คลังเรื่องเด่น
-
แค่เสียงสาธุการ!!! ก็สร้างความสุขแก่เทวดา และสะเทือนเลื่อนลั่นไปสุดขอบจักรวาลปู่มั่นยืนยัน
แค่เสียงสาธุการ!!! ก็สร้างความสุขแก่เทวดา และสะเทือนเลื่อนลั่นไปสุดขอบจักรวาลปู่มั่นยืนยัน
สมัยที่ท่านพระอาจารย์มั่นพักอยู่บนดอยปะหร่อง (เชียงใหม่) กับพระอาจารย์มนู ตอนเช้าเที่ยวบิณฑบาต พอให้พรเสร็จ ท่านได้สอนให้ชาวบ้านกล่าวสาธุพร้อมกันด้วยเสียงสูง ท่าน (พระอาจารย์มั่น) เล่าเป็นเชิงตลกว่า มือทั้งสองข้างของเขาชูขึ้นข้างบนเหมือนบั้งไฟจะขึ้นสู่ท้องฟ้าว่างั้น
วันหนึ่ง ท่านนั่งพักในส่วนที่ทำเป็นที่พักกลางวัน มีเทพพวกหนึ่งมาจากเขาจิตรกูฏ มาถามท่านว่า
"เสียงสาธุ สาธุนั้น สาธุอะไร สะเทือนสะท้านทุกวัน พวกเทพทั้งหลายได้ฟัง มีความสุขไปตามๆ กัน"
ท่านมาพิจารณาว่า เสียงอะไร ที่ไหน จึงระลึกได้ว่า เสียงสาธุการของชาวบ้านตอนถวายทานนั่นเอง
พอรับทราบแล้วพวกเทพก็กล่าวว่า "เขาก็สาธุการด้วย" แล้วทำประทักษิณเวียนขวาลากลับไป ส่วนมากพวกเทพเขาจะทำอย่างนั้น
ท่านพระอาจารย์มั่น เลยมาพิจารณาต่อได้ความว่า
พุทธมนต์นั้นใครสวดก็ตาม จะเป็นกิจวัตรของพระสงฆ์เช้า เย็น หรือชาวพุทธทุกคน
สวดมนต์ระลึกในใจ มีอานุภาพแผ่ไปได้หมื่นจักรวาล
สวดออกเสียงพอฟังได้ มีอานุภาพแผ่ไปได้แสนจักรวาล
สวดมนต์เช้าเย็นธรรมดา... -
สวดมนต์ก่อนนอนมักง่วงก่อนสวดจบ แก้อย่างไร
สวดมนต์ ก่อนนอนมักง่วงก่อนสวดจบ แก้อย่างไร
เวลา สวดมนต์ ก่อนนอน แล้วง่วงก่อนสวดมนต์จบนับเป็นปัญหาของใครหลายๆคน พระอาจารย์จะตอบวิธีแก้ไขและความเข้าใจเกี่ยวกับการสวดมนต์
ถาม:
เวลา สวดมนต์ ก่อนนอนมักง่วงก่อนสวดจบ มีวิธีแก้อย่างไร
ตอบ:
สวดให้มันดัง ๆ เอาให้ดังลั่นเลย จะได้หายง่วง สวดให้ได้ยินเสียงตัวเองก็หายง่วงแล้ว ถ้าสวดในใจมันก็ง่วง
นอกจากนี้ พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี อธิบายไว้ว่า ก่อนที่เราจะสวดมนต์ให้หายง่วง เราควรทราบความเป็นมาของการสวดมนต์เสียก่อน
ตามหลักพุทธศาสนาที่แท้จริง การสวดมนต์มีประโยชน์อย่างไรบ้างคะ หรือเป็นเพียงแค่อุบายไม่ให้เราฟุ้งซ่าน
การสวดมนต์น่าจะเกิดขึ้นจากประเพณีการเล่าเรียน ธรรมะที่สืบเนื่องมาแต่สมัยพุทธกาล ในสมัยที่พระพุทธองค์ยังมีพระชนมชีพอยู่นั้น พระสงฆ์จะฟังธรรมจากพระองค์แล้วจำไว้ จากนั้นจะแบ่งกลุ่มกันจำพระพุทธวจนะเป็นกลุ่ม เช่น สายพระอานนท์จะจำพระสูตร สายพระสารีบุตรจะจำพระอภิธรรม สายพระอุบาลีจะจำพระวินัย พระสงฆ์ที่เป็นหัวหน้าสายก็จะมีศิษยานุศิษย์ของตนมากมาย ช่วยกันจำพระพุทธ-วจนะ ลักษณะการเล่าเรียนพระพุทธวจนะนั้นดำเนินในแบบ “ปาก-ต่อ – ปาก” (มุขปาฐะ) คือ... -
"คาถาบูชานาคราช ผู้คอยคุ้มครองพุทธศาสนา"
"คาถาบูชานาคราช ผู้คอยคุ้มครองพุทธศาสนา"
สุมะโน สุมะนะจะโล อะระวาเฬระปัตตะโก
จัมเปยโย มุจะลินโท จะ กัมพะโล ภุชะคิสสะโร
(สุมนะนาคราช สุมนจละนาคราช อรวาฬะนาคราช
เอฬปัตตกะนาคราช จัมเปยยะนาคราช มุจลินทะนาคราช กัมพละนาคราชผู้เป็นใหญ่)
กาละนาโค มะหากาโฬ สังขะปาโล มะโหทะโร
มะณิกัณโฐ มะณิอักขิ นันทะนาโคปะนันทะโก
(กาละนาคราช มหากาฬะนาคราช สังขปาละนาคราช มโหทระนาคราชมณิกัณฐะนาคราช มณิอักขินาคราช นันทะนาคราช อุปนันทะนาคราช)
วะรุโณ ธะตะรัฏโฐ จะ กุงคุวิโลปะลาละโก
จิตระนาโค มะหาวีโร ฉัพยาปุตโต จะ วาสุกี
(วรุณะนาคราช ธตรัฏฐะนาคราช กุงคุวิละนาคราช อปลาลกะนาคราชจิตระนาคราช มหาวีระนาคราช ฉัพยาปุตตะนาคราช วาสุกีนาคราช)
กัณหาโคตะโม ภุชะคินโท อัคคิธูมะสิโข ตะถา
จูโฬทะโร อะหัจฉัตโต นาคา เอราปะถาทะโย
(กัณหาโคตรมะนาคราช นาคผู้เป็นจอมนาค อัคคิสิขะนาคราช ธูมะสิขะนาคราชอหิจฉัตตะนาคราชจูโฬทระนาคราชพญานาคทั้งหลายมีเอระปะถะนาคราชเป็นต้น)
อาสีวิสา โฆระวิสา เย สัพเพ นะยะนาวุธา
ชะลัฏฐา วา ถะลัฏฐาวา ปัพพะเตยยา นะทีจะรา
กะโรนตุ โน มะหาโสตถิง อายุมาโรคิยัง สะทา
(หมู่นาคราชทั้งปวงเหล่าใด... -
พลังบุญ สร้าง"ฤทธิ์ทางใจ"
พลังบุญ สร้าง"ฤทธิ์ทางใจ"
“บุญนั้นเป็นที่พึ่งได้จริง “ ครูบาอาจารย์ตั้งแต่อดีตกาล
ท่านรู้ ท่านทำ ท่านสร้างและเมตตาบอกคนที่กำลังทุกข์ยากให้รู้จัก
พลานุภาพแห่งบุญ ที่จะดลบันดาล
สร้างปาฏิหาริย์ใหญ่ในชีวิต
สำหรับท่านที่ทำบุญแต่ไม่ได้หวังผลอะไรทางโลก
ไม่ได้หวังว่าจะได้รับ
ขอบอกตรงนี้ว่า อันต้นไม้ที่ออกผลนั้น
เมื่อถึงเวลาที่ออกผลก็ต้องออก
เป็นกฏธรรมชาติ เป็นกฏแห่งกรรม
ท่านจะใช้กิน ใช้ประโยชน์หรือไม่ เป็นสิทธิ์ของท่าน
แต่สำหรับผลบุญที่เกิดขึ้นจากบุญนั้น ดีอย่างไร
ขอเมตตาครูบาอาจารย์
นำมาให้ท่านที่ไม่เคยทราบได้อ่านกัน
เมตตาธรรมจาก พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
“เพราะบุญนี้เป็นที่พึ่งของใจ ถ้าใจมีบุญแล้วใจจะมีความสุข
ใจจะไม่มีความทุกข์ ถึงแม้ว่าจะเดือดร้อนจะอดอยากขาดแคลน ร่างกายจะแก่จะเจ็บจะตาย ถ้ามีบุญแล้วใจจะไม่ทุกข์กับการอดอยากขาดแคลน
การเจ็บไข้ได้ป่วยของทางร่างกาย ซึ่งร่างกายของพวกเราทุกคน ต่อไปก็จะต้องแก่กัน จะต้องเจ็บไข้ได้ป่วยกัน จะต้องตายกัน ถ้าเราไม่มีบุญเราจะทุกข์มาก
เพราะใจไม่มีที่พึ่ง ไม่มีสิ่งที่จะยึดเหนี่ยวจิตใจไม่ให้ทุกข์ไปกับความแก่ ความเจ็บ ความตายของร่างกาย... -
สามเณรสังกิจจะผู้บรรลุธรรมขณะปลงผมบวช
......สามเณรสังกิจจะ เป็นบุตรธิดาเศรษฐีชาวเมืองสาวัตถีคนหนึ่ง ในขณะที่อยู่ในท้องมารดานั่นเอง มารดาได้เสียชีวิตลง ญาติพี่น้องจึงนำนางไปเผา ในขณะที่ไฟกำลังไหม้ร่างกายของนางอยู่นั้น เป็นอัศจรรย์ที่ไฟไม่ไหม้ส่วนท้อง พวกสัปเหร่อได้ใช้หลาวเหล็กแทงส่วนท้องที่ไฟไม่ไหม้นั้นเสร็จแล้วก็กลบด้วยถ่านเพลิง ปลายหลาวเหล็กได้ไปกระทบที่หางตาของทารกนั้นพอดี พอกลบถ่านเพลิงเข้ากับส่วนที่ยังไม่ไหม้แล้ว ก็พากันกลับบ้านด้วยหวังว่าพรุ่งนี้ค่อยมาดับไฟเก็บอัฐิ
ไฟได้ไหม้ร่างกายของมารดานั้นหมดสิ้น เว้นเฉพาะทารกน้อยเท่านั้นที่รอดชีวิตอยู่ได้อย่างปาฏิหาริย์เหมือนกับนอนอยู่ในกลีบบัวก็ปานนั้น ไฟไม่ได้ทำอันตรายใด ๆ เลย ที่เป็นเช่นนั้นเพราะผู้ที่เกิดในภพสุดท้าย ถ้ายังไม่บรรลุพระอรหันต์แล้ว อะไรก็ไม่สามารถทำให้เสียชีวิตได้
เช้าวันรุ่งขึ้นพวกสัปเหร่อมาดับไฟเห็นเด็กนอนอยู่โดยปราศจากอันตรายก็อัศจรรย์ใจ อุ้มกลับบ้านไปให้พวกหมอทำนายชีวิตดู หมอทำนายไว้ ๒ ด้าน คือ ถ้าเด็กอยู่ครองเรือน พวกเครือญาติ ๗ ชั่วโคตรจักไม่ยากจน ถ้าออกบวชจักมีพระ ๕๐๐ รูปเป็นบริวารแวดล้อม พวกญาติจึงตั้งชื่อให้ว่า สังกิจจะ... -
“ศีล” จุดเริ่มต้น ของปาฏิหาริย์ใหญ่แห่งชีวิต
“ศีล” จุดเริ่มต้น
ของปาฏิหาริย์ใหญ่แห่งชีวิต
หลายคนที่มีปัญหามากมายในชีวิตทั้งเรื่องเงิน
งาน ปัญหาครอบครัว โรคภัยไข้เจ็บเรื่องต่างๆ
สารพัดที่เข้ามาในชีวิต
อย่างไม่หยุดหย่อน
อาจจะไม่รู้ตัวเองว่า
เหตุที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้
เพราะ”บุญเราน้อย”
บุญเราน้อยจนไม่พอที่จะส่งผล
ทั้งบุญเก่าและบุญใหม่ก็ไม่ทำ
เมื่อบุญน้อยไม่มีกำลังส่งผลไม่ได้
ก็ต้องปล่อยให้กรรมไม่ดี
ที่เคยทำส่งผลก่อน
ตามกฎแห่งกรรม
แล้วมีวิธีแก้ไขไหม?
ตอบตรงนี้เลยว่า
ต้องสร้างบุญใหม่
กรรมดีใหม่ที่ถูกต้อง
ที่แรงกว่ากรรมชั่วที่เคยทำมาเท่านั้น
ถึงจะสร้างปาฏิหาริย์ในชีวิตได้!
หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า
“ศีล” นั้นเป็นจุดเริ่มต้น
ของการสร้างปาฎิหาริย์
และบุญบารมีที่ยิ่งใหญ่
มีอานิสงส์บุญที่ประมาณมิได้ทั้งปวง
ที่เหนือกว่าให้ทาน
การรักษาศีล
เป็นวิธีการสร้างบุญอย่างหนึ่ง
ที่อยู่ในบุญกิริยาวัตถุ 10
เป็นบุญใหญ่ที่ทุกคนทำได้ง่ายดาย
และไม่เสียเงินเลยแม้แต่บาทเดียว
ที่สำคัญเป็นบุญที่มีกำลังแรงมาก
เปลี่ยนชีวิตได้เลยแบบฉับพลัน!!!
เพราะในทุกๆ ครั้งที่เราตั้งใจเจตนาแรงกล้า
ที่จะรักษาศีล จิตเป็นกุศล เกิดการงดเว้นจากความชั่ว... -
ครั้งแรกที่พ่อรู้ว่า " ผีมีจริง "
สวัสดีปีใหม่ Web ใหม่ ไฉไลๆ ^_^
เที่ยวกันสนุกสนานมาพอหอมปากหอมคอกันแล้ว ทีนี้มาลองพื้นที่บ้านหลังที่สองนี้ดูค่ะ
ค่ำคืนที่ผ่านมา สองพ่อลูกนั่งดูรายการเพลงที่ผู้เข้าแข่งขันร้องเพลงชิงชัยกันได้อย่างน่าไพเราะ วันนี้ดิฉันเคลิ้มอกเคลิ้มใจที่ได้แสดงฝีมือบูรณะศาลพระภูมิหลังเก่าให้กลายเป็นศาลหลังใหม่ งามตานักเอย...อิอิ
" พ่อ เคยเจอผีปะ ?? "
นั่นไง !!! สบโอกาสเลยลองถามพ่อบ้าง
พ่อเล่าว่า เคยเจอจังๆ ครั้งเดียวในชีวิต แต่ไม่ใช่เจอตัวผีเป็นๆนะคะ เจอผีในร่างเพื่อน พูดง่ายๆคือ " เพื่อนพ่อถูกผีเข้า "
ย้อนไปเมื่อพ่อยังหนุ่มอยู่ พ่อว่า สมัยก่อนบ้านเรือนยังน้อยกว่านี้มาก ถนนเชื่อมหมู่บ้านจะเป็นทางดินที่สองข้างทางยังเป็นป่า
ในวันนั้นพ่อและกลุ่มเพื่อนในหมู่บ้าน ได้พากันไปเที่ยวหมู่บ้านข้างเคียง ขอเรียกว่า "บ้านกรอกล่าง"
ตอนนั้นประมาณ 5 โมงกว่า พอทุกคนไปถึงงาน ต่างคนต่างแยกย้าย เป็นกลุ่มย่อยๆ เที่ยวชมงาน ฟ้ายังไม่มืด พ่อและเพื่อนพ่อที่ชื่อ" แอ้ว" ก็เดินไปยืนชมวิวที่ท่าน้ำ พ่อว่า ก็พูดนั่นพูดนี่กันไปเรื้อยเปื่อย แล้วกลับเข้ามาเดินเที่ยวในงาน รวมกลุ่มกันกินนั่นนี่โน่น จนประมาณ 2 ทุ่ม... -
อุทิศบุญอย่างไร ให้ "เกิดผลมาก"
อุทิศบุญอย่างไร
ให้ "เกิดผลมาก"
ในช่วงเวลาดีๆ แบบนี้ เชื่อว่าทุกท่านได้มีโอกาสสร้างบุญกันมาก
และมีเรื่องหนึ่งที่ถามกันมาตลอดว่า
ต้องอุทิศบุญอย่างไรถึงจะดี ถึงจะถึงผู้รับและเกิดผลกับตนเอง
การอุทิศบุญนั้น คือ การให้ การยกบุญให้รวมถึงการมุ่งหวังที่อยากจะให้บุญนั้น ส่งผลกับตนเอง
ครูบาอาจารย์ท่านเมตตาบอกเสมอว่า
เมื่อเราสร้างบุญครั้งใด บุญนั้นคือ เสบียงบุญสำหรับผู้สร้างทันที
และจะส่งผลตามลำดับ ตามเวลา ตามหน้าที่ ตามกฏแห่งกรรม
การสร้างบุญที่ดีนั้น คือ ทำอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา
ด้วยบุญแห่งทาน ศีล ภาวนา
อันเป็นการสร้างบุญที่ดี ถูกต้องที่สุด
การสร้างบุญนั้น ไม่ได้อยู่ที่ว่าใช้เงินมากหรือเงินน้อย
แต่ดูที่"เจตนา"เป็นสำคัญ
-ผู้ให้
ความบริสุทธิ์แห่งบุญนั้นจะน้อยมากเพียงใด
อยู่ที่ 3เจตนาบุญคือ ก่อนให้ กำลังให้และหลังให้
ที่คงความบริสุทธิ์ไม่หวังผลเลิศ ไม่เสียดาย ไม่วิตกกังวล
-วัตถุทานบริสุทธิ์ ในที่นี้หมายถึง วัตถุที่นำมาทำบุญนั้นเป็นของตน
ไม่ละเมิดไม่ผิดศีล มีที่มาที่ถูกต้อง ไม่ได้แย่งชิงคดโกงใครมา
-ผู้รับบริสุทธิ์ หมายถึง ศีลปฏิบัติของผู้รับบริสุทธิ์เพียงใด
บุญที่ทำนั้นคือ... -
จริงหรือเปล่าครับที่เลข 6 กับ 9 คือเลขมรณะ
อย่างล่าสุด นางเอก starwars จบชีวิตอายุ 60 เเละผมไปคิดๆดูเเล้ว คนมักจะเจ๊บจะตายก็มีเลข 2 ตัวนี้เกี่ยวกับชีวิต หรือ อายุ 27 ก็เป็น 7+2 เท่ากับ 9 หรือ อายุ 63 อะไรเเบบนี้ -
7 ขั้นตอนสู่ การนอนอย่างพระอรหันต์ ที่ใครๆ ก็ทำตามได้
7 ขั้นตอนสู่ การนอนอย่างพระอรหันต์ ที่ใครๆ ก็ทำตามได้
7 ขั้นตอนสู่ การนอนอย่างพระอรหันต์
พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติเกี่ยวกับ การนอนอย่างพระอรหันต์ ไว้ว่า พระอรหันต์นอนเพียงวันละ 4 ชั่วโมงเท่านั้น
เหตุที่พระอรหันต์นอนน้อยกว่าคนทั่วไป ก็เพราะท่านเป็นผู้ที่ละแล้วซึ่งกิเลสและมีสติอยู่เสมอทุกขณะตื่น จึงสามารถรับรู้สิ่งต่างๆ ได้ตามความเป็นจริง โดยไม่เผลอนำสิ่งกระทบต่างๆ มาปรุงแต่งให้เกิดเป็นอารมณ์จึงไม่ต้องการเวลานอนมากนัก
ผลวิจัยทางวิทยาศาสตร์ยังรับรองด้วยว่า การทำจิตให้สงบเป็นสมาธินับเป็นการจัดระเบียบคลื่นสมองที่มีประสิทธิภาพที่สุดและถือเป็นการผ่อนคลายเชิงลึกที่สามารถชดเชยการหลับลึกได้ถึง 4 ชั่วโมง ด้วยเหตุนี้สมองอันปราศจากข้อมูลขยะของพระอรหันต์จึงไม่ต้องการช่วงเวลาหลับลึกเพื่อฟื้นฟูสภาพสมองและจัดระเบียบเซลล์ประสาทมากเท่าคนทั่วไป
ความพิเศษของการนอนอย่างพระอรหันต์ไม่ได้จบอยู่เพียงแค่เรื่องของเวลาเพียงเท่านั้นเพราะวิธีการนอนของท่านก็เป็นอีกเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อย
พระพุทธเจ้าเคยตรัสถึงการบรรทมของพระองค์ไว้ว่าพระองค์บรรทมด้วยการสำเร็จสีหไสยา ซึ่งแปลว่า การนอนอย่างราชสีห์... -
แก้พรบ.สงฆ์ถวายพระราชอำนาจคืน"ในหลวง"ตั้งสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่
คนไทยเตรียมสาธุแก้พรบ.สงฆ์ถวายพระราชอำนาจคืน"ในหลวง"ตั้งสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่
สวัสดีครับแฟนข่าวทีนิวส์ วันนี้วันที่ 27 ธ.ค. 2559 ทำเอาอึ้งตะลึงกันทั้งประเทศล่ะครับ เมื่อวันนี้ได้มีข่าวออกมาว่ามีสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ 84 คน ร่วมกันลงชื่อขอเสนอแก้ไขพ.ร.บ.คณะสงฆ์ ซึ่งแก้ในมาตราที่สำคัญคือมาตรา 7 แต่เดิมได้บัญญัติเอาไว้ว่าพระมหากษัตริย์ทรงสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชองค์หนึ่งในกรณีที่สมเด็จพระสังฆราชว่างลง ให้นายกฯ โดยความเห็นชอบของมหาเถรสมาคม เสนอนามสมเด็จพระราชาคณะผู้มีอาวุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์ขึ้นทูลเกล้าฯ สถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช ในกรณีที่สมเด็จพระราชาคณะผู้มีอาวุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้นายกฯ โดยความเห็นชอบของมหาเถรสมาคม เสนอนามสมเด็จพระราชาคณะรูปอื่นที่อาวุโสโดยสมณศักดิ์รองลงมาตามลำดับ และสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช โดยแก้ไขดังนี้ครับ
พระมหากษัตริย์ทรงสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชองค์หนึ่งและให้นายกฯ ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ ซึ่งเป็นข้อบัญญัติเดิมของมาตรา 7 แต่ในพ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505... -
เว็บพลังจิต เว็บพลังจิตจะปิดให้บริการตั้งแต่ 28 ธันวาคม เวลา ตั้งแต่ เวลา 22.00 น. เพื่อเปลี่ยนบอร์ดใหม่
สวัสดีครับทุกๆท่าน
เราได้พัฒนาเว็บพลังจิตใหม่ เราจะทำการย้ายข้อมูลเดิมเข้าสู่ระบบใหม่
เว็บพลังจิตจะทำการปิดการโพสต์ในเว็บบอร์ด ตั้งวันที่ 28 ธันวาคม 2559 เวลา 22.00น เป็นต้นไป คาดว่าจะเปิดให้บริการ ในวันที่ 1 มกราคม 2560
ในระหว่างที่ปิดบอร์ด
- ทุกๆท่านยังสามารถเข้าชมเว็บบอร์ดได้ตามปกติ
- สมาชิกจะไม่สามารถโพสต์ และส่ง PM หรือ อัพเดทข้อูลใดๆได้ในระหว่างนี้
เว็บบอร์ดพลังจิตใหม่
1) มีความทันสมัยขึ้น
2) สนับสนุนอุปกรณ์มือถือมากขึ้น (Responsive web design)
3) สนับสนุนและเชื่อมต่อกับ Social network ได้ดีกว่าเดิม
4) มีการจัดการและการนำเสนอข้อมูลได้ดีกว่าเดิม
5) ระบบส่งข้อความส่วนตัวดีกว่าเดิม (PM)
ในเดือน มกราคม 2560 เราจะเปิดรับทีมงานเพิ่ม คือ ทีมธรรมทาน
หลายสิบคนเพื่อช่วยโพสต์บทความธรรมะ
ปี 2560 เป็นปีแห่งการพัฒนาเว็บพลังจิต
เดือนเมษายน ปี 2560 เราจะครบรอบ 14 ปี
ปี 2560 นี้ทั้งปีเราจะโฟกัสพัฒนาเว็บ จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สุดของเรา และเราจะไปกันอย่างรวดเร็ว
ทั้งปี เราจะทำการทดลองและศึกษา สร้างโมเดลเว็บและทีมงาน เพื่อขยายเว็บและเผยแผ่พุทธศาสนาไปทั่วโลก... -
"หนังสือพระมหาวีระอ่านดี"...หลวงปู่ดู่บอก..
หลวงปู่เคยปรารภหลายครั้งว่าสอนกรรมฐานให้เด็ก ๆ นั้น ง่ายกว่าผู้ใหญ่ เพราะผู้ใหญ่ อ่านมามาก ฟังมากมาก สอนคนรู้มากนั้นสอนยาก เพราะมักมีความลังเลสงสัยอันเป็นนิวรณ์หรืออุปสรรคต่อการทำจิตให้เป็นสมาธิ
"นี่จึงเป็นเหตุผลที่ท่านให้พวกเราปฏิบัติอย่างคนโง่ (คือ อย่าปฏิบัติอย่างคนรู้มาก ความรู้ความจำเต็มหัว)"
ครั้งหนึ่ง มีคุณพ่อคุณแม่พาลูกสาววัยปฐมศึกษาตอนต้นมาวัดสะแก คราวนี้ตัวพี่สาวของเด็กน้อยผู้นี้ไม่ได้มาวัดด้วย โดยบอกกับคุณพ่อคุณแม่และน้องสาวว่าวันนี้ไม่ไปวัดด้วยนะคะ เพราะจะอยู่ทำการบ้าน
พอครอบครัวนี้ กราบกลวงปู่เสร็จ หลวงปู่ก็ถามว่าพี่สาวแกหล่ะ ไม่มาด้วยหรือ เด็กน้อยก็กราบเรียนหลวงปู่ว่าพี่สาวหนูเขาต้องอยู่ทำการบ้านค่ะ หลวงปู่ก็บอกเด็กน้อยว่า ถ้าอย่างนั้น ก็นั่งหลับตาเดี๋ยวนี้เลย จากนั้นท่านก็พาเด็กน้อยผู้นี้ไปดูเหตุการณ์ที่บ้าน เด็กก็พูดเล่าทั้งที่ยังหลับตาอยู่ว่า เห็นคนใช้ที่บ้านกำลังซักผ้า พอเข้าไปในบ้านก็เห็นพี่สาวกำลังนอนเหยียดยาวดูทีวีรายการการ์ตูนอยู่หลวงปู่ได้แต่อมยิ้ม เอ่ยว่าพี่สาวเขาหรอกแก
บางครั้งหลวงปู่ก็หลอกให้เด็กอ่านหนังสือธรรมะให้ท่านฟังในยามบ่าย... -
ปัญญาประเสริฐกว่าทรัพย์ พุทธดำรัส
ปัญญาประเสริฐกว่าทรัพย์
ปัญหา ญาติ โภคะ ยศ กับปัญญา อย่างไหนสำคัญกว่ากัน ?
พุทธดำรัสตอบ “ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความเสื่อมแห่งญาติ.... ความเสื่อมแห่งโภคะ... ความเสื่อมแห่งยศเป็นเรื่องเล็กน้อย ความเสื่อมแห่งปัญญาเป็นเรื่องร้ายแรงกว่าความเสื่อมทั้งหลาย
“ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความเจริญด้วยญาติ.... ความเจริญด้วยโภคะ... ความเจริญด้วยยศเป็นเรื่องเล็กน้อย ความเจริญด้วยปัญญาเป็นเรื่องเลิศกว่าความเจริญทั้งหลาย เพราะเหตุนี้แล เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้ว่า เราทั้งหลายจักเจริญด้วยความเจริญแห่งปัญญา”
แสดงกระทู้ - ปัญญาประเสริฐกว่าทรัพย์ พุทธดำรัส • ลานธรรมจักร -
พบ "ปลาทอง"เป็นๆ ทองแท้ๆ ไม่ใช่แค่สี.. แถมมันดันมีส่วนผสมของของสิ่งนี้อยู่ด้วย!?
พบ "ปลาทอง"เป็นๆ ทองแท้ๆ ไม่ใช่แค่สี.. แถมมันดันมีส่วนผสมของของสิ่งนี้อยู่ด้วย!?
.
.
.
พบ "ปลาทอง" ที่เรียกได้ว่าทองจริงๆ ไม่ใช่แค่สี.. แต่มันดันมีส่วนผสมของของสิ่งนี้อยู่ด้วย!?
แน่นอนว่าทองคำเป็นสิ่งที่มีมูลค่าสูง แล้วยิ่งถ้าเป็นสัตว์ที่มีสีทองดุจดั่งทองคำด้วยละกัน แน่นอนว่าต้องได้รับความสนใจอย่างมาก
.
.
.
มีการรายงานว่าพบปลาสีทองที่มีลักษณะเหมือนทองคำแท้ ๆ ในน่านน้ำของไต้หวัน หลังจากจับได้ปลาสีทองตัวนี้ได้ถูกนำไปจัดแสดงเป็นนิทรรศการในพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น ผิวของมันแตกต่างไปจากปลาสีทองตัวอื่น ๆ เพราะมันค่อนข้างเหมือนทองคำจริง ๆ มากกว่า นักวิทยาศาสตร์บอกว่าลักษณะของปลาสีทองตัวนี้ เหมือนว่าร่างกายของมันจะมีชิ้นส่วนของ "ทองคำบริสุทธิ์ 24K" ผสมอยู่
.
.
.
.
มีข้อสันนิฐานกันว่าเจ้าปลาตัวนี้อาจเกิดจากฝีมือของมนุษย์ แต่ชายคนนี้บอกว่าเขาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าคนเลี้ยงจะมีส่วนร่วมในกระบวนการผลิตปลาสีทองที่เหลือเชื่อนี้ เพราะชิ้นส่วนต่าง ๆ ของปลาไม่สามารถมีส่วนผสมเป็นทองคำบริสุทธิ์ 24K มาได้แต่กำเนิด... -
คาถาปัญญาดี โดย "หลวงพ่อฤาษีลิงดำ" สวดเป็นประจำช่วยเสริมสมาธิ สร้างสติปัญญา
คาถาปัญญาดี โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ
คาถารวมจิต
อิติ สัมมาสัมพุทธัสสะ มะมะ จิตตัง
เวลาที่เจริญพระกรรมฐานในคืนวันที่ ๒๔ กรกฏาคม ๒๕๐๖ เวลา ๒๐.๓๐ น. องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้มาโปรดเมตตาบอก ท่านบอกว่าให้ทำให้แจ้งด้วยทำทุกขณะจิตที่จิตพล่าน หมายความว่า ถ้าเวลาใดที่จิตเกิดอาการฟุ้งซ่านขึ้นมา ให้ทิ้งคำภาวนาอย่างอื่นเสียให้หมด กำหนดลมหายใจเข้าออก ว่าคาถานี้ตามสบายๆกำลังของสมาธิจะรวมตัวได้รวดเร็ว จำเข้าไว้ให้ดีก็แล้วกันนะ คาถามีว่า อิติสัมมา สัมพุทธัสสะ มะมะจิตตัง
แล้วอย่าย่องเอาคาถานี้ไปเรียกผู้หญิงเรียกผู้ชายมานะ เขาไม่มาหรอก เรียกจิตของเรา ท่านบอกว่าจิตมันพล่านนี่ไม่ใช่ เพราะผู้หญิงเข้ามายั่ว มันพล่านเพราะโรคทางกระเพาะมันกำเริบ ร่างกายถ้าหากว่ามีโรคเบียดเบียน ประสาทมันก็ไม่ทรงตัว จิตมันก็พล่านได้ จงอย่าสงสัยในตัวเอง คิดว่าไปหลงใหลใฝ่ฝันในบรรดาสตรีทั้งหลายเหล่านั้น เธอมายั่วมาเย้าเป็นจริยาของมารแต่คำว่ามารในที่นี้จงอย่าคิดว่าพวกนั้นเป็นพวกมาร ความจริงพวกนั้นเขามาตาม
หน้าที่ แต่ถ้าอารมณ์ของเราไม่ทรงตัว ก็จงคิดว่าจิตของเรานี่แหละเป็นมาร มันมีสันดานหยาบ รู้อะไรไม่ดี... -
วิธีการเลี้ยงลูกของสมเด็จย่าที่ทรงคุณค่าและควรนำมาเป็นแบบอย่าง
วิธีการเลี้ยงลูกของสมเด็จย่าที่ทรงคุณค่าและควรนำมาเป็นแบบอย่าง
The Most Efficient Way to Raise Up A Child
โรงเรียนทอสีได้จัดสัมมนาเรื่อง “เลี้ยงลูกแบบสมเด็จย่า” โดยคุณหญิงพวงร้อย ดิศกุล ณ อยุธยา อดีตข้าหลวงในพระองค์ มาร่วมเล่าประสบการณ์และแบ่งปันคำสอนของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ สมเด็จย่าของปวงชนชาวไทย ถึงวิธีการเลี้ยงดูลูกของพระองค์ ที่มีทั้งความปราดเปรื่อง หลักแหลม และมีเป้าหมายที่ชัดเจน จนสมควรใช้เป็นแบบอย่างเป็นอย่างยิ่ง
1. ลูกไม้ย่อมหล่นไม่ไกลต้น : สมเด็จย่าทรงเริ่มจากการเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูก ทำเป็นต้นแบบในเรื่องของการมีวินัย การรักการค้นคว้าศึกษาหาความรู้ การประพฤติตัวที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม ทั้งหมดนี้คือการตั้งตนเป็นแบบอย่างให้กับลูก เพราะเด็กเล็กจะมีพฤติกรรมเลียบแบบจากคนใกล้ชิด เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ต้องลองตั้งคำถามกลับมาที่ตัวเองว่า ทุกวันนี้ที่เราอยากให้ลูกเป็นแบบนั้นแบบนี้ แล้วเราล่ะ เป็นแล้วหรือยัง
2. ตั้งเป้าหมายในการเลี้ยงลูก : สมเด็จย่าทรงเป็นพระมารดาที่มีเป้าหมายในการเลี้ยงลูกอย่างชัดเจน คือทรงตั้งใจพัฒนาอบรมลูกๆ ให้ดีในทุกๆ... -
ท่านสอนอัตตาก่อน จึงค่อยสอนอนัตตา (หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี)
ศาสนาพุทธสอนถึง อัตตา สอนอัตตาเสียก่อนจึงค่อยสอน อนัตตา
อัตตาคือตัวตนท่านสอนเบื้องต้นให้พึ่งตนเอง ตนของตนเป็นที่พึ่งของตน นี่เรียกว่าสอนถึงตัวตน เมื่อสอนอัตตาแล้ว ให้คิดค้นถึงตัวอัตตาที่ว่าเป็นของตนของตัวนั้นมีอะไรเป็นของแน่นอนถาวรแล้วเป็นตนเป็นตัวจริงไหม คิดค้นไปถึงอัตตาแล้ว ไม่มีอะไรเป็นสาระ เช่น ขันธ์ห้า รูปก็ไม่ใช่ถาวรแน่นอนแก่เเฒ่าชำรุดทรุดโทรมไปเป็นลำดับ ห้ามไม่ได้ บอกไม่ฟัง ในผลที่สุดก็ดับสลายหายไป
เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เป็นนามธรรมก็ทำนองเดียวกัน
เวทนาเกิดขึ้นเพราะมีเหตุปัจจัย เมื่อเหตุปัจจัยไม่มีเวทนาก็หายไป สัญญา สังขาร วิญญาณ ก็เสื่อมสูญไปหมด ในผลที่สุดก็ไม่มีสิ่งใดที่แน่นอนถาวร เห็นขันธ์ห้าเป็นของไม่แน่นอนถาวรถึงจะวางได้ วางนั้นแหละคือตัวอนัตตา
ปล่อยวางคือตัวอนัตตาทั้งรูปทั้งนาม สอนเรื่องภาวนาจิตก็เป็นอนัตตา สอนไม่ได้ห้ามไม่ฟัง ไม่ให้คิดนึกก็คิดนึก พอเราปล่อยวางเราไม่ยึดเอาเป็นของเราจิตที่คิดนึกส่งส่ายก็เลยหมดเรื่องไป ถ้าเราไปยึดก็กลายเป็นของเราขึ้นมา ถ้าไม่ยึดก็เลยเป็นอนัตตา
เมื่อถึงอนัตตาเมื่อไรแล้วจะรู้สึกด้วยตนเองว่าอะไรเป็นอนัตตา อะไรเป็นอัตตา... -
สนทนาเรื่องสงครามโลก
ถ้าสงครามใหญ่เกิดขึ้นประเทศไทยจะเป็นเจ้าโลก, สนทนาเรื่องสงครามโลก
ยักษ์นอกศาสนารบกันต่างฝ่ายตายฝ่ายละครึ่งถึงเลิกรากัน หลวงพ่อบอกว่า ไม่พอ 20 ล้านละมั๊ง....เห็นจะร้อยล้าน
มาอ่านเรื่องที่หลวงพ่อเล่ากันดูครับ
ยักษ์นอกศาสนาคือประเทศใด
(มีนักเรียนนายร้อย จ.ป.ร. ถามหลวงพ่อเรื่องถ้าสงครามโลกเกิดขึ้น)
"ยักษ์นอกศาสนาคือประเทศใด ครับ"
หลวงพ่อตอบว่า "ถ้ายักษ์หินนอกพระพุทธศาสนาจะลุกขึ้นมาอาละวาดอันนี้ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน แต่ว่าถ้าเราจะคิดกันไปอย่างภาษาสามัญชนนะ อาจจะเป็น ประเทศจีน ก็ได้"
เพราะว่าประเทศจีนแต่ก่อนเป็นประเทศใหญ่ก็จริง แต่เป็นประเทศที่มีอำนาจ ใช่ไหม
แต่เวลานี้ประเทศจีนก็กลับมาเป็นประเทศมหาอำนาจ นี่เราเดาๆกันนะ แล้วแกลุกขึ้นมาจริงๆ แกก็อาละวาดจริงๆด้วย นี่ก็เดา
จะถูกต้องตามพระพุทธทำนายหรือไม่ อันนี้อาตมาไม่รับรองนะ
(จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 261 เดือนธันวาคม 2545 หน้า 66)
ถ้าสงครามใหญ่เกิดขึ้นประเทศไทยจะเป็นเจ้าโลก
(จากสนทนาที่ศาลานวราช ปี 2527)
ถ้าเขาเกิดสงครามใหญ่เมื่อไหร่เราจะเป็นเจ้าโลก มันตายกันหมดเหลือแต่ประเทศเรา
ประเทศเล็กมันไม่อยากมาแตะ... -
ฌาณ+ญาณวสี แห่งองค์หลวงปู่ชอบ
องค์ท่านหลวงปู่ชอบตอบหลวงพ่อบุญฤทธิ์
“ จิตเฮาเป็นวสี มีความชำนาญในสมาธิ ฟ้าแลบขึ้นยังบ่ทันดับแสง เฮาระลึกชาติให้สัตว์โลกทั้งไปหน้าย้อนหลังในวาระเดียวกันได้ ๙๑ กัป ท่านอาจารย์ใหญ่มั่นเพิ่นระลึกชาติอดีตอนาคตได้หนึ่งอสงไขย ”..
จาก..ชีวประวัติ พระคุณเจ้าหลวงปู่ชอบ ฐานสโม
ตอน ระลึกชาติให้ลูกศิษย์ ..
-------------------------------------------------------
ชีวประวัติ พระคุณเจ้าหลวงปู่ชอบ ฐานสโม
วัดป่าสัมมานุสรณ์ - โคกมน บ.โคกมน ต.ผาน้อย อ.วังสะพุง จ.เลย
เขียนบันทึกโดย..ครูบากล้วย พระวีระศักดิ์ ธีรภัทโท..
ตอน ระลึกชาติให้ลูกศิษย์..
( ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๒ )
คืนวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๒ หลวงพ่อบุญฤทธิ์ ปัณฑิโต ท่านพาเฮียเม้ง ( คุณกวงเม้ง แซ่เล้า )
พี่ชายเฮียเม้ง โยมดำ ( คนขับรถให้เฮียเม้ง ) มิสเตอร์จอน ( เป็นฝรั่งชาวแคนนาดา
เคยบวชอยู่กับหลวงปู่หล้าวัดภูจ้อก้อ และเคยไปอยู่จำพรรษาปฏิบัติกับองค์ท่านหลวงตามหาบัว
ที่วัดป่าบ้านตาดหลายปีก่อนที่จะลาสิกขา ) เข้ามาพักกับหลวงปู่ชอบที่กุฏิโรงเก็บรถ..
หลวงพ่อบุญฤทธิ์ท่านกราบเรียนหลวงปู่ชอบว่า ตอนกระผมอยู่วัดป่าบ้านใหม่ แม่ฮ่องสอน... -
พระเจ้าจักรพรรดินั้นก็คือรัชกาลที่ ๑๒ ของยุคของรัตนโกสินทร์เรานี้ในอนาคตนั่นเอง
ในรัชกาลสมัยสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก มีผู้เฒ่าเล่ากันต่อๆ มาว่า ในรัชกาลที่ ๑ สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก วันหนึ่งเวลาเย็น ขณะที่ท่านประทับอยู่ ณ ตำหนัก ท่านได้ตรัสต่อพระโหราว่า
“ฉันจะให้ท่านพยากรณ์โชคชะตาของกรุงรัตนโกสินทร์ว่า ต่อไปเบื้องหน้าจะเป็นอย่างไร”
พระโหราจึงกราบทูลว่า
“พระอาญาไม่พ้นเกล้า การถวายคำพยากรณ์โชคชะตาของกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นเรื่องสำคัญจำจะต้องตรวจการพยากรณ์ด้วยความระมัดระวัง ต้องใช้เวลาถึง ๓ วันจึงจะกราบทูลถวายคำพยากรณ์ได้”
รัชกาลที่ ๑ ชื่อว่า มหากาฬ
รัชกาลของพระองค์นี้มืดมาก พระองค์ไม่รู้ที่จะดำเนินรัฐประศาสนโยบายของประเทศไปในทางไหนดี เพราะเป็นระยะเริ่มก่อสร้างกรุง
รัชกาลที่ ๒ ชื่อว่า พาลยัคฆ์
ผู้ที่รับมอบสืบราชสมบัติต่อจากพระองค์ จะเป็นพระเต้าแผ่นดินที่อ่อนแอ ไม่มีความสามารถในการปกครอง
รัชกาลที่ ๓ ชื่อว่า รักมิตร
จะเป็นพระเจ้าแผ่นดินที่ทรงโปรดที่จะทำสัญญาผูกสัมพันธไมตรีกับต่างประเทศอย่างมาก
รัชกาลที่ ๔ ชื่อว่า สถิตย์ธรรม
จะเป็นพระเจ้าแผ่นดินที่ทรงพอพระทัยฝักใฝ่ในทางธรรม และพระพุทธศาสนาอย่างมาก
รัชกาลที่ ๕ ชื่อว่า จำแขนขาด... -
ประสบการณ์ค่ำคืนก่อนการน้อมถวายพระแก้ว
ประสบการณ์ส่วนตัวที่เกิดขึ้นกับตัวผมเอง แทบจะทุกครั้งที่ผมจะน้อมถวายพระแก้วไว้ในพระพุทธศาสนา ค่ำคืนก่อนการถวาย 1 - 3 คืน มักมีการฝันบ้าง การสัมผัสกับสิ่งลี้ลับอะไรบางอย่าง ซึ่งผมเองบางครั้งไม่เข้าใจในสิ่งที่ฝันถึงบ้าง ที่เห็นบ้าง หรือที่ได้ยินบ้าง แต่มักจะมาเข้าใจว่า เหตุที่เขาเหล่านั้นมาปรากฏให้เห็นนั้น เพราะเหตุใดก็หลังจากการน้อมถวายพระแก้วไปแล้ว
ขอยกตัวอย่างประสบการณ์บางครั้ง ดังที่จะเล่าให้ฟังด้านล่างต่อไป นึกขึ้นมาได้ก็จะมาเล่าครับ -
“พระนเรศวรมหาราช”กลับมาเกิดเป็นในหลวงรัชกาลที่๙ ตามคำบอกของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ
“พระนเรศวรมหาราช” กลับมาเกิดเป็นในหลวงรัชกาลที่๙ มีหน้าที่รบกับความยากจนให้คนทั้งประเทศ ตามคำบอกของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ ที่ฟังจากเทวดาที่ดอนเจดีย์
..เมื่อฟังไปแล้วก็คิดว่า เอ๊ะ…นี่เราได้ความรู้จากเทวดา เราคิดกันมานานแล้วว่า ถ้านักรบต้องตกนรก นี่ไม่ใช่เสียแล้ว เทวดาพูด เราต้องเชื่อ ถ้าใครจะไม่เชื่อ ก็เชิญไปซักเทวดาที่ศรีประจันต์ก็แล้วกัน ข้าง ๆ กับดอนเจดีย์ เลยถามไปนิดว่า ขอต่ออีกหน่อยได้ไหม ท่านถามว่า ต่ออะไร อยากจะถามว่า พระนเรศวรมหาราชทรงสวรรคตแล้ว ไปอยู่สวรรค์ชั้นไหน
ท่านตอบทันทีเลยว่า นักรบไปอยู่ชั้นจาตุมหาราชเป็นนายของพวกผม ถามว่า เวลานี้พระนเรศวรมหาราชอยู่ทิศไหน ท่านบอกว่า เวลานี้พระนเรศวรมหาราชเกิดเป็นคนแล้ว และอยู่ในประเทศด้านทิศตะวันออกของประเทศไทย จึงถามว่าท่านบอกว่า พระนเรศวรมหาราชเป็นคนไทย หรือเป็นคนแขก หรือเป็นคนลาว หรือเป็นฝรั่ง ท่านบอกว่า เป็นคนไทยที่เกิดในเมืองฝรั่ง และในกาลต่อไปข้างหน้าวาระเข้ามาถึง พระนเรศวรมหาราชจะเข้ามาครองประเทศไทยในฐานะเป็น พระมหากษัตริย์
บรรดาท่านพุทธบริษัทอ่านเรื่องนี้แล้ว ทิ้งไว้ก่อนนะอย่าเชื่อนะอย่าไปเชื่อ ถ้าจะเชื่อก็ถามท่านผู้รู้จริง ๆ... -
"สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงลาจากพุทธภูมิ" ตามคำบอกเล่าของ หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ
"สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงลาจากพุทธภูมิ" ตามคำบอกเล่าของ หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ
ในพ.ศ. 2533 อาตมา (หลวงพ่อ-ฤาษีลิงดำ) ป่วยหนัก ไปนอนพักรักษาตัวที่กรมแพทย์ทหารเรือ (ปัจจุบัน – โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า) เวลาประมาณ 4 ทุ่มเศษๆ ถึงเวลานอน นอนคนเดียวยังไม่หลับ ปรากฏว่ามีคนๆหนึ่งมายืนอยู่ข้างเตียง เป็นชายลักษณะเป็นคนล่ำๆ ท่าทางแข็งแรงก็นึกว่าในที่นี้เป็นเขตพระราชฐานของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จึงขอพึ่งบารมีท่านให้คุ้มครอง พอท่านมายืนก็มองเห็นไม่ต้องหลับตาไม่ต้องเข้าฌาน ก็เลยถามท่านว่า “ท่านเป็นใคร” ท่านผู้นั้นก็ถามว่า “เมื่อกี้ท่านนึกถึงใคร” ก็ตอบท่านว่า “นึกถึงสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” ท่านก็บอกว่า “ผมนี่แหละ พระเจ้าตากสินมหาราช” ก็เลยมองไปมองมา ท่านถามว่า “เชื่อหรือยังว่าเป็นพระเจ้าตากสินมหาราช” ตอบว่า”ยังไม่เชื่อ ที่มองเพราะยังไม่เชื่อ” ท่านถามว่า “ไม่เชื่อตรงไหน” ก็บอกว่า “ไม่เชื่อตรงกางเกงกับเสื้อเพราะพระมหากษัตริย์ไม่น่าจะนุ่งแบบนี้” ท่านถามว่า “กษัตริย์ต้องทรงเครื่องกษัตริย์นอนเชียวหรือ นี่มัน 4 ทุ่มกว่าแล้วนะ” ก็บอกว่า “จะรู้ได้อย่างไรในเมื่อเป็นกษัตริย์... -
ตะลึง! หนุ่มอัจฉริยะวัย 17 ปี ค้นพบทฤษฎีที่อาจเป็นกุญแจสำคัญไขปริศนาจักรวาล
ตะลึง! หนุ่มอัจฉริยะวัย 17 ปี ค้นพบทฤษฎีที่อาจเป็นกุญแจสำคัญไขปริศนาจักรวาล
ในยุคหลังมานี้มีรายงานเกี่ยวกับเด็กอัจฉริยะให้เห็นกันบ่อยครั้ง ซึ่งแต่ละคนมีประวัติที่ไม่ธรรมดาแน่นอน แต่มาดูประวัติของเด็กหนุ่มรายนี้เสียก่อน เพราะสิ่งที่เขาได้มาจากมันสมองแสนอัจฉริยะของเขา อาจกลายเป็นกุญแจไขปริศนาจักรวาลในอนาคต!
Ivan Zelich เด็กหนุ่มวัย 17 ปี ในรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย มีไอคิว 180 พ่อและแม่ของเขาเล่าว่าเขาพูดได้ตั้งแต่อายุ 2 เดือน นอกจากนี้ Ivan ยังได้รับข้อเสนอให้เข้าเรียนจากมหาวิทยาลัยชื่อดังมากมาย แต่สิ่งที่พิสูจน์ว่าเขาคืออัจฉริยะตัวจริงเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ เมื่อ Ivan สามารถคิดค้นทฤษฎีเกี่ยวกับการคำนวณ ที่คำนวณได้เร็วกว่าคอมพิวเตอร์ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญที่ได้เห็นทฤษฎีนี้กล่าวว่า นี่อาจเป็นกุญแจไขปริศนาจักรวาลได้เลยทีเดียว
ไม่แน่ว่าการศึกษาของโลกเราอาจต้องเปลี่ยนไปเพราะทฤษฎีที่เขาคิดค้นก็เป็นได้...
ที่มา
kidsnews
>>>>>Generalizations of the properties of Neuberg cubic to the Euler pencil of isopivotal cubics | Ivan Zelich and Xuming Liang - Academia.edu
.
.
. -
บทสัมภาษณ์เจ้าพ่อหลักเมือง กทม. 16 ธ.ค. 59
การติดต่อเทวดาแห่งชาติครั้งแรกในรัชกาลใหม่ หลังความสูญเสียรัชกาลที่ ๙ ในวันที่ 13 ตุลาคม แล้วผมยังไม่ได้กลับไปอีกเลย ผมก็รู้สึกเสียใจและเสียดายเวลาเหมือนกันที่ปล่อยให้เนิ่นนานมาอย่างงี้ แต่อีกใจก็มองว่าผมจะไปสัมภาษณ์เร็วหรือช้าก็ไม่อาจช่วยอะไรได้
เมื่อวันศุกร์ที่ 2 ธ.ค. ผมได้พยายามเชิญเจ้าพ่อหลักเมืองมาที่บ้าน เพราะอยากถามท่านว่าอยากให้ผมไปหาอีกเมื่อไหร่ ตอนแรกเจ้าที่ก็มาเข้าแทนก่อน ไปๆมาๆเจ้าพ่อหลักเมืองก็มาเข้าได้ เจ้าพ่อโกรธผมใหญ่เลยครับที่ผมไม่ไปหาท่านให้เร็วกว่านี้ จนเราปรับความเข้าใจกันได้ สุดท้ายเจ้าพ่อนัดให้ไปหาศุกร์ที่ 16 ธ.ค.
ศุกร์ที่ 16 ธ.ค. 59 ผมตั้งนาฬิกาปลุกเวลา 4:00 น. สุดท้ายผมฝันไปว่าอีกสิบนาทีจะตีสี่ แล้วตื่นขึ้นมากดมือถือดูนาฬิกา พบว่าเป็นเวลา 3:50 น. เป๊ะ เป็นอะไรที่ประหลาดใจเหมือนกัน
เมื่อเดินทางถึงสนามหลวง แน่นอนว่าเป็นบรรยากาศที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต แต่ตอนแรกผมก็คิดว่าเค้าจะกั้นบริเวณเพื่อตรวจตราเฉพาะผู้จะเข้าสนามหลวงเท่านั้น แต่จริงๆแล้วเค้าตั้งด่านตั้งแต่บริเวณแยกผ่านพิภพลีลา คืออย่าว่าแต่ศาลหลักเมืองเลยครับ... -
กรรมฐาน ๔๐ ประยุกต์
กรรมฐาน ๔๐ ประยุกต์
พระครูวิลาศกาญจนธรรม ดร. เช้าวันที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๕๙ งานปฏิบัติธรรมปัญญาสมวาร
........................
ตั้งกายให้ตรง หายใจเข้าสุด หายใจออกสุด จับภาพพระ จับภาพพระหลายองค์แล้วไม่เหมือนกันจะทำได้ยากขึ้น แต่ก็ดีที่ช่วยสร้างสติมากขึ้น หายใจเข้าภาพพระเลื่อนลงไปในท้อง หายใจออกภาพพระเลื่อนขึ้นไปบนศีรษะ สิ่งที่เราฝึกนี้ต้องบอกว่าเป็นพื้นฐานของกรรมฐานทั้ง ๔๐ กอง โดยเฉพาะในส่วนของปฏิสัมภิทาญาณ ภาพพระคือ พุทธานุสติ ธัมมานุสติ สังฆานุสตินั่นเองพร้อมกับเป็นกองกสินไปด้วย แสงสว่าง คือ อาโลกสิน ถ้ากำหนดให้เป็นสีขาวเป็นโอทาตกสิน ภาพพระสีทองเป็น ปีตกกสิน สีเขียวเป็น นีลกสิน
หลังจากนั้นก็กำหนดภาพพระให้นิ่งไว้ที่ศีรษะของเรา หายใจเข้าภาพพระสว่างขึ้น หายใจออกภาพพระสว่างขึ้น หายใจเข้าภาพพระสว่างขึ้น หายใจออกภาพพระสว่างขึ้น กำหนดใจให้รัศมีของพระครอบคลุมกายเรา หายใจเข้าภาพพระสว่างขึ้นๆ หายใจออกภาพพระสว่างขึ้นๆ ลักษณะนี้เป็นการใช้ผลของกสินแล้ว เมื่อภาพพระสว่างชัดเจนดีแล้ว ให้รัศมีขององค์พระแผ่กว้างออกไป กว้างออกไป ไม่มีประมาณ ให้กำหนดใจไปในพรหมวิหารทั้ง ๔
มนุษย์ทั้งหลาย... -
วิธีนอนภาวนาเพื่อไปนิพพาน
*** วิธีนอนภาวนาเพื่อไปนิพพาน ***
บางรายบอกถ้านั่งกรรมฐานต้องนั่งห้ามนอน ห้ามยืน ห้ามเดิน มันก็ไม่ถูกต้อง นี่ค้านคำสอนของพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าท่านบอกให้ทำแค่ร่างกายสบาย ถ้านั่งไม่สบายก็นอน นอนไม่สบายก็ยืน ยืนไม่สบายก็เดิน เดินไม่สบายก็หลับไปเลย สบาย สบายไหม สบายแหงๆ
แต่เวลานอนภาวนา อย่าไปบังคับให้ถึง ๑๐ ถ้ามันจะหลับ ไม่ต้องบังคับให้ถึง ๑๐ ถ้ายังไม่ถึง ๑๐ มันจะหลับ ปล่อยให้มันหลับทันที อย่าดึงเอาไว้ ทั้งนี้เพราะอะไร เพราะถ้าภาวนาอยู่ ถ้าจิตไม่เป็นฌาน มันจะหลับไม่ได้ ให้ทราบตามนี้นะ
บางคนบอกเพลียมา จะเพลียหรือไม่เพลียก็ตาม ให้เพลียขนาดไหนก็ตาม ถ้าจิตไม่เป็นฌาน ภาวนาอยู่ มันจะไม่ยอมหลับ ถ้าร่างกายทรงตัวดี มันยังไม่ง่วง ภาวนาไปยังไม่ถึง ๑๐ มันจะหลับ อันนั้นจิตเป็นฌานแล้ว มันจะต้องหลับทันที ถ้าเราหลับไปแล้วกี่ชั่วโมง ท่านถือว่าทรงฌานนั้นอยู่ ตลอดเวลาที่หลับ สมมุติว่าถ้าจิตเราเป็น สมถภาวนา เป็นฌานในสมถภาวนา ถ้าตายเวลาหลับ เป็นพรหม ตามกำลังของฌาน
***แต่ว่าขณะที่ก่อนจะหลับ เราภาวนาไปด้วย พิจารณาไปด้วย คิดว่าร่างกายมันไม่เป็นเรื่อง โลกนี้ไม่เป็นเรื่องไม่ดี... -
ชื่อมีผลต่อชีวิตประมาณกี่เปอร์เซ็นต์
โดยหลักแล้วชีวิตของเราจะดีหรือไม่ดี ขึ้นอยู่กับกรรมหรือการกระทำทั้งกรรมเก่าและกรรมใหม่ก็จริง แต่ก็อยากทราบว่าสำหรับการตั้งชื่อ โดยเฉพาะชื่อจริงนั้นมีผลต่อชีวิตประมาณกี่เปอร์เซ็นต์คะ เห็นปัจจุบันมีการเปลี่ยนชื่อเพื่อให้สอดคล้องกับหลักโหราศาสตร์เพื่อส่งเสริมดวงชะตา หรือใครที่เคยเปลี่ยนชื่อมาแล้วมีความเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างหรือเปล่า อยากทราบค่ะ
ขอบคุณค่ะ -
แม่นมาก!!!กรรมของผู้ที่เกิดในแต่ละวัน
กรรมของผู้ที่เกิดในแต่ละวัน
1. ท่านที่เกิดวันอาทิตย์
เป็นคนใจใหญ่รักพวกพ้องกตัญญู และชอบคิดในเรื่องบุญคุณอยู่เสมอ คิดถึงความมั่นคงจนเหมือนเป็นคนเครียด และคิดมาก ไม่ชอบการโดนเอาเปรียบ เป็นคนตรงๆ บางครั้งดูเหมือนจะถือตัวสักนิด
กรรมที่ติดตัว มักจะทำบุญคนไม่ค่อยขึ้น ในช่วงวัยเด็กลำบาก และเมื่อโตขึ้นนั้นก็ยังเจอปัญหาในเรื่องเกี่ยวข้องกับบริวารอีก จึงทำให้เหตุที่มานั้นเกี่ยวข้องกับการเงินด้วย เป็นคนชอบเชื่อคนง่าย ไว้ใจคน ชอบช่วยเหลือ ในเกณฑ์ดวงท่านจะต้องเจอปัญหากับเรื่องคนอื่น
การแก้ไขกรรม ให้ทำบุญด้วยเทียน หลอดไฟ น้ำมัน แว่นตา ทำบุญกับพระหรือบริจาคช่วยเรื่องทำขาเทียม บ้านคนพิการ เติมน้ำมันตะเกียง หาพระประจำตัวไหว้จะช่วยลดกรรมได้ดี
2. ท่านที่เกิดวันจันทร์
เป็นคนลังเลในการกระทำ ขี้น้อยใจง่าย ขี้งอน ชอบใจอ่อน ชอบพูดอะไรแบบเปิดเผย จึงทำให้คนอื่นสามารถอ่านใจได้ง่าย ถ้าเจอคนคิดร้ายจะเป็นอันตราย ทำให้เสียชื่อเสียงแบบไม่ทันตั้งตัว
กรรมที่ติดตัว คือ กรรมด้านความรักจากอดีตจนปัจจุบัน บางท่านได้คู่ยาก บางท่านได้คู่แล้วแต่ต้องแอบซ่อน บางท่านได้คู่ที่อายุแตกต่างกันมาก...
หน้า 400 ของ 412