Update ประมวลภาพการส่งมอบเครื่องทำน้ำเย็นมอบให้ ร.ร.วัดเจริญผล (ปิดโครงการ)

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Tackled, 22 กรกฎาคม 2008.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. Tackled

    Tackled เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    5,523
    ค่าพลัง:
    +6,730
    รับทราบครับ
     
  2. นิลศิลป์

    นิลศิลป์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    1,241
    ค่าพลัง:
    +1,664
    โมทนาบุญกับทุกท่านด้วยครับ พี่หน่องเล่าให้ฟังว่า เห็นเด็กๆรองน้ำจากน้ำก็อกกินแล้วน่าสงสารครับ ว่าแต่พระปิดตานะมิ ของหลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค แท็กฯ ให้บูชาองค์ละเท่าไหร่ หรือครับ เห็นมีคนสนใจอยากได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กรกฎาคม 2008
  3. thaiput

    thaiput เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    9,528
    ค่าพลัง:
    +27,656
    *-* เพื่อนๆถ้าว่างเข้าไปเยี่ยมชมกันได้นะครับ ตามลิ้งนี้เลยนะครับ ขอบพระคุณมากครับ http://palungjit.org/showthread.php?t=132618 *-* thaiput007@hotmail.com โทร. 084-6245007
     
  4. อดุลย์ เมธีกุล

    อดุลย์ เมธีกุล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2007
    โพสต์:
    7,363
    ค่าพลัง:
    +11,794
    เหรียญนั่งพาน ความหมายคือการได้รับชื่อเสียงเกียรติยศ ความก้าวหน้าเหมือนใส่พานรอครับ

    รายการที่ 42

    เหรียญหล่อนั่งพาน หลวงพ่อเปิ่น รุ่นเสาร์ 5 ปี 2537



    บูชา 450 บาท / รบกวนช่วยค่าส่ง 50 บาทต่อครั้ง

    <!-- / message --><!-- attachments --><FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]
    </FIELDSET>
     
  5. พุทธนิรันดร์

    พุทธนิรันดร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    1,641
    ค่าพลัง:
    +5,039
    โอนเงินให้แล้วครับวันนี้(24 ก.ค.2551) 450 บาท จากบัญชี ธ.กรุงศรีฯ ไปยัง ธ.กสิกรไทยครับ
    รายการที่ 37

    พระพุทธชินราชหล่อ หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย ปี 2539

    บูชา 400 บาท / รบกวนช่วยค่าส่ง 50 บาทต่อครั้ง
    <!-- / message --><!-- attachments -->


    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]



    </FIELDSET>ที่อยู่แจ้งใน PM แล้วครับ
     
  6. Tackled

    Tackled เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    5,523
    ค่าพลัง:
    +6,730
    ขอบคุณมากครับอาจารย์
     
  7. eakbordin

    eakbordin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    1,472
    ค่าพลัง:
    +3,405
    หมดเขตร่วมทำบุญเมื่อไหร่ครับ
    รบกวน ส่ง file รูปโรงเรียน สภาพปัจจุบัน ให้ผมด้วยครับ จะได้คุยกับเพื่อนเผื่อเค้าสนใจร่วมทำบุญกันครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กรกฎาคม 2008
  8. Tackled

    Tackled เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    5,523
    ค่าพลัง:
    +6,730
    รูปดูได้ที่หน้าแรกกระทู้ครับ save และนำไปใช้ได้เลยครับ ส่วนระยะเวลาเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ครับ โครงการมีไปจนกว่าจะได้เครื่องทำน้ำเย็นครับ หรือถ้าต้องการรายละเอียดมากกว่านี้ ติดต่อพี่อดุลย์เพื่อประสานกับทาง ผอ.โรงเรียนได้เลยครับ
     
  9. Tackled

    Tackled เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    5,523
    ค่าพลัง:
    +6,730
    รายการที่ 43


    ชุดเหรียญถวายพระพร หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ ปี 2539
    (เก่าเก็บหน่อยครับ แต่เหรียญสวย)

    บูชา 400 บาท / รบกวนช่วยค่าส่ง 50 บาทต่อครั้ง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0158.jpg
      IMG_0158.jpg
      ขนาดไฟล์:
      78.7 KB
      เปิดดู:
      49
    • IMG_0162.jpg
      IMG_0162.jpg
      ขนาดไฟล์:
      80.1 KB
      เปิดดู:
      46
    • IMG_0164.jpg
      IMG_0164.jpg
      ขนาดไฟล์:
      73.7 KB
      เปิดดู:
      51
  10. Tackled

    Tackled เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    5,523
    ค่าพลัง:
    +6,730
    รายการที่ 44

    ลอยองค์เนื้อนวะ ปี 35 หลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม

    บูรพาจารย์ที่ถ่ายทอดวิทยาคม ให้หลวงพ่อมีทั้งฆรวาสและบรรพชิต โดยท่านเป็นผู้คงแก่เรียนเมื่อทราบว่ามีครูบาอาจารย์ดีเก่งกล้าอยู่ที่ทิศใด ท่านก็จะดั้นด้นไปหา ขอศึกษาหาความรู้จนแตกฉาน เรียกว่าปรนนิบัติอาจารย์เป็นเลิศ อาจารย์ก็เมตตาเห็นว่าตั้งใจจริง จึงถ่ายทอดวิชาให้ ชนิดแบบหมดไส้หมดพุง ถึงลูกถึงคนถึงพริกถึงขิง คือทดลอง ให้เห็นกันจะจะเลยทีเดียว ศิษย์ทำได้ถือว่าสำเร็จ แม้บางครั้งเสี่ยงต่อชีวิตแต่หลวงพ่อก็ไม่ย้อท้อ ขอเพียงให้ได้วิชาหรือศาสตร์อันลึกล้ำพิสดารนั้นมาท่านก็พอใจแล้วครูบาอาจารย์ของหลวงพ่อไสว เท่าที่พอจะประมวลได้พอสังเขปมีดังนี้

    ๑.หลวงปู่พูน เกสโร อดีตเจ้าอาวาสวัดใหม่ปิ่นเกลียว เป็นยอดพระเกจิฯ ร่นเดียวกับหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง นครปฐม หลวงพ่อวงษ์ วัดทุ่งผัดกูด และสหธรรมิกรุ่นพี่ของ หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม ซึ่งหลวงพ่อเงินท่านนับถือหลวงปู่พูน ในฐานะเป็นพระเกจิฯ รุ่นอาวุโสและเคยนิมนต์ให้มาปลุกเสกวัตถุมงคลรุ่นแรกๆ ของท่านหลวงปู่พูนท่านเป็นเจ้าตำรับวิชาคงกระพันชาตรี ขนาดใช้ฝ่ามือผ่าไม้รวกได้ วัตถุมงคลหลวงปู่พูน เซียนพระรุ่นเก่าๆรู้จักกันดี เช่นพระสังกัจจายน์ เนื้อผงใบลาน นางกวัก เนื้อผงดินเผา ปลัดขิก เหรียญรุ่น ๑ พ.ศ.๒๔๙๐ ผ้ายันต์-ผ้าประเจียด-ตะกรุดโทนปัจจุบันโด่งดังแต่หายากมาก หลวงพ่อไสว ได้รับการถ่ายทอดวิชา การลงอักขระเลขยันต์คงกระพันชาตรี วิชามหาอุด วิชาเมตตามหานิยม และอาถรรพ์เวทย์หลายด้านครบถ้วนจากหลวงปู่พูน ชนิดที่เรียกว่าครอบจักรวาลทีเดียว ที่หลวงพ่อไสวโด่งดังมากคือ ตะกรุดโทน ตำรับหลวงปู่พูน หลวงปู่พูน มรณะภาพ เมื่อ พ.ศ.๒๕๑๑ ปัจจุบันมีรูปเหมือนขนาดเท่าองศ์จริงประดิษฐานอยู่ที่ ณ วัดใหม่ปิ่นเกลียว เป็นที่เคารพนับถือของคนนครปฐมมาก ทุกครั้งที่ทางวัดมีงานสำคัญ จะนิมนต์หลวงพ่อไสว ไปร่วมงานในฐานนะศิษย์เอกหลวงปู่พูน วัดใหม่ปิ่นเกลียว อันเป็นที่ อมตะในตำรับผ้ายันต์-ตะกรุดโทน

    ๒.หลวงพ่อเงิน วัดยายส้ม (วัดปรีดาราม) ท่านบวชที่ วัดใหม่ปิ่นเกลียว เป็นศิษย์รับใช้ใกล้ชิดหลวงปู่พูน ลำได้รับการถ่ายทอดพุทธวิทยาคมไปจากหลวงปู่พูน หลวงพ่อไสว ได้รับการฝึกฝนสมาธิจิตพื้นฐาน จากหลวงพ่อเงิน วัดยายส้ม เมื่อได้เคล็ดวิชาเบื้องต้นแล้ว หลวงพ่อเงิน วัดยายส้ม จึงได้นำหลวงพ่อไสวไปฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่พูน ซึ่งเป็นปรมาจารย์จึงได้รับการถ่ายทอดสรรพวิทยาคาทั้งหมดฯลฯ ในปัจจุบันมีรูปเหมือนเท่าจริงหลวงพ่อเงิน ประดิษฐานอยู่หน้าอุโบสถหลังเก่าวัดปรีดาราม

    ๓.อาจารย์ยัง เพชรบุรี เป็นครูสักยันต์ชื่อดังระดับประเทศ เคยบวชเรียนและศึกษาพุทธาคมจากหลวงปู่พูน วัดใหม่ปิ่นเกลียว อาจารย์ยัง ท่านเก่งทางวิชาหาสะเดาะ สะเดาะลูกกุญแจหรือกลอนประตูดุจ ขุนแผน กลับชาติมาเกิด หลวงพ่อเงิน วัดยายส้ม นำหลวงพ่อไสว ไปเรียนวิชาบางประการ อันเป็นเอตทัคคะของอาจารย์ยัง อาจารย์ยังเกรงใจหลวงพ่อเงิน จึงถ่ายทอดวิชาพิเศษให้
    หลวงพ่อไสว อาทิเช่น การทำมหายันต์กำเนิดนารายณ์ อันมีฤทธานุภาพยิ่งต่อมาผ้ายันต์กำเนิดนารายณ์ของหลวงพ่อไสว ก็โด่งดังลือลั่นมีศิษย์หลวงพ่อคนหนึ่งเผชิญมหาภัย ใช้ผ้ายันต์อธิษฐาน
    ทำให้ฝ่ายตรงข้ามมองมาเห็นตัว กลับเห็นคนโพกผ้าแดงเต็มไปหมด จึงหนีรอดจากปวงภัยไปได้ด้วยปาฏิหาริย์ผ้ายันต์นั้น นอกจากนี้ป้องกันภูตผีปีศาจ ด๗รผู้ร้ายไม่อาจทำอันตรายได้ นิยมติดผ้ายันต์นี้ไว้เหนือประตูบ้าน มีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก มีผู้นักพบประสบการณ์มากมาย

    ๔.เสือย้อยชูรอด เป็นเสือร้ายจำใจในอดีต เป็นคนหมู่บ้านถนนขาด แถวเกาะวังไทร นครปฐม ตอนหลังกลับใจเป็นคนดีเป็นจอมขมังเวทย์ฤทธิ์เวทย์ขมังขลังนักเป็นที่เลื่องลือหลวงพ่อไสว ได้ขอเรียนวิชา “ยันต์หน้าพระ” หรือนะหน้าคนจากเสือย้อย ซึ่งได้รับการประสิทธิ์ประสาทให้ด้วยความเต็มใจชนิดครอบครูยกตำรับตำราให้เลย หลวงพ่อไสวฝึกฝนสูตรสนธิแม่นยำ และประทับใจในยันต์หน้าพระมาก หลวงพ่อไสวจึงใช้ยันต์เป็นสัญลักษณ์ประจำตัวท่าน โดนใช้ยันต์นี้ประทับอยู่ด้านหลังเหรียญของท่านแทบทุกรุ่น ได้รับปรากฏอิทธานุภาพเป็นที่รำลือเช่นกัน ตำรับยันต์หน้าพระเสือย้อยได้มอบแก่ “พระอาจารย์สำราญ” วัดเขาตะเครา และพระราชสุธรรมเมธี (หลวงพ่อ-เทพ) เจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ราชวิหาร อีกด้วย หลวงพ่อไสวจะเขียวยันต์นี้เจิมบ้าน เจิมรถ ลงกระหม่อมให้ลูกศิษย์ โดยบริกรรมภาวานาเรียกสูตรเรื่อยไปตากตำรับ ห้ามยกดินสอ กระทั่งเขียวเสร็จ

    ๕.หลวงพ่อขาว วัดสวนส้ม อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาครเป็นผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชา “ปิดทองเข้าหน้าผาก” หรือลงนะหน้าทองตำรับพิสดารให้แก่หลวงพ่อไสว เป็นสิ่งมหัศจรรย์ยิ่ง ต้องใช้พลังจิตชั้นสูงบริกรรมภาวานา โดยปิดทองคำเปลวที่หน้าผาก โดยใช้ ๓ แผ่นบ้าง ๙แผ่นบ้าง โดยไม่ต้องแกะกระดาษปิดออก หลวงพ่อเสกบริกรรม แล้วตบเบาๆ เปรี้ยงเดียวแผ่นทองคำก็หายไปในหน้าผากทั้งหมด มีอาณุภาพทางเมตตามหานิยม คุ้มภัยนานา

    ๖.อาจารย์ปิ่น รอดคลองตัน สมุทรสาคร เก่งในเรื่อง “ปลัดขิก” เพราะเป็นศิษย์หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ จ.ชลบุรี เป็นศิษย์หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก จ.ฉะเชิงเทรา เป็นศิษย์หลวงปู่พูน
    วัดใหม่ปิ่นเกลียว ปลัดขิกของหลวงพ่อไสวมีผู้อาราธนาฟาดสายรุ้ง ขาดออกจากกัน และเมื่อปลุกเสกในบาตรน้ำมนต์ วิ่งพล่านดุจมีชีวิต และกระโดดออกจากบาตรได้ ปัจจุบันหลวงพ่อไสว เป็นศูนย์รวมหนึ่งเดียวของการปลุกเสกปลัดขิกมีอานุภาพอัศจรรย์ปรากฏชื่อเกียรติคุณอยู่ในขณะนี้

    ๗.อาจารย์แช่ม ตะโกสูง จ.นครปฐม เป็นศิษย์หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง หลวงพ่อแช่มนั้นเป็นศิษย์ของหลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก ซึ่งมีอิทธิฤทธิ์หลายประการรวมทั้งย่นระยะทางได้ อาจารย์แช่มเป็นผู้ถ่ายทอดวิชาแพทย์แผ่นโบราณตำรับพุทธมนต์โอสถแก่หลวงพ่อไสว ซึ่งหลวงพ่อไสว เคยรักษาโรคร้ายแรง ที่โรงพยาบาลไม่รับ หายมาแล้วมากมาย ฯลฯ

    ๘.พระปลัดตู่ วัดหนองเสือ มีวิชาเร้นลับสำคัญอยู่ เรียกว่า วิชาตกวิญญาณ สำหรับใช้เรียกวิญญาณคนตกน้ำตายเพื่อนำวิญญาณไปอยู่ในที่อันควร พระปลัดตู่ได้ถ่ายทอดวิชาตกวิญญาณ ให้หลวงพ่อไสวอย่างสมบูรณ์แบบได้ผลอัศจรรย์ยิ่งพิธีสังเขปคือ เมื่อเรียกวิญญาณปลุกเสกหุ่นเสร็จ ตั้งเครื่องเสียกบาลต่างๆ แล้วใส่กระทงกากล้วย ทำบัตรพลี ใช้เบ็ดตกปลาเกี่ยวดินอาคมหย่อนลงไปในน้ำที่มีคนตกไปตาย บริกรรมคาถาเรียกวิญญาณ ผู้ที่มาเห็นปรากฏการณ์ประหลาดมีคลื่นวิ่งเป็นทางยาว สายเบ็ดกระตุกดุจมีปลาใหญ่มากินเหยื่อ จนคันเบ็ดโค้งโก่งไปโก่งมา ต้องกันดึงขึ้นมา ฯลฯ เรื่องนี้ชาวบ้านคลองจินดาต่างประจักษ์กันดี การตายโหงทุกรูปแบบหลวงพ่อก็ไปทำพิธีมาหมดแล้วแม้แต่มีผีเจ้าของสิงที่ไหนท่านก็เคยปรากมาหมดแล้ว โดยมากพาคน โดนผีเข้าที่อาการหนัก มารดน้ำมนต์หลวงพ่อ ผีดิ้นพราด ร้องโหยหวนวังเวง ก่อนจะออก

    ๙.หลวงพ่อประพันธ์ คำสิงห์ อยู่ในถ้ำดงพญาไฟ ได้ถ่ายทอดวิชาสร้างพระปรอท-ธาตุกายสิทธิ์ให้ศิษย์คนหนึ่งที่รับสัจจะเลิกเป็นโจรสลัด ต่อมาศิษย์คนนั้น ได้ถ่ายทอดวิชาให้แก่หลวงพ่อไสว หลวงพ่อได้สร้างพระปรอทแจกทหารเมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่ ๒ ทหารหาญผ่านสมรภูมิอย่างโชกโชน ถูกยิงไม่เข้า แคล้วคลาดจากระเบิด ปราศจากโรคภัยรอดมาได้ฯลฯนอกจากนี้หลวงพ่อไสวยังได้ไปเรียนวิชาอาคมเป็นเกร็ดเล็กน้อย จากพระเกจิอาจารย์อีกหลายรูป อาทิ หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ หลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทอง เจ้าแห่งการสร้างพระราหูดันเลื่องลือ เป็นต้น เหตุที่หลวงพ่อไสวมีจิตตานุภาพสูง ก็เพราะท่านได้บำเพ็ญธุดงค์วัตรฝึกสมาธิจิตหลังจากสอบได้นักธรรมเอก โดยอธิฐานออกธุดงค์ในพรรษาที่ ๓ มุ่งหน้าสู่ภาคอีสานไปมนัสการ พระธาตุพนม พรรษที่ ๗ ธุดงค์จาริกไปทางเขาวงพระจันทร์ ดินแดนถ้ำผาท้าวกกขนาก จ.ลพบุรี สู่ จ.อุตรดิตถ์ ฯลฯ สมัยนั้นเป็นป่ารกทึบ เต็มไปด้วยสัตว์ร้ายนานาชนิด และคลาคล่ำด้วยภูตผีปีศาจโขมดดง ผีก็องกอย ไข้ป่า และกฎอันศักดิ์สิทธิ์ของการสมาทานธุดงค์ เช่นครั้งท่านปักกลดลงไปแล้วครอบเอารังมดเข้าถอนกลดก็ไม่ได้จึงสมาธิแผ่เมตตาว่าคาถากันหมด ซึ่งได้มาจากหลวงพ่อพระครูสาครคุณาธาร เจ้าอาวาส วัดเดชาฯ จ.นครปฐม เกิดปรากกฎการณ์อัศจรรย์ มดฝูงใหญ่รวมกันอยู่ภายในกลดไม่มาไต่ท่านเลย เรื่องราวปาฏิหาริย์ของหลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม ยังอีกมาก

    คาถาของหลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม

    อิสิหะพะยัคโค อิปิภะวาระสัมสัมโธ ชาระสัมโนคะโลวิอะ ตะปุสะ มะระสัตเทมะ สาพุทภะวาติคะโธนัง นุสวะถะถิสารทัมระโร นุตทูกะโต สุปัณณะจะวิพุท มาหังอะคะโสติ สิงหะนาถัง จายังประสิทธิเม

    เสกข้าวกินทุกวัน สวดมนต์ก่อนนอน 3 จบ ตื่นนอนตอนเช้า 1 จบ เป็นสวัสดิมงคล อายุยืน


    บูชา 450 บาท / รบกวนช่วยค่าส่ง 50 บาทต่อครั้ง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กรกฎาคม 2008
  11. Dek_watpa

    Dek_watpa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    2,608
    ค่าพลัง:
    +4,517
    จัดส่งแล้วครับ

    วันนี้ได้จัดส่งพระสมเด็จปู่เฒ่าให้คุณพี่ณัชพล เรียบร้อยแล้วนะครับ
    เลขที่ ไปรษณีย์ ลงทะเบียน RD396464709 TH ครับ
    ได้รับแล้วรบกวนแจ้งกลับด้วยนะครับ
     
  12. อดุลย์ เมธีกุล

    อดุลย์ เมธีกุล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2007
    โพสต์:
    7,363
    ค่าพลัง:
    +11,794
    พี่น้องผองเพื่อนครับขอแรงกายแรงใจช่วยเหลือผมด้วยครับ ตั้งใจจะมอบเครื่องทำน้ำดื่มให้ร.ร.วัดเจริญผล ครับ งบประมาณร.ร.น้อยผมเห็นภาพนักเรียนดื่มน้ำก๊อกแล้วสงสาร ก็อยากเชิญชวนเพื่อนสละเงินร่วมบุญด้วยกันอีกครั้งหนึ่งนะครับผมกราบขอบพระคุณด้วยครับ

    มีนักเรียนประมาณ เกือบ 200 คนครับ

    ซึ่งมี ผอ.สายยนต์ กุลฑา เป็นผู้อำนวยการ ร.ร.วัดเจริญผล

    056-244226

    089-5628543 (สงสัยติดต่อสอบถาม โดยตรงได้ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ)
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  13. อดุลย์ เมธีกุล

    อดุลย์ เมธีกุล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2007
    โพสต์:
    7,363
    ค่าพลัง:
    +11,794
    รับทราบการจองครับ

    <TABLE class=tborder style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR title="โพส 1377729" vAlign=top><TD class=alt2 align=middle width=125>เกริกไกร</TD><TD class=alt1>อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Tackled [​IMG]
    รายการที่ 35

    พระปิดตาพระยาวัน หลวงพ่อเกษม เขมโก เนื้อนวะ ตอกโค๊ด สร้างปี 2536 พร้อมกล่องเดิม

    บูชา 400 บาท / รบกวนช่วยค่าส่ง 50 บาทต่อครั้ง
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    จองครับ ขอโอนเงินสิ้นเดือน ครับ </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  14. นิลศิลป์

    นิลศิลป์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    1,241
    ค่าพลัง:
    +1,664
    เห็นคนถามหาพระปิดตานะมิ หลวงปู่สี ผมพอจะเก็บไว้บ้าง เลยจะนำพระปิดตานะมิ หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค มาลงให้ทำบุญ 2 องค์ ทำบุญองค์ละ 300 บาท แท้ 100 % โดยให้โอนเงินเข้าบัญชีซื้อเครื่องทำน้ำเย็นทั้งหมดครับ+ค่าส่ง พรุ่งนี้จะถ่ายรูปมาลงให้ เมื่อโอนเงินแล้วผมจะส่งพระไปให้ครับ
     
  15. เส้นทางแห่งธรรม

    เส้นทางแห่งธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    797
    ค่าพลัง:
    +1,255
    พระกริ่งเพชรกลับ หลวงปู่ผาด วัดไร่ อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง ยังมีอยู่มั๊ยครับ ถ้ามีผมขอจองไว้ 1 องค์ครับ สิ้นเดือนโอนเงินให้ครับ(||)(||)
     
  16. Wirak

    Wirak Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2008
    โพสต์:
    106
    ค่าพลัง:
    +52
    ร่วมทำบุญ

    ขอร่วมบุญเช่าพระครับ
    รายการนี้นะครับยังเหลืออยู่หรือเปล่า
    1 องค์
    ช่วยแจ้งด้วยนะครับ
     
  17. Wirak

    Wirak Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2008
    โพสต์:
    106
    ค่าพลัง:
    +52
    ขอร่วมทำบุญเช่าพระครับ

    ขอร่วมบุญอีก 1 องค์นะครับ
    ช่วยแจ้งด้วยนะครับ
     
  18. Tackled

    Tackled เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    5,523
    ค่าพลัง:
    +6,730
    รับทราบการจองคุณ Wirak รายการที่ 19 + รายการที่ 21 ยังอยู่ทั้งคู่ครับ
     
  19. Tackled

    Tackled เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    5,523
    ค่าพลัง:
    +6,730
    รับทราบครับ
     
  20. Tackled

    Tackled เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    5,523
    ค่าพลัง:
    +6,730
    [​IMG]

    หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ศิษย์เอกของ "หลวงปู่ทิม อิสริโก" อดีตเกจิอาจารย์ ชื่อดังแห่งวัดระหารไร่ จ.ระยอง ต้นตำรับ "ขุนแผนผงพรายกุมาร" อันลือลั่นสนั่นวงการ พระเครื่อง ได้เมตตาให้สัมภาษณ์พิเศษ ทีมข่าวพระเครื่อง "คม ชัด ลึก" เกี่ยวกับการ สืบทอด วิชาคาถาอาคมต่างๆ จากหลวงปู่ทิม ตลอดจนการสร้างศาสนวัตถุ โดยเฉพาะ "พิพิธภัณฑ์ยันต์" แห่งแรก และแห่งเดียว ในเมืองไทย เชิญติดตามอ่าน กันได้โดยพลัน...

    ไม่ทราบว่า หลวงพ่อไปร่ำเรียนวิชากับ "หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่"
    ได้อย่างไรครับ?


    อาตมาเป็นคนที่นี่ (บ้านหนองกรับ อ.บ้านค่าย อยู่ห่างจากวัดระหารไร่ประมาณ 10 กิโลเมตร) ไปหาท่านครั้งแรก ตอนนั้นอาตมาอายุประมาณ 15 ปี เรียนอยู่ชั้นมัธยม ก็เข้าไปอยู่ที่วัดระหารไร่ ไปกินนอนที่วัดเลย ไปรับใช้หลวงปู่ทิม โดยได้ขออนุญาตจากทางบ้านแล้ว

    ตอนนั้น หลวงพ่อรู้ได้อย่างไรว่าหลวงปู่ทิมมีวิชาคาถาอาคมแก่กล้า
    เพราะหลวงปู่ทิมก็เพิ่งมีชื่อเสียงในช่วงที่ชราภาพมากแล้ว ซึ่งตอนที่ หลวงพ่อได้เจอท่าน ตอนนั้น หลวงปู่ทิมก็ยังไม่แก่เท่าไหร่ ใช่มั้ยครับ

    - อาตมาก็ดูจากที่ท่านปฏิบัติ อาตมาดู และเห็น เรื่องอย่างนี้ มันขึ้นอยู่กับสัญชาตญาณ ของแต่ละคน

    เมื่อตอนที่หลวงพ่อได้พบกับ "หลวงปู่ทิม" ครั้งแรก ตอนนั้นหลวงพ่อ รู้สึกอย่างไรบ้างครับ?

    - ท่านปฏิบัติดี อาตมาเห็นแล้วก็เกิดความเลื่อมใสศรัทธา มีความรู้สึกว่าหลวงปู่ทิม ไม่ใช่พระธรรมดา จึงได้ฝากเนื้อฝากตัวเป็นศิษย์ท่าน โดยโยมพ่อกับโยมแม่ได้ ถวายอาตมาให้เป็น "บุตรบุญธรรม" ของหลวงปู่ทิม จากนั้น จะขออะไร จะเรียนอะไร ก็จะได้ทั้งหมด เพราะปกติท่านจะไม่ค่อยถ่ายทอดวิชาให้กับใคร

    ทำไม "หลวงปู่ทิม" จึงไม่ค่อยยอมถ่ายทอดวิชาให้ใครง่ายๆ ล่ะครับ
    - ท่านกลัวว่าเมื่อถ่ายทอดวิชาให้คนที่เรียนไปแล้ว กลัวไม่เอาไปใช้จริง

    สมัยนั้น คงจะมีผู้คนมาขอเรียนวิชากับหลวงปู่ทิมเยอะสิครับ
    -ก็เยอะ แต่หลวงปู่ท่านจะดูลักษณะคนด้วยว่า ใครจริงจังจะศึกษาคาถาอาคมก่อนเป็นอันดับแรก เพราะถ้าเรียนไปแล้วไม่เอาจริงไม่มีความสนใจ และไม่เอาไปใช้ มันทำให้เสียเวลาในการแนะนำหรือสอน ท่านก็จะหมดกำลังใจ คือ การที่ท่านจะท่องจำนั้นไม่ไหวแล้ว หรือบางครั้งเรียนไปแล้วไม่เอาไปใช้ ก็ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงกับอาจารย์ผู้สอนไปด้วย ดังนั้น ท่านจะดูคน ถ้าคนไหนจะเอาจริงๆ ก็ต้องมีความเพียรจริงๆ

    นานมั้ยครับหลวงพ่อ กว่าที่หลวงปู่ทิมจะยอมถ่ายทอดวิชาให้หลวงพ่อ?
    - ไม่นาน เพราะว่า ท่านดูจากลักษณะว่า มีแววเอาจริง

    มีแววอย่างไรครับ?
    - ท่านคงเห็นว่าอาตมาเอาจริง และมุ่งมั่น โดยให้อาตมาไปเขียนผ้ายันต์มา 1 บททุกวัน และก็บอกว่าให้ไปท่องจำ โดยจะต้องจำให้ได้พอท่องจำได้แล้วก็มาท่องให้ท่านฟัง

    จากนั้น ทำอย่างไรต่อครับ?
    เมื่อเขียนบทที่ 1 เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เริ่มเขียนบทที่ 2 พอเขียนเสร็จแล้วก็มาทบทวนท่องให้ท่านฟังอีก ท่องจนกว่าจะจำได้ ท่านก็จะให้ท่องจำทุกบท ทำอยู่อย่างนี้ประมาณ 4-5 ปี

    หลวงพ่อทำแบบนี้อยู่กี่ปีครับ
    จำไม่ค่อยได้ แต่รู้ว่านานหลายปีเลยทีเดียว ซึ่งตรงนี้ทำให้อาตมาจำคาถาได้เยอะ และทำให้อาตมาจำได้ดี แต่คาถามีอยู่เยอะมาก ก็จำได้ไม่ได้ทั้งหมดหรอก มันมากมายกว่าที่เราจะจำได้ จึงได้มีการซิกแซก อาจารย์เลยท้าพูดกันง่ายๆ เลย

    ทำอย่างไรครับหลวงพ่อ
    พออาจารย์เผลอเราก็แอบเอาตำราเข้าห้องเลย เพราะเรารู้ว่าตำราเล่มไหนเราเขียนไปแล้ว เราก็จะไม่ เขียนซ้ำ จะเอาหยิบไปวางไว้เอง ท่านไม่รู้หรอก เราก็เขียน เล่มต่อไปอีก พออาจารย์เผลอเราก็เอาไปไว้ที่เดิม แล้วเอาเล่มใหม่ มาเขียนต่ออีก แต่สิ่งที่เราเรียน และท่องจำ มาทั้งหมดนั้น เราเข้าใจทุกอย่างแล้ว พออาจารย์รู้ ท่านก็ถามว่าเอาตำราไปใช่ไหม เนื่องจากแกสังเกตจากกองที่ตั้งหนังสือ มันไม่เรียงกัน เราก็ยอมรับว่าใช่ แต่ก็ได้บอกท่านว่า ตำราที่เรียนกับอาจารย์ ด้วยวิธีการท่องจำอย่างเดียวคงไม่ไหว เพราะมีมากมายเหลือเกิน จึงต้องลอก จากอาจารย์เก็บไว้ ท่านก็ไม่โกรธ เพราะว่าท่านเข้าใจว่าเราเอาไปก็ต้องได้ใช้ ในที่สุด ท่านก็บอกว่า ท่านก็เรียนมาแบบนี้เหมือนกัน (หัวเราะ) ถ้าอย่างนั้น เราก็ตีจบไปเลยว่า เราไม่ผิด (หัวเราะ)

    แล้วหลวงปู่ทิม ท่านไปเล่าเรียนวิชามาจากที่ไหนครับ?
    - หลวงปู่สิม วัดบ้านซ่อง อำเภอวันทอง จังหวัดชลบุรี ที่เป็นศิษย์สายเดียวกับหลวงปู่ทิมก็มี หลวงพ่อโด่ วัดนามะตูมและหลวงปู่ม่น วัดเนินตาหมาก

    หลวงปู่ทิมเคยพูดถึงเรื่องอภินิหาร และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ให้หลวงพ่อฟัง บ้างมั้ยครับ
    - อันนี้ ท่านไม่เคยพูดให้ฟังเลย



    แล้วหลวงพ่อไม่ถามหลวงปู่ทิมบ้างเลยหรือครับ ว่าวิชาคาถาอาคมต่างๆ ที่เรียนมานี้ มีความศักดิ์สิทธิ์ หรือไม่ อย่างไร?
    - อาตมาก็ถามเหมือนกัน แต่ท่านไม่บอก ท่านบอกว่าก็ทำไปแล้วจะรู้เอง ขอให้ฝึกจิตใจของตัวเองไปให้สงบ เดี๋ยวก็รู้เอง คนอื่นจะรู้ด้วยไม่ได้ นอกจากตัวเอง

    แล้วหลวงพ่อเคยเห็น "อภินิหาร" ของหลวงปู่ทิมบ้างไหมครับ?
    - ไม่เคยมีนะ เห็นท่านเป็นพระธรรมดาๆ รูปหนึ่งเท่านั้น และท่านก็เป็นพระเงียบๆ แต่ก็พอคุยได้เหมือนกัน จริงๆ จะว่าไม่มีในเรื่องอภินิหารเลยก็ไม่ใช่นะ ก็มีเหมือนกัน

    มีอภินิหารอย่างไรครับหลวงพ่อ?
    - ตอนนั้นเป็นเวลากลางวัน ประมาณบ่ายโมง แกเอาผ้าพาดบ่าไปสรงน้ำ สมัยก่อนวัดระหารไร่จะมีบึง และเป็นป่าเยอะ ไม่เหมือนปัจจุบัน แกก็ไปนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ เราก็จะเข้าไปคุยด้วย เพราะเห็นว่าท่านนั่งตากลมอยู่คนเดียว จากนั้นก็ได้นั่งคุยกันไปคุยกันมาตามอัธยาศัยคุยกันเป็นชั่วโมงเหมือนกัน แล้วแกก็หยุดคุย จากนั้น แกก็เอามือแหย่ลงไปในน้ำแล้วก็ดีด 2-3 ครั้ง ครู่เดียวปลาก็วิ่งมาเป็นฝูงเลย

    ปลาวิ่งมาหาหลวงปู่ทิมเป็นฝูงเลยเหรอครับ
    - ปลาหลายชนิดได้ว่ายมาหาแกนั่นแหละ อาตมาไม่ว่าอะไร ก็นั่งดูเฉยๆ ท่านก็ดีดอีก ปลาก็วิ่งเข้ามาอีกเป็นจำนวนมาก ด้านหน้าที่มีแต่ปลาทั้งนั้น ท่านก็ไม่ว่าอะไรเฉยอย่างเดียว เสร็จแล้วสักพักก็ขึ้นไปบนศาลา อาตมาก็ไม่ได้ถามอะไรท่านในตอนนั้น หลังจากนั้นประมาณ 2-3 อาทิตย์ อาตมาจึงได้เข้าไปนั่งพูดคุย กับท่านด้านนอกกุฏิ ระหว่างคุยไปคุยมา พอได้จังหวะดี เห็นแกอารมณ์ดี ยิ้มแย้มแจ่มใส จึงได้ถามท่านว่า "หลวงพ่อวันที่ฉันได้นั่งคุยกับหลวงพ่อ อยู่ริมบึงวันนั้น เพราะเหตุใดปลาถึงวิ่งมาหาได้?" ท่านก็บอกว่า "มันมาดูเรามั้ง" ท่านก็ว่าอย่างนั้น (หัวเราะ) อาตมาก็ถามท่านต่อว่า ผมก็เดินมาหลายครั้ง แต่ไม่เห็นปลามันวิ่งมาดูเลย ผมว่าหลวงพ่อต้องมีอะไรสักอย่าง เมื่อคุยไปคุยมาท่าน ก็ว่าไม่มีอะไรหรอก แต่เราก็ตื้ออยู่นาน เมื่อถามไปถามมา ก็บอกว่ามี

    มีอะไรครับ
    - ก็มีคาถา เป็นคาถาเรียกงูเรียกปลา จากนั้นก็คุยเรื่องอื่นต่อไป เพราะรู้แล้วว่ามีแน่ จากนั้น พออาตมาบวชมาได้ 2-3 พรรษา ก็ได้ขอวิชานี้กับท่าน ขอนับสิบครั้งเห็นจะได้ แต่ก็ไม่ให้

    ทำไมหลวงปู่ทิมจึงไม่ยอมถ่ายทอดวิชานี้ให้หลวงพ่อล่ะครับ?
    - เพราะว่าคงหวงวิชา แต่ที่ขอแล้วก็เฉย ถ้าแกตอบว่า อย่าเอาเลย เราก็คงไม่ตอแยแน่ จนในที่สุด เมื่อแกใกล้จะมรณภาพ แกถึงบอกว่า วิชานี้อย่าเอาเลย ขอให้ติดตัวแกไป เพราะอะไรครับหลวงพ่อ ถ้าคนเอาไปใช้ไม่มีสัจจะ ก็จะอันตรายมาก เพราะวิชานี้ไม่ได้ใช้เรียกปลาเท่านั้น สัตว์ทุกชนิด ถ้าตั้งใจจะเอา ก็จะได้ทุกอย่าง แม้แต่คนก็สามารถเรียกมาได้ ถือเป็นคาถาที่อันตราย เพราะถ้านำใช้ไปในทางไม่ดี ก็อันตรายมาก สาเหตุนี้ ท่านจึงไม่ยอมให้ใครเลย แกบอกว่าอย่าเอาเลย แต่อย่างอื่นแกให้ทุกอย่าง จริงๆ เราเสียดายก็เสียดาย แต่แกบอกอย่าเอาเลย พอตกกลางคืนก็เอาอีกนะ ถามแกว่า ไอ้วิชาที่ว่านี้มันเป็นอย่างไร ผมอยากรู้วิชาที่ดีมันว่าอย่างไร ถึงผมได้ ผมก็ไม่เอาไปใช้หรอก และจะไม่ให้ใครด้วย แกก็บอกว่า คนเราเอาแน่นอนที่ไหนได้ อนิจจังของคนไม่แน่นอน ในยามถูกใจก็ดี ในยามไม่ถูกใจก็ดี

    แสดงว่าหลวงปู่ทิมกลัวจะมีคนนำคาถานี้ไปใช้ในทางไม่ชอบ?
    - ใช่ อาจมีการนำไปใช้อย่างไม่ถูกไม่ต้อง ความมุ่งหมายของแกรู้
    ฉันก็แทงใจแกถูก (หัวเราะ) ถ้าให้ฉันแล้วเรื่องของเรื่อง คือ แกกลัวฉันจะสึก และมันมีเขียนไว้ในสมุดข่อย แกก็ทำลายทิ้งไป แต่เราเห็น ก็หยิบเอามาต่อกัน ผิดบ้าง ถูกบ้างแต่ก็อ่านไม่รู้เรื่อง แต่ฉันสันนิษฐานว่า คาถานี้ ไม่น่าจะเกิน 5 คำ



    แล้วพระ "ขุนแผนผงพรายกุมาร" ล่ะครับ หลวงปู่ทิมท่านทำอย่างไรครับ?
    - ขุนแผนนี้ท่านได้มาสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2517 ช่วงก่อนที่แกจะมรณภาพไม่กี่ปี ที่ทำก็เพราะมีไวยาวัจกรของวัด แกก็คิดว่าจะทำขุนแผน จึงไปปรึกษากับหลวงปู่จะทำอย่างไรดี แกก็ไม่บอก กลุ่มพวกนี้ก็หัวใสอยู่แล้ว ก็ไปเอาแบบที่จะสร้างขุนแผนมาให้ท่านดูว่าควรสร้างแบบไหนดี แบบนี้ได้ไหม แบบนั้นได้ไหม ในที่สุดก็จึงได้สร้างขุนแผนขึ้นมา เพื่อจะได้นำเงินมาก่อสร้างบำรุงวัด เนื่องจาก
    เมื่อก่อนบริเวณวัดแห่งนี้เป็นป่าทั้งนั้น

    หลวงปู่ทิมเป็นคนบอกให้ใช้ "ผงพรายกุมาร" มาทำใช่มั้ยครับ
    - ไม่ใช่ แต่มาจากลูกศิษย์ อันนี้ ก็ได้ปรึกษาหารือกันแล้ว ว่าจะทำอย่างนี้ อย่างนี้นะ แล้วก็นำไปปรึกษาหารือกับหลวงปู่ทิม ว่าจะทำได้ไหม แกก็บอกว่าได้ ถ้ามีความสามารถทำมาได้ แกก็ทำให้ได้ พวกลูกศิษย์ก็จึงไปจัดหากันมา เพราะคนตายสมัยนั้นเขาจะเอาฝังดิน ไม่เหมือนสมัยนี้ที่ไม่มีการฝังแล้ว โยมปูน สัปเหร่อของวัดในสมัยนั้นก็เป็นคนไปเอาผงพรายกุมารมา ก็จะเป็น "ลิ้น" กับ "เส้นผม" ของเด็กที่อยู่ในท้องแม่ที่ตายท้องกลม แต่ไม่ได้เอาหัวกะโหลกอะไร



    ลูกศิษย์เป็นคนจัดการเองทั้งหมดเลยใช่ไหมครับ?
    - ลูกศิษย์จัดการเอง โดยท่านไม่ได้บอก พวกนั้นได้ไปขุดหากันมา
    อย่างเส้นผมก็จะเอามาซอย ส่วนลิ้นก็จะเอาไปย่างแล้ว เอามาบด ให้ละเอียด แล้วก็เอามาให้ท่าน ซึ่งทางท่านก็มีส่วนผสมอยู่แล้ว เมื่อเอามาผสมกันแล้ว ก็ทำการปลุกเสก ที่จริง พลังจิตของท่านที่มีเจตนาเป็นกุศลแรง เป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องใส่ผงพรายกุมาร แต่ถ้ามีการใส่ผงพรายกุมารนี้ลงไป เขาบอกว่าถ้าทำอะไรผิดแหวกแนว คนใหม่ๆ มันชอบ มันก็เชื่อ เป็นอุปทานไป


    ตอนนั้น หลวงปู่ทิมปลุกเสกขุนแผนผงพรายกุมาร นานแค่ไหนครับ?
    - ท่านปลุกเสกคนเดียว ประมาณ 1 อาทิตย์เศษๆ แล้วเขาก็เอาออกมาใช้กัน

    วิชาการสร้างขุนแผนผงพรายกุมารของหลวงปู่ทิม ก็ตกทอดมาถึงหลวงพ่อด้วยใช่มั้ยครับ?
    - อาตมาก็ได้เรียนกับท่านมา และได้มาแบบท่านไม่ได้หวงเลย
    อาตมาไม่ได้อย่างเดียว คือ คาถาที่เรียกปลาเท่านั้นแหละ อย่างผงพรายกุมาร อาตมาก็ได้จากท่านมาบางส่วน ก็ขอท่านไว้หลังจากที่ท่านทำพิธีปลุกเสก เพราะตอนนั้น อาตมาก็ช่วยเขาทำอยู่ด้วย แต่ก็ได้มานิดเดียว ค่อนๆ ตลับยาหม่องเล็กๆ พออาตมาสร้างพระขุนแผน ก็เอาผงพรายกุมารที่ได้มาใส่เป็นเชื้อ แล้วก็จะหาผงอย่างอื่นเอามาผสมกัน

    วิชาเหล่านี้ นอกจากจะมีดีตามความเชื่อของแต่ละคนแล้ว จะมีผลที่ไม่ดีอะไรบ้างมั้ยครับ?
    - อะไรที่เกี่ยวกับผี มันไม่ดีหรอก บอกได้เลยว่าไม่ดี ถ้าสมมติว่าเราทำให้ใครใช้ หากเราบังคับมันไม่อยู่ ไอ้คนใช้ก็จะอันตราย เป็นอย่างนั้น เพราะฉะนั้น ฉันเรียนมาก็จริง แต่ตัวฉันไม่เอานะ เข้ากับผี ไม่ว่าจะเป็นกระดูกหรืออะไร หลวงพ่อก็ทำได้ แต่ไม่ทำ ทำได้ เนื่องจากวิชาเหล่านี้เรียนมาทั้งนั้น แต่ไม่ทำ อะไรที่เกี่ยวกับผีเป็นไม่เอา จะเป็นสีผึ้ง หรืออะไรก็แล้วแต่ ไม่เอา มันจะเป็นอันตรายที่เกิดขึ้นได้ เพราะถ้าทำไม่ดี คนๆ นั้นอาจถึงขั้นวิปริต เสียสติไปเลย ส่วนพระขุนแผน พวกผงพรายกุมารนั้น ต้องเรียกว่าคนทำ คือ หลวงปู่ทิมท่านเก่ง ท่านบังคับอยู่เลย ท่านเสกบังคับไว้เสร็จเลย ฉะนั้น คนที่จะทำต่อไป ถ้าไม่แน่จริงอย่าไปทำ มันเป็นอันตรายถือว่าเล่นกับผีนะ เดี๋ยวเสกบังคับไม่ได้ ก็ยุ่งเลย

    แล้วคาถาที่หลวงปู่ทิมเสกบังคับเอาไว้ ไม่มีเสื่อมบ้างหรือครับ
    - มันไม่เสื่อมหรอก เหมือนโบราณเขาว่าไว้ว่า ถ้าทำได้แน่จริง ดีจริงๆ มันไม่เสื่อมหรอก เช่นเดียวกับเพชรที่ตกไปในตม เอาขึ้นมาล้างมันก็คือเพชร ไม่เสื่อมหรอก

    ได้ข่าวว่า ตอนนี้ หลวงพ่อกำลังจะสร้าง "พิพิธภัณฑ์ยันต์" ขึ้นมาที่วัดหนองกรับ ไม่ทราบว่าเป็นอย่างไรครับ?
    - ก็จะสร้างเป็นอาคาร 3 ชั้น ชั้นล่างก็จะเป็นกุฏิ ไว้ต้อนรับญาติโยมที่เดินทางมาทำบุญที่วัด ชั้น 2 ก็จะทำเป็นพิพิธภัณฑ์ ส่วนชั้น 3 จะใช้เป็นที่เก็บวัตถุมงคลต่างๆ ที่ได้ปลุกเสกแล้ว พิพิธภัณฑ์นี้จะใช้เวลาสร้างประมาณ 3 ปีได้ อาตมาคาดว่า เดือนพฤษภาคมปีนี้จะเสร็จสมบูรณ์

    พิธภัณฑ์ที่ว่านี้ เมื่อเสร็จแล้วจะเป็นแบบไหนครับ?
    - จะทำเป็นที่เก็บเฉพาะ "ยันต์" เท่านั้น จะเป็นยันต์ขนาดใหญ่ที่ดูแล้วสวยงาม เป็นยันต์ที่อาตมาเขียนเองทั้งหมด ส่วนใหญก็เป็นยันต์ที่ได้เรียนมาจากหลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ ก็มียันต์ หนุมาน ยันต์ชูชก และเป็นยันต์พวกดาวเดือน ฯลฯ ยันต์ต่างๆ ก็จะมีอยู่ในตำรา ลอกจากตำราแล้วเอาไปปั้นติดผนังเลย และคิดว่าถ้าปั้นจะแลดูขลังกว่า จะนูนออกมาสวยกว่า โดยจะมีการเขียนตัวหนังสือออกมาก่อนแล้วเอามาแกะตัวหนังสือทำแม่พิมพ์เลย แล้วเทเป็นตัวๆ ไปเลย ก ข ค ง จ ธ ท น ฯลฯ ไอ้เส้นยันต์เราก็เทเป็นร่องๆ ไป ประมาณ 40 ซม. หรือ 30 ซม.

    การเขียนยันต์ หลวงพ่อเรียนจากหลวงปู่ทิมท่านเดียวเลยเหรอครับ
    - อาตมาก็ไปเรียนกับอาจารย์เรียง อยู่ที่กรมศิลปากรด้วย ก็ไปเรียนกับท่านตั้งแต่อายุประมาณ 15 ปี สมัยนั้น ท่านอาจารย์เรียงมาทำงานอยู่แถวชลบุรี ท่านก็เริ่มให้ฝึกตั้งแต่การแกะสลักไม้ หลังจากนั้นก็ได้ฝึกเขียนยันต์ ส่วนใหญ่จะให้หัดเขียนเป็นลายไทย พวกลายกนกต่าง ๆ ก็เรียนอยู่กับอาจารย์เรียง ประมาณ 5 ปีเห็นจะได้ ก็เป็นพื้นฐานในการเขียนยันต์ต่างๆ ในเวลาต่อมา

    เครื่องรางของขลังต่างๆ มีประโยชน์อย่างไรบ้างครับหลวงพ่อ
    - ให้เป็นพุทธานุสติ ให้มีการระลึกถึงสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์ คือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ให้ระลึกนึกถึงคุณงามความดี ไอ้ประโยชน์ของเขามันมองไม่เห็น แต่กรณีฉุกเฉิน มันก็สามารถทำให้เราแคล้วคลาดจากอันตรายต่างๆ ไปได้ หรือบางครั้งจากหนักก็ให้เป็นเบาได้ เรื่องแบบนี้พูดยาก ขึ้นอยู่กับความเชื่อ หรือคนต้องประสบเอง

    ในทางกลับกัน เครื่องรางของขลังต่างๆ มีโทษบ้างมั้ยครับ
    - ถ้านำไปใช้ในสิ่งที่ผิด ก็จะเกิดโทษ เช่น คนที่ได้เครื่องรางของขลัง
    ไปแล้วคิดว่าตัวเอง ดีแล้ว เหนียวแล้ว คงกระพันแล้ว ก็เกิดความประมาท บางทีก็ไปหาเรื่องหาราวคนอื่น อย่างนี้ก็เป็นโทษ แต่ถ้าคนเรา เอาเครื่องราง ของขลังเอาไปใช้อย่างไม่ประมาท เอาไว้คุ้มครองตัวเอง เอาไว้เป็นที่ระลึก เป็นพุทธานุสติ คงไม่มีปัญหา

    ทีมข่าวพระเครื่อง "คม ชัด ลึก "
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...