WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย Falkman, 24 เมษายน 2011.

  1. somsweet

    somsweet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    6,138
    ค่าพลัง:
    +9,874
    น้ำทะเลเปลี่ยนสีกระทบชาวประมง

    วันพุธที่ 12 ธันวาคม 2555 เวลา 15:06น.

    [​IMG]

    วันนี้ (12 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ออกสำรวจความเปลี่ยนแปลงของสภาพท้องทะเลตั้งแต่ชายหาดวอนนภา ทะเลบางแสน ไปจนถึงทะเลบริเวณต.อ่างศิลา อ.เมือง จ.ชลบุรี พบว่าน้ำทะเลมีการเปลี่ยนแปลงเป็นสีน้ำตาลเข้ม เนื่องจากการเกิดปรากฎการณ์น้ำทะเลเปลี่ยนสี หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าขี้ปลาวาฬ ซึ่งเป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติอันเกิดจากการเจริญเติบโตและเพิ่มปริมาณอย่างรวดเร็วของแพลงตอนพืช ทำให้น้ำทะเลเปลี่ยนสีไปตามชนิดของแพลงตอนพืชชนิดนั้น ส่งผลให้สัตว์ทะเลต่าง ๆ มีออกซิเจนไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต หรือย้ายแหล่งที่อยู่ กระทบถึงชาวประมงในเขตอ่าวชลบุรีไม่สามารถออกเรือเพื่อทำประมงได้ เพราะสัตว์ทะเลลดน้อยลง บางวันไม่สามารถจับได้เลย ส่วนผู้ประกอบการเลี้ยงหอยแคลง หอยแมลงภู่ก็ประสบปัญหาเช่นกัน เช่น หอยตาย หรือโตไม่ได้ขนาดจนไม่สามารถเก็บมาขายได้ เป็นปัญหาทุกข์ร้อนของชาวประมงอย่างมากในขณะนี้

    นางอรพรรณ สุวรรณพงษ์ อายุ 57 ปี ชาวประมง เล่าว่า ปรากฎการณ์น้ำเปลี่ยนสีดังกล่าวเริ่มมีมาตั้งแต่เมื่อประมาณ 2 เดือนก่อน ที่มีการระบายน้ำจืดจากแม่น้ำบางปะกงลงทะเล แต่ช่วงสัปดาห์นี้ น้ำมีสีแดงเข้มขึ้นจนเห็นได้ชัด มีชาวประมงที่ได้รับผลกระทบตลอดแนวอ่าวชลบุรีไม่ต่ำกว่า 500 ครัวเรือน ผลกระทบที่ได้รับคือไม่มีสัตว์ทะเลให้จับ หอยที่เลี้ยงไว้ตายจนหมด ชาวประมงบางรายถึงกับสิ้นเนื้อประดาตัวต้องกู้หนี้ยืมสินมาใช้จ่าย จึงอยากวิงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยดูแลและแก้ปัญหา

    ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล เพื่อถามถึงปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้น โดยทางสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเลได้ส่งหนังสือชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ปรากฎการณ์น้ำเปลี่ยนสีในครั้งนี้เกิดจากแพลงตอนพืชกลุ่มไดอะตอมเจริญหนาแน่นมากผิดปกติ โดยมีความหนาแน่นของเซลล์ประมาณ 13.9 ล้านเซลล์ต่อลิตร คิดเป็นเกือบ 100 % ของปริมาณเซลล์รวมแพลงก์ตอนพืชทั้งหมด โดยแพลงตอนพืชชนิดนี้ยังไม่เคยมีรายงานว่ามีพิษ โดยปรากฎการณ์ขี้ปลาวาฬดังกล่าวจะมีผลทำให้ออกซิเจนละลายน้ำลดลง เนื่องจากถูกนำไปใช้ในการหายใจของแพลงตอนพืชที่มีปริมาณมาก ส่งผลให้หอยและสัตว์ทะเลตาย และขณะนี้พบว่าสัตว์ทะเลและหอยได้ตายไปแล้วเป็นจำนวนมาก

    ดร.แววตา ทองระอา ผู้ช่วยผู้อำนวยการสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าปรากฎการณ์น้ำทะเลเปลี่ยนสีเกิดจากการชะล้างเอาแร่ธาตุต่าง ๆ และของเสียจากบนฝั่งและปากแม่น้ำไหลลงสู่ทะเล อันเนื่องจากฝนตกหนักในช่วงเวลาที่ผ่านมา แต่จากการตรวจคุณภาพน้ำของทางสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล ยังคบพบว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ


    [​IMG]



    --ถ้าทำให้สัตว์ทะเลตายเยอะเป็นจำนวนมาก ไม่น่าจัดอยู่ในเกณฑ์ปกติแล้วนะ>>ความเห็นส่วนตัว--" :boo:

    B5 - War Room Falkman
     
  2. somsweet

    somsweet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    6,138
    ค่าพลัง:
    +9,874
    เชียงใหม่หนาว!น้ำค้างแข็ง3วันแล้ว

    วันพุธที่ 12 ธันวาคม 2555 เวลา 15:27 น.

    [​IMG]

    เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 12 ธ.ค. 55 ว่าที่ ร.ต.ปรีชา จินต์ธนาวัตน์ พยากรณ์อากาศ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ เปิดเผยว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ประกอบกับกระแสลมตะวันตกในระดับสูงพัดปกคลุมภาคเหนือตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือมีอากาศหนาวเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบ้างพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 16 - 21 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งบางแห่งตามบริเวณยอดดอย อุณหภูมิต่ำสุด 3 - 13 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวนความเร็ว 10 - 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

    อุณหภูมิต่ำสุดเช้าวันนี้วัดได้ 5.5 องศาเซลเซียส ที่สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และวัดได้ 7.5 องศาเซลเซียส ที่ยอดดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ และในระยะนี้ไปจนถึงวันที่ 16 ธ.ค. บริเวณความกดอากาศสูงกาลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุม ประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ อย่างต่อเนื่อง ทำให้บริเวณภาคเหนือมีอากาศหนาวเย็นลง และอุณหภูมิจะลดลงได้ 3-5 องศาเซลเซียส ส่วนผลกระทบต่อการเกษตรนั้น สภาพอากาศจะหนาวเย็นลง เกษตรกรควรเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ร่างกายของตนเองและสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะสัตว์เล็ก เกษตรกรควรเพิ่มดวงไฟในโรงเรือนและทำแผงกาบังลมหนาวให้ด้วย ผู้เลี้ยงปลาควรดูแลให้อาหารน้อยลงกว่าปกติ เนื่องจากอากาศหนาวเย็น ปลาจะกินอาหารได้น้อย อาหารที่เหลือจะทำให้น้ำเน่าเสียได้ ระยะนี้จะมีแสงแดดจัด ผลผลิตของข้าวและพืชไร่ที่เก็บเกี่ยวมาแล้วและเปียกชื้นเนื่องจากฝนในระยะที่ผ่านมา เกษตรกรสามารถนำมาผึ่งแดดเพื่อลดความชื้นในเมล็ด

    ด้านเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง อ.ฝาง เปิดเผยว่า สำหรับอุณหภูมิในวันนี้โดยทั่วไปอยู่ที่ 5.5 องศาเซลเซียส แต่อุณหภูมิบนยอดหญ้าวัดได้ 2.0 องศาเซลเซียส ทำให้เกิดปรากฏการณ์น้ำค้างแข็ง หรือเหมยขาบเกิดขึ้นติดต่อกัน 3 วันแล้ว ทำให้มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามามากขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากต้องการชมความงามของธรรมชาติและดูความงามของน้ำค้างแข็งที่ติดตามยอดหญ้าและใบไม้ ดอกไม้ต่างๆ ขณะนี้ทางสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง เตรียมพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวไว้พร้อมหมดแล้ว เนื่องจากทุกปีจะมีรถขึ้นมาจำนวนมาก ดังนั้นในปีนี้จึงได้มีจัดเตรียมสถานที่จอดรถรองรับนักท่องเที่ยวไว้ พร้อมกับเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวช่วยกันรักษาความสะอาดในพื้นที่ ไม่ทิ้งขยะเรี่ยราด เพื่อช่วยกันรักษาธรรมชาติ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ขณะที่นายธนภัทร พงษ์ภมร ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ เปิดเผยว่า แนวทางด้านการเตรียมความพร้อมป้องกันอากาศหนาวให้กับสัตว์ภายในสวนสัตว์เชียงใหม่นั้น ทางสวนสัตว์ได้มีการนำสปอร์ตไลท์ รวมทั้งกองฝาง และกระสอบป่าน ไปให้กับสัตว์ที่เป็นสัตว์เขตร้อน ไม่ว่าจะเป็น เก้ง กวาง เสือ ช้าง กระทิง ควายป่า ยีราฟ ม้าลาย ลิงอุลังอุตัง ชะนี ส่วนสัตว์เลื้อยคลานก็มีทั้ง งู กิ้งก่าอีกัวน่า และจระเข้ รวมถึงสัตว์ที่อยู่ในแถบโซนร้อนทั้งหมด ซึ่งสัตว์เหล่านี้ก็จะสามารถอยู่ได้ และชื่นชอบในการอาบแสงสปอร์ตไลท์เป็นอย่างมาก ซึ่งจระเข้ จะชอบอาบแดดในตอนเช้า ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องตัดกิ่งไม้ที่บังแดดออก ช่วงกลางคืนจะมีการเปิดสปอร์ตไลท์ให้ และช้างก็เช่นเดียวกัน ตอนเช้าก็ให้ออกมาจากคอกกัก เพื่อมาอาบแดด

    ส่วนช่วงกลางคืนจะมีการเปิดสปอร์ตไลท์ พร้อมกับก่อกองไฟให้ นอกจากนี้ในส่วนของสัตว์ปีก มีการฉีดวัคซีนและพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อตลอด เพื่อป้องกันไข้หวัดนกด้วย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ติดตามดูอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่วยในช่วงระยะนี้ ซึ่งสัตว์ที่อยู่ในโซนหนาวไม่ว่าจะเป็นเพนกวิน แมวน้ำ โคอาล่า และหมีแพนด้า เป็นสัตว์ชื่นชอบอากาศหนาวอยู่แล้ว ถือว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่สบายมากที่สุดที่ได้สัมผัสกับอากาศหนาวที่เป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะหมีแพนด้าได้ออกส่วนจัดแสดงหลังบ้าน ที่เป็นกำแพงเมืองจีนจำลองเพื่อสัมผัสอากาศหนาวเย็นในตอนเช้าด้วย เพื่อเป็นการปรับตัวก่อนจะเข้าสู่เชียงใหม่ สโนว์ โดม หรือโดมหิมะต่อไป.

    [​IMG]

    เชียงใหม่หนาว!น้ำค้างแข็ง3วันแล้ว | เดลินิวส์

    B5 - War Room Falkman
     
  3. zare2021

    zare2021 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +381
    นักวิจัยตื่น!!หมึกยักษ์หลายร้อยตัวเกยตื้นชายหาดสหรัฐฯ(ชมคลิป)

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 13 ธันวาคม 2555 04:22 น.






    เอ็นบีซี/ซีบีเอส - หมึกยักษ์หลายร้อยตัวถูกซัดมาเกยตื้นชายฝั่งแถบซานตาครูซ เคาน์ตี มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ช่วงสุดสัปดาห์ ขณะที่เหล่านักวิทยาศาสตร์กำลังพยายามตรวจสอบถึงต้นตอเหตุการณ์อันน่าพิศวงนี้



    หมึกฮัมโบลด์ขนาดใหญ่หลายร้อยตัว เกยตื้นกระจัดกระจายครอบคลุมชายฝั่งจากแอปตอสถึงวันสันวิลล์เป็นระยะทางกว่า 19 กิโลเมตร และเหล่านักวิทยาศาสตร์ประกาศเตือนประชาชนห้ามสัมผัสหรือลักลอบนำเอาหมึกเหล่านี้ไปปรุงเป็นอาหาร เนื่องจากอาจมีสารพิษที่เป็นอันตรายอยู่ในตัวของพวกมัน

    เหล่านักวิจัย ณ สถานีวิจัยทางทะเลฮอพกินส์ ของมหาวิทยาลัยสแตมฟอร์ด ระบุว่ามีข้อสันนิษฐานอยู่ 2 อย่างต่อสาเหตุการเกยตื้นตามชายฝั่งต่างๆแถบแคลิฟอร์เนียกลางและแคลิฟอร์เนียเหนือ ของเหล่าหมึกความยาวเฉลี่ย 35 เซนติเมตร ซึ่งปกติแล้วมักพบเฉพาะบริเวณน้ำอุ่นใกล้ทะเลคอร์เตซเท่านั้น



    "เรามีอยู่ 2 ทฤษฎี" ฮันนา โรเซน นักศึกษาระดับปริญญา กล่าวว่าข้อแรกคือหมึกเหล่านั้นอาจรุกล้ำเข้ามายังพื้นใหม่ๆ ด้วยหมีกที่พบเกยตื้นตามชายหาดต่างๆรอบๆมอนเตเรย์และซานตาครูซนับตั้งแต่เดือนตุลาคม ส่วนใหญ่เป็นหมึกวัยหนุ่มสาว บางทีพวกมันอาจว่ายตามกระแสน้ำอุ่นและเข้ามาหาอาหารในพื้นที่แถบนี้

    โรเซนบอกต่อว่าในอดีตที่พบเห็นหมึกฮัมโบลด์ ว่ายมายังน่านน้ำแถบนี้นั้น มีความสัมพันธ์กับปรากฎการณ์เอลนีโญ่ และพอพวกมันปรับตัวได้แล้ว การเกยตื้นก็จะลดลงไปเอง



    ส่วนทฤษฎีที่สองก็คือการเกยตื้นครั้งนี้สัมพันธ์กับห่วงโซ่อาหารของหมึก ที่อาจปนเปื้อนเป็นครั้งคราวจากภาวะสาหร่ายเบ่งบาน โดยสาหร่ายทะเลสีแดง มีพิษชนิดหนึ่งซึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อระบบประสาทกลางของหมึกและทำให้พวกมันสับสน

    อย่างไรก็ตามเหล่านักวิทยาศาสตร์จากสถาบันวิจัยแห่งนี้ ได้ทำการเก็บตัวอย่างหมึกเหล่านี้และตรวจสอบถึงสาเหตุของการเกยตื้นครั้งนี้ให้ชัดเจนอีกครั้ง พร้อมตอบข้อสงสัยว่าทำไมพวกมันถึงเข้ามาอยู่ในพื้นที่แถบนี้และทำไมถึงพบเห็นการเกยตื้นอยู่เป็นระยะๆ หลังจากครั้งนี้นับเป็นการเกยตื้นหนที่ 3 แล้วในช่วง 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา
     
  4. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    ลูกไฟสีส้มขนาดใหญ่ ตกลงมาจากฟ้า ทางตะวันตกของสวีเดน (มันคล้ายกับ Armageddon) เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ยังไม่ทราบว่า อะไร หรือเป็นส่วนหนึ่งของฝนดาวตกก็ได้

    Mystery orb crash: 'It was like Armageddon'


    Published: 12 Dec 12 08:28 CET |

    [​IMG]


    Frightened residents in western Sweden reported seeing a bright, blue light racing across the night sky on Tuesday before an orange-coloured orb smashed into the ground in a mysterious phenomenon that has yet to be explained.

    Mystery orb crash: 'It was like Armageddon' - The Local


    EDIS Code: CO-20121212-37506-SWE
    Date&Time: 2012-12-12 18:14:46 [UTC]
    Continent: Europe
    Country: Sweden
    State/Prov.: Multiple areas,
    Location: Varmland County airspace,
    City:
    Not confirmed information!


    Description:
    Frightened residents in western Sweden reported seeing a bright, blue light racing across the night sky on Tuesday before an orange-coloured orb smashed into the ground in a mysterious phenomenon that has yet to be explained. Aviation authorities were quick to rule out initial theories that a plane had crashed somewhere deep in the forests of Varmland County. They, as well as police, suspect the mysterious night light and thunderous blast that prompted a flood of calls from concerned residents may have been caused by a meteorite. "We don't know, but it could have been a part of the meteor shower people have been talking about," duty officer Leif Svensson of the Varmland County police said. The first calls to emergency service SOS came around 10.25pm from Forshaga, a town about 25 kilometres north of Karlstad. More calls came from Stallet, Eksharad and Karlstad, and on Facebook, police in Sunne reported a rumbling reminiscent of an earthquake. "And we've also received information that people on the west coast and even in Finland made observations," Svensson said. Neither police or other authorities have plans to investigate the strange sound and light phenomena.
     
  5. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 06.jpg
      06.jpg
      ขนาดไฟล์:
      787.1 KB
      เปิดดู:
      776
  6. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    ปลาและสัตว์ทะเลหลายร้อยตัวนอนตายที่ชายหาด safty bay ทางตะวันตกของออสเตรเลีย รวมทั้ง ปลา ปู ปลาไหล ฯลฯ

    [​IMG]

    Hundreds of dead fish found on beaches
    13/Dec/2012
    By John Dobson, Weekend Courier

    Under investigation: some of the dead fish found on a Safety Bay beach this week.
    IT could be some time before Fisheries authorities know what killed hundreds of fish and crabs in Safety Bay this week but early indications point to low oxygen levels.

    Hundreds of fish including herring and flounder, blue manner crabs and eels were found dead over several days on the beach near Tern Island and the Bent Street boat ramp.

    Many concerned readers contacted the Courier over the weekend after spotting the dead marine life.

    Department of Fisheries spokesman on fish health Paul Hillier said the department had visited the site several times this week, but had been unable to find suitable samples of fish to test – with most too decayed.

    Mr Hillier said it was too early to confirm what had caused the deaths with water
    samples also being tested.

    “From the reports received and observations of the Fisheries officers, it appears that excess weed in the water system has probably depleted the dissolved oxygen, which may have caused the fish kill,” he said.

    “But the fish health researchers can’t confirm that conclusively until the appropriate testing is completed.”

    Mr Hillier said the public can notify authorities of a fish kill by contacting the nearest Department of Fisheries or Department of Water office or call FishWatch on 1800 815 507.

    Hundreds of dead fish found on beaches - inMyCommunity - Perth, Western Australia
     
  7. นาคา

    นาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,378
    ค่าพลัง:
    +12,917
    เชียงใหม่-ดอยอินทนนท์คึกคัก รอชมฝนดาวตกคืนนี้ (ครอบครัวข่าว 3 )

    วันพฤหัสบดี ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2555
    นักท่องเที่ยวแห่ขึ้นดอยอินทนนท์ เช้านี้ที่ยอดดอย 4.0 องศา คืนนี้หลายคนเตรียมตัวขึ้นมาชมฝนดาวตกเจมินิดส์บนยอดดอยอินทนนท์ ที่สถาบันวิจัยดาราศาสตร์จัดกิจกรรม เปิดฟ้าตามหาดาว

    บรรยากาศการท่องเที่่ยวที่จังหวัดเชียงใหม่ยังคงคึกคัก เพราะสภาพอากาศหนาวต่อเนื่อง ประกอบกับได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ทำให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาจังหวัดเชียงใหม่จำนวนมาก ขณะที่ยอดดอยอินทนนท์ยังเป็นสถานที่่ท่องเที่ยวยอดนิยม มีนักท่องเที่ยวขึ้นมาเที่ยวชมความงามของทิวทัศน์ และสัมผัสอากาศหนาวตั้งแต่เช้ามืด โดยที่จุดชมวิวกิ่วแม่ปาน ก่อนถึงยอดดอยอินทนนท์ ประมาณ 4 กิโลเมตร อุณหภูมิต่ำสุด 4 องศาเซลเซียส ทำให้นักท่องเที่ยวที่ขึ้นมาต้องอาศัยกองไฟที่ทางเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติฯก่อไว้ผิงไฟคลายหนาว ขณะที่หลายคนต้องพึ่งอาหารปิ้งย่าง กาแฟ ข้ามต้ม โจ๊ก เพื่อคลายหนาว ซึ่งเช้านี้นักท่องเที่ยวหลายร้อยคนขึ้นมาชมความสวยงามของพระอาทิตย์ขึ้น และทะเลหมอก ถ่ายภาพกันตั้งแต่เช้าตรู่ แม้ว่าหลายคนจะผิดหวังที่ไม่ได้ชมปรากฏการณ์แม่คะนิ้งเหมือนเมื่อ 2 วันก่อน

    นอกจากนี้นักท่องเที่ยวส่วนหนึ่งตั้งใจจะขึ้นมาพักค้างแรมเพื่อรอชมปรากฏการณ์ฝนดาวตกเจมินิดส์ ซึ่งจะเห็นมากที่สุดในช่วงค่ำคืนนี้ต่อช่วงรุ่งเช้าของวันพรุ่งนี้ เฉลี่ยมากที่สุดประมาณ 120 ดวงต่อชั่วโมง ซึ่งทางสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ได้จัดกิจกรรม "เปิดฟ้า..ตามหาดาว" เชิญชวนนักท่องเที่ยว นักเรียนนักศึกษา ประชาชน และผู้ที่สนใจทางด้านดาราศาสตร์ร่วมชมปรากฏการณ์ฝนดาวตกเจมินิดส์ด้วยกัน ยอดดอยอินทนนท์ถือว่าเป็นจุดที่เหมาะสมที่สุดในการชมปรากฏการณ์นี้ เนื่องจากมีความสูง สภาพท้องฟ้ามืดมิดปราศจากแสงรบกวนจากบ้านเรือนประชาชน อีกทั้งมีสร้างสร้างหอดูดาวแห่งชาติ ซึ่งจะเปิดอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนมกราคมนี้


    สำหรับปรากฏการณ์ฝนดาวตกเจมินิดส์สามารถสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่าทางทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือบริเวณใกล้กับกลุ่มดาวคนคู่ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการกระจายของฝนดาวตกเจมินิดส์ ในคืนวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2555 ตั้งแต่เวลาประมาณ 20.00 น.จนถึงรุ่งเช้าของวันที่ 14 ธ.ค.ด้านนักวิชาการศึกษาท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ กล่าวว่าปรากฎการณ์ฝนดาวตกเจมินิดส์ หรือฝนดาวตกกลุ่มดาวคนคู่ เป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นทุกปีในช่วงเดือนธันวาคม แต่ปีนี้ช่วงวันที่13-14 ธันวาคม จะเหมาะสมสำหรับการรับชม เนื่องจากเป็นช่วงคืนเดือนมืด ไม่มีแสงดวงจันทร์มารบกวน โดยคาดว่าจะเห็นฝนดาวตกเจมินิดส์ได้มากถึง 120 ดวงต่อชั่วโมง โดยเฉพาะช่วงเวลาทั้งเที่ยวงคืนจนถึงตี5 ของวันรุ่งขึ้น ซึ่งนักวิชาการแนะนำว่าควรรับชมในสถานที่ที่ท้องฟ้ามืดสนิท ไม่มีแสงรบกวน หากถ่ายภาพควรใช้กล้องที่มีความไวแสงสูงๆ ตั้งแต่ IOS 1600 ขึ้นไป
    ------------


    สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ เชิญชวนประชาชนชมฝนดาวตกเจมินิดส์ที่จะเห็นได้ชัดในคืนนี้ (13 ธ.ค.) กระทั่งถึงรุ่งสางวันพรุ่งนี้
    ปรากฏการณ์ฝนดาวตกเจมินิดส์ (Geminids Meteor Shower) หรือฝนดาวตกคนคู่ สามารถสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่าทางทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือบริเวณใกล้กับกลุ่มดาวคนคู่ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการกระจายของฝนดาวตกเจมินิดส์ในคืนวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2555 ตั้งแต่เวลาประมาณ 20:00 น. จนถึงรุ่งเช้าของวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2555 ตามเวลาของประเทศไทย โดยในครั้งนี้จะมีอัตราการตกสูงสุดไม่เกิน 120 ดวงต่อชั่วโมง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพท้องฟ้า ซึ่งสามารถชมปรากฏการณ์ได้ด้วยตาเปล่าในทุกพื้นที่ของประเทศไทย (บริเวณที่ท้องฟ้ามืดสนิทและมีทัศนวิสัยท้องฟ้าที่ดีปราศจากเมฆฝน) ทั้งนี้คาดว่าในช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืนจนถึงช่วงเวลารุ่งเช้าของวันที่ 14 ธันวาคม นั้นจะเป็นช่วงที่มีอัตราการตกของดาวเฉลี่ยต่อชั่วโมงมากที่สุด

    เว็บไซต์สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ระบุว่าฝนดาวตกเจมินิดส์ มีศูนย์กลางการกระจายอยู่ระหว่างดาวพอลลักซ์ (Pollux) กับคาสเตอร์ (Caster) ในกลุ่มดาวคนคู่ (Geminids) ซึ่งชื่อของฝนดาวตกนั้นจะถูกตั้งตามชื่อกลุ่มดาวที่เป็นศูนย์กลางการกระจายที่ดาวพุ่งออกมา ในกรณีของฝนดาวตกเจมินิดส์นั้นเกิดขึ้นเมื่อโลกโคจรตัดผ่านสายธารของเศษหินและเศษฝุ่นน้อยใหญ่ที่ดาวเคราะห์น้อยชื่อ 3200 เฟธอน (3200 Phaethon) ทิ้งไว้ในขณะที่เคลื่อนที่ผ่านเข้ามาในระบบสุริยะชั้นในและตัดกับวงโคจรของโลก (เมื่อสังเกตจากโลกขณะที่เคลื่อนที่ผ่านสายธารของเศษหินและเศษฝุ่นดังกล่าว ศูนย์กลางการกระจายตัวของดาวตกจะอยู่บริเวณกลุ่มดาวคนคู่) ทำให้เศษฝุ่นของดาวเคราะห์น้อยเหล่านั้นเสียดสีกับชั้นบรรยากาศของโลก เกิดการเผาไหม้จนเห็นเป็นแสงสว่างวาบคล้ายลูกไฟวิ่งพาดผ่านท้องฟ้า

    ปรากฏการณ์ฝนดาวตกเจมินิดส์ เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนธันวาคมของทุกๆ ปี ในปีนี้ปรากฏการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 4-17 ธันวาคม และจะเป็นปรากฏการณ์ฝนดาวตกชุดสุดท้ายของปี พ.ศ. 2555 นี้ ถือเป็นปรากฏการณ์ฝนดาวตกส่งท้ายปีเก่ากันเลยก็ว่าได้ และในปีนี้นับเป็นโอกาสดีที่จะได้ชมความสวยงามของฝนดาวตกเจมินิดส์อย่างเต็มอิ่ม เนื่องจากเป็นช่วงคืนเดือนมืด ข้างแรม 15 ค่ำ ไม่มีแสงจากดวงจันทร์มารบกวน

    โดยปกติแล้วเราสามารถสังเกตเห็นดาวตกได้ในทุกคืนอยู่แล้ว เพียงแต่มีอัตราเฉลี่ยในการตกของดาวนั้นมีน้อยและที่สำคัญไม่ได้มีศูนย์การกระจายหรือ เรเดียนท์ (radiant) จากจุดเดียวกัน ในทางกลับกันหากสังเกตเห็นดาวตกจำนวนมากและมีจุดศูนย์กลางการกระจาย ณ จุดเดียวกัน เราจะเรียกปรากฏการณ์นี้ว่าฝนดาวตก (Meteor Shower)
     
  8. ภัยพิบัติ

    ภัยพิบัติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +507
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=dRLOoggExVc]ผลกระทบพายุสุริยะ - @TMC - YouTube[/ame]​

    สำนักข่าวไทย 11 ธ.ค.-นักดาราศาสตร์ คาดการณ์ว่าปรากฏการณ์พายุสุริยะจะเกิดถี่ขึ้นตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงกลางปีหน้า แต่ความรุนแรงจะน้อยกว่าปี ค.ศ.2000 ที่รบกวนระบบสื่อสารดาวเทียมทั่วโลก ซึ่งขณะนี้ทุกฝ่ายเตรียมรับมือแล้ว.-สำนักข่าวไทย

    ผลกระทบพายุสุริยะ | MCOT.net
     
  9. ภัยพิบัติ

    ภัยพิบัติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +507
    รู้จัก 3 ผลกระทบของพายุสุริยะ

    [​IMG]

    ลมสุริยะ หรือ Solar Wind คือ กระแสของอนุภาคมีประจุ ที่ดวงอาทิตย์ปล่อยออกมา อนุภาคก็คือของเล็กๆ ที่เป็นองค์ประกอบของสสาร เช่น อิเล็กตรอน และโปรตอน เป็นต้น อนุภาคในลมสุริยะ มีพลังงานอยู่ในช่วง 1,500-10,000 อิเล็กตรอนโวลต์

    ส่วนอีกคำหนึ่งคือ อนุภาคสุริยะพลังงานสูง หรือ Solar Energetic Particle เรียกย่อๆว่า SEP ซึ่งคือ อนุภาคเหมือนกัน แต่มีพลังงานสูงกว่ามาก คืออยู่ในช่วง 10,000-100,000 ล้าน อิเล็กตรอนโวลต์ โดยจะเกิดขึ้นพร้อมกับการลุกจ้า หรือการพ่นมวลโคโรน่า

    ดังนั้นทั้ง 4 คำนี้ คือสาเหตุของพายุสุริยะ มีลมสุริยะ Solar Wind /การลุกจ้า Solar Flare /การพ่นมวลโคโรน่า CME /อนุภาคสุริยะพลังงานสูง SEP แต่สาเหตุทั้ง 4 ตัวนี้ ส่งผลกระทบต่อโลกแตกต่างกัน ตามตารางนี้ ลมสุริยะมีผลกระทบทำให้สนามแม่เหล็กโลกปั่นป่วน แต่มีผลไม่มาก

    การลุกจ้าส่งผลให้สัญญาณวิทยุความถี่สูงถูกรบกวน คือการสื่อสารขัดข้อง การพ่นมวลโคโรน่า มีผลทำให้สนามแม่เหล็กโลกปั่นป่วน มากกว่าลมสุริยะ อาจทำให้เกิดไฟดับได้

    ส่วนอนุภาคสุริยะพลังงานสูง ทำให้เกิดพายุรังสีสุริยะ ทำให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บนดาวเทียมหรือยานอวกาศเสียหาย ถ้าพลังงานสูงกว่า 40 ล้านอิเล็กตรอนโวลต์ เป็นอันตรายต่อนักบินอวกาศได้ และถ้ามากพอก็อาจรบกวนการสื่อสารบนโลกด้วย

    จะเห็นได้ว่า ผลกระทบของพายุสุริยะ มี 3 อย่างด้วยกัน คือ 1.พายุแม่เหล็กโลก อาจเกิดไฟดับ 2.พายุรังสีสุริยะ มีผลต่อดาวเทียม ยานอวกาศ และนักบินอวกาศที่กำลังปฏิบัติงาน และ3. มีผลต่อการขาดหายของสัญญาณวิทยุ แต่อย่าลืมว่าผลกระทบทั้งสามอย่างนี้ เกิดขึ้นจากสาเหตุของพายุสุริยะที่ต่างกัน เพราะมีอยู่ 4 สาเหตุด้วยกัน

    รู้จัก 3 ผลกระทบของพายุสุริยะ | :: ข่าว ไทยพีบีเอส Thai PBS NEWS ::...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ธันวาคม 2012
  10. ภัยพิบัติ

    ภัยพิบัติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +507
    คำทำนายน้ำท่วมโลก

    [​IMG]

    จากกระแสข่าวลือใกล้จะถึงวันสิ้นโลกในอีก 7 วันข้างหน้า โดยเชื่อว่าอาจจะเกิดน้ำท่วมโลก และอาจมีบางส่วนของประเทศไทยจมหายไป แต่นักวิทยาศาสตร์ยืนยันตรงกันว่าไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะน้ำทะเลในมหาสมุทรเพิ่มขึ้น 3 มิลลิเมตรต่อปี จากการละลายของน้ำแข็งขั้วโลกเท่านั้น แม้ขณะนี้ประเทศไทยจะยังไม่จมหายไปตามคำทำนาย แต่ใน 100 ปี กรุงเทพมหานคร มีความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมถาวรได้ เพราะระดับน้ำทะเลในอ่าวไทย สูงขึ้นทุกปีจากภาวะโลกร้อน

    กอร์ดอน ไมเคิล สคัลเลียน นักพยากรณ์ชาวอเมริกัน เป็นผู้มีชื่อเสียงว่าพยากรณ์ได้ภัยพิบัติได้อย่างแม่นยำมาหลายครั้ง 34 ปีก่อน เขาร่างภาพแผนที่โลกใหม่ขึ้น และทำนายว่า ระหว่างปี 2541 ถึง 2555 นี้ จะเกิดน้ำท่วม แผ่นดินไหว และภูเขาไฟระเบิด จนหลายส่วนในหลายประเทศจมหายไปเพราะน้ำท่วมใหญ่

    ประเทศไทยเองเป็นประเทศหนึ่งที่อยู่ในคำพยากรณ์นี้ที่ว่า ภาคใต้ และภาคกลางส่วนใหญ่ จะจมหายไปในทะเล พร้อมๆ กับประเทศเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเชีย จะเหลือเพียงภาคเหนือและภาคอีสานบางส่วนเท่านั้น

    ขณะที่นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกส่วนใหญ่ รวมทั้งองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐ หรือนาซ่ายังคงยืนยันว่าน้ำท่วมโลกถาวรจะยังคงไม่เกิดขึ้นในปีนี้ แต่กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ผู้ศึกษาเรื่องภาวะโลกร้อน และผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เตือนตรงกันว่าเป็นไปได้ที่น้ำจะท่วมโลกในอนาคต ถ้ามนุษย์ยังคงเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างไม่หยุดยั้ง

    ปัจจัยหลักที่จะส่งผลให้น้ำท่วมโลกได้ คือการละลายของน้ำแข็งขั้วโลก ที่ขั้วโลกเหนือ น้ำแข็งละลายเร็วกว่าปกติไปแล้ว 10 ปี แต่ยังคงต้องใช้เวลาหลักหมื่นปี จึงจะละลายทั้งหมด ส่วนขั้วโลกใต้ต้องอาศัยเวลาแสนปีในการละลายจนหมด

    แต่ขณะนี้น้ำแข็งขั้วโลกใต้ส่วนใหญ่ยังคงละลายในเกณฑ์ปกติ ยกเว้นด้านทิศตะวันออกเท่านั้นที่พบว่าเกิดการจับตัวของน้ำแข็งเพิ่มมากขึ้นแม้ในฤดูร้อน นกเพนกวินต้องเดินทางออกไปหากินในทะเลไกลขึ้น จนจำนวนมากต้องเสียชีวิตเพราะเดินทางไกลเกินไป และคาดว่าในอนาคตอาหารทะเลจะขาดแคลนมากยิ่งขึ้นด้วย

    ขณะนี้น้ำแข็งขั้วโลกละลายทำให้ระดับน้ำทะเลในมหาสมุทรเพิ่มสูงขึ้นปีละ 3 มิลลิเมตร แต่ รศ.เสรี ศุภราทิตย์ผู้อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต วิเคราะห์ว่า ภาวะโลกร้อนทำให้ขณะนี้กรุงเทพมหานครอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลเพียง 50 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร แต่ระดับน้ำทะเลในอ่าวไทยสูงขึ้นมากกว่า 1 เซนติเมตรต่อปี ภายใน 100 ปี น้ำทะเลจะสูงขึ้นถึง 1 เมตร 30 เซนติเมตร ซึ่งจะทำให้กรุงเทพมหานครส่วนใหญ่ถูกน้ำท่วมถาวรที่ระดับ 50 เซนติเมตรได้

    http://news.thaipbs.or.th/video/คำทำนายน้ำท่วมโลก
     
  11. ภัยพิบัติ

    ภัยพิบัติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +507
    วันสิ้นโลกแกนโลกพลิกขั้ว

    [​IMG]

    หนึ่งในกระแสข่าวลือเกี่ยวกับวันสิ้นโลกที่มีการพูดถึงค่อนข้างมากคือ แกนโลกจะพลิกกลับขั้ว จากขั้วโลกเหนือมาขั้วโลกใต้ ซึ่งนักวิชาการยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ อีกกระแสที่สร้างความสับสนค่อนข้างมากคือสนามแม่เหล็กโลกพลิกกลับขั้ว อาจจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ มีผลทำให้เกิดภัยพิบัติรุนแรง แต่จากข้อมูลทางฟิสิกส์ ระบุว่า แกนแม่เหล็กโลกพลิกกลับขั้ว จะไม่เกิดขึ้นเร็วๆ นี้ และไม่มีผลทำให้เกิดภัยพิบัติอย่างแน่นอน

    สนามแม่เหล็กโลกพลิกกลับขั้วเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วหลายครั้งในหลายร้อยล้านปีที่ผ่านมา ครั้งล่าสุด เกิดขึ้นเมื่อ 1 ล้านปีก่อน และจากข้อมูลทางธรณีวิทยาพบว่า โดยเฉลี่ยแล้ว สนามแม่เหล็กโลกจะพลิกกลับขั้วทุกๆ 250,000 - 300,000 ปี

    สนามแม่เหล็กโลกเกิดจากโลหะเหลวที่อยู่ในใจกลางโลก หมุนวนเกิดเป็นกระแสไฟฟ้า จนกลายเป็นสนามแม่เหล็ก ที่มีขั้วแม่เหล็กเหนือ และขั้วแม่เหล็กใต้ อยู่ใกล้บริเวณขั้วโลกเหนือ และขั้วโลกใต้ แต่ไม่ได้ซ้อนทับกัน สนามแม่เหล็กนี้ป้องกันโลกจากรังสี และอนุภาคต่างๆ จากอวกาศ ขั้วแม่เหล็กทั้ง 2 ขั้ว เคลื่อนตัวอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเมื่อจะกลับขั้วต้องใช้เวลาหลายหมื่นถึงหลายแสนปี ระหว่างที่สนามแม่เหล็กกำลังเคลื่อนตัวก่อนที่จะพลิกกลับขั้ว ทำให้ความเข้มข้นของสนามแม่เหล็กลดลง และไม่มีระเบียบ จึงเกิดข่าวลือว่าช่วงที่อ่อนกำลังลงจะทำให้โลกได้รับอันตราย

    สธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของสนามแม่เหล็ก เราติดตามตลอด ตอนนี้สนามแม่เหล็กมีกำลังสูงพอสมควร ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นในวัน 2 วัน

    กระแสข่าวลือยังอ้างว่าเมื่อสนามแม่เหล็กโลกพลิกกลับขั้ว จะเกิดผลกระทบครั้งใหญ่ เช่น เปลือกโลกจะเคลื่อนตัวทำให้เกิดแผ่นดินไหว สึนามิ ภูเขาไฟระเบิด เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ โลกร้อนขึ้น สัตว์สูญพันธุ์ และภูมิคุ้มกันในร่างกายสิ่งมีชีวิตบนโลกจะอ่อนแอลง แต่จากข้อมูลทางธรณีวิทยาที่ศึกษาในช่วงที่แกนแม่เหล็กพลิกกลับขั้วในอดีตพบว่าไม่เคยส่งผลเช่นนั้น จะมีเพียงทิศในเข็มทิศสลับกัน จากเดิมชี้ไปทางทิศเหนือ จะเปลี่ยนเป็นทิศใต้

    แต่ยังมีอีกกระแสข่าวที่เกรงกันว่าแกนโลกจะพลิกกลับขั้วจากขั้วโลกเหนือไปอยู่ขั้วโลกใต้ ขณะที่นักฟิสิกส์เชื่อมั่นว่าเป็นไปไม่ได้ที่ขั้วโลกจะพลิกกลับขั้ว เพราะต้องใช้แรงมหาศาล การที่สนามแม่เหล็กโลกกลับขั้ว ไม่ได้หมายความว่าโลกจะพลิกกลับ จะมีผลต่ออุปกรณ์ที่อาศัยแม่เหล็ก เช่น เข็มทิศ และรังสีที่เข้ามามากขึ้นในช่วงที่สนามแม่เหล็กอ่อนกำลัง อาจเสี่ยงที่จะทำให้เป็นมะเร็งผิวหนังเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ยังน้อยกว่าความเสี่ยงจากอุบัติเหตุทางถนน

    http://news.thaipbs.or.th/video/วันสิ้นโลกแกนโลกพลิกขั้ว
     
  12. ภัยพิบัติ

    ภัยพิบัติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +507
    ประเมินความเสี่ยงไทยเกิดสึนามิ

    [​IMG]

    หลังจากที่การค้นพบข้อมูลว่าปฏิทินของชนเผ่าชาวมายาที่มีอายุเก่าแก่กว่า 5,000 ปี ที่จะมีวันสิ้นสุดปฏิทินในวันที่ 21 ธันวาคม ปีนี้ จึงทำให้เกิดกระแสข่าวว่าอาจเป็นวันสิ้นโลกตามปฏิทินมายา ซึ่งจะทำให้ทั่วโลกเกิดภัยพิบัติครั้งรุนแรง จนนักวิชาการด้านภัยพิบัติต่างประเทศ รวมทั้งประเทศไทย บางกลุ่มออกมาเตือนว่าอาจจะเกิดสึนามิครั้งรุนแรงในประเทศไทย และในภูมิภาคนี้ได้อีกครั้ง ล่าสุด ผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวจากประเทศญี่ปุ่นเพิ่งจะเปิดเผยถึงความเป็นไปได้ ที่โลกอาจเผชิญกับเหตุการณ์สึนามิรุนแรง โดยอาจจะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงถึง 10 ริกเตอร์ ซึ่งจะทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิต่อเนื่องนานหลายวันในมหาสมุทรแปซิฟิกเหนือ

    เหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิพัดถล่ม 6 จังหวัด ภาคใต้ แถบชายฝั่งทะเลอันดามัน ในวันที่ 26 ธันวาคมปี 2547 คือภัยพิบัติครั้งใหญ่ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 5,400 คน สูญหายกว่า 3,000 คน แม้จะผ่านมา 8 ปีแล้ว แต่ยังมีนักวิชาการหลายคนเคยออกมาเตือนว่าอาจจะเกิดคลื่นยักษ์สึนามิครั้งรุนแรงขึ้นอีกในช่วงปลายปี 2553 บริเวณชายฝั่งอ่าวไทย และทะเลอันดามัน แต่ยังไม่เคยเกิดขึ้นจริง

    ล่าสุด วันที่ 11 เมษายน 2555 เกิดแผ่นดินไหว ที่เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย วัดความสั่นสะเทือนได้ 8.6 ริกเตอร์ ส่งผลให้ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติประกาศเตือนพร้อมเฝ้าระวังการเกิดสึนามิพัดถล่ม 6 จังหวัดภาคใต้ของไทย แต่ข้อมูลที่ชาวบ้านได้รับในช่วงภาวะวิกฤตกลับสร้างความสับสนในการอพยพ

    ไมตรี จงไกรจักร ประธานศูนย์เตือนภัยพิบัติบ้านน้ำเค็ม จ.พังงา กล่าวว่า ในวันนั้นเนื่องจากว่ามันมีอุปสรรค ผมว่ามันเป็นช่องว่างในการประสานงานผมว่าเกิดการดูแลรอยต่อตรงนี้มันหายไป หลังจากนั้นเราก็ได้มีการปรึกษาหารือกันว่า ในอนาคตต้องเป็นบทบาทหน้าที่ชัดเจนของท้องถิ่นที่จะต้องดูแลคนเมื่ออพยพเมื่อถึงจุดปลอดภัย เฉพาะในพื้นทีที่เตรียมอย่างบ้านน้ำเค็ม แต่พื้นที่อื่นนะครับเมื่อเกิด ระบบการเตือนภัยแบบนี้ เปรียบเสมือนเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้น มันทำให้เกิดความสับสนในหลายพื้นที่

    สถิติการเกิดแผ่นดินไหวของนักธรณีวิทยาพบว่าแผ่นดินไหวขนาด 9 ริกเตอร์ จะเกิดขึ้น 1 ครั้งต่อปี ส่วนใหญ่เกิดในประเทศญี่ปุ่น ทำให้ประเทศญี่ปุ่นมีความเสี่ยงที่จะเกิดสึนามิอีกครั้งภายในรอบ 30 ปีนี้ต่างจากความรุนแรงแผ่นดินไหวในประเทศไทยจากข้อมูลที่เคยบันทึกไว้

    ไทยเคยมีแผ่นดินไหวรุนแรงที่สุดขนาด 5.9 ริกเตอร์ ที่จังหวัดกาญจนบุรี และเคยเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ในเมืองไทยเมื่อหลายพันปีก่อน เมื่อเทียบกับความรุนแรงแผ่นดินไหวในปัจจุบันที่ระดับ 3 - 4 ริกเตอร์ ไทยยังมีความเสี่ยงน้อยกว่ามากที่จะเกิดสึนามิ

    ศ.ธนวัตน์ จารุพงษ์สกุล หัวหน้าหน่วยศึกษาภัยพิบัติและข้อสนเทศเชิงพื้นที่ คณะวิทยาศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ กล่าวว่า ถ้าตามสถิติแล้วถ้าเกิดแผ่นดินไหวในทะเลมากกว่า 7 ริกเตอร์ขึ้นไป ศูนย์เตือนภัยพิบัติของแปซิฟิกที่เป็นเซนเตอร์จะเตือน แต่ไม่ได้หมายความว่าเกิด 7 ริกเตอร์จะเกิดสึนามิทุกครั้ง แต่ถ้าเกิด 8 หรือ 9 ริกเตอร์ ส่วนใหญ่จะเกิดสึนามิใหญ่ๆ ยกตัวอย่างที่เซนได

    แต่ล่าสุดผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวจากประเทศญี่ปุ่นเพิ่งจะเปิดเผยถึงความเป็นไปได้ ที่โลกอาจเผชิญกับเหตุการณ์สึนามิครั้งรุนแรงอีกครั้ง โดยอาจจะเกิดแผ่นดินไหวแรงถึง 10 ริกเตอร์ ส่งผลให้รอยเลื่อนเปลือกโลก ความยาว 8,800 กิโลเมตร ตามร่องลึกบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกตอนเหนือ เคลื่อนที่ไป 20 เมตร เกิดการสั่นสะเทือน 20 นาที ถึง 1 ชั่วโมง เพราะเป็นแผ่นดินไหวที่รุนแรงกว่าขนาด 9 ริกเตอร์ถึง 30 เท่า ซึ่งอาจทำให้คลื่นยักษ์สึนามิต่อเนื่องนานหลายวัน แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไร และพื้นที่ไหนของโลก

    ประเมินความเสี่ยงไทยเกิดสึนามิ | :: ข่าว ไทยพีบีเอส Thai PBS NEWS ::...
     
  13. ภัยพิบัติ

    ภัยพิบัติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +507
    ลำพูนเสี่ยงเกิดไฟป่ารุนแรงปี56

    ลำพูนเสี่ยงเกิดไฟป่ารุนแรงในปี56เฝ้าระวังปัญหาหวั่นเกิดวิกฤตมลพิษหมอกควันใกล้ชิด

    นายภาดล ถาวรกฤชรัตน์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดลำพูน กล่าวว่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รายงานติดตามปรากฏการณ์เอนโซ่ (Enso) ในช่วงเดือนก.ย.พบว่า อุณหภูมิผิวน้ำทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิกเขตศูนย์สูตรสูงกว่าค่าปกติ 0.5-1.0 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิกึ่งผิวน้ำทะเล และอุณหภูมิที่อยู่ลึกลงไปประมาณ 300 เมตร บริเวณที่มีอุณหภูมิสูงกว่าค่าปกติส่วนใหญ่อยู่ด้านตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิก ประกอบกับลมที่พัดปกคลุมเหนือน่านน้ำมหาสมุทรแปซิฟิกบริเวณตอนกลางและด้านตะวันออก เป็นลมตะวันตกและมีกำลังแรงกว่าปกติ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกว่ากำลังจะมีการพัฒนาไปเป็นปรากฏการณ์เอลนีโญ ประกอบกับสภาพเชื้อเพลิงสะสมในปี 2555 ที่เพิ่มขึ้นกว่าปี 2554 ทั้งในป่าเบญพรรณและป่าดิบแล้ง

    ดังนั้นในปี 2556จะมีความรุนแรงของการเกิดไฟป่ามากกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งจะส่งผลกระทบก่อให้เกิดปัญหาวิกฤตมลพิษหมอกควันได้ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดลำพูน เป็นหนึ่งใน 27 จังหวัด ที่เป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าสูง จึงต้องมีการเฝ้าระวังและติดตามการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศอย่างใกล้ชิด และจัดเตรียมความพร้อมในการป้องกันและดับไฟป่าอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา

    ลำพูนเสี่ยงเกิดไฟป่ารุนแรงปี56 - โพสต์ทูเดย์ ข่าวสังคม


    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=eYxFGnyzzew]รับมือภัยพิบัติ 11 ธ.ค.55 - YouTube[/ame]
     
  14. zare2021

    zare2021 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +381
    ศรีลังกาแตกตื่น!พบแสงปริศนาบนท้องฟ้า ลือเป็นUFO(ชมคลิป)

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 14 ธันวาคม 2555 03:32 น.






    เอมิเรตส์นิวส์ - ชาวบ้านในหลายพื้นที่ของศรีลังกา พากันแตกตื่นหลังพบแสงประหลาดกระพริบวาบอยู่บนท้องฟ้ายามค่ำคืน จุดชนวนข่าวลือต่างๆนาๆ บ้างก็ว่าอาจเป็นยูเอฟโอ บ้างก็สันนิษฐานเป็นแสงจากดาวอังคารที่โคจรมาใกล้โลก

    แม้กองทัพอากาศศรีลังกา(SLAF)พยายามออกมากลบกระแสความตื่นกลัวของชาวบ้าน ที่บางส่วนเชื่อว่าแสงที่ลอยอยู่เหนือน่านฟ้าของประเทศนั้นคือยานพาหนะของมนุษย์ต่างดาว แต่นาวาตรีชีราส จาลาลดีน โฆษกของ SLAF ก็ยอมรับว่า ณ ตอนนั้นไม่มีเครื่องบินลำไหนปรากฏอยู่บนจอเรดาร์เลย



    โฆษกรายนี้บอกต่อว่าตอนนี้ทางกองทัพอากาศได้มีคำสั่งเฝ้าระวัง 24 ชั่วโมงในเรื่องแสงประหลาดไม่สามารถระบุได้ที่พบเห็นบนท้องฟ้าในหลายพื้นที่ทั่วประเทศเมื่อเร็วๆนี้

    ส่วนกรณีที่มีข่าวลือแสงประหลาดที่พบเห็นอยู่บนท้องฟ้าอาจเป็นวัตถุบินของสิ่งมีชีวิตนอกโลก(UFO)นาวาตรีจาลาลดีน บอกปัดไม่มีหลักฐานชัดเจนที่จะมายืนยันข่าวลือเช่นนี้ กระนั้นก็ดีสื่อมวลชนของศรีลังกาได้มีการนำเสนอข่าวนี้กันอย่างครึกโครม

    สถานีโทรทัศน์นิวส์เฟิร์สต์ เผยแพร่คลิปวิดีโอแสงประหลาดที่ปรากฏอยู่บนท้องฟ้ายามค่ำคืน พร้อมอ้างว่ามีผู้พบเห็นแสงพิศวงนี้บนท้องฟ้าเหนือหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ที่เมืองธนามัลวิลา ในจังหวัดอีสเทิร์น ณ เวลาประมาณ 20.30 น.เมื่อค่ำคืนวันจันทร์(10)



    จากนั้นสถานีโทรทัศน์แห่งนี้ ก็นำเสนอภาพถ่ายบนโทรศัพท์มือถือ ซึ่งอ้างว่าเป็นแสงประหลาดแถบท้องฟ้าทางใต้ของประเทศ เหนือเมืองอัมบาลันโทตา นอกจากนี้ในรายงานข่าวยังระบุว่าประชาชนในแกมปาฮา จังหวัดเวสต์เทิร์น ก็ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพแสงปริศนาบนท้องฟ้าได้เช่นกัน

    จาลาลดีน เผยว่าทาง SLAF มีระบบป้องกันภัยทางอากาศติดตั้งอยู่ในแถบพื้นที่ดังกล่าว แต่ระบบไม่ได้ตรวจพบอากาศยานใดๆที่บินมายังศรีลังกาในตอนนั้น แม้ภาพข่าวจากสถานีโทรทัศน์จะยืนยันว่ามีแสงฉายออกจากมาวัตถุที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าจริงๆ

    นอกจากนี้เขายังอ้างคำพูดของ จันดานา จายารัตนี นักดาราศาสตร์และศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยโคลอมโบ ที่ยืนกรานปฏิเสธข่าวลือที่ว่าแสงประหลาดที่ผู้คนมองเห็นนี้อาจเป็นแสงที่ส่องมาจากดาวอังคาร อันเป็นผลมาจากมันโคจรเข้ามาใกล้โลก
     
  15. ZZ

    ZZ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    5,374
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,649
    Galactic Superwave Bubbles Seen By Fermi Gamma Ray telescope

    <iframe width="640" height="360" src="http://www.youtube.com/embed/08lbZ_V74s8?feature=player_detailpage" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    อัปโหลดเมื่อ 8 ต.ค. 2011
    Nov. 12, 2010: TODAYshow.com's Dara Brown talks with Dr. Paul LaViolette
    about new NASA images of the Fermi bubbles, an immense outpouring
    of cosmic ray energy seen at the Milky Way's center.

    Earth Under Fire: Humanity's Survival of the Apocalypse, a book by Paul LaViolette; One of the most amazing studies of cosmic cataclysmic cycles ever put into print.

    The name "Galactic superwave" was first coined by Paul LaViolette and appeared for the first time in his doctoral thesis published in 1983. Some internet webpages use the term "Galactic tsunami". This is another word sometimes used for the Galactic superwave.

    LaViolette informed Congress about the phenomenon as early as 1984; see letter from Senator Packwood to the National Science Foundation.

    To learn of the possible Galactic cause of the 2004 Malaysian tsunami,click here.

    A novel by David Souers entitled "Galactic Tsunami" was inspired from Paul LaViolette's book Earth Under Fire.

    Earth Under Fire

    An investigation of the connection between ancient world catastrophe myths and modern scientific evidence of a galactic destruction cycle. * Provides scientific evidence of past Earth-wide catastrophes and their galactic superwave origins. * Decodes the ancient message encrypted in the zodiac constellations and symbolism of the Sphinx. * Explains the memorial significance of the Orion constellation, the Pleiadian rites, and the Minoan bull-leaping ceremony. * Compiles myths and legends from all over the world relating the occurrence of a past cataclysm. * Describes what caused the mammoths to suddenly die and freeze in the Arctic and what caused the extinction of the ice age mammals. * Deciphers the Galactic constellation lore of the South American Barasana Indians. * Explains what Plato's allegorical story of Atlantis and the Flood was really trying to convey. * Reviews evidence buried deep in the Earth's polar ice record and from the Moon and Mars that proves that this cosmic onslaught really occurred. * Describes how explosions of our Galaxy's core pose a threat to humanity in the future.
    หมวดหมู่
    การศึกษา
    สัญญาอนุญาต
    สัญญาอนุญาตของ YouTube แบบมาตรฐาน

    .
     
  16. kiatp123

    kiatp123 โมฆะแมน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,493
    ค่าพลัง:
    +19,616
    ส่วนราชการกับการต่อต้านข่าวลือ ( Counteracted Hearsay)

    [​IMG]

    พักนี้สังเกตพบว่าส่วนราชการหลายแห่ง เข้ามาโพสข้อความในบอร์ดเพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับภัยพิบัติที่ส่วนราชการบอกว่ามันไม่มีทางจะเกิดขึ้น

    ต้องกราบขอบพระคุณมากๆ ที่ยังเป็นห่วงเป็นใยประชาชนเจ้าของภาษีที่ท่านใช้จ่ายอยู่ด้วยความคิดที่ว่าประชาชนจะหลงเชื่อข่าวลือต่างๆ จึงได้นำข้อมูลเชิงวิทยาศาสตร์แท้ตามองค์ความรู้ของโลกใบนี้มานำเสนอ นับว่าเป็นเรื่องที่ดีมากสำหรับเจตนาของท่านทั้งหลาย ซึ่งที่จริงท่านน่าจะได้เข้ามานำเสนอเรื่องพวกนี้ตั้งนานแล้ว แต่ก็ซุ่มมอติเตอร์เงียบ กระแสมันจึงแรงขึ้นโดยลำดับอันมีความเงียบของพวกท่านทั้งหลายเป็นสาเหตุหนึ่ง

    หวังเป็นอย่างยิ่งว่านับแต่บัดนี้เป็นต้นไป ไม่ว่าภัยพิบัติหนนี้มันจะเกิดหรือไม่ ท่านทั้งหลายจะได้ใส่ใจเรื่องราวเหล่านี้ให้มากยิ่งขึ้น

    กราบขอบพระคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ธันวาคม 2012
  17. ZZ

    ZZ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    5,374
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,649
    Expected Cosmic Events in 2012 by Pane Andov


    <iframe width="640" height="360" src="http://www.youtube.com/embed/1q2Du_DkKbo?feature=player_detailpage" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>


    อัปโหลดเมื่อ 23 ก.พ. 2012
    Magnificent presentation by Pane "AstralWalker" Andov about the mega event that will take place at the end of year 2012 and beginning of the 2013. He explains that thousands of years ago from the galactic centre of the Milky Way, there was a powerful release of an enormous amount of energy, which like a huge, shining, circular wave is spreading across the galaxy from its centre to its edges.
    The released energetic pulse is already affecting the whole galaxy including the little dot we call our solar system. Very soon it will reach us and hit us with full strength. He explains what kind of implications this spreading wave of energy will have on our solar system, especially to our star and our planet and how it will affect the DNA of life.
    The way that Pane connects the dots makes it clear what our planet will face soon and what we as humans can do about it. He is also a contactee and delivers important messages which he backs up with scientific data. For the record, his DNA was changed when his biological body was only seven years old, enabling him to utilize abilities such telepathy, remote viewing, astral travel and to make contact.
    He claims that from time to time numerous ET races communicate and deliver important messages to him as a result of alternations to his DNA in early childhood. One of those races is the positive race that is delivering the genuine crop circles, and they explained to him what the complex geometries mean. That's how Pane was able to translate the complex geometric designs which contain the solution to the equation regarding what humanity is facing, when it's going to happen and what can be done about it.

    For more reference please visit his website:
    Pane Andov -
    2012 PDF
    Sun goes Red Giant 23 Dec 2012
    DVDs available of AstralWalker’s Two Day Workshop
    หมวดหมู่
    วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
    สัญญาอนุญาต
    สัญญาอนุญาตของ YouTube แบบมาตรฐาน


    .
     
  18. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    ลองโหลดดูกัน

    คำถามจากนาซ่า
    ของที่ต้องมียามฉุกเฉิน
    คุณเตรียม ชุดอุปกรณ์ฉุกเฉิน ไว้แล้วหรือยัง?
    สิ่งที่คุณต้องเรียนรู้ในการเตรียมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน
    www.nasa.gov
    แปลโดย โครงการรวมพลังรับมือภัยพิบัติ​

    National Disaster Task Force - Thailand
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ธันวาคม 2012
  19. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    [​IMG]
     
  20. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    จับตา การระเบิดของดวงอาทิตย์ Class X flare ในวันที่ 17-18 ธันวาคม 2012 (ปกติจะมีผลกับโลกอีก 3 วัน ก็จะมาตรงกับวันที่ 20-21 ธันวาคม 2012)

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=KWvh6ylZQiM]Planetary Alignment / X-Flare Watch Dec 17-18, 2012 - YouTube[/ame]
     

แชร์หน้านี้

Loading...