<VSN><<<มาใหม่ สายเขาอ้อ อ.ชุม,อ.ปาล,อ.คง, สรุปรายการหน้า๑๐๓>>><NSV>

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย momotaro67, 25 ธันวาคม 2010.

  1. รับโชค

    รับโชค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    2,131
    ค่าพลัง:
    +11,878
    [​IMG][​IMG][​IMG]
    สวัสดีครับคุณโม สบายดีนะครับ
     
  2. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,458
    เปิดมาทีแรกนึกว่าตาลาย สวัสดีครับ สบายดีไหมครับ
     
  3. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,458
    [​IMG]
    หลวงพ่อคง วัดบ้านสวนอดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านสวน "ศิษย์" สายสำนักวัดเขาอ้ออีกรูปหนึ่ง คือ พระครูพิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) นับว่าเป็นที่น่าสนใจยิ่งอีกรูปหนึ่ง โดยหลวงพ่อคง วัดบ้านสวนเป็น "ศิษย์" สืบทอดวิชามาจากพระครูสิทธิยาภิรัต (เอียด ปทุมสโร) วัดดอนศาลา

    ประวัติหลวงพ่อคง วัดบ้านสวน
    พระครูพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน เกิดเมื่อวันพุธ ขึ้น 15 ค่ำ เดือนยี่ ปีขาล ตรงกับวันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2445 ที่บ้านทุ่งสำโรง หมู่ที่ 8 ตำบลนาขยาด อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง เป็นบุตรของนายส่ง มากหนู และนางแย้ม มากหนู มีพี่น้องด้วยกัน 4 คน คือ
    1. นายปลอด มากหนู
    2. นายกล่ำ มากหนู
    3. นายกราย มากหนู
    4. พระครูพิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต)
    หาก บิดามารดาได้ถึงแก่กรรมตั้งแต่ครั้ง พระครูพิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) ยังเยาว์วัย จึงได้อยู่ในความอุปการะของนายชู เกิดนุ้ย และนางแก้ว เกิดนุ้ย ผู้เป็นญาติ ซึ่งเมื่อพระครูพิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) มีอายุพอสมควรแก่การศึกษาเล่าเรียนแล้ว นายชู เกิดนุ้ย ได้นำไปฝากเป็นศิษย์พระครูสิทธิยาภิรัต (เอียด ปทุมสโร) ที่วัดดอนศาลา โดยเมื่อแรกได้ศึกษากับพระครูสิทธิยาภิรัต (เอียด ปทุมสโร) โดยตรง ต่อเมื่อทางวัดดอนศาลาได้จัดตั้งโรงเรียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงได้ศึกษาร่ำเรียนในโรงเรียนแห่งนั้นจนสำเร็จการศึกษาขั้นสูงสุดเมื่อปี พ.ศ. 2462

    ต่อมาเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2465 ได้บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดสุนทรวาส ตำบลปันแต อำเภอควนขนุน มีพระครูกาชาด (แก้ว) วัดพิกุล ตำบลชะมวง อำเภอควนขนุน เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูสิทธิยาภิรัต (เอียด ปทุมสโร) วัดดอนศาลา เป็นพระศีลาจารย์ บรรพชาแล้วไปจำพรรษาอยู่วัดดอนศาลา แล้ววันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2466 จึงได้บรรพชาเป็นพระภิกษุ ณ วัดดอนศาลา มีพระครูกาชาด (แก้ว) วัดพิกุลทอง เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการหนู วัดเกาะยาง ตำบลนาขยาด อำเภอควนขนุน เป็นพระกรรมวาจารย์

    หลวงพ่อคง ได้รับฉายาว่า "สิริมโต"

    หลวงพ่อคง วัดบ้านสวนอยู่จำพรรษาและศึกษาร่ำเรียนที่วัดดอนศาลา แต่ไปเรียนพระปริยัติธรรมที่วัดพิกุลทองจนสอบนักธรรมตรีได้ในปีที่บวช หากแต่เพราะสุขภาพไม่เอื้ออำนวยให้ อีกทั้งครูสอนพระปริยัติธรรมสมัยนั้นหายากยิ่ง หลวงพ่อคง จึงเรียนพระปริยัติธรรมแต่เพียงเท่านั้น แต่ก็ได้ศึกษาวิชาไสยเวท ตามตำรับวัดเขาอ้อจากพระครูสิทธิยาภิรัต (เอียด ปทุมสโร) อีกทั้งยังคงขวนขวายในการหาตำรับตำราไสยศาสตร์ของท่านอาจารย์เฒ่าวัดเขาอ้อ มาศึกษาเองเพิ่มเติม จนมีความรู้แตกฉานและทรงวิทยาคุณในวิชาแขนงนี้ จนในชั้นหลังได้เป็นที่รู้จักและเคารพนับถือจากประชาชนทั่วไปทั้งในจังหวัด พัทลุงเอง หรือจังหวัดใกล้เคียง และเริ่มมีลูกศิษย์ลูกหามากขึ้นเป็นลำดับ ต่างเรียกว่า พระอาจารย์คงบ้าง "พ่อท่านคง"บ้าง แม้ในชั้นหลังจะมีสมณศักดิ์แล้วก็ยังคงเรียกขานเช่นเดิม

    หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน ไม่มีใครเรียกขานในนาม พระครูพิพัฒนสิริธรกันเลย

    กล่าวในหน้าที่การงานและการสร้างสาธารณประโยชน์ของพระครูพิพัฒนสิริธร (คง สิริมโต) นั้น ในปี พ.ศ. 2475 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดบ้านสวน ในปี พ.ศ. 2482 พ่อท่านคง ได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระใบฎีกา ฐานานุกรมในพระครูกัลยาณปรากรมนิวิฎฐ์ เจ้าคณะอำเภอควนขนุน ถึงปี พ.ศ. 2487 พ่อท่านคง ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านสวน

    ในปีพ.ศ.2491 หลวงพ่อคง ได้เลื่อนสมณศักดิ์จากพระใบฎีกามาเป็นพระครูชั้นประทวน ที่พระครูคง สิริมโต ปีรุ่งขึ้นพ.ศ.2492 พระครูสิทธิยาภิรัต (เอียด ปทุมสโร) เจ้าอาวาสวัดดอนศาลา และเจ้าคณะตำบลมะกอกเหนือ มรณภาพลงเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ.2491 ทางเจ้าคณะอำเภอควนขนุนจึงมอบหมายให้ท่านรักษาการแทนเจ้าคณะตำบลมะกอกเหนือ และได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบลมะกอกเหนือในปีพ.ศ.2493 อีก 3 ปีถัดมา คือ ในปีพ.ศ.2496 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ในเขตตำบลมะกอกเหนือ และยังได้รับมอบหมายจากเจ้าคณะอำเภอควนขนุนให้เป็นพระอุปัชฌาย์ในพื้นที่ ตำบลใกล้เคียง เช่น ตำบลปันแต เป็นต้น จากบันทึกหลักฐานในการทำหน้าที่พระอุปัชฌาย์ของพระครูพิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) ว่า ได้ทำหน้าที่บรรพชาเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ.2496 และครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 18 กันยายน พ.ศ.2517 ก่อนหน้าที่จะมรณภาพ 5 วัน ได้ทำการอุปสมบทเป็นจำนวนทั้งสิ้น 2,387 รูป ปัจจุบันลัทธิวิหาริกของพระครูพิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) ที่ยังอยู่ในสมณเพศประมาณ 30 รูป ซึ่งได้เจริญก้าวหน้าในหน้าที่สงฆ์ และสมณศักดิ์ก็มาก

    ต่อเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2500 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นสัญญาบัตรที่ "พระครูพิพัฒน์สิริธร"

    ทางด้านการพัฒนาก่อสร้างสาธารณประโยชน์ของ พระครูพิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) นับตั้งแต่เมื่อชาวบ้านได้เดินทางไปยังวัดดอนศาลา เพื่อขอพระภิกษุไปดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบ้านสวนที่ว่างลงต่อพระครูสิทธิ ยาภิรัต (เอียด ปทุมสโร) ที่ได้ให้ชาวบ้านเลือกพระภิกษุภายในวัดดอนศาลา ซึ่งขณะนั้นมีหลายรูปด้วยกันที่มีคุณวุฒิ วัยวุฒิ พร้อมจะเป็นเจ้าอาวาสวัดได้ ซึ่งชาวบ้านได้เลือกพระภิกษุคง สิริมโต เนื่องเพราะว่ามีอุปนิสัยใจคอเยือกเย็น มีอัธยาศัยดี มีบุคลิกลักษณะเหมาะสม เป็นผู้เอาการเอางาน สามารถที่จะพัฒนาวัดให้เจริญได้ ประกอบกับพระภิกษุคง สิริมโต เป็นผู้เคร่งครัดในการปฏิบัติพระธรรมวินัย จนเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านมาก่อน

    เมื่อหลวงพ่อคง มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส วัดบ้านสวนแล้วนั้น นอกเหนือจากการปกครองคณะสงฆ์ของวัด พระครูพิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) ยังได้ร่วมมือร่วมใจกับชาวบ้านบ้านสวนในการพัฒนาวัด และสร้างสาธารณประโยชน์เพื่อพระพุทธศาสนา และชาวบ้านทั้งหลาย

    โดยในปีแรกที่หลวงพ่อคง ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัด ได้จัดให้มีการศึกษาหนังสือไทยแก่เด็กชาวบ้านขึ้นภายในวัด โดยอาศัยศาลาโรงธรรมของวัดเป็นที่ศึกษาแทนโรงเรียน ให้พระสงฆ์ทำหน้าที่เป็นครูสอน การศึกษาได้เจริญเป็นลำดับมาจนภายหลังได้ก่อสร้างเป็นโรงเรียนประชาบาล ชื่อโรงเรียนประชาบาลตำบลมะกอกเหนือ 2 (วัดบ้านสวนคงวิทยาคาร) เปิดสอนในระดับประถมศึกษาปีที่ 1-6

    ในปีพ.ศ.2477 ได้จัดตั้งสำนักเรียนสอนพระปริยัติธรรมขึ้น โดยในชั้นแรกพระครูพิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) ได้ทำหน้าที่สอนเอง ทั้งนี้ด้วยสมัยนั้นหาผู้สอนพระปริยัติธรรมได้ยากมาก ต่อเมื่อได้ครูสอนแล้วหลวงพ่อคงท่านจึงได้หยุดสอนหนังสือ

    ในปีพ.ศ.2479 เมื่อมีพระภิกษุจำพรรษาที่วัดเพิ่มขึ้น ทำให้ไม่มีกุฏิเพียงพอ "หลวงพ่อคง"จึงได้สร้างกุฏิขึ้น 1 หลัง มี 3 ห้อง และในปีพ.ศ.2482 ได้สร้างเพิ่มอีก 1 หลัง ปีพ.ศ.2484 ได้สร้างอาคารเรียนโรงเรียนประชาบาลตำบลมะกอกเหนือ 2 (โรงเรียนวัดบ้านสวนคงวิทยาคาร) ซึ่งในการจัดสร้างครั้งนี้พระครูพิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) ได้ขออนุญาตทางราชการทำการตัดไม้ในป่ามาเลื่อยเป็นแผ่นกระดานสำหรับทำพื้น และฝา และในปีพ.ศ.2486 ได้จัดหาทุนสร้างโต๊ะ เก้าอี้สำหรับครู 2 ชุด โต๊ะและม้านั่งสำหรับนักเรียน 30 ชุด กระดานดำ 3 แผ่น มอบให้กับทางโรงเรียน

    พ.ศ.2488 ได้สร้างกุฏิสงฆ์ขึ้นอีกหนึ่งหลัง เป็นกุฏิไม้ใต้ถุนสูง ต่อมาในปีพ.ศ.2490 เมื่อโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกนักธรรมวัดบ้านสวน มีพระภิกษุสามเณรมาศึกษาเพิ่มเป็นจำนวนมาก อาคารเรียนไม่เพียงพอจึงได้สร้างขึ้น 1 หลัง เป็นอาคาร 2 ชั้น พ.ศ.2492 ได้สร้างกุฏิสงฆ์เพิ่มอีก 1 หลัง เป็นกุฏิไม้ใต้ถุนสูง
    ในปี พ.ศ. 2493 ได้สร้างบ่อน้ำเพิ่มขึ้น 1 บ่อ จากเดิมที่มีอยู่เพียงบ่อเดียว เพื่อสาธารณ ประโยชน์ทั้งวัดและชาวบ้านได้ใช้ในยามหน้าแล้ง พอปีรุ่งขึ้น พ.ศ. 2494 ได้ร่วมกับชาวบ้านสร้างถนนเข้าสู่วัด โดยเชื่อมต่อกับถนนใหญ่สายควนขนุน-ปากคลอง โดยได้ทำถนนพร้อมกัน 2 สาย คือ สายทางทิศตะวันออก และสายทางทิศตะวันตกของวัด ระยะทางของถนนที่สร้างยาวสายละ 400 เมตร ถึงปี พ.ศ. 2496 ได้ร่วมกับชาวบ้านตัดถนนขึ้นอีก 2 สาย จากวัดบ้านสวนตัดไปทางทิศใต้ผ่านหมู่บ้านในหมู่ที่ 5 และ 6 ตำบลมะกอกเหนือไปสู่วัดแจ้ง (คอกวัว) ตำบลชัยบุรี อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง ส่วนอีกสายหนึ่งตัดไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ผ่านหมู่ที่ 6 ตำบลมะกอกเหนือ เข้าหมู่ที่ 3 ตำบลโตนดด้วน

    พ.ศ.2497 ได้สร้างกุฏิขึ้นอีก 1 หลัง เป็นกุฏิ 2 ชั้น แบบครึ่งตึกครึ่งไม้ เพื่อใช้เป็นกุฏิสำหรับเจ้าอาวาสวัด และพระครูพิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) หลวงพ่อคง วัดบ้านสวนได้พำนักที่กุฏิหลังนี้ตราบจนมรณภาพ ครั้นปีรุ่งขึ้น พ.ศ. 2498 พระพุทธิธรรมธาดา เจ้าคณะอำเภอควนขนุนได้ชักชวนพระครูพิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) ไปจำพรรษาที่วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ กรุงเทพมหานคร เพื่อฝึกอบรมวิปัสสนากรรมฐาน เมื่อออกพรรษาแล้วจึงได้เดินทางกลับยังวัดบ้านสวน และได้นำความรู้ด้านวิปัสสนากรรมฐานมาฝึกปฏิบัติให้กับชาวบ้าน หากแต่ต่อมาเมื่อมีภาระทางการบริหารคณะสงฆ์ และการพัฒนาวัดด้านอื่นๆ มากขึ้นจึงได้งดไปโดยปริยาย
    ในปี พ.ศ. 2499 พระครูพิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) ได้เดินทางไปนมัสการสังเวชนียสถาน ณ ประเทศอินเดีย ได้เดินทางเป็นคณะพร้อมด้วยพระพุทธิธรรมธาดา เจ้าคณะอำเภอควนขนุน เป็นเวลาเดือนเศษ ตอนขากลับได้นำต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่เกิดสืบเนื่องจากต้นเดิมมาด้วย 2 ต้น ซึ่งได้นำไปปลูกไว้บนไหล่เขาวัดภูเขาทอง อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง 1 ต้น ได้ทำพิธีปลูกเมื่อวันที่ 8-10 กรกฎาคม พ.ศ. 2500 ส่วนอีกต้นนั้นได้นำไปปลูกไว้ที่วัดในประเทศมาเลเซีย

    ในปี พ.ศ. 2501 ศิษยานุศิษย์ และประชาชนที่เคารพนับถือได้ร่วมใจกันจัดงานทำบุญและฉลองพัดยศ เพื่อแสดงมุทิตาจิตในการที่พระครูพิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2500 แต่งานได้จัดเมื่อวันที่ 4-5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2501 พร้อมกับทำบุญอายุ ซึ่งคณะศิษยานุศิษย์ได้ร่วมกันบริจาคเงินมอบให้กับพระครูพิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) เพื่อใช้จ่ายในการสาธารณประโยชน์ ซึ่งท่านได้ปรารภจะนำเงินดังกล่าวไปสร้างกุฏิถวายวัดคูหา สวรรค์ อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง เพื่อเป็นอนุสรณ์ คณะลูกศิษย์ต่างก็มีความยินดีจึงได้ร่วมสร้างกุฏิขึ้น 1 หลัง ได้ตั้งชื่อว่า "กุฏิพิพัฒน์อนุ สรณ์" ทางวัดคูหาสวรรค์ได้จัดเป็นที่พำนักของเจ้าคณะจังหวัดพัทลุง

    พ.ศ. 2504 พระครูพิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) ได้สร้างหอระฆังขึ้น 1 หอ โดยได้รับบริจาคทุนทรัพย์จากนายแพทย์สวัสดิ์ บุณยะกุล และนางกันยา บุณยะกุล ถึงปี พ.ศ. 2505 ก็ได้สร้างถนนอีก 1 สาย จากวัดบ้านสวนไปสู่บ้านไสคำ หมู่ที่ 1 ตำบลโตนดด้วน ระยะทางประมาณ 1.5 กิโลเมตร ในปี พ.ศ. 2506 ได้สร้างศาลาการเปรียญขึ้นเพื่อใช้เป็นที่ประกอบพิธีทางศาสนา ปีเดียวกันนั้นยังได้สร้างอาคารเรียนของโรงเรียนบ้านสวนคงพิทยาคารเพิ่มอีก 1 หลัง ด้วยอาคารเรียนไม่เพียงพอกับจำนวนนักเรียน

    ในปี พ.ศ. 2508 ได้จัดสร้างเชิงตะกอนเผาศพพร้อมศาลาสำหรับทำพิธี 1 หลัง ปี พ.ศ. 2512 ได้ดำเนินการสร้างระบบประปาขึ้นใช้ภายในวัด และโรงเรียนบ้านสวนคงพิทยาคาร และสร้างกุฏิสงฆ์เพิ่มอีก 1 หลัง ปีรุ่งขึ้น พ.ศ. 2513 ได้ติดต่อให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จังหวัดพัทลุง ดำเนินการติดตั้งและเดินสายไฟเข้าวัดบ้านสวน ตลอดจนย่านชุมชนในบริเวณใกล้วัดด้วย
    ในปี พ.ศ.2513 พระครูพิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) เห็นว่าอุโบสถวัดซึ่งสร้างด้วยไม้ล้วน และสร้างมาเนิ่นนานแล้วได้ชำรุดทรุดโทรมจนยากต่อการบูรณะ จึงคิดที่จะสร้างขึ้นใหม่ และได้ปรึกษากับอาจารย์ชุม ไชยคีรี ศิษย์ฆราวาสของท่าน พร้อมด้วยนายแก้ว พ่วงคง และนายเพ็ง พ่วงคง ช่างก่อสร้างที่มีฝีมือ เพื่อดำเนินการสร้างอุโบสถหลังใหม่ โดยอุโบสถหลังใหม่ที่สร้างขึ้นเป็นอาคาร 2 ชั้น เหตุที่พระครูพิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) สร้างอุโบสถ 2 ชั้น เพื่อเป็นการประหยัด เนื่องเพราะสร้างเพียงอาคารเดียวหากยังได้ศาลาการเปรียญ 1 หลัง หรือโรงเรียนพระปริยัติธรรม 1 หลัง โดยใช้อาคารชั้นล่างเป็นสถานที่นั่นเอง อุโบสถหลังใหม่ได้ทำพิธีวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ.2513 และประกอบพิธียกช่อฟ้าไปเรียบร้อยเมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2515 หากอุโบสถก็ยังคงก่อสร้างไม่แล้วเสร็จเรียบร้อย ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายที่อุโบสถหลังนี้มาเสร็จสิ้นสมบูรณ์ต่อเมื่อพระครู พิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) มรณภาพไปแล้ว โดยได้มรณภาพเมื่อวันที่ 23 กันยายน พ.ศ.2517
    แต่ก่อนที่ท่านจะมรณภาพในปี พ.ศ.2516 พระครูพิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) ได้สร้างอาคารเรียนเพิ่มขึ้น เนื่องจากทางโรงเรียนได้ขยายชั้นเรียนจากประถมที่ 1-4 ไปจนถึงประถมปีที่ 6 และยังได้สร้างกุฏิเพิ่มอีก 1 หลัง ในปี พ.ศ. 2517 แต่ทั้ง 2 สิ่งที่ท่านดำเนินการล้วนมาเสร็จสิ้นภายหลังจากท่านมรณภาพแล้ว

    มีเรื่องน่าบันทึกก่อนวันมรณภาพของหลวงพ่อคง วัดบ้านสวน หรือพระครูพิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) กล่าวคือ ในวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2517 พระครูพิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) ได้นำพระภิกษุ สามเณร ศิษย์วัดและญาติโยม ทำการปักรั้วขยายเขตระหว่างวัดกับโรงเรียนบ้านสวนคงพิทยาคารเสียใหม่ โดยขณะปักรั้วเขตกั้นนั้น สายฝนได้โปรยปรายมาไม่ขาดระยะ หากท่านก็ยังคงปักรั้วเขตท่ามกลางสายฝนจนแล้วเสร็จ
    หากระหว่างนั้น ครูประทิน เดชสง ครูโรงเรียนวัดบ้านสวนคงพิทยาคาร ได้ผ่านมาทางวัดพบเห็นเกรงว่าท่านจะเจ็บไข้ไม่สบาย จึงได้กล่าวกับท่านว่า "หลวงพ่อคง ทำงานกลางสายฝนนานๆ อย่างนี้ไม่กลัวเป็นหวัดหรือ เข้าในที่พักเสียดีกว่า" หากพระครูพิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) ได้ตอบไปว่า "ไม่พรือ ไม่ใช่ตัวคนทำด้วยดินนี่ ที่จะละลายไปกับน้ำได้ เรามาปักเขตรั้วเพื่อแบ่งปันสมบัติให้พวกเธอ เมื่อเราตายแล้วไม่มีใครจะแบ่งปันสมบัติให้พวกเธออีก"

    ครั้นวันรุ่ง วันที่ 21 กันยายน ท่านได้บอกว่า เมื่อคืนท่านเป็นไข้หวัดตลอดคืน วันนี้ก็ยังไม่หาย หากวันนี้ยังมีการประชุมกรรมการวัดในเรื่องงานทำบุญอายุนายเชน คำหนูอินทร์ ครูใหญ่โรงเรียนวัดบ้านสวนคงพิทยาคารซึ่งครบเกษียณอายุราชการ และเรื่องจัดงานรับคณะกฐินที่จะนำมาทอดในวันที่ 5 ตุลาคม ซึ่งประชุมกันในเวลา 13.00-16.00 น. และพระครูพิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) ได้นั่งเป็นประธานจนประชุมเสร็จทั้งที่ท่านอาพาธอยู่

    วันที่ 22 กันยายน อาการของท่านกำเริบกว่าวันก่อนเล็กน้อย ทว่ายังฉันเช้าและเพลได้ ทั้งยังสนทนากับผู้มาเยี่ยมได้ แต่ตกบ่ายเมื่อลูกศิษย์เห็นว่าอาการอาพาธหาทุเลาลงไม่ จึงได้ตามนายแพทย์ปรากรมมารักษา ได้ถวายยาฉีด และสั่งว่าวันพรุ่งนี้ถ้าอาการไม่ดีขึ้นให้นำท่านไปรักษาที่โรงพยาบาล

    วันที่ 23 กันยายน พระพิณ และนายประเสริฐ ผู้พยาบาลท่านได้ไปตามอาจารย์ชุม ไชยคีรี พร้อมทั้งเล่าอาการป่วยของพระครูพิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) ให้ฟัง เมื่อคืนมีอาการไข้ขึ้นสูง ละมีอาการหอบไอด้วยนอนไม่หลับทั้งคืน อาจารย์ชุมจึงรีบไปดูอาการ พระครูพิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) บอกว่าท่านเพลียมาก และนอนไม่หลับแล้วก็ไม่พูดอะไรอีก อาจารย์ชุมพร้อมด้วยผู้ดูแลท่าน และญาติโยมที่กำลังเฝ้าดูอาการของท่านในขณะนั้น จึงนำท่านไปรักษาที่โรงพยาบาลพัทลุง เมื่อเวลา 07.00 น.

    กระทั่งเวลา 10.45 น. พระครูพิพัฒน์สิริธร(คง สิริมโต) ก็มรณภาพลงด้วยอาการหัวใจวายอย่างปัจจุบันด้วยอาการสงบ
    กล่าวสำหรับวัตถุมงคลที่พระครูพิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) ได้สร้างขึ้นมานั้น ในปี พ.ศ. 2483 ได้สร้างพระกลีบบัวเนื้อเงินยวงขึ้นมา โดยก่อนหน้านั้นชาวบ้านได้ขุดพบก้อนเนื้อเงินยวงก้อนใหญ่ จึงได้นำมาถวายพระครูพิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) และเห็นว่าเป็นเนื้อเงินยวงศักดิ์สิทธิ์เก่าแก่มานานจึงได้นำมาหลอมรวมกับ ชนวนศักดิ์สิทธิ์ และตะกรุดของคณาจารย์สายเขาอ้อ เทหล่อพระเครื่องพิมพ์กลีบบัวขึ้นมาจำนวนประมาณ 1,000 องค์

    พุทธลักษณะเป็นพระเครื่องหล่อพิมพ์กลีบบัว

    ด้านหน้า ตรงกลางเป็นรูปองค์พระพุทธปฏิมากรปางสมาธิ ประทับบนอาสนะบัวคว่ำบัวหงาย รอบองค์พระเป็นเส้นรัศมี ขอบข้างยกเป็นเส้นลวด

    ด้านหลัง ตรงกลางเป็นอักขระขอม 3 บรรทัด ล่างสุดเป็นอักษรย่อ "ว.บ.ส." หมายถึง วัดบ้านสวน

    ใน ปี พ.ศ.2511 ขณะนั้นบ้านเมืองกำลังถูกคุกคามจากลัทธิคอมมิวนิสต์ พระครูพิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต) หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน จึงได้สร้างวัตถุมงคลขึ้นมาเพื่อนำไปแจกจ่ายแก่บรรดาทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ และประชาชน โดยจัดสร้างพระปิดตานอโมขึ้นมาเป็นพระปิดตารูปทรงกลีบบัว หรือเล็บมือ ด้านหน้าเป็นรูปองค์พระภควัมบดี ยกพระหัตถ์ขึ้นปิดพระพักตร์ ด้านหลังพื้นเรียบ

    มวลสารที่นำมาสร้างพระเครื่องในครั้งนี้ ประกอบด้วยผงวิเศษ ว่านต่างๆ ดังนี้

    กรุสุพรรณบุรี-ผงพระขุนแผนกรุวัดบ้านกร่าง ผงพระขุนแผนไข่ผ่าซีก ผงพระเนื้อชินกรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ

    กรุสุโขทัย-พระเนื้อชิน พระเนื้อดิน กรุวัดมหาธาตุ พระผงหลวงพ่อโต วัดป่ามะม่วง ผงพระกรุวัดช้างล้อม ผงระกรุวัดป่ากล้วย ผงพระนางพญาเสน่ห์จันทน์ ผงพระกรุวัดพระเชตุพน ฯลฯ


    กรุพิษณุโลก-ผงพระเนื้อดินเผา วัดสะตือ ผงพระเนื้อดินเผา วัดท่ามะปราง ผงพระเนื้อดินเผา วัดจุฬามณี ผงพระกรุวัดชีปะขาว ผงพระอาจารย์แปลก วัดราชบูรณะ ผงพระกรุวัดนางพญา ผงพระกรุวัดอรัญญิก ผงพระพุทธรูปที่ชำรุด วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ

    กรุนครศรีธรรมราช-ผงพระคัมภีร์พระไตรปิฎก วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ผงตะไคร่พระเจดีย์ทุกองค์ในวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ผงพระหักกรุวัดท่าเรือ ผงอิฐพระเจดีย์วัดท่าเรือ ผงพระเนื้อดินเผากรุวัดนางตรา ผงวัดท้าวโคตร ผงว่าน 108 ของพล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช

    กรุเพชรบูรณ์-ผงดินพระหัก เจ้าพ่อหลักเมือง ผงดินพระป่นวัดเสือ ผงดินหักป่นวัดช้างเผือก ผงดินพระหักป่นวัดพระแก้ว ผงดินพระหักป่นวัดมหาธาตุ

    กรุพัทลุง-ผง ดินดิบสมัยศรีวิชัย ถ้ำคูหาสวรรค์ ผงอิทธิเจพระครูสิทธิยาภิรัต (เอียด ปทุมสโร) วัดดอนศาลา ผงพระหักป่นวัดเขาเจียก ผงดินท้องถ้ำเขาไชยสน ผงดินดิบสมัยศรีวิชัยถ้ำอกทะลุ

    กรุลำพูน-ผงพระรอดมหาวัน ผงพระเปิม ผงพระสาม หรือพระตรีกาย

    และยังมีผงพระกรุอื่นๆ อีกจำนวนมาก ตลอดจนว่านหลายชนิด เช่น

    ว่านจำพวกเมตตามหานิยม และมหาลาภ ว่านเสน่ห์จันทน์ขาว ว่านเสน่ห์จันทน์แดง ว่านนางคุ้ม ว่านนางกวัก ว่านเศรษฐี ว่านนางล้อม ว่านโบตั๋น ว่านขอทอง ว่านขอเงิน ว่านขอลาภ ว่านน้ำเต้าทอง ว่านโป๊ยเซียน ฯลฯ

    ว่านจำพวก คงกระพันชาตรี ว่านสามพันตึง ว่านพระยาดาบหัก ว่านหอกหัก ว่านคางคก ว่านมหาเมฆ ว่านมหานิล ว่านไพลดำ ว่านสบู่เลือด ว่านเพชรตาหลีก ว่านมหากาฬ ว่านมหาปราบ ว่านขมิ้นดำ ว่านสากเหล็ก ว่านเขาควาย ว่านพระเจ้าห้าพะองค์ ว่านหนุมาน ว่านประกายเหล็ก ว่านกระชายดำ ว่านกำแพงเพชรเจ็ดชั้น

    ว่านจำพวกกำลังมาก ว่านพญาราชสีห์ ว่านเสือ ว่านม้า ว่านนิลล้อม ว่านพญาช้างสาร ว่านพญาช้างชัก ว่านถอนโมกขศักดิ์

    ว่านจำพวกการสิทธิ์เทวดารักษา ว่านพระจันทร์ ว่านพระอาทิตย์ ว่านพระมเหศวร ว่านพระนารายณ์ ว่านพระนางมาควดี ว่านตาลปัตรฤาษี ว่านแสงไฟ ว่านกายสิทธิ์ ว่านพญานาค ว่านพญาหมอก ว่านไมยราบ ว่านพระฤาษีประสมยา ว่านปู่เจ้าสมิงพราย ว่านปู่เจ้าเขาเขียว

    ว่านที่นำมาเมื่อเวลาไปเอาต้องดูฤกษ์ยาม และต้องทำพิธีบวงสรวงสังเวยก่อน จึงนำมาใช้ได้

    น้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ที่นำมาประสมว่านยา และมวลสาร

    1. น้ำพระพุทธมนต์ในพระราชวังหลวง 170 ปี
    2. น้ำพระพุทธมนต์ทำสังคายนา 25 พุทธศตวรรษ โดยพระเถระทั่วโลก 2,500 รูป ประเทศพม่า
    3. น้ำพระพุทธมนต์ 100 ปี วัดบวรนิเวศวิหาร
    4. น้ำพระพุทธมนต์ 25 พุทธศตวรรษท้องสนามหลวง
    5. น้ำพระพุทธมนต์วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช วัดพระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม วัดพระธาตุพนม จังหวัดนครพนม วัดพระธาตุดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่
    6. น้ำพระพุทธมนต์ในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
    7. น้ำในสระศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ทั่วประเทศ มีสระแก้ว สระคง สระยมนา สระเกตุ สระจันทร์ สระพังเงิน สระพังทอง สระศักดิ์สิทธิ์จังหวัดเพชรบุรี
    8. น้ำมนต์หลวงพ่อเลื่อน วัดสามแก้ว จังหวัดชุมพร พ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน จังหวัดนครศรีธรรมราช
    9. น้ำมนต์หลวงพ่อทวด วัดช้างให้ จังหวัดปัตตานี
    10. น้ำในมหานที 9 สาย
    11. น้ำในแม่น้ำ 108 บาง ทั่วประเทศ

    มวลสารเหล่านี้นำมาบดผสมคลุกเคล้า และกดพิมพ์พระเมื่อวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2511 ได้พระพิมพ์รวมทั้งหมด 100,000 องค์ แล้วได้จัดพิธีพุทธาภิเษก และปลุกเสกโดยพระเกจิอาจารย์สายวัดเขาอ้อ เช่น พระครูพิพัฒน์สิริธร (คง สิริมโต)หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน หลวงพ่อหมุน วัดเขาแดงตะวันออก พระอาจารย์เล็ก วัดประดู่เรียง พระอาจารย์ปาล วัดเขาอ้อ อาจารย์นำ วัดดอนศาลา พระครูกาชาด (บุญทอง) วัดดอนศาลา พ่อท่านคล้อย วัดถ้ำเขาเงิน พระไชย วัดบ้านสวน พระอาจารย์ศรีเงิน วัดดอนศาลา พระครูกาชาด วัดอินทราวาส

    นอกจากนั้นยังมีศิษย์ฆราวาสสายวัดเขาอ้อ เช่น อาจารย์ชุม ไชยคีรี นายแจ้ง นายแคล้ว ฯลฯ

    ได้ปลุกเสกไปจนถึงวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2511 รวมระยะเวลา 33 วัน

    การสร้างวัตถุมงคล หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน เริ่มสร้างวัตถุมงคล ตั้งแต่ปี พ.ศ.2483-2516
    หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน ถือเป็นศิษย์สายสำนักเขาอ้อ วัตถุมงคลที่สำคัญมีดังนี้
    พระกลีบบัวเนื้อเงินยวง สร้างเมื่อ พ.ศ.2483
    พระปิดตานอโม เนื้อโลหะผสม และ เนื้อผงผสมว่านสบู่เลือด
    พระรูปเหมือนพระอาจารย์ทองเฒ่า เนื้อผงผสมว่านสบู่เลือด
    พระยอดขุนพล เนื้อผงผสมว่าน
    รูปเหมือน 2 หน้า หน้าหนึ่งรูปอาจารย์ทองเฒ่า อีกหน้าหนึ่งรูปหลวงพ่อคง
    พระขุนแผนออกศึก เนื้อผงผสมว่าน
    พระสิวลี เนื้อผงผสมว่าน
    เหรียญหลวงพ่อคง วัดบ้านสวน รุ่นแรก พ.ศ.2516
    ตะกรุด ลูกอม ผ้ายันต์ และอีกมากมาย




    เหรียญ รุ่นแรก อาจารย์คง วัดบ้านสวน จังหวัดพัทลุง

    ท่านเป็นเกจิสายเขาอ้อ ยุคเดียวกับ อ.นำ เก่งขนาดที่ว่าท่าน อ.ชุม ไชยคีรี ยอมรับนับถือมาก เหรียญรุนนี้ อาจารย์ชุม ไชยคีรี เป็นผู้ดำเนินการสร้างถวาย โดยนิมนต์ อ.คง มาปลุกเสกที่ กทม. เหรียญรุ่นนี้เน้นหนักในด้านกันปืน และอาวุธต่างๆ ดูได้จากลักษณะยันต์ด้านหลังยันต์ตัวล่างอ่านว่า "นะ อุ อะ มิ" เป็นยันต์หยุดการก่อตัวของ ดิน น้ำ ลม ไฟ (หยุดระเบิดและปืนทุกชนิด) ยันต์ด้านบนหลายๆท่านอาจทราบบ้างแล้ว นิยมเรียกกันว่า "อรหังอุดปืน" มีคุณด้านป้องกันระเบิดและปืน รวมไปถึงเป็นเกราะกำบังให้คนอยู่ใกล้ๆได้อีกด้วย เหรียญดีที่ราคาเช่าหายังถือว่าเบามากๆ





    [FONT=&quot]*ปิดรายการนี้ครับ

    [/FONT]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SAM_4531.jpg
      SAM_4531.jpg
      ขนาดไฟล์:
      69.6 KB
      เปิดดู:
      401
    • SAM_4530.jpg
      SAM_4530.jpg
      ขนาดไฟล์:
      68.2 KB
      เปิดดู:
      356
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤษภาคม 2014
  4. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,458
    พระหลวงปู่ทวดเขาอ้อ อ.ชุม วัดพระบรมธาตุ ปี 2497 ของดีพุทธคุณสูง

    พิธีเดียวกันกับพระนางตรา ท่าเรือ ออกที่วัดพระบรมธาตุ ปี 2497 โดยความร่วมมือกันของศิษย์สายเขาอ้อ อ.ชุม ขุนพันธ์ฯ จำนวนการสร้างนั้นมีถึง 84,000 องค์ พระมีจำนวนมาก เมื่อเหลือจากแจกจ่ายไปแล้ว ท่านจึงได้นำบรรจุเก็บไว้ในถัง 200 ลิตร ต่อมาปลวกเข้าไปทำรัง พระที่พบจึงมีทั้งแบบมีคราบปลวกและที่ไม่มีคราบ


    มวลสารที่รวบรวมมามี พระกรุสุดยอดพระเครื่องจากทั่วประเทศ มาดำเนินการสร้างพระชินราชท่าเรือนี้ จากการรวบรวมปรากฎว่าได้พระกรุมากว่า 108 กรุ ว่านยาอีก 108 ชนิด รวมทั้งผงวิเศษ อาทิเช่น พระกรุนางตรา-ท่าเรือ, กรุท้าวโคตร, สมเด็จวัดระฆัง, สมเด็จบางขุนพรหม, พระผงสุพรรณ, ผงดำผงแดงหุ่นพยนต์, หลวงพ่อเกตุ วัดขวิด, ขุนแผนวัดพระรูปและวัดบ้านกร่าง, พระนางพญาวัดนางพญาและวัดต้นจันทร์ สุพรรณบุรี, พระกรุต่าง ๆ ในกำแพงเพชร, พระกรุต่าง ๆ ในสุโขทัย, หูยานลพบุรี, ท่ากระดานหูไห กาญจนบุรี, พระกรุวัดท่ามะปราง, พระวัดชินราช พิษณุโลก, พระหลวงพ่อจุก, พระจุฬามณี พิษณุโลก, พระรอด พระคง พระเปิม-ลำพูน, มหาว่านวัดเขาอ้อ-พัทลุง, และพระกรุศรีวิชัยฯลฯ


    การประกอบพิธีพุทธา ภิเษก จัดให้มีขึ้นตลอดพรรษา ณ วิหารวัดพระบรมธาตุ นครศรีธรรมราช โดยนิมนต์พระเถราจารย์ ผู้เรืองเวทวิทยาคม 108 รูป มาร่วมประกอบพิธี มีท่านเข้าคุณพระภัทรมุนี เจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุฯ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ สำหรับพระคณาจารย์ที่ปลุกเสกขอยกมาเป็นบางส่วน ได้แก่ หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขัน จันดี, หลวงพ่อโอภาสี บางมด ธนบุรี,หลวงพ่อเขียว วัดหรงบน, หลวงพ่อเมือง วัดท่าพญา, หลวงพ่อคง วัดคลองน้อย, หลวงพ่อมุ่ย วัดป่าระกำ ปากพนัง, หลวงพ่อแดง วัดโท ท่าศาลา, หลวงพ่อคลิ้ง วัดถลุงทอง ร่อนพิบูลย์, หลวงพ่อแดง วัดเขาหลัก ทุ่งใหญ่, หลวงพ่อตุด วัดทุ่งกง กระบี่, หลวงพ่อวัน มะนะโส วัดประสิทธิชัย, หลวงพ่อแสง วัดคลองน้ำเจ็ด ตรัง, หลวงพ่อปาล วัดเขาอ้อ, หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน, หลวงพ่อดิษฐ์ วัดปากสระ. หลวงพ่อเจ็ก วัดเขาแดงตะวันตก, หลวงพ่อหมุน วัดเขาแดง ตะวันออก พัทลุง, หลวงพ่อพัว วัดเขาราหู (วัดบางเดือน). หลวงพ่อแดง วัดคลองไทร, หลวงพ่อวิรัช วัดกะเปา คีรีรัฐนิคม สุราษฎร์ธานี, หลวงพ่อทอง วัดดอนสะท้อน, หลวงพ่อสงฆ์ วัดศาลาลอย, หลวงพ่อจีด วัดถ้ำเขาพลู, หลวงพ่อรุ่ง วัดบางแหวน ชุมพร, หลวงพ่อท้วม วัดเขาโบสถ์ บางสะพาน, หลวงพ่อเปี่ยม วัดเกาะหลัก ประจวบคีรีขันธ์, หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง เพชรบุรี, หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ เพชรบุรี, หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม, หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม นครปฐม ฯลฯ อาจารย์ที่เป็นฆราวาสได้แก่ อ.ชุม ไชยคีรี, อ.นำ แก้วจันทร์, พล.ต.ต. ขุนพันธรักษ์ ราชเดช


    การปลุกเสกเน้นเด่นเฉพาะทาง แบ่งออกเป็นช่วง ช่วงละ 7 วัน เช่น ปลุกเสกเน้นด้านคงกระพันชาตรี 7 วัน มหาอุด 7 วัน ป้องกันสัตว์ร้ายและโจรร้าย 7 วัน ป้องกันโรคภัยไข้เจ็บและภูตผีปีศาจ 7 วัน เมตตามหานิยม 7 วัน เนรมิตกายกำราบศัตรูให้เห็นเราคนเดียวเป็นหลายคน ดังนี้เป็นต้น

    สามารถบูชาแทนหลวงปู่ทวด
    ปี2497 วัดช้างให้ได้เลย เพราะใช้บล็อคเดียวกับหลวงปู่ทวด ปี2497 วัดช้างให้ แลัผสมมวลสารของหลวงปู่ทวด ปี2497 วัดช้างให้ด้วย ของดีทีี่คนยังไม่รู้มากแต่ลูกศิษท์สายอาจารย์ชุมรู้ดี และไล่เก็บเงียบมานานแล้ว ปัจจุบันอยู่กับลูกศิษท์ต่างชาติเสียเยอะแล้ว ของแท้แน่นอนรับประกันชั้นหนึ่งยันลูกบวชครับ


    [FONT=&quot]*ปิดรายการนี้ครับ[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SAM_4513.jpg
      SAM_4513.jpg
      ขนาดไฟล์:
      75.1 KB
      เปิดดู:
      617
    • SAM_4518.jpg
      SAM_4518.jpg
      ขนาดไฟล์:
      69.2 KB
      เปิดดู:
      280
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มิถุนายน 2011
  5. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,458
    เหรียญพระคันธารราษฎร์ วัดเขาปัฐวี ปี2516 สภาพสวยเดิม น่าแขวนครับ

    ลองอ่านพิธีการสร้างดูแล้วก็จะรู้เองครับว่าน่าแขวนหรือป่าว?

    ***เหรียญพระคันธารราษฎร์ วัดเขาปฐวี อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี***

    เมื่อ ปีพ.ศ.๒๕๑๖มีวันเสาร์๕ตรงกับวันเสาร์ขึ้น ๕ค่ำเดือน๕ โบราณจารย์ถือว่าเป็นวันฤกษ์แข็งประกอบที่เกี่ยวกับการปลุกเสกวัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง
    จะมีความขลังศักดิ์สิทธิ์เป็นพิเศษ นายอำเภอทัพทันในสมัยนั้นได้มาขอให้หลวงพ่อโฉมจัดพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลในวันดังกล่าวด้วยเหตุนี้
    หลวงพ่อโฉมพร้อมด้วยกรรมการวัดและคณะศิษยานุศิษย์จึงพร้อมใจกันจัดพิธีพุทธาภิเษกเนื่องในวันเสาร์๕ โดยเชิญนายไพฑูรย์ เก่งสกุล
    ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานีมาเป็นประธานในพิธี อาจารย์ชุม ไชยคีรีเป็นเจ้าพิธี นิมนต์พระเกจิอาจารย์เรืองเวทย์จากสำนักเขาอ้อ พัทลุงมานั่งปรกปลุกเสก ได้แก่
    - พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา,
    - พระอาจารย์ปาน วัดเขาอ้อ,
    - หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน,
    - อาจารย์ขาว วัดเขาอ้อ
    มีพระเกจิภาคกลางนั่งบริกรรมภาวนา ได้แก่
    - หลวงพ่อโฉม วัดเขาปฐวี,
    - หลวงพ่อจิ๋ว วัดโนนเหล็ก,
    - หลวงพ่อปลั่ง วัดห้วยรอบ,
    - หลวงพ่อปุย วัดหนองระ,
    - หลวงพ่อแอ๋ว วัดหัวเมือง,
    - หลวงพ่อสว่าง วัดถือน้ำ ฯลฯ
    โดย ปลุกเสกภายในอุโบสถของวัดเขาปฐวีซึ่งเป็นถ้ำอยู่ในเขาปฐวี พิธีพุทธาภิเษกเริ่มตั้งแต่เวลา ๑๘.๐๐ น.ไปถึงเวลา ๐๖.๐๐ น.ของวันรุ่งขึ้น
    ปลุกเสกกันตลอดทั้งคืนจึงดับเทียนชัย หลังจากนั้นอาจารย์ชุม ไชยคีรี ได้มีการทดสอบพลังพุทธคุณของวัตถุมงคลที่ปลุกเสกเสร็จแล้ว
    ทำให้ทราบว่ามีพุทธคุณในทางคงกระพันชาตรี มหาอุดและเมตตาภาวนานิยมอย่างสูง.
    จำนวนการสร้างพระกริ่งประมาณ ๘,๐๐๐ องค์ และ เหรียญพระคันธารราษฎร์จำนวนประมาณ ๓๐,๐๐๐ เหรียญ

    ...เพิ่มเติมอีกหน่อยครับ มีการเขียนกันว่า อาจารย์ชุมไปได้ยินว่ากลุ่มวัยรุ่นในแถบนั้นได้คุยกันว่าหลังจากพิธีเสกจะลองเอามายิงดู
    อาจารย์ชุมจึงได้ขอให้เกจิอาจารย์ในพิธีปลุกเสกให้หนักไปทางมหาอุดและคงกระพัน ดังนั้นกริ่งรุ่นนี้จึงเน้นหนักไปทางมหาอุดคงกระพัน
    ทั้งๆที่พระคันธารษฏร์เป็นปางที่เด่นไปทางชุ่มเย็นและเมตตามากกว่า

    มีเรื่องเล่าว่า มีครั้งหนึ่ง ที่วัดเขาปฐวี สร้างพระและนิมนต์คณะเขาอ้อ
    อัน ประกอบด้วยอาจารย์ชุม ไชยคีรีเป็นเจ้าพิธี นิมนต์พระเกจิอาจารย์เรืองเวทย์จากสำนักเขาอ้อ พัทลุงมานั่งปรกปลุกเสกได้แก่ อ.นำ วัดดอนศาลา/อ.ปาน วัดเขาอ้อ/หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน/อ.ขาว วัดเขาอ้อ ไปปลุกเสก พอไปถึง ปรากฏว่าทางวัดให้เสกวันเดียว หกโมงเย็นถึงหกโมงเช้า และปชส.ว่าเหนียวลองได้ ทำเอาคณะเขาอ้อชักไม่พอใจเพราะปกติคณะเขาอ้อจะมีกระบวนการเสกของเขาอยู่ เรียกว่าเสกเป็นคาบๆ เสกมหาอุดก่อน จากนั้นก็ลองของดู ถ้าดีเต็ม ก็จะเสกด้านอื่นต่อ จนจบ แต่พอมาที่วัดเขาปฐวี ทางวัดให้เสกวันเดี่ยว ทางคณะก็จะกลับ แต่ด้วยความที่อาจารย์คงเป็นนักสู้จึงหารือกันว่า มีเวลา 1คืน พวกเราจะเสกมหาอุดอย่างเดียว ตกลงกันเสร็จก็นั่งเสกมหาอุดอย่างเดี่ยว รุ่งเช้าพอเสร็จพิธีก็ออกให้บูชา ปรากฏว่าชาวเขาปฐวี ไม่ธรรมดา เอาปืนมาลองเลย ผลปรากฏว่ายิงไม่ออก วิทยุท้องถิ่นออกข่าวกันตลอด ชาวบ้านก็มากันเต็ม พาปืนมาด้วยมาลอง ทำเอารุ่นนี้สร้างวัดได้เลย เพราะคนแห่มาบูชา วันนั้นหลังเสกเสร็จมีการลองกัน ทั้งยิง ทั้งฟัน ทั้งเฉือน ทั้งยังเอาเหรียญแช่น้ำมันจันท์เพื่อทาหนูและแมวเพื่อลองเมตตาด้วย ตามสไตล์อาจารย์ชุมครับ โดนเฉือนหลายคนหนึ่งในนั้นมี แม่ขวัญจิตร ศรีประจันท์ก็โดนด้วย

    สภาพเหรียญสวยมาก รมดำติดเต็ม ไม่ผ่านการใช้เลยครับ ราคาเยาวชนมากถ้าเที่ยบกับพุทธคุณ สายใต้กำลังมาครับ

    *** รับประกันความแท้ให้ตลอดชีพ ***


    [FONT=&quot]*ปิดรายการนี้ครับ[/FONT]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SAM_4654.jpg
      SAM_4654.jpg
      ขนาดไฟล์:
      205.4 KB
      เปิดดู:
      269
    • SAM_4655.jpg
      SAM_4655.jpg
      ขนาดไฟล์:
      176.6 KB
      เปิดดู:
      471
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มิถุนายน 2011
  6. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,458
    พิธีวัดถ้ำเขาเงินและพระเสด็จกลับ ของ อ.ชุม ไชยคีรี ปี 11

    พิธีที่วัดถ้ำเขาเงิน ในปีพ.ศ.2511โดยเริ่มจากพิธีปลุกเสกไปจนถึงพิธีเสด็จกลับที่นำพระไปปล่อยทะเล เป็นพิธีอาราธนาพระเครื่องกลับ โดยเริ่มจากการนำไปปล่อยลงในแม่น้ำหรือทะเล แล้วตั้งศาลาปะรำพิธี ขึงผ้าขาวขึ้น สวดอาราธนา ขอให้นาคและเทวดาช่วยนำพระกลับมา แล้วพระเครื่องวัตถุมงคลที่ปล่อยลงในแม่น้ำหรือทะเลในระยะไกลหลายๆกิโลนั้น จะเสด็จกลับมาปรากฎอีกครั้งหนึ่ง ที่ปะรำพิธี ทีละองค์ๆจนครบถ้วน


    จากหนังสือคู่มือพุทธธรรม "เราหยุดแล้ว" ของ อ.ชุม ไชยคีรี มีเนื้อหาใจความส่วนหนึ่งกล่าวถึงเรื่องนี้ด้วยว่า


    "ใน พรรษาปี 2498 อยู่ปฎิบัติธรรมจำพรรษาอยู่ในวิหาร วัดเวฬุราชิณ ทำตะกรุดกำเนิด 3 ด้วยทองคำให้คณะศิษย์คนละ 3 ดอก 21 คน แล้วนำเจ้าของตะกรุดไปทำพิธีสังเวยเทวดา เจริญภาวนาพระคาถา พระธรรมราช จนทุกคนทำจิตให้สงบแล้ว พูดกับท้าวพุฌงค์นาคราชและนาคราชเทพ บริวาร ให้ช่วยเก็บตะกรุดไว้ให้ แล้วเจ้าของตะกรุดทุกคนไปนั่งเจริญภาวนาในอุโบสถ ซึ่งอยู่ห่างไกลจากแม่น้ำที่ปล่อยตะกรุด ประมาณ 30 ก.ม. นั่งเจริญภาวนาอยู่ประมาณ 5 ชั่วโมง เทพนำตะกรุดส่งไปให้ทางอากาศครบถ้วนทุกคน ต่อหน้าประชาชน จำนวน 100 กว่าคน รวมฝรั่งด้วย


    อีกครั้งนำพระผงเนื้อว่านยา ทั้งขุนแผน และพระรอด ที่ทำพิธีที่วัดสารอด อำเภอราชบูรณะ กท. ไปอาราธนาลงในแม่น้ำเจ้าพระยา แล้วไปเรียกที่วัดสารอด เทวดานำส่งไปในพิธีต่อหน้า พระสงฆ์กำลังเจริญชัยมงคลคาถาต้อนรับ ประชาชนกำลังคอยดูอยู่จำนวนมาก เทวดาก็ทำธุระนำพระไปส่งให้ตามความปรารถนาอีกครั้งเป็นครั้งที่ 2 นำพระว่านทรงขุนแผนเรือนแก้ว พระรอด ไปทำพิธีอาราธนาลงในมหาสมุทรหน้าเกาะภูเก็ต จ.ภูเก็ต น้ำลึกประมาณ 15 วา แล้วกลับมานั่งเรียกที่ตลิ่งไกล จากพิธีปล่อยพระประมาณ 20 กม. เทวดาก็นำพระมาส่งทางอากาศ ต่อหน้าชาวบ้านและตำรวจไปคอยสังเกตการณ์และพระกำลังสวดชยันโต


    อีก ครั้งหนึ่งเมื่อ พ.ศ.2511* ทำพิธีสร้างรูปหลวงพ่อแดง พุทโธ วัดถ้ำเขาเงิน อ.หลังสวน จ.ชุมพร ทำพิธีอยู่ในถ้ำตลอดพรรษา ออกพิธีแล้วนำรูปหลวงพ่อแดงพุทโธ ไปปล่อยในทะเลปากน้ำหลังสวน ไกลจากพิธีประมาณ 50 กม. อาราธนาให้กลับไปลงในศาลในแม่น้ำหน้าถ้ำเขาเงิน เทวดาก็นำพระมาส่งให้ต่อหน้าประชาชน เป็นอัศจรรย์จริงๆ เทพ มหาเทพ ช่วยเราจริงในเมื่อเราเจริญภาวนาทำจิตให้เป็นมหากุศล จนเทพ และมหาเทพ มาอนุโมทนาสาธุการทำความปรารถนา ของเราให้สำเร็จเป็นอัศจรรย์อย่างกล่าวแล้ว ฯลฯ"


    ในพิธีมีศาลเทพารักษ์กลางน้ำ มีผ้าขาวขึงไว้กลางอากาศเหนือศีรษะ ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า เวลาที่พระเสด็จกลับ จะมีสายรุ้งพาดลงมาบนศาลเทพารักษ์ ในขณะที่พระเครื่องวัตถุมงคลกำลังเสด็จกลับมา ก็จะมารวมกันอยู่บนผ้า ผ้านั้นจะค่อยๆตึงหนักขึ้นเรื่อยๆ และมีน้ำไหลออกมา


    ในวันนั้นหลวง พ่อหมุนท่านทราบก่อนเป็นองค์แรกว่าพระกำลังเสด็จมาแล้ว ก็ได้บอกให้ อ.ณรงค์ฤทธิ์ บุตรของท่านอาจารย์ชุม ซึ่งขณะนั้นยังเป็นเด็ก วิ่งไปบอกให้คนย่ำฆ้องเป็นสัญญาณว่าพระได้เสด็จกลับมาแล้ว....


    ข้อสังเกตสำหรับพระที่ผ่านพิธีเสด็จกลับ คือภายหลังพระที่ผ่านพิธี เช่นที่เกาะสิเหร่ ภูเก็ต และที่ปากน้ำหลังสวนนี้ มักจะปรากฎคราบสีขาว ซึ่งเป็นเกลือที่เกิดจากน้ำเค็มนั่นเอง



    นอกจากนี้ก็ยังมีการนำ พระพิมพ์ที่สร้างไว้ในพิธีก่อนหน้าที่เคยสร้างปลุกเสกไว้แต่ยังแจกไม่หมด เช่นพระนาคปรกเทพนิมิตรของปี 2496 พระยอดขุนพลปี 2497 และพิมพ์อื่นๆที่เหลือจากการแจกและการทำบุญ ที่ท่านอาจารย์ชุมได้เก็บเอาไว้ที่บ้าน และพอมีพิธีสร้างเสกพระอีก ก็มักจะให้ลูกศิษย์ขนมาร่วมกับพิธีใหม่ด้วยทุกครั้ง จนกว่าจะแจกหมดไป

    พระขุนแผนเสด็จกลับ พิมพ์ใหญ่ เนื้อว่านสบู่เลือด
    พิธีวัดถ้ำเขาเงินและพระเสด็จกลับ ของ อ.ชุม ไชยคีรี ปี 11


    [FONT=&quot]*ปิดรายการนี้
    [/FONT][FONT=&quot]ครับ[/FONT]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SAM_4681.jpg
      SAM_4681.jpg
      ขนาดไฟล์:
      141.2 KB
      เปิดดู:
      602
    • SAM_4685.jpg
      SAM_4685.jpg
      ขนาดไฟล์:
      133.9 KB
      เปิดดู:
      509
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ตุลาคม 2012
  7. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,458
    พระขุนแผนเสด็จกลับ พิมพ์เล็ก เนื้อว่านสบู่เลือด พิธีวัดถ้ำเขาเงินและพระเสด็จกลับ ของ อ.ชุม ไชยคีรี ปี 11



    [FONT=&quot]*ปิดรายการนี้ครับ[/FONT]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SAM_4688.jpg
      SAM_4688.jpg
      ขนาดไฟล์:
      112.6 KB
      เปิดดู:
      250
    • SAM_4691.jpg
      SAM_4691.jpg
      ขนาดไฟล์:
      112.7 KB
      เปิดดู:
      277
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มิถุนายน 2011
  8. ศรัทธาพญาเวนไตย

    ศรัทธาพญาเวนไตย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    866
    ค่าพลัง:
    +1,380
    จัดสายเขาอ้อมาเยอะๆครับ รอติดตามชมครับ
     
  9. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,458
    ชมอย่างเดียวหรอครับ อิอิอิ
     
  10. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,458
    พระขุนแผนเสด็จกลับ พิมพ์เล็ก พิเศษหลังยันต์(นิยม) เนื้อว่านสบู่เลือด พิธีวัดถ้ำเขาเงินและพระเสด็จกลับ ของ อ.ชุม ไชยคีรี ปี 11



    [FONT=&quot]*ปิดรายการนี้ครับ[/FONT]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SAM_4724.jpg
      SAM_4724.jpg
      ขนาดไฟล์:
      118.6 KB
      เปิดดู:
      349
    • SAM_4727.jpg
      SAM_4727.jpg
      ขนาดไฟล์:
      104.1 KB
      เปิดดู:
      231
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มิถุนายน 2011
  11. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,458
    [​IMG]

    ปรมาจารย์ทองเฒ่า ติดบาตรนํ้ามนต์อ.ชุม สร้างปี 97

    พระรูปเหมือน อาจารย์ทองเฒ่า วัดเขาอ้อ สร้างปี ๒๔๙๗ เนื้อมหาว่านดำขาวพันปีเขาอ้อผสมผงพระกรุ ๑๐๘ กรุและผงเหล็กไหล พิธี ใหญ่ วัดมหาธาตุ นครศรีธรรมราช อาจารย์ชุม ไชยคีรี ศิษย์ฆราวาสแห่งเขาอ้อ สร้างในปี ๒๔๙๗ ปีเดียวกันกับที่สร้างหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ อาจารย์ชุม ไชยคีรี ได้ไปนิมนต์อาจารย์ทิม วัดช้างให้ มาปลุกเสกที่วัดพระธาตุฯ ด้วยตัวท่านเองที่วัดช้างให้ โดยขออนุญาติพระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ ถอดพิมพ์หลวงปู่ทวดนำมาสร้างติดที่บาตรน้ำพุทธมนต์มหายันต์ธรรมราช โดยพิธีนี้ได้นิมนต์พระเถราจารย์ ผู้เรืองเวทวิทยาคม 108 รูป มาร่วมประกอบพิธี มีท่านเจ้าคุณพระภัทรมุนี เจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุฯ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ สำหรับพระคณาจารย์ที่ปลุกเสกขอยกมาเป็นบางส่วน ได้แก่ หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขัน จันดี, หลวงพ่อโอภาสี บางมด ธนบุรี, หลวงพ่อเขียว วัดหรงบน, หลวงพ่อเมือง วัดท่าพญา, หลวงพ่อคง วัดคลองน้อย, หลวงพ่อมุ่ย วัดป่าระกำ ปากพนัง, หลวงพ่อแดง วัดโท ท่าศาลา, หลวงพ่อคลิ้ง วัดถลุงทอง ร่อนพิบูลย์, หลวงพ่อแดง วัดเขาหลัก ทุ่งใหญ่, หลวงพ่อตุด วัดทุ่งกง กระบี่, หลวงพ่อวัน มะนะโส วัดประสิทธิชัย, หลวงพ่อแสง วัดคลองน้ำเจ็ด ตรัง, หลวงพ่อปาล วัดเขาอ้อ, หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน, หลวงพ่อดิษฐ์ วัดปากสระ. หลวงพ่อเจ็ก วัดเขาแดงตะวันตก, หลวงพ่อหมุน วัดเขาแดง ตะวันออก พัทลุง, หลวงพ่อพัว วัดเขาราหู (วัดบางเดือน). หลวงพ่อแดง วัดคลองไทร, หลวงพ่อวิรัช วัดกะเปา คีรีรัฐนิคม สุราษฎร์ธานี, หลวงพ่อทอง วัดดอนสะท้อน, หลวงพ่อสงฆ์ วัดศาลาลอย, หลวงพ่อจีด วัดถ้ำเขาพลู, หลวงพ่อรุ่ง วัดบางแหวน ชุมพร, หลวงพ่อท้วม วัดเขาโบสถ์ บางสะพาน, หลวงพ่อเปี่ยม วัดเกาะหลัก ประจวบคีรีขันธ์, หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง เพชรบุรี, หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ เพชรบุรี, หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม, หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม นครปฐม ฯลฯ อาจารย์ที่เป็นฆราวาสได้แก่ อ.ชุม ไชยคีรี, อ.นำ แก้วจันทร์, พล.ต.ต. ขุนพันธรักษ์ ราชเดช

    มวลสารที่รวบรวมนำมาทำพระมีพระกรุสุดยอดพระ เครื่องจากทั่วประเทศ มาดำเนินการสร้างพระนี้ จากการรวบรวมปรากฎว่าได้พระกรุมากว่า 108 กรุ ว่านยาอีก 108 ชนิด รวมทั้งผงวิเศษ อาทิเช่น พระกรุนางตรา-ท่าเรือ, กรุท้าวโคตร, สมเด็จวัดระฆัง, สมเด็จบางขุนพรหม, พระผงสุพรรณ, ผงดำผงแดงหุ่นพยนต์, หลวงพ่อเกตุ วัดขวิด, ขุนแผนวัดพระรูปและวัดบ้านกร่าง, พระนางพญาวัดนางพญาและวัดต้นจันทร์ สุพรรณบุรี, พระกรุต่าง ๆ ในกำแพงเพชร, พระกรุต่าง ๆ ในสุโขทัย, หูยานลพบุรี, ท่ากระดานหูไห กาญจนบุรี, พระกรุวัดท่ามะปราง, พระวัดชินราช พิษณุโลก, พระหลวงพ่อจุก, พระจุฬามณี พิษณุโลก, พระรอด พระคง พระเปิม-ลำพูน, มหาว่านวัดเขาอ้อ-พัทลุง, และพระกรุศรีวิชัย ฯลฯ

    การประกอบพิธีพุทธาภิเษก จัดให้มีขึ้นตลอดพรรษา ณ วิหารวัดพระบรมธาตุ นครศรีธรรมราช ได้ฤกษ์พิมพ์องค์พระในวันที่ 2 สิงหาคม 2497 ครบ 84,000 องค์ วันที่ 1 กันยายน 2497 ทำพิธีปลุกเสกวันที่ 14 กันยายน 2497 ออกพิธีวันที่ 12 ตุลาคม 2497 ซึ่งเป็นวันออกพรรษา การปลุกเสกเน้นเด่นเฉพาะทาง แบ่งออกเป็นช่วง ช่วงละ 7 วัน เช่น ปลุกเสกเน้นด้านคงกระพันชาตรี 7 วัน มหาอุด 7 วัน ป้องกันสัตว์ร้ายและโจรร้าย 7 วัน ป้องกันโรคภัยไข้เจ็บและภูตผีปีศาจ 7 วัน เมตตามหานิยม 7 วัน เนรมิตกายกำราบศัตรูให้เห็นเราคนเดียวเป็นหลายคน

    ของดีทีี่คนยังไม่รู้มากแต่ลูกศิษท์สาย อาจารย์ชุมรู้ดี และไล่เก็บเงียบมานานแล้ว ปัจจุบันอยู่กับลูกศิษท์ต่างชาติเสียเยอะแล้ว ของแท้แน่นอนรับประกันชั้นหนึ่งยันลูกบวชครับ


    [FONT=&quot]*ปิดรายการนี้ครับ[/FONT]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SAM_4716.jpg
      SAM_4716.jpg
      ขนาดไฟล์:
      181.1 KB
      เปิดดู:
      348
    • SAM_4717.jpg
      SAM_4717.jpg
      ขนาดไฟล์:
      188.2 KB
      เปิดดู:
      325
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มิถุนายน 2011
  12. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,458
    สุดยอดเหรียญในตำนาน
    เหรียญรุ่นแรก อาจารย์ชุม ไชยคีรี ปี 2517

    [​IMG]

    เหรียญรูปเหมือนอาจารย์ ชุม ไชยคีรี รุ่นแรก พิธีปลุกเสกทีละเหรียญตามตำราโสฬส โดยวิญญาณหลวงปู่คง ปรมาจารย์ขุนแผน วิญญาณหลวงปู่ทวดวัดช้างให้ หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน วิญญาณมหาเทพบรมครู พระพิฆเณศวรที่สำนัก อาจารย์ชุม ไชยคีรี 16 วัน 16 คืน เสกทีละเหรียญ เหรียญสร้างจากเนื้อโสฬสธาตุ 16 อย่าง ส่วนหนึ่งได้นำมาจากชนวนสร้างพระโสฬสมงคล พระภควัมบดีของหลวงพ่อวัดแหลมทราย จ.สงขลาตั้งแต่ปี 2481 ก่อนประกาศสงครามโลกครั้งที่ 2 พิธีจำกัด 2,517 เหรียญ

    โสฬส 16 อย่าง มีดังนี้
    1.เหล็กไหล 2.เจ้าน้ำเงิน 3.ทองคำ 4.เงินบริสุทธิ์ 5.นาค 6.ทองแดง 7.ทองเหลือง 8.แร่ดีบุก 9.แร่วุลแฟรม 10.แร่จักรนารายณ์ 11.แร่สังควานร 12.แร่ชิณ 13.แร่ตะกั่วดำ 14.แร่ตะกั่วเถื่อน 15.แร่เหล็กน้ำพี้ 16.เหล็กยอดพระปรางค์

    เหรียญรูปไข่ รูปอาจารย์ชุม มีโค้ดตอกด้านล่าง หลังยันต์ เหรียญนี้ท่านแจกเฉพาะคณะศิษย์เพียงจำนวนเล็กน้อยเท่านั้น จึงไม่ค่อยเป็นที่แพร่หลาย หาชมยากมาก เหรียญนี้เป็นของมรดกตกทอดกันมาจากบ้านของท่านอาจารย์ ชุม รับประกันความแท้เลยครับ แต่ก่อนเคยออกจากสำนักที่กรุงเทพเหรียญละ 10,000บ.เลยนะครับ


    [FONT=&quot]*ปิดรายการนี้ครับ[/FONT]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SAM_4713.jpg
      SAM_4713.jpg
      ขนาดไฟล์:
      175.2 KB
      เปิดดู:
      236
    • SAM_4710.jpg
      SAM_4710.jpg
      ขนาดไฟล์:
      170.3 KB
      เปิดดู:
      396
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มิถุนายน 2011
  13. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,458
  14. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,458
    [​IMG]

    มวลพระเครื่องรางวัตถุมงคล (นำมาจากส่วนของปกด้านหน้าของตำราทิพย์อำนาจเล่มแดง) ซึ่งกล่าวถึงวัตถุมงคลบางส่วนที่อาจารย์ชุม ไชยคีรี ได้สร้างและปลุกเสกไว้ มีคำอธิบายพอสังเขป ดังนี้..

    พิธีโดยคัดเลือกพระอาจารย์ผู้ทรงคุณ ทั่วประเทศ อาจารย์ชุม ไชยคีรี อาจารย์สำนักกุญแจไสยศาสตร์เป็นเจ้าพิธี ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ถึงปัจจุบัน ที่คงเหลือจากแจกทหารตำรวจ แจกประชาชน ขอร้องให้เป็นพลเมืองดีของชาติมาแล้ว..


    1. พระผงเทพนิมิต เนื้อผงดอกไม้ที่พระเถรานุเถระ พระอารามหลวง อารามราษฎร์ ขอขมาโทษซึ่งกันและกันในวันเข้าพรรษาปี 2496 วันเดียว 108 วัด ตามตำราอาจารย์คงอาจารย์ขุนแผน สมัยกรุงศรีอยุธยา เข้าประทับ-ทรงบอกให้พิธี ณ วัดบรรพตพินิจ อ.เขาไชยสน จ.พัทลุง ในพรรษาปี 2496 วิเศษทางบอกโชคลาภ บอกเหตุดีร้ายให้ผู้บูชารู้ล่วงหน้า และกันอาวุธ


    2. พระผงบารมีพระบรมธาตุทรงนาคปรก(นางตรา) และทรงปกโพธิ์(ท่าเรือ) 2 พิมพ์ เนื้อผงวิเศษ ก้นกรุโบราณทั่วประเทศ 108 กรุ รวมกับผงพระเทพนิมิต พิธีตลอดไตรมาสในพรรษา ปี 2497 ในพระวิหารหลวง บริเวณพระบรมธาตุ เมืองนครศรีธรรมราช วิเศษทางกันอาวุธ กันภัยนานาชนิด (พระรุ่น 2497 มี 84,000 องค์ ประกอบด้วยพระพิมพ์ต่างๆนอกเหนือไปจากนางตราและท่าเรืออีกมาก)


    3. พระเทพนิมิตเนื้อสัมฤทธิ์ ณ พระวิหารพระพุทธนาคน้อย วัดประยูรวงศาวาส ธนบุรี เมื่อปี 2499 ทำบุญฉลอง 25 พุทธศตวรรษ บูรณะองค์พระเจดีย์พระบรมธาตุ วัดชัยมงคล สงขลา วิเศษทางคงทน กันอาวุธทุกชนิด ตลอดถึงอุปัทวเหตุ แขวนคอเด็กจะคุ้มกันภัยและเลี้ยงง่าย


    4. พระผงทรงขุนแผนเรือนแก้ว เนื้อรวมผงว่านที่เคยสร้างพระมาแล้วทุกครั้ง ดีทางเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ มีว่านเพชรกลับอย่างแท้จากประเทศเขมร พิธีวัดสารอด ธนบุรี ปี 2506 ปลุก โดยวิญญาณหลวงปู่คง อาจารย์ขุนแผน โดยวิญญาณขุนแผนเข้าประทับทรง รวมพระอาจารย์หลายสิบพระอาจารย์ ทำพิธีอยู่ 30 วัน พิสูจน์ทดลองโดยวิธีต่างๆ เช่นนำพระไปปล่อยในทะเล แล้วทำพิธีเรียกให้กลับ(เสด็จกลับ) และให้เด็กกำไว้ในมือ แล้วนำใส่กุญแจในป่าช้า เด็กหลายคนเสดาะกุญแจมาได้ เป็นยอดในทางกันอาวุธและทางเสน่ห์


    5. พระผงรูปอาจารย์ทอง อาจารย์ผู้เฒ่าวัดเขาอ้อ พัทลุง เนื้อว่านยาและผงวิเศษตามตำราของท่าน ทำพิธีปลุกเศกโดยพระอาจารย์ผู้ทรงคุณ ล้วนแต่ได้ศึกษาวิชาความรู้มาจากสำนักเขาอ้อทั้งหมด มีหลวงพ่อคงวัดบ้านสวนเป็นประธาน อาจารย์ชุม ไชยคีรี เป็นเจ้าพิธี พิธี ณ วัดบ้านสวน ควนขุนน พัทลุง เมื่อปี 2511


    6. หลวงพ่อแดงพุทโธ วัดถ้ำเขาเงิน อ.หลังสวน จ.ชุมพร พิธีเมื่อคราวอาจารย์ชุม ไชยคีรี พร้อมด้วยคณะศิษย์อยู่จำพรรษาในถ้ำเขาเงิน ปี 2511 ด้วย เนื้อว่านยาและผงวิเศษ ที่เหลือจากการสร้างพระดังกล่าวแล้วทุกครั้ง ด้วยบุญบารมีของหลวงพ่อ และว่านยาคาถาอาคม จึงมีคุณวิเศษเป็นอัศจรรย์หลายชนิด


    7. พระผงพุทธศรีวิชัย แบบเดิมและรวมผงจากพระผงสมัยศรีวิชัย จากถ้ำต่างๆในภาคใต้ เช่น จังหวัดพัทลุง ตรัง นราธิวาส ไชยา รวมกับผงว่านที่เคยสร้างพระมาแล้วทุกครั้ง

    พิธีในพระวิหารหลวงรวม 5 วัน อาศัยบารมีพระบรมธาตุ เมืองนครศรีธรรมราช พระอาจารย์ผู้ทรงคุณ มีหลวงพ่อคงเป็นประธาน อาจารย์ ชุม ไชยคีรี เป็นเจ้าพิธี วิเศษทางแคล้วคลาด คงทน กันอาวุธและอุปัทวเหตุ ทำน้ำมนต์แก้โรคภัย ไข้เจ็บ


    8. พระผงคงไชยชุม เนื้อ ว่านยา เนื้อผงอิทธิเจ ผงนะปะฐะมัง ของอาจารย์ทั้ง 3 รวมแล้วได้ 500 ชนิด ทำเป็นรูปอาจารย์ทองวัดเขาอ้อ กับรูปหลวงปู่คงวัดบ้านสวน เป็นพระสองหน้า และทำเป็นรูปพระขุนแผนเรือนแก้ว รวมรูปขุนแผนออกศึก ถือเป็นพระผงว่านครั้งสุดยอดของอาจารย์ทั้งสาม(ได้แก่ ลพ.คง วัดบ้านสวน, อ.ไชย วัดบ้านสวน องค์นี้เป็นศิษย์รุ่นพี่ของลพ.คงที่สำเร็จวิชาลบผงนอโม, และ อ.ชุม ไชยคีรี)

    พิธีโดยอาจารย์ ศิษย์อาจารย์ผู้เฒ่าวัดเขาอ้อ หลวงพ่อคง เป็นประธาน วิญญาณหลวงปู่คง วิญญาณขุนแผนเข้าประทับทรงปลุกเศก ปรากฎคุณเป็นอัศจรรย์ ขุนแผนสั่งให้ยิงตั้งแต่วันเริ่มพิมพ์ขณะที่ยังไม่ทันปลุกเศก ผู้สนใจยิงทันที 3 นัดไม่ระเบิด วิเศษทางคงกระพัน ทางรักษาโรคก็ปรากฎแก่ผู้บูชา เป็นอัศจรรย์ตลอดมา


    9. เหรียญรูปหลวงพ่อคง วัดบ้านสวน อ.ควนขนุน จ.พัทลุง พิธีในวันมหาสิทธิโชคอุดมฤกษ์ เสาร์ 5 เดือน 5 ขึ้น 15 ค่ำ ปี 2516 ณ พระอุโบสถ วัดชำนิหัตถการ กรุงเทพฯ กันอาวุธ กันภัยได้จริง แก่ผู้เข้าถึง


    10. เหรียญรูปพระภควัมบดี รวมกับรูปอาจารย์ชุม ไชยคีรี เนื้อแร่ธาตุโสฬส (มีเม็ดกริ่งธาตุโสฬสที่เหลือจากพิธีสร้างพระโสฬส ของหลวงพ่อวัดบ้านแหลมทราย สงขลาครั้งที่ 1 พิธีก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ณ วัดชัยมงคล สงขลา 16 วัน 16 คืน) อาจารย์ชุม ไชยคีรี เก็บชนวนไว้จึงมาสร้างเหรียญแจกศิษย์ พิธี ณ วัดไตรมิตรวราราม สมุทรปราการ เมื่อปี 2518


    11. พระกริ่งและเหรียญพระพุทธคันธาราช พิธี ณ วัดถ้ำเขาปฐวี อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี เมื่อปี พ.ศ. 2516 หลวงพ่อคง เป็นประธาน อาจารย์ ชุม ไชยคีรี เป็นเจ้าพิธี เป็นคณะอาจารย์พลัดถิ่น ออกพิธีแล้วถูกทดลองยิงด้วยปืนทุกชนิด ทดลองฟันด้วยมีดต่างๆ ตลอด 5 วัน 5 คืน วิเศษจริงๆ อาจารย์ทั้งคณะรักษาชื่อเสียงจังหวัดพัทลุงไว้ได้


    12. พระสีวลีเถระเจ้า พิธี ณ วัดชำนิหัตถการ กรุงเทพฯ เมื่อปี 2517 (ที่จริงเป็นพิธีเมื่อ 25-28 ก.พ. 2515) พระอาจารย์เจ้าผู้ทรงคุณในภาคใต้ 9 องค์ มีพระครูพิพัฒน์สิริธร เป็นประธาน ร่วมกับพระอาจารย์มีชื่อเป็นมงคลนามในภาคกลาง พระอาจารย์ผู้ทรงคุณทางลาภหลายองค์ ร่วมปลุกเสก อาทิ หลวงปู่โต๊ะวัดประดู่ฉิมพลี, หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม ฯลฯ

    *(หมายเหตุ พระชุดนี้นอกเหนือไปจากพระบูชาเนื้อโลหะอุดผงและเหรียญพระสีวลีแล้ว พระเนื้อผงว่านจะเป็นพระที่เหลือจากการแจกในพิธีปี 2511 ที่วัดถ้ำเขาเงิน อ.ชุมได้นำมาเก็บไว้ที่บ้าน แล้วนำมาเข้าพิธีเสกอีกครั้ง ดังนั้นจึงผ่านการปลุกเสกทั้งสิ้น 2 ครั้ง)


    13. เหรียญรูปเหมือนท่านพระครูธรรมโฆษิต(ท่านพ่อคงวัดธรรมโฆษณ์) เป็นพระอาจารย์ผู้ทรงบารมีคุณ มีเมตตากรุณาธิคุณ มีไมตรีจิตแก่คนทุกชั้น มีวาจาสิทธิ์ ถึงกับประชาชนทั่วทั้งจังหวัด บนบานปิดทองท่าน ตังแต่ท่านยังมีชีวิตอยู่ พิธี ณ อุโบสถวัดชัยมงคล สงขลา เมื่อวันที่ 22-24 เมษายน 2520 เพื่อแจกแก่ผู้บริจาคเงิน สมทบทุนสร้างวิหาร รวมองค์พระเจดีย์พระบรมธาตุ


    14. เหรียญเราหยุดแล้ว ด้านหน้ารูปพระพุทธเจ้า ปางทรงห้ามพระประยูรญาติ ด้านหลังรูปหลวงพ่อคง วัดบ้านสวน เนื้อประกอบด้วยเลขยันต์ จากพระอาจารย์ผู้ทรงคุณทั่วประเทศ ทำพิธีเพื่อแจกเป็นการเตือนสติให้ชาวพุทธ มองเห็นภัยจากการจองเวร ซึ่งกันและกัน ขอร้องให้เลิกการจองเวรกันเสีย ให้ทุกคนสมาทานว่า "เราหยุดแล้ว" อธิษฐานให้ศัตรูหยุดจากการจองเวร วิเศษในทางเลิก ทางหยุด ทางห้าม พิธี ณ อุโบสถวัดบ้านสวน อ.ควนขนุน จ.พัทลุง เมื่อ 26-28 เมษายน 2520


    15. มีดหมอ มีดครู ตำราเรียกว่าเทพศัตราวุธ หัวมีดเป็นรูปพระพิฆเณศร์ เทพบรมครู มีกริ่งเนื้อเหล็กประสม ตามตำรามีดครู ทำพิธีทางศาสนาพราหมณ์ เมื่อเดือน เมษายน ปี 2519 เป็นมีดคู่มือหมอเฒ่า หมอยา ครูอาจารย์ทางไสยศาสตร์ ใช้ทำพิธีป้องกัน แก้ถอดถอนอาถรรพ์ ขับไล่ภูติผีปีศาจ แก้คุณไสยทำให้เกิดอำนาจ เป็นที่เกรงกลัวจากฝ่ายตรงข้าม เหมาะแก่พิธีไสยศาสตร์และมีไว้ป้องกันตัว ได้ทุกเพศทุกวัยแจกพร้อมด้วยวิธีใช้ ขนาด 15 ซ.ม.

    พิเศษน้ำมันมหานิยม เป็นน้ำมันพุทธคุณ อาจารย์เจริญภาวนาแผ่เมตตาจิต ให้ผู้ใช้เลิกรบเลิกเบียดเบียนซึ่งกันและกัน ศัตรูกลับเป็นมิตร ธุระกิจทุกอย่างเจริญรุ่งเรือง ทำให้ครอบครัวอยู่กันเป็นสุข ขนาดหนูกินนมแมว

    พิเศษแหวนมหาอุด กับแหวนมหานิยม เนื้อทองขาว 2 ชนิด


    16. ศิวลึงค์ ลึงค์พระศิวมหาเทพผู้สร้างโลก พิธีพราหมณ์พร้อมกับมีดครู


    17. ตระกรุดมหาอุดพิชัยสงคราม เป็น ตระกรุดมีคุณวิเศษสูงสุดที่เคยใช้ ตามตำราพิชัยสงคราม ไม่ใช่มหาอุดที่เข้าใจกันว่าอุดลาภ หรือไว้ที่บ้านเวลาภรรยาคลอดบุตรต้องเอาออก ตระกรุดนี้เรียน มาจากอาจารย์ภาคใต้ ที่มีชื่อเสียงถึงห้าอาจารย์ ทุกอาจารย์เรียนจากสำนักเขาอ้อ จ.พัทลุงต่อๆกันมาทั้งหมด ตรงกับตำราพิชัยสงครามทั้งนั้น

    ข้าพเจ้าทำแจกทหารภาคใต้ ที่เตรียมตัวเดินทางไปรบกับฝรั่งเศสในอินโดจีน ได้ผลตามตำรา มีความปลอดภัย ชนะศัตรู กำบังตาศัตรู กระสุนศัตรูยิงมาไม่เข้าใกล้กาย นายทหารคนเดียวสามารถพาลูกน้องให้ปลอดภัยได้ทั้งกองร้อย พ่อค้าข้าราชการนำไปใช้ได้ผลดีมามากแล้ว

    วิธีใช้ก่อนคาดเข้าที่เอว ให้เอาตระกรุด ใส่เข้าในมือ ประณมมือว่า นะโม 3 จบ แล้วหลับตาภาวนา หายใจเข้านึกว่า พุท หายใจออกนึกว่า โธ จากนั้น ภาวนา ภะคะวา สุคะโต อะระหัง หลายๆจบ แล้วคาดเข้าที่สะเอว ทั้งๆที่หลับตา คาดเสร็จแล้วเอามือขวาปิดบนกระหม่อม และใช้หัวแม่มือซ้ายกดที่สะดือ อึดใจภาวนา "นะอุอะมิ" จำนวน 3 อึดใจ

    เมื่อคาดไปแล้วไปไหนมาไหน ไม่ต้องเอาออก เว้นแต่นอนร่วมกับผู้หญิงเท่านั้น ที่ต้องนำออก ห้ามทดลองทำเป็นเล่น เข้าที่คับขันกำบังตาศัตรู กันอาวุธทุกชนิด วิเศษสูงสุด


    18. เหรียญพระโพธิสัตว์มหาลาภ รวมกับพระสีวลี พิธีพร้อมกับพระสีวลีมหาลาภ เนื้อทองแดง (ที่เหรียญเขียนว่า พระโพธิสัตว์ศรีอริยเมตไตร อ.ชุมทำพิธีที่วัดชำนิหัตถการ กทม.ปี 2517 พิธีเดียวกับพระสีวลีในข้อ12)


    19. ตระกรุดหัวใจมหาบุรุษ 8 จำพวก จากตำราอาจารย์ผู้เฒ่าครั้งโบราณ สมัย 1000 กว่าปี พระอาจารย์เจ้าทั้งหลายได้ใช้และแจกสืบต่อกันมา จนมาถึงปัจจุบัน

    ก่อ ให้เกิด ลาภยศ สรรเสริญ สุข อย่างอัศจรรย์ ท่านว่าเป็นบุญเป็นกุศลด้วยคุณวิเศษ ตามที่พรรณาไว้มากมาย สรุปได้ว่า ผู้ใดมีตระกรุดนี้ไว้ประจำตัวแล้วเจริญภาวนาด้วยพระคาถา หัวใจพระอริยสัจจ์เป็นประจำ คนยากจนจะเป็นเศรษฐี เศรษฐีจะรักษาทรัพย์ไว้ได้นาน คนโชคร้ายกลายเป็นคนโชคดี คนไม่มียศจะมียศ คนไม่มีผัวจะมีผัว คนไม่มีเมียจะได้เมีย ผัวเมียรังเกียจกันจะคืนดีต่อกัน ไม่มีลูกจะมีลูก ไม่มีปัญญาจะเกิดปัญญา บ้านเมือง ไร่ นา สวน บริษัท ห้างร้าน วัดวาอาราม ที่เสื่อมโทรมเอาตระกรุดฝังไว้ หรือติดไว้ที่ป้าย บริษัทห้างร้านจะเจริญรุ่งเรือง

    บรรจุไว้ใต้ฐานพระประธาน กราบไหว้บูชาเจริญภาวนา จะเกิดโชคลาภยิ่งใหญ่ วิธีเจริญภาวนา หายใจเข้านึกว่า พุท หายใจออกนึกว่า โธ หลายครั้ง ทำจิตให้สงบ แล้วภาวนาต่อด้วยพระคาถานี้ "ทุสะนิมะ" หลายๆ ครั้ง แล้วทำความปรารถนา ได้ผลมากน้อยตามแรงศรัทธา อาจารย์รับรองว่า ได้ทำพิธีถูกต้องตามตำราแล้ว


    20. ประคำสำหรับใช้บริกรรมภาวนา ทำตามตำราหลวงปู่คง


    *หมาย เหตุ บทความนี้ ได้มีการแก้ไขและเพิ่มเติมของรายละเอียดบางส่วน เช่น ปีที่สร้าง อันเนื่องจากในหนังสือพิมพ์ผิด และขยาย อธิบายความเพิ่มในบางส่วน

    โดย บี
    28/12/2008
    http://www.myamulet.com
     
  15. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,458
  16. พยัคฆราช

    พยัคฆราช Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    340
    ค่าพลัง:
    +69
    เจ้ากรม อาจารย์ชุม ยอดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ขอถามรายการที่19 / 20 ครับ เปิดอยู่เท่าไหรครับพี่ชาย ด้วยความเคารพครับ ชมจนตาลายเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2011
  17. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,458
    เป็นรูปให้ศึกษาครับพี่ท่าน ผมม่ายมีอะครับ หายากมักๆ สองรายการนี้;)
     
  18. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,458
    [​IMG]

    [​IMG]
    วันนี้นำของหายากอีกรายการหนึ่งมาให้ ชมกันครับ เป็นบาตรน้ำมนต์ติดพระจากพิธีที่วัดพระบรมธาตุ 2497 ตัวบาตรน้ำมนต์ทำจากดินเผา แล้วเอาพระพิมพ์ติดรอบๆบาตร

    พระพิมพ์ที่นำมาติดรอบบาตร มีดังนี้

    1. พระรูปเหมือน"อาจารย์ทองเฒ่า" ปรมาจารย์ใหญ่เขาอ้อ2. พระหลวงปู่ทวด3. ยันต์เฑาะว์ หรือตัวฑม

    4. พระหลวงปู่ทวด มหายันต์ธรรมราช เป็นพระทรงกลมขนาดใหญ่ ติดที่ก้นบาตร

    พระชุดที่ทำติดกับบาตรน้ำมนต์ ทำไว้มีจำนวนไม่มากนักครับ ตัวบาตรที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ยิ่งหาชมได้ยาก

    พระ เครื่องจากวัดพระบรมธาตุ จ.นครศรีธรรมราช ปี พ.ศ.2497 ในพิธีเดียวกันนี้มีด้วยกันหลายพิมพ์ นอกเหนือไปจากพระนางตรา-ท่าเรือ ที่เป็นที่รู้จัก ยอดจำนวนการสร้างมีถึง 84,000 องค์ ตามจำนวนพระธรรมขันธ์

    มวล สารที่รวบรวมมามีพระกรุสุดยอดพระเครื่องจากทั่วประเทศ มาดำเนินการสร้างพระนี้ จากการรวบรวมปรากฎว่าได้พระกรุมากว่า 108 กรุ ว่านยาอีก 108 ชนิด รวมทั้งผงวิเศษ อาทิเช่น พระกรุนางตรา-ท่าเรือ, กรุท้าวโคตร, สมเด็จวัดระฆัง, สมเด็จบางขุนพรหม, พระผงสุพรรณ, ผงดำผงแดงหุ่นพยนต์, หลวงพ่อเกตุ วัดขวิด, ขุนแผนวัดพระรูปและวัดบ้านกร่าง, พระนางพญาวัดนางพญาและวัดต้นจันทร์ สุพรรณบุรี, พระกรุต่าง ๆ ในกำแพงเพชร, พระกรุต่าง ๆ ในสุโขทัย, หูยานลพบุรี, ท่ากระดานหูไห กาญจนบุรี, พระกรุวัดท่ามะปราง, พระวัดชินราช พิษณุโลก, พระหลวงพ่อจุก, พระจุฬามณี พิษณุโลก, พระรอด พระคง พระเปิม-ลำพูน, มหาว่านวัดเขาอ้อ-พัทลุง, และพระกรุศรีวิชัยฯลฯ

    การประกอบพิธีพุทธาภิเษก จัดให้มีขึ้นตลอดพรรษา ณ วิหารวัดพระบรมธาตุ นครศรีธรรมราช
    ได้ฤกษ์พิมพ์องค์พระในวันที่ 2 สิงหาคม 2497
    ครบ 84,000 องค์ วันที่ 1 กันยายน 2497
    ทำพิธีปลุกเสกวันที่ 14 กันยายน 2497
    ออกพิธีวันที่ 12 ตุลาคม 2497 ซึ่งเป็นวันออกพรรษา

    โดย พิธีนี้ได้นิมนต์พระเถราจารย์ ผู้เรืองเวทวิทยาคม 108 รูป มาร่วมประกอบพิธี มีท่านเจ้าคุณพระภัทรมุนี เจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุฯ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ สำหรับพระคณาจารย์ที่ปลุกเสกขอยกมาเป็นบางส่วน ได้แก่ หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขัน จันดี, หลวงพ่อโอภาสี บางมด ธนบุรี, หลวงพ่อเขียว วัดหรงบน, หลวงพ่อเมือง วัดท่าพญา, หลวงพ่อคง วัดคลองน้อย, หลวงพ่อมุ่ย วัดป่าระกำ ปากพนัง, หลวงพ่อแดง วัดโท ท่าศาลา, หลวงพ่อคลิ้ง วัดถลุงทอง ร่อนพิบูลย์, หลวงพ่อแดง วัดเขาหลัก ทุ่งใหญ่, หลวงพ่อตุด วัดทุ่งกง กระบี่, หลวงพ่อวัน มะนะโส วัดประสิทธิชัย, หลวงพ่อแสง วัดคลองน้ำเจ็ด ตรัง, หลวงพ่อปาล วัดเขาอ้อ, หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน, หลวงพ่อดิษฐ์ วัดปากสระ. หลวงพ่อเจ็ก วัดเขาแดงตะวันตก, หลวงพ่อหมุน วัดเขาแดง ตะวันออก พัทลุง, หลวงพ่อพัว วัดเขาราหู (วัดบางเดือน). หลวงพ่อแดง วัดคลองไทร, หลวงพ่อวิรัช วัดกะเปา คีรีรัฐนิคม สุราษฎร์ธานี, หลวงพ่อทอง วัดดอนสะท้อน, หลวงพ่อสงฆ์ วัดศาลาลอย, หลวงพ่อจีด วัดถ้ำเขาพลู, หลวงพ่อรุ่ง วัดบางแหวน ชุมพร, หลวงพ่อท้วม วัดเขาโบสถ์ บางสะพาน, หลวงพ่อเปี่ยม วัดเกาะหลัก ประจวบคีรีขันธ์, หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง เพชรบุรี, หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ เพชรบุรี, หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม, หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม นครปฐม ฯลฯ อาจารย์ที่เป็นฆราวาสได้แก่ อ.ชุม ไชยคีรี, อ.นำ แก้วจันทร์, พล.ต.ต. ขุนพันธรักษ์ ราชเดช

    การปลุกเสกเน้นเด่นเฉพาะทาง แบ่งออกเป็นช่วง ช่วงละ 7 วัน เช่น ปลุกเสกเน้นด้านคงกระพันชาตรี 7 วัน มหาอุด 7 วัน ป้องกันสัตว์ร้ายและโจรร้าย 7 วัน ป้องกันโรคภัยไข้เจ็บและภูตผีปีศาจ 7 วัน เมตตามหานิยม 7 วัน เนรมิตกายกำราบศัตรูให้เห็นเราคนเดียวเป็นหลายคน ดังนี้เป็นต้น

    โดย บี
    28/12/2008
    http://www.myamulet.com
     
  19. รับโชค

    รับโชค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    2,131
    ค่าพลัง:
    +11,878
    สุดยอดเลยครับท่านโม เป็นบุญตาครับที่ได้เห็น
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 88255085527.jpg
      88255085527.jpg
      ขนาดไฟล์:
      11.3 KB
      เปิดดู:
      302
  20. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,458
    รู้อะไรดีๆก็แบ่งปันกันไปครับผมเองก็ยังรู้ไม่หมดเหมือนกัน
     

แชร์หน้านี้

Loading...