WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

<TABLE class=Panel border=0 cellSpacing=0 cellPadding=1 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" <tr><TBODY><TR><TD class=PM>
คาดหมาย
การคาดหมาย ในวันที่ 17-20 ต.ค. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ของประเทศไทย ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีอากาศเย็นและมีหมอกในตอนเช้า หลังจากจากนั้นในช่วงวันที่ 21-23 ต.ค. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางระลอกใหม่จะปกคลุมภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน ทำให้อุณหภูมิลดลงได้ 1-3 องศาเซลเซียส โดยบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยังคงมีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า สำหรับภาคใต้จะมีลมตะวันออกพัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้ และอ่าวไทย เข้ามาปกคลุมทำให้มีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างจะมีกำลังแรงขึ้นในช่วงวันที่ 21-23 ต.ค.

ข้อควรระวัง
ข้อควรระวัง - ในช่วงวันที่ 17-18 และ 20-23 ต.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักในระยะนี้ไว้ด้วย





B5 - War Room Falkman

</TD></TR><TR style="HEIGHT: 1px"><TD></TD></TR><TR class=PMB><TD></TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD style="HEIGHT: 2px"></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD></TD></TR><TR class=PF><TD class=PBL></TD><TD class=PLF></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

กรมอุทกศาสตร์เผยน้ำทะเลหนุนสูง17-21ตค.

วันพุธที่ 17 ตุลาคม พ.ศ.2555 12:42น.



รองเจ้ากรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ เผย น้ำทะเลหนุนสูง 17 - 21 ตุลาคมนี้ แต่ระดับน้ำสูงสุด จะน้อยกว่าปีที่ผ่านมา

พล.ร.ต.วิฑูรย์ ตัณฑิกุล รองเจ้ากรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ แถลงพร้อมกับ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ว่า ในวันที่ 17 - 21 ตุลาคมนี้ จะเป็นช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูง โดยอิทธิพลของน้ำทะเล จะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา สูงกว่าระดับน้ำทะเลปานกลาง 1.16 - 1.22 เมตร เมื่อรวมกับปริมาณน้ำเหนือ จะมีผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา สูงกว่าระดับน้ำทะเลปานกลางระหว่าง 1.77 - 1.87 เมตร ซึ่งคาดว่าในปีนี้ จะสูงสุดอยู่ที่ 1.81 เมตร ซึ่งน้อยกว่าปีที่ผ่านมา ที่สูงกว่า 2.52 เมตร พร้อมระบุ หากในพื้นที่มีฝนตก ก็จะทำให้น้ำสูงกว่า 10 ซ.ม. ซึ่งจะทำให้พื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำ ได้รับผลกระทบ

กรมอุทกศาสตร์เผยน้ำทะเลหนุนสูง17-21ตค. : INN News

B5 - War Room Falkman

 

พายุหมุนถล่ม อ.บางซ้าย พระนครศรีอยุธยา บ้านเรือนพังราบ หญิงชราเจ็บ

วันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 18:55:17 น.



เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม นายวรากร สิทธิมาลิก นายอำเภอบางซ้าย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย นายอุบล ทัตพรหม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลปลายกลัด อำเภอบางซ้าย เข้าตรวจสอบบ้านเรือนประชาชนกว่า 10 หลังและสถานที่ราชการ เช่นสำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลปลายกลัด บ้านพักพนักงาน และศาลเจ้าประจำชุมชน ซึ่งเสียหายจากแรงลมพายุหมุน ที่พัดอย่างรุนแรงในช่วงเวลา 02.00 น. ที่ผ่านมา และได้สร้างความเสียหายแก่สิ่งก่อสร้างจำนวนมาก โดยในเหตุการณ์ครั้งนี้ มีหญิงชราได้บาดเจ็บ 1 รายเพราะถูกตู้ในบ้านล้มทับ ขณะนี้อาการปลอดภัยแล้วเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ได้มีการสำรวจความเสียหาย เพื่อทำเรื่องเสนอไปยัง สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อขอรับการช่วยเหลือกรณีได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติ

นางสายสร้อย แช่มช้อย อาจารย์ประจำโรงเรียนวัดใหม่ต้านทาน กล่าวว่า ชาวบ้านบอกว่าเกิดลมพายุหมุน โดยเริ่มจากด้านหลังโรงเรียน พัดผ่านวัด และไปแสดงกำลังรุนแรงของลมพายุที่ชุมชนและสำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลปลายกลัด จนเกิดความเสียหาย สำหรับโรงเรียนนั้นได้รับความเสียหาย เฉพาะอาคารศูนย์เด็กเล็กที่ต้นไม่โค่นทับจนกระเบื้องหลังคาพัง และครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของชุมชนที่โดนแรงลมพายุหมุนแบบนี้



พายุหมุนถล่ม อ.บางซ้าย พระนครศรีอยุธยา บ้านเรือนพังราบ หญิงชราเจ็บ : มติชนออนไลน์

B5 - War Room Falkman

 

จับตา'พายุ'ถล่มภาคใต้ส่อเท่า'พายุเกย์'


วันที่ 17-10-2555

จับตา'พายุ'ถล่มภาคใต้ ส่อเค้าแรงเท่า'พายุเกย์' : ทีมข่าวรายงานพิเศษ

http://www.komchadluek.net/detail/20121017/142509/%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%96%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B9%83%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A2%E0%B9%8C.html#.UH4cssXQf51



ปีนี้ หลายคนรู้สึกโล่งอกที่ไม่ต้องเผชิญกับวิกฤติน้ำท่วมใหญ่เหมือนปีที่ผ่านมา แต่หลายพื้นที่ของประเทศ ต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมจาก "พายุแกมี" ที่อ่อนกำลังเป็น "ดีเปรสชัน" และนับจากเดือนนี้ไป ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลาง จะเริ่มสู่ฤดูหนาว แต่ทว่าพื้นที่ภาคใต้ของไทยกำลังเข้าสู่ฤดูมรสุมอาจจะมีพายุลูกใหญ่ก่อตัวขึ้น และอาจมีความรุนแรงเท่า "พายุเกย์" ที่เคยซัดถล่มชุมพร!!

"สมชาย ใบม่วง" รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ยอมรับว่า จากวันนี้ไปจนถึงเดือนมกราคมจะเป็นช่วงฤดูฝนของทางภาคใต้ จะมีโอกาสเกิดพายุหมุนเขตร้อน อาจมีหย่อมความกดอากาศต่ำก่อตัวขึ้นในภาคใต้ตอนล่าง แล้วก่อตัวขึ้นเป็นพายุเดินทางเข้าสู่ภาคใต้ฝั่งตะวันออกซึ่งจะก่อความรุนแรงและอันตรายมากเนื่องจากทางภาคใต้ฝั่งตะวันออกนั้นไม่มีประเทศบังให้ ถ้าหากมีพายุก่อตัวจริงก็อาจจะมีความรุนแรงเช่นเดียวกับ "พายุเกย์" ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2532 ที่เคยสร้างความเสียหายให้แก่ภาคใต้มาแล้ว ต้องมีการเฝ้าระวังจับตาให้ดี มีโอกาสที่จะเกิดน้ำท่วมหนักได้ ถ้าเกิดพายุเข้ามาจะมีความรุนแรงถึงพายุโซนร้อนหรือพายุไต้ฝุ่น ประกอบกับสภาพอากาศที่เริ่มหนาวเย็นจากประเทศจีน แผ่ปกคลุมมาถึงภาคใต้ของไทย อาจทำให้เกิดคลื่นลมแรงซัดเข้าหาฝั่งที่เรียกว่า “มอนซูนเซิร์จ” (Monsoon Surge) ที่ในระยะหลังมีการเกิดขึ้นบ่อยครั้งซึ่งทำให้ชายฝั่งถูกกัดเซาะไปเรื่อยๆ ด้วย จึงต้องเฝ้าระวังอยู่ 2 อย่าง คือ พายุที่อาจจะก่อตัวขึ้นในภาคใต้ และ "มอนซูนเซิร์จ" ที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงนี้

สอดคล้องกับ ศ.ดร.ธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล หัวหน้าหน่วยศึกษาพิบัติภัยและข้อสนเทศเชิงพื้นที่ ภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มองว่า จากการศึกษาเปรียบเทียบเมื่อปี 2533, 2539, 2549 ซึ่งพบว่ามีลักษณะที่เป็นรอยต่อจากลานีญ่ามาเป็นเอลนีโญ่ ที่มีลักษณะเป็นพายุตรงๆ หรือเฉียดประมาณ 3 ลูก ทำให้เกิดน้ำท่วมได้ จากการเปรียบเทียบข้อมูลอาจจะมีอีก 2-3 ลูก ถึงแม้ว่า "พระพิรุณ" จะไม่เข้าประเทศไทย แต่การคาดการณ์พายุต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้

"ตอนนี้ มรสุมลงไปอยู่ในภาคใต้ และระลอกของลมหนาวอาจจะปะทะกับลมร้อน อาจเกิดพายุขึ้นอีก ทำให้กรุงเทพฯ ไปจนถึงชุมพร ยังน่าเป็นห่วง ยิ่งช่วงนี้ภาคใต้มีฝนตกหนักด้วย สิ่งที่ต้องระวังคือพายุที่อาจจะก่อตัวขึ้นใหม่ในทะเลจีนใต้ ซึ่งอาจสร้างความเสียหายเหมือนกับ "พายุเกย์" ผมอยากให้มอง "แกมี" เป็นการซ้อมใหญ่ให้แก่หน่วยงานต่างๆ เพราะเมื่อมีข่าวพายุจะเข้ามาทุกภาคส่วนมีความตื่นตัวมากขึ้น หากในอนาคตจะมีพายุเข้ามาอีก ก็คาดว่าน่าจะรับมือกันได้ดีในระดับหนึ่ง"

ศ.ดร.ธนวัฒน์ ยอมรับว่า จากสถิติ 10 ปีย้อนพายุที่เกิดขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิกแถบทะเลจีนใต้ มีค่าเฉลี่ยพายุประมาณ 21-29 ลูก ซึ่งพบว่าจำนวนลูกของพายุยังเท่าเดิม แต่ความรุนแรงนั้นเพิ่มขึ้น มีหลายลูกที่พบเจอมีการยกระดับเป็น "ซูเปอร์ไต้ฝุ่น" ส่วนในของประเทศไทยนั้นค่าเฉลี่ยอยู่ที่ที่ประมาณ 3-5 ลูกต่อปี ในปีนี้เพิ่งเจอ "แกมี" เป็นลูกแรก แต่ปีที่แล้วประเทศไทยเจอไป 5 ลูก ก็ยังต้องเฝ้าจับตาต่อไป

ด้าน ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผอ.ศูนย์เครือข่ายงานวิเคราะห์วิจัยและฝึกอบรมการเปลี่ยนแปลงของโลกแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า พื้นที่ภาคใต้ที่ยังต้องมีการจับตาดูอยู่ เพราะมันยังมีโอกาสมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดพายุใหญ่ๆ อย่างที่เคยเกิดมาได้ เพราะวงรอบนั้นมันไม่เกิดมาหลายปีแล้วยิ่งทำให้มีความเสี่ยงและโอกาสที่จะเกิดมากขึ้น

ทั้งนี้ ข้อมูลจากศูนย์ภูมิอากาศ สำนักพัฒนาอุตุนิยมวิทยา ระบุถึงสถิติพายุหมุนเขตร้อนในระดับความรุนแรงต่างๆ เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยในรอบ 60 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2494-2554 เกิดขึ้นทั้งหมด 186 ลูก โดยพบมากที่สุดในเดือนตุลาคม กันยายน พฤศจิกายน และธันวาคม

B5 - War Room Falkman

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ฝนตกหนักหลายย่านนครโฮจิมินห์เป็นเมืองบาดาล</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>17 ตุลาคม 2555 04:34 น</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=700><TBODY><TR><TD vAlign=top width=700 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>
รถจักรยานยนต์คู่ชีพสำลักน้ำที่ท่วมสูงในเขตอำเภอที่ 2 ของนครโฮจิมินห์ ทำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนจำนวนมากต้องจูงกลับบ้านอย่างยากลำบากในเวลาพลบค่ำวันอังคาร 16 ต.ค.ที่ผ่านมา ระดับน้ำทะเลเอ่อขึ้นสูงเท่ากับระดับสูงสุดที่วัดได้ในเดือน พ.ย.ปีที่แล้ว ทำให้หลายย่านของนครใหญ่แห่งภาคใต้จมบาดาล. -- ภาพ: Tuoitre Online/Q.Khải.</B>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>.

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ฝนตกหนักประกอบกับน้ำทะเลหนุนขึ้นสูงในบ่ายวันอังคาร 16 ต.ค.นี้ ทำให้ถนนในหลายย่านของนครโฮจิมินห์ ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำไซ่ง่อนจมอยู่ใต้น้ำ การจราจรติดขัดอย่างหนักหน่วง โดยระดับน้ำทะเลหนุนขึ้นสูง 1.59 เมตร เท่ากับระดับสูงที่สุดที่วัดได้ในเดือน พ.ย.ปีที่แล้ว สื่อของทางการรายงาน

พายุฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมถนน และตัวเมืองในหลายอำเภอ รวมทั้งอำเภอที่ 2, 5, 7 และอำเภอที่ 11 ซึ่งหนักหน่วงที่สุด ชาวเมืองนับร้อยๆ ที่ไปรับลูกๆ หลังโรงเรียนเลิกต้องจูงรถจักรยานยนต์ลุยกลับ เด็กๆ จำนวนมากต้องเดินลุยน้ำไปตามถนนกลับบ้าน เนื่องจากรถบัสโดยสารประจำทางงดให้บริการ รถยนต์จำนวนมากเกิดเครื่องดับกีดขวางทางสัญจรทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก

น้ำท่วมตั้งแต่ตอนบ่าย จนถึงเวลาตกเย็นเพิ่งลดระดับลงราว 1 เซนติเมตร ผู้ใช้รถใช้ถนนจำนวนมากตกหลุมบนถนนโดยไม่ทันตั้งตัว ชาวบ้านในหลายท้องถิ่นต้องใช้เรือ หรือกล่องโฟมขนาดใหญ่มัดติดกันเป็นแพใช้แทนเรือ หนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋รายงานในเว็บไซต์ข่าวภาษาเวียดนาม

ชาวเมืองกล่าวโทษการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคที่ไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย กีดขวางทางน้ำไหล เช่นเดียวกับปัญหาผักตบชวา และขยะที่ทำให้ท่อระบายน้ำอุดตัน การจัดเก็บขยะล่าช้า และทำได้ไม่ทั่วถึง ซึ่งทำให้หลายย่านของนครใหญ่ที่มีประชากรกว่า 8 ล้านคน เกิดน้ำท่วมอย่างง่ายดาย เพียงแต่ฝนตกลงมาเท่านั้น

ศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์กลางในกรุงฮานอย กล่าวว่า ระดับน้ำในนครโฮจิมินห์จะลดลงอย่างช้าๆ ตามการหนุนเนื่องของระดับน้ำทะเล และจะเริ่มลดให้เห็นผิดตาในวันพุธนี้ เมื่อระดับน้ำทะเลลดลง แต่ยังเตือนให้ระวังท่วมซ้ำอีก เนื่องจากยังจะมีฝนตกตลอดช่วง 2-3 วันข้างหน้า เตื่อยแจ๋กล่าว.
.


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500><TBODY><TR><TD vAlign=top width=500 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>
คุณแม่ไปรับคุณลูกแต่ต้องประสบชะตากรรมเดียวกันกับชาวบ้านส่วนใหญ่ในท้องที่อำเภอที่ 5 เมื่อเกิดฝนตกหนักในช่วงที่น้ำทะเลหนุนขึ้นสูงตอนบ่ายวันอังคาร 16 ต.ค.ที่ผ่านมา ทำให้หลายย่านในหลายอำเภอของนครโฮจิมินห์เป็นเมืองบาดาลไปในบัดดล. -- ภาพ: Tuoitre Online/Đức Phú. </B>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=660><TBODY><TR><TD vAlign=top width=660 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>
ช่วงที่ถนนเบ๊นฝูดิง (Bến Phú Định) ในท้องที่อำเภอที่ 8 มีน้ำท่วมสูง ศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์กลางฯ ออกคำเตือนชาวโฮจิมินห์ให้ระวังน้ำท่วมซ้ำอีกในช่วง 2-3 วันข้างหน้าซึ่งจะยังมีฝนตกหนัก. -- ภาพ: Tuoi Tre Online/Đức Phú. </B>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
B5 - War Room Falkman



</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ทางการปากีฯเผย น้ำท่วมใหญ่ตั้งแต่ต้นก.ย. คร่าชีวิตปชช.อย่างน้อย 455 ราย อีก 5 ล้านคนได้รับผลกระทบ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>17 ตุลาคม 2555 15:42 น</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450><TBODY><TR><TD vAlign=top width=450 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>เอเอฟพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - เหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่จากอิทธิพลของพายุและลมมรสุมในปากีสถาน ช่วง 5 สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 455 ราย ขณะที่ประชาชนอีกมากกว่า 5 ล้านคนได้รับผลกระทบ ทั้งนี้เป็นการเปิดเผยข้อมูลล่าสุดของหน่วยงานด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของปากีสถานในวันพุธ (17)

สำนักงานบริหารจัดการภัยพิบัติแห่งชาติ (เอ็นดีเอ็มเอ) เผย ตลอดระยะเวลา 5 สัปดาห์ที่ผ่านมา พื้นที่ส่วนต่างๆของปากีสถานต้องเผชิญกับอิทธิพลของพายุหลายลูก รวมถึงลมมรสุม ทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ จนหลายพื้นที่ต้องจมอยู่ใต้น้ำ คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วอย่างน้อย 455 ราย ส่วนอีกมากกว่า 5 ล้านคน ได้รับผลกระทบในรูปแบบต่างๆ เช่น ต้องกลายเป็นคนไร้บ้าน สูญเสียสมาชิกในครอบครัว หรือสูญเสียที่ดินทำกิน ฯลฯ โดยพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด คือ จังหวัดซินด์ห ปันจาบ และบาลูชิสถาน ขณะที่ประชาชนอีกมากกว่า 260,000 คนต้องกลายสภาพเป็นผู้อพยพที่พักอาศัยตามค่ายพักชั่วคราวต่างๆ นับตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ปากีสถานต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมใหญ่หลายระลอก รวมถึง อุทกภัยครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์เมื่อปี 2010 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 1,800 คน และได้รับผลกระทบอีก 21 ล้านคน


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450><TBODY><TR><TD vAlign=top width=450 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450><TBODY><TR><TD vAlign=top width=450 align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
B5 - War Room Falkman


</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>สถานทูตสหรัฐฯ ในสวีเดนสั่งอพยพหลังพบจดหมายต้องสงสัย</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>17 ตุลาคม 2555 19:45 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT type=text/javascript src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT><IFRAME style="WIDTH: 116px; HEIGHT: 20px" class="twitter-share-button twitter-count-horizontal" title="Twitter Tweet Button" src="http://platform.twitter.com/widgets/tweet_button.1347008535.html#_=1009825648078&count=horizontal&id=twitter-widget-0&lang=en&original_referer=http%3A%2F%2Fwww.manager.co.th%2FAround%2FViewNews.aspx%3FNewsID%3D9550000127452&size=m&text=%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%AA%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B8%AF%20%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%9E%E0%B8%A2%E0%B8%9E%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%9A%E0%B8%88%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%A2&url=http%3A%2F%2Fwww.manager.co.th%2FAround%2FViewNews.aspx%3FNewsID%3D9550000127452&via=ASTVManager" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no data-twttr-rendered="true"></IFRAME>

<SCRIPT type=text/javascript src="https://apis.google.com/js/plusone.js"> {lang: 'th'}</SCRIPT><?XML:NAMESPACE PREFIX = G /><GLUSONE size="medium"></GLUSONE>
<TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><!--
<script>(function(d, s, id) { var js, fjs = d.getElementsByTagName(s)[0]; if (d.getElementById(id)) return; js = d.createElement(s); js.id = id; js.src = "//connect.facebook.net/th_TH/all.js#xfbml=1"; fjs.parentNode.insertBefore(js, fjs);}(document, 'script', 'facebook-jssdk'));</script><fb:like href="http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrshort.aspx?NewsID=9550000127452" send="true" width="450" show_faces="false"></fb:like>--></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=512><TBODY><TR><TD vAlign=top width=512 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>สถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงสตอกโฮล์ม สวีเดน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> เอเอฟพี - สถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงสตอกโฮล์มของสวีเดนสั่งอพยพในวันนี้ (17) เนื่องด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ขณะที่ตำรวจรายงานว่า จดหมายต้องสงสัยฉบับหนึ่งเป็นเหตุให้เกิดความตื่นตระหนก

เจฟฟ์ แอนเดอร์สัน โฆษกสถานทูตแถลงว่า ได้อพยพคณะทูต และเจ้าหน้าที่ทั้งหมดแล้ว ขณะที่กำลังดำเนินการสอบสวนกรณีด้านความปลอดภัย ที่เป็นไปได้ และประสานงานร่วมกับทางการสวีเดน

ตำรวจสวีเดนรายงานบนเว็บไซต์ของทางสำนักงานว่า เจ้าหน้าที่ได้รับคำสั่งให้ไปตรวจสถานทูตสหรัฐฯ หลังมีจดหมายไม่ระบุที่มาส่งถึงสถานทูต โดยสำนักข่าวทีทีรายงานว่า จดหมายดังกล่าวมีผงแป้งสีขาวที่ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นอะไรอยู่ด้วย

"มันเป็นสิ่งที่ใครก็ตามไม่คาดหวังว่าจะได้รับ และเมื่อมาเกิดกับสถานที่่อ่อนไหวอย่างสถานทูต เราจึงหลีกเลี่ยงความเสี่ยง" อัลบิน เนเวอร์เบรี โฆษกตำรวจสตอกโฮล์มกล่าว โดยเสริมว่าหน่วยกอบกู้ระเบิดรับจดหมายต้องสงสัยไปแล้ว และกำลังตรวจสอบความปลอดภัย ณ สถานที่ดังกล่าว

ตำรวจถูกส่งไปยังสถานที่เกิดเหตุในเวลา 11.35 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 16.35 น.ตามเวลาของไทย และยังประจำอยู่ที่นั่นจนถึงช่วงบ่าย โดยไม่ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับคำขู่โจมตีสถานทูตสหรัฐฯ แห่งนี้แต่อย่างใด

ทั้งเจ้าหน้าที่สถานทูตในกรุงสตอกโฮล์มราว 170 คน ตลอดจนบุคคลทั่วไป ได้ถูกนำตัวออกจากอาคาร ในระหว่างที่เกิดความตื่นตระหนก

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>นศ.แจ้งโอนที่เรียนหนี ม.อีสาน แล้วกว่า 4 พันคน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>17 ตุลาคม 2555 18:01 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT type=text/javascript src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT><IFRAME style="WIDTH: 116px; HEIGHT: 20px" class="twitter-share-button twitter-count-horizontal" title="Twitter Tweet Button" src="http://platform.twitter.com/widgets/tweet_button.1347008535.html#_=1009825876640&count=horizontal&id=twitter-widget-0&lang=en&original_referer=http%3A%2F%2Fwww.manager.co.th%2FQOL%2FViewNews.aspx%3FNewsID%3D9550000127393&size=m&text=%E0%B8%99%E0%B8%A8.%E0%B9%81%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B5%20%E0%B8%A1.%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%99%20%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%204%20%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%99&url=http%3A%2F%2Fwww.manager.co.th%2FQOL%2FViewNews.aspx%3FNewsID%3D9550000127393&via=ASTV_QOL" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no data-twttr-rendered="true"></IFRAME>

<SCRIPT type=text/javascript src="https://apis.google.com/js/plusone.js"> {lang: 'th'}</SCRIPT><?XML:NAMESPACE PREFIX = G /><GLUSONE size="medium"></GLUSONE>
<TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><!--
<script>(function(d, s, id) { var js, fjs = d.getElementsByTagName(s)[0]; if (d.getElementById(id)) return; js = d.createElement(s); js.id = id; js.src = "//connect.facebook.net/th_TH/all.js#xfbml=1"; fjs.parentNode.insertBefore(js, fjs);}(document, 'script', 'facebook-jssdk'));</script><fb:like href="http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrshort.aspx?NewsID=9550000127393" send="true" width="450" show_faces="false"></fb:like>--></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> นศ.มอส.แจ้งขอโอนย้ายที่เรียนกว่า 4 พันคนแล้ว “กำจร” ยังห่วง นศ.คณะบริหารธุรกิจ เหตุมีรายชื่อแจ้งย้ายเรียนต่อเพียง 200 คน จากจำนวนกว่า 1 พันคน พร้อมจ่ายเช็คเงินล่วงหน้าอาจารย์ 252 คน 16 ล้านบาท โดยมีเงื่อนไขห้ามก่อกวนการทำงาน

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500><TBODY><TR><TD vAlign=top width=500 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> รศ.นพ.กำจร ตติยกวี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (รองเลขาธิการ กกอ.) ในฐานะกรรมการควบคุมมหาวิทยาลัยอีสาน (มอส.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะอนุกรรมการเตรียมการดำเนินงานหลังเพิกถอนใบอนุญาต มอส.ที่มี รศ.ดร.อานนท์ เที่ยงตรง ประธานสภาวิชาการ มอส.เป็นประธานนั้น รศ.ชูชาติ อารีจิตรานุสรณ์ อธิการบดี มอส. ได้รายงานต่อที่ประชุมถึงจำนวนนักศึกษาที่ได้กรอกแบบฟอร์มยืนยันความประสงค์ต้องการหรือไม่ต้องการโอนย้าย หรือเข้าศึกษาต่อในสถานศึกษาอื่น ซึ่งขณะนี้มียอดรวมมากกว่า 4 พันคนแล้ว จากจำนวนนักศึกษาทั้งระดับปริญญาตรี และปริญญาโทกว่า 8,000 คน โดยมหาวิทยาลัยจะนำรายชื่อนักศึกษาที่แจ้งข้อมูลทั้งหมดขึ้นเว็บไซต์ www.esu.ac.th เพื่อให้นักศึกษาตรวจสอบ หากนักศึกษาคนใดที่ได้แสดงความจำนงแล้ว แต่ไม่มีรายชื่อ สามารถแจ้งรายชื่อเพื่อแสดงความจำนงใหม่ได้โดยตรงที่สำนักงานอธิการบดี มอส.จนถึงวันที่20 ต.ค.นี้ เพราะมีข้อมูลว่าบางคณะยังไม่ส่งรายชื่อนักศึกษาที่ได้แจ้งความประสงค์ไว้มายังมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะคณะบริหารธุรกิจ ซึ่งมีจำนวนนักศึกษามากกว่า 1,000 คน แต่กลับมีรายชื่อนักศึกษาที่แจ้งความจำนงไว้เพียง 200 คนเท่านั้น

“ยังมีข้อมูลด้วยว่า นักศึกษาของคณะบริหารธุรกิจจำนวนหนึ่ง ได้จบการศึกษาแล้ว แต่ทางคณบดียังไม่ส่งเรื่องเพื่อดำเนินการขอสำเร็จการศึกษามายังมหาวิทยาลัย ในขณะที่การดำเนินการขออนุมัติปริญญาตามขั้นตอนต่างๆ จะต้องแล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อให้ทันก่อนที่มหาวิทยาลัยจะถูกเพิกถอนใบอนุญาต โดยคณะกรรมการควบคุมฯ ทำหน้าที่สภามหาวิทยาลัยจะมีการประชุมเพื่ออนุมัติสำเร็จการศึกษาให้แก่นักศึกษาอีกครั้ง วันที่ 30 ต.ค.นี้ ดังนั้น จึงเป็นห่วงว่านักศึกษากลุ่มนี้จะมีปัญหาในเรื่องการขอจบ” รศ.นพ.กำจร กล่าวและว่า สำหรับคณะพยาบาลศาสตร์ มอส.ซึ่งมีความประสงค์จะโอนย้ายนักศึกษาและคณาจารย์ทั้งคณะ ไปยังมหาวิทยาลัยแห่งอื่นนั้น ขณะนี้กำลังประสานขอความเห็นจากสภาการพยาบาลว่าสามารถทำได้หรือไม่ โดยความคืบหน้าทั้งหมดจะนำเข้าที่ประชุมคณะอนุกรรมการฯ ครั้งต่อไปในสัปดาห์หน้า

รศ.นพ.กำจร กล่าวต่อว่า สำหรับสถานศึกษาที่นักศึกษาแสดงความจำนงจะย้ายไปศึกษาต่อนั้น ขณะนี้มีจำนวนประมาณ 30 แห่ง ซึ่งประธานคณะอนุกรรมการจะทำหนังสือไปยังมหาวิทยาลัยเพื่อสอบถามรายละเอียดการขอโอนย้าย โดยเบื้องต้นจะแจ้งโอนย้ายนักศึกษาพร้อมหน่วยกิตที่ได้ศึกษาไปแล้ว ซึ่งจะได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับการตอบรับจากมหาวิทยาลัยแต่ละแห่ง อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้อนุมัติให้อธิการบดี มอส.สั่งจ่ายเช็คล่วงหน้าเป็นเงินชดเชยแก่คณาจารย์และบุคลากรของ มอส.252 คน ตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัย รวมจำนวนเงินประมาณ 16 ล้านบาท โดยมีข้อแม้ว่าบุคคลเหล่านี้จะต้องไม่มีส่วนร่วมในการขัดขวางการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยก่อนถูกเพิกถอนในวันที่ 31 ตุลาคม 2555

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

อุตุเผยเหนือ,อีสาน, กลาง,ตอ.เย็นลง2 องศา-ใต้ตกกระจาย

วันพฤหัสบดีที่ 18 ตุลาคม พ.ศ.2555 6:39น.



กรมอุตุฯ เผย ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีอากาศเย็นลง อุณหภูมิลด 1-2 องศาเซลเซียส ส่วนกรุงเทพฯและปริมณฑล มีบางตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่

ลักษณะอากาศทั่วไป เมื่อเวลา 04:00 น. วันนี้ บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีน ได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกมีอากาศเย็นลง โดยอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส และมีฝนลดลงในระยะนี้ สำหรับลมตะวันออกที่พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคใต้ เริ่มมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่ง

พยากรณ์อากาศ สำหรับกรุงเทพฯและปริมณฑล ตั้งแต่เวลา 06:00 น.วันนี้ - 06:00 น.วันพรุ่งนี้ มีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ช.ม.

B5 - War Room Falkman

 

--H แผ่ลงมาเรื่อยๆ เช้านี้ท้องฟ้าใสปลอดโปร่ง อากาศเย็นสบายจริงๆ--


B5 - War Room Falkman

 

น่านหนาวเย็นผู้ป่วยทะลักวันละกว่า300 ราย

วันพฤหัสบดีที่ 18 ตุลาคม 2555 เวลา 09:16 น.

http://www.dailynews.co.th/thailand/161640


<!-- /.images-list-items -->
<!-- /.images-list-items -->
<!-- /.images-list-items -->
<!-- /.images-list-container -->
<!-- /.images-list-wrapper -->เมืองน่านอากาศหนาวเย็น อุณหภูมิลดลงต่อเนื่อง แพทย์เตือนประชาชนรักษาสุขภาพหลังมีผู้ป่วยรักษาตัวถึงวันละ 300 รายโดยเฉพาะเด็กเล็กและผู้สูงอายุ

<!-- /.content -->
<!-- /.content -->
<!-- /.content --><!-- /#featured-caption -->วันนี้ (18 ต.ค.) สภาพอากาศในจ.น่าน อุณหภูมิลดลงอย่างต่อเนื่อง เหลือ 21 องศาเซลเซียส ส่งผลให้มีหมอกหนาตามถนนสายต่าง โดยเฉพาะบนยอดดอยและหมู่บ้านชนบท ส่งผลกระทบต่อประชาชนเริ่มเจ็บป่วยจากสภาพอากาศ โดยเฉพาะเด็กเล็ก ผู้สูงอายุและผู้มีปัญหเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจเข้ารับการรักษายังสถานพยาบาลเพิ่มมากขึ้นวันละกว่า 300 ราย

นายพิศิฐ ศรีประเสริฐ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดน่าน เปิดเผยว่า จ.น่านมีอากาศหนาวเย็นมาก เนื่องจากเป็นพื้นที่ป่าเขา ขอเตือนประชาชนรักษาสุขภาพร่างกายให้อบอุ่นโดยเฉพาะเด็กเล็กและผู้สูงอายุควรได้รับการเอาใจใส่ดูแลอย่างใกล้ชิดเป็นพิเศษ เนื่องจากมีภูมิคุ้มกันต่ำ ขณะนี้มีผู้ป่วยเป็นเด็กเล็กและผู้สูงอายุเข้ารับการรักษาพยาบาลทั้งที่รพ.และคลินิคต่างๆเฉลี่ยวันละกว่า 300 รายแล้ว โดยเฉพาะเด็กเล็กป่วยด้วยโรคไข้หวัดแล้ว ยังมีโรคท้องร่วง โรคหัด โรคอีสุกอีใสด้วย

ทั้งนี้ประชาชนหมั่นออกกำลังกายให้เหมาะสม รับประทานอาหารมีประโยชน์ หากมีอาการป่วยให้รีบพบแพทย์ทันที หากไอหรือจามควรมีผ้าปิดปาก ผู้ป่วยควรสวมหน้ากากอนามัยหากออกนอกบ้านหรือไปในที่มีผู้คนจำนวนมาก

นอกจากนั้นการจุดไฟผิงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษอาจเกิดอุบัติเหตุไฟไหม้ได้ และที่สำคัญไม่ควรก่อไฟในบ้านเรือน หรือที่อับและควรหลีกเลี่ยงการสูดควันไฟเข้าไปจะเป็นอันตรายต่อร่างกายอาจเสียชีวิตได้ทันที.

B5 - War Room Falkman

 

ตากหนาวแล้วนักท่องเที่ยวแห่ชมทะเลหมอก

วันพฤหัสบดีที่ 18 ตุลาคม พ.ศ.2555 10:34น.



นักท่องเที่ยวแห่ขึ้นชมทะเลหมอก อุทยานแห่งชาติแม่เมย หลังอากาศเริ่มหนาว มีหมอกตอนเช้า ขณะที่สัตว์เริ่มไม่กินอาหาร

บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีน ได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ของประเทศไทย และทะเลจีนใต้แล้ว ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีอุณหภูมิลดลง 1 - 2 องศาเซลเซียล ส่วนภาคเหนืออากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณ จ.ตาก แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา และ น่าน โดยอุณหภูมิจะลดลงในระยะต่อไป

ในขณะที่ประชาชนจำนวนมากเริ่มไปกางเต็นท์เพื่อชมทะเลหมอกที่อุทยานแห่งชาติแม่เมย ตั้งอยู่ที่ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นหมู่บ้านชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงมีฐานะยากจน ราษฎรขาดแคลนเครื่องนุ่งห่ม ช่วงเช้าๆ ชาวบ้าน เด็กเล็ก และคนชรา ต่างต้องออกมานั่งรับไออุ่นจากแสงแดด บางส่วนก็ต้องก่อไฟผิงเพื่อไล่ความหนาวเย็น นอกจากนี้สัตว์เลี้ยง อาทิ สุนัข โค กระบือ ต่างหนาวจนซูบผอม เพราะไม่ยอมกินอาหาร เจ้าของต้องก่อไฟไล่ความหนาวเย็น



B5 - War Room Falkman

 

นักวิทย์ค้นพบใหม่ "ดาวเคราะห์นอกระบบ"ขนาดเท่าโลก อยู่ใกล้ระบบสุริยจักรวาลมากสุด

วันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 09:00:04 น

นักดาราศาสตร์ได้ค้นพบดาวเคราะห์ที่อยู่ใกล้ที่สุดนอกระบบสุริยจักรวาลที่โคจรในระยะใกล้รอบดาวฤกษ์ อัลฟา เซนทอรี บี ที่อยู่ห่างออกไปเพียง 4 ล้านปีแสง

​

ผลวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารเนเจอร์ ระบุว่า ดาวเคราะห์ดังกล่าว มีขนาดมวลใกล้เคียงกับโลก แต่มีสภาพไม่เอื้อต่อการยังชีพของสิ่งมีชีวิต เพราะตั้งอยู่ใกล้กับดาวฤกษ์ศูนย์กลางมากเกินไป ทำให้มีอุณหภูมิที่พื้นผิวสูงมาก

ดาวเคราะห์ดวงนี้โคจรในระยะใกล้รอบดาวฤกษ์ อัลฟา เซนทอรี บี ซึ่งเป็นหนึ่งในระบบสุริยะที่มีดาวฤกษ์ 3 ดวง ได้แก่ดาวอัลฟา เซนทอรี บี, ดาวอัลฟา เซนทอรี เอ ซึ่งเป็นดาวฤกษ์ที่มีคล้ายกับดวงอาทิตย์ ส่วนดาวฤกษ์ดวงที่สามนั้นอยู่ห่างออกไป และมีอุณหภูมิต่ำกว่า มีชื่อว่า พร็อกซิมา เซนทอรี

โดยอยู่ห่างจากโลกแค่ 4.3 ปีแสง ขณะที่ดาวฤกษ์ที่อยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุดคือดาวพร็อกซิมา เซ็นทอรี

นักวิทยาศาสตร์ตรวจพบดาวเคราะห์ดังกล่าวด้วยการสังเกตอาการส่ายเล็กน้อยของดาวฤกษ์ ซึ่งเป็นผลจากแรงโน้มถ่วงของดาวเคราะห์ที่โคจรผ่านหน้าดาวฤกษ์เมื่อมองจากโลก อุปกรณ์ที่เรียกว่า ฮาร์ปส์ (Harps) ที่หอดูดาวยูโรเปียน เซาเทิร์น ที่เมืองลาวิลลา ประเทศชิลี นั่นทำให้ดาวเคราะห์ดังกล่าวเป็นดาวที่อยู่ใกล้โลกมากกว่าดาวเคราะห์นอกระบบที่มีการยืนยันการค้นพบมากกว่า840 ดวง

จากการวัดระยะทางอย่างระมัดระวังเป็นเวลานาน 4 ปี แสดงให้เห็นว่า ดาวเคราะห์ดังกล่าวส่ายไปมารอบดาวฤกษ์อัลฟา เซ็นทอรี บี โดยใช้เวลาเพียง 3.6 วัน และคาดว่ามีอุณหภูมิที่พื้นผิวราว 1,200 องศาเซลเซียส

การโคจรผ่านหน้าของดาวเคราะห์ดวงนี้ ทำให้ดาวฤกษ์ อัลฟา เซนทอรี บี เคลื่อนตัวเดินหน้าและถอยหลังเมื่อมองจากโลก ด้วยความเร็ว 2 ก.ม./ช.ม. หรือเท่ากับการคลานของเด็กทารก

นักวิทย์ค้นพบใหม่ "ดาวเคราะห์นอกระบบ"ขนาดเท่าโลก อยู่ใกล้ระบบสุริยจักรวาลมากสุด : มติชนออนไลน์=

B5 - War Room Falkman

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ชาวบ้านผวา งูเป็นร้อยทยอยข้ามถนนหลวง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>18 ตุลาคม 2555 10:05 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=416><TBODY><TR><TD vAlign=top width=416 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>งูกว่า 100 ตัวพร้อมใจกันทยอยข้ามถนนหลวงซึ่งเชื่อมระหว่างเมืองจิ่วไถและอำเภอหย่งจี๋ ในมณฑลจี๋หลิน (ภาพ-เอเยนซี่) </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>เฟิ่งหวง—เกิดปรากฎการณ์งูเป็นร้อยพากันข้ามถนนพร้อมกันบนถนนทางหลวงแห่งหนึ่งในมณฑลจี๋หลิน ผู้เชี่ยวชาญเผย เป็นการหาที่หลบหนาวของงูตามปกติ

สื่อออนไลน์ท้องถิ่นรายงาน เมื่อวันที่ 14 ต.ค.พื้นที่รอยต่อระหว่างเมืองจิ่วไถและอำเภอหย่งจี๋ ในมณฑลจี๋หลิน บนทางหลวงขึ้นภูเขาแห่งหนึ่ง เกิดปรากฎการณ์ฝูงงูพากันแห่ข้ามถนน ประมาณการณ์ด้วยสายตามีงูต่างชนิดต่างชนิดกว่า 100 ตัว

ชาวบ้านคนหนึ่งเล่าว่า ช่วงเช้าเมื่อหลายวันก่อน ถนนหลวงเส้นนี้เต็มไปด้วยงู ในระยะทางยาวราว 100 เมตรเห็นจะได้ โดยมีอย่างต่ำ 60-70 ตัว ตัวใหญ่สุดยาวกว่า 2 เมตร เล็กสุดยาวราว 60 ซม.

โดยถนนหลวงดังกล่าวเป็นถนนหลักจากเมืองหลวงฉางชุนไปยังเมืองอื่นๆในมณฑลจี๋หลิน ในแต่ละวันจึงมีรถผ่านไปมามากมาย ชาวบ้านเล่าต่อว่า คนขับรถพอเห็นงูมากมายขวางทางอยู่บนถนน ต่างก็หยุดรถเพื่อให้งูข้ามไปก่อน แต่ก็ยังมีงูบางตัวที่ถูกรถทับตาย

เหตุการณ์ฝูงงูข้ามถนนปรากฎขึ้นไม่บ่อยนัก ชาวบ้านในละแวกนั้นจึงรู้สึกประหลาดใจระคนหวาดกลัว หลายคนบอกว่า หลายปีแล้วที่ไม่ได้เห็นงูมารวมตัวกันมากมายขนาดนี้

ต่อคำถามที่ว่า ฝูงงูพากันข้ามถนนพร้อมกันโดยมิได้นัดหมายนี้ หมายถึงอาเพศหรือลางบอกเหตุทางภัยพิบัติใดๆที่จะเกิดขึ้นกับมนุษย์หรือไม่นั้น ผู้เชี่ยวชาญจากสมาคมผู้อนุรักษ์สัตว์ป่าท้องถิ่นของเมืองจี๋หลินท่านหนึ่งบอกว่า งูเหล่านี้เป็นงูไม่มีพิษชนิดที่พบบ่อยในเขตจี๋หลิน ตัวใหญ่หน่อยคือ งูทางมะพร้าวน้ำตาลดำ งูกินทากจุดดำ งูก้นกบ ฯ

แล้วเหตุผลใดที่ทำให้งูเหล่านี้โผล่ออกมาพร้อมกัน และเลื้อยออกไปในที่เดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญเผย ฝูงงูที่พากันเลื้อยออกมาในฤดูกาลนี้ เป็นเพราะมันต้องการเสาะหาพื้นที่หลบหนาว ดังนั้นหากพบปรากฎการณ์นี้ก็ไม่ต้องตกใจกลัว และมิใช่ลางบอกเหตุใดๆ


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=407><TBODY><TR><TD vAlign=top width=407 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>งูชนิดต่างๆที่เลื้อยออกมาหาที่หลบหนาว (ภาพ-เอเยนซี่)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500><TBODY><TR><TD vAlign=top width=500 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ผู้เชี่ยวชาญบอกว่างูที่พากันเลื้อยออกมากว่า 100 ตัวเหล่านี้ไม่มีพิษ (ภาพ-เอเยนซี่)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500><TBODY><TR><TD vAlign=top width=500 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ลุงคนหนึ่งพยายามช่วยไม่ให้งูถูกรถทับ (ภาพ-เอเยนซี่)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
B5 - War Room Falkman


</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

Kilauea Volcano lava lake reaches highest level ever

เผยภาพธารลาวาภูเขาไฟ 'กิโลเว' บนเกาะฮาวายสหรัฐปะทุ แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เกิดระเบิดในปี 2008 ปีมา




October 18, 2012 – HAWAII – Kilauea Volcano has been putting on quite a show lately… as the lava lake within the Halemaumau Crater has reached its highest level since the summit eruption began in 2008.

The lava lake at Kīlauea’s summit was only about 150 feet below the floor of Halemaʻumaʻu crater on Sunday — the highest it has reached, according to the scientists of the USGS Hawaiian Volcano Observatory. For the past several months, lava within the summit vent has been slowly rising. As of October 5, 2012, lava reached a level that covered the previous high-lava “bathtub” ring within the vent. It was around this time that the bangs and booms of the volcano began to be heard as far away as the Jaggar Museum Overlook in Hawai`i Volcanoes National Park, thrilling crowds day and night. This video shows the heat from the high lava lake level in the overlook vent, causing the walls of the vent above the lava surface to expand and fracture.

Scientists say this is the source of the cracking and booming noises emanating from the vent in recent days. Here, we see small fragments of rock exploding from the wall and scattering onto the lake surface. The HVO says the rise in lava level within the vent is associated with a modest uplift and expansion of Kilauea’s summit area. The root cause for this expansion isn’t clear. Scientists don’t believe there’s an increase in magma supply from below. They do believe there could be a connection in the volcanic plumbing system between the summit magma reservoir and the active Pu`u `O`o eruptive vent on Kilauea’s east rift zone. On at least three occasions between March and September 2011, the level of the lava lake within the summit vent was unusually elevated. This condition caused increased pressure within the east rift plumbing system, resulting in notable eruptive outbreaks: the short-lived Kamoamoa fissure eruption just uprift of Pu`u `O`o and two subsequent events in which Pu`u `O`o was split open along its flanks. This time, however, it appears that the associated high summit pressure has not significantly transmitted down the volcano’s east rift. The lava level within Pu`u `O`o crater, while elevated, is not extraordinarily so. And even though lava is flowing through a tube near the base of the Pu`u `O`o cone, flows haven’t reached the ocean in nearly a year. According to the HVO, a steady decrease in Kilauea’s east rift zone gas emissions since August 2012 also suggests a decrease in magma flow between the summit and east rift zone. Scientists say one possible outcome of continued summit expansion and lava level rise could be an eventual outpouring of lava on the floor of Halema`uma`u Crater. Alternatively, the increased pressure might overcome the apparent constriction, resulting in an outbreak somewhere between the summit and Pu`u `O`o, akin to the March 2011 Kamoamoa fissure eruption. –Big Island News

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=qecKGkUOaKc&feature=player_embedded"]Kilauea Volcano lava lake reaches highest level - YouTube[/ame]

B5 - War Room Falkman

 

<iframe width="640" height="360" src="http://www.youtube.com/embed/zjyrIzVvckU" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>


<iframe width="640" height="360" src="http://www.youtube.com/embed/Br-2X9Z5UR8" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=1 width=500><TBODY><TR vAlign=top><TD> </TD><TD> </TD></TR><TR vAlign=center bgColor=#eeeeee><TD width=94>

กลุ่มเมฆที่ 1 : ​

</TD><TD> กลุ่มเมฆชั้นต่ำปกคลุมภาคเหนือ ไม่มีฝน</TD></TR><TR vAlign=center bgColor=#eeeeee><TD width=94>

กลุ่มเมฆที่ 2 : ​

</TD><TD> กลุ่มเมฆชั้นต่ำปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ไม่มีฝน</TD></TR><TR vAlign=center bgColor=#eeeeee><TD width=94>

กลุ่มเมฆที่ 3 : ​

</TD><TD> ภาคกลาง ท้องฟ้าโปร่งเป็นส่วนมาก ไม่มีฝน</TD></TR><TR vAlign=center bgColor=#eeeeee><TD width=94>

กลุ่มเมฆที่ 4 : ​

</TD><TD> กลุ่มเมฆชั้นต่ำปกคลุมภาคตะวันออก ไม่มีฝน</TD></TR><TR vAlign=center bgColor=#eeeeee><TD width=94>

กลุ่มเมฆที่ 5 : ​

</TD><TD> กลุ่มเมฆฝนปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทย เนื่องจากอิทธิพลลมตะวันออกพัดนำความชื้นจาก</TD></TR></TBODY></TABLE>


B5 - War Room Falkman

 

ไต้ฝุ่นพระพิรุณ เริ่มเล่นงานญี่ปุ่น

วันพฤหัสบดีที่ 18 ตุลาคม พ.ศ.2555 13:29น.



ไต้ฝุ่นพระพิรุณ เริ่มสร้างความความเสียหายให้กับญี่ปุ่นแล้ว ในช่วงเช้าที่ผ่านมา

สถานีโทรทัศน์ เอ็นเอชเค รายงานว่า ศูนย์อุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น คาดว่า พายุไต้ฝุ่นพระพิรุณ ได้เคลื่อนตัวไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งแต่วันนี้จนถึงพรุ่งนี้ พร้อมเตือนว่า จะมีฝนตกหนัก และลมกระโชกแรงบนเกาะฮอนชู
ขณะที่ สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน ระบุ เกิดกระแสลมแรงส่งผลกระทบหลายเกาะทางตอนใต้ของญี่ปุ่น ทำให้ไฟฟ้าดับ หลังจาก ไต้ฝุ่นพระพิรุณ เคลื่อนตัวใกล้พื้นที่ดังกล่าวในช่วงเช้าวันนี้

เช่นเดียวกับสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นเอ็นบีซี ที่รายงานว่า ไต้ฝุ่นดังกล่าวเคลื่อนตัวใกล้เกาะอามามิ โอชิมะ ในจังหวัดคาโงะชิมะ ช่วงเช้าตรู่ของวันนี้ สร้างความเสียหายบนเกาะอามามิ และยังทำให้ไฟฟ้าดับ บ้านเรือนประชาชน กว่า 1,200 หลัง ไม่มีไฟฟ้าใช้

B5 - War Room Falkman

 

อุบลฯ-แม่น้ำโขงไหลผ่านเมืองดอกบัวแห้งแล้งหนัก

วันพฤหัสบดี ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555




แม่น้ำโขงที่ไหลผ่านจังหวัดอุบลราชธานี อยู่ในสภาพแห้งขอด เจอแต่โขดหิน และพื้นทราย ชาวบ้านลงไปเดินเล่น ขับรถยนต์ลุยน้ำได้อย่างสบาย ขณะที่ชาวบ้านใน 4 อำเภอ ขาดน้ำดิบใช้ทำน้ำประปา

สถานการณ์ภัยแล้งในจังหวัดอุบลราชธานี เริ่มกระทบชาวบ้านตามริมแม่น้ำโขงมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ 4 อำเภอ ในเขตแนวชายแดนไทย-ลาว ซึ่งมีแม่น้ำโขงกั้นเส้นเขตแดน อยู่ในสภาพแห้งแล้งจนบางพื้นที่เห็นโขดหินขนาดใหญ่โผล่ขึ้นมา และ เห็นท้องทรายขาวทอดยาวไปกลางลำน้ำ ทำให้ชาวบ้านพี่เมืองน้องไทย-ลาว สามารถเดินข้ามไปมาหากันได้อย่างสบาย บางแห่งรถยนต์ยังสามารถลุยลงไปวิ่งในน้ำที่แห้งขอดได้อย่างสบาย

นอกจากนี้ยังส่งผลให้ชาวบ้านใน 4 อำเภอ คือ เขมราฐ โพธิไทร ศรีเมืองใหม่ และ อำเภอโขงเจียม เริ่มประสบปัญหาสูบน้ำดิบไปใช้ผลิตน้ำประปาไม่ได้เต็มที่

ด้านสำนักงานปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้งสำนักงานเทศบาลเขต อบต. และ อำเภอ ต้องระดมเจ้าหน้าที่ต่อท่อสูบน้ำที่ยาวขึ้นกว่าปกติหลายร้อยเมตร พร้อมทั้งรถขุดเจาะน้ำบาดาล เพื่อเร่งหาแหล่งน้ำใต้ดินขึ้นมาใช้แจกจ่ายประชาชนที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ ทั้งนี้หากปัญหาแม่น้ำโขงแล้ง เป็นเช่นนี้อีกยาวนาน อาจจะส่งผลให้ประชาชนทั้ง 4 อำเภอ ต้องออกหาซื้อน้ำดื่มน้ำใช้ และน้ำใช้ในการเกษตร แน่นอน

อุบลฯ-แม่น้ำโขงไหลผ่านเมืองดอกบัวแห้งแล้งหนัก ข่าวต่างประเทศ ข่าวอาชญากรรม ข่าวสังคม ข่าวเศรษฐกิจ ข่าวการเมือง ข่าวด่วน ข่าว ข่าวสด ข่าววันนี้ สลากกินแบ่งรัฐบาล ข่าวดารา ข่าวบันเทิง : ครอบครัวข่าว 3

 

พายุเฮอร์ริเคนพอลอ่อนกำลังลงเป็นดีเปรสชั่น ทำให้เกิดลมแรงในเม็กซิโก

Thu, 18/10/2012 - 10:22



แม้ว่าพายุเฮอร์ริเคนพอล(Paul) จะอ่อนกำลังจากพายุโซนร้อนเป็นพายุดีเปรสชั่นขณะเคลื่อนตัวอยู่นอกชายฝั่งบาฮา แคลิฟอร์เนียของเม็กซิโก แต่ยังคงมีอิทธิพลทำให้เกิดพายุลมแรงในหมู่บ้านประมงริมชายฝั่ง

พายุเฮอร์ริเคนพอลอ่อนกำลังลงเรื่อยๆจากพายุโซนร้อนเป็นพายุดีเปรสชั่นขณะเคลื่อนตัวอยู่นอกชายฝั่งทางตอนใต้ของคาบสมุทรบาฮา แคลิฟอร์เนีย ศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติสหรัฐรายงานว่า พายุเฮอร์ริเคนพอลมีความเร็วลมลดลงเหลือ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าพายุจะเคลื่อนตัวไปตามแนวชายฝั่ง บาฮา แคลิฟอร์เนีย ก่อนพัดออกสู่มหาสมุทรแปซิฟิค

แม้พายุเฮอร์ริเคนพอลจะอ่อนกำลังเป็นพายุดีเปรสชั่นแต่ยังคงมีอิทธิพลทำให้เกิดพายุลมแรงในหมู่บ้านประมงริมชายฝั่ง ส่งผลให้ต้นไม้และเสาไฟฟ้าหักโค่น

พายุเฮอร์ริเคนพอลอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็วขณะเคลื่อนตัวมุ่งหน้าสู่คาบสมุทรบาฮาแคลิฟอร์เนีย ส่งผลให้เกิดฝนตกและน้ำท่วมในบางพื้นที่ทางตอนใต้ของคาบสมุทร แต่สร้างความเสียหายไม่มาก ล่าสุดมีรายงานว่า พายุเฮอร์ริเคนราฟาเอล (Rafael) ซึ่งก่อตัวในมหาสมุทรแอตแลนติกกำลังเคลื่อนตัวมุ่งหน้าสู่แอตแลนติกเหนือหลังพัดกระหน่ำหมู่เกาะเบอร์มิวด้า

http://news.thaipbs.or.th/content/พ...ำลังลงเป็นดีเปรสชั่น-ทำให้เกิดลมแรงในเม็กซิโก