WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

<TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=1 width=500><TBODY><TR vAlign=center bgColor=#eeeeee><TD width=94>กลุ่มเมฆที่ 1 :

​

</TD><TD>กลุ่มเมฆชั้นต่ำปกคลุมภาคเหนือเป็นส่วนมากโดยไม่มีฝน</TD></TR><TR vAlign=center bgColor=#eeeeee><TD width=94>

กลุ่มเมฆที่ 2 : ​

​

</TD><TD>กลุ่มเมฆชั้นต่ำปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือโดยไม่มีฝน</TD></TR><TR vAlign=center bgColor=#eeeeee><TD width=94>

กลุ่มเมฆที่ 3 : ​

​

</TD><TD>กลุ่มเมฆฝนปกคลุมภาคตะวันออกโดยมีฝนปกคลุมภาคตะวันออกและตามบริเวณชายฝั่ง </TD></TR><TR vAlign=center bgColor=#eeeeee><TD width=94>

กลุ่มเมฆที่ 4 : ​

​

</TD><TD>กลุ่มเมฆฝนปกคลุมภาคใต้โดยมีฝนฟ้าคะนองปกคลุมทางตอนล่างของภาคและตามบริเวณชายฝั่งอ่าวไทย </TD></TR></TBODY></TABLE>​

 

เขื่อนภูมิพล กรณีที่ปล่อยน้ำเพิ่ม จะมีผลทำให้ นครสวรรค์มีระดับเพิ่มขึ้นหรือไม่ค่ะ

ใครทราบบ้าง

 

  แนวทางการป้องกันน้ำไหลเข้าท่วมอาคาร

 

 ชาวสุรินทร์เดือดร้อนหนักน้ำมูลเอ่อท่วมสูง
  


18 ตค. 2554 20:47 น.

นายชาญชัย สิงห์นุช นายกองค์การบริหารส่วนตำบลดอนแรด อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ เดินทางเข้าไปยังบริเวณ หมู่บ้านโนนทราย หมู่ที่ 6 ต.ดอนแรด ซึ่งเป็นหมู่บ้านอยู่ห่างแม่น้ำมูล 4 กิโลเมตร และอยู่ในพื้นที่ทุ่งใหญ่ -บัวเสียว ซึ่งมีพื้นที่กว่า 30,000 ไร่ ซึ่งหมู่บ้านถูกน้ำในแม่น้ำมูล เข้าท่วม ตัดขาดจากโลกภายนอก ไม่สามารถเดินทางเข้าหมู่บ้านได้ ประชาชนกว่า 622 คน130 ครัวเรือน จะเดินทางเข้าและออกจากหมู่บ้านต้องใช้แพ ที่ อบต.ดอนแรด ได้ทำขึ้น เพื่อให้ประชาชน เดินทางข้ามช่วงน้ำท่วมถนน ซึ่งมีความลึก ถึง 1 เมตร ไปขึ้นรถยนต์ เข้าหมู่บ้านอีกต่อหนึ่ง
นายชาญชัย สิงห์นุช นายก อบต.ดอนแรด กล่าวว่า ประชาชน ทั้ง 14 หมู่บ้าน ในพื้นที่ อบต.ดอนแรด ได้รับความเดือดร้อน อย่างหนัก เนื่องจากน้ำท่วมถนนเข้าหมู่บ้านสูง การเดินทางเป็นไปด้วยความลำบาก โดยเฉพาะที่บ้านโนนทราย น้ำท่วมถนนเข้าหมู่บ้าน หมู่บ้านถูกตัดขาด อบต.สร้างแพ ชั่วคราวให้ประชาชนใช้เดินทางเข้าหมู่บ้าน นอกจากนั้น อีก 14 หมู่บ้านในพื้นที่ อบต.ดอนแรด ซึ่งส่วนใหญ่ อยู่ในที่ลุ่มทุ่งใหญ่-บัวเสียว ลุ่มแม่น้ำมูล เป็นพื้นที่ปลูกข้าวหอมมะลิคุณภาพดีแหล่งใหญ่ที่สุดของ อ.รัตนบุรี พื้นที่กว่า 30,000 ไร่
และขณะนี้น้ำท่วมนาข้าวที่กำลังออกรวง ระดับน้ำสูงกว่า 2 เมตร 50 เชนติเมตร คาดต้นข้าวเน่าตายทั้งหมด และที่สำคัญภายในบ้านโนนทราย ชาวบ้านเลี้ยงวัวและควายไว้เป็นจำนวนมากกว่า 500 ตัว และตอนนี้น้ำก็ได้ล้อมรอบหมู่บ้าน ไม่สามารถที่จะนำสัตว์เลี้ยงออกไปเลี้ยงได้ เนื่องจากพื้นที่เลี้ยงสัตว์ได้ถูกน้ำท่วมหมด ชาวบ้านจำเป็นต้องนำมาขังไว้ในคอก หรือปล่อยในที่สูงภายในหมู่บ้าน และในขณะนี้ระดับน้ำก็ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงน่าเป็นห่วง และหากน้ำขึ้นมากกว่านี้ก็จะทำการขนย้ายสัตว์ และอพยพชาวบ้านไปอยู่ที่ศูนย์ภายใน อบต.ดอนแรดทันที


<< back  next >>

 

 น้ำเอ่อท่วมบ้านชาวบุรีรัมย์ เร่งขุดลอกเปิดทางน้ำ
  

18 ตค. 2554 20:06 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดบุรีรัมย์ยังขยายวงกว้างมากขึ้น โดยล่าสุดน้ำได้เอ่อท่วมบ้านเรือนราษฎร หมู่ 1 , 9 และหมู่ 15 ในเขตเทศบาลตำบลอิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ ซึ่งตั้งอยู่ติดริมห้วยจระเข้มาก ที่ทางโครงการชลประทานยังมีการระบายน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำที่เกินระดับกักเก็บ ประกอบกับฝนยังตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำเอ่อล้นตลิ่งทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร โดยขณะนี้มีระดับน้ำท่วมสูงตั้งแต่ 50 เซนติเมตร จนถึง 1 เมตร ทำให้ชาวบ้านบางหลังคาเรือนต้องเร่งอพยพขนย้ายข้าวของที่จำเป็น ที่จะถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายออกมาไว้เต้นท์ริมถนน เพราะคาดว่าแนวโน้มระดับน้ำจะยังเพิ่มสูงขึ้นอีก ขณะที่ทางเทศบาลตำบลอิสาณก็ได้นำเรือท้องแบนมาคอยบริการรับส่งชาวบ้านเข้าออกหมู่บ้าน เนื่องจากถนนทางเข้าหมู่บ้านถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ไม่สามารถใช้รถสัญจรเข้าออกได้ โดยชาวบ้านหมู่ 1 รายหนึ่ง บอกว่า เมื่อปี 2544 ที่ผ่านมา ก็เคยประสบปัญหาน้ำท่วมหนักทำให้บ้านเรือนราษฎรหลายหมู่บ้านต้องจมอยู่ใต้น้ำสูงเกือบ 2 เมตร
นอกจากนี้ น้ำยังได้ไหลบ่าท่วมถนนหลายสาย จนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องมาคอยอำนวยความสะดวกในการสัญจร เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุในการสัญจร อีกทั้งยังได้เอ่อเข้าท่วมนาข้าวของเกษตรกรที่กำลังออกรวงเป็นพื้นที่กว้างหลายหมื่นไร่ และคาดว่าหากจมน้ำเกินกว่า 5 วันก็จะเน่าตายเสียหายทั้งหมด
ทางด้านนางปาลีรัตน์ สมานประธาน นายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ ได้ลงพื้นที่สำรวจสถานการณ์น้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ พบว่าขณะนี้น้ำที่ถูกระบายออกจากอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก และอ่างเก็บน้ำห้วยตลาด ที่มีปริมาณเกินกักเก็บ ประกอบกับฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำเอ่อเข้าท่วมบ้านพักเจ้าหน้าที่ในโรงเรียนเทศบาล 3 และบ้านเรือนราษฎรในเขตเทศบาลเมืองแล้วกว่า 20 หลังคาเรือน
ซึ่งในเบื้องต้นทางเทศบาลก็ได้จัดเจ้าหน้าที่ เข้าไปให้ความช่วยเหลือโดยการช่วยขนย้ายสิ่งของขึ้นไปไว้บนที่สูง พร้อมทั้งตั้งเต้นท์ไว้คอยบริการ และประกอบอาหารแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ถูกน้ำท่วมแล้ว ส่วนมาตรการในการเตรียมแผน ป้องกันน้ำทะลักเข้าท่วมเขตเทศบาลเมือง ก็ได้ประสานไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใกล้เคียง รวมทั้งหน่วยงานต่างๆ มาช่วยในการกำจัดวัชพืช ผักตบชวาที่กีดขวางทางน้ำ
และพร้อมกันนี้ได้ระดมรถแบล็คโฮมาทำการขุดลอก เพื่อเปิดทางน้ำให้น้ำสามารถไหลผ่านได้อย่างสะดวกมากขึ้น เพราะยังมีหลายจุดที่เป็นปัญหาน้ำไหลได้ไม่สะดวก ซึ่งหากไม่เร่งดำเนินการเปิดทางน้ำอาจจะทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมตัวเมือง ซึ่งจะส่งผลกระทบสร้างความเดือดรอนให้กับประชาชนเป็นวงกว้างได้ นอกจากนี้น้ำยังได้เอ่อล้นตะลิ่งลำห้วยจระเข้มาก ไหลบ่าท่วมถนนสายบุรีรัมย์ - สุรินทร์ บริเวณบ้านโคกวัด ต.อิสาณ อ.เมือง ทำให้รถสัญจรไปมาด้วยความลำบาก

 

ปิด ร.พ.นวนคร ย้าย 10 ผู้ป่วยไปร.พ.นวนคร 2 อยุธยา

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 ตุลาคม 2554 20:38 น.



       น.พ.ธีรวุฒิ กวีธนมณี ผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร โรงพยาบาลนวนคร จ.ปทุมธานี เปิดเผย ว่า ขณะนี้ได้สั่งปิดโรงพยาบาลนวนครแล้ว พร้อมทั้งเคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่ติดค้างอยู่อีกกว่า 10 คน ไปยังที่ โรงพยาบาลนวนคร 2 จ. พระนครศรีอยุธยา เนื่องจากน้ำได้ไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่บริเวณชั้น 1 ของโรงพยาบาล ส่งผลให้เครื่องปั่นไฟภายในไม่สามารถใช้การได้ สถานการณ์หลังจากนี้ ต้องประเมินสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง หากระดับน้ำไม่ลดลง จะไม่สามารถเปิดโรงพยาบาลได้

 

เชื่อคันกั้นน้ำ'สายไหม'เสร็จทัน ห่วง 4 เขตรอบนอก กทม.

ผู้ว่าฯ กทม. เชื่อคันกั้นน้ำสายไหมเสร็จทันป้องกันน้ำทะลักคืนพรุ่งนี้ ห่วง 4 เขตนอกคันกั้นน้ำพระราชดำริ มีนบุรี คลองสามวา ลาดกระบัง และ หนองจอก เร่งป้องกันจุดต่ำรอบกรุง...

เมื่อวันที่ 18 ต.ค. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวในรายการ "เจาะข่าวเด่นเย็นนี้" ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ซึ่งดำเนินรายการโดย นายสรยุทธ สุทัศนจินดา ว่า จากการประเมินของ กทม. ยังมีเวลาอีกประมาณ 48 ชั่วโมง ในการเสริมคันกั้นน้ำและพื้นที่ต่ำรอบ กทม. คือ จนถึงเวลาประมาณ 21.00น. คืนวันพรุ่งนี้ เพื่อรับมือกับมวลน้ำที่จะเคลื่อนเข้ามายัง กทม.   


ทั้งนี้ งานการเสริมคันกั้นน้ำให้สูงได้ประมาณ 3.5 เมตร จากระดับน้ำทะเล  รวมระยะทางประมาณ 6 กม. ทั้งนี้ กทม.ยังคงเร่งเสริมแนวกั้นน้ำที่ถนนเลียบคลองสอง สูงประมาณอีก 30 ซม. ระยะทาง 1.5 กม. และบริเวณถนนสายไหม 85 เขตสายไหม ประมาณอีก 30 ซม. ระยะทาง 1.5 กม. ซึ่งจะไปบรรจบกับคันกั้นน้ำพระราชดำริพอดี บริเวณถนนหทัยราษฎร์ งานทั้งหมดเชื่อว่าจะเสร็จสิ้นในวันพรุ่งนี้ไม่น่าเป็นปัญหา 

อย่างไรก็ตาม ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวอีกว่า ถ้าจะถามว่า กทม.ปลอดภัยจากน้ำท่วม 100% แล้วหรือไม่ ผมเองจนถึงขณะนี้ก็ยังบอกไม่ได้ พูดอะไรก็ยังไม่ได้ แต่ยินยันว่าไม่ได้แทงกั๊ก แต่พูดไปตามความเป็นจริงว่าต้องเฝ้าระวังทุกวัน รวมทั้งพยายามปิดจุดอ่อนและบริหารความเสี่ยงเท่าที่จะเป็นไปได้ จะพยายามทำให้ปลอดภัยให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้  เพราะ กทม.ยังพอมีเวลาเตรียมตัว


ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ยอมรับว่า มีความเป็นห่วงประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ 4 เขตนอกคันกั้นน้ำ กทม. คือ เขตลาดกระบัง คลองสามวา มีนบุรี และหนอกจอก เนื่องจากจะต้องประสบปัญหาน้ำท่วมอย่างแน่นอน

ขณะที่พื้นที่ที่ถือว่ามีระดับต่ำและยังน่าเป็นห่วงรอบ กทม. จุดแรกคือ บริเวณ ถ.พหลโยธิน หน้าห้างเซียรรังสิต ที่อาจมีน้ำจากคลองรังสิตเอ่อล้นเข้าท่วมได้  ขณะที่อีกจุดหนึ่งอยู่ด้านฝั่งธนฯ ของ กทม. คือบริเวณคลองมหาสวัสดิ์ที่มีปริมาณน้ำเป็นจำนวนมาก ถนนพุทธมณฑลสาย4  เขตทวีวัฒนา ที่ถนนมีระดับต่ำตลอดสาย ซึ่งน้ำในส่วนนี้เมื่อหลากลงมาก็จะท่วมแล้ว จึงจะระบายออกไปทางด้านแม่น้ำท่าจีนต่อไป.


ไทยรัฐออนไลน์
โดย ไทยรัฐออนไลน์
18 ตุลาคม 2554, 20:17 น.

 

พรุ่งนี้ ประเทศไทยตอนบนจะหนาวขึ้น ใต้ฝนมากขึ้น



     บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนปกคลุมประเทศไทยตอนบนตลอดช่วง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนลดลงและอุณหภูมิลดลง 2-3 องศาส่งผลให้มีอากาศจะเย็นลง ส่วนร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบนจะเลื่อนลงไปพาดผ่านทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง

     ในช่วงวันที่ 18-23 ต.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระมัดระวังสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง

 

รีบไปดูช่อง11

กำลังแถลงกู้ๆๆๆ แล้วเอาต่างชาติเข้ามากู้น้ำท่วม

 

น้ำเหนือเข้ากรุงทะลุราชวิถี

18 ตุลาคม 2554 เวลา 21:22 น.
น้ำเหนือผ่านเจ้าพระยาเริ่มทะลักกรุง ชาวชุมชนวัดราชผาติการามฯร่วมกทม.ระดมถุงกระสอบทรายอุด
ที่ชุมชนวัดราชผาติการามวรวิหาร ถนนราชวิถี แขวงวชิระ เขตดุสิต กทม. ซึ่งอยู่บริเวณติดแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้กับสะพานกรุงธนบุรี(สะพานซังฮี้) ปริมาณน้ำก็เริ่มท่วมเข้ามาในชุมชนอย่างรวดเร็วจนเต็มพื้นที่แล้ววัดความสูง ได้ประมาณ 1 ฟุต
ขณะที่กทม.ร่วมกับชาวบ้าน ต่างช่วยกันนำถุงกระสอบทรายมาวางซ้อนกัน เพื่อกั้นให้น้ำท่วมให้อยู่แต่ในชุมชนแต่ปริมาณน้ำบางส่วนไหลเข้าสู่ถนนราชวิถี.


น้ำเหนือเข้ากรุงทะลุราชวิถี - โพสต์ทูเดย์ ข่าวกทม.-ภูมิภาค

 

เวรกรรมทำไมมาเร็วจริงไหนว่าอีก24ชั่วโมงถึงจะปะทะแถวถนนรังสิต-นครนายกไงครับ สงสัยพรุ่งนี้งานเข้าแต่เช้า *-*

 

สองชาติที่จะให้เขามาช่วย หลายพื้นที่บ้านเขา ก็ยังเจอภัยธรรมชาติอ่วมทุกปีๆ ละหลายรอบ

อย่างสหรัฐ ก็ไฟป่า พายุ น้ำท่วม จีนก็ น้ำท่วม ดินถล่ม

 

ช่วงไม่กี่ปีนี้กรุงเทพไม่ค่อยถูกเส้นกับวันที่ 19 เท่าไหร่ ตอนนี้น้ำจ่อรอบกรุงแล้ว นิสัยของน้ำหลากน้ำมากสุดๆ แกต้องเอาให้ได้ไม่ทางใดก็ทางนึง ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง วิธีการทำกั้นทางน้ำชั่วคราว ลอดยากกกกกกกกกก
กรุงเทพนอกจากต้องเจอน้ำท่วมแล้ว น้ำยังสกปรกสุดๆ
ยังไงก็ขอให้ทุกคนโชคดีและดีใจที่ได้เห็นน้ำใจของคนไทยทุกคน
สงสัยจังน้ำท่วม<!-- google_ad_section_end -->

 

โรงงานกรุงเก่าบอบช้ำ น้ำท่วมซัดความเสียหายมหาศาล แรงงานเสี่ยงตกงาน



นักเศรษฐศาสตร์ ประเมินน้ำท่วมสร้างความเสียหายแก่นิคมอุตสาหกรรมในอยุธยา เฉพาะทรัพย์สินไม่ต่ำกว่า 1.5 แสนล้านบาท คาดมูลค่าความเสียหายมหาศาลหากดูผลกระทบในภาพรวมทั้งหมดหลังน้ำลด แนะรัฐเพิ่มงบขาดดุลอีก 2-3% จากที่ ครม.ไฟเขียวเพ่ิมอีก 5 หมื่นล้าน เพื่อฟื้นฟูประเทศหลังน้ำลด เน้นระบบชลประทานและการจัดการน้ำ ขณะที่สภาอุตสาหกรรมฯย้ำ นิคมอุตสาหกรรมในอยุธยามีมูลค่าความเสียหายมากกว่า 4 แสนล้าน เสนอแผนฟื้นฟูนิคมอุตสาหกรรมอย่างเร่งด่วนพร้อมช่วยเหลือแรงงานตกงาน ชงรัฐหามาตรการทางภาษีช่วยผู้ประกอบการ คาดหลายโรงงานต้องย้ายพื้นที่การผลิตใหม่หลังบอบช้ำจากสถานการณ์น้ำท่วม ด้านสหภาพสมานฉันท์แรงงงานฯ กังวลแรงงานกว่า 5 แสนคนถูกลอยแพ เรียกร้องนายจ้างเห็นใจจ่ายค่าจ้างครึ่งหนึ่ง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน...




จากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ประสบภัย 59 จังหวัด ได้ส่งผลกระทบต่อโรงงานอุตสาหกรรมจำนวน 930 โรงงาน ในพื้นที่ 28 จังหวัด โดยโรงงานที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด ได้แก่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลพบุรี และนครสวรรค์ ทั้งนี้จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ส่งผลกระทบต่อนิคมอุตสาหกรรมทั้งหมด 4 แห่ง ได้แก่ สหรัตนนคร โรจนะ บางปะอิน และไฮเทค ซึ่งศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้ประเมินความเสียหายเบื้องต้นคิดเป็นมูลค่าการผลิตในภาคอุตสาหกรรมของประเทศถึงร้อยละ 2.5  มีมูลค่าความเสียหาย 3-4 แสนล้านบาท เป็นความเสียหายด้านการผลิต  7.98 หมื่นล้านบาท ที่เหลือเป็นสินทรัพย์ถาวร เครื่องจักร และทรัพย์สินอื่นๆ ที่ยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้ คาดว่าจะใช้เวลาในการฟื้นฟูให้กลับคืนสู่ภาวะปกติ อย่างน้อย 3-6 เดือน นอกจากนี้จะส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยในไตรมาส 4 ด้วย  เพราะไม่สามารถส่งสินค้าตามคำสั่งซื้อได้ และจะทำให้การส่งออกขยายตัวลดลงเหลือร้อยละ 17.8 จากเดิมคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 19.2  

ในส่วนนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ มีโรงงานทั้งสิ้น 198 โรง คนงานประมาณ 2 แสนคน เม็ดเงินการลงทุน  6-7 หมื่นล้านบาท นิคมอุตสาหกรรมไฮเทคมีโรงงาน 143 โรง คนงานประมาณ 5.4 หมื่นคน คิดเป็นเม็ดเงินการลงทุนเกือบ 7 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่จะเป็นโรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ โดยโรงงานอุตสาหกรรมที่สำคัญและมีกำลังการจ้างงานมากกว่า 1 พันคนขึ้นไป ได้แก่ แคนนอน โซนี่ และฮาน่า  และจากสถานการณ์น้ำท่วม ทำให้โรงงานเหล่านี้ไม่สามารถดำเนินการผลิตได้ จำเป็นต้องปิดกิจการชั่วคราว ซึ่งส่งผลกระทบต่อคนงานต้องหยุดงานเป็นเวลาอย่างน้อย 3 เดือน

 
ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยกับ"ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์" ในประเด็นความเสียหายของนิคมอุตสาหกรรมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาจากผลกระทบน้ำท่วมจนต้องปิดกิจการว่า ประเมินความเสียหายมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1.5 แสนล้านบาท เฉพาะในส่วนทรัพย์สินของโรงงานในนิคมอุตสาหกรรม ไม่รวมในส่วนซัพพลายเชนที่ไม่สามารถประเมินความเสียหายได้ในขณะนี้ และต้องดูตัวเลขการเลิกจ้างแรงงานว่าเป็นจำนวนเท่าไร เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมไม่สามารถประเมินได้ว่าจะยาวนานเท่าไร โดยส่วนตัวมองว่าน่าจะยืดเยื้อ ซึ่งกระทบต่อจีดีพีที่จะลดลงร้อยละ 1 -1.5

"มีบางบริษัทของญี่ปุ่นและอเมริกา ได้ใช้ฐานการผลิตในประเทศไทยในการป้อนชิ้นส่วนต่างๆ ส่งไปยังต่างประเทศและในประเทศ แม้ว่าขณะนี้จะมีชิ้นส่วนอยู่ในสต๊อกสำรองสำหรับ 1 เดือนก็ตาม แต่หากไม่สามารถผลิตได้จะกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมที่เป็นซัพพลายเชนทั้งหลาย ซึ่งยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้"



ส่วนกรณี ครม.อนุมัติงบประมาณขาดดุลปี 2555 เพิ่มอีก 5 หมื่นล้านบาท ตนมองว่าไม่น่าจะเพียงพอในการฟื้นฟูประเทศหลังน้ำลด อยากเสนอให้เพิ่มอีกร้อยละ 2-3 เพราะในแง่งบสาธารณะต่อจีดีพีมองว่ายังไม่สูงมากในการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐาน และต้องเน้นในเรื่องสำคัญโดยเฉพาะเรื่องระบบจัดการน้ำ ระบบชลประทาน เนื่องจากมีแนวโน้มว่าปีหน้าจะเกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติขึ้นอีก ทั้งนี้รัฐบาลอาจต้องหาวิธีโดยเชิญชวนภาคเอกชนเข้าร่วมในการลงทุนเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน เน้นในเรื่องระบบจัดการน้ำเป็นสำคัญ

เช่นเดียวกับนายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยกับ"ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์"ว่า ขณะนี้ไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นกับนิคมอุตสาหกรรมในจ.พระนครศรีอยุธาได้ ต้องประเมินหลังน้ำลดว่ากระทบต่อภาคอุตสาหกรรมและนิคมอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่องว่ามีมูลค่าความเสียหายเท่าไร ซึ่งแน่นอนจะเกิดผลกระทบยาวนานและมีมูลค่าความเสียหายมากกว่าที่ศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้ประเมินไว้ 3-4 แสนล้านบาท ดังนั้นสภาอุตสาหกรรมฯจึงได้วางแนวทางในการฟื้นฟูนิคมอุตสาหกรรมเหล่านี้ให้เร็วที่สุด รวมถึงการช่วยเหลือแรงงานที่ขาดรายได้จากการจ้างงาน และการช่วยเหลือเรื่องภาษีให้กับกลุ่มผู้ประกอบการ


อย่างไรก็ตาม ได้เสนอให้ตั้งคณะทำงานในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม เพื่อเร่งการฟื้นฟูโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับภาครัฐและเอกชน และในแง่ภาคเอกชนจะร่วมกับโรงงานอุตสาหกรรมที่ไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมได้เข้ามาช่วยฟื้นฟู เนื่องจากมีโรงงานหลายร้อยโรงงานต้องดำเนินการซ่อมแซม โดยใช้เงินจำนวนมากในการซื้ออะไหล่ นอกจากนั้นทางสภาอุตสาหกรรมฯได้ประสานกับหน่วยงานต่างๆ เช่น กองทัพ ในการขนย้ายเครื่องจักรออกจากพื้นที่ที่ประสบภัย ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มดำเนินงานในส่วนนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ และโดยเฉพาะนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค ได้มีการย้ายแม่พิมพ์ 300-400 ชิ้น โดยเฉพาะแม่พิมพ์รถยนต์ไปผลิตยังโรงงานอื่น

"ขณะนี้มีโรงงานที่มีเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่เก่ียวข้องกับโพลีเอสเตอร์ได้รับความเสียหายหนักจากน้ำและโคลนเข้าไปในเครื่อง ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ และยังมีโรงงานผลิตรถยนต์รายใหญ่แห่งหนึ่งที่ได้รับผลกระทบเกือบ 100% ต้องใช้เวลาฟื้นฟูมากถึง 10 เดือน ดังนั้นในอนาคตอาจต้องย้ายโรงงานผลิตไปอยู่ในที่แห่งใหม่ รวมถึงโรงงานอื่นๆที่มีแนวโน้มจะย้ายไปยังแหล่งอื่น"


ด้านนางวิไลวรรรณ แซ่เตีย ประธานสหภาพสมานฉันท์แรงงงานไทย กล่าวกับ"ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์" ได้แสดงความเป็นห่วงแรงงานจำนวนกว่า 5 แสนคน ในนิคมอุตสาหกรรมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รวมถึงนิคมอุตสาหกรรมนวนคร ซึ่งส่วนใหญ่มีอายุเฉลี่ยไม่เกิน 40 ปี จะได้รับผลกระทบจากการถูกเลิกจ้าง โดยเฉพาะช่วงหลังน้ำลดใน 4-5 เดือนข้างหน้า หรือระยะเวลาอาจมากกว่านี้ ที่ผ่านมาทางสหภาพฯ ได้หารือร่วมกับองค์กรความช่วยเหลือแรงงานในประเทศไทย เพื่อช่วยเหลือกลุ่มคนงานดังกล่าว โดยเบื้องต้นได้ตั้งศูนย์ช่วยเหลือเยียวยา พร้อมกับทำฐานข้อมูลโดยการลงสำรวจในพื้นที่เพื่อรับทราบข้อเดือดร้อนของแรงงาน

"ต้องยอมรับว่า กลุ่มคนงานเหล่านี้ไม่มีเงินสะสม ทำงานไปก็ใช้กินไปวันๆ อยากเรียกร้องให้นายจ้างอย่าอ้างเรื่องกฎหมาย เรื่องความเสียหายที่ได้รับผลกระทบมาอ้างเพื่อเลิกจ้างงาน หรือแม้แต่สั่งพักงานชั่วคราวโดยไม่จ่ายค่าจ้าง แต่อย่างน้อยอยากให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างสักครึ่งก็ยังดีเพราะยังได้เงินจากการประกันโรงงาน อีกทั้งคนงานไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวยังมีครอบครัวต้องดูแล อยากให้เอาความจริงใจมาคุยกันเพื่อให้คนงานอยู่ได้ ไม่อยากได้ยินข่าวการฆ่าตัวตายของคนงาน เพราะฉะนั้นอย่าไปตอกย้ำแต่ควรช่วยเหลือ รวมถึงภาครัฐต้องเข้ามาช่วยเหลือโดยด่วน ตั้งแต่บัดนี้ในการตั้งคณะทำงานตรวจสอบผลกระทบต่อคนงาน ไม่ใช่รอหลังน้ำลดแล้วมาดำเนินการ"


ส่วนกรณีสำนักงานประกันสังคม จะเปิดโอกาสให้กลุ่มแรงงานที่อยู่ในระบบประกันสังคมสามารถกู้เงินในการฟื้นฟูที่อยู่อาศัยนั้น ยังมีความเป็นห่วงว่าคนงานไม่สามารถเข้าถึงเงินกู้ได้อาจติดปัญหาในหลายเงื่อนไข ดังนั้นภาครัฐต้องออกมาตรการช่วยเหลือเพื่อให้นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างแก่ลูกจ้างระหว่างปิดกิจการชั่วคราว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน.

 ไทยรัฐออนไลน์
โดย ทีมข่าวเศรษฐกิจออนไลน์
19 ตุลาคม 2554, 05:30 น.

 

คลอง 5 ขยายแตก 100 กว่าเมตรแล้ว จะกู้ได้ทันไหม :'(

 

ออสเตรเลีย,มาเลย์พร้อมช่วยไทยสู้น้ำท่วม

ข่าวต่างประเทศ วันพุธที่ 19 เดือนตุลาคม พ.ศ.2554 06:03 น.


รัฐมนตรีกลาโหมมาเลเซีย เผยกองทัพมาเลย์พร้อมเต็มที่เข้าช่วยช่วยไทย หากรบ.ไทยร้องขอ
ด้าน รมต. ตปท. ออสเตรเลีย เผยพร้อมช่วยปท.เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 157 ล้านบาท


สำนักข่าวซินหัว สื่อกระบอกเสียงหลักของทางการจีน รายงานจากการเปิดเผยของ นาย เควิน รัดด์ รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลียที่กล่าวว่า ออสเตรเลียจะให้ความช่วยเหลือเป็นมูลค่า 5.23 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 157 ล้านบาท
เพื่อช่วยเหลือประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รับมือกับวิกฤติน้ำท่วม โดยในรายงานระบุว่า อิทธิพลของพายุโซนร้อนสร้างความเสียหายอย่างหนักไปทั่วภูมิภาค ดังนั้น เงินจำนวนดังกล่าวจะนำไปช่วยเหลือประชาชนราว 8 ล้านคน
ที่กำลังได้รับความเดือดร้อนทั้งในไทย กัมพูชา เวียดนาม ลาว และฟิลิปปินส์ นายรัดด์ กล่าวว่า รัฐบาลออสเตรเลียจะให้ความช่วยเหลือทั้งผ้าห่ม มุ้งกันยุง ภาชนะบรรจุน้ำ อุปกรณ์เครื่องครัว ถุงทราย และการบริการสาธารณสุขแก่ประเทศที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม นอกจากนี้ ยังจะช่วยซ่อมแซมระบบชลประทานและปรับปรุงพื้นที่การเกษตรที่ได้รับความเสียหาย และว่ารัฐบาลออสเตรเลียพร้อมจะร่วมมือกับประชาคมระหว่างประเทศช่วยเหลือมิตรประเทศและประเทศเพื่อนบ้านในกรณีจำเป็น

ขณะที่ รัฐมนตรีกลาโหมมาเลเซีย อาหมัด ซาฮิด ฮามิติ เปิดเผยว่าทางกองทัพของมาเลเซีย มีความพร้อมอย่างเต็มที่สำหรับเข้าช่วยเหลือไทยตลอดเวลาหากได้รับการร้องขอไปจากรัฐบาลไทยทั้งในรูปแบบของอุปกรณ์เครื่องมือหรือปฏิบัติการช่วยเหลือต่างๆโดย รัฐมนตรีกลาโหมมาเลย์ กล่าวอีกว่า เราเคยยื่นข้อเสนอให้ความช่วยเหลือแก่ไทยไปก่อนหน้านี้ แต่รัฐบาลไทยยังไม่ได้ตอบรับ แต่ตนก็เชื่อว่าพวกเขายังสามารถรับมือกับสถานการณ์ได้ด้วยตนเอง

Link : ออสเตรเลีย มาเลย์พร้อมช่วยไทยสู้น้ำท่วม

 

น้ำเอ่อท่วมตลาดรังสิต และฟิวเจอร์ปาร์ค




น้ำเริ่มท่วมเส้นทางหน้าตลาดรังสิต และหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปีแล้ว ชาวบ้านเร่งป้องกันไม่ให้เข้าตลาด ขณะที่การจราจรเส้นทางรังสิต-นครนายก ฝั่งขาเข้า กทม.ติดขัดหนัก

สถานการณ์บริเวณถนนเส้นทางหน้าตลาดรังสิต ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ล่าสุด น้ำได้เข้าท่วมถนนสูง 20-40 ซม. ส่งผลทำให้การจราจรติดขัด ชาวบ้านที่อาศํยอยู่ในตลาดรังสิต และ หมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี ช่วยกันป้องกันไม่ให้น้ำที่ท่วมบนถนนหลากเข้าท่วมภายตลาด และหมู่บ้าน

ส่วนเส้นทางจากรังสิตขาออกเบี่ยงเข้าถนนพหลโยธินก็มีน้ำท่วมขังเป็นวงกว้างเช่นกัน เส้นทางคู่ขนานถนนพหลโยธิน ฝั่งขาออกใช้การไม่ได้ตลอดถึงมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต  ใช้ได้เพียงช่องทางด่วน ส่วนเส้นทางถนนเชียงรากข้างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีน้ำท่วมสูง 30-50 ซม. เส้นทางดังกล่าวรถเล็กใช้การไม่ได้แล้ว ส่วนเส้นทางจากรังสิตเดินทางมุ่งหน้าจังหวัดนครนายก น้ำจากคลองหนึ่งเข้าท่วมถนนบริเวณทางเข้าห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต ทำให้สามารถเดินรถได้เลนเดียว การจราจรติดขัด และในเส้นทางรังสิต-นครนายก ฝั่งขาเข้า กทม.การจราจรติดขัดมาก เนื่องจากปริมาณรถเดินทางเข้า กทม.จำนวนมาก

นอกจากนี้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณคลองสอง ตำบลคลองสอง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ขณะนี้ระดับน้ำในคลองสองเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้น้ำเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนล้นข้ามถนนเลียบคลองสองทั้งสองฝั่ง ฝั่งตะวันตกน้ำท่วมสูงใช้การไม่ได้ ส่วนอีกฝั่งปริมาณน้ำท่วมล้นถนนระดับน้ำประมาณ 20-30 ซม.

 

น้ำเหนือเข้ากรุงทะลุราชวิถี

18 ตุลาคม 2554 เวลา 21:22 น. |เปิดอ่าน 9,349 | ความคิดเห็น 20
ประเด็น: วิกฤตน้ำท่วม ,

น้ำเหนือผ่านเจ้าพระยาเริ่มทะลักกรุง ชาวชุมชนวัดราชผาติการามฯร่วมกทม.ระดมถุงกระสอบทรายอุด

ที่ชุมชนวัดราชผาติการามวรวิหาร ถนนราชวิถี แขวงวชิระ เขตดุสิต กทม. ซึ่งอยู่บริเวณติดแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้กับสะพานกรุงธนบุรี(สะพานซังฮี้) ปริมาณน้ำก็เริ่มท่วมเข้ามาในชุมชนอย่างรวดเร็วจนเต็มพื้นที่แล้ววัดความสูงได้ประมาณ 1 ฟุต

ขณะที่กทม.ร่วมกับชาวบ้าน ต่างช่วยกันนำถุงกระสอบทรายมาวางซ้อนกัน เพื่อกั้นให้น้ำท่วมให้อยู่แต่ในชุมชนแต่ปริมาณน้ำบางส่วนไหลเข้าสู่ถนนราชวิถี.

 

น้ำท่วมปทุมฯ-นนท์ขยายวงกว้าง

18 ตุลาคม 2554 เวลา 21:42 น. |เปิดอ่าน 3,907 | ความคิดเห็น 9
ประเด็น: วิกฤตน้ำท่วม ,

ประชาชนในหมู่บ้านจัดสรรเมืองปทุมฯ-บางบัวทองอ่วม น้ำท่วมขยายวงกว้างทะลักเข้าหมู่บ้าน ขณะที่จังหวัดนนทบุรีประกาศปิดถนนหลวง 3 สายหลังน้ำท่วมสูง

สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 18 ต.ค.ได้รุนแรงเพิ่มขึ้น เมื่อพื้นที่ถูกน้ำท่วมได้เริ่มขยายวงกว้างมากกว่าเดิม โดยน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระบาที่เคยท่วมบริเวณพื้นที่หน้าศาลากลางจังหวัดและหน้าโรงพยาบาลจังหวัดปทุมธานี ได้ไหลทะลักเข้าหมู่บ้านจัดสรรขนาดใหญ่หลายแห่งในต.บางคูวัด และ ต.บ้านฉาง อาทิ  หมู่บ้านชวนชื่นฟอร่าวิส ต.บางคูวัด ,หมู่บ้านทรัพย์หมื่นแสน และหมู่บ้านพนาสนธ์ ต.บ้านฉาง


ด้านชาวบ้าน กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐ และไม่สามารถอพยพได้ทันเนื่องจากปริมาณน้ำไหลมาแรงและไวมาก ซึ่งในขณะนี้ อยากขอความช่วยเหลือจากทางราชการ โดยเฉพาะเรือพาย หรือเรือรับส่ง เพราะภายในบ้านปริมาณอาหารเริ่มหมดลงแล้ว



คันกั้นน้ำคลองพระยาบรรลือ-พระพิมลแตกหลายจุดน้ำทะลักท่วม

ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมใน อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ก็มีหมู่บ้านหลายแห่งถูกน้ำท่วมสูงเช่นเดียวกัน โดย นายวิเชียร เจริญนนทสิทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางบัวทอง ขณะนี้ความเสียหายรวมกว่า 80 % ของพื้นที่แล้ว มีบ้านเรือนราษฎรจมน้ำแล้วกว่า 10,000 หลังคาเรือนโดยขณะนี้ได้พยายามอพยพคนพิการและผู้สูงอายุออกจากพื้นที่โดยด่วนแล้ว

ทั้งนี้เหตุที่ทำให้น้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วคือ ระดับน้ำจากคลองพระยาบรรลือและคลองพระพิมลได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลให้คันกั้นน้ำในหลายพื้นที่ของทั้ง 2 คลองได้พังทะลายลงทำให้น้ำทะลักเข้าสู่พื้นที่อย่างรวดเร็ว ขณะที่ถนนสายตลิ่งชัน-สุพรรณบุรีก็ได้ถูกน้ำท่วมสูงราว 30ซม.แล้ว

"ทาง อบต.ได้ลงพื้นที่จัดส่งข้าวและน้ำในทุกหมู่บ้านที่โดนน้ำท่วมวันละ 1 รอบ ขณะที่ทหารจากกองทัพอากาศ และกาชาดจังหวัดนนทบุรี ก็ได้เข้ามาร่วมช่วยเหลือแล้วเช่นกัน"นายวิเชียรกล่าว

นนทบุรีปิด 3 เส้นทางจราจรหลังน้ำท่วมสูง

ด้าน นายชนินทร ชูขวัญ ผอ.สำนักงานบำรุงทางนนทบุรี เปิดเผยว่า ได้ประกาศปิดเส้นทางการจราจรทางหลวง ในพื้นที่ จ.นนทบุรี จากปัญหาน้ำท่วมสูง ดังนี้

1.ทางหลวงหมายเลข 9 ถนนกาญจนาภิเษก ตอนบางบัวทอง ก.ม.58-869 ต่อเขตแขวปทุมธานี ระหว่าง ก.ม.45-213 - ก.ม.45-842 หน้าหมู่บ้านสมบัติบุรี มีปริมาณน้ำท่วมสูง 50-100 เซนติเมตร

2.ทางหลวงหมายเลข 340 ตอนบางบัวทอง - ลาดบัวหลวง ต่อเขตแขวงกาญจนบุรี - สุพรรณบุรี ที่ 2 ระหว่าง ก.ม.26+000 - ก.ม. 33+000 มีปริมาณน้ำท่วมสูง 40-80 เซนติเมตร

3.ทางหลวงหมายเลข 344 ตอนสะพานนนทบุรี-ทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 ระหว่าง ก.ม.4+400+ก.ม.10+547 บริเวณคลองพระอุดม มีปริมาณน้ำท่วมสูง 60-120 เซนติเมตร

สำหรับรถที่จะเดินทางไป จ.สุพรรณบุรี และนครปฐม ให้ใช้เส้นทางลาดปลาดุก-ไทรน้อย แทน

 

 คันกั้นน้ำคลองระพีพัฒน์ แตกกว่า 40 เมตร

19 ตค. 2554 00:34 น.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้เกิดเหตุแนวคันกั้นน้ำบนถนนเลียบคลองคลองระพีพัฒน์ ฝั่งทิศใต้บริเวณคลอง 4 –คลอง 5 ม.16 ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ได้พังลงเป็นแนวยาวประมาณ 40-50 เมตร ทำให้กระแสน้ำจากคลองระพีพัฒน์ ที่สูงกว่าแนวถนนเลียบคลองประมาณ 1.20 เมตร ได้ไหลบ่าอย่างรุนแรงข้ามถนนลงไปในชุมชนที่อยู่ข้างทางอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านที่อยู่ริมทางและได้ผลกระทบโดยทันที่ประมาณกว่า 50-60 หลังคาเรือน ต่างต้องเร่งเก็บของขึ้นที่สูงกันอย่างอลม่าน
เจ้าหน้าที่จาก อบต.คลองห้า และประชาชนที่อยู่ข้างเคียงได้พยายามเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านที่ติดอยู่ในบ้าน แต่ไม่สามารถลงไปไปช่วยเหลือได้เนื่องจากกระแสน้ำรุนแรง และไม่มีอุปกรณ์ยังชีพทั้งเรือและเสื้อชูชีพ
ต่อมานายชาญ พวงเพ็ชร์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ซึ่งเดินทางมาตรวจสอบสภาพของแนวกั้นน้ำที่พังลง โดยระบุว่า แนวคันกั้นน้ำที่พังลงเป็นแนวยาวในครั้งนี้ น่าจะปิดกั้นลำบาก และเป็นเวลากลางคืนเครื่องไม้เครื่องมือก็ยังไม่มีการเตรียมมา ซึ่งการจะปิดกั้นนั้นต้องใช้เครื่องจักรหรือรถแม๊คโคร กำลังคนคงไม่สามารถปิดกั้นได้ แต่ในคืนนี้คงต้องเร่งช่วยเหลือประชาชนจำนวนมากที่ยังคงติดค้างอยู่ในบ้านเรือนก่อน ส่วนเรื่องการซ่อมแซมหรืออัดรอยแตกนั้นคงต้องรอวันพรุ่งนี้
ทั้งนี้ได้ประสานงานกับหน่วยงานต่างๆในการออกประกาศเตือนพี่น้องประชาชนที่อยู่ใต้แนวคันกั้นน้ำลงไปให้เตรียมพร้อมรับมือ โดยเร่งเก็บของขึ้นที่สูงหรือที่เป็นพื้นที่ต่ำควรอพยพไปอยู่ในที่สูงหรือที่ปลอดภัย