรรษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (อมฺพรมหาเถร) เสด็จเปิดการประชุมวิชาการนานาชาติสมาคมมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนานานาชาติครั้งที่ ๓ เนื่องในวันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของโลก ระหว่างวันที่ ๖ - ๘ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ภายใต้หัวข้อ “สติ:วิถีปฏิบัติและวิถีแห่งการประยุกต์บนฐานแห่งความกรุณา มีพันตำรวจโท พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และคณะผู้บริหารสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ผู้นำชาวพุทธ นักวิชาการ เข้าร่วม ๘๕ ประเทศ กว่า ๒,๐๐๐ รูป/คน
ในการนี้ สมเด็จพระสังฆราช ประทานธรรมกถาความว่า ในนามคณะสงฆ์ไทยขอต้อนรับพระเถรานุเถระเพื่อนสหธรรมิกจากนานาประเทศด้วยไมตรีจิต ขออนุโมทนาสาธุการ... -
"กระแสของพระนิพพาน"
"กระแสของพระนิพพาน"
ทางที่พระพุทธเจ้าได้ทรงดำเนิน ได้ทรงปฏิบัติ เพื่อหลุดพ้นจากกองทุกข์แห่งการเวียนว่ายตายเกิด พระองค์ทรงให้ชื่อว่า "มรรค" มรรคที่มีองค์ ๘ เรียกสั้นๆ ว่า "มรรค ๘" เป็นทางที่พระพุทธเจ้าได้ทรงปฏิบัติ เพื่อที่จะทำให้พระทัยของพระองค์ได้หลุดพ้นจากการเกิดแก่เจ็บตาย แล้วพระองค์ก็ทรงนำเอามรรค ๘ ที่พระองค์ทรงดำเนินนี้ มาเผยแผ่สั่งสอนให้แก่ผู้ที่ต้องการจะหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด ให้นำเอาไปปฏิบัติ ถ้าปฏิบัติได้ครบถ้วนก็จะได้หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด อย่างที่พระพุทธองค์ได้ทรงหลุดพ้น มรรคที่มีองค์ ๘ นี้ก็มี ๑. สัมมาทิฏฐิ ความเห็นชอบหรือความเห็นที่ถูกต้อง ข้อที่ ๒. ก็คือสัมมาสังกัปโป แปลว่าความคิดหรือความดำริที่ถูกต้อง ๓. สัมมากัมมันโต การกระทำที่ถูกต้อง ๔. สัมมาวาจา การพูดที่ถูกต้อง ๕. สัมมาอาชีโว อาชีพที่ถูกต้อง ๖. สัมมาวายาโม ความเพียรที่ถูกต้อง ๗. สัมมาสติ การระลึกรู้ที่ถูกต้อง และ ๘. สัมมาสมาธิ ความตั้งมั่นของจิตที่ถูกต้อง นี่คือองค์ประกอบของมรรค ๘ ที่ผู้ปฏิบัติจะต้องเจริญ จะต้องทำให้เกิดขึ้นมาภายในใจ เพราะเมื่อมีมรรคที่เป็นองค์ ๘ นี้แล้ว... -
สงครามโลกครั้งที่ 3
สงครามโลกครั้งที่ 3
หลวงพ่อ : ตอนบวงสรวงเมื่อเช้าพระท่านพูดเรื่อง "สงครามโลกครั้งที่ 3"
ถามท่านว่า "ถ้าสงครามโลกครั้งที่ 3 เกิดขึ้น จะเป็นยังไง ประเทศไทย"
พระท่านบอกว่า "คนที่จนอยู่กระท่อม จะมีเงินนับแสน คนที่มีเงินจำนวนแสนไม่ถึงล้าน ถือว่าจน คนฐานะดีนิดหน่อย ต้องมีเงินเป็นล้าน รวยใหญ่"
ถามท่านว่า "สงคราม จะมาถึงประเทศไทยไหม"
พระท่านบอกว่า "สงครามของเขา ไม่ถึงประเทศไทย แต่สงครามในประเทศไทย ยังมี"
ปักษ์ใต้ กรมหลวงชุมพร ขอยืนยัน
"ใครรักษาทิศใต้ ท้าววิรุฬหก ใช่ไหม"
กรมหลวงชุมพร บอก "ผมครับ รับหน้าที่ทางทิศใต้"
ถามว่า "ยันอยู่ไหม"
ท่านบอก "ยันไม่อยู่ครับ แต่ตียันมาเลเซีย เลยยึดไม่ปล่อย"
ถาม "ทิศเหนือ ใครรับผิดชอบ"
ท้าวเวสุวัณ บอก "ผมครับ"
ถาม "เป็นยังไง"
ท้าวเวสสุวัณท่านบอก "เชียงตุง ยัน แม่น้ำแยงซีเกียง"
คุณยกทรง : "สงครามโลกครั้งที่ 3 บ้างก็กลัวจะเกิด บ้างก็อยากให้เกิดไว ๆ ไอ้ที่กลัวจะเกิด คือกลัวจะตาย ไอ้ที่อยากให้เกิดไว ๆ เพราะหลวงพ่อบอกว่าถ้าเกิดเมื่อไหร่ รวยเมื่อนั้น"
หลวงพ่อ : "ไอ้ที่รวย ไม่ใช่อะไรหรอก สงครามของเรา มันไม่ใหญ่โต... -
เคล็ดบูชาพระอุปคุต (สำหรับวันเป็งปุ๊ด)ตำรับสมเด็จพระสังฆราชแพ
เคล็ดบูชาพระอุปคุต (สำหรับวันเป็งปุ๊ด)ตำรับสมเด็จพระสังฆราชแพ
สวัสดีครับ หลายท่านคงรู้จักองค์พระอุปคุต กันนะครับ ว่าท่านเป็นพระมหาลาภ ในบรรดาพระอรหันตสาวกของพระพุทธเจ้า จะมีพระไตรภาคีมหาลาภอยู่ก็คือ
1.พระสังกัจจายน์ หรือพระมหากัจจายนะ 2.พระสีวลีเถระเจ้า และ
3. พระอุปคุต โดยพระอุปคุตนอกจากท่านจะเด่นทางลาภแล้ว ท่านยังเด่นในเรื่องการปราบอุปสรรคคือเน้นในด้านความสำเร็จด้วยนั่นเอง ดังมีเรื่องเล่าในสมัยพระเจ้าอโศกสังคายพระไตรปิฏก พระยามารจะมาแกล้งพอดีพระอุปคุตท่านได้รับความไว้วางใจแห่งมูลพระสงฆ์ให้คอยปราบพระยามารผู้มีฤทธิ์ซึ่งท่านสามารถจับพระยามารผูกไว้ถึง7ปี 7เดือน 7วัน จนกระทำสังคายนาเสร็จ ย่อมแสดงให้เห็นว่าพระอุปคุตท่านเลิศในด้านลาภและขจัดอุปสรรคต่างๆด้วย ฉะนั้นการไหว้ท่านก็ย่อมนำมาซึ่งความสำเร็จไร้ข้อข้องขัดและเสริมลาภในชีวิตของท่านด้วย แต่น้อยคนนะครับที่จะรู้ว่าการขอบารมีหลวงพ่อชนะจน หรือพระอุปคุตนั้นมีพิธีการไหว้ขอพรอย่างไร ในที่สุดเพจพุทธคุณและเว็บพลังจิตก็ไปค้นมาให้ท่านจนได้ โดย เคล็ดนี้บันทึกโดยท่านอาจารย์ อุรคินทร์ วิริยะบูรณะ... -
ลป.เดินหนอิเกสาโร-ลพ.กัสสปมุนี-พระธาตุพระปัจเจกพุทธเจ้า-ผงสัมฤทธิ์ ช่วยค่าโฮสเวปพลังจิต
เนื่องจากผมได้เรียนขออนุญาติทางเวปมาสเตอร์ของเวปพลังจิตไปเรื่องขอนำวัตถุมงคลที่ผมเก็บไว้ออกให้บูชาและส่วนหนึ่งหลังหักต้นทุนในการจัดหาแล้ว.....จำนวน 100 บาทขอนำไปช่วยค่าโฮสเวปพลังจิตครับ
......ทั้งนี้ทางเวปมาสเตอร์(วีระชัย)ได้อนุญาตเป็นที่เรียบร้อย ตอนแรกกะว่าจะรีบตั้งกระทู้เลย แต่......มีเสียงหนึ่งเข้ามาในโสตประสาทของผมตอนนั่งสมาธิว่า ให้ลงหลังขึ้น 8 ค่ำ เดือน 6 นะ.....เสียงย้ำๆอยู่ 2ครั้งได้ ผมจึงขออนุญาติตั้งกระทู้ให้ได้บูชาวัตถุมงคลเพื่อหาปัจจัยช่วยค่าโฮสของเวปพลังจิตในครั้งนี้กันครับ(หลังวันขึ้น 8 ค่ำเดือน 6 แล้ว)
...... กระทู้นี้ตอนแรกตั้งใจจะให้บูชาเพียงแค่รูปหลวงปู่เดินหนลพ.กัสสปมุนีเพียงเท่านั้น แต่เนื่องจากระหว่างรอ ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 6 มาถึงผมก็ได้เห็นภาพวัตถุมงคลอีก 3 สิ่งปรากฏแวปๆในนิมิตรสมาธิ จึงขอจัดหนักมอบเป็นชุดของมงคลเป็นที่ระลึก แก่สมาชิกทุกท่านที่ร่วมช่วยค่าโฮสของทางเวปพลังจิต(เวปพระศาสนาอันดับ 1 ของเมืองไทย) อันมีดังนี้ครับ
1.รูปหลวงปู่เดินหนอิเกสาโร-ลพ.กัสสปมุนี หลังยันต์พุทธเกษตรอันศักดิ์สิทธิ์....และรูปทุกใบหลวงพ่อกัสสปมุนี... -
ช่วยภพภูมิที่เค้าไปไหนไกลๆไม่ได้ ...ให้เค้า และสอนให้เค้าช่วยตนเอง
ครั้งแรกๆ เบื้องต้น ให้สวด-ภาวนา น้อมกำลังไตรสรณคมน์และพระโพธิสัตว์ทั้งหลายผ่านรูปนามกายใจของเรา มาช่วยเค้า
ต่อไป....
ให้เค้าช่วยตนเอง คือ อธิษฐานว่า อนุญาตให้มาอนุโมทนาบุญกับข้าพเจ้าได้ตลอดไป
ได้ตลอดเวลา
เมื่อเค้า มีกำลังมากขึ้น มีแสงสว่างมากขึ้น เค้าจะคิดได้ว่า จะไปเกิดตามกรรมหรือรอสวดภาวนาพร้อมเราและหมู่คณะไปเรื่อยๆก่อน บางตน(ที่มีบุญเก่ามาก)จะรอไปจนกว่าจะพบพระอริยะเจ้าหรือพระพุทธเจ้าองค์ใหม่จะเทศน์โปรด พอท่านเทศน์ก็น้อมตามคำสอนไป ก็จะมีโอกาสได้พบความพ้นทุกข์ถาวร
เป็นประโยชน์มาก ฟังเพิ่มเติมที่
- - - - - -
เลือกฟังหัวข้ออื่น คลิกhttps://www.youtube.com/playlist?list=PLwqIndQpKBE6MkcvsgE_rgXYrytZJKGhQ
- - - - - -
อ่านข่าวสารงานบุญที่ www.luangtama.com -
ผีมีจริงไหม - มนุษย์เกิดมาจากไหน - ชีวิตและปฏิปทา หลวงปูมั่น ภูริทัตโต - หลวงตามหาบัว
ผีมีจริงไหม - มนุษย์เกิดมาจากไหน - ชีวิตและปฏิปทา หลวงปูมั่น ภูริทัตโต - หลวงตามหาบัว
DrSeripiput Srimuang :- Published on Dec 14, 2016 -
กราบสาธุ !!! "สมเด็จพระสังฆราช"ประทานพระโอวาทแก่ชาวไทยเนื่องใน"วันวิสาขบูชา"
กราบสาธุ !!! "สมเด็จพระสังฆราช"ประทานพระโอวาทแก่ชาวไทยเนื่องใน"วันวิสาขบูชา"
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระโอวาทแก่ปวงชนชาวไทยเนื่องในวันวิสาขบูชา ประจำปีพุทธศักราช 2560 โดยให้ชาวไทยตะหนักถึงความสำคัญของวันวิสาขบูชาว่า นอกจากจะให้สำนึกในพระพุทธคุณแล้ว วันวิสาขบูชายังชวนให้ตระหนักว่าความเกิดและความดับนั้น มีขึ้นได้ทุกขณะ และเป็นของควบคู่กัน
ถ้าท่านทั้งหลายตั้งมั่นอยู่ในพระสัทธรรมของสมเด็จพระบรมศาสดาเมื่อใด ความผาสุกทุกประการย่อมเกิดผลขึ้น
รายละเอียดตอนหนึ่งของพระโอวาส
คุณค่าของวันวิสาขบูชานอกจากเตือนให้สำนึกในพระพุทธคุณ ยังชวนให้เกิดความสลดสังเวชว่า ความเกิดและความดับนั้นมีขึ้นทุกขณะและเป็นของคู่กัน แม้ในความเกิดพระรูปพระโฉมของพระศาสดา ก็ยังมีความดับไปตามกฎสามัญ ความระลึกชอบได้เช่นนี้ ย่อมสามารถโน้มน้าวพุทธบริษัทผู้เกิดมาแล้วบนโลกนี้ให้เพียรเจริญรอยตามบนอริยมรรค จนสู่จุดหมายที่เหนือความเกิดและดับ ด้วยการละความหลงจับยึดในสิ่งมายาทั้งปวง คลายความมัวเมายึดถือตนลง เว้นวางการแบ่งเขาแบ่งเรา อันจะช่วยยุติความเบียดเบียน ก้าวร้าว บาดหมาง และชิงชังกัน... -
"กำลังของจิต" : หลวงปู่ชา สุภัทโท
"กำลังของจิต"
" .. "จิตมีความสงบ เป็นจิตที่มีกำลัง" จิตที่คิดมากเป็นจิตที่วุ่นวาย นำทุกข์เข้ามาสู่เรา "เห็นโทษของการคิดมากไม่มีกำลังนั้น คือทุกวันนี้โดยมากเป็นโรคประสาทกันแยะ" โรคประสาทนี้ คือการคิด ๆ มากเกินไป "จิตก็เสียกำลังเพราะจิตนี้จะไม่มีกำลังด้วยการคิด จิตนี้จะมีกำลังด้วยการหยุด หยุดถึงจะมีกำลัง"
"ถ้าคิดให้มากก็ยุ่งมากวุ่นวายมาก เป็นเหตุให้เกิดโรคประสาท" สมัยนี้โรคประสาทยิ่งเป็นกันมากทุกที ๆ เพราะว่าจิตไม่มีกำลังพอ "จิตที่คิดมากก็เหมือนกับมีดที่เราลับไว้คมแล้ว ๆ ก็เอาไปทำงานตัดหญ้า ดายหญ้า ตัดต้นไม้ มิได้หยุดและก็ไม่ได้ลับมีดนั้น"
ได้แต่เอาไปตัดเอาไปฟัน เอาไปทำงานไม่ได้ลับมีดมันก็หมดคม มันก็ไม่คม เจอต้นไม้ก็ตัดต้นไม้ เจอหญ้าก็ตัด เจอหินก็ฟันหิน เช่นนั้นมีดก็เสื่อมสภาพกลายเป็นมีดที่ไม่คม "จิตที่คิดมากก็เหมือนกันฉันนั้น เป็นจิตที่เสียกำลังเป็นจิตที่หมดกำลัง" .. "
"สุภัททานุสรณ์"
หลวงปู่ชา สุภัทโท -
วีดีโอ ปู่โสมเฝ้าสวนยาง
ถ่ายทอดโดย.....อาจารย์ปรีชา เรืองเดช
https://www.facebook.com/เรื่องเล่าชาวบ้านอยอด-475848412510347/ -
เรื่องเล่าน่ารู้! สาเหตุที่ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) บุกเบิกเส้นทางพุทธศาสนาในต่างแดน
สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ได้เริ่มต้นงานด้านวิชาการและการบริหารคณะสงฆ์ มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2498 จากนั้นได้เข้าร่วมเดินทางเพื่อศาสนสัมพันธ์อีกในหลายประเทศ จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2525 ได้รับตำแหน่งรองประธานสภาสงฆ์แห่งโลก
กว่า 2,000 ปีก่อน พระเจ้าอโศกมหาราชทรงส่งพระเถระผู้ทรงภูมิธรรมออกไปประกาศพระพุทธศาสนาในประเทศต่าง ๆ ด้วยมุ่งหวังจะเผยแผ่พุทธศาสนาให้กว้างไกลออกไป โดยแบ่งเป็น 9 สายด้วยกัน สำหรับสายที่ 8 และสายที่ 9 นั้นมีพระโสณะและพระอุตตระได้รับคัดเลือกให้เป็นพระสมณทูตมาเผยแผ่ศาสนายังดินแดนสุวรรณภูมิ และวางรากฐานให้พุทธศาสนาในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เจริญรุ่งเรืองมาจนถึงปัจจุบัน
หลายศตวรรษผ่านล่วงมา ด้วยอุดมการณ์เดียวกันนั้นยังผลให้พระภิกษุเถรวาทจำนวน 3 รูปเดินทางไปยังประเทศแถบตะวันตกอันห่างไกล เพื่อนำเอาหลักธรรมคำสอนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้าไปแสดงให้ชาวต่างประเทศได้ประจักษ์ในคุณงามความดีของพุทธศาสนา
การจาริกตามรอยบุญพระสมณทูตนับแต่ครั้งบรรพกาลนั้น เกิดขึ้นจากแรงบันดาลใจเล็ก ๆ ที่ได้ยินฝรั่งคนหนึ่งเปรยกับพระอาจารย์ของเขาว่า... -
สุดเหลือเชื่อ!!!…พระบรมฉายาลักษณ์ค้ำฝาบ้าน”หนุ่มใหญ่”รอดตายราวปาฏิหาริย์ พายุถล่มหนัก บ้านพังยับ ชาวบ้านยกมือไหว้ท่วมหัว
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดแพร่ เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2560 ได้ออกสำรวจความเสียหายจากพายุลูกเห็บถล่มในท้องที่ จ.แพร่ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อค่ำวันที่ 3 พฤษภาคม 2560 หลายท้องที่ในจังหวัดแพร่ และ ที่บ้านค่างาม ม.1 ม.8 ต.ดอนมูล อ.สูงเม่น จ.แพร่ มีบ้านเรือนเสียหายกว่า 30 หลังคาเรือนส่วนใหญ่อยู่ติดทุ่งนา
โดยเฉพาะบ้าน นายลือเกียรติ นามอินตา อายุ 55 ปี เลขที่ 131 บ้านค่างาม ม.1 ต.ดอนมูล อ.สูงเม่น บ้านพังทั้งหลังพังพาบออกมาอยู่ที่ถนนข้างทุ่งนาทำให้เจ้าของบ้านพร้อมภรรยาติดอยู่ในตัวบ้านที่พังยุบทับ ภายในบ้านพบภาพพระบรมฉายาลักษณ์ ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ใส่กรอบไม้สักแขวนไว้ข้างหิ้งพระ ขณะเกิดเหตุภาพพระบรมฉายาลักษณ์ หลุดจากฝาบ้านมาช่วยค้ำเพดานไม่ให้หล่นทับร่างเจ้าของบ้าน เป็นพระบารมีช่วยปกป้อง
จึงไม่ได้รับบาดเจ็บในเหตุการณ์ ชาวบ้านต่างมาดูเหตุการณ์ พบภาพที่เกิดขึ้น เชื่อว่าเป็นพระบารมีจากในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งนายลือเกียรติ ถึงกับยกมือไหว้ท่วมหัวที่รอดชีวิตมาได้และไม่ได้รับอันตรายจากเหตุการณ์ในครั้งนี้
พื้นที่โฆษณา
เครดิต http://ballkaew.com/9688/ -
"หลงโลก หลงยึด" : หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
"หลงโลก หลงยึด"
" .. ธรรมแท้ที่พระองค์ทรงสอนนั้นมิได้สอนอื่น แท้จริงก็คือ "สอนให้เห็นแลเข้าใจชัดแจ้ง ในเรื่องความเป็นอยู่ แลเป็นไปของโลก" นั้นเอง จึงจะหายกังวลสงสัยพ้นจากความข้องเกี่ยวในโลก ไม่มีทุกข์ "ผู้ที่ไม่เข้าใจแลรู้เรื่องของโลกตามเป็นจริงเท่านั้น ที่เป็นทุกข์"
คนเราเกิดมาที่ว่าเป็นทุกข์ ๆ นั้น "มันทุกข์ตรงที่ไม่เข้าใจแลรู้เรื่องของโลก แล้วเข้าไปยึดเอาโลกมาเป็นตนเป็นตัว เป็นของเรานี้เท่านั้น" ผู้ที่เข้าไปยึดเอาธาตุสี่ ขโมยธาตุสี่ ดิน น้ำ ไฟ ลม ที่เอามาประกอบเป็นตนเป็นคนขึ้นมานี้ มันเป็นของกลาง ไม่มีใครเป็นกรรมสิทธิ์สักคนเดียว
เราตายแล้วทอดทิ้งไว้ในโลกนี้ตามเดิม คนเกิดมาทีหลังก็จะเอามาประกอบให้เป็นคนต่อไปอีก ดังกล่าวแล้ว "ใครหลงเข้าไปยึดถือเอามาเป็นกรรมสิทธิ์ส่วนตัว คนนั้นได้ชื่อว่า ไปขโมยเอาของกลางมาเป็นของส่วนตัว" จะต้องมีโทษได้รับทุกข์มาก "เหมือนกับคนผู้ที่ไปขโมยเอาของหลวงแผ่นดิน" .. "
"โลกกับธรรมสัมพันธ์"
หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี -
พระไทยที่คนอินเดียรอคอย!! "พระอาจารย์อารยะวังโส" ผู้พลิกฟื้น "ศาสนาพุทธ" ให้กลับคืนสู่อินเดีย...ตามคำพยากรณ์!!
พระไทยที่คนอินเดียรอคอย!! "พระอาจารย์อารยะวังโส" ผู้พลิกฟื้น "ศาสนาพุทธ" ให้กลับคืนสู่อินเดีย...ตามคำพยากรณ์!!
ในการประชุม “พุทธศาสนาในศตวรรษที่ ๒๑” ซึ่งจัดโดยรัฐบาลอินเดียเมื่อวันที่ ๑๗-๑๙ มีนาคม ที่ผ่านมานั้น มีผู้นำชาวพุทธจากทั่วโลกเข้าร่วมประชุมมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือ “พระอาจารย์อารยะวังโส” ผู้แทนจากประเทศไทยที่ได้รับนิมนต์ให้เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ด้วย
การเข้าร่วมประชุมของพระอาจารย์อารยะวังโสนั้น ด้านหนึ่งก็คือบทบาทในฐานะผู้นำทางจิตวิญญาณของชาวพุทธที่จะต้องช่วยกันระดมความคิดในการหาแนวทางที่จะประยุกต์พุทธศาสนาเพื่อแก้ปัญหาต่าง ๆ ของโลก แต่ในอีกด้านหนึ่ง ท่านคือผู้ที่กระทรวงวัฒนธรรมของอินเดียนิมนต์ให้เข้าร่วมประชุมเป็นการเฉพาะในฐานะ “บุคคลที่ชาวพุทธในอินเดียเคารพนับถือ” เนื่องจากท่านเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูพุทธศาสนาในประเทศอินเดียอย่างแข็งขัน ถึงขนาดได้รับการยกย่องว่าเป็น “Guruji” (กูรูยี) หรือ “ผู้ที่จะหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งพุทธศาสนาลงบนแผ่นดินอินเดีย” เลยทีเดียว
พระอาจารย์อารยะวังโส... -
อำนาจ “พญาครุฑ” ความศักดิ์สิทธิ์ที่บันดาลแด่ผู้รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สยบอาถรรพณ์บันดาลความรุ่งเรือง #พาหนะศักดิ์สิทธิ์แห่งมหาเทพ
อำนาจ “พญาครุฑ” ความศักดิ์สิทธิ์ที่บันดาลแด่ผู้รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สยบอาถรรพณ์บันดาลความรุ่งเรือง #พาหนะศักดิ์สิทธิ์แห่งมหาเทพ
จากกระแสเรื่อง “”พญาครุฑ” ซึ่งถูกนำมาสร้างเป็นประติมากรรม ประดับตกแต่งพระเมรุมาศ ทางทีมข่าวปัญญาญาณ ทีนิวส์ เห็นว่าเรื่องราวอันเป็นเกร็ดความรู้เกี่ยวกับครุฑ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งพระมหากษัตริย์นั้น มีที่มาที่ไปน่าสนใจอยู่ไม่น้อย หลายๆ คนมีความศรัทธาและได้รับรู้เรื่องราวของพญานาคกันมามาก ทว่าเรื่องของ “พญาครุฑ” กลับมีผู้พูดถึงน้อยกว่า
วันนี้จึงได้นำเรื่องราวจากเพจ “เรารักพระพุทธเจ้าหลวง” ซึ่งได้เรียบเรียงให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องครุฑไว้อย่างน่าสนใจ โดยมีเนื้อหาระบุว่า...
(พญาครุฑ ประติมากรรมที่กรมศิลปากร นำมาตกแต่งพระเมรุมาศ)
"เกร็ดความรู้"
บารมี "องค์พญาครุฑ" สู่ความเจริญรุ่งเรืองแห่งชีวิต
ตำนานพญาครุฑ ในตำนานเมืองฟ้าป่าหิมพานต์นั้นมีเรื่องราวของสัตว์ที่มีอิทธิฤทธิ์มากมายหลายชนิด เช่น ราชสีห์ คชสีห์ อันมีลำตัวเป็น สิงห์แต่มีศีรษะเป็นช้าง กินรี กินนร และสัตว์แปลก ๆ อีกมากมาย ในบรรดาสัตว์ทั้งหลายนั้นมีสองอย่างที่นับว่าเป็นเทพเดรัจฉานมีฤทธิ์มากคือ... -
พระดีก็ย่อมมีโอปปาติกะไปขอความช่วยเหลือ!! ... เหมือน "พญานาค" ตัวนี้ที่จำแลงกายมาขอรับบารมีจาก "หลวงปู่หลุย" ณ ถ้ำแก้งยาว นานสามวันสามคืน!!
พระดีก็ย่อมมีโอปปาติกะไปขอความช่วยเหลือ!! ... เหมือน "พญานาค" ตัวนี้ที่จำแลงกายมาขอรับบารมีจาก "หลวงปู่หลุย" ณ ถ้ำแก้งยาว นานสามวันสามคืน!!
พญานาคที่ถ้ำแก้งยาว ...
ปี พ.ศ. ๒๕๐๔ ... "หลวงปู่หลุย จันทสาโร" จำพรรษาอยู่ที่ถ้ำแก้งยาว อยู่บนภูเขาซึ่งเป็นเขตของวัดป่าถ้ำแก้งยาว
ภูเขาที่ถ้ำแก้งยาวนี้ เชิงเขาทอดลงมาบรรจบติดกับทุ่งนา เป็นภูเขาไม่สูงนัก แต่ป่าที่ปกคลุมเขาอุดมสมบูรณ์และสงบวิเวก เหมาะแก่การบำเพ็ญเพียรอย่างยิ่ง
ถ้ำบนภูแก้งยาวไม่ใหญ่โตกว้างขวางนัก ทำแคร่เล็ก ๆ พอนั่งภาวนา กางกลดมุ้งได้ แต่หลวงปู่หลุยสรรเสริญถ้ำแก้งยาวมาก ท่านว่าเทพมาก มีพระปัจเจกพุทธเจ้าเสด็จมาอนุโมทนาการกระทำความเพียรของท่านด้วย
หลวงปู่หลุยท่านมักเปลี่ยนที่ภาวนา หากเห็นก้อนหินเหมาะ เห็นร่มไม้ใหญ่ดี ท่านจะใช้ผ้าอาบปัด ๆ หินก้อนนั้นหรือพื้นที่ตรงนั้นให้สะอาด และท่านก็นั่งลงทำความเพียรทันที บางคราวหลวงปู่หลุยเห็นต้นไม้ใหญ่ล้มทอดไปตามพื้นดิน ท่านก็จะขึ้นไปเดินจงกรมบนขอนไม้ล้มนั้น ทำให้มีสติระมัดระวังดี มิฉะนั้นจะตกลงมาจากขอนไม้ล้ม
วันหนึ่ง หลวงปู่หลุยออกจากถ้ำไปวิเวกที่ร่มไม้ในป่า เมื่อสมควรแก่เวลา... -
วิบากกรรมแห่งความรัก 21 อย่าง พร้อมวิธีแก้ไขด้วยแนวทางแห่งการทำบุญอย่างเป็นเคล็ดวิธี
วิบากกรรมความรัก 21 อย่างและการทำบุญแก้เคล็ด
1. เจ็บปวดทรมานใจจากการรักเค้าข้างเดียว
สาเหตุของกรรมมาจาก ในอดีตชาติ เคยแอบเคียดแค้น พยาบาท หรือลบหลู่ผู้ที่เราแอบรักในชาตินี้ จากกรรมที่เราทำร้ายคนผู้นั้นทางใจ โดยที่คนผู้นั้นไม่รู้เรื่องอะไรเลย ชาตินี้จึงส่งผลทำให้เราเจ็บปวดทรมานใจข้างเดียวโดยคนผู้นั้นก็ยังคงไม่รู้เรื่อง ไม่รับรู้อะไรเลย ทั้งชาตินี้และชาติหน้า
วิธีลดกรรม หรือแก้กรรม กรรมชนิดนี้แก้ไม่ยาก หากรู้ตัวว่า เป็นผลจากกรรมที่เราเคยคิดไม่ดีต่อเค้า ให้เราทำใจเสียว่า ความรักที่เรามีให้เขาเป็นเพียงกรมเก่า หลังจากนั้น ให้ตั้งจิตอธิษฐานขออภัย ขออโหสิกรรม จากเขาเสีย แล้วให้หมั่นทำบุญอธิษฐานจิต และแผ่ส่วนบุญกุศลให้เขา เมื่อเราเจอเขาก็ทำตัวปกติเสีย กรรมชนิดนี้เกิดขึ้นจากใจเรา และก็พยายามทำให้จบลงที่ใจเราเสีย -
พรานป่าเผยเรื่องเล่าอาถรรพ์เหรียญบาทตราครุฑ ปี ๒๕๑๗ และเหตุผลที่จะไม่นิยมแขวนพระเข้าป่า!
บรรดาพรานป่าจะไม่นิยมแขวนพระเข้าป่า เพราะเชื่อว่า พระเครื่องมีคุณทางเมตตาหรือแคล้วคลาด หากแขวนพระเข้าป่าจะไม่ได้เจอสัตว์ป่าเลย จะแคล้วคลาดไปหมด ด้วยเหตุนั้น พรานป่าจึงไม่คล้องพระเข้าป่า
พรานสุขเล่าว่า…จะพกถุงพลาสติกใส ซึ่งข้างในบรรจุด้วยยาสูบขี้โย ใบตองอ่อนตากแห้ง เปลือกมะขามไว้บดผสมยาสูบ และมีสิ่งหนึ่งที่พรานสุขใช้เป็นเครื่องราง พกติดตัวเข้าป่าโดยเก็บไว้ในซองยาสูบของแก นั่นคือ…”เหรียญบาทพญาครุฑ” ลักษณะตามภาพประกอบเรื่อง เป็นเหรียญที่แกพกเข้าป่าเป็นประจำ
“แล้วลุงสุขใช้เป็นเครื่องรางยังไงครับ”
การเข้าป่าและพักค้างคืนในป่านั้น พรานลุงสุขบอกว่าเต็มไปด้วยสิ่งลี้ลับ ตามคำเล่าขานของพรานป่าและคนตัดไม้ จากปากต่อปากของพรานป่าและคนตัดไม้ เล่าขานสืบต่อกันมาว่า หากจะนอนในป่า ไม่ว่าบริเวณใดก็ตาม ให้ตอกตราครุฑ โดยตอกให้ด้านที่เป็นรอยครุฑติดไว้เหนือบริเวณที่เราจะนอน ตอกเสร็จแล้วเก็บเหรียญพกไว้เหมือนเดิม เช่นเดียวกับพรานสุข ในค่ำคืนแห่งการเผชิญกับผีป่านางไม้ พรานสุขเอง ได้ขูดเปลือกโคนไม้ใหญ่ ขูดให้เรียบ แล้วตอกตราครุฑประทับติดไว้ เพื่อป้องกันสิ่งลี้ลับตามคำพรานและคนตัดไม้บอก... -
ขนหัวลุก!! เปิดตำนาน "โสมเฝ้าทรัพย์" กับอาถรรณ์สมบัติโบราณที่สมเด็จพระนเรศวรฝังไว้เพื่อแก้ดวงเมือง ณ วัดป่าแก้ว อยุธยา
เรื่องนี้มีหลักฐานและถูกเล่าขานกันนานแล้ว เป็นเรื่องจริงจากคำบอกเล่าของพระธุดงค์หลายรูป ที่เล่าตรงกันเกี่ยวกับขุมทรัพย์โบราณมูลค่ามหาศาลภายใน "วัดป่าแก้ว" หรือ วัดใหญ่ชัยมงคล จ.พระนครศรีอยุธยา
วัดนี้ตามประวัติกล่าวไว้ว่า เดิมเป็นวัดราษฎร์เรียกกันว่าวัดป่า ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกับวัดสำคัญประจำนครอโยธยาเดิมคือวัดพนัญเชิง วัดมเหยงค์ วัดกุฎีดาว และวัดอโยธยา ครั้งถึงแผ่นดินสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) ได้ทรงให้ขุดศพเจ้าแก้วเจ้งไท เชื้อพระวงศ์ที่เป็นอหิวาตกโรคตาย ขึ้นพระราชทานเพลิงที่วัดนี้แล้วทรงซ่อมแซมบูรณะเจดีย์วิหาร ก่อนจะทรงสถาปนาขึ้นเป็นพระอารามหลวง พระราชทานนามว่า "วัดเจ้าพญาไท" ให้เป็นที่พำนักของพระพนรัต ซึ่งเป็นพระสังฆราชฝ่ายอรัญวาสี และด้วยอาณาเขตของวัดที่กว้างใหญ่ ชาวบ้านจึงนิยมเรียกชื่อ "วัดใหญ่" ตั้งแต่นั้นมา
จนล่วงมาถึงปี พ.ศ. 1991 - 2031 ในแผ่นดินสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ พระสงฆ์ไทยคณะหนึ่งนำกันออกไปอุปสมบทแปลงเป็นสิงหนีนิกาย และศึกษาพระพุทธศาสนา ณ สำนักพระพนรัต มหาเถระในลังกาทวีป สำเร็จแล้วกลับมาตั้ง "คณะป่าแก้ว" ที่ "วัดเจ้าพญาไท" จึงนิยมเรียกชื่อกันว่า... -
อยากให้เกิดขึ้นในสมัยนี้บ้าง!! เปิดตำนานกรรม " 5 ผู้ต้องธรณีสูบ " ผู้ทำบาปต่อพระอรหันต์ ในสมัยพุทธกาล !!!
อยากให้เกิดขึ้นในสมัยนี้บ้าง!! เปิดตำนานกรรม " 5 ผู้ต้องธรณีสูบ " ผู้ทำบาปต่อพระอรหันต์ ในสมัยพุทธกาล !!!
ในสมัยพระพุทธองค์มีคนที่ทำความชั่วจนถูกธรณีสูบไป 1 คน คือ พระเทวทัต แต่ความจริงมีถึง 5 ซึ่งทุกคนล้วนแต่ก่อกรรมทำเข็ญมุ่งร้ายต่อพระพุทธองค์และสาวกของพระองค์ทั้งสิ้น
1. พระเทวทัต เป็นพระประยูรญาติและเป็นพระเชษฐาของพระนางยโสธรา (พิมพา) พระมเหสีของเจ้าชายสิทธัตถะ ท่านอาฆาตจองเวรกับพระพุทธองค์ตั้งแต่ทรงพระเยาว์ และเมื่อเข้ามาบวชก็แสดงความมักใหญ่ใฝ่สูง อยากเป็นศาสดาของศาสนา โดยวีรกรรมอันน่าโจษจันมีตั้งแต่แสดงการเหาะเหินเดินอากาศให้เจ้าชายอชาตศัตรูดู เพื่อให้เกิดความเลื่อมใสและขอเป็นศิษย์ หลังจากนั้นก็ยุแหย่ให้เจ้าชายทำการลอบปลงพระชนม์พระราชบิดา
แล้วยังพยายามลอบปลงพระชนม์พระพุทธเจ้าอีกหลายครั้ง เช่น ปล่อยช้างตกมันให้วิ่งเข้าชนบ้าง จ้างนายธนู 10 คนมาลอบยิงบ้าง และสุดท้ายพยายามกลิ้งหินให้ตกจากเขาคิชกูฏ โดยหมายให้หินหล่นทับพระพุทธเจ้า แต่หินกลับกระเด็นหนีอย่างน่าอัศจรรย์ใจ ทว่าสะเก็ดหินกับไปถูกข้อพระบาทจนห้อเลือด แถมยังเสนอให้พระพุทธเจ้าลาออก... -
ผลของกรรมหนัก!!! "พระเจ้าอชาติศัตรู" ผู้กระทำปิตุฆาต "ฆ่าพ่อตัวเอง" ต่อให้ทำความดีมากมาย ก็ลบกรรมฆ่าพ่อแม่ไม่ได้ #กรรมหนักที่สุดในพุทธศาสนา
ผลของกรรมหนัก!!! "พระเจ้าอชาติศัตรู" ผู้กระทำปิตุฆาต "ฆ่าพ่อตัวเอง" ต่อให้ทำความดีมากมาย ก็ลบกรรมฆ่าพ่อแม่ไม่ได้ #กรรมหนักที่สุดในพุทธศาสนา
พระเจ้าอชาตศัตรู
พระเจ้าอชาตศัตรูพระราชโอรสของพระเจ้าพิมพิสาร กษัตริย์แคว้นมคธ ซึ่งประสูติแต่พระนางเจ้าเวเทหิเอกอัครมเหสี(พระราชธิดาของพระเจ้ามหาโกศลกษัตริย์แคว้นโกศล (พระบิดาของพระเจ้าปเสนทิ) พระองค์เป็นพระอนุชาต่างพระราชมารดาของอภัยราชกุมาร ซึ่งประสูติแต่พระนางปทุมวดีราชเทวี
อรรกถากล่าวว่า เมื่อพระองค์ยังอยู่ในพระครรภ์ของพระมารดานั้น พระมารดาทรงแพ้ท้องทรงกระหายจะดื่มพระโลหิตที่พระพาหา(แขน)เบื้องขวา
ของพระสวามีแต่ไม่กล้าทูลขอ ทำให้พระนางทรงซูบผอมไม่สดใสจนพระเจ้าพิมพิสารทรงสงสัยแล้วตรัสถามเมื่อทรงทราบ ก็ทรงเฉือนพระพาหา
ของพระองค์ด้วยพระศาสตราทองทรงเอาพระโลหิตที่ไหลออกผสมกับน้ำ ประทานให้พระนางดื่ม เรื่องนี้เหล่าพระโหราจารย์ได้ทำนายว่า
พระโอรสในพระครรภ์เป็นศรัตรูกับพระราชบิดา
เมื่อพระนางได้สดับคำทำนายนี้ ก็ทรงต้องการทำลายพระครรภ์ให้ตกไปด้วยการหลบเข้าไปบีบพระครรภ์ในพระราชอุทยาน... -
คำสอนหลวงพ่อเรื่อง "พิจารณาความทุกข์"
คำสอนหลวงพ่อเรื่อง "พิจารณาความทุกข์"
การเจริญพระกรรมฐาน "เป็นปรมัตถปฏิบัติ" ถ้าบารมีก็เป็น "ปรมัตถบารมี"
เพราะว่าเป็นการปฏิบัติสูงสุดในพระพุทธศาสนาพระพุทธเจ้าต้องการจุดนี้
จุดเจริญพระกรรมฐาน
ฉะนั้นการเจริญกรรมฐานเราต้องลืมให้มันหมดลืมประเดี๋ยวเดียวนะอย่าลืม
ตลอดชีวิต กลับไปบ้านนึกถึงภารกิจต่างๆ ที่เราทำ แต่พร้อมกันนั้นก็ต้อง
คิดไว้ด้วยว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ เราจะควบคุมเราจะทรงมันไว้
เพราะมีชีวิตต้องกินต้องใช้ แต่ว่ามันก็มีความทุกข์
ถ้าเราตายไปแล้ว สิ่งทั้งหลายจะไปอยู่กับใครก็ช่างมันเราไม่
ต้องการมันอีก การเกิดเป็นมนุษย์วุ่นวายแบบนี้เราไม่ต้องการ
เป็นเทวดาหรือพรหมมันพักความวุ่นวายเพียงชั่วคราว เดี๋ยวก็ย่องเข้ามา
ใหม่ เราก็ไม่ต้องการ จุดที่เราต้องการ ความสุขจริงๆ ก็คือพระนิพพาน
ต้องการไว้นะจุดนี้นะ
"กรรมฐานนี่มันอยู่ที่ใจอย่างเดียวขึ้นอยู่กำลังใจ" เห็นว่าร่างกายนี้เป็นเราเป็น
ของเรา หรือไม่ใช่เราไม่ใช่ของเรา ถ้าร่างกายมันเป็นเราจริงเป็นของเราจริง
เราก็ต้องบังคับมันได้
อย่างเงินในกระเป๋า ถ้าเราไม่ใช้เสียอย่างหนึ่ง มันก็อยู่ในกระเป๋าตลอดเวลา
ถ้าเราใช้มัน มันก็หมดไป... -
"บุญในพุทธศาสนา หมดไม่เป็น"
"บุญในพุทธศาสนา หมดไม่เป็น"
" .. ผู้ทำบุญโดยส่วนมาก ๙๙ เปอร์เซ็นต์ เพื่ออุทิศแก่ผู้มีพระคุณทั้งหลาย มีบิดามารดาเป็นต้น ชาวพุทธมีดีตรงนี้แหละ พุทธศาสนาสอนให้รู้จักบุญคุณของผู้ที่มีพระคุณทั้งหลาย แล้วทำดีเพื่อสนองพระคุณของท่านเหล่านั้น "ถ้าไม่รู้จักบุญคุณของผู้มีพระคุณแล้ว คนเราก็จะกลายเป็นเดรัจฉานไปหมด"
"การทำความดี" คือบุญกุศลนี้ย่อมทำสิ่งที่เป็นคุณประโยชน์ ไม่ทำสิ่งที่เป็นโทษแก่ตนและคนอื่น "ทำในที่เปิดเผย ไม่ทำในที่ลับด้วยและทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ" ไม่เหมือนกับคนที่ทำความชั่ว
"ทำความชั่วนั้น ทำด้วยความเศร้าหมอง ไม่ผ่องใสและก็ทำในที่ลับไม่เปิดเผยด้วย" ทั้งไม่อุทิศส่วนบาปนั้นให้แก่ผู้มีพระคุณทั้งหลาย ถึงแม้อุทิศให้แก่ใครก็ไม่มีใครอยากรับ เพราะเป็นของเศร้าหมอง
"ทำบุญให้แก่ผู้มีพระคุณที่ตายไปแล้วนี้ จงทำด้วยของบริสุทธิ์" อย่าไปฆ่าเป็ด ไก่ ฆ่าวัว ฆ่าควายมาทำ จะบาปหนักเข้าไปอีกทำเล็ก ๆ น้อย ๆ ด้วยใจผ่องใสบริสุทธิ์ เป็นต้นว่า ตักบาตรถวายอาหารพระสงฆ์ บุญก็มากเอง "บุญมิใช่เกิดเพราะไทยทานมาก ๆ แต่เกิดขึ้นจากใจเลื่อมใสศรัทธาต่างหาก"
"เปรียบเหมือนเทียนที่เรามีอยู่แล้วไปขอต่อจากคนอื่น... -
เคล็ดไหว้ขอพร หลวงพ่อสัมฤทธิ์ วัดไผ่เงิน ยามดวงตก(ตำรับ วัดไผ่เงิน)
สำหรับวันนี้ ใครที่ทำอะไรติดขัด สิ่งที่ได้จะไม่ค่อยได้หรือไม่สมหวังในทุกเรื่องบางคนทำดีแล้วความดีไม่ได้ตอบสนอง จนทุกข์ไปหาหมอดูก็หลอกให้แก้ไม่ตรงจุด
ลองเอาเคล็ดนี้ที่ผมได้จากวัดไผ่เงินมาลองทำดูชีวิตคุรอาจดีแบบหน้ามือเป็นหลังมือเลยก็ได้ เคล็ดนี้แม่ผมได้รับจากวัดไผ่เงินโชตนาราม เลยนำมาบอกต่อ เคล็ดก็คือการไหว้ขอพร ฝากตัว หลวงพ่อสัมฤทธิ์ วัดไผ่เงินเพื่อขอบารมีหลวงพ่อท่านปัดเป่าช่วยเหลือ โดย หลวงพ่อสัมฤทธิ์ เป็น พระพุทธรูปปางมารวิชัย วัสดุสำริด ลง รักปิดทอง หน้าตักกว้าง 2.2 เมตร ศิลปะสมัยสุโขทัย เดิมประดิษฐานอยู่ที่วัดพระยาไกร เช่นเดียวกับพระสุโขทัยไตรมิตรหลวงพ่อสัมฤทธิ์ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ ส่วนพระสุโขทัยไตรมิตร ประดิษฐานอยู่ในพระวิหาร เชื่อกันว่าเป็นพระพุทธรูปที่อัญเชิญมาจากสุโขทัยทั้งสององค์และเป้นคู่แฝดกับหลวงพ่อทองคำ เคล็ดนี้สมัยแม่ผมติดขัดเรื่องการขายที่ดิน ได้ไปกราบท่านก็มีผู้รู้แนะนำ หลังจากนั้น ไม่นานที่ดินที่ติดขัดก็ขายได้ถึงขนาดคนขายเอาเงินสดมาให้เลย นอกจากนี้มีเจ้าหน้าที่เขตสาทร(กวาดถนน)ท่านนึงจนมาก แม่ผมแนะนำ... -
ประสบการณ์หลวงพ่อผ่อง วัดสำโรงใต้ จ.สมุทรปราการ
สวัสดีครับวันนี้ผมจะมาเล่าเรื่องประวัติพระเกจิในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการรูปหนึ่ง หลวงพ่อผ่องแห่งวัดสำโรงใต้
หลวงพ่อผ่องท่านเป็นคนวัดท้องคุ้งจังหวัดสมุทรปราการ ท่านเกิดวันที่เท่าไหร่ผมยังไม่ทราบข้อมูลผมเข้าไปที่วัดบ่อยอยู่ยังไม่ได้ศึกษาประวัติท่านมากเท่าไหร่แต่ก็รู้มาเยอะพอสมควร หลวงพ่อผ่องท่านมาดำรงค์ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสำโรงใต้เมื่อ พ.ศ.2488
จากประสบการ์ณที่ผมเคยได้ยินมากจากลูกศิษย์ท่านที่เล่าให้ฟังว่าสมัยนั้นมีงานวัดจ้างหนังกลางแปลงมาหลวงพ่อท่านบอกกับลูกศิษย์ว่าจะไม่เก็บเงินจากคนที่มาดู แต่ลูกศิษย์และทางวัดเกรงว่าจะไม่มีเงินเข้าวัดก็เลยขอร้องหลวงพ่อให้เก็บ ท่านเป็นพระที่ใจดีใครมากราบท่านก็ให้เข้าหาหมดแถมแจกวัตถุมงคลด้วย
ถ้าพูดถึงเรื่องวัตถุมงคลที่นิยมของท่านก็จะมีเหรียญรุ่นแรกสร้างเมื่อ พ.ศ.2515
มีเนื้ออัลปาก้ากับเนื้องทองแดงด้านหน้าเป็นรูปท่านด้านหลังเป็นพระพุทธโสธรจำลองเหรียญรุ่นนี้มีประสบการณ์มากทั้งในอดีตจนถึงปัจจุบัน ในวันที่ปลุกเสกเหรียญรุ่นนี้ไม่ทราบมีเกจิท่านใดมาบ้างแต่ตอนทำพิธีปลุกเสกได้เกิดฟ้าร้องฟ้าผ่าลั่น... -
"ความหมายและหัวใจของพระโพธิสัตว์" ผู้ที่ปราถนาเดินตามทางสายโพธิสัตว์จำเป็นต้องประพฤติเช่นนี้..
"ความหมายและหัวใจของพระโพธิสัตว์" ผู้ที่ปราถนาเดินตามทางสายโพธิสัตว์จำเป็นต้องประพฤติเช่นนี้..
พุทธศาสนิกชนชาวจีนจะรู้จักพระโพธิสัตว์พระองค์นี้ในพระนามว่า กวนซีอิม หรือ กวนอิม ซึ่งก็มีความหมายเช่นเดียวกับคำว่าอวโลกิเตศวรในภาษาสันสกฤต คือผู้เพ่งสดับเสียงแห่งโลก แต่โดยทั่วไปแล้วมักให้อรรถาธิบายเป็นใจความว่าหมายถึง พระผู้สดับฟังเสียงคร่ำครวญของสัตว์โลก (ที่กำลังตกอยู่ในห้วงทุกข์) คำว่ากวนซีอิมนี้พระกุมารชีวะชาวเอเชียกลางผู้ไปเผยแผ่พระศาสนาในจีนเป็นผู้แปลขึ้น ต่อมาตัดออกเหลือเพียงกวนอิมเท่านั้น เนื่องจากคำว่าซีไปพ้องกับพระนามของ จักรพรรดิถังไท่จง หรือ หลีซีหมิง นั่นเองประวัติ และ ตำนาน เจ้าแม่กวนอิม
เจ้าแม่กวนอิม เป็นพระโพธิสัตว์ ของพระพุทธศาสนา ฝ่ายมหายาน เป็นองค์เดียวกันกับพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ในภาษาสันสกฤต ซึ่งมีต้นกำเนิดจากพระสูตรมหายานในอินเดีย และได้ผสมผสานกับความเชื่อพื้นถิ่นดั้งเดิมของจีน คือตำนานเรื่องพระธิดาเมี่ยวซ่าน ก่อให้เกิดเป็นพระโพธิสัตว์กวนอิมในภาคสตรีขึ้น เพื่อแสดงออกถึงความอ่อนโยน และแสดงถึงความเมตตากรุณาให้เด่นชัดยิ่งขึ้นดังเช่นความรักของมารดาที่มีต่อบุตร... -
อัศจรรย์!! คำทำนาย เมื่อร้อยกว่าปี "ครูบาศรีวิชัย" พระผู้รู้แจ้งในอนาคต ถูกต้องตรงตามที่กล่าวไว้ทุกประการ
อัศจรรย์!! คำทำนาย เมื่อร้อยกว่าปี "ครูบาศรีวิชัย" พระผู้รู้แจ้งในอนาคต ถูกต้องตรงตามที่กล่าวไว้ทุกประการ สาธุ สาธุ สาธุ...
ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา เป็นผู้มีศีลาจารวัตรที่งดงามและเคร่งครัด ครูบาศรีวิชัย เป็นที่รู้จักและอยู่ในความทรงจำของชาวล้านนา คือการที่ท่านเป็นผู้นำในการสร้างทางขึ้นสู่ วัดพระธาตุดอยสุเทพโดยพลังศรัทธาประชาชนเป็นจำนวนมาก ทั้งกำลังกายและกำลังทรัพย์ ซึ่งใช้เวลาสร้างเพียง 5 เดือนเศษ โดยไม่ใช้งบประมาณของรัฐ หรือส่วนราชการเลย
นอก จากนี้ ท่านยังทำนายบ้านเมืองในภายภาคหน้า ซึ่งก็คือปัจจุบัน ได้ตรงอย่างน่าขนลุก ความว่า ( ภาษากำเมือง ) “ต่อไปเบื้องหน้า… วัดจะหมอง มองจะห่าง หนตางจะเลี่ยน โฮงเฮียนจะดี คนบ่มีจะได้กิ๋นข้าว คนเฒ่าใส่เขี้ยวขาว แม่ฮ้างนางสาวจะนุ่งเตี่ยว ป่าเฮ่วม่วนเหมือนปอย ภูดอยจะล้าน คนขี้คร้านจะได้กิ๋นดี คนบ่ดีหนีไปนอนสาด ตูบกาดเต๋มบ้านเต๋มเมือง น้ำเหมืองเอาน้ำแม่ งัวควายบ่แพร่ คนเฒ่าคนแก่บ่มีไผแอ่วหา ปู๋ปล๋าหนีน้ำ เอาน้ำตกกับถ้ำเป๋นตี้แอ่วตี้จุม คนจักชุมนุมกั๋นเป๋นกลุ่มเป๋นก้อน บ้านเมืองจะเดือดฮ้อน ละอ่อนสอนบ่ฟังกำ คนใจ๋ดำมีทั่วประเทศ... -
วิธีที่ทำให้ "..อำนาจของกฏของกรรม.." ค่อย ๆ คลายตัว ฯ
หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
วิธีที่ทำให้ """อำนาจของกฏของกรรม"""
ค่อย ๆ คลายตัว ถ้าทำทุกวันต่อไปจะเหลือนิดเดียว
ลุงพุฒ(ท่านพญา ยมราช) มาบอกหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ให้บอกลูกหลานว่า
ถ้ามีกำลังใจสูงกำลังใจเข้มข้นแล้ว ก็ไม่ต้องใช้เหรียญทำน้ำมนต์ ให้นึกถึงภาพยันต์ทำน้ำมนต์
(ที่อยู่ด้านหลังเหรียญ)ให้อยู่กลางกระหม่อม
แล้วก็สวดภาวนาตามวิธีอาราธนาใช้เหรียญไปเรื่อยๆ จะค่อยๆคลายกฎของกรรมได้ ถ้าทำทุกวันต่อไปก็จะเหลือนิดเดียว
☆☆☆ วิธีการอาราธนาเหรียญทำน้ำมนต์ ☆☆☆
1. นึกถึงภาพยันต์ทำน้ำมนต์ (ที่อยู่ด้านหลังเหรียญ) ให้อยู่ตรงกลางกระหม่อม
2. ตั้ง นะโม 3จบ ท่อง อิติปิโส ทั้ง 3 ห้อง
(อิติปิโส... สวากขาโต... สุปฏิปันโน...) 7 จบ
และท่อง นะ มะ พะ ธะ
(พร้อมทั้งกำหนดลมหายใจเข้า-ออกด้วยจะดีมาก โดยหายใจเข้าภาวนาว่า “นะมะ” หายใจออกภาวนาว่า “พะธะ”) 15 จบ
3. แล้วอธิษฐานตามความปรารถนา แต่จะมีผลเฉพาะผู้ที่มีความเคารพในพระรัตนตรัยเท่านั้น
☆☆☆ ผลของเหรียญทำน้ำมนต์ ☆☆☆
ผู้ถาม : กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง กระผมปฎิบัติเป็นประจำดังต่อไปนี้ และได้ผลเป็นที่พอใจ คือ…
๑. เวลาปกติผมสวดมนต์... -
ตำนานหลวงปู่เขียน สำนักขุนเณร พระอมตเถระเมืองพิจิตร
เล่าขานตำนานหลวงปู่เขียน สำนักขุนเณร พระอมตเถระเมืองพิจิตร ตอน ปฐมวัย
หลวงพ่อเขียน ซึ่งกระผมได้เคยเรียนท่านทั้งหลายไว้ว่า ไม่สามารถหา ประวัติของหลวงพ่อได้ ถ้าหาพบเมื่อไร จะนำมาเรียนเสนอในภายหลัง บัดนี้หาพบแล้ว จึงขอนำมาเรียนเสนอตามสัญญาที่เคยบอกไว้ ก็ขอเรียนเชิญติดตามได้เลยครับ... (เค้าโครงเรื่อง จากงานเขียนของ คุณ “น้ำน่าน”)
“มีคนเล่าลือถึง หลวงพ่อองค์หนึ่งว่า วาจาท่านศักดิ์สิทธิ์นัก ทั้งมีการประพฤติปฏิบัติ ในทางกรรมฐาน เคร่งครัดโดยเฉพาะเวลาวิกาลแล้ว มักจะนั่งสมาธิอยู่ค่อนคืนเป็นประจำ และ ที่มหัศจรรย์ผิดแผกกว่าพระอาจารย์อื่นๆ ก็คือ ท่านหัวเราะเหมือนเสียงไก่ขัน ! หลวงพ่อรูปนี้ จำพรรษาอยู่ที่วัดสำนักขุนเณร ตำบลวังงิ้ว อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร มีชื่อว่า หลวงพ่อเขียน ธัมมรักขิโต
หลวงพ่อเขียน เมื่อเป็นฆราวาสนั้น ท่านมีชื่อว่า เสถียร เกิดเมื่อ วันเสาร์ เดือน ๔ ปีขาล (พ.ศ. ๒๓๙๙) ที่บ้านตลิ่งชัน ตำบลชอนไพร อำเภอเมือง จังหวัด เพชรบูรณ์ บิดาชื่อ ทอง มารดาชื่อ ปลิด มีพี่น้องร่วมท้องเดียวกัน ๕ คน เป็นชาย ๓ หญิง ๒ ตัวท่านเป็นบุตรคนที่ ๓
เมื่อยังครั้งเยาว์วัย...
หน้า 377 ของ 413